ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ Yaoi] Dear Friend, Please Love Me (KangHan)

    ลำดับตอนที่ #2 : Part 1

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 53


    Part 1

    วันเสาร์นี้พี่ว่างมั้ยครับ? ผมจะชวนพี่ไปดูหนังด้วยกันน่ะ ร่างหนาเอ่ยปากชวนรุ่นพี่หน้าสวยพร้อมกับยิ้มจนตาหยี
     
    ฮันคยองพยายามตั้งสมาธิกับหนังสือเศรษฐศาสตร์พื้นฐานตรงหน้า แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็น เสียงหัวเราะของคนทั้งคู่
    ก็ยังลอยตามสายลมมากระทบกับโสตประสาทของเขาอยู่ดี
     
    ไปจีบกันไกลๆไม่ได้หรือไง? ฉันอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องนะทันใดนั้น ความคิดของร่างบางก็ต้องหยุดลงเมื่อเขารู้สึกถึงน้ำหนักที่วางลงบนไหล่
     
    คิดอะไรอยู่ครับ พี่ฮันเกิง? น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามเขาเป็นภาษาจีนอย่างคล่องแคล่ว
     
    ซีวอน...พี่อ่านหนังสืออยู่น่ะ มันน่าเบื่อพี่ก็เลยเหวอๆไปหน่อย ฮันคยองตอบเป็นภาษาเกาหลีกลับไปบ้าง
     
    เหม่อครับพี่ ไม่ใช่เหวอ ร่างสูงแก้ให้พร้อมกับมอบรอยยิ้มอ่อนโยนที่ทำให้เห็นลักยิ้มเด่นชัดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวให้ร่างบาง
     
    แหะๆ พี่นี่มันแย่จังเลยนะ อยู่เกาหลีมาตั้งหกปีแล้ว ยังพูดภาษาเกาหลีไม่คล่องเลย นายเรียนภาษาจีนแค่สามปี ยังพูดเก่งอย่างกับเป็นภาษาของ
    ตัวเองเลย
    ร่างบางยิ้มอายๆ
     
    เพราะผมได้ครูดีน่ะสิครับ ซีวอนส่งยิ้มทะเล้นไปให้ฮันคยองซึ่งตอนนี้หน้าแดงไปเรียบร้อยแล้ว
     
    เฮ้อ~ ยากชะมัดเลย เลิกอ่านดีกว่า มือบางทำท่าจะปิดหนังสือแต่ร่างสูงก็รีบห้ามเอาไว้ก่อน
     
    เดี๋ยวสิครับพี่ อย่าเพิ่งยอมแพ้สิ! มา เดี๋ยวผมช่วยเองครับ พี่ไม่เข้าใจตรงไหน?รุ่นน้องผู้แสนดีและชาญฉลาดเอ่ยถามพร้อมกับนั่งลงข้างๆร่างบาง
     
    เอ่อ...อืม...พี่ไม่เข้าใจตรงนี้น่ะ นิ้วเรียวจิ้มไปที่หน้ากระดาษ
     
    หืม? เงินเฟ้อ? ทำไมเหรอครับ? ร่างสูงเลิกคิ้ว
     
    ก็เงินเฟ้อมันหมายถึงการที่มีเงินในระบบเศรษฐกิจมากเกินไปใช่มั้ยล่ะ? มีเงินเยอะๆแล้วมันไม่ดีตรงไหน? ทำไมต้องมีมาตรการแก้ไข
    กันด้วย? เงินเยอะก็บ่น เงินน้อยก็บ่น คนเรานี่มันเอาแน่เอานอนไม่ได้เลยเนาะ
    สิ่งที่รุ่นพี่ร่างบางพูดออกมานั้นทำให้ซีวอนกลั้นหัวเราะ
    เอาไว้ไม่อยู่ แต่แล้วก็ต้องรีบหยุดเพราะอีกฝ่ายส่งสายตาเคืองๆมาให้
     
    ฮะๆ ผมขอโทษครับพี่ ที่พี่พูดเมื่อกี๊มันน่ารักมากจนผมอดเอ็นดูไม่ได้น่ะครับ พูดพลางเช็ดน้ำตาจากการหัวเราะอย่างหนักเมื่อสักครู่นี้
     
