คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #99 : [SF WONYE]ห่างกันสักพัก[2]
Pairing: SIWON x YESUNG [SF WONYE]
Author: SaRa_PAO
Rating:PG
Note:จบแบบคาดไม่ถึงเลยจริงๆ= =;
เยซองที่เปิดประตูเข้าไปเพื่อที่จะปลุกน้องในวงเพื่อไปทำงานอย่างฮยอกแจต้องยืนอึ้งและช็อคไปกับภาพที่เห็น ภาพของคนร่างสูงที่เขาคุ้นเคยดีกำลังนอนกอดอยู่กับฮยอกแจรุ่นน้องที่เขาสนิทไม่น้องไปกว่าเรียวอุคในสภาพที่ทั้งคู่ที่ไม่ได้ใส่อะไรเลยมีเพียงผ้าชนหนูผืนเล็กที่กำลังปกปิดส่วนนั้นของทั้งคู่อยู่
“นี่มันอะไรกัน!!!!!”
เยซองแทบล้มทั้งยืนเขารู้สึกเหมือนแข้งขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะยืนอยู่จนต้องเอามือไปเกาะไว้ที่ขอบประตู น้ตากำลังไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ฮยอกแจอ่า ฉันไม่ไหวแล้วนะ”
เสียงของซีวอนดังขึ้นเบาๆด้วยความงัวเงียก่อนที่จะกระชับอ้อมกอดให้อีกคนเข้ามาใกล้ตนมากยิ่งขึ้น
“เมื่อคืนขอบใจนะ”
ซีวอนมองไปที่ร่างที่กำลังหลับสนิทของฮยอกแจก่อนจะกดจูบหนักไปทีขมับของอีกคน ก่อนที่จะลุกขึ้นนั่งเพื่อไปอาบน้ำและเตรียมตัวออกไปกินข้าวแต่สายตากลับเหลือบไปเห็นร่างบางอีกคนที่กำลังยืนร้องไห้มองมาทางพวกเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
“พี่เย...”
ไม่รอให้ซีวอนเรียกชื่อของเขาเยซองรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที เขาไม่รอให้อีกคนพูดให้จบก็รีบวิ่งออกมาทันที เขากลัว กลัวว่าถ้าอยู่ตรงนั้นนานๆมันจะทำให้คนตัวสูงเห็นน้ำตาที่อ่อนแอของเขา
“คังอิน ฮึก”
พอคังอินหันมาเยซองก็กระโดดกอดอีกคนทันที เขาซุกหน้าลงกับไหล่ของอีกคนแล้วร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย
“เฮ้ย!!ไอ้เยซอง เป็นอะไรวะร้องไห้งอแงทำไม”
ถึงแม้ว่าคังอินจะไม่รู้เรื่องอะไรแต่ก็กอดตอบและลูบหัวของอีกคนเบาๆอย่างปลอบโยน เยซองกอดอีกคนแน่นตอนนี้เขาต้องการอ้อมกอดของใครสักคนที่ให้เขาได้พึ่งพิง
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้น”
“ฮึก มันเป็นเรื่องจริงแล้วฮึกมันเป็นเรื่องจริงแล้ว”
เยซองพูดไปสะอื้นไปเขากอดคังอินแน่นขึ้นกว่าเดิมก่อนที่จะหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ภาพที่เขาเห็นมันติดตาจนยากที่จะลบเลือนมันออกไปจากจิตใจ
“อะไรเรื่องจริงอะไร”
เยซองไม่ตอบเอาแต่เงียบ เขารู้ดีว่าถ้าเกิดเขาพูดเรื่องที่เห็นออกไปคังอินจะต้องไปทำร้ายซีวอนแน่ๆ
“เรื่องอะไรเยซอง”
คังอินถามซ้ำอีกครั้ง เยซองเลือกที่จะเงียบแล้วร้องไห้เงียบๆ
“เกี่ยวกับไอ้สิงโตนั่นใช่มั๊ย”
น้ำเสียงที่แข็งกร้าวขึ้นเวลาพูดอะไรที่เกี่ยวข้องกับซีวอนทำเอาเยซองเสียวสันหลังแทน
“ฮึกันไม่เกี่ยวอะไรกับซีฮึกวอน”
“ฉันไม่เชื่อเยซอง บอกฉันมา”
“มันไม่เกี่ยวจริงๆไม่เกี่ยวเลยฮือ”
ยิ่งพูดเยซองก็ยิ่งเจ็บน้ำตาไหลลงมาเรื่อยๆอย่างห้ามไม่อยู่เขากำชายเสื้อของคังอินแน่นขึ้น
“เยซอง เลิกปกป้องมันเสียทีบอกฉันมาว่ามันทำอะไร”
เยซองค่อยๆเล่าเรื่องที่เห็นเมื่อกี้ให้คังอินฟัง คังอินก็เอาแต่ฟังเงียบๆไม่ได้แย้งอะไรขึ้นมาแต่เยซองก็รู้ว่าคังอินกำลังโกรธจัดเพราะเสื้อของเขาถูกขย้ำอย่างแรง
“ไอ้ซีวอน”
คังอินพูดลอดไรฟันออกมาแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธอารมณ์ของคังอินในตอนนี้มันยากนักที่จะดับให้ลงโดยง่าย
“มันทำอะไรนายอีก”
“...”
