ลำดับตอนที่ #91
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #91 : [SF KIHAEYERYEO]Secret in diary[3]
Title:Secret in Diary Note:มองออกหรือยังว่าใครคู่ใคร^___^
‘พี่เยซองครับ’
เสียงเรียกหวานๆในตอนนั้นผมยังจำได้ดี พร้อมกับแขนเรียวที่โอบกอดรอบคอผมเอาไว้
‘ว่าไงเรียวจัง’
สรรพนามที่ผมใช้เรียกน้องชายคนสนิทมันบ่งบอกได้ดีว่าผมสนิทกับเขามากเพียงใด
‘ผม...รักพี่นะครับ’
เสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝากบางมันช่างเบาจนผมจับความรู้สึกไม่ได้
‘เป็นอะไรหรือเปล่าเรียวจัง อยากได้อะไรถึงมาอ้อนพี่แบบนี้อีกล่ะ’
‘หัวใจ’
‘???’
‘หัวใจของพี่...ผมอยากได้หัวใจของพี่’
‘นายเอาหัวใจพี่ไปแล้วพี่จะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงล่ะ’
‘....ผมไม่ตลกนะครับ’
ผมยอมรับเลยว่าวันนั้นผมตกใจมากกับคำพูดของเรียวอุค ไม่ใช่ผมไม่รู้ว่าคนตัวเล็กที่กอดผมอยู่ต้องการอะไร เพียงแต่ว่าผมไม่อยากให้เขาไป
งงใช่มั๊ยครับ?
ใช่ครับ!!!ผมเองก็งง ว่าเพราะอะไรผมถึงตอบรับรักของเรียวอุคไม่ได้
ทั้งๆที่ผมก็รักเขา แต่มันอาจจะไม่ใช่แบบที่เขารักผมล่ะมั้งครับ
.
.
.
.
.
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆที่ส่องกระทบเข้ามาทางหน้าต่างผ่านผ้าม่านผืนบางที่ปิดอยู่
ผมเหลือบสายตาไปมองเตียงข้างๆของรุ่นน้องในวง
‘คิม คิบอม’
เขายังคงนอนหลับสบายอยู่บนเตียงนุ่ม ผมจึงไม่อยากรบกวนอะไรมากเดินไปถือผ้าเช็ดตัวก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปธุระส่วนตัว
ในตอนแรกผมยอมรับเลยครับว่าผมตกใจมาก ที่ต้องมาเป็นรูมเมทกับเจ้าเด็กนี่
เด็กที่ว่า ก็คือคิบอมนั่นแหละครับ
ผมเคยออกปากถามผู้จัดการวง ว่าทำไมผมต้องมาอยู่ร่วมห้องกับคิบอม ซึ่งพี่ผู้จัดการก็ตอบผมสั้นๆว่า
‘ฉันคิดว่าพวกนายคงไปกันได้’
มันดูมีเลศนัยในความคิดของผม แต่เอาเถอะครับคิดมากไปจะทำแก่เร็วและหน้ามีรอยตีนกาเพิ่มขึ้นเสียก่อน
ในที่สุดผมก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเสียที ผมเหลือบมองไปที่เตียงของร่างสูง แต่พอเห็นว่าคนบนเตียงยังหลับสบายอยู่เลยไม่อยากรบกวนเดินออกจากห้องไป
ในวันนั้น ผมรู้มาว่าคิบอมและทงเฮเขาก็เป็นแฟนวันเดียวกันกับที่เรียวอุคมาพูดจาอะไรแปลกๆกับผม ในตอนแรกผมก็นึกแปลกใจแต่ตอนนี้ผมไม่แปลกใจแล้ว
ก็สองคนนั้นเขารักกันนี่ครับ...!!
ไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด ตัวติดกันเหมือนปาท่องโก๋ที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ เวลามีอะไรก็จะแอบไปคุยกันอยู่สองคน ซึ่งบางทีที่ผมเห็นผมก็จะแอบน้อยใจบ้าง แต่เพราะอะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
ผมเดินออกมานั่งในห้องนั่งเล่น รอพ่อครัวหัวป่าอย่างพี่ฮันเขาตื่น แล้วผมค่อยไปอ้อนให้ทำอะไรให้กิน
ผมนั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยแต่ส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นเรื่องของผมและเรียวอุคหรอกครับ
ตอนนี้ผมกับเรียวอุคคบกันอยู่คนในวงก็รู้ดี และพวกเขาก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ในความคิดของผมตอนนั้นผมดีใจมากที่ได้คบกับเรียวอุคเราสองคนได้ใช้คำว่า’แฟน’ในการบอกความสัมพันธ์ของพวกเรา แต่ในตอนนี้ผมกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้น...
ในตอนนี้ ผมรู้สึกว่าผมเอที่เปลี่ยนไปซึ่งแน่นอนว่าเรียวอุคมองไม่ออกว่าผมเปลี่ยนไปยังไง หัวใจของผมตอนนี้ผมไม่รู้ว่าทำไมผมจึงรู้สึกว่าไม่ได้มีเรียวอุคอยู่ข้างในเลย
มันกลับ...นึกไปถึงใครคนหนึ่งตลอดเวลา
หน้าของใครคนนั้น...
หน้าของคนที่ชื่อ คิม คิบอม...!!!