    อะ...อะไรกันเล่า! นายเป็นรุ่นน้องนะ มาใช้คำว่า เอ็นดูกับรุ่นพี่ได้ยังไงกัน? ถึงพี่จะไม่เก่งภาษาเกาหลีแต่เรื่องนี้พี่ก็พอรู้นะ ร่างบางโวยวาย
    หวังจะให้ร่างสูงเปลี่ยนเรื่อง แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม
     
    ก็พี่ฮันเกิงน่าเอ็นดูจริงๆนี่ครับซีวอนยิ้มให้ฮันคยองอย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนสามารถรู้สึกได้ถึงลมหายใจของกันและกัน
    ดวงตาคมสีดำสนิทจ้องลึกเข้าไปในดวงตาใสซื่อของอีกฝ่ายราวกับจะค้นหาอะไรบางอย่าง แต่แล้วร่างบางก็รีบหลบสายตาและยืนขึ้นเสียก่อน
     
    พี่...พี่ต้องไปเข้าเรียนแล้วล่ะซีวอน ฮันคยองหน้าแดง
     
    ครับ...เมื่อกี๊ผมขอโทษนะครับพี่...ผมทำให้พี่กลัวหรือเปล่า? ซีวอนเอ่ยถามด้วยความกังวลจนฮันคยองอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปกอดเขาเบาๆ
    ก่อนที่จะยืนขึ้นอีกครั้ง
     
    ไม่เป็นไรน่าซีวอน อย่าคิดมากสิ พี่แค่ตกใจน่ะ ไม่เอาน่าอย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นสิ ยิ้มออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ ยิ้มสิ ร่างบางไม่พูดเปล่า มือเรียว
    ยังดึงริมฝีปากเรียวของร่างสูงให้ฉีกยิ้มตามที่เขาต้องการอีกด้วย จนในที่สุดร่างสูงก็ต้องยอมแพ้และเผยรอยยิ้มอ่อนโยนอย่างเคยออกมา
     
    ดีมาก อย่างงี้สิถึงจะสมกับเป็นนาย...งั้น...พี่ไปก่อนนะ ป่านนี้คังอินคงรอพี่แล้วล่ะ ฮันคยองพูดพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่จะหันไปมองยังที่ๆเพื่อน
    ของเขานั่งอยู่ แล้วก็ต้องหุบยิ้มเมื่อพบว่าคนสองคนที่นั่งอยู่ด้วยกันเมื่อสักครู่นี้หายไปแล้ว ความรู้สึกเจ็บแปลบแล่นขึ้นมาในหัวใจของขาทันที
     
    ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ ถ้านายจะไปไหนต่อไหนกับเขาสองคน เพราะฉันก็เคยเจอแบบนี้มาแล้วตอนที่นายไปจีบ ดงแฮ กับ ซองมิน 
    แต่ช่วยบอกฉันสักนิดไม่ได้เหรอ? นายรีบมากหรือว่านายลืมฉันไปแล้วกันแน่?
     
    ซีวอนเห็นว่าร่างบางท่าทางไม่คอยดีจึงเอื้อมมือไปคว้ามือบางมาจับเอาไว้พร้อมกับบีบแน่นๆ ราวกับจะย้ำถึงการมีตัวตนของตัวเอง อยากให้ร่างบาง
    รู้ว่ายังมีเขาอยู่ตรงนี้ ยังมีเขาที่ห่วงใยและรักร่างบางด้วยความจริงใจอยู่ตรงนี้เสมอ
     
    วันนี้ให้ผมขึ้นไปส่งนะครับพี่ฮันเกิง ร่างสูงพูด มืออีกข้างที่ยังว่างอยู่ดึงหนังสือและกระเป๋าจากมือของอีกฝ่ายมาถือเอาไว้เอง
     
    เอาสิ ขอบคุณมากนะ ซีวอน ฮันคยองยิ้ม แต่มันช่างเป็นรอยยิ้มที่ดูเศร้าสร้อยเหลือเกินในสายตาของอีกฝ่าย
     