เยซองเงียบลงอีกครั้งก่อนที่จะปล่อยตัวของอีกคนออกแล้วนั่งลงที่โซฟา ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำใสที่กำลังไหลริน คังอินเอื้อมมือไปเช็ดคราบน้ำตาออกจากดวงตาเรียวเล็กอย่างแผ่วเบา
“คังอิน...นายอย่าทำอะไรฮึกซีวอนเลยนะ”
“นายจะปกป้องอะไรมันนักหนา มันทำนายเจ็บถึงขนาดนี้”
“ที่ผิดน่ะฉันเองฮึกที่ผิดน่ะฉันเอง เพราะฉันมันโง่เองมันโง่เองฮือๆ”
เยซองร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันเป็นเพราะเขาเอง เพราะเขามันโง่เกินไปเลยหลงเชื่อคำพูดหลอกลวงของอีกคน เพราะเขามันโง่เอง
คังอินดึงตัวของอีกคนเข้ามากอดเอาไว้แล้วลูบหัวเบาๆปลอบใจอีกคนอย่างเป็นห่วง เขายอมรับว่าตอนนี้เขาโกรธมากโกรธอย่างถึงที่สุด เขายอมไม่ได้ถ้าเพื่อนตัวเล็กของเขาคนนี้จะเสียน้ำตา เขารู้มาตลอดว่าเยซองเป็นคนเข้มแข็งขนาดไหนและน้อยครั้งที่เพื่อนตัวเล็กจะร้องไห้ออกมาให้คนอื่นเห็นไม่ว่าจะเสียใจมากขนาดไหน แต่นี่คนตัวเล็กกลับร้องออกมาอย่างไม่อายใครและหนักเสียด้วย
“ไอ้ซีวอน”
คังอินพูดเสียงลอดไรฟันออกมาแผ่วเบา แล้วกอดอีกคนให้แน่นขึ้นเสียงสะอื้นยังดังอยู่อย่างต่อเนื่อง
ซีวอนที่พอเห็นร่างบางของคนรักมาหยุดยืนมองอยู่หน้าห้องถึงจะไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหนแต่เขาต้องไปอธิบาย อธิบายให้อีกคนเข้าใจ เขาคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำมาใส่ปิดบังร่างกายทั้งๆที่มีผ้าขนหนูอยู่แล้ว
เขาวิ่งตามร่างบางมาที่ห้องนั่งเล่นแต่กลับโดนอีทึกและฮีชอลขวางเอาไว้
“นาย นายมัน”
ฮีชอลพูดอะไรไม่ออกได้แต่ชี้หน้าของอีกคนค้างอยู่อย่างนั้น ดวงตาเรียวเต็มไปด้วยหยาดน้ำใสที่ปกปิดความแข็งกร้าวไม่มิด อีทึกโอบไหล่ของอีกคนหลวมๆก่อนที่จะตัดสินใจพูดออกมา
“พวกฉันสงสัยมานานแล้วว่านายกับฮยอกแจต้องมีอะไรกัน”
“แต่มันไม่ใช่อย่างที่เข้าใจกันนะ”
“อย่ามาแก้ตัว นายรู้หรือเปล่าว่าไอ้เปามันกำลังร้องไห้”
“โถ่!พี่ผมรู้สิถ้าไม่รู้ผมไม่วิ่งตามพี่เยซองมาหรอก หลบผมผมจะไปหาแฟน...”
ผัวะ!!!
ไม่ทันที่ซีวอนจะพูดอะไรจบหมัดหนักๆจากอีทึกก็ประเคนเข้าที่มุมปากของคนตัวสูงจนคนโดนต่อยล้มลงไปนอนกองกับพื้น
“อะ..”
ซีวอนยกมือขึ้นจับที่มุมปากของตัวเองด้วยความเจ็บ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่อีทึกพี่ใหญ่ที่ใจเย็นของเขา
“นายมันเลว เลวอย่างที่ฉันคาดไม่ถึงจริงๆอย่าพูดว่าไอ้เปาเป็นแฟนของแก”
“พี่จะมาเข้าใจอะไรผม”
“แล้วแกจะไปเข้าใจอะไรไอ้เปา”
อีทึกสวนกลับในทันทีทำให้ซีวอนเงียบเสียงลงไป ฮีชอลที่ตอนนี้น้ำตากำลังไหลลงมาด้วยความโกรธถึงแม้เขาจะไม่ค่อยสนใจเยซองแต่ยังไงหมอนั่นก็เป็นน้องที่เขารักเช่นกัน
“ตอนนี้พี่เยซองอยู่ไหน”
อีทึกเงียบไม่ตอบคำถามของคนตัวสูงก่อนจะหลีกทางให้อีกคนมองเข้าไปในห้องนั่งเล่น
ซีวอนมองตามเข้าไปก่อนที่จะเห็นกระเป๋าใบใหญ่ที่ถูกตั้งอยู่ที่โซฟาพร้อมกับตัวของร่างบางที่มีร่างสูงคุ้นหน้าเดินออกมาเคียงข้างกัน
“พี่เยซอง พี่จะไปไหน”
เมื่อเห็นว่ากระเป๋าใบนั้นถูกร่างบางลากออกมาด้วยซีวอนก็ถามกลับไปในทันที เยซองไม่ได้ตอบเพียงแค่ปรายสายตามองก่อนจะพูดเสียงแข็ง
“คังอิน ไปกันเถอะ”
พูดจบก็คว้าแขนของอีกคนมาจับเอาไว้ ซีวอนที่ยังไม่เข้าใจอะไรดีก็ลุกขึ้นยืนก่อนที่จะกอดเข้าไปที่ตัวของเยซอง
“พี่จะไปไหน พี่จะไปไหน”
“คังอิน ไปกันเถอะ”
เยซองพูดเสียงแข็งออกมาอีกครั้งแล้วคว้าเข้าที่ข้อมือของอีกคนมาจับเอาไว้ก่อนจะเดินออกไปทั้งๆที่มีร่างของซีวอนกอดตนอยู่ เขาไม่อยากอยู่เป็นคนโง่ให้ใครหน้าไหนหลอกอีกแล้ว เขาอยากไปทำใจสักพักก่อนแล้วค่อยกลับมาที่นี่ใหม่
“พี่อย่าทิ้งผมไปไหนเลยนะครับ ผมรักพี่นะ”
“เลิกพูดโกหกฉันได้แล้ว”
น้ำเสียงเย็นชาเต็มไปด้วยความเหินห่างทำเอาซีวอนใจหายวูบเขากอดร่างบางแน่นขึ้นกว่าเดิมก่อนที่จะซบหน้าลงบนไหล่ลาด ไม่มีการกอดตอบใดๆทั้งสิน
“อย่าจากผมไปไหนนะ ผมรักพี่จริงๆเพราะนั้น”
“นายเลิกตอแหลฉันสักที!!!!”
เยซองตะโกนออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกที่เหมือนเป็นคนโง่ ความรู้สึกที่ถูกทำลายอย่างไม่เหลือไยดี คำว่ารักจากปากของคนที่กำลังกอดเขาอยู่มันทำให้เขาเจ็บจนเกินจะรับไหว
“ปล่อยเยซองซะ”
คังอินที่ทนมองไม่ไหวเดินไปแกะมือของซีวอนออกโดยใช้มือเพียงข้างเดียว เพราะอีกข้างเขาจะจับมือของเพื่อนรักเอาไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาสัญญากับตัวเองเอาไว้แล้ว
“พี่ไม่เกี่ยวนี่มันเรื่องของผัวเมียกัน”
ซีวอนผลักตัวของคังอินออกไปก่อนที่จะปล่อยตัวของเยซองออกแล้วจ้องลงไปที่ดวงตาเรียวเล็ก
“ผมรักพี่ด้วยใจจริง ผมรักพี่คนเดียว”
“ฉันบอกว่าเลิกตอแหลฉันได้แล้ว ภาพที่ฉันเห็นประโยคที่ฉันได้ยิน สิ่งที่ฉันรับรู้มันชัดเจนเกินกว่าที่จะปฏิเสธได้ นายไม่เคยรักฉันเลยนายไม่เคยรักฉันเลยจริงๆ”
เยซองพูดเสียงสั่น ทั้งๆที่ไม่อยากร้องไห้ให้คนตัวสูงเห็น ทั้งๆที่ไม่อยากแสดงความอ่อนแอออกมาแต่ตอนนี้มันเจ็บเกินกว่าที่เขาจะรับไหว มันเกินไปจริงๆ
“ที่พี่เห็นมันไม่ใช่อย่างที่พี่คิดนะ ผมไม่ได้รักฮยอกแจเลยเขาก็แค่ของเล่นยามว่างของผม”
ซีวอนพูดความจริงออกมาเขาจ้องเยซองที่มองเขาทั้งน้ำตา แววตาที่ดูเหมือนอาฆาตแค้นนั่นทำเอาเขาใจเสีย
“หึ งั้นฉันก็คงเป็นของเล่นของนายเหมือนกันน่ะสิใช่มั๊ย”
เยซองถามออกไปด้วยความเจ็บปวด ซีวอนจ้องดวงตาเล็กที่ไม่มีแววอ่อนลงให้เขา
“มันไม่เหมือนกันนะครับ ผมรักพี่จริงๆผมรักพี่แค่คนเดียวพี่ไม่เคยเป็นของเล่นของผม พี่ไม่เคยเป็นของเล่นยามว่างของผมพี่คือตัวจริงของผมพี่คือคนที่ผมจะอยู่ด้วยตลอดไป”
“เลิกโกหกและตอแหลฉันเสียที ชเว ซีวอน”
เยซองพูดจบก็ผลักตัวของอีกคนออกไปก่อนที่จะเดินออกจาห้องพักในทันที น้ำตาของเขาจะไหลลงมามากว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เขาจะให้ซีวอนเห็นความอ่อนแอของเขาไม่ได้อีกแล้ว
ซีวอนที่ทำอะไรไม่ถูกก็ได้แต่ยืนนิ่งมองแผ่นหลังของร่างบางที่หายไปเรื่อยๆ
“เยซอง...เจ็บจนเขาต้องร้องไห้ออกมาขนาดนี้ นายคงรู้แล้วนะว่านายมันไม่สามารถดูแลเยซองได้อีก”
คังอินพูดเสียงเบาก่อนจะลากกระเป๋าตามร่างบางของเยซองออกไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็จะดูและเยซองเองไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม
ซีวอนที่ตอนนี้ได้แต่ก้มหน้ามองพื้นร้องไห้ออกมาเงียบๆอย่างช่วยไม่ได้ เขาทำตัวของเขาเอง
เขาสูญเสียคนที่เขารักไปก็เพราะน้ำมือของเขาเอง
“หึๆเลิกกันไปได้ก็ดี ต่อจากนี้เขาจะได้เป็นแค่ของผมคนเดียว ขอบคุณพี่คังอินที่มาช่วยปลอบใจพี่เยซองนะครับ ถึงแม้ว่าพี่จะไม่ได้รับรู้อะไรก็ตาม”
ฮยอกแจที่ยืนกอดอกมองคนทั้งหมดอยู่หลังมุมมืดของหอพักหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความเย้ยหยัน ก่อนจะพาร่างกายที่มีเพียงผ้าขนหนูปกปิดส่วนร่างอยู่เดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป
เยซองไม่กลับมาหอพักอีกเลยตั้งแต่ที่เดินออกไป นี่มันก็วันใหม่แล้วอีทึกได้แต่พยายามโทรติดต่อแต่เจ้าของเครื่องก็ไม่ยอมรับสายพอโทรไปหาคังอินหมอนั่นก็ปิดเครื่องในตอนนี้พวกสมาชิกที่เหลือไม่มีใครรู้เลยว่าคังอินและเยซองไปอยู่ที่ไหน
“พี่เขาถึงกับเก็บกระเป๋าออกไปเลยเหรอครับ”
เรียวอุคเอ่ยถามเสียงกระซิบกับทงเฮที่นั่งทำหน้าเจื่อนๆอยู่ข้างตัว ทงเฮไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่พยักหน้าช้าๆ
ตั้งแต่ที่เยซองหายไปโดยไร้กาติดต่อใดๆเมื่อวานซีวอนก็เอาแต่กดเบอร์โทรศัพท์ของอีกคนอยู่ในห้องของตัวเอง เขาไม่ได้ออกไปไหนเลยเอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้องข้าวปลาไม่ยอมกินวันๆกระดกเข้าไปแต่เหล้าจนตอนนี้กลิ่นเหล้าคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง
มือหนาเอื้อมไปคว้าขวดเหล้าที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมาเพื่อกระดกดื่ม ซีวอนอ้าปากก่อนจะเทเหล้าลงไปแต่มันกลับไม่มีอะไรไหลลงมาซีวอนมองลงไปในขวดเหล้าแต่ก็เห็นเพียงแต่ความว่างเปล่า เขาปาขวดนั่นไปที่ข้างๆตัวก่อนที่จะหยิบไปอีกขวดมาแล้วกระดกลงไปแต่มันก็ไม่มีอะไรไหลออกมาเช่นกันซีวอนปาขวดทิ้งไปอีกด้านของเตียงก่อนจะเอามือกุมขมับ เขาไม่เคยทำตัวไร้สาระแบบนี้มาก่อนแต่เพราะเขาต้องการลืมความเจ็บปวดที่ได้เกิดขึ้น
สายตาของเยซองในตอนนั้นมันทำให้เขารู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่ถูก สายตาที่เหินห่าง เย็นชาและไม่มีความรักต่อกันอีกต่อไป
อาการที่ร่างบางแสดงออกมาและไหนจะไอ้พี่ชายร่างอวบที่ตอนนี้คงทำหน้าที่แทนเขาอยู่
“พี่ อึกเองก็ไอ้เอิ๊กต่างจากผมอึก อะเท่าไหร่หรอก”
ซีวอนพร่ำออกมากับตัวเองก่อนจะนอนกอดขวดเหล้าที่หมดไปแล้ว แล้วร้องไห้ออกมาเงียบๆ
“ฮึกพี่มันก็ไม่ต่างจากผม อึก”
เขาหลับตาลงช้าๆปล่อยให้น้ำตาไหลรินลงมาเงียบๆ
แก๊ก!!!!
