คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #33 : Special WonYe รักเราชั่วนิรันดร์ [2]
Special WonYe รักเราชั่วนิรันดร์ [2]
มันจึงเป็นความรัก ที่ไม่ถึงกับสุข
เป็นความทุกข์ ที่ไม่ถึงกับเศร้า
เป็นความรัก ที่ทั้งซึ้งทั้งเหงาอยู่ด้วยกัน
เป็นความซึ้งและความเงียบเหงาอยู่ด้วยกัน
ย้อนกลับไปเมื่อทั้งซีวอนและเยซองยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทที่โดนพวกนักศึกษาเรียกกันว่าเพื่อนซี้ต่างขั้ว ซีวอนผู้มีท่าทางเงียบๆไม่สุงสิงกับใคร เยซองผู้ที่เป็นพวกโลกสดใส เพื่อนเยอะ คนรัก คนรู้จักไปทั่ว เห็นมั๊ยล่ะว่าต่างกันแค่ไหน
แต่ความต่างขั้วนี้แหละที่ทำให้เยซองหลงรักซีวอนขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว เขาทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ซีวอนรู้ว่าตัวเองเปลี่ยนจากคำว่ารักแบบเพื่อนมาเป็นแบบแอบรัก และก็เก็บมานานจนกระทั่ง
“เยซอง มีคนฝากของมาให้”
“ใครเหรอ”
“น้องปีหนึ่งที่ชื่อฮานะน่ะ หน้าตาน่ารักใช้ได้เลยว่ะเพื่อน”
ซองมินแซวเพื่อนสนิทของตัวเอง ก่อนจะเดินไปกอดคอเยซองแล้วมองใบหน้าซีวอนที่มองเยซองนิ่งๆ สายตาคมที่ดูเย็นชานั่นทำให้ใครหลายคนกลัวไปตามๆกัน และเรียกมันว่าสายตาพิฆาตมาร เว้นก็แต่เยซองที่กล้าจ้องตาอย่างไม่มีหลบ แต่คนอื่นคงไม่รู้ว่ากว่าเยซองจะกล้าทำแบบนี้โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดมันทรมานแค่ไหน
คนอื่นแค่หลบสายตาเมื่อกลัว ต่างกับเขา...ที่ต้องยอมสบตาแม้จะกลัวแค่ไหนก็ตาม
“แล้วน้องเขาอยู่ไหนล่ะ ฉันจะไปขอบคุณซะหน่อย”
“อ้อ เขาไปแล้วล่ะ”
เยซองยิ้มให้ซองมินเล็กน้อยแล้วก้มลงมองถุงกระดาษสีหวานลายจุดที่ห้อหุ้มอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น
“ไม่แกะเหรอ”
“เอ๋ ? อ้อ...”
ซีวอนหันมามองเยซองที่มองแต่ถุงในอ้อมแขนของตัวเองมานานตั้งแต่เดินกลับจากมหาวิทยาลัยจนมาถึงห้องของพวกเขา ทั้งที่สนใจขนาดนั้นแต่ก็ไม่ยอมแกะกระดาษสีชวนอ้วกออก
“ไม่แกะเหรอไง อยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าข้างในมีอะไร”
“ก็ไม่อยากรู้มากนักหรอก มันก็คงเป็นช็อกโกแลต...”
แควก !!!
เยซองยังพูดไม่ทันจบดี ซีวอนก็เอื้อมมือไปคว้าถุงนั่นมาแล้วกระชากแผ่นกระดาษออกด้วยความแรงจนมันขาดวิ่น เยซองได้แต่อึ้งมองของขวัญที่โดนคนตัวใหญ่กว่าฉกเอาไปฉีกต่อหน้าต่อตา ความรู้สึกโกรธมันพวยพุ่งขึ้นมาเหมือนกับกาน้ำตอนน้ำเดือด เขาจ้องใบหน้าคมด้วยสายตาแข็งกร้าวต่างกับอีกคนที่เปิดของในกล่องออกดู
“ทำไมนายทำแบบนี้ นี่มันของของฉันนะ”
“ก็เห็นนายยึกยักไม่เข้าท่าเลยแกะให้ เอาไปสิก็ไม่เห็นจะมีอะไร”
ซีวอนโยนตุ๊กตาหมีให้เยซอง เยซองรับมันเอาไว้แล้วกอดแน่นอย่างหวงแหน เขารู้สึกไม่ดีเลยที่ซีวอนมาทำลายของที่มีคนให้เขามาแบบนี้ ถ้าน้องฮานะรู้เธอคงเสียใจแย่
“ไม่เห็นจะมีอะไรงั้นเหรอ นายรู้หรือเปล่าว่าตุ๊กตาตัวนี้มีคนให้ฉันมานะ”
“...”