     
               
     
    ช่วงนี้ดงแฮเป็นยังไงบ้างล่ะ? ไม่ได้เจอกันตั้งนานแล้ว ร่างบางเอ่ยถามขึ้นระหว่างเดินไปยังห้องเรียน
     
    ฮะๆๆ หมอนั่นเหรอครับ ตั้งแต่ที่ถูกพี่คังอินตามจีบ มันก็ดูจะขาดความมั่นใจเรื่องความแมนของมันไปมาก ตอนนี้เลยตั้งหน้าตั้งตาจีบเจ้ากระต่าย
    ซองมินเพื่อกู้ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายอยู่น่ะครับ
    ซีวอนหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อถูกถามถึงเพื่อนสนิท
     
    ฝากขอโทษดงแฮด้วยแล้วกันนะซีวอน เพื่อนพี่มันก็จีบใครไปทั่ว ไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนี้แหละ ไม่เห็นเคยจริงจังกับใครสักคน......
    ยกเว้นพี่ลีทึก
    ประโยคสุดท้ายฮันคยองเอ่ยเบาๆให้ตัวเองได้ยินเท่านั้น ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรต่อ พวกเขาก็เดินมาถึงห้องเรียนแล้ว
     
    ฮันคยองเอื้อมมือไปรับกระเป๋าของตัวเองจากร่างสูงพร้อมกับยิ้มให้เป็นการขอบคุณ
     
    ตั้งใจเรียนนะซีวอน แล้วเจอกัน
     
    ครับ เย็นนี้ผมจะแวะไปทานไอศกรีมที่ร้านนะครับรุ่นน้องหน้าหล่อยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มโดดเด่น
     
    วันนี้พี่ทำงานถึงหกโมงเย็น ถ้าไปช้าก็ช่วยไม่ได้นะ ร่างบางยิ้มทะเล้นก่อนที่จะหายเข้าห้องเรียนไป ทิ้งให้ร่างสูงยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น
     
    ...ก็แหม พี่ฮันเกิงโหมดทะเล้นๆแบบนี้น่ะ ไม่ได้มีให้เห็นทุกวันนะครับ...
     
    คุณเคยได้ยินไหมครับ? ที่เขาว่ากันว่าหากคุณรักใครสักคน คุณจะต้องสามารถจดจำใบหน้าของเขาได้อย่างน้อยหนึ่งพันรูปแบบ ใบหน้าของเขา
    เวลามีความสุข เวลาโกรธ เวลาเศร้า วันนี้ผมได้รู้จักใบหน้าของพี่ฮันเกิงเพิ่มขึ้นอีกแบบหนึ่งแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกนานไหมกว่าที่ผมจะจดจำ
    ใบหน้าของพี่เขาได้ครบทุกรูปแบบ แต่ถึงแม้ว่ามันจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิต ผมก็ยินดี...ก็มันป็นสิ่งที่ทำให้ทุกๆวันของผมมีความหมายนี่ครับ...       
     
       
               
     
    ร่างบางเดินเข้าห้องเรียนพร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้า ตั้งแต่ที่รู้จักกับรุ่นน้องหน้าหล่อนั่น ชีวิตของเขาก็ดูจะมีสีสันขึ้นมาก 
    นอกจากซีวอนจะเป็นคนร่าเริงและเป็นสุภาพบุรุษแล้ว การที่เขาสามารถสื่อสารเป็นภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่วก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้
    ฮันคยองรู้สึกดีกับรุ่นน้องคนนี้
     
    บางครั้ง การที่มีคนคอยดูแล เอาใจใส่และเข้าใจกัน มันก็ทำให้เขามีความสุขจนลืมคิดถึงเรื่องของคนอีกคนไปได้บ้าง ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ชั่วอึดใจ
    ก็ตาม และตอนนี้ช่วงเวลานั้นก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว เขากำลังจะต้องเผชิญหน้ากับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิท คนๆเดียวที่อยู่ในห้วงคำนึงของเขา
    มาตลอดหกปี คนที่ถึงแม้ว่าจะทำร้ายจิตใจของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขาก็ไม่เคยโกรธได้นานสักที ครั้งนี้ก็เช่นกัน เขากำลังพยายามปรับสีหน้า
    และควบคุมจิตใจของตัวเองเพื่อไม่ได้แสดงอาการโกรธหรือน้อยใจออกไป
     