เสียงเปิดประตูปลุกให้อีกคนค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วมองไปทางประตู ร่างที่เดินเข้ามาบอบบางดูคล้ายกับคนที่เขานึกถึงตลอดเวลา
“พี่อึกเยซองเหรอ”
ฮยอกแจที่เดินเข้ามาชะงักเท้าหยุดลงมองร่างสูงบนเตียงก่อนจะย่นจมูกลง กลิ่นแอลกอฮอล์ที่เขาไม่ค่อยได้แตะมันสักเท่าไหร่ทำให้เขามึนหัวนิดๆ สานตาคมมองไปที่ร่างสูงที่กำลังจะลุกจากเตียงมาหาเขา
“พี่กลับมาหาผมแล้วใช่มั๊ย อึก”
ซีวอนเดินเซไปเซมาก่อนจะเข้ามากอดฮยอกแจเอาไว้หลวมๆ ฮยอกแจกอดตอบก่อนที่จะทำหน้าเหยเกด้วยความฉุนจากแอลกอฮอล์
“พี่กลับมาหาผมแล้ว”
ซีวอนรำพึงออกมาเบาๆก่อนที่จะหลับไปคาอ้อมกอดของฮยอกแจ คนตัวบางที่รู้สึกว่าคนที่กอดตนอยู่เงียบไปก็ผละออกมาก่อนจะต้องส่ายหัวแล้วยิ้มนิดๆ
“เด็กจังน้า ซีวอน”
เขาลากคนตัวสูงที่หนักกว่าเขาไปที่เตียงก่อนจะผลักให้นอนลงไปแล้วเดินหายเข้าห้องน้ำไป
ฮยอกแจกลับออกมาพร้อมอ่างใบเล็กและผ้าขนหนูเปียกหมาดๆเขานำมันมาวางไว้ที่หัวเตียงก่อนจะเริ่มลงมือเช็ดตัวให้อีกคนเริ่มจากแขนแกร่ง แผงอกและใบหน้า
“พี่เยซอง อย่าทิ้งผมไปนะครับ”
ซีวอนเอื้อมมือมาคว้าข้อมือเล็กของฮยอกแจเพราะนึกว่าคนที่กำลังเช็ดตัวให้เขาอยู่คือร่างบางอีกคน
“ชิ!รักกันมากขนาดนั้นเลยเหรอไง”
ฮยอกแจพูดออกมาก่อนที่จะเขวี้ยงผ้าขนหนูลงไปโปะบนหน้าของซีวอน แล้วสะบัดมือออก ก่อนจะมานั่งทำหน้ามุ่ยอยู่ข้างๆเตียง
“พี่เยซอง!!!”
ซีวอนสะดุ้งตกใจตื่นขึ้นมา ผ้าขนหนูที่โปะอยู่ที่หน้าตกลงมาอยู่บนขาของเขา ซีวอนมองไปที่ร่างบางข้างๆเตียง
“พี่เยซอง...”
เขาเรียกชื่ออีกคนเสียงแผ่วเบาก่อนจะกอดอีกคนแนบแน่น
“อย่าทิ้งผมไปนะครับ ผมรักพี่คนเดียว ผมรักแค่พี่คนเดียว”
“รักกันขนาดนั้นเลยเหรอไง”
ซีวอนชะงักเขาเงยหน้าขึ้นมองอีกคนที่เอามือมาลูบไปมาตามแขนของเขา ก่อนจะเอนหัวซบลงบนอกของเขา
“ฮยอกแจ”
“ผิดคาดหรือไง ที่ไม่ใช่พี่เยซอง”
ซีวอนรีบผลักตัวของอีกคนออกไปทันที ใบหน้าแดงก่ำจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์สะบัดไปมาแรงๆไล่ความมึนที่กำลังทำเอาแทบล้มลงไปนอน
“นายเลิกบ้าได้แล้ว ในเมื่อเรื่องมันก็แดงมาแล้วทำไมเราไม่คบกันดูจริงๆล่ะ”
ฮยอกแจเดินมานั่งลงบนเตียงคู่กับซีวอนก่อนจะเอามือแตะลงที่ลำตัวของอีกคนแผ่วเบาแล้วไล้ไปมาตามลำแขน
“หยุดพูดเรื่องนี้!!!!ฉันเคยบอกแล้วไงว่าคนที่ฉันจะคบด้วยก็คือพี่เยซอง คนที่ฉันรักหมดทั้งใจคือพี่เยซองไม่ใช่ของเล่นอย่างนาย”
ฮยอกแจชะงักมือใบหน้าสวยงอง้ำอย่างเห็นได้ชัดแววตาเต็มไปด้วยความโกรธที่กำลังจะปะทุขึ้นมา
“นายไม่เคยรักฉันจริงๆเลยเหรอไง”
“ก็ฉันบอกนายตั้งแต่แรกแล้วว่าฉันไม่เคยรักนาย และตอนที่เรามีอะไรกันนายก็เป็นแค่เพียงตัวแทนของพี่เยซองเท่านั้น”
ดวงตาของซีวอนเองก็เช่นกันเขาจ้องกลับด้วยความโกรธไม่แพ้กันมือข้างหนึ่งของซีวอนจับเข้าที่ข้อมือเล็กก่อนจะกระชากเข้าหาตัว
“แล้วก็จำใส่หัวของนายเอาไว้ ว่าฉันรักแค่พี่เยซองเพียงคนเดียว”
แล้วสะบัดออกอย่างไม่ไยดีก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปเพื่อเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาให้สะอาด
“กล้ามากนะซีวอน นายกล้ามากที่มาพูดอย่างนี้กับฉัน”
ฮยอกแจกำผ้าปูเตียงแน่นด้วยความโกรธจนมันยับยู่ยี่ไปหมด
เยซองที่ตอนนี้มาอยู่บ้านของคังอินชั่วคราวอาการค่อยๆดีขึ้นแต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะไปเผชิญหน้ากับเหล่าสมาชิกอยู่ดี
“เยซอง นายโอเคบ้างหรือยัง”
มือหนาที่โอบกอดรอบคอของเขากับน้ำเสียงที่แสดงความห่วงใย เยซองแกะมือนั้นออกก่อนจะหันไปยิ้มให้บางๆ
“ฉันอาการดีขึ้นแล้ว ขอบใจนะคังอิน”
คังอินยิ้มกว้างให้ก่อนจะลูบหลังเพื่อนรักไปมา สายตาที่อ่อนโยนจ้องมองอีกคนที่ผอมลงไปถึงจะไม่ชัดเจนนักแต่เขาก็รู้อยู่ดี ใบหน้าหวานี่ดูซีดเซียวจากการร้องไห้เมื่อคืน
เมื่อคืนเยซองร้องไห้หนักมาก เอาแต่พูดว่าตัวเองโง่เง่า เอาแต่พร่ำพูดถึงชื่อของซีวอนทั้งๆที่เขาอยู่ข้างๆตลอดเวลา ขนาดหลับไปแล้วยังละเมอบอกรักซีวอนออกมาเลย
เมื่อคืนคังอินกอดเยซองเอาไว้ตลอดเวลาเพราะกลัวคนร่างบางนี่จะฝันร้ายและละเมอร้องไห้ออกมาอีก
“จะกลับหรือยังล่ะ”
“ขอฉัน...อยู่ที่นี่อีกสักพักเถอะนะ”
เยซองบอกเสียงอ่อน คังอินพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะตัดสินใจเดินออกไปข้างนอกปล่อยให้ร่างบางมีเวลาตัดสินใจอะไรมากยิ่งขึ้น
เยซองมองท้องฟ้าที่วันนี้ไม่มีเมฆอย่างที่เขาชอบมาลอยเด่นอยู่ด้านบน ร่างบางถอนหายใจอย่างหนักหน่วงเหมือนกำลังแบกโลกทั้งใบไว้บนบ่า
เขารักซีวอนมากและไม่อยากเสียซีวอนไป แต่เขาไม่รู้ว่าซีวอนเองจะรักเขาอย่างที่เขารักซีวอนหรือเปล่า
“บางที..เราลองกลับไปเริ่มต้นใหม่มันคงจะดีกว่านี้”
เยซองหยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะกดส่งเมสเสจที่เขานั่งใจจดใจจ่อว่าจะส่งดีมั๊ยมาตั้งแต่เมื่อกี้กดส่งออกไปยังเบอร์ของคนตัวสูงที่เขาเฝ้านึกถึง
‘ที่ร้านกาแฟข้างๆหอพัก ไปเจอกันที่นั่นตอนบ่ายสามโมงมีเรื่องจะพูดด้วย เยซอง’
เยซองที่เดินออกมาจากร้นเดินไปเรื่อยๆตามทางที่มีหยาดฝนตกลงมาไม่ขาดสาย เขาลืมเอาร่มมาเพราะไม่คิดว่าในตอนเช้าที่ท้องฟ้าแจ่มใสจะมีเมฆฝนหนาในตอนกลางวันแบบนี้
เขาถอนหายใจก่อนจะกระชับเมื้อที่ใส่อยู่ให้เข้าหาตัวเขามากยิ่งขึ้นตอนนี้เขาหนาวจนแทบพูดอะไรไม่ออก เขาเร่งเดินเพื่อให้ไปถึงที่บ้านของคังอินให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
ซีวอนวิ่งตามเยซองออกมาในมือถือร่มที่พกติดมาด้วยก่อนจะสอดส่ายสายตามองไปตามทางหาร่างคุ้นตาที่เพิ่งเดินออกมาได้ไม่นาน
“พี่เยซอง พี่ไม่คิดจะฟังผมเลยเหรอ”
ซีวอนยืนมองอีกสักพัก
เอี๊ยดดดดด!!!ปั้ง!!!!โครม!!!!!