“ทีหลังห้ามมายุ่งกับของๆฉันอีก !!”
เยซองตวาดใส่ซีวอนแล้วเดินหนีเข้าห้องไปด้วยน้ำตาที่ไหลลงนองหน้า ทันทีที่เสียงกระแทกประตูเบาลง ซีวอนก็เอามือล้วงกระเป๋าตัวเอง สายตาดูเศร้าสร้อยยืนหันหลังให้บานประตูนั้นด้วยความเศร้า
นายห่วงมันมากกว่าฉันงั้นเหรอ...
บรรยากาศในมหาวิทยาลัยดูคึกครื้นผิดปกติ อาจจะเพราะวันนี้มีกิจกรรมรับน้องใหม่ของทางมหาวิทยาลัย พวกรุ่นพี่ผู้ชายเลยดูมีความสุขกันออกนอกหน้านอกตา ต่างก็แต่คู่เพื้อนซี้ต่างขั้วที่ไม่ยอมคุยกันเลยตั้งแต่ตื่นเช้ามา
“เยซองทะลาะกับซีวอนเหรอ”
“เปล่าหรอกครับพี่ฮยอกแจ”
“อ้าว ! แล้วทำไมไม่คุยกันล่ะ เอ...หรือว่าพวกนายกำลังเขินกันอยู่ ใช่ม้า~”
ฮยอกแจ รุ่นพี่หน้าไก่สุดหล่อแฟนหนุ่มของซองมินเพื่อนสนิทเยซองที่ชอบแซวเขาและซีวอนบ่อยๆว่าเป็นคู่รักกัน เยซองส่ายหน้าทันทีที่ฮยอกแจพูดจบ ดวงตาเรียวสวยทอดอ่อนด้วยความเศร้าจนฮยอกแจเล่นอะไรไม่ออก เขาเลยต้องนั่งลงข้างๆเยซองแล้วเหลือบมองซีวอนเงียบๆ
ซีวอนเหลือบมองฮยอกแจที่นั่งเอามือลูบไหล่ของเยซองอยู่ เขารู้สึกเหมือนคิ้วมันกระตุก มือกำเข้าหากันแน่น รู้สึกไม่ชอบที่มีคนอื่นมานั่งปลอบเพื่อนสนิทของเขาแบบนี้ แต่เมื่อเยซองหันหน้ามาหาเขา เขาก็ก้มลงทำงานต่อทำเนียนเหมือนว่าไม่ได้มองอีกคน
“อ๋อ เรื่องมันเป็นแบบนี้เอง เอาน่าเยซอง คิดซะว่าซีวอนเขาเป็นห่วงนายแล้วกัน เขาไม่อยากเห็นนายเครียดเก็บเอาไปนอนคิดไงว่าของในนั้นมีอะไรอยู่ข้างใน”
“แต่เขาก็น่าจะให้ผมเป็นคนแกะเอง ไม่ใช่มากระชากห่อกระดาษออกจนกระจุยกระจายแบบนั้น ผมเสียความรู้สึกนะครับ”
ซีวอนชะงักมือ เส้นสีดำในโปรแกรมเวิร์ดกระพริบปริบๆรอคนมาทำให้มันเดินหน้าต่อ สายตาคมเลื่อนความสนใจจากหน้าจอโน้ตบุคไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าของเยซองที่เหมือนจะร้องไห้
“ฉันขอโทษแล้วกันที่ทำให้นายเสียความรู้สึก ทีหลังฉันจะไม่ไปยุ่งกับของๆนายอีกแล้ว”
“!!!”
“อ้าวเฮ้ย ! ไหงเป็นงั้นล่ะฟะ”
ฮยอกแจถึงกับเหวอกินกันเลยทีเดียว เยซองมองใบหน้าเพื่อนตัวเองด้วยความช็อก ร่างกายสั่นไปหมดเหมือนโดนอะไรทุบเข้าที่หัวแรงๆ เหมือนตัวมันกำลังลอยเวิ้งว้างอยู่กลางอวกาศ
“อะ...อือ รู้แบบนั้นแล้วก็ดี ทะ ทีหลัง... ทีหลังก็อย่ามายุ่งกับฉันอีกแล้วกัน !!”
เยซองลุกพรวดวิ่งออกจากโต๊ะประจำกลุ่มไป ซีวอนเพียงแค่ปรายตามองตาม แล้วลงมือทำงานต่อ ฮยอกแจมองเยซองทีซีวอนทีสลับกันไปมา ก่อนจะเอามือตบโต๊ะหินอ่อนแรงๆด้วยความโกรธแต่ซีวอนก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด
“ทำไมไม่ตามไปวะ แกรู้หรือเปล่าว่าวันนี้มีงานรับน้อง”
“...”