    ทั้งๆที่เขาเองก็รู้ว่าเขามีสิทธิ์ที่จะโกรธเพื่อนรัก แต่ทุกครั้งที่เพื่อนคนนี้ทำเสียงอ่อยๆพร้อมกับตีหน้าเศร้าแล้วถามเขาว่า โกรธฉันเหรอ?
    กลับกลายเป็นว่าเป็นตัวเขาเองที่รู้สึกผิด รู้สึกแย่ที่ทำให้รอยยิ้มของอีกฝ่ายต้องหม่นหมอง
     
    ...คงเป็นเพราะผมรักเขามากเกินไปล่ะมั้งครับ เขาแค่รู้สึกผิดทั้งๆที่สิ่งที่เขาทำ ถ้อยคำที่เขาพูด แทบจะทำให้หัวใจของผมแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
    ส่วนผมแค่เห็นเขารู้สึกผิด เห็นรอยยิ้มทะเล้นต้องจางหายไปจากใบหน้าของเขา มันก็ทำให้ผมปวดใจจนแทบบ้า เขารู้สึกผิดที่ทำร้ายผม 
    แต่ผมเสียใจมากที่ทำให้เขารู้สึกผิด ผมมันบ้าดีใช่มั้ยล่ะครับ?...
     
    ฮันคยองกวาดสายตามองไปทั่วห้องเพื่อหาร่างของเพื่อนสนิท แล้วก็พบว่าเพื่อนร่างหนานั้นกำลังชะเง้อมองหาเขาอยู่เช่นกัน
     
    ฮันคยอง~ อยู่นี่ๆ คังอินโบกมือให้ ฮันคยองเพียงแค่พยักหน้ารับแล้วเดินไปนั่งข้างร่างหนาเงียบๆ
     
    ............
     
    ฮัน...โกรธฉันเหรอ? อา~ เอาอีกแล้ว น้ำเสียงแบบนี้ สีหน้าแบบนี้ ผมทำให้เขารู้สึกแย่อีกแล้วเหรอเนี่ย?
     
    ฉันขอโทษนะที่ออกไปทั้งๆที่ยังไม่ได้บอกนาย ฉันคุยกับพี่ลึทึกจนลืมเวลา ก้มดูนาฬิกาอีกทีก็ได้เวลาเรียนของพี่เขาแล้ว ฉันเลยต้องรีบไปส่งน่ะ
    แววตาที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกผิดคู่นั้นทำให้ร่างบางใจหายอีกครั้ง
     
    ไม่เป็นไรน่าคังอิน อย่าคิดมากสิ นายไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ฉันไม่หลงทางในมหาลัยอยู่แล้ว
     
    ฮัน...
     
    แล้วอีกอย่าง ซีวอนก็อยู่กับฉันทั้งคน ร่างบางพูดออกไปด้วยหวังว่าจะทำให้คังอินสบายใจ แต่อีกฝ่ายถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ แต่ไม่นานก็
    หัวเราะออกมาพร้อมกับเอ่ยแซวเพื่อน
     
    เจ้าเด็กนั่นมันรักจริงหวังแต่งกับนายจริงๆนะเนี่ย ตื๊อนายมาเป็นปีแล้วนี่
     
    เขาไม่ได้ตื๊บฉันนะ เราไม่เคยทะเลาะกันสักหน่อย แค่ตีฉันเบาๆเขายังไม่เคยทำเลย แล้วนายมาหาว่าเขาตื้บฉันได้ยังไงกัน?
     
    ............ ร่างหนาถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินเพื่อนรักชาวต่างชาติพูดจบ
     
    ............
     
