ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love You Forever รักเธอชั่วนิรันดร์{WonYe,HaeRyeo}

    ลำดับตอนที่ #13 : Charpter 12

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 513
      0
      14 ต.ค. 53

    Charpter 12

     

    ความรู้สึกของทงเฮยิ่งชัดเจนมากขึ้นเมื่อได้เห็นเรียวอุคไปยุ่งกับคนอื่นทั้งๆที่ไม่ใช่ตัวเอง มอบรอยยิ้มให้คนอื่นแทนที่จะเป็นเขาเหมือนแต่ก่อน ความรู้สึกหวงมันเพิ่มมากขึ้นเมื่อเรียวอุคสัญญาว่าจะไปช่วยงานโรงเรียนที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยไปกับรุ่นพี่คยูฮยอนที่ได้ข่าวว่าเคยเป็นแฟนเจ้าตัวมาก่อน

    นายจะไปกับรุ่นพี่คยูฮยอนจริงๆน่ะเหรอ

    อืม

    ทงเฮเดินไปดักหน้าของเรียวอุคเอาไว้ ใบหน้าสวยเปลี่ยนเป็นไม่พอใจเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเป็นอย่างเดิม เขาอยากจะตะโกนเหลือเกินว่า อย่าไปได้มั๊ย

    ให้ฉันไปด้วยสิ

    เรียวอุคเงยหน้าขึ้นจ้องทงเฮเขม็ง เขาไม่รู้ว่าทงเฮกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขาคงจะต้องขอปฏิเสธ

    คงจะไม่ได้ หลีกไปได้แล้ว

    คนตัวเล็กทำท่าจะเดินไปเล่นเปียโน แต่ทงเฮกลับคว้ามือมาจับเอาไว้ เรียวอุคเงยหน้าขึ้นมองแสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

    ก็ฉันอยากไปด้วย ไม่ได้เหรอไง

    ก็บอกว่าไม่ได้ รุ่นพี่เขาไม่ชอบให้คนไปเยอะๆ

    เอาไปคิดดูก่อนไม่ได้เหรอ อีกตั้งสองวัน ลองไปคิดดูดีๆนะ ให้ฉันไปด้วยได้มั๊ย

    ทงเฮทำสีหน้าอ้อน เรียวอุคไม่อยากจะพูดมากเลยพยักหน้ารับไปงั้นๆ ทงเฮยิ้มกว้าง

    วันนี้ฉันไม่ได้มาซ้อมเต้นแต่จะมาฟังนายร้องเพลง

    เรียวอุคชะงักเท้าเอาไว้ คำพูดของคนตัวสูงเมื่อกี้ดันไปคล้ายกับคนที่เคยทิ้งเขาไปและกำลังจะได้เจอกันอีกครั้ง

    พี่จะมาฟังนายร้องเพลง เผื่อว่าพี่จะได้กลับไปนอนหลับฝันดีบ้าง

    เฮ้ เป็นอะไรหรือเปล่า

    เมื่อเห็นเรียวอุคนิ่งไปทงเฮก็สะกิดเบาๆที่ไหล่ เรียวอุคสะดุ้งเล็กน้อยดวงตาที่เคยตกอยู่ในภวังค์กลับมาเย็นชาดังเดิม

    อยากฟังก็ฟังไปแต่อย่าพูดแบบนั้นอีก ฉันไม่ชอบ

    ทงเฮไม่เข้าใจว่าทำไมเรียวอุคถึงยังปิดตัวเองและไม่ยอมให้ใครเข้ามาแทนที่คนเก่าเช่นนี้ ทั้งๆที่เรื่องมันก็ผ่านมาปีหนึ่งแล้ว แล้วทำไมคนตัวเล็กยังไม่ยอมเปิดใจเสียที เขาเดินไปนั่งลงมองดูคนตัวเล็กเล่นเปียโนเงียบๆ

     

     

    สายลมเย็นๆพัดผ่านร่างเล็กและร่างอวบไปสบายๆ ซองมินหลับตาพริ้มด้วยความสบายอารมณ์ ต่างจากอีกคนที่หลับไม่ลงทั้งๆที่นี่คือเวลาพักผ่อนของร่างกายยามบ่าย วันนี้พวกเขาไม่มีเรียนในช่วงบ่ายเลยแอบมางีบสักชั่วโมงสองชั่วโมงก่อนถึงเวลากลับบ้าน