ซีวอนชะงักฝีเท้าที่กำลังจะก้าวในทันทีก่อนจะหันไปมองทางที่เกิดเหตุ ผู้คนตางมามุงดูอยู่ตรงนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาทิ้งร่มก่อนที่จะวิ่งตามไปดูอีกคนลางสังหรณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นมันทำให้เขาหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
“ขอทางหน่อยครับ ขอทาง...พี่เยซอง!!!!”
ซีวอนตะโกนดังลั่นถนนเขารีบวิ่งเข้าไปช้อนตัวอีกคนขึ้นมาไว้บนตักทันที เยซองที่ตอนนี้ตรงหัวมีเลือดไหลลงมาทางด้านซ้าย ลำตัวทางด้านขวาชาไปหมดทั้งตัว
“พี่เยซองพี่อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะครับ”
ซีวอนกอดตัวของเยซองก่อนที่จะตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนที่มามุง
“ใครก็ได้ครับ ฮึกโทรเรียกรถพยาบาลที”
ซีวอนมองใบหน้าของร่างบางที่เต็มไปด้วยเลือด
“กลับไปทบทวน..อึก ตัวเองดูให้ดี ว่านายรักพี่...จริงหรือเปล่า”
เสียงที่อ่อนแรงลงของคนในอ้อมกอดทำเอาซีวอนใจหายวูบ เขาเอื้อมมือที่กำลังสั่นไปแตะเบาๆที่ใบหน้าสวย
“พี่ต้องไม่เป็นอะไร พี่ต้องไม่เป็นอะไร”
ซีวอนพูดเสียงดังฟังชัดก่อนที่จะช้อนตัวของเยซองขึ้นมาแล้วพาเดินไปที่รถพยาบาลที่มาถึงในทันที
“ผมเป็นญาติของคนไข้ ขอขึ้นไปด้วยนะครับ”
เยซองที่ตอนนี้มีหน้ากากออกซิเจนครอบอยู่ที่ปากมองอีกคน ควันจางๆที่เกาะอยู่ตรงหน้ากากแผ่วบางจนซีวอนต้องยกมือของอีกคนมากุมเอาไว้แล้วบีบเบาๆ
“พี่ต้องอยู่กับผม เราสองคนต้องอยู่ด้วยกัน”
เยซองมองอีกคนสายตาอ่อนลงเรื่อยๆ เขายิ้มบางๆก่อนที่จะขยับปากพูดออกมาทันทีที่พูดจบสติทั้งหมดก็ดับวูบลงไปในทันที
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
.
.
.
.
.
“พี่ทิ้งผมไปไม่ได้นะครับ พี่ห้ามทิ้งผมไว้คนเดียวอย่างนี้ พี่ตายไม่ได้นะ”
ซีวอนโอบกอดอีกคนหลวมๆ เยซองหันมามองซีวอนที่ยิ้มเศร้าๆให้เขาก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ถ้าฉันตายไปจริงๆ นายคงมีความสุขกับฮยอกสินะ ขอโทษนะที่ฉันไม่ตาย”
เยซองพูดออกไปน้ำเสียงแข็งกร้าว ก่อนที่จะแกะแขนของซีวอนออกแล้วเดินไปนอนลงบนเตียงคนไข้ ซีวอนรีบเดินตามไปทันที
“ไม่งอนนะครับ พี่เยซอง”
เยซองหันหน้าหนีอีกคนก่อนที่จะเอาแต่เงียบ ซีวอนได้แต่ทำหน้าบึ้งก่อนจะปีนขึ้นเตียงคนไข้มานอนข้างๆแล้วกอดอีกคนแน่น เยซองดิ้นไปมาพยายามทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากอ้อมกอดนี่
“ถ้าพี่ตายไป...ผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”
ซีวอนบอกเสียงอ่อน เขานึกถึงวันนั้นที่เขามาเฝ้าเยซองที่มีแต่สายอะไรไม่รู้ที่เขาไม่รู้จักระโยงรยางค์เต็มไปหมด ร่างบางของคนรักของเขาที่นอนหายใจรวยระรินอยู่บนเตียงผู้ป่วย ใบหน้าและมือขาวซีดจนน่ากลัวมันทำเอาเขาใจหาย
“ผมนึกว่าพี่จะทิ้งผมไปซะแล้ว”
ซีวอนกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนที่จะก้มลงหอมกลุ่มผมนิ่มของร่างบาง เยซองพยายามกระเถิบออกห่างจากซีวอนแต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงของอีกคนได้
“ผมรักพี่จริงๆ พี่ไม่เชื่อผมเหรอครับ”
ซีวอนพูดเสียงเศร้าแล้วซุกหน้าเข้ากับกลุ่มผมนั่น เยซองได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาเงียบๆรู้งี้เขาน่าจะตายไปซะให้มันรู้แล้วรู้รอด เขาไม่อยากตื่นขึ้นมาแล้วเจอกับความเจ็บปวดนี่อีก
“นายยังไม่พอใจอีกเหรอที่ฉันเกือบตายแบบนี้”
“ผมไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้...”
ซีวอนเงียบเสียงลงอีกครั้งเขาพูดอะไรต่อไม่ได้จริงๆ มือเล็กพยายามแกะมือของอีกคนออก
“ออกไป!!!ออกไปให้พ้น ออกป๊าย!!!!”
