ลำดับตอนที่ #89
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #89 : [SF KIHAEYERYEO]Secret in Diary[1]
Title:Secret in Diary Note: สังเกตดีๆ เซ็งเว้ย เบื่อๆไงไม่รู้
กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว......................
มีผู้ชายคนหนึ่ง.......
ที่มีแฟนแล้ว.............
.
.
.
.
.
.
แต่กลับไปแอบรักใครอีกคนหนึ่ง........
ซึ่งเขาเอง....ก็มีแฟนแล้วเช่นกัน...
นิทานน้ำเน่า ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!!!!
ท้องฟ้าวันนี้มันดูมืดครึ้มผิดปกติไปจากเคย ผมนั่งมองท้องฟ้าวันนี้มาตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ มันก็เย็นมากแล้ว
ท้องฟ้ายังไม่สดใสขึ้นเลยตั้งแต่เช้า เหมือนกับจิตใจของผม...
ที่มันมืดครึ้มยิ่งกว่าท้องฟ้าเสียอีก...
“คิบอม”
เสียงหวานเรียกชื่อของผมจากทางด้านหลัง ผมหันหลังกลับไปมองก่อนที่จะยิ้มออกมาบางๆ ยิ้มที่ไม่เคยออกมาจากใจจริงๆเลยสักครั้ง...
“ครับ...พี่ทงเฮ”
พี่ทงเฮเดินมานั่งลงข้างๆผม ก่อนที่มือเรียวจะโอบไหล่ผมแล้วดึงให้เข้าไปใกล้พี่เขา
“เราคบกันมากี่ปีแล้วนะ”
ผมเงียบมองหน้าพี่ทงเฮด้วยความไม่เข้าใจ เหมือนพี่เขาจะอ่านใจผมออกว่าคิดอะไรอยู่
“เราเป็นแฟนกันมากี่ปีแล้ว”
พี่ทงเฮถามย้ำซึ่งผมไม่เห็นว่ามันจะอธิบายอะไรจากคำถามแรกสักนิดเดียว ผมได้แต่ยิ้มให้กับพี่เขา
พี่เขาต้องการอะไรกันแน่ถึงได้มาถามอะไรแบบนี้??
“คิบอม..นายยังรักฉันอยู่หรือเปล่า”
ผมมองหนาพี่เขาที่ออกแนวเศร้าลงเล็กน้อย ผมได้แต่นิ่งในคำถามไม่กล้าพูดอะไรออกไป
ถ้าผมบอกไปว่า’ไม่แล้วล่ะครับ’
แล้วพี่เขาจะร้องไห้เหมือนวันนั้นหรือเปล่า วันที่พี่เขามาถามความรู้สึกของผมต่อพี่เขาแล้วผมได้แต่เงียบ เงียบเสียจนคนร่างบางข้างๆทนความกดดันของคำตอบไม่ไหวจนร้องไห้ออกมา
“รักสิครับ...รัก”
ผมเงียบเสียงลงไปพูดได้แต่คำว่ารัก คำว่ารักที่มันกำลังเผาจิตใจของผมทั้งเป็น
“ง..งั้นเหรอ”
พี่ทงเฮยกมือออกไปแล้วยิ้มเจื่อนๆให้ผม ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพียงแต่มองหน้าของร่างบางข้างๆ
“แล้วพี่ล่ะครับ”
“...”
“ยังรักผมอยู่หรือเปล่า”
เพราะอะไรผมจึงถามแบบนั้นออกไปทั้งๆที่น่าจะรู้คำตอบดี
“รักสิ..ไอ้เด็กบ้าอย่าถามอะไรแบบนี้อีกนะ”
พี่ทงเฮว่าผมเบาๆก่อนที่จะดึงผมเข้าไปกอดเสียแน่น ผมตกใจกับการทำอะไรที่ผิดปกติไปของพี่ทงเฮ
“คิบอม...ฉันขอโทษนายจริงๆนะ”
พี่ทงเฮพูดออกมาเบาๆแล้วลูบหลังผมเหมือนกำลังจะปลอบใจผม
ผมได้แต่นั่งนิ่งให้พี่เขากอดอยู่อย่างนั้น ไม่นานพี่เขาก็ผละผมออกก่อนที่จะลุกและเดินจากไปด้วยความรวดเร็ว แต่เพียงแวบเดียวที่ผมหันไป ผมเห็นหยาดน้ำตาของพี่ทงเฮที่ไหลออกมาจากดวงตาเรียวคู่นั้น...
