ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love You Forever รักเธอชั่วนิรันดร์{WonYe,HaeRyeo}

    ลำดับตอนที่ #8 : Charpter 7

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 525
      0
      12 ต.ค. 53

    Charpter 7

     

    เรียวอุคหยิบผ้าขนหนูผืนนุ่มขึ้นเช็ดเปียโนหลังที่ตั้งอยู่ข้างกำแพงในห้องซ้อมร้องเพลง เขาค่อยๆเช็ดไปเรื่อยๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองตัวเองผ่านกระจกที่พวกชมรมการแสดงชอบมาใช้เพื่อซ้อมเล่นละครเพลง กระจกที่พวกนักเต้นทั้งหลายมักจะใช้มองข้อผิดพลาดของตัวเอง ก่อนจะไม่สนใจก้มหน้าลงเช็ดเปียโนต่อไป

    ~...딴따란딴, 딴따란딴, 딴따란딴, 따다따라빠 . 딴따란딴, 딴따란딴, 딴따란딴, 따다따라빠...~
    [ตัน ตา รัน ตัน ,ตัน ตา รัน ตา ,ตัน ตา รัน ตา ,ตัน ดา ตา รา ปา .ตัน ตา รัน ตัน ,ตัน ตา รัน ตัน ,ตัน ตา รัน ตัน ,ตา ดา ตา รา ปา]

    เรียวอุคชะงักก่อนจะมองไปยังต้นเสียงที่ดังขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่นานเขาก็เห็นคนร่างสูงโปร่งคนหนึ่งกำลังซ้อมเต้นอยู่ เสียงดนตรีที่ดังทำให้เรียวอุคเบ้หน้าอย่างไม่สบอารมณ์ เขาไม่เคยมีความสุขเลยเวลาที่พวกการแสดงชอบมาขอยืมห้องนี้ใช้ และเขาก็ไม่ชอบเสียงดังๆอย่างนี้ด้วยเช่นกัน

    เรียวอุคตัดสินใจเดินเข้าไปกดปิดที่วิทยุ คนเต้นอยู่ชะงักค้างแล้วหันมามองคนปิด แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใคร รอยยิ้มเล็กๆก็ปรากฏขึ้นมา

    สวัสดี คนเมื่อวันก่อนที่อยู่กับพี่เยซองนี่นา

    ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหาเรียวอุคที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองหน้าของเขาอยู่ มือข้างหนึ่งยื่นออกไปหมายจะจับมืออีกคน

    สวัสดีครับ ผมชื่อลี ทงเฮนะ แล้วคุณล่ะ

    ...

    เรียวอุคเดินไปยังเปียโนตัวเดิมที่เขาเพิ่งเช็ดเสร็จไป เขานั่งลงที่เก้าอี้หน้าเปียโนแล้ววางมือลงบนแป้นเปียโนก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงออกมาทีละน้อย

    ทงเฮยังคงชะงักค้างอยู่อย่างนั้น เขาหันไปมองคนตัวเล็กแล้วเดินไปยังวิทยุของตัวเอง ท่วงทำนองเล่นไปเรื่อยๆทำให้คนตัวสูงไม่อาจที่จะกดเปิดเพลงซ้อมของตัวเองได้ สายตาคมจ้องมองไปยังคนตัวเล็กที่เริ่มจะร้องออกมาเบาๆ แต่พลังเสียงนั้นทำให้เขาเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด

     

    ...Someone to have and hold

     

    ...บางคนที่คอยอยู่เคียงข้างและคอยโอบกอด...


    ...With all my heart and soul

     

    ...ด้วยหัวใจและวิญญาณของฉัน


    ...I need to know, before I fall in love

     

    ...ฉันต้องรู้ ก่อนที่ฉันจะตกหลุมรัก


    ...Someone who'll stay around

     

    ...คนที่จะคอยอยู่ใกล้ๆตัว


    ...Through all my ups and downs

     

    ...ยามผ่านพ้นเวลาที่ดีและไม่ดี


    ...Please tell me now, before I fall in love

     

    ...ได้โปรดบอกฉันเถอะ ก่อนที่ฉันจะตกหลุมรัก

     

    เสียงเพลงค่อยๆเงียบลงไป เรียวอุคเลื่อนมือออกมาจากเปียโนแล้วจ้องไปยังทงเฮ ดวงตาที่เย็นชามองใบหน้าคมนิ่ง ทงเฮปรบมือให้ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆ

    คุณร้องเพราะมากๆเลยครับ เล่นเปียโนก็เก่ง คุณเก่งจัง

    ที่พูดมาน่ะ คิดหรือเปล่า

    เอ๋? อะ...อะไรนะครับ

    ทงเฮชะงักไป คำพูดเมื่อกี้มันรุนแรงจนทำเขาช็อก

    เสียงร้องของฉันมันแย่ลงกว่าเดิม นายไม่สังเกตเลยเหรอ การเล่นดนตรีของฉันก็แย่ เล่นก็เพี้ยน นายไม่สังเกตเลยหรือยังไง ฉันคิดว่าคนที่เป็นนักเต้นได้จะต้องรู้เรื่องทางดนตรีดีมากไม่ใช่แค่เต้นเก่งแล้วก็จะมาบอกเลยว่า ฉันเป็นนักเต้นนะ แค่นั้นน่ะ...ไม่ได้หรอกนะ

    ทงเฮอึ้งไปกับคำพูดของเรียวอุค อะไรกันวะเฮ้ย แค่ชมแค่นี้ทำไมต้องด่ากันด้วยฟะ

    นี่คุณ ผมเป็นนักเต้นนะ ไม่ใช่นักร้องโอเปร่าเสียงดีมากอย่างคุณ จะได้ต้องมาคอยนั่งทำหน้าขรึมแล้วสั่งคนนู้นคนนี้ว่า นายน่ะร้องเพี้ยนนะ ปรับปรุงเสียใหม่ บลาๆๆๆ

    ทงเฮกอดอกเผชิญหน้ากับเรียวอุค คนตัวเล็กแค่ส่งสายตาเย็นชามาให้เท่านั้นก่อนจะมองไปยังเปียโนต่อ

    เงียบหน่อยแล้วกัน ฉันจะร้องเพลงต่อ เดือนหน้าก็ถึงวันแสดงของฉันแล้ว ฉันต้องการสมาธิ

    เรียวอุคเน้นประโยคหลังด้วยน้ำเสียงนิ่งๆที่เจ้าตัวชอบทำเป็นประจำ ทงเฮทำปากยื่นล้อเลียนก่อนจะนั่งลงแล้วฟังท่วงทำนองที่อีกคนกำลังจะบรรเลง

     

     

    เยซองปิดประตูบ้านลงเบาๆแล้วส่งยิ้มไปให้พ่อแม่ตัวเองและเจ้าน้องชายที่เพิ่งย้ายมาอยู่ด้วย ทั้งหมดมองอย่างสงสัยแต่ก็ดีใจที่เยซองไม่คิดมากแล้ว

    วันนี้มีอะไรกินบ้างเหรอครับ

    แม่ของเยซองหยิบพายฟักทองและอาหารบำรุงผู้ป่วยมาวางลงตรงหน้าของเยซอง เยซองเบ้หน้าหนี

    ผักไม่อร่อย

    แต่ก็ต้องกินจ้ะ แม่ทำเพื่อลูกเชียวน้า หมอบอกว่าผู้ป่วยจะต้องกินผักเยอะๆเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง จะมากินรสจัดมากๆน่ะไม่ได้หรอกนะ

    แต่แม่ครับ...

    อย่าดื้อสิ พี่อายุมากกว่าผมอีกนะ แต่ผมยังกินผักเลย

    ทงเฮตักอาหารที่ควรจะเป็นของเยซองขึ้นมากินทำเอาอีกคนอ้าปากค้าง

    เมื่อกี้นายจะหาว่าฉันเป็นเด็กเอาแต่ใจไม่กินผักเหรอไง ได้เลยทงเฮฉันจะกินให้นายดู

    เยซองตักผักเข้าไปในปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆทำให้คนสามคนที่มองดูอยู่ยิ้มออกมา ถึงแม้จะรู้ว่าโดนหลอกแต่เยซองก็ฝืนใจกิน เขาไม่อยากทำให้คนอื่นๆต้องเป็นห่วงและที่แน่นอนที่สุดคือ ถ้าหากกินเจ้าพวกนี้แล้วทำให้ชีวิตของเขามันยาวขึ้นอีกนิดเขาก็จะยอม ขอแค่อยากเก็บความสุขดีๆระหว่างเขาและพี่ฮยอกแจให้มากที่สุดก็พอ

    เมื่อตอนบ่ายผมไปซ้อมเต้นที่ห้องชมรมร้องเพลง ผมเจอเจ้าคนไม่น่าคบด้วยล่ะ

    หืม? นั่นมันชมรมของฉันนี่นะ

    เยซองวางรีโมทลงกับโต๊ะแก้วตัวเล็กแล้วหยิบแอปเปิ้ลไม่ปอกเปลือกเข้าปาก ทงเฮหยิบเอาเข้าปากบ้างเช่นกัน พวกเขากำลังนั่งดูรายการทีวีกันอยู่