    เยซองนอนตะแคงไปมาท่ามกลางพื้นหญ้านุ่มๆในสวนของโรงเรียน วันนี้อากาศเย็นสบายๆไม่ร้อนหรือหนาวเกินไปนักเหมาะแก่การนอนเป็นอย่างยิ่ง แต่ทำไมเขาถึงหลับไม่ลง

    ยังไม่มีใครรู้เรื่องที่เขาเป็นโรคหัวใจขาดเลือดนอกจากคนในครอบครัวของเขาและซีวอนเพื่อนใหม่ ตอนนี้เขากำลังกังวลว่าจะโกหกซองมินและเพื่อนคนอื่นๆในห้องไปได้อีกนานแค่ไหน ช่วงนี้เขาแทบจะต้องสละเวลาในวันหยุดเพื่อไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล และยาก็มักจะเพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ

    นายอย่าตะแคงมากสิ เสียงมันหนวกหู

    ซองมินแย้งขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นนั่งมองมาทางเขาใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์ เยซองลุกขึ้นตามก่อนจะรู้สึกเจ็บที่หน้าอกขึ้นมาอีกครั้งแต่ยังดีที่อาการมันแค่แปบเดียวแล้วก็หายไป เขาลุกเร็วเกินไปทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เขายิ้มฝืนๆไปให้ซองมินก่อนจะพูดออกมาเบาๆ

    ขอโทษ...นะ

    ซองมินมองดูเพื่อนที่อาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มือของเขาวางลงเบาๆบนไหล่ของอีกคน เยซองส่งยิ้มบางๆไปให้

    เฮ้ อาการนายไม่ค่อยดีเลย เป็นอะไรหรือเปล่า

    เปล่า ขอบใจที่เป็นห่วงนะ

    ฉันบอกนายไม่ได้หรอก ซองมิน โรคของฉัน อาการของฉัน เวลาที่เหลือของฉัน...

    ฉันว่าเราไปหาอะไรเย็นๆดื่มกันดีกว่า ถึงอากาศจะไม่ร้อนมากนักแต่นั่งตากแดดตลอดเวลาแบบนี้ก็ทำให้เราเป็นลมได้นะ

    เยซองพยักหน้าแล้วค่อยๆลุกขึ้นยืน ซองมินพยุงเพื่อนตัวเองให้เดินไปด้วยกัน

    วันนี้ฉันขอกลับคนเดียวได้ไหม

    ซีวอนหันมามองเยซอง คนตัวเล็กทำหน้าเศร้าและแน่นอนว่าซีวอนจะตอบว่าไม่ แต่เขากลับลังเลที่จะขัดใจอีกคน

    นายเลือกที่จะกลับเองทั้งๆที่นายเป็นโรคอันตรายแบบนี้เนี่ยนะ

    เยซองพยักหน้า รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าน้อยๆ

    ฉันอยาก....ทำอะไรด้วยตัวเองดูบ้าง ฉันอยากปลดปล่อยตัวเองไปกับสายลมสักครั้ง ฉันอยากเปิดโลกใหม่ๆดูบ้าง

    ...

    เยซองเดินออกไปแล้ว ซีวอนมองตามหลังเล็กๆที่ค่อยๆเดินผ่านจนหายลับสายตาไป

    ซีวอนลังเลใจอยู่สักพัก ก่อนจะตัดสินใจแอบขี่จักรยานตามหลังอีกคนไปเงียบๆ

     

     

    เยซองมาหยุดอยู่ที่เดิมที่ซีวอนเคยพาเขามานั่งเล่นก่อนกลับบ้าน สายลมเย็นพัดผ่านร่างกายของเขาจนรู้สึกหนาวเหน็บไปถึงจิตใจ

    อีกนานไหมที่ผมจะปกปิดเรื่องของผมกับคนอื่นๆได้เหมือนอย่างแต่ก่อน

    สายน้ำไหลที่ไม่เชี่ยวมากนักส่งเสียงตอบรับเบาๆ เยซองยิ้มออกมาขณะจ้องมองท้องฟ้าอยู่บนสะพาน มือของเขาจับราวสะพานแน่น เขาไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว แต่ความกลัวในสิ่งที่ปกปิดอยู่มันกลับทำให้เขากังวลจนต้องร้องไห้ออกมา

    ทำไมท่านถึงเลือกผม แทนที่จะเป็นคนอื่น ผมทำอะไรผิดมากนักหรือครับ

    น้ำตาของเยซองไหลลงมาอาบแก้ม เขาไม่ได้อยากร้องไห้ แต่น้ำตามันกลับไหลลงมาเองอย่างห้ามไม่อยู่ มือที่จับราวสะพานกำแน่นมากกว่าเดิม สายตายังคงจับจ้องมองท้องฟ้าที่มีก้อนเมฆลอยไปมาอย่างอิสระ

    ผมยังไม่อยากตาย ท่านได้ยินหรือเปล่า!!”