ผมทำพี่เขาร้องไห้หรือเปล่า??
พี่ทงเฮไปเข้ามาหาผมอีกเลยนับตั้งแต่ตอนเย็น นี่ก็จะปาเข้าไปสองทุ่มแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของพี่เขา จริงสิ!!ที่จริงผมยังไม่ได้ออกจากห้องเลยต่างหากตั้งแต่เช้าเพราะไม่มีงานในวันนี้เลยไม่อยากออกไปไหน
แต่ดูท่าว่าผมคงต้องออกไปเสียหน่อยเพราะเจ้ากระเพาะของผมมันร้องดังมาตลอดทั้งวันแล้ว
ผมเอื้อมมือไปเปิดประตูออกก่อนจะเดินออกจากห้องของผมไป สายตาไปหยุดอยู่ที่คนสองคนที่กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่บนโซฟา
พี่เยซองและเรียวอุคนั่นเอง
ผมมองไปที่ทั้งคู่ด้วยความเจ็บปวด ทำไมเรียวอุคต้องทำแบบนี้ด้วย แล้วผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อเรียวอุคมองมาทางผมก่อนจะยิ้มให้เหมือนเคย
ผมหันกลับไปมองทางเดินในห้องพัก ก่อนที่จะเดินออกไปโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น
วันนี้ฮยอกแจและพี่อีทึกต้องไปจัดคิสส่วนคนอื่นๆก็ต้องไปออกรายการ จะเหลือก็แต่ผม พี่ทงเฮ พี่เยซองและก็เรียวอุคเท่านั้น
ผมเดินเข้าไปหาอะไรในครัวหวังจะกินลองท้อง แต่ก็ไม่เจออะไรที่เป็นกับข้าวเลยสักนิดมีก็แต่ข้าวของที่เอาไว้ใช้ทำให้เป็นรูปร่างเท่านั้น
เฮ้อ...ผมทำเป็นก็แค่ต้มมาม่าก็เท่านั้นแล้วแบบนี้ ผมก็ต้องกินมันอีกแล้วใช่มั๊ย
ผมเดินเข้าไปเปิดประตูตู้เย็นออกแล้วมองไปด้านในหาของที่พอจะทำได้ง่ายๆ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกิมจิและผักสดเท่านั้น เนื้อสัตว์ไม่ค่อยมีถึงจะมีก็เหลือแต่พวกเศษๆเท่านั้น
ผมตัดสินใจหยิบกิมจิออกมา คิดในใจว่ากินกิมจิกับข้าวก็คงไม่เป็นไร
“ฉันช่วยมั๊ยคิบอม”
ผมหันไปมองทางด้านหลังก่อนจะเจอเข้ากับเรียวอุคที่เดินเข้ามาหาผมช้าๆ ผมนิ่งไปมองหน้าเรียวอุคไม่วางตา
“เดี๋ยวฉันทำข้าวผัดกิมจิให้กินละกันนะ”
เรียวอุคพูดแค่นี้ก่อนที่จะหลีกเดินไปอีกทาง จุดเตาแก๊สแล้วก็เอากระทะวางลงไป ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดฝาหม้อข้าวแล้วตักข้าวออกมาใส่จานใบใหญ่
นี่คิดจะให้ฉันกินจนหมดเลยหรือไง...!!