ผมนั่งเหม่อได้ไม่นานเมื่อคนตัวเล็กแฟนของผมเดินมาก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ มือเล็กเอื้อมมากุมมือผมไว้แผ่วเบา
“พี่คิดอะไรอยู่เหรอครับหน้าเครียดเชียว”
ผมมองเรียวอุคเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะส่ายหน้าไปมาแล้วยิ้มให้บางๆ
“จริงเหรอครับ”
เรียวอุคคาดคั้นผม ซึ่งผมเองก็ได้แต่ส่ายหน้าเหมือนเดิม
“ผมเชื่อพี่ก็ได้ แล้วทำไมถึงตื่นเช้าจังวันนี้”
เรียวอุคถามผมซึ่งผมก็ได้แต่นั่งตกใจคิดคำตอบสรรหาข้ออ้างมากมายมาตอบคำถาม
“เอ่อ..พี่ไม่ค่อยง่วง เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ”
คนตัวเล็กมองผมอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา ทำไมผมต้องมาโกหกคนข้างๆด้วย
ทั้งๆที่มันก็ไม่จำเป็นเลยสักนิดเดียว
“วันนี้ผมอยากไปเที่ยวจัง”
เรียวอุคเอนหัวซบลงบนไหล่ของผม ซึ่งผมเองก็แค่ยิ้มเจื่อนๆให้ร่างบาง
‘ถ้านายอยากไปเที่ยวนายก็ไปสิ’
ผมอยากจะพูดแบบนี้ออกไป แต่ก็ต้องกลืนคำพูดนั้นลงคอเมื่อคนตัวเล็กส่งสายตาเศร้ามาให้
“เป็นอะไร...หรือเปล่า”
“....พี่ครับ”
ผมมองหน้าของคนตัวเล็กถึงแม้จะเห็นแค่เพียงเส้นผมของอีกคนก็ตาม
“หืม?”
“พี่รักผม...หรือเปล่าครับ”
ผมเงียบไป ยอมรับเลยว่าผมออกจะตกใจเสียด้วยซ้ำกับคำถามตรงๆของคนตัวเล็ก
“..อ...อืม”
ผมรับคำเสียงแผ่ว ทั้งๆที่หัวใจของผมปฏิเสธว่าไม่ใช่เลยสักนิดเดียว
“พี่ตอบไม่เต็มเสียง”
เรียวอุคเขารู้ ซึ่งเป็นใครผมว่าก็ต้องรู้
“ทำไมพี่จะไม่รักนายล่ะ”
ใช่ทำไมจะไม่รักล่ะ ถ้าเป็นแบบน้องชายล่ะก็นะ
“ผมรู้ครับแต่...”
เหมือนเรียวอุคจะพูดอะไรต่อ แต่ก็กลืนคำพูดนั้นลงไปแล้วยิ้มออกมาแทน
นายต้องการพูดอะไร
“ยังไงผมก็เชื่อใจพี่นะฮะ ว่าพี่จะไม่ทิ้ง พี่จะไม่ทำไม่ผมเจ็บ...อีกแล้ว”
ผมมองเรียวอุคที่ทำหน้าเศร้า ไม่สมเป็นเจ้านี่เลยแฮะ
“เอาแต่ทำหน้าเศร้าอยู่ได้ อยากไปไหนล่ะพี่พาไปก็ได้”
ในที่สุดผมก็ตกคำรับปากเรียวอุคไป ทั้งๆที่ไม่อยากไป ทั้งๆที่อยากอยู่ใกล้ใครอีกคนแต่..พอเห็นหน้าเศร้าๆนั่นแล้วก็อดไม่ได้
“จริงเหรอฮะ”
เรียวอุคถามดวงตาเป็นประกราย
“อื้ม”
ผมตอบแล้วยิ้มให้ ฝืนนั่นแหละครับ
ผมสัญญาแล้วนี่...ว่าจะไม่ทำให้คนตัวเล็กต้องเจ็บอีกต่อไป
“พี่เยซองคร้าบ”
อยู่ๆเรียวอุคก็เรียกผมขึ้นมา ผมเลยมองหน้าของเจ้าตัวเล็กนั่นเล็กน้อยแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“อะไรเรียวจัง”
เมื่อเห็นว่ายังไม่ยอมตอบผมเลยถามไป คนตัวเล็กยิ้มให้ผม
"วันนี้ผมอยากไปนอนกับพี่จัง”
“งั้นเหรอ?”
ผมตกใจกับคำพูดของคนตัวเล็ก ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นอยากจะมาแต่ไหงวันนี้ถึงได้...
“ได้หรือเปล่าครับ”
เรียวอุคกระเถิบมานั่งใกล้ๆผมก่อนที่จะกอดผมเอาไว้หลวมๆ
“ฉันต้องลองขอคิบอมดูก่อน”
ผมอ้างหาเหตุผลชักแม่น้ำหลายๆสายจากทุกมุมโลกมาอ้าง
“ง่า...”
เรียวอุคมองผมอย่างอ้อนๆก่อนที่จะกอดผมแน่นขึ้น
แล้วก็เอาหัวมาซบลงบนอกของผม แล้วหลับตาลง
“พี่ครับ ผมขอโทษนะครับ”
“เรื่องอะไรเหรอ”
“ถ้าผม...ทำให้พี่ไม่เป็นตัวของตัวเอง”
ผมเงียบไป ‘ตัวของตัวเอง’ อย่างนั้นน่ะเหรอ
เรียวอุค...นายต้องการสื่อถึงอะไร
“ผม ไม่น่ามาขอพี่คบเลย ทั้งๆที่ผม...”
เรียวอุคเงียบอีกแล้ว ทำไมเขาเอาแต่เงียบแบบนี้
“เรายังเป็นแฟนแบบนี้ต่อไปได้ใช่มั๊ยครับ”
“....”
“....”
ผมและเรียวอุคเราต่างคนต่างเงียบต่างใช้ความคิดของตัวเอง
เรียวอุคนายอยากจะบอกอะไรฉันกันแน่!!!
จ๊อกๆ!