    สายลมพัดผ่านร่างกายไปเบาๆคล้ายปลอบประโลม แต่มันไม่ช่วยให้เยซองดีขึ้นมาเลย เยซองค่อยๆทรุดตัวลงนั่งกับพื้นสะพาน

    ผมยังอยากส่งยิ้มให้เพื่อนๆและคนในครอบครัว ผมอยากจะทำอะไรอีกมากมายอย่างนับไม่ถ้วน ผมอยากเดินส่งยิ้มให้กับคนที่กำลังท้อแท้ให้มีกำลังต่อไป และผมก็ยังอยากอยู่เคียงข้างพี่ฮยอกแจ แต่ทำไม ทำไมท่านถึงได้เลือกให้ผมหมดชีวิตลงอย่างนี้ !!!!!”

    เขาตะโกนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ใบหน้าหวานนองไปด้วยน้ำตามากมาย เขาชันเข่าตัวเองขึ้นแล้วก้มหน้าลงกับเข่าตัวเอง

    เสียงสะอื้นที่ดังขึ้นในที่เงียบอย่างนี้ทำให้ฟังดูแล้วช่างเศร้ายิ่งนัก ซีวอนที่ทำท่าจะเดินออกมาจากหลังต้นไม้เลือกที่จะหยุดอยู่ที่เดิม เขาว้าวุ่นในจิตใจเหลือเกิน

    เขาไม่อยากเห็นเยซองร้องไห้ เขาไม่อยากเห็นเยซองต้องเศร้าใจ เขาไม่อยากเห็นเยซองต้องคิดมากแบบนี้

    ความรู้สึกแปลกๆเวลาเยซองพูดถึงคนอื่นมันทำให้เขาแทบคลั่ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ยืนอยู่นิ่งๆแอบมองร่างเล็กจากทางด้านหลัง

    แก้แค้นไงล่ะ ชเว ซีวอน นายต้องแก้แค้นแล้วใช้เจ้าเด็กนั่นให้สาสมสิ ทำให้ฮยอกแจเจ็บเหมือนอย่างที่เขาทำมากับนาย แก้แค้น!!!!

    ซีวอนสะบัดใบหน้าของตัวเองแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาต้องคิดถึงแต่เรื่องแก้แค้น แก้แค้นเท่านั้น!!!

     

     

    ประตูห้องของเยซองปิดลงเบาๆพร้อมกับหัวใจที่ห่อเหี่ยว พรุ่งนี้เขาต้องไปหาหมออีกแล้ว ไปตรวจร่างกายอีกแล้ว เขาจำเป็นต้องหยุดเรียนเพื่อไปตรวจร่างกายของตัวเอง เขาไม่อยากไปเลย ความหวังที่มีมันริบหรี่ลงเรื่อยๆ

    ก๊อกๆ

    ครับ

    เยซองตอบกลับเบาๆ ประตูเปิดออกก่อนดวงตาของเยซองจะเบิกกว้าง

    ซีวอน!!”

    ใช่ ฉันเอง

    ใบหน้าคมมองสำรวจเข้าภายในห้องนอนที่ดูน่ารักเกินไปกว่าที่พวกผู้ชายเขาจะใช้กัน ก่อนจะเลื่อนลงมามองใบหน้าหวานที่ยังไม่หายตกใจ

    นะ...นายมา นายมาที่นี่ได้ยังไง ใครให้นายขึ้นมา

    เยซองกำลังจะตะโกนเรียกทงเฮให้มาช่วยจัดการกับอีกคนแต่ดูเหมือนจะสายไป มือหนาปิดเข้าที่ปากของเยซองแล้วส่งสายตาเหี้ยมปรามเอาไว้

    พวกเขารู้กันแล้ว และแม่ของนายก็อนุญาตให้ฉันขึ้นมาเอง ถ้ารู้อย่างนี้แล้วก็อย่าแหกปากร้องออกมาล่ะ ฉันกลัวพวกเขาจะเข้าใจผิด