ผมได้แต่ถามอีกคนในใจ เรียวอุคเดินมาหาผมก่อนที่จะดันหลังให้ผมเดินออกไปข้างนอก
“ไปรอกับพี่เยซองก่อนนะ เดี๋ยวฉันเอาไปให้”
ผมสะอึก ทำไมฉันจะต้องไปรอกินข้าวของนายพร้อมกับพี่เยซองด้วยล่ะ
แต่ผมก็ทำได้แค่เพียงถามในใจเท่านั้น แล้วตัดสินใจเดินออกมานั่งรอนอกห้องครัวกับพี่เยซอง
ผมเดินไปนั่งลงข้างๆที่เขาที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
“พี่ครับวันนี้ไม่มีงานหรือครับ”
เนื่องจากผมคิดว่าบรรยากาศมันเงียบเกินไป เงียบเสียจนผมทนอยู่ไม่ไหวจึงต้องเอ่ยปากออกมา ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนไม่ว่าจะเป็นกับใครก็แล้วแต่ผมก็ไม่เคยคิดจะเป็นคนพูดก่อน แม้แต่พี่ทงเฮก็ตาม
“ถ้าฉันมีคงไม่มานั่งให้นายเห็นหน้าอยู่หรอก”
ผมไม่รู้ว่าพี่เขาจะตอบกวนประสาทผมหรือเปล่า หรือพูดตรงเกินไป ผมยิ้มให้พี่เขาบางๆและผมก็รับรู้ได้เลยว่ามันออกมาจากใจของผมจริงๆ
“ครับ”
“วันนี้ฉันยังไม่เห็นหน้านายเลยตั้งแต่เช้า ไปมุดหัวอยู่ไหนมา”
“ผมอยู่ในห้องตั้งแต่เช้าแล้วล่ะครับ”
ผมตอบพี่เขาไปก่อนที่จะกระเถิบตัวเข้าไปใกล้มากขึ้น ผมชอบที่จะอยู่กับพี่เยซองแบบนี้ใกล้ๆและผมก็ไม่ชอบให้เรียวอุคมานั่งอยู่ข้างๆพี่เยซอง เล่นกับพี่เยซองหรือแม้แต่มายืนอยู่ใกล้ๆพี่เยซอง
มันดูเห็นแก่ตัวไปหรือเปล่ากับความคิดของผม..?
“นายจะกระเถิบเข้ามาใกล้ทำไม ฉันร้อน”
ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าของพี่เยซองที่แดงเหมือนคนกำลังเขิน
อย่าเข้าใจผิดไปเลยคิบอม...บางทีพี่เขาอาจจะร้อนอย่างที่ว่าจริงๆก็ได้
“พี่ครับ”
เป็นอีกครั้งที่ผมเป็นคนพูดออกมาก่อน
“หืม?”
“พี่กับเรียวอุค”
“ทำไม”
“รักกันมากเลยหรือครับ”
ผมลองถามในสิ่งที่ไม่น่าจะถาม พี่เยซองดูท่าจะตกใจกับคำถามที่มันไร้สาระของผม
“ก็..ก็ต้องรักกันสิรักกันมากๆด้วย”
ผมได้แต่เงียบและนั่งกลับตานิ่งให้คำพูดนั้นค่อยๆกรีดลงไปในจิตใจของผม
“รักกันมากขนาดนั้นเลยหรือครับ”
ผมลองถามให้แน่ใจ ทั้งๆที่คำตอบผมก็รู้อยู่แล้ว
“ใช่สิ ถามอะไรบ้าๆน่ะคิบอม”
พี่เยซองดูท่าจะเริ่มรำคาญผม ผมเลยเงียบแล้วหันไปนั่งนิ่งๆแล้วกระเถิบออกห่างมาเล็กน้อย ปล่อยให้คำพูดของพี่เยซองเมื่อกี้กรีดแทงหัวใจของผมให้เป็นแผลลึกลงไปมากกว่าเดิม
“นายเป็นอะไรหรือเปล่าคิบอม”
พี่เยซองลุกขึ้นยืนก่อนที่จะเดินมานั่งยองๆลงตรงหน้าผม มือเล็กเอื้อมมากุมมือของผมเอาไว้หลวมๆ
หยุดเถอะครับพี่..อย่าเป็นห่วงผม อย่าเข้าใกล้ผมไปมากกว่านี้เลย
“ทำไมไม่ตอบวะ คนถามดีๆ”
พี่เยซองขึ้นเสียงใส่ผมเล็กน้อยด้วยความหงุดหงิด ผมเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้พี่เขาก่อนจะดึงมือของผมออกมา
“ไม่เป็นไรหรอกฮะ”
“ดูท่าว่าจะไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าสิท่า ถึงได้แปลกไปอย่างนี้”
ผมแปลกไปยังไงเหรอครับ???