เรียวอุคสะดุ้งน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงท้องร้องของผม จะว่าไปมันก็ตลกดีนะที่มันดันมาร้องเอาตอนนี้
“พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยใช่มั๊ยล่ะ”
ผมพยักหน้า ก็แหงอ่ะดิตั้งแต่เช้าเลยด้วยซ้ำ
“พี่ครับเดี๋ยวผมไปทำให้นะฮะ”
เรียวอุคปล่อยตัวผมออกก่อนที่จะลุกแล้วเดินเข้าห้องครัวไป ผมมองตามหลังเมื่อเห็นว่าคนร่างบางเดินจากไปแล้ว ผมก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
ที่จริงแล้ว...เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะเรียวอุคไปเห็นภาพตามเว็บต่างๆไม่ว่าจะของแฟนคลับหรือของเว็บทั่วไป
เขาเห็นภาพของคู่แฟนเซอร์วิส คู่ของคิบอมและทงเฮ
ภาพต่างๆที่ออกมา มันมาจากการที่สองคนนั้นดูสนิทกันเกินไป
ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเรียวอุคคิดยังไงกับทงเฮ แต่เพราะภาพพวกนั้นมันทำให้ความเจ็บในจิตใจค่อยๆกัดกินความรักที่มีไปทั้งหมด
จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะมาคบกับผม และเราก็ถูกจับคู่กันเพราะมีภาพพวกนี้ออกมาเช่นเดียวกัน
นั่นคือจุดเริ่มต้นทั้งหมด...แม้ว่าตอนนี้เรียวอุคดูท่าจะทำใจได้บ้างแล้วก็ตาม
แล้วทำไมผมถึงตอบรักเขาน่ะหรือ?
ก็เพราะน้ำตาของคนตัวเล็กนั่นไงล่ะ น้ำตาที่ไหลไม่หยุดในตอนที่เขาตัดสินใจเลิกรักทงเฮ
และอาจจะเพราะตอนนั้นผมยังคงหวั่นไหวกับคนตัวเล็กอยู่เลยตอบตกลงคบไป
แต่ตอนนี้ไม่ใช่..ผมไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นอีกแล้ว
ในตอนนี้หัวใจของผม มันแน่ชัดแล้วว่าผมต้องการใครกันแน่ คนที่ผมอยากให้มาอยู่ข้างกายจริงๆ
ตุ้บ!
ผมรับรู้ได้ถึงน้ำหนักบนโชฟาที่ยุบตัวลงไป ผมหันไปมองข้างๆก่อนจะเจอเข้ากับคิบอม
นึกว่าเป็นเรียวอุคเสียอีก
“พี่ครับวันนี้ไม่มีงานหรือครับ”
น่าแปลกนะที่เจ้าหมอนี่ถามผม ก่อนแบบนี้
“ถ้าฉันมีคงไม่มานั่งให้นายเห็นหน้า อยู่หรอก”
ผมตอบออกไป ใจจริงก็ไม่ได้จะกวนอารมณ์อะไรหรอก เพียงแต่นิสัยของผมมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ครับ”
“วันนี้ฉันยังไม่เห็นหน้านายเลยตั้งแต่เช้า ไปมุดหัวอยู่ไหนมา”
คิบอมตอบผมก่อนที่จะกระเถิบตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น ซึ่งมันทำให้ผมหน้าแดงและทำตัวไม่ถูก หัวใจของผมมันเต้นแรงและเร็วมากจนผมต้องยกมือขึ้นกุมหัวใจตัวเองเอาไว้
คิบอมพูดออกมาเบาๆ ผมเงยหน้าขึ้นมอง
ผมตกใจกับคำถามที่มันไร้สาระของคิบอม เจ้าบ้านี่ถามอะไรปัญญาอ่อนจริงๆ
แต่มันก็จริงอย่างที่คิบอมถาม
ผมยังรักเรียวอุคอยู่หรือเปล่า ถ้าตอบไปว่า
‘ไม่แล้วล่ะ’
มันจะดูแปลกๆหรือเปล่า
คิบอมเงียบและนั่งหลับตานิ่ง ผมมองเขาที่นั่งทำหน้าเศร้า
คิบอมถามย้ำเหมือนเขาอยากแน่ใจในคำตอบ
ผมทำท่าให้เขารู้ว่าเริ่มที่จะรำคาญตัวเขา คิบอมเงียบแล้วหันไปนั่งนิ่งๆก่อนจะกระเถิบห่างออกไปเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรหรอกฮะ”
เขาว่า ผมจึงได้แต่นิ่งแล้วมองหน้าของเขา ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าหมอนี่ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าเหมือนกับผม
“พี่เยซองครับ”
ด้วยความตกใจผมเลยดิ้นไปมาไม่หยุดและเอาแต่บ่นไปมา
ผมยังคงดิ้นไปมาในอ้อมกอดของคิบอม ผมรู้สึกว่าคิบอมกอดรัดตัวของผมมากยิ่งขึ้น
ผมกำลังจะเงยหน้าขึ้นไปด่าเจ้าเด็กไม่รู้จักโต แต่พอผมเงยขึ้นไปก็โดนอีกคนประกบริมฝีปากของตัวเขาลงมาทันที ผมดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ มือของผมทุบไปมาตามแผงอกแกร่งของอีกคน ดิ้นไปมาไม่ยอมหยุด ลิ้นของอีกคนค่อยๆสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของผมช้าๆก่อนที่มันจะมาหยอกล้อกับลิ้นของผม ความรู้สึกหวาบหวามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากที่ไม่ยอม จากที่ขัดขืน กลายเป็นว่ายอมให้อีกคนทำตามใจของเขาไป มือที่เคยทุบกับเปลี่ยนเป็นกำคอเสื้ของอีกคนด้วยกลัวว่าร่างทั้งร่างมันจะร่วงลงไปถ้าไม่จับเอาไว้ ลิ้นที่เคยหลีกหนีกลายมาเป็นตอบรับและหยอกเย้ากลับ ผมไม่ได้ต้องการฝห้มันเป็นแบบนี้
ผมไม่เคยต้องการ...แต่หัวใจของผมมันสั่งให้ผมยอมรับรสสัมผัสนี้
หัวใจของผม....!!!
“คือมันไม่ใช่อย่างที่นายเข้าใจนะ”
ผมรีบหาข้อแก้ตัวทั้งๆที่มันไม่ทางที่ผมจะแก้ตัวขึ้น
“ทงเฮอย่าบอกนะว่านาย....”