    เยซองแทบจะกัดเข้าที่มือของอีกคน แต่ก็ยอมอยู่เฉยๆค่อยๆให้มือนั้นเลื่อนออกจากปากไปเอง ใบหน้าหวานมองอีกคนด้วยความสงสัยแทน

    แล้วนายมาทำไม

    ก็อยากมา

    คำตอบกวนๆของอีกคนมันช่างเป็นคำตอบที่เข้าใจง่ายเสียเหลือเกิน เยซองค้อนให้วงเล็กแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดเข้าไปในห้อง ซีวอนตามเข้าไปโดยไม่ลืมปิดประตู

    ฉันแค่อยากมาดูว่านายจะตายเมื่อไหร่

    ตอนแรกซีวอนคิดว่าเยซองคงจะโกรธเขาและร้องไห้ออกมา แต่มันไม่ใช่ เยซองเพียงแค่ยิ้มและมองออกไปนอกหน้าต่าง ร่างเล็กนั่งอยู่บนเตียงที่กว้างเกินตัวไปเท่าหนึ่งมันทำให้คนนั่งดูโดดเดี่ยวไปเลยทีเดียว ซีวอนเดินไปนั่งลงข้างๆจ้องมองพวกตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลและขาวซึ่งวางอยู่บนชั้น

    อีกไม่นานหรอก

    คำตอบของอีกคนทำเอาซีวอนชะงัก เขาเหลือบสายตามองก่อนจะเห็นดวงตาเรียวมีน้ำเอ่อคลอจวนจะไหลลงมาอยู่แล้ว

    งั้นก็ขอให้ไปสบายๆ

    ไม่รู้ทำไม พอได้ยินคำพูดพวกนี้เยซองกลับไม่รู้สึกโกรธแต่กลับรู้สึกดีลึกๆอยู่ภายในจิตใจ เขาเป็นอะไรไปเนี่ย

    ขอบใจ ฉันต้องไปสบายอยู่แล้วล่ะ ในเมื่อพระเจ้าเลือกให้ฉันต้องตายก่อน แสดงว่าฉันเป็นคนดีมากพระเจ้าท่านเลยต้องการให้ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์เพื่อรับใช้ท่าน ท่านอยากให้คนดีๆตายก่อนก็เพื่อชำระล้างพวกคนชั่ว

    ถึงมันจะฟังดูอิงนิทานไปเสียหน่อย แต่ซีวอนก็บอกได้ว่านี่เป็นการให้กำลังใจคนใกล้ตายและตัวเองได้ดีทีเดียว เขาอมยิ้ม และคงจะเป็นครั้งแรก ที่เขายิ้มออกมาจากใจจริง

    งั้นที่แม่ฉันตายไปก่อน ก็แสดงว่าพระเจ้าท่านต้องการคนดีๆอย่างแม่ฉันอย่างนั้นสินะ

    เยซองหันมามองซีวอน ดวงตาคมดูเหม่อลอย เหงาหงอย เศร้า โดดเดี่ยว และอะไรอีกมากมายที่มันไม่ได้หมายถึงความสุข มือเล็กจับที่มือหนาก่อนจะบีบเบาๆ

    แน่นอนอยู่แล้ว ท่านต้องการแม่ของนายให้ไปรับใช้ท่าน แม่ของนายเขาไปสบายแล้ว ยังไงฉันก็เสียใจด้วยนะ

    ซีวอนก้มหน้าลงมามองดวงตาเล็กที่แสนอ่อนโยนจนเขาอดสงสารในอนาคตของคนๆนี้ไม่ได้ แต่พอคิดว่าอีกไม่นานคนที่เคยมองเขาอย่างอ่อนโยนต้องตายจากเขาไป จิตใจก็เจ็บแปลบขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาระสายตาออกไปจากดวงหน้าหวานมองไปยังชั้นที่มีภาพของครอบครัวอยู่เต็มไปหมด

    คนเรามันมีได้อย่างเสียอย่างสินะ

    ฉันคิดว่าไม่ บางที นายอาจจะดีกว่าฉัน เยซอง นายฟังฉันนะ

    เยซองจ้องอีกคนตาโต เมื่อกี้ซีวอนเรียกชื่อของเขาอย่างนั้นเหรอ เขาหูฝาดไปหรือเปล่า

    คนเราเกิดมาไม่เคยได้อย่างเสียอย่าง การตายเป็นเรื่องที่ธรรมชาติสร้างขึ้นเพื่อก่อกำเนิดเผ่าพันธุ์มนุษย์ใหม่ๆและดีกว่าเดิมในหลายๆด้าน เพราะฉะนั้นการตายไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล เพียงแต่การที่คนเรากลัวตายก็เพราะว่าพวกเขาทำความชั่วไว้มากต่างหากล่ะ ยิ่งพวกเขาทำชั่วมากเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งไม่อยากตายมากเท่านั้น และที่ฉันบอกว่านายดีกว่าฉัน ก็เพราะว่านายมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มีพ่อแม่อยู่กันพร้อมหน้า ต่างจากฉันที่ไม่มีใคร

    ...