พี่เยซองยืดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของพี่เขา ก่อนที่จะเอามือล้วงกระเป๋าทำท่าจะเดินออกไป ผมคว้าตัวของพี่เขาลงมากอด
พี่เยซองเสียหลักล้มมานั่งลงบนตักของผม
ผมบ้าอะไรอยู่....!!!
“พี่เยซองครับ”
“ไอ้บ้าคิบอมปล่อยฉัน”
“ขอผมอยู่อย่างนี้สักพักนะครับ”
“อย่ามาไร้สาระนะ ปล่อยดิวะ”
พี่เยซองดิ้นไปมาในอ้อมแขนของผม ผมกอดรัดตัวของพี่เขามากยิ่งขึ้น
ไอ้คิบอม ไอ้คนอ่อนแอ ไอ้คนหลอกลวง
ผมได้แต่ด่าตัวเองอยู่อย่างนั้น ทั้งๆที่แกมีทงเฮอยู่แล้ว ทั้งๆที่แกก็รู้อยู่แล้วว่าพี่เยซองมีเรียวอุคอยู่ข้างกายแล้วแท้ๆ แกยังจะทำแบบนี้อีก
ไอ้คนเลว...คิม คิบอม
“คิ...”
ผมเงยหน้าขึ้นไปประกบริมฝีปากลงบนริมฝีปากอวบของพี่เยซอง ที่อ้าปากเผยออกด้วยความตกใจ เรียวลิ้นร้อนของผมส่งเข้าไปควานหาความหอมหวานภายในโพรงปากของคนในอ้อมแขน มือพี่เยซองยกขึ้นมาทุกลงไปที่อกของผมแรงๆสองสามที ก่อนที่มันจะหยุดลง แรงดิ้นที่พี่เขาเคยดิ้นก็เปลี่ยนไปเป็นหยุดเฉยๆให้ผมทำตามใจตัวเอง ลิ้นเล็กที่เคยหลีกหนีผมกลับเปลี่ยนเป็นตอบสนอง
“พี่เยซองครับ ข้าวผัด....”
เคร้ง!!!
เสียงของตกกระทบพื้นพร้อมกับเสียงของคนคุ้นเคยที่ผมได้ยินบ่อยๆดังมาจากทางด้านหลัง พี่เยซองรีบผละออกจากตัวผมแล้วลุกขึ้นยืนทันที
“เรียวอุค”
“พี่เยซอง...”
เสียงของเรียวอุคช่างแผ่วเบาในความรู้สึกของผม และผมก็รู้ดีว่าตอนนี้เรียวอุคตกใจกับเหตุการณ์ที่เขาเห็นมากเพียงใด
“คือมันไม่ใช่อย่างที่นายเข้าใจนะ”
“พี่เยซองครับ...ผมผิดหวังในตัวพี่จริงๆ”
เรียวอุคเดินเข้ามาพี่เยซองก่อนที่จะฟาดฝ่ามือเรียวลงไปบนแก้มป่องๆของพี่เยซอง จนคนที่โดนตบหน้าหันไปตามแรงมือ เรียวอุคน้ำตาไหลพรากมือเรียวเอื้อมมาผลักตัวของพี่เยซองออกไป
“คิบอมเกินอะไรขึ้นน่ะ เสียงดังไปถึงชั้นสองเลยนะ”
พี่ทงเฮที่คงจะได้ยินเสียงทะเลาะกันวิ่งออกมาจากห้อง ก่อนที่จะเห็นเรียวอุควิ่งตัดหน้าไป
“เรียวอุค เรียวอุค”
พี่ทงเฮเรียกเรียวอุคเสียงดัง ก่อนที่จะมองมาทางผมอย่างเอาเรื่อง
“ทงเฮคือมันไม่ใช่อย่างที่เรียวอุคคิดนะ ฉันกับคิบอมไม่ได้มีอะไรกันทั้งนั้น”
พี่เยซองแก้ตัวกับพี่ทงเฮซึ่งพี่เขาก็เอาแต่ยิ้ม ยิ้มที่แสนเจ็บปวด
“ผมทราบดีครับ ว่าพี่รักเรียวอุคมากขนาดไหน”
“ทงเฮคือพี่...”