    เขาร้องเพลงเพราะมากๆเลยนะ แต่ว่าเย็นชาสุดๆเลย คนที่วันนั้นมากับพี่ที่ห้องสมุดน่ะ ตัวเล็กๆสายตาเย็นๆน่ากลัวๆอ่ะ

    เพียงเท่านี้เยซองก็ถึงบางอ้อในทันที เรียวอุคสินะ

    เรียวอุคน่ะเหรอ

    เขาชื่ออะไรนะครับ

    เรียวอุค คิม เรียวอุค เขาเป็นอย่างนี้แหละ เย็นชา แต่นิสัยดีนะ

    ทงเฮทำหน้าไม่เชื่อ เขาเพิ่งโดนด่ามาเองนะ จะมาบอกว่านิสัยดีได้ยังไง

    ผมโดนเขาว่าเละเลย ทำเอาอึ้งไปหลายวิเหมือนกัน

    ฮ่าๆๆ ทนๆหน่อยเหอะ นั่นน่ะรองประธานชมรมการร้องเพลงเชียวนะ ส่วนประธานชมรมก็คือรุ่นพี่คยูฮยอนที่จบไปแล้ว เอ่อ...

    เยซองเงียบเสียงลงก่อนจะส่งยิ้มให้ทงเฮแทน เขาลืมไปเลยว่าห้ามพูดถึงชื่อของรุ่นพี่คยูฮยอน ดีนะเรียวอุคไม่ได้ยินไม่งั้นเขาตายแน่เลย

    ทำไมเงียบไปล่ะ พี่มีอะไรเล่ามาให้หมดเลยนะเกี่ยวกับเรื่องของเจ้าตัวเล็กเย็นชานั่นน่ะ

    ช่างเหอะๆ เอาเป็นว่าเขานิสัยดีก็แล้วกัน และถ้าจะใช้ห้องทีหลังก็ไปขอเขาก่อนด้วยล่ะ ถึงยังไงเขาก็เป็นคนรับผิดชอบห้องนั้น แล้วอย่าทำเลอะหรือเปื้อนนะ ไม่งั้นนายเละแน่ๆ

    พูดจบก็เดินไปหาแม่เพื่อนัดเรื่องไปหาหมอประจำตัวของเขาวันวันเสาร์นี้ ทงเฮนั่งมองรายการโทรทัศน์แต่จิตใจกลับจดจ่ออยู่ที่เรื่องของคนตัวเล็กที่แสนเย็นชา

     

     

    ซีวอนหนูไม่กินข้าวหน่อยเหรอจ๊ะ

    ซีวอนถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายแล้วปัดมือของแม่เลี้ยงตนไปจนถาดข้าวต้มหกลงบนเสื้อผ้าของเขา ซีวอนสะดุ้งก่อนจะจ้องมองเสื้อผ้าราคาแพงที่แม่ของเขาซื้อให้แล้วเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของแม่เลี้ยง สายตาคมเบิกมองอย่างเกรี้ยวโกรธ

    น้า น้าขอโทษ น้า น้าไม่ได้ตั้งใจนะ เดี๋ยวน้าเอาไปซักให้แล้วเอามาคืน

    ฮวาซุนทำท่าจะหยิบมันขึ้นมาแต่ซีวอนกลับกระชากมาถือเอาไว้แล้วผลักตัวของฮวาซุนล้มลงนอนบนพื้น น้ำตาของเธอไหลลงมา

    ถึงคุณซักมาให้ผมแต่กลิ่นมันก็ยังคงติดอยู่ดี และอีกอย่างเสื้อตัวนี้แม่ของผมก็เป็นคนซื้อให้ เพราะฉะนั้นมันจะมีค่าอะไรในเมื่อคุณทำข้าวต้มสกปรกๆของคุณเปรอะลงไปแล้ว ผมเตือนคุณแล้วนะว่าอย่ามายุ่งกับผม แต่คุณก็ยังรั้น ได้ ถ้าผมทำอะไรร้ายๆขึ้นมาบ้างคุณอย่าหาว่าผมไม่เตือนแล้วกัน!!!!”

    ซีวอนเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปนอกห้องแล้วกระแทกประตูปิดเสียงดังจนฮวาซุนสะดุ้ง น้ำตาไหลลงมามากกว่าเดิม ทำไมชีวิตของเธอถึงได้เลวร้ายอย่างนี้ เมื่อไหร่ที่เธอจะได้มีความสุขกับการใช้ชีวิตที่นี่ เมื่อไหร่ซีวอนจะเปิดใจรับเธอ เปิดใจให้เธอ เห็นเธอเป็นแม่

    ซีวอนชะงักขาที่กำลังจะก้าวลงบันไดก่อนจะกลับขึ้นไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อฮยอกแจเรียกเอาไว้

    ฉันอยากรู้ว่านายกับเยซองเป็นอะไรกัน เห็นเขาบอกว่านายสองคนเป็นแฟนกัน

    อย่ามาสนใจเรื่องของฉันเลย สนใจเรื่องของตัวเองไม่ดีกว่าเหรอ

    ฮยอกแจถอนหายใจแล้วเดินเข้ามาหาอีกคน ดวงตาสั่นไหวเล็กน้อยก่อนจะกลับเป็นเหมือนเดิม

    ขอร้องล่ะนะซีวอน อย่ายุ่งกับเขาเลย ฉันไม่รู้ว่านายคิดอะไรอยู่ แต่นายอย่ายุ่งกับเขาเลยนะ เขาดู...ท่าทางน่าสงสารออก อีกอย่าง....

    งั้นนายก็ตอบฉันมาสิว่านายคิดยังไงกับเจ้านั่น

    ฮยอกแจเงียบ เขาก้มหน้าลงถกเถียงกับตัวเองว่ารู้สึกกับเยซองยังไง ในจิตใจว้าวุ่นจนเขาพูดอะไรไม่ได้

    หึ ถ้านายหาคำตอบได้เมื่อไหร่ก็มาบอกฉันด้วยแล้วกัน

    ซีวอนเดินกลับขึ้นไป ฮยอกแจมองตามแล้วถอนหายใจ

    เขาคิดยังไงกับเยซองน่ะเหรอ.... หาคำตอบได้ยากจริงๆ

    ซีวอนเดินเข้าไปในห้องของแม่เขาที่เป็นห้องทำงานขนาดปานกลางแต่ใหญ่พอตัว เขาเดินไปยังหน้าระเบียงที่แม่เขาชอบมาปลูกต้นไม้ต่างๆเอาไว้ มันมีทั้งดอกกุหลาบขาวและดอกฟอเก็ตมีนอท

    ซีวอนหยิบต้นกุหลาบขาวออกมาจ้องมองมันก่อนจะวางลงที่เดิม มันไม่ได้เหี่ยวเฉาลงเลยทั้งๆที่ห้องนี้ไม่มีใครเข้ามาได้นอกจากเขา ใครกันนะที่มาดูแลมันทั้งๆที่มันควรจะเหี่ยวเฉาไปนานแล้ว

    เอ่อ...ซีวอนจ๊ะ น้าขอดูเจ้าดอกกุหลาบหน่อยสิ เมื่อเช้าน้าลืมรดน้ำให้มัน

    ซีวอนหันไปมองสายตาคมจ้องคนที่เดินเข้ามาพร้อมกับบัวรดน้ำ เขาวางกระถางต้นไม้ลงแล้วเดินออกไป ที่แท้ก็ยัยป้าจอมยุ่งนี่เอง แต่ก็ดีเผื่อแม่ของเขาที่อยู่บนสวรรค์จะดีใจเวลามาเยี่ยมเขาแล้วเห็นดอกกุหลาบและดอกฟอเก็ตมีนอทที่แม่ชอบยังสดใสอยู่

    ฮวาซุนโล่งอกที่ไม่เห็นซีวอนว่าอะไรตน เธอเดินเข้าไปหาดอกกุหลาบสีขาวก่อนจะลูบมันเบาๆด้วยความเอ็นดู

    เจ้านายเก่าของแกน่ะเคยดูแลแกยังไงฉันไม่รู้หรอกนะ แต่ฉันจะดูแลพวกแกต่อเอง จะดูแลให้ดีที่สุด เหมือนที่ฉันจะดูแลซีวอนให้ดีที่สุดในฐานะลูกคนหนึ่งของฉัน

     

     

    เยซองเดินมาส่งทงเฮที่ห้องซ้อมเต้นก่อนจะขอตัวออกไปหาซองมินและแจจุง ทงเฮยืนตัวสั่นเมื่อต้องอยู่กับเรียวอุคตามลำพัง วันนี้คนตัวเล็กไม่ได้ซ้อมร้องเพลงหรืออาจจะซ้อมไปแล้ว เขาเดินเข้าไปหาก่อนจะพูดอย่างกล้าๆกลัวๆ