ผมเงียบไปในคำพูดถัดมา
“แกก็เหมือนกันไอ้คิบอม ถ้าแกไม่มาทำอะไรบ้าๆแบบนั้น เรียวอุคก็คง...ฉันกับเรียวอุคก็คงไม่ทะเลาะกันแบบนี้หรอก”
ใช่!!!ถ้านายไม่มาจูบฉัน เรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น
ใช่!!!ถ้าฉันไม่ไปหลงรักนาย เรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น
“พี่ทำมากเกินไปจริงๆ พี่ทงเฮไม่ผิดสักหน่อย”
ใช่!!ทงเฮถูกไปหมดแหละ ไม่มีใครผิดเลย
ฉันเองที่ผิด ฉันเอง!!~
ถ้าฉันเอาเรื่องที่เรียวอุครู้สึกแบบเดียวกันกับทงเฮไปบอกเจ้าตัวล่ะก็ เรื่องบ้าๆแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นมาหรอก
ผมเดินจากออกไปด้วยความโมโห เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเพราะผมไม่ดีเอง
ถ้าผมบอกทงเฮไปตั้งแต่แรกเรื่องความรู้สึกของเรียวอุค เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นมาให้ปวดหัวแบบนี้
ผมเดินออกไปจากหอพักด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว เดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายปลายทาง
เดิน...แล้วร้องไห้ ด้วยความเจ็บปวด
.
.
.
.
.
คิม จงอุน(เยซอง)
03/03/2553
03/03/2553
โอ๊ยๆนึกว่าต้องลงพรุ่งนี้เสียอีก วันนี้เวริดอาการดีขึ้นแล้วเลยลงต่อได้
ดีใจๆๆ ว่าแต่ทายคู่กันถูกยังเนี่ย รอคำตอบอยู่นะตัวเธอ
ขอบคุณพี่แนนนะคร้าบที่หาภาพมาให้แบบว่าถูกใจหลายๆ
ตอนนี้กลัวอย่างเดียว กลัวตัดออกมาแล้วไม่เข้าอายตายเลย-///-
ปล.อย่าลืมบอกชื่อเรื่องมาล่ะ เรื่องไหนตอนไหนถูกใจคนอ่านที่สุดจ๊ะ
อย่าลืมนะ
Pairing: KIHAE x YERYEO [KIHAEYERYEO]
Author:Sara_Pao
Rating:PG
Note:มองออกหรือยังว่าใครคู่ใคร^___^
‘พี่เยซองครับ’
เสียงเรียกหวานๆในตอนนั้นผมยังจำได้ดี พร้อมกับแขนเรียวที่โอบกอดรอบคอผมเอาไว้
‘ว่าไงเรียวจัง’
สรรพนามที่ผมใช้เรียกน้องชายคนสนิทมันบ่งบอกได้ดีว่าผมสนิทกับเขามากเพียงใด
‘ผม...รักพี่นะครับ’
เสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝากบางมันช่างเบาจนผมจับความรู้สึกไม่ได้
‘เป็นอะไรหรือเปล่าเรียวจัง อยากได้อะไรถึงมาอ้อนพี่แบบนี้อีกล่ะ’
‘หัวใจ’
‘???’
‘หัวใจของพี่...ผมอยากได้หัวใจของพี่’
‘นายเอาหัวใจพี่ไปแล้วพี่จะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงล่ะ’
‘....ผมไม่ตลกนะครับ’
ผมยอมรับเลยว่าวันนั้นผมตกใจมากกับคำพูดของเรียวอุค ไม่ใช่ผมไม่รู้ว่าคนตัวเล็กที่กอดผมอยู่ต้องการอะไร เพียงแต่ว่าผมไม่อยากให้เขาไป
งงใช่มั๊ยครับ?
ใช่ครับ!!!ผมเองก็งง ว่าเพราะอะไรผมถึงตอบรับรักของเรียวอุคไม่ได้
ทั้งๆที่ผมก็รักเขา แต่มันอาจจะไม่ใช่แบบที่เขารักผมล่ะมั้งครับ
.
.
.
.
.
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าของวันใหม่ แสงแดดอ่อนๆที่ส่องกระทบเข้ามาทางหน้าต่างผ่านผ้าม่านผืนบางที่ปิดอยู่
ผมเหลือบสายตาไปมองเตียงข้างๆของรุ่นน้องในวง
‘คิม คิบอม’
เขายังคงนอนหลับสบายอยู่บนเตียงนุ่ม ผมจึงไม่อยากรบกวนอะไรมากเดินไปถือผ้าเช็ดตัวก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปธุระส่วนตัว
ในตอนแรกผมยอมรับเลยครับว่าผมตกใจมาก ที่ต้องมาเป็นรูมเมทกับเจ้าเด็กนี่
เด็กที่ว่า ก็คือคิบอมนั่นแหละครับ
ผมเคยออกปากถามผู้จัดการวง ว่าทำไมผมต้องมาอยู่ร่วมห้องกับคิบอม ซึ่งพี่ผู้จัดการก็ตอบผมสั้นๆว่า
‘ฉันคิดว่าพวกนายคงไปกันได้’
มันดูมีเลศนัยในความคิดของผม แต่เอาเถอะครับคิดมากไปจะทำแก่เร็วและหน้ามีรอยตีนกาเพิ่มขึ้นเสียก่อน
ในที่สุดผมก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเสียที ผมเหลือบมองไปที่เตียงของร่างสูง แต่พอเห็นว่าคนบนเตียงยังหลับสบายอยู่เลยไม่อยากรบกวนเดินออกจากห้องไป
ในวันนั้น ผมรู้มาว่าคิบอมและทงเฮเขาก็เป็นแฟนวันเดียวกันกับที่เรียวอุคมาพูดจาอะไรแปลกๆกับผม ในตอนแรกผมก็นึกแปลกใจแต่ตอนนี้ผมไม่แปลกใจแล้ว
ก็สองคนนั้นเขารักกันนี่ครับ...!!
ไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด ตัวติดกันเหมือนปาท่องโก๋ที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ เวลามีอะไรก็จะแอบไปคุยกันอยู่สองคน ซึ่งบางทีที่ผมเห็นผมก็จะแอบน้อยใจบ้าง แต่เพราะอะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
ผมเดินออกมานั่งในห้องนั่งเล่น รอพ่อครัวหัวป่าอย่างพี่ฮันเขาตื่น แล้วผมค่อยไปอ้อนให้ทำอะไรให้กิน
ผมนั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยแต่ส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นเรื่องของผมและเรียวอุคหรอกครับ
ตอนนี้ผมกับเรียวอุคคบกันอยู่คนในวงก็รู้ดี และพวกเขาก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ในความคิดของผมตอนนั้นผมดีใจมากที่ได้คบกับเรียวอุคเราสองคนได้ใช้คำว่า’แฟน’ในการบอกความสัมพันธ์ของพวกเรา แต่ในตอนนี้ผมกลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้น...
ในตอนนี้ ผมรู้สึกว่าผมเอที่เปลี่ยนไปซึ่งแน่นอนว่าเรียวอุคมองไม่ออกว่าผมเปลี่ยนไปยังไง หัวใจของผมตอนนี้ผมไม่รู้ว่าทำไมผมจึงรู้สึกว่าไม่ได้มีเรียวอุคอยู่ข้างในเลย
มันกลับ...นึกไปถึงใครคนหนึ่งตลอดเวลา
หน้าของใครคนนั้น...
หน้าของคนที่ชื่อ คิม คิบอม...!!!
ผมนั่งเหม่อได้ไม่นานเมื่อคนตัวเล็กแฟนของผมเดินมาก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ มือเล็กเอื้อมมากุมมือผมไว้แผ่วเบา
“พี่คิดอะไรอยู่เหรอครับหน้าเครียดเชียว”
ผมมองเรียวอุคเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะส่ายหน้าไปมาแล้วยิ้มให้บางๆ
“จริงเหรอครับ”
เรียวอุคคาดคั้นผม ซึ่งผมเองก็ได้แต่ส่ายหน้าเหมือนเดิม
“ผมเชื่อพี่ก็ได้ แล้วทำไมถึงตื่นเช้าจังวันนี้”
เรียวอุคถามผมซึ่งผมก็ได้แต่นั่งตกใจคิดคำตอบสรรหาข้ออ้างมากมายมาตอบคำถาม
“เอ่อ..พี่ไม่ค่อยง่วง เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ”
คนตัวเล็กมองผมอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา ทำไมผมต้องมาโกหกคนข้างๆด้วย
ทั้งๆที่มันก็ไม่จำเป็นเลยสักนิดเดียว
“วันนี้ผมอยากไปเที่ยวจัง”
เรียวอุคเอนหัวซบลงบนไหล่ของผม ซึ่งผมเองก็แค่ยิ้มเจื่อนๆให้ร่างบาง
‘ถ้านายอยากไปเที่ยวนายก็ไปสิ’
ผมอยากจะพูดแบบนี้ออกไป แต่ก็ต้องกลืนคำพูดนั้นลงคอเมื่อคนตัวเล็กส่งสายตาเศร้ามาให้
“เป็นอะไร...หรือเปล่า”
“....พี่ครับ”
ผมมองหน้าของคนตัวเล็กถึงแม้จะเห็นแค่เพียงเส้นผมของอีกคนก็ตาม
“หืม?”
“พี่รักผม...หรือเปล่าครับ”
ผมเงียบไป ยอมรับเลยว่าผมออกจะตกใจเสียด้วยซ้ำกับคำถามตรงๆของคนตัวเล็ก
“..อ...อืม”
ผมรับคำเสียงแผ่ว ทั้งๆที่หัวใจของผมปฏิเสธว่าไม่ใช่เลยสักนิดเดียว
“พี่ตอบไม่เต็มเสียง”
เรียวอุคเขารู้ ซึ่งเป็นใครผมว่าก็ต้องรู้
“ทำไมพี่จะไม่รักนายล่ะ”
ใช่ทำไมจะไม่รักล่ะ ถ้าเป็นแบบน้องชายล่ะก็นะ
“ผมรู้ครับแต่...”
เหมือนเรียวอุคจะพูดอะไรต่อ แต่ก็กลืนคำพูดนั้นลงไปแล้วยิ้มออกมาแทน
นายต้องการพูดอะไร
“ยังไงผมก็เชื่อใจพี่นะฮะ ว่าพี่จะไม่ทิ้ง พี่จะไม่ทำไม่ผมเจ็บ...อีกแล้ว”
ผมมองเรียวอุคที่ทำหน้าเศร้า ไม่สมเป็นเจ้านี่เลยแฮะ
“เอาแต่ทำหน้าเศร้าอยู่ได้ อยากไปไหนล่ะพี่พาไปก็ได้”
ในที่สุดผมก็ตกคำรับปากเรียวอุคไป ทั้งๆที่ไม่อยากไป ทั้งๆที่อยากอยู่ใกล้ใครอีกคนแต่..พอเห็นหน้าเศร้าๆนั่นแล้วก็อดไม่ได้
“จริงเหรอฮะ”
เรียวอุคถามดวงตาเป็นประกราย
“อื้ม”
ผมตอบแล้วยิ้มให้ ฝืนนั่นแหละครับ
ผมสัญญาแล้วนี่...ว่าจะไม่ทำให้คนตัวเล็กต้องเจ็บอีกต่อไป
“พี่เยซองคร้าบ”
อยู่ๆเรียวอุคก็เรียกผมขึ้นมา ผมเลยมองหน้าของเจ้าตัวเล็กนั่นเล็กน้อยแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“อะไรเรียวจัง”
เมื่อเห็นว่ายังไม่ยอมตอบผมเลยถามไป คนตัวเล็กยิ้มให้ผม
"วันนี้ผมอยากไปนอนกับพี่จัง”
“งั้นเหรอ?”
ผมตกใจกับคำพูดของคนตัวเล็ก ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นอยากจะมาแต่ไหงวันนี้ถึงได้...