“โอ๊ย ไอ้บ้าเอ๊ย ยังไม่ตามไปอีก ถ้าเยซองโดนฉุดไปเพราะเข้าใจผิดจะว่าไงล่ะวะ”
“...”
“โว้ยยยยย !! แกไม่รู้หรือไงว่าวันนี้จะมีพวกดักแกล้งเด็กปีหนึ่งโดยการฉุดตัวไปทำมิดีมิร้าย ถ้าเยซองเป็นอะไรไปนะฉันจะโทษนาย”
ปึ้ง !
ฝาโน้ตบุคถูกปิดลงอย่างแรง ร่างกายสูงกำยำของซีวอนลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วออกตัววิ่งตามเยซองไปทันที
ไอ้บ้าเอ๊ย แล้วทำไมต้องมางอนอะไรเอาวันนี้ด้วยวะ
เยซองวิ่งไปหลังตึกของคณะตัวเอง มือเล็กยกขึ้นปิดหน้าร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน รู้สึกเจ็บไปหมดทั้งจิตใจไม่รู้จะทำไงต่อดี ซีวอนคงเกลียดเขาแล้ว เกลียดมากๆเลยด้วย
“โอ๊ะโอ ! มีเด็กน้อยหลงทางกับคุณแม่มานั่งอยู่ตรงนี้ด้วยแฮะ”
“ว่าไงจ๊ะน้องสาวให้พวกพี่ช่วยปลอบมั๊ยจ๊ะ”
“ฮึก อย่ามายุ่งกับฉันนะ”
“อ้าว... ผู้ชายนี่หว่า”
ชายร่างสูงโปร่งแต่ดูมีเนื้อมีหนังกลุ่มใหญ่เดินเข้ามาล้อมตัวของเยซองเอาไว้ มือหยาบกระด้างเอื้อมมาจับปลายคางของเขา ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมองมองใกล้ๆ
“หืมมม ? ทำไมพอมองใกล้ๆแล้วมันดูสวยแบบนี้วะ ฮ่าๆๆๆๆ”
“เฮ้ย ! ตกลงจะเอาไง เดี๋ยวพวกพ่อแม่มึงก็แห่กันมาหรอก”
“นั่นดิ จะเอาไงก็เอาเร็วๆ รู้สึกเหมือนอยากหาอะไรเล่นแล้วว่ะ”
เยซองปรายสายตาไปมองสองคนที่พูดออกมา เขายอมรับเลยว่าไอ้พวกนี้มันหล่อกันยกกลุ่มจริงๆ หากแต่ว่านิสัยนั้นกลับดิ่งลงเหวไปถึงนรกเลยมั้ง รู้สึกขยะแขยงกับทุกคำพูดที่พวกมันพ่นออกมา รู้สึกอยากจะอ้วกเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมผสมกลิ่นตัวของพวกมัน
“ไหนๆวันนี้ก็ไม่ได้น้องปีหนึ่งสวยๆน่ารักๆมาเชยชมแล้ว งั้นก็ขอเอาไอ้เด็กนี่ไปเป็นของเล่นสักคืนสองคืนแล้วกัน ฮ่าๆๆ”
“อย่านะเว้ย ถ้าพวกแกทำอะไรฉันมากกว่านี้ฉันฆ่าพวกแกแน่”
“จุ๊ๆๆๆๆ ไม่เอานะน้องสาวคนสวย เอ้ย ต้องน้องชายคนสวยสิ ฮ่าๆๆๆๆ”
เยซองกัดฟันกรอด มือเล็กกำเข้าหากันแน่นก่อนจะชกเข้าที่ท้องของไอ้คนที่จับปรายคางของเขาอยู่เต็มแรง ร่างสูงนั่นถึงกับเซถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าหล่อบูดเบี้ยวด้วยความจุก
เยซองลุกขึ้นมายกมือปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้วตั้งกาดเตรียมสู้ พวกชายหื่นกามเห็นแล้วว่าเยซองเอาจริงเลยล้อมตัวเขาไว้ ทั้งสองดูเชิงกันไปมาก่อนที่ชายร่างสูงบนใบหน้ามีไฝคนหนึ่งจะวิ่งเข้ามาล็อคตัวเยซองจากทางด้านหลัง
พลั่ก !!