    แม่ของฉันตายไปตั้งแต่ฉันอายุสิบขวบ ไม่นานพ่อของฉันก็พาแม่ใหม่ เอ่อ...แม่ของฮยอกแจนั่นแหละเข้ามาอยู่ในบ้านในฐานะแม่คนใหม่ของฉัน พ่อไม่เคยเสียใจเรื่องแม่เลย แต่ตรงกันข้าม พ่อกลับเอาแต่ใจยัยเมียน้อยนั่น

    เยซองรู้เลยว่าในน้ำเสียงซีวอนแฝงความรังเกียจเอาไว้มากขนาดไหน แต่การดูถูกผู้มีพระคุณแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเลยสักนิด

    นายอย่าว่าพ่อของนายอย่างนั้นสิ บางทีท่านอาจจะคิดว่าเพราะนายเสียแม่ไปแล้วเลยไม่อยากให้นายคิดมากและเติบโตมาโดยมีปมด้อยว่าไม่มีแม่ก็ได้ ท่านเลยหาแม่ใหม่ เอ่อ...แม่ของรุ่นพี่ฮยอกแจมาแทน

    เยซองเองก็นึกสงสัยมานานว่าทำไมซีวอนและพี่ฮยอกแจดูสนิทสนมกันเหลือเกิน แต่ความจริงจากปากของซีวอนวันนี้ก็ทำให้เขาคลายความสงสัยลง ซีวอนหันมาจ้องเขาด้วยสายตาอะไรไม่ทราบแต่เขามองออกว่าซีวอนไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของเขานัก

    ถ้าเป็นนาย นายยอมได้เหรอที่พ่อของนายหาแม่ใหม่มาให้ทั้งๆที่เขาเพิ่งเสียเมียของตัวเองไป!”

    ฉันยอมนะ ถ้าจะทำให้ท่านมีความสุข นายรู้หรือเปล่าว่าพวกท่านเหนื่อยเพราะพวกเราที่เป็นลูกมานานขนาดไหน พวกเขาต้องทนอดหลับอดนอนในตอนกลางคืนเพื่อตื่นขึ้นมาปลอบเราเมื่อตอนที่ฝันร้ายและสะดุ้งตื่น พวกท่านดีกับเรามากขนาดไหนนายไม่รู้เหรอ

    ฉัน...

    นายลองเอากลับไปคิดดูนะ ว่าที่จริงแล้ว แม่ของรุ่นพี่เป็นคนมาแย่งพ่อไปจากนายจริงๆน่ะเหรอ หรือว่าเป็นนายเองต่างหากที่ไม่ยอมเข้าใกล้ท่าน พ่อของนายดีมากเลยนะที่ไม่อยากให้นายมีปมด้อยเรื่องของแม่ขนาดนี้ มันต่างจากฉันนะที่เกิดมาแล้วมีความอ่อนแอเป็นปมด้อย นายไม่รู้หรอกว่าคนที่ใกล้ตายเขาอยากขอชีวิตจากพระผู้เป็นเจ้าแค่ไหน

     

    - - - - - - - - >

    อืม เรื่องค่อยๆเป็นค่อยๆไปแล้ว ตอนนี้เปิดเผยชีวิตของวอนกันไปแล้ว

    แต่ก็ยังไม่หมด อะไรหลายๆอย่างมันยังไม่คลี่คลายดี และคงจะยังไปอีกนาน

    เย่ร้องไห้อีกแล้ว เศร้าใจจังT  T(แต่แกแต่งเองนะ?:คนอ่าน) ติดตามต่อๆ
    แต่ตอนนี้มีข่าวร้ายจะบอก โน้ตบุ๊คของกวากำลังจะพังT{ }T ต้องส่งซ่อมแล้วU___U
    คงอีกนานกว่าจะมาอัพ งั้นจะลงเท่าที่โน้ตบุ๊คจะอำนวยนะฮะ

    ขอบคุณที่ตามอ่านนะฮะ^  ^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×