“ได้หรือเปล่าครับ”
เรียวอุคกระเถิบมานั่งใกล้ๆผมก่อนที่จะกอดผมเอาไว้หลวมๆ
“ฉันต้องลองขอคิบอมดูก่อน”
ผมอ้างหาเหตุผลชักแม่น้ำหลายๆสายจากทุกมุมโลกมาอ้าง
“ง่า...”
เรียวอุคมองผมอย่างอ้อนๆก่อนที่จะกอดผมแน่นขึ้น
แล้วก็เอาหัวมาซบลงบนอกของผม แล้วหลับตาลง
“พี่ครับ ผมขอโทษนะครับ”
“เรื่องอะไรเหรอ”
“ถ้าผม...ทำให้พี่ไม่เป็นตัวของตัวเอง”
ผมเงียบไป ‘ตัวของตัวเอง’ อย่างนั้นน่ะเหรอ
เรียวอุค...นายต้องการสื่อถึงอะไร
“ผม ไม่น่ามาขอพี่คบเลย ทั้งๆที่ผม...”
เรียวอุคเงียบอีกแล้ว ทำไมเขาเอาแต่เงียบแบบนี้
“เรายังเป็นแฟนแบบนี้ต่อไปได้ใช่มั๊ยครับ”
“....”
“....”
ผมและเรียวอุคเราต่างคนต่างเงียบต่างใช้ความคิดของตัวเอง
เรียวอุคนายอยากจะบอกอะไรฉันกันแน่!!!
จ๊อกๆ!
เรียวอุคสะดุ้งน้อยๆเมื่อได้ยินเสียงท้องร้องของผม จะว่าไปมันก็ตลกดีนะที่มันดันมาร้องเอาตอนนี้
“พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยใช่มั๊ยล่ะ”
ผมพยักหน้า ก็แหงอ่ะดิตั้งแต่เช้าเลยด้วยซ้ำ
“พี่ครับเดี๋ยวผมไปทำให้นะฮะ”
เรียวอุคปล่อยตัวผมออกก่อนที่จะลุกแล้วเดินเข้าห้องครัวไป ผมมองตามหลังเมื่อเห็นว่าคนร่างบางเดินจากไปแล้ว ผมก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ
ที่จริงแล้ว...เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะเรียวอุคไปเห็นภาพตามเว็บต่างๆไม่ว่าจะของแฟนคลับหรือของเว็บทั่วไป
เขาเห็นภาพของคู่แฟนเซอร์วิส คู่ของคิบอมและทงเฮ
ภาพต่างๆที่ออกมา มันมาจากการที่สองคนนั้นดูสนิทกันเกินไป
ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเรียวอุคคิดยังไงกับทงเฮ แต่เพราะภาพพวกนั้นมันทำให้ความเจ็บในจิตใจค่อยๆกัดกินความรักที่มีไปทั้งหมด
จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะมาคบกับผม และเราก็ถูกจับคู่กันเพราะมีภาพพวกนี้ออกมาเช่นเดียวกัน
นั่นคือจุดเริ่มต้นทั้งหมด...แม้ว่าตอนนี้เรียวอุคดูท่าจะทำใจได้บ้างแล้วก็ตาม
แล้วทำไมผมถึงตอบรักเขาน่ะหรือ?
ก็เพราะน้ำตาของคนตัวเล็กนั่นไงล่ะ น้ำตาที่ไหลไม่หยุดในตอนที่เขาตัดสินใจเลิกรักทงเฮ
และอาจจะเพราะตอนนั้นผมยังคงหวั่นไหวกับคนตัวเล็กอยู่เลยตอบตกลงคบไป
แต่ตอนนี้ไม่ใช่..ผมไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นอีกแล้ว
ในตอนนี้หัวใจของผม มันแน่ชัดแล้วว่าผมต้องการใครกันแน่ คนที่ผมอยากให้มาอยู่ข้างกายจริงๆ
ตุ้บ!
ผมรับรู้ได้ถึงน้ำหนักบนโชฟาที่ยุบตัวลงไป ผมหันไปมองข้างๆก่อนจะเจอเข้ากับคิบอม
นึกว่าเป็นเรียวอุคเสียอีก
“พี่ครับวันนี้ไม่มีงานหรือครับ”
น่าแปลกนะที่เจ้าหมอนี่ถามผม ก่อนแบบนี้
“ถ้าฉันมีคงไม่มานั่งให้นายเห็นหน้า อยู่หรอก”
ผมตอบออกไป ใจจริงก็ไม่ได้จะกวนอารมณ์อะไรหรอก เพียงแต่นิสัยของผมมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ครับ”
หมอนั่นตอบสั้นๆ ผมก็แค่พยักหน้ารับไป
“วันนี้ฉันยังไม่เห็นหน้านายเลยตั้งแต่เช้า ไปมุดหัวอยู่ไหนมา”
“ผมอยู่ในห้องตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ ครับ”
คิบอมตอบผมก่อนที่จะกระเถิบตัวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น ซึ่งมันทำให้ผมหน้าแดงและทำตัวไม่ถูก หัวใจของผมมันเต้นแรงและเร็วมากจนผมต้องยกมือขึ้นกุมหัวใจตัวเองเอาไว้
“นายจะกระเถิบเข้ามาใกล้ทำไม ฉันร้อน”
คิบอมเงยหน้าขึ้นมองหน้าของผมที่คงจะแดงจนสังเกตได้ง่ายๆ
“พี่ครับ”
คิบอมพูดออกมาเบาๆ ผมเงยหน้าขึ้นมอง
“หืม?”