เยซองกระโดดถีบชายกำยำคนหนึ่งที่พุ่งเข้ามาจะจับตัวของตน แล้วดิ้นไปมาให้หลุด
“น้องชาย อยู่นิ่งๆสิ เดี๋ยวพวกพี่พาไปสวรรค์”
“อย่ามายุ่งกับกู !!!”
คนที่กอดเยซองเอาไว้แน่นหอมเข้าที่แก้มใสเต็มปอด เยซองขนลุกซู่รู้สึกอยากเอาฝอยขัดหม้อมาขัดหน้าของตัวเอง บัดซบที่สุดเลย !!
พลั่ก !!
“อึก...”
“หึๆๆๆๆ ตอนนี้ก็หลับไปก่อนแล้วกันนะสุดสวย ตื่นขึ้นมาแล้วจะได้เจอกับสวรรค์บนดิน ฮ่าๆๆๆ”
เยซองโดนชกเข้าที่ท้องเต็มๆจนจุก มือหนาไม่รู้ของใครพุ่งเอาผ้าเช็ดหน้าเข้ามาปิดปากของเขา ก่อนจะรู้สึกเหมือนเวียนหัวจนผล็อยหลับไป แต่ในใจกลับร่ำร้องถึงใครคนหนึ่งที่เพิ่งทะเลาะกันมา
ช่วยฉันด้วย.... ซีวอน
“เฮ้ย เร็วๆเว้ยอย่ามัวแต่ถอดเสื้อผ้ามันนาน เดี๋ยวพ่อแม่มาแล้วจบเห่กันหมด”
“เออน่า รู้แล้ว แต่ไอ้นี่แม่งขาวสุดยอดเลยว่ะ ผิวก็เนียนละเอียดจนไม่อยากหยุดจับ ผู้หญิงบางคนยังสู้ไม่ได้เลยมั้งเนี่ย”
ชายร่างสูงที่กอดเยซองวางร่างเยซองลงกับพื้นหินเย็นเฉียบหลังตึกคณะของเจ้าตัว ก่อนจะเริ่มถอดเสื้อของเยซองออกแล้วถือโอกาสลูบนู่นไล้นี่ไปมาจนตัวเองต้องร้องออกมาด้วยความกระหายในร่างกายนี้ ใบหน้าหื่นกามก้มลงไปหมายจะพิชิตริมฝีปากอิ่มแต่กลับชะงักเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง
พลั่ก ! ผัวะ ! ตุ้บ !
ซีวอนเดินเข้าไปกระชากไอ้คนที่กำลังจะทำร้ายเพื่อนของเขาให้นอนลงไปหมอบอยู่กับพื้น ใบหน้าที่เคยหล่อช้ำไปหมดหลังจากโดนหมัดหนักๆประเคนเข้าที่หน้าไปเต็มๆ พวกเพื่อนของไอ้คนที่ล้มไปแล้วหันกลับมามองด้วยความตื่นเต้น คิดแค่ว่าเพื่อนคงกำลังเล่นสนุกกับร่างบางตรงหน้าไม่ได้สนใจเลยว่าหายนะกำลังจะเข้ามาหาเรียงตัว
ซีวอนปรายสายตามองไอ้พวกคนหื่นที่เหลือแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ ใบหน้าคมฉายแววรำคาญเล็กน้อยก่อนจะก้าวเข้าไปหาไอ้พวกนั้นช้าๆ เพื่อนของไอ้คนที่ล้มไปแล้วไม่รู้จะทำไงได้แต่มองหน้ากันไปมา ก่อนที่จะกรูกันเข้ามาเหมือนห่าฝนเพื่อล้มซีวอนเพียงคนเดียว
พลั่ก ! ตุ้บ ! ผัวะ ! เคร้ง ! ตุ้บ !
เมื่อพวกมันคิดจะลอบกัด ซีวอนก็คิดที่จะหาทางให้พวกมันกัดกันเอง โดยรอจังหวะให้พวกมันรวมกลุ่มกันเข้ามาหาเขา ก่อนที่จะใช้จังหวะนั้นกระโดดขึ้นข้างบนอย่างรวดเร็วเหมือนนินจาแล้วตีลังกาไปยืนอยู่บนพื้นข้างตัวของเพื่อนตัวเอง ปล่อยพวกหน้าโง่ให้ต่อยกันเองอยู่อย่างนั้น เขาตัดสินใจอุ้มคนตัวเล็กให้ออกจากพื้นที่อัปมงคล
“แค่กๆ โอ๊ย !”
“...”