เยซองตะโกนลั่นด้วยความโมโหเขาดิ้นไปมาแรงๆเพื่อให้อีกคนหลุดออกไปจากตัวของเขา ซีวอนที่กอดร่างบางแน่นอยู่แล้วยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก เขาพยายามหยุดยั้งร่างบางที่พยายามดิ้นให้หลุดออกจากตัวของเขา
“ฉันบอกให้ออกไปฮือๆๆออกไป!!!”
เยซองทั้งข่วนทั้งจิกลงที่ข้อมือของซีวอนแต่ไม่มีท่าทีว่าอีกคนจะปล่อยตัวของเขาเลยสักนิดเดียว
“พี่ครับ พี่ครับอย่าทำแบบนี้พี่เพิ่งฟื้นขึ้นมานะ”
“นายรู้หรือเปล่า นายรับรู้มันหรือเปล่าว่าใครที่เป็นคนชนชั้น นายรู้หรือเปล่า!!!”
เยซองดิ้นไปมาจนผ้าปูเตียงยับยู่ยี่เขาถีบขาตัวเองไปมาแล้วดิ้นจนอีกคนเริ่มทนไม่ไหว
“ฮยอกแจ ฮยอกแจเป็นคนชนชั้น นายรู้หรือเปล่า”
ซีวอนได้แต่ตะลึงอึ้งในสิ่งที่ร่างบางพูดออกมา
“ฮยอกแจขับรถชนพี่เหรอครับ”
เขาถามเสียงสั่นด้วยความไม่มั่นใจ เยซองหยุดดิ้นลงแล้วไม่รู้เพราะเหนื่อยหรือยอมอ่อนให้เขา
“ชู้ของนายมันขับรถชนชั้นนายได้ยินหรือเปล่า”
เยซองพูดออกมาเสียงแข็ง เขาแกะมือของอีกคนออกไปก่อนจะถีบให้ซีวอนตกลงไปจากเตียง
“ออกไปจากห้องของฉัน ออกไป!!!!ไปเล่นชู้กันให้ตามสบาย”
เยซองพูดเสียงแข็งแต่การแสดงออกของเขามันทำให้เขาเองที่เจ็บยิ่งกว่าใคร ซีวอนที่ล้มลงไปนอนกองกับพื้นกำมือเข้าหากันแน่นก่อนจะหลับตาลง
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...ผมก็จะอยู่กับพี่ ผมจะอยู่กับพี่ตลอดชีวิต”
น้ำเสียงและแววตาที่หนักแน่นมันทำให้เยซองเริ่มที่จะหวั่นไหว แต่เขาเกือบตายเพราะซีวอน
ตอนที่เขากำลังจะข้ามถนนสายฝนกำลังโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง เยซองก้าวเท้าลงเหยียบบนพื้นถนนก่อนที่จะก้าวออกไปเมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นให้คนเดินข้าม เขารีบก้าวเดินให้เร็วที่สุดเพราะเขาไม่ได้บอกคังอินว่าจะออกมาเจอกับซีวอนไม่รู้ว่าถ้าเจ้านั่นรู้จะโกรธเขาหรือเปล่า ทั้งๆที่มันเป็นสัญญาณคนเดินข้ามแต่ก็มีรถคันหนึ่งแล่นเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วสูงยัง ไม่ทันตั้งตัวเยซองก็เหมือนร่างทั้งร่างกำลังลอยละล่องอยู่บนอากาศและตกลงมาบนหลังคารถแล้วกลิ้งตกลงไปยังถนนเบื้องล่าง ก่อนที่เขาจะโดนชนเขาเห็น...เขาเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอาฆาตของฮยอกแจรุ่นน้องร่วมวง
“ออกไปจากชีวิตของฉัน ออกไป ออกไป!!!!”
เยซองยังคงเอ่ยปากไล่อีกครั้งเสียงที่เปล่งออกมาแต่ละครั้งก็ดังขึ้นมากกว่าเดิมทุกครั้ง ซีวอนลุกขึ้นยืนทั้งๆที่เจ็บไปทั่วร่างแต่ความเจ็บของเขาเท่านี้มันยังไม่เท่าที่ร่างบางได้รับ
“ผมจะไม่ไปไหนต่อให้พี่ไล่ผมอีกกี่ครั้งผมก็จะไม่ไปจากพี่”
ซีวอนคว้าตัวของร่างบางเข้ามากอดเยซองดิ้นไปมาอีกครั้งด้วยแรงที่มีอยู่ทั้งหมดเขาทั้งทุบหลังของอีกคน ทั้งตี ทั้งจิก ทั้งหยิกแต่ร่างสูงก็ไม่ยอมปล่อย เขาไม่อยากจะเจ็บอีกต่อไปแล้ว ไม่อยากแล้ว
“ฮือ ฮึก ฮือฉันไม่อยากเจ็บอีกต่อไปแล้ว”
เยซองที่หมดแล้วทั้งแรงกายและแรงใจค่อยๆทรุดลงนั่งทำให้ซีวอนต้องนั่งลงตาม
“ฉันเหนื่อยมามากพอแล้ว ได้โปรด ได้โปรดออกไปจาชีวิตของฉันเสียที”
เยซองเงยหน้ามองอีกคนทั้งน้ำตามือเล็กเอื้อมไปจับเสื้อตรงไหล่ทั้งสองข้างของซีวอนก่อนจะเขย่าไปมา
“ได้โปรดอย่าทำให้ฉันเจ็บไปมากกว่านี้เลย”
เยซองก้มหน้าลงซบกับอกแกร่งก่อนที่จะเงียบเสียงไป ซีวอนกอดอีกคนแน่นก่อนที่จะร้องไห้ออกมาเงียบๆมือหนากำกลุ่มผมของอีกคนเบาๆแล้วซบหน้าลง เขาจูบลงที่ศรีษะของอีกคนแล้วช้อนตัวของร่างบางขึ้นแนบอกก่อนจะนำไปวางที่เตียง
“ฮยอกแจ นายทำเกินไปจริงๆ”
“หึๆทำให้เจ็บแค่นี้นายคงจะไม่มายุ่งกับคนของฉันเสียที”
ฮยอกแจที่พอรู้ข่าวจากทงเฮก็กดตัดสายมือถือลงก่อนจะพดออกมาเบาๆกับตัวเอง มือที่กอดอกอยู่คลายลงก่อนจะขว้างโทรศัพท์ไปที่เตียงของตน
“ซีวอนคือของๆฉัน ไม่ใช่แกเยซอง!!!”
ดวงตาที่เต็มไปด้วยความริษยาแรงกล้าจ้องมองภาพคู่ของซีวอนและเยซองที่เขาเจอในเน็ต เขาปริ๊นท์ภาพคู่ของคนสองคนออกมาทั้งหมดเท่าที่เขาเจอก่อนจะนำมันมากรีดจนเละไปหมดแล้วขยำทิ้งลงในถังขยะ บางใบก็เผาทิ้งจนมันมอดไหม้
ผัวะ!!!!