“พี่กับเรียวอุค”
“ทำไม”
“รักกันมากเลยหรือครับ”
ผมตกใจกับคำถามที่มันไร้สาระของคิบอม เจ้าบ้านี่ถามอะไรปัญญาอ่อนจริงๆ
แต่มันก็จริงอย่างที่คิบอมถาม
ผมยังรักเรียวอุคอยู่หรือเปล่า ถ้าตอบไปว่า
‘ไม่แล้วล่ะ’
มันจะดูแปลกๆหรือเปล่า
“ก็..ก็ต้องรักสิรักกันมากๆด้วย”
คิบอมเงียบและนั่งหลับตานิ่ง ผมมองเขาที่นั่งทำหน้าเศร้า
ทำไมนายถึงต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นด้วย
“รักกันมากขนาดนั้นเลยหรือครับ”
คิบอมถามย้ำเหมือนเขาอยากแน่ใจในคำตอบ
“ใช่สิ ถามอะไรบ้าๆน่ะคิบอม”
ผมทำท่าให้เขารู้ว่าเริ่มที่จะรำคาญตัวเขา คิบอมเงียบแล้วหันไปนั่งนิ่งๆก่อนจะกระเถิบห่างออกไปเล็กน้อย
“นายเป็นอะไรหรือเปล่าคิบอม”
ผมถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินมานั่งยองๆลงตรงหน้าของคิบอม มือของผมเอื้อมไปกุมมือของอีกคนเอาไว้หลวมๆ แต่คิบอมก็ยังไม่ตอบอารมณ์ของผมเลยบูดสนิท
“ทำไมไม่ตอบวะ คนถามดีๆ”
ผมไม่ได้จงใจจะขึ้นเสียงใส่คิบอมแต่ด้วยความหงุดหงิดเลยกลายเป็นว่าผมกำลังว่าคิบอมอยู่กลายๆ คิบอมเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผมก่อนที่จะดึงมือออไป
“ไม่เป็นไรหรอกฮะ”
เขาว่า ผมจึงได้แต่นิ่งแล้วมองหน้าของเขา ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าหมอนี่ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้าเหมือนกับผม
“ดูท่าว่าจะไม่ได้กินข้าวตั้งแต่ เช้าสิท่า ถึงได้แปลกไปอย่างนี้”
ผมยืดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะเอามือล้วงกระเป๋าแล้วจะเดินออกไป อยู่ๆคิบอมก็คว้าตัวของผมลงมาก่อนที่จะกอดเอาไว้
ผมเลยเสียหลักล้มมานั่งลงบนตักของคิบอม
“พี่เยซองครับ”
ด้วยความตกใจผมเลยดิ้นไปมาไม่หยุดและเอาแต่บ่นไปมา
“ไอ้บ้าคิบอมปล่อยฉัน”
“ขอผมอยู่อย่างนี้สักพักนะครับ”
“อย่ามาไร้สาระนะ ปล่อยดิวะ”
ผมยังคงดิ้นไปมาในอ้อมกอดของคิบอม ผมรู้สึกว่าคิบอมกอดรัดตัวของผมมากยิ่งขึ้น
“คิ...”
ผมกำลังจะเงยหน้าขึ้นไปด่าเจ้าเด็กไม่รู้จักโต แต่พอผมเงยขึ้นไปก็โดนอีกคนประกบริมฝีปากของตัวเขาลงมาทันที ผมดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ มือของผมทุบไปมาตามแผงอกแกร่งของอีกคน ดิ้นไปมาไม่ยอมหยุด ลิ้นของอีกคนค่อยๆสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากของผมช้าๆก่อนที่มันจะมาหยอกล้อกับลิ้นของผม ความรู้สึกหวาบหวามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากที่ไม่ยอม จากที่ขัดขืน กลายเป็นว่ายอมให้อีกคนทำตามใจของเขาไป มือที่เคยทุบกับเปลี่ยนเป็นกำคอเสื้ของอีกคนด้วยกลัวว่าร่างทั้งร่างมันจะร่วงลงไปถ้าไม่จับเอาไว้ ลิ้นที่เคยหลีกหนีกลายมาเป็นตอบรับและหยอกเย้ากลับ ผมไม่ได้ต้องการฝห้มันเป็นแบบนี้
ผมไม่เคยต้องการ...แต่หัวใจของผมมันสั่งให้ผมยอมรับรสสัมผัสนี้
หัวใจของผม....!!!
“พี่เยซองครับ ข้าวผัด....”
เคร้ง!!!
เสียงของตกกระทบพื้นพร้อมกับเสียงของคนคุ้นเคยที่ผมได้ยินบ่อยๆดังมาจากทางด้านหลัง ผมรีบผละออกจากตัวของคิบอมแล้วลุกขึ้นยืนทันที คิบอมองก็เช่นกัน
“เรียวอุค”
“พี่เยซอง...”
เสียงของเรียวอุคช่างแผ่วเบาในความรู้สึกของผม ผมไม่สามารถพูดอะไรต่อไปได้ มันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาอุดอยู่ที่ลำคอ นี่เอง’กลืนไม่เข้าคายไม่ออก’
“คือมันไม่ใช่อย่างที่นายเข้าใจนะ”
ผมรีบหาข้อแก้ตัวทั้งๆที่มันไม่ทางที่ผมจะแก้ตัวขึ้น
“พี่เยซองครับ...ผมผิดหวังในตัวพี่ จริงๆ”
เรียวอุคเดินเข้ามาผมก่อนที่จะฟาดฝ่ามือเรียวลงไปบนแก้มของผมอย่างจัง จนหน้าหันไปตามแรงมือ ผมมองเรียวอุคน้ำตาไหลพรากมือเรียวเอื้อมมาผลักตัวของผมออกไปอย่างแรง
“คิบอมเกินอะไรขึ้นน่ะ เสียงดังไปถึงชั้นสองเลยนะ”
ทงเฮคงจะได้ยินเสียงคนทะเลาะกันเลยวิ่งลงมาจากห้อง ก่อนที่จะเห็นเรียวอุควิ่งตัดหน้าไป
“เรียวอุค เรียวอุค”
ทงเฮเรียกเรียวอุคเสียงดัง ก่อนที่จะมองมาทางคิบอมอย่างเอาเรื่อง
“ทงเฮคือมันไม่ใช่อย่างที่เรียวอุค คิดนะ ฉันกับคิบอมไม่ได้มีอะไรกันทั้งนั้น”
ผมแก้ตัวกับทงเฮซึ่งทงเฮก็เอาแต่ยิ้ม...ยิ้มที่แสนเจ็บปวด ผมไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องมาแก้ตัวให้ทงเฮฟัง อาจจะเพราะกลัวว่าคนตัวสูงข้างๆอาจจะเข้าใจผิดกับอีกคนที่ยืนมองหน้าผมอยู่ก็ได้
“ผมทราบดีครับ ว่าพี่รักเรียวอุคมากขนาดไหน”
“ทงเฮคือพี่...”