“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ผมไม่อยู่”
“...”
“แต่ผมทนไม่ได้ถ้าจะเห็นเรียวอุคร้องไห้”
“ทงเฮอย่าบอกนะว่านาย...”
“ครับ ผมขอโทษ”
พี่เยซองนิ่งไป เขามองใบหน้าของทงเฮนิ่ง สายตาเต็มไปด้วยความว่างเปล่าและเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็น
“ทงเฮนี่แก!!!”
“ผมขอโทษ แต่ผมรักเรียวอุคพอๆกับที่พี่รักเขาแหละครับ”
ผมเองก็นิ่งและตกตะลึงไปเช่นกัน แต่ผมไม่เข้าใจ...ว่าไอ้ความรู้สึกดีใจเล็กๆนั่นมันคืออะไร?
“คิบอมพี่ขอโทษนะ แต่พี่ไม่สามารถห้ามตัวเองได้นายก็รู้ ว่าความรักมันไม่เข้าใครออกใคร”
“แล้วแกมาตกลงคบกับคิบอมทำไม”
พี่เยซองขึ้นเสียงสูงและตะโกนใส่หน้าของพี่ทงเฮด้วยความโมโห
“พี่ครับใจเย็นๆก่อนนะ”
ผมเดินเข้าไปจับบ่าของพี่เยซองเบาๆแต่กลับโดนอีกคนปัดมือของผมออก
“แกก็เหมือนกันไอ้คิบอม ถ้าแกไม่มาทำอะไรบ้าๆแบบนั้น เรียวอุคก็คง...ฉันกับเรียวอุคก็คงไม่ทะเลาะกันแบบนี้หรอก”
พี่เยซองยกนิ้วชี้หน้าผมก่อนจะด่าผมด้วยความโมโหไม่ต่างอะไรไปจากพี่ทงเฮ
“ที่จริงแล้ว..ผมไม่ได้ต้องการคบกับคิบอมหรอกครับ แต่เพราะไม่อยากเข้าไปขัดความรู้สึกของพี่และเรียวอุค ผมเลย....”
พี่เยซองทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ก่อนที่ทงเฮจะเดินเข้ามาใกล้มือเรียวเอื้อมออกไปหมายจะจับไหล่ที่กำลังสั่นด้วยคววามโกรธ
พลั่ก!!!
พี่เยซองเงื้อหมัดขึ้นก่อนที่จะประเคนเข้าไปที่มุมปากของพี่ทงเฮจนคนโดนต่อยล้มลงไปนอนกองกับพื้น ผมมองด้วยความตกใจ
“พี่ครับ พี่ทำเกินไปแล้ว”
ผมตวาดใส่หน้าของพี่เยซอง ที่ดูท่าจะตกใจไม่น้อย เขามองมือของตัวเองที่เพิ่งจะต่อยเข้าที่ปากของพี่ทงเฮ ดวงตาเล็กเบิกกว้าง
“พี่ทำมากเกินไปจริงๆ พี่ทงเฮไม่ผิดสักหน่อย”
“เออใช่!!!”
“...”
“เรื่องนี้ไม่มีใครผิดหรอก ไม่มีเลย ฉันเองฉันเองที่ผิด ถ้าฉันไม่ไปขอเรียวอุคคบก่อนนาย เรื่องแบบนี้คงไม่เกิด!!!!”
พี่เยซองเดินจากไปแล้ว เหลือไว้แต่ผมและพี่ทงเฮที่ยังคงนั่งนิ่งและทำอะไรไม่ถูก
“นายไม่โกรธพี่หรือไง”
ผมส่ายหน้าไปมาช้าๆ
“ผมโกรธพี่ไม่ได้หรอกครับ...เพราะผมก็รักพี่เยซองแบบที่พี่รักเรียวอุคนั่นแหละครับ”
พี่ทงเฮยิ้มให้ผม ก่อนที่จะหลับตาลงช้าๆ ผมอุ้มพี่เขาขึ้นแนบอกก่อนที่จะพาร่างของพี่ทงเฮเข้าไปในห้องของผม
พักสักแปบเถอะครับ...แล้วพี่จะดีขึ้น!!