ฮยอกแจมองไปยังประตูห้องที่ถูกเปิดออกก่อนจะยิ้มเย็นออกมาเมื่อเห็นว่าคนที่มาคือใคร
“ฮยอกแจ!!!”
“ซีวอน กลับมาจากงานเร็วจัง...อะไรของนายเนี่ย”
ฮยอกแจยังพูดไม่ทันจบประโยคก็โดนซีวอนที่เดินเข้ามากใกล้กระชากเข้าที่ข้อมือก่อนจะมองดวงหน้าหวานที่กำลังงง
“นายทำอะไรพี่เยซอง”
“อะ...อะไรของนาย ฉันไม่รู้เรื่อง”
“ตอแหล!!!อย่ามาโกหกฉัน ฉันบอกแล้วใช่มั๊ยว่าอย่ายุ่งกับเรื่องของฉันกับพี่เยซอง”
ซีวอนตะโกนใส่หน้าของร่างบางเสียงดังลั่น มือแกร่งบีบเช้าที่ปลายคางมนก่อนจะดึงใหมันเข้ามาใก้ลๆ
“ฉันพูดกี่ครั้งแล้วทำไมไม่รู้จักฟัง ฮะ”
“ก็ใครอยากให้มันเสนอหน้ามายุ่งกับนายล่ะ ทั้งๆที่รู้ว่าฉันแอบมองนายก่อนแอบรักนายก่อนแต่มันดันมาแย่งนายไปจากฉัน มันก็สม...เพี๊ยะ!!!!”
ซีวอนปล่อยตัวของอีกคนออกก่อนที่จะฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้าหวานจนฮยอกแจหน้าหัน เขามองอีกคนที่แก้มขึ้นรอยแดงเป็นรูปมือของเขา
“นะ..นายกล้าตบฉัน”
ฮยอกแจชี้หน้าของซีวอนก่อนที่น้ำตาใสจะไหลรินลงมา เขาไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างซีวอนจะกล้าทำอะไรแบบนี้
“ฉันเตือนนายกี่ครั้งแล้ว นายก็ไม่ฟังเพราะนั้นเรื่องของเรามันก็ต้องจบลงเพียงเท่านี้”
ซีวอนทำท่าจะเดินออกไปแต่กลับโดนฮยอกแจกอดรั้งเขาเอาไว้
“ปล่อยฉัน”
“แต่ฉันรักนายนะ ที่ฉันทำไปก็เพราะรักนาย เพราะฉันอยากได้นายมาอยู่ใกล้ๆตัวของฉัน เป็นของฉันคนเดียว”
ซีวอนแกะมือบางออกก่อนจะเหวี่ยงตัวของอีกคนลงไปที่เตียงจนคนโดนเหวี่ยงหัวโขกกับขอบเตียง เลือดสีแดงสดไหลรินลงมาจากทั้งมุมปากและศรีษะ
“นายมันแค่ของเล่นของฉัน มันเป็นได้แค่ของเล่นยามว่างของฉัน ชัดเจอพอหรือยัง”
ซีวอนตะโกนบอกอีกครั้งก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปหาอีกคนแล้วบีบแก้มอีกคนแรงๆ
“โอ๊ยๆ!!”
“ฉันรักแค่พี่เยซองคนเดียวและจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตกับพี่เยซองคนเดียว นายหรือคนอื่นๆที่ฉันมีอะไรด้วยมันก็แค่ของเล่นยามว่างเท่านั้น อย่ามายุ่งกับพี่เยซองและฉันอีกเข้าใจหรือเปล่า”
ฮยอกแจพยักหน้าลงไปมาเร็วๆแววตาของซีวอนคล้ายกับปิศาจร้ายที่กำลังกระหายเลือดมันทำให้เขากลัวจนแม้แต่ไม่อยากสบตา
ซีวอนปล่อยมือออกจากแก้มของอีกคนก่อนจะลุกออกไป
“ฉันมันเป็นได้แค่นี้จริงๆ ทั้งๆที่คิดไว้ว่าถ้านายมีอะไรกับฉันอย่างน้อยๆมันก็น่าจะมีใจให้กันบ้าง แต่มันไม่เคยเป็นอย่างนั้นเลย ทั้งๆที่นายก็ชอบมาอยู่กับฉันเวลาแสดงอะไรต่อทั้งหน้ากล้องหรือไม่ก็ตามแต่มันไม่เคยมีเลยเหรอความรักจากนาย”
ฮยอกแจพูดออกมาเบาราวกับรำพึงกับตัวเอง เขาหลับตาลงช้าๆโดยไม่สนใจเลยว่าเลือดที่กำลังไหลมันจะหยุดเมื่อไหร่หรือกลิ่นของมันจะแรงแค่ไหน
“แล้วที่ฉันทำไปทั้งหมดมันเพื่ออะไรกัน ฮึก เพื่ออะไรกัน”
เยซองออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว สร้างความปิติยินดีกับทุกคนเป็นอย่างยิ่งตลอดเวลาที่เยซองอยู่โรงพยาบาลซีวอนจะมาอยู่กับเขาเสมอโดยไม่สนใจเลยว่าตัวของเขาจะโดนด่าหรือโดนทำร้ายอะไรกลับไปบ้าง มีเพียงรอยยิ้ม คำพูดและแววตาที่แสดงความหนักแน่นเท่านั้นที่เยซองได้รับ
ตลอดมา
“ดีจังน้าเยซอง แข็งแรงดีเลยไม่เป็นอะไรมากโชคดีจริงๆ”
อีทึกลูบหัวเยซองอย่างเอ็นดูตามประสาพี่ใหญ่ของวง ฮีชอลก็เอาแต่กอดเยซองจนน้องคนอื่นๆเริ่มจะอิจฉา
“ไม่รู้ว่าใครวะที่มันกล้ามาทำร้ายพี่เยซองขนาดนี้ ขนาดตำรวจยังพูดเลยว่ามันเหมือนชนแล้วหนีมากกว่าอุบัติเหตุ”
ทงเฮพูดออกมาลอยๆแต่ทำให้เยซองถึงกับสะอึกดวงตาเรียวเล็กมองหาร่างของใครอีกคนที่ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่มาเยี่ยมเขาเลย
“พี่ครับ ฮยอกแจล่ะครับ”
“เห็นบอกว่าไม่ค่อยสบายเลยอยากนอนอยู่บ้าน แต่เขาก็ฝากมาขอโทษนายด้วยนะที่มาเยี่ยมไม่ได้แต่ไม่รู้ทำไมถึงเอาแต่ร้องไห้เวลาพูดคำว่าขอโทษนาย”
เยซองเพียงแค่พยักหน้า ซีวอนที่เดินโอบร่างบางออกมาจากห้องจนถึงหน้าโรงพยาบาลก็ได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆ
“ผมอยากอยู่กับฮยอกแจเพียงลำพัง ถึงหอพักพวกพี่ช่วยออกไปข้างนอกหน่อยนะครับ”
เยซองที่เดินมาถึงหอพักด้วยตัวเองเปิดประตูเข้าไป ซีวอนทำท่าว่าจะตามมาแต่พอโดนสายตาเฉือดเฉือนของก็ได้แต่ทำหน้าเศร้าแล้วเดินลงไปรอข้างล่าง
“กลับมากันแล้ว...เหรอครับ”
ฮยอกแจที่พยายามทำหน้าให้ร่าเริงที่สุดมองไปมายังประตูของหอพักที่ถูกเปิดออกมาก่อนจะต้องหุบยิ้มเสแสร้งของตนลง
“พี่เยซอง...แล้วคนอื่นๆล่ะครับ”
ฮยอกแจพยายามชะเง้อคอมองหาร่างของสมาชิกคนอื่นๆแต่ก็ไม่มีใครมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เยซองเอื้อมมือมาจับที่หน้าผากของเขา
“ไปโดนอะไรมาเหรอ”
เยซองถามเสียงแผ่วเบามือเล็กจับเบาๆที่แผลก่อนจะลูบไปมาน้อยๆ
“ผม..ผมซุ่มซ่ามน่ะฮะ”
ฮยอกแจตอบไม่เต็มเสียงซึ่งเยซองรู้ดี เขาไม่ได้ถามอะไรต่อในเมื่อเจ้าของแผลไม่อยากบอกเขาก็ไม่อยากรู้
“แล้วปากนี่ไปทำอะไรมาล่ะ”
เยซองมองมุมปากของอีกคนที่มีรอยช้ำไม่น้อยเท่าไหร่ ฮยอกแจเลือกที่จะเงียบให้เป็นคำตอบ
“พี่เยซองครับ คือผม”
อยู่ๆฮยอกแจก็จับมือของเขาขึ้นมาก่อนที่จะจ้องมองดวงตาเรียวเล็ก เยซองยิ้มให้อย่างอ่อนโยนก่อนจะถามออกไป
“มีอะไร”
“เรื่องที่ผม...เอ่อ”
“พี่รู้แล้ว ไม่ว่าจะด้วยเรื่องอะไรก็ตามแต่พี่ก็ต้องขอโทษนายด้วย”
“ไม่ครับๆผมต่างหาก เพราะผมมัวแต่ริษยาพี่อิจฉาพี่เลยทำให้เรื่องมันบานปลายแบบนี้”
ฮยอกแจพูดเสียงเศร้า เขาร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ทั้งดีใจที่เห็นรุ่นพี่ของตนปลอดภัยจากการกระทำโง่ๆของตนและเจ็บปวดที่เห็นคนที่ตนรักไปอยู่กับคนอื่น
“เรื่องวันนั้นน่ะ ที่พี่มาปลุกผมแล้วเห็นอะไรแบบนั้นคือที่จริงแล้วซีวอนเขาเมาและคิดว่าผมเป็นพี่ก็เลย..”
ฮอยกแจพยายามหาเหตุผลมาอ้างให้เยซองฟัง แต่อีกคนก็เอาแต่ส่ายหน้าไปมา
“มันไม่ใช่ความผิดของนายนะ”
“แต่ยังไง....”
“เอาเป็นว่าพี่เพิ่งกลับมาเหนื่อยๆขอพี่ไปนอนก่อนนะ”
“....”
ฮยอกแจปล่อยตัวของเยซองออกก่อนที่เยซองจะเดินจากออกไป
“ถ้าผมมีเรื่องจะขอพี่อย่างหนึ่งได้มั๊ยครับ”
“...”
“ขอให้พี่กับไปรักซีวอนเหมือนเดิม เขากินอะไรไม่ได้นอนไม่หลับตอนที่พี่ไม่อยู่ พี่รู้หรือเปล่า เขาเอาแต่กินเหล้าตอนที่พี่จากเขาไปกับพี่คังอิน”
“...ฮยอกแจเรื่องของพี่กับเขามันจบไปแล้ว”
ฮยอกแจได้แต่เงียบและมองดูคนร่างบางที่เดินเข้าห้องของตัวเองไป
เยซองที่พอเข้ามานั่งอยู่ในห้องของตัวเองก็เอาแต่มองไปยังท้องฟ้าที่สดใส แสงแดดอ่อนๆส่องผ่ายกระทบหน้าต่างเข้ามาในห้อง
‘ถ้าผมมีเรื่องจะขอพี่อย่างหนึ่งได้มั๊ยครับ’
‘...’
‘ขอให้พี่กับไปรักซีวอนเหมือนเดิม เขากินอะไรไม่ได้นอนไม่หลับตอนที่พี่ไม่อยู่ พี่รู้หรือเปล่า เขาเอาแต่กินเหล้าตอนที่พี่จากเขาไปกับพี่คังอิน’
‘...ฮยอกแจเรื่องของพี่กับเขามันจบไปแล้ว’
เฮ้อ!!!! เขาถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะหันกลับไปเพื่อออกไปหาอะไรกิน แต่ก็ต้องตกใจจนแทบล้มลงไปเมื่อเห็นใบหน้าของใครอีกคนที่ยื่นเข้ามาจนใกล้กันกับเขา
“นายเข้ามาทำซีวอน”
“ผมมาตามแฟนของผม”
“ในที่นี้ไม่มีแฟนของนาย”
เยซองทำท่าจะเดินออกไปก็ต้องชะงักเมื่อมือแกร่งจับเข้าที่ข้อมือของเขาก่อนจะดึงให้หันไปมอง มือหนากุมมือของเขาเอาไว้ก่อนที่ซีวอนจะคุกเข่าลงไป
“พี่เป็นคนเดียวที่ผมจะรัก พี่เป็นคนเดียวที่ผมจะดูแลไปตลอดชีวิต พี่เป็นคนเดียวที่ผมจะยอมด้วย พี่เป็นคนเดียวที่ผมจะอยู่เคียงข้างตลอดไป พี่เป็นคนเดียวกันกับเข้าหญิงในฝันของผม”
“....”
“ผมรักพี่นะครับ”
“คิดว่าฉันจะ....”
เยซองยังพูดไม่ทันจบก็โดนอีกคนปิดริมฝีปากกันไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมาเสียก่อน ความวาบหวามที่ทำให้เขาเผลอไผลไปกับมันท่ามกลางแสงแดดอุ่นที่ส่องประกายเจิดจ้า
THE END
18/03/2553
ตอนหน้าแจกภาพนะครับที่รักอย่าลืมมาสูบไปล่ะ กว่าจะแต่งตอนนี้จบได้เล่นเอาลากเลือดเลย
รู้สึกว่ามันเศร้าไงไม่รู้ แต่ฮยอกอ่า ฮยอกแบบร้ายมากเลยอ่ะT-T(จะโดนตื้บมั๊ยตู)
กวาขอปิดบทความนี้หลังจากลงตอนหน้าเลยนะครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามมาโดยตลอด
ความคิดเห็น