    ฉันชื่อลี ทงเฮ ยินดีที่ได้รู้จัก

    คำตอบคือความเงียบ เรียวอุคปรายสายตามองเหมือนเคย ทำเอาทงเฮเสียวสันหลัววูบวาบ

    วันนี้จะมาซ้อมเต้นหรือไง

    ใช่ แต่นายควรจะนะนำตัวนิดนะ

    เรียวอุคลุกขึ้นยืนแล้วมองมาทางคนตัวสูงกว่า ทงเฮเงียบกริบเหมือนโดนปิดปากเอาไว้

    อืม ฉันชื่อคิม เรียวอุคเรียกเรียวอุคเฉยๆก็ได้ แต่ฉันไม่ชอบการก้าวร้าว

    ทงเฮงงกับคำพูดของคนตัวเล็กแต่ก็แกล้งทำเป็นเข้าใจ เขาส่งยิ้มกว้างให้อีกคน

    แล้วก็หวังว่านายจะเคารพกฎของห้องนี้นะ วันนี้ฉันจะไม่ซ้อมร้องเพลง เชิญใช้ตามสบาย

    ไม่อยู่ดูเหรอ

    ฉันไม่ชอบพวกเต้นแร้งเต้นกาเท่าไหร่ ขอตัว

    ทงเฮช็อกอีกรอบแล้วเบ้ปาก ใช่สิ ตัวเองดีหมดแหละ ชิ!!!

    เขาเดินไปเปิดเพลงก่อนจะตั้งสมาธิแล้วเริ่มออกจังหวะเต้น แต่เต้นไปเท่าไหร่ๆมันก็ออกมาไม่ดีสักอย่าง เต้นตรงนั้นก็ผิด เต้นตรงนี้ก็แย่ ท่านี้ทั้งๆที่ซ้อมที่อื่นมามันง่ายแต่พอมาซ้อมที่นี่มันกลับเต้นไม่ได้เสียอย่างนั้น ทงเฮตัดสินใจหยุดเต้นเดินไปปิดเพลงแล้วนอนลงบนพื้น เขาหลับตาลงท่ามกลางแสงไฟนีออนสว่างจ้า

    โว้ย!!!เป็นอะไรไปวะ

    ก่อนจะลืมตาโพลงขึ้นมา เขาผุดลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปยังเปียโนตัวเมื่อวานที่มีคนตัวเล็กนั่งอยู่ ที่จริงแล้วเขาโง่ภาษาอังกฤษเลยตกมาตลอด แต่พอเมื่อวานได้ฟังเพลงที่คนตัวเล็กร้องแล้วเขากลับอยากจะฟังอีกและแปลได้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

    ทงเฮลุกขึ้นเดินไปยังเปียโนที่มีโน้ตดนตรีวางอยู่ เขามองชื่อเพลงก่อนจะวิ่งกลับไปเอาสมุดบันทึกเล็กๆที่พอติดตัวเอาไว้ตลอดเวลาขึ้นมาแล้ววิ่งมาจดชื่อเพลงเอาไว้ จดเสร็จก็ถือวิสาสะหยิบโน้ตขึ้นมามองก่อนจะอ่านเนื้อเพลง แต่อ่านไปได้สองตัวก็มึนแล้ว

    ร้องเข้าไปได้ยังไงกันนะเพลงภาษาอังกฤษเนี่ย

    สติปัญญาฉันดีน่ะสิ

    ทงเฮสะดุ้งแล้ววางโน้ตลงที่เดิม เขาหันไปมองเจ้าของเสียงแล้วยิ้มแหยๆไปให้ เรียวอุคมองด้วยสายตาเย็นชาเช่นเดิมแต่อาการที่แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดคือไม่พอใจ

    เปียโนตัวนี้ทีหลังอย่ามายุ่งกับมันอีก ของบนนี้ก็เช่นกัน

    เอ่อ...ทำไมล่ะ ก็นี่มันเป็นของสาธารณะ

    สำหรับนายน่ะใช่ แต่ฉัน...มันไม่ใช่

     

    - - - - - - - - >

    ตอนนี้เฮเรียวเยอะๆไปเลย>.< วอนเย่กับฮยอกเย่ก็รอๆกันไปก่อน สาวกซองมินก็อดทนอีกนิดนะ

    ตอนนี้ขอให้เฮเขาคุยกับเรียวหน่อยนิดนึง ตอนต่อไปจะคู่ใคร ต้องติดตามจ้ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×