28/02/2553
คิม คิบอม
TBC
28/02/2553
แต่งจบเมื่อวานแต่เพิ่งเอามาลงวันนี้หวังว่าคงไม่โกรธกัน อนเย่คงต้องรอไปก่อน
ยังคิดพล็อคไม่ออก แต่เรื่องนี้บังเอิญอยากแต่งแบบนี้มานานเลยขอลงก่อน
อ่านแล้วงงขอโทษครับ เพิ่งเคลียอะไรต่างๆไป(แต่ยังเคลียไม่เสร็จเรียบร้อยดี)
ยังมึนๆกับตัวเองไม่หาย กวาเปิดบ้านแจกรูปแล้วนะไปสูบได้ เอามาบ้างทำเองบ้าง
อันไหนที่มีเครดิตแสดงว่ากวาทำเอง แต่ถ้าไม่มีไม่ใช่ว่าไม่อยากใส่แต่มันจำไม่ได้ไปเอามา
จากหลายๆที่เยอะแยะไปหมด สูบไปแล้วเม้นด้วยนะอัพเหนื่อย ทำเหนื่อย
Pairing: KIHAE x YERYEO [KIHAEYERYEO]
Author:Sara_Pao
Rating:PG
Note: สังเกตดีๆ เซ็งเว้ย เบื่อๆไงไม่รู้
กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว......................
มีผู้ชายคนหนึ่ง.......
ที่มีแฟนแล้ว.............
.
.
.
.
.
.
แต่กลับไปแอบรักใครอีกคนหนึ่ง........
ซึ่งเขาเอง....ก็มีแฟนแล้วเช่นกัน...
นิทานน้ำเน่า ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!!!!
ท้องฟ้าวันนี้มันดูมืดครึ้มผิดปกติไปจากเคย ผมนั่งมองท้องฟ้าวันนี้มาตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ มันก็เย็นมากแล้ว
ท้องฟ้ายังไม่สดใสขึ้นเลยตั้งแต่เช้า เหมือนกับจิตใจของผม...
ที่มันมืดครึ้มยิ่งกว่าท้องฟ้าเสียอีก...
“คิบอม”
เสียงหวานเรียกชื่อของผมจากทางด้านหลัง ผมหันหลังกลับไปมองก่อนที่จะยิ้มออกมาบางๆ ยิ้มที่ไม่เคยออกมาจากใจจริงๆเลยสักครั้ง...
“ครับ...พี่ทงเฮ”
พี่ทงเฮเดินมานั่งลงข้างๆผม ก่อนที่มือเรียวจะโอบไหล่ผมแล้วดึงให้เข้าไปใกล้พี่เขา
“เราคบกันมากี่ปีแล้วนะ”
ผมเงียบมองหน้าพี่ทงเฮด้วยความไม่เข้าใจ เหมือนพี่เขาจะอ่านใจผมออกว่าคิดอะไรอยู่
“เราเป็นแฟนกันมากี่ปีแล้ว”
พี่ทงเฮถามย้ำซึ่งผมไม่เห็นว่ามันจะอธิบายอะไรจากคำถามแรกสักนิดเดียว ผมได้แต่ยิ้มให้กับพี่เขา
พี่เขาต้องการอะไรกันแน่ถึงได้มาถามอะไรแบบนี้??