    อุ๊บ...ฮ่าๆๆๆๆ ฮันคยอง ภาษาเกาหลีของนายนี่มันแย่เข้าขั้นวิกฤตแล้วนะ ฉันพูดว่า ตื๊อหมายถึงอาการที่คอยตามรับตามส่ง ตามตอแยนาย
    แบบนี้น่ะ ไม่ใช่
    ตื้บที่หมายถึงกระทืบหรืออะไรแบบนั้น คังอินอธิบายขณะที่พยายามกลั้นหัวเราะไปด้วยหลังจากที่ถูกร่างบางทำตาขวางใส่
     
    ก็เสียงมันใกล้กันนี่ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงเล่า? ฉันเป็นคนจีนนะ ฮันคยองเถียงด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่อยากยอมรับเท่าไหร่
    แต่เขาก็รู้ตัวดีว่ายังต้องปรับปรุงภาษาเกาหลีอีกมาก
     
    ...เฮ้อ~ นี่เราเอ๋อขนาดนี้จริงๆเหรอเนี่ย? เช้านี้พูดผิด ฟังผิดมาตั้งสองครั้งแล้ว ขนาดสุภาพบุรุษอย่างซีวอนยังอดขำไม่ได้เลย 
    อ๊าก คนจีนเครียด
    ! ทำยังไงเราถึงจะเก่งภาษาเกาหลีกับเขาบ้างนะ?...    
     
    คังอินเหงื่อตกเมื่อเห็นเพื่อนรักทำหน้าเครียดแถมยังดูเพ้อๆอีกต่างหาก
     
    ...นี่คิดอะไรไปถึงไหนแล้วเนี่ย?...
     
    มือใหญ่วางบนไหล่ของฮันคยองแล้วบีบเบาๆ
     
    ไม่ต้องเครียดขนาดนั้นหรอกน่า มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักหรอก
     
    แต่เช้านี้ฉันพูดผิดหนึ่งครั้ง ฟังผิดไปอีกหนึ่งครั้งแล้วนะ ถึงตอนเย็นฉันคงพูดผิดเป็นสิบๆครั้งแน่เลย
     
    นั่นมันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?ร่างหนาคิดในใจ
     
    แต่นายก็ยังสื่อสารกับฉันรู้เรื่องนี่ คังอินปลอบ
     
    มันก็ใช่อยู่หรอก แต่นั่นมันก็เป็นเพราะนายพยายามที่จะเข้าใจฉันนี่ ฉันโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะคังอิน อีกสองปีก็เรียนจบแล้วก็ต้องทำงาน
    ฉันคงจะต้องปรับปรุงตัวเองอย่างจริงจังซะแล้วล่ะมั้ง
    ฮันคยองถอนหายใจยาว เขาเริ่มจะเครียดขึ้นมาจริงๆแล้วนะเนี่ย
     
    ...งั้นฉันจะติวเข้มให้นายเอง!... คังอินยืดอกพูดอย่างมั่นใจ แต่อีกฝ่ายกลับมองเขาแบบหวั่นๆ
     
    ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลย ฉันรู้นะว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ ถึงวิชาอื่นฉันจะไม่เอาไหน แต่ภาษาเกาหลีน่ะฉันพูดมาตั้งแต่เกิดนะ
     
    ............  ร่างบางทำท่าครุ่นคิด
     
    ว่าไงล่ะ? คิดนานชะมัด งั้นฉันเปลี่ยนใจไม่สอนแล้วนะ ร่างหนาทำท่าจะก้มไปหยิบหนังสือแต่ร่างบางก็รีบห้ามไว้เสียก่อน
     
    ก็ได้ๆ...แล้วอย่ามัวแต่ไปตามจีบคนอื่นจนลืมสอนฉันล่ะ ร่างบางปล่อยมือร่างหนาก่อนที่จะแสร้งทำเป็นสนใจหนังสือของตัวเองทั้งๆที่
    ตอนนี้จิตใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยสักนิดเดียว
     
    แค่คิดว่าจะได้ใช้เวลาร่วมกับคังอิน ฮันคยองก็กลั้นยิ้มไม่ไหว แค่ได้อยู่ใกล้ๆ แค่อีกฝ่ายเห็นความสำคัญของเขาบ้าง เป็นห่วงเขาบ้าง
    แค่นี้ก็ทำให้เขามีความสุขมากมายแล้ว
     
     
               
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×