เยซองค่อยๆลืมตาขึ้นมาพร้อมกับความเจ็บรวดร้าวไปทั่วร่าง มือเล็กยกขึ้นกุมศีรษะตัวเองแล้วคลำป้อยๆรู้สึกไม่คุ้นกับบรรยากาศสบายตัวแบบนี้ สายตาค่อยๆปรับโฟกัสก่อนมองไปรอบๆแล้วเห็นว่าตัวเองอยู่ที่ห้องของเขาและซีวอน ความรู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขามองหาตัวช่วยตอบคำถาม
“ตื่นแล้วเหรอ”
“อื้อ...”
ได้แต่ตอบเบาๆกับเพื่อนตัวเองที่ไม่รู้ว่าหายโกรธหรือยัง เยซองก้มหน้าลงไม่กล้าสบสายตาคมนั้นเพราะความกลัว ร่างกายเหมือนกำลังสั่น
“ขอโทษนะที่พูดไปแบบนั้น”
“...”
“ขอโทษที่ทำให้นายต้องเกือบเจอเรื่องร้ายๆที่ไม่มีวันให้อภัย ขอโทษนะ”
ซีวอนเดินไปนั่งลงข้างๆดึงคนตัวเล็กมากอดเอาไว้แน่น ใบหน้าหันไปมองด้านข้างไม่คิดแม้แต่จะสบตาอีกคนเลยด้วยซ้ำ
เยซองได้แต่รู้สึกอยากร้องไห้ภายในจิตใจ มือเล็กที่อยู่ใต้ผ้าห่มบีบเข้าหากันเหมือนระบายอารมณ์ที่แทบระเบิดออกมา เขาอยากร้องไห้ เขาอยากพูดออกไปว่ารักอีกคนมากแค่ไหน
แต่เขารู้ดี เขารู้ดีว่าซีวอนมองเขาแค่เพื่อนมาตลอด แค่เพื่อนเท่านั้น...
“ถ้าฉันปล่อยให้ไอ้พวกนั้นมันทำอะไรแบบนั้นกับนาย ฉันคงไม่มีวันให้อภัยตัวเองไปชั่วชีวิต ฉันคงไม่กล้ามองหน้านายอีกเป็นครั้งที่สองแน่ๆ ไม่รู้สิ ฉันแค่รู้สึกไม่อยากเห็นเพื่อนรักของฉันโดนใครทำร้ายจิตใจและร่างกายแบบนั้นเพราะฉัน”
เพื่อนรักงั้นเหรอ...? ที่ไปช่วยก็เพราะแบบนี้เองเหรอ...? ฮ่ะๆ ต้องตัดใจแล้วล่ะเยซอง...
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันก็ปลอดภัยดีไม่ใช่เหรอ เพราะงั้น...”
ซีวอนหันหน้ามาสบตากับอีกคนทำเอาเยซองพูดอะไรต่อไม่ออก สายตาที่ส่งผ่านดวงตาคู่นี้มันกำลังจะบอกอะไรบางอย่างแก่เขา อะไรบางอย่างที่ดูเศร้าจนเขาไม่อยากรับรู้
“ขะ ขอโทษนะ ฉันขออยู่คนเดียวสักพัก...”
“...”
ซีวอนกอดเยซองเอาไว้ไม่ยอมทำตามที่อีกคนขอ ในใจมันว้าวุ่นเพียงแค่คิดว่าเยซองกำลังจะตกไปเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเองมันก็โกรธจนฆ่ายักษ์ได้ทั้งเมือง
เยซองกอดตอบอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนี้ เขาได้แต่แอบร้องไห้ออกมาโดยไม่ให้อีกคนรู้เท่านั้น ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นนี้มันจะจบลงยังไงนะ หรือเป็นเขาเองที่ควรตัดใจไป หรือเป็นเขาเองที่ควรกลับไปคิดแค่เพื่อนเหมือนเดิม
TBC
20/07/2011
พอกลับมาจากสอบก็รีบปั่นให้เลย กลัวจะค้างคากัน คราวนี้จัดหนักหน่อย
แล้วตอนที่สามจะตามมาในไม่ช้า ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะครับ ^^
ปล.กวารักรีดเดอร์แสนน่ารักทุกคน x]
แจ้งข่าวสำหรับแฟนฟิค Love You Forever รักเธอชั่วนิรันดร์
กวามีเรื่องอยากถามหน่อยครับ คือว่ากวากำลังคิดอยู่ว่าจะแต่งเรื่องนี้ภาคสองต่อดีมั๊ย
เนื่องจากกวาคิดว่าเรื่องนี้คงทำหลายคนร้องไห้ไปเยอะ เลยอยากสอบถามความเห็นว่า
'แต่งภาคสองต่อดีมั๊ย' ยังไงก็ฝากโหวตที่หน้าบทความด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ^^
ความคิดเห็น