“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่าง ที่ผมไม่อยู่”
“...”
“แต่ผมทนไม่ได้ถ้าจะเห็นเรียวอุค ร้องไห้”
“ทงเฮอย่าบอกนะว่านาย....”
ผมเงียบไปในคำพูดถัดมา
“ครับ ผมขอโทษ”
ผมนิ่งไปมองใบหน้าของทงเฮนิ่ง สายตาเต็มไปด้วยความว่างเปล่าและเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ทงเฮนี่แก!!!”
“ผมขอโทษ แต่ผมรักเรียวอุคพอๆกับที่พี่รักเขาแหละครับ”
คิบอมเองก็นิ่งและตกตะลึงไปเช่นกัน ดูท่าคนข้างๆผมจะตกใจมากกว่าผมเสียอีก แหงสิ ก็เขาเป็นคนรักกันนี่
“คิบอมพี่ขอโทษนะ แต่พี่ไม่สามารถห้ามตัวเองได้นายก็รู้ ว่าความรักมันไม่เข้าใครออกใคร”
“แล้วแกมาตกลงคบกับคิบอมทำไม”
ผมขึ้นเสียงสูงและตะโกนใส่หน้าของทงเฮด้วยความโมโห ใช่แกมาคบกับคิบอมทำไมถ้าในตอนนั้นแกเองก็รู้สึกแบบเดียวกับเรียวอุค
“พี่ครับใจเย็นๆก่อนนะ”
คิบอมเดินเข้ามาจับบ่าของผมแล้วบีบเบาๆ แต่ผมกลับปัดมือของอีกคนออกไป
“แกก็เหมือนกันไอ้คิบอม ถ้าแกไม่มาทำอะไรบ้าๆแบบนั้น เรียวอุคก็คง...ฉันกับเรียวอุคก็คงไม่ทะเลาะกันแบบนี้หรอก”
ใช่!!!ถ้านายไม่มาจูบฉัน เรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น
ใช่!!!ถ้าฉันไม่ไปหลงรักนาย เรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น
ผมยกนิ้วชี้หน้าคิบอมก่อนจะด่าออกไปด้วยความโมโหไม่ต่างอะไรไปจากทงเฮ
“ที่จริงแล้ว..ผมไม่ได้ต้องการคบกับ คิบอมหรอกครับ แต่เพราะไม่อยากเข้าไปขัดความรู้สึกของพี่และเรียวอุค ผมเลย....”
ผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ก่อนที่ทงเฮจะเดินเข้ามาใกล้มือเรียวเอื้อมออกมาหมายจะจับไหล่ที่กำลังสั่นด้วยความโกรธของผม แต่เพราะโทสะที่มีเลยทำให้ผมทำอะไรที่ร้ายแรงลงไป
พลั่ก!!!
ผมเงื้อหมัดขึ้นก่อนที่จะประเคนเข้าไปที่มุมปากของทงเฮจนคนโดนต่อยล้มลงไปนอนกองกับพื้น คิบอมมองด้วยความตกใจ เขารีบวิ่งเข้าไปดูทงเฮด้วยความห่วงใย
“พี่ครับ พี่ทำเกินไปแล้ว”
คิบอมตวาดใส่หน้าของผมที่ตกใจไม่น้อย ผมมองมือของตัวเองที่เพิ่งจะต่อยเข้าไปที่ปากของทงเฮ ดวงตาของผมเบิกกว้าง
“พี่ทำมากเกินไปจริงๆ พี่ทงเฮไม่ผิดสักหน่อย”
ใช่!!ทงเฮถูกไปหมดแหละ ไม่มีใครผิดเลย
ฉันเองที่ผิด ฉันเอง!!~
ถ้าฉันเอาเรื่องที่เรียวอุครู้สึกแบบเดียวกันกับทงเฮไปบอกเจ้าตัวล่ะก็ เรื่องบ้าๆแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นมาหรอก
“เออใช่!!!”
“...”
“เรื่องนี้ไม่มีใครผิดหรอก ไม่มีเลย ฉันเองฉันเองที่ผิด ถ้าฉันไม่ไปขอเรียวอุคคบก่อนนาย เรื่องแบบนี้คงไม่เกิด!!!!”
ผมเดินจากออกไปด้วยความโมโห เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเพราะผมไม่ดีเอง
ถ้าผมบอกทงเฮไปตั้งแต่แรกเรื่องความรู้สึกของเรียวอุค เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นมาให้ปวดหัวแบบนี้
ผมเดินออกไปจากหอพักด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว เดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายปลายทาง
เดิน...แล้วร้องไห้ ด้วยความเจ็บปวด
.
.
.
.
.
คิม จงอุน(เยซอง)
03/03/2553
THE END
03/03/2553
โอ๊ยๆนึกว่าต้องลงพรุ่งนี้เสียอีก วันนี้เวริดอาการดีขึ้นแล้วเลยลงต่อได้
ดีใจๆๆ ว่าแต่ทายคู่กันถูกยังเนี่ย รอคำตอบอยู่นะตัวเธอ
ขอบคุณพี่แนนนะคร้าบที่หาภาพมาให้แบบว่าถูกใจหลายๆ
ตอนนี้กลัวอย่างเดียว กลัวตัดออกมาแล้วไม่เข้าอายตายเลย-///-
ปล.อย่าลืมบอกชื่อเรื่องมาล่ะ เรื่องไหนตอนไหนถูกใจคนอ่านที่สุดจ๊ะ
อย่าลืมนะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น