“คิบอม..นายยังรักฉันอยู่หรือเปล่า”
ผมมองหนาพี่เขาที่ออกแนวเศร้าลงเล็กน้อย ผมได้แต่นิ่งในคำถามไม่กล้าพูดอะไรออกไป
ถ้าผมบอกไปว่า’ไม่แล้วล่ะครับ’
แล้วพี่เขาจะร้องไห้เหมือนวันนั้นหรือเปล่า วันที่พี่เขามาถามความรู้สึกของผมต่อพี่เขาแล้วผมได้แต่เงียบ เงียบเสียจนคนร่างบางข้างๆทนความกดดันของคำตอบไม่ไหวจนร้องไห้ออกมา
“รักสิครับ...รัก”
ผมเงียบเสียงลงไปพูดได้แต่คำว่ารัก คำว่ารักที่มันกำลังเผาจิตใจของผมทั้งเป็น
“ง..งั้นเหรอ”
พี่ทงเฮยกมือออกไปแล้วยิ้มเจื่อนๆให้ผม ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพียงแต่มองหน้าของร่างบางข้างๆ
“แล้วพี่ล่ะครับ”
“...”
“ยังรักผมอยู่หรือเปล่า”
เพราะอะไรผมจึงถามแบบนั้นออกไปทั้งๆที่น่าจะรู้คำตอบดี
“รักสิ..ไอ้เด็กบ้าอย่าถามอะไรแบบนี้อีกนะ”
พี่ทงเฮว่าผมเบาๆก่อนที่จะดึงผมเข้าไปกอดเสียแน่น ผมตกใจกับการทำอะไรที่ผิดปกติไปของพี่ทงเฮ
“คิบอม...ฉันขอโทษนายจริงๆนะ”
พี่ทงเฮพูดออกมาเบาๆแล้วลูบหลังผมเหมือนกำลังจะปลอบใจผม
ผมได้แต่นั่งนิ่งให้พี่เขากอดอยู่อย่างนั้น ไม่นานพี่เขาก็ผละผมออกก่อนที่จะลุกและเดินจากไปด้วยความรวดเร็ว แต่เพียงแวบเดียวที่ผมหันไป ผมเห็นหยาดน้ำตาของพี่ทงเฮที่ไหลออกมาจากดวงตาเรียวคู่นั้น...
ผมทำพี่เขาร้องไห้หรือเปล่า??
พี่ทงเฮไปเข้ามาหาผมอีกเลยนับตั้งแต่ตอนเย็น นี่ก็จะปาเข้าไปสองทุ่มแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของพี่เขา จริงสิ!!ที่จริงผมยังไม่ได้ออกจากห้องเลยต่างหากตั้งแต่เช้าเพราะไม่มีงานในวันนี้เลยไม่อยากออกไปไหน
แต่ดูท่าว่าผมคงต้องออกไปเสียหน่อยเพราะเจ้ากระเพาะของผมมันร้องดังมาตลอดทั้งวันแล้ว
ผมเอื้อมมือไปเปิดประตูออกก่อนจะเดินออกจากห้องของผมไป สายตาไปหยุดอยู่ที่คนสองคนที่กำลังนั่งคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่บนโซฟา
พี่เยซองและเรียวอุคนั่นเอง
ผมมองไปที่ทั้งคู่ด้วยความเจ็บปวด ทำไมเรียวอุคต้องทำแบบนี้ด้วย แล้วผมก็ต้องสะดุ้งเมื่อเรียวอุคมองมาทางผมก่อนจะยิ้มให้เหมือนเคย
ผมหันกลับไปมองทางเดินในห้องพัก ก่อนที่จะเดินออกไปโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น
วันนี้ฮยอกแจและพี่อีทึกต้องไปจัดคิสส่วนคนอื่นๆก็ต้องไปออกรายการ จะเหลือก็แต่ผม พี่ทงเฮ พี่เยซองและก็เรียวอุคเท่านั้น
ผมเดินเข้าไปหาอะไรในครัวหวังจะกินลองท้อง แต่ก็ไม่เจออะไรที่เป็นกับข้าวเลยสักนิดมีก็แต่ข้าวของที่เอาไว้ใช้ทำให้เป็นรูปร่างเท่านั้น
เฮ้อ...ผมทำเป็นก็แค่ต้มมาม่าก็เท่านั้นแล้วแบบนี้ ผมก็ต้องกินมันอีกแล้วใช่มั๊ย
ผมเดินเข้าไปเปิดประตูตู้เย็นออกแล้วมองไปด้านในหาของที่พอจะทำได้ง่ายๆ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกิมจิและผักสดเท่านั้น เนื้อสัตว์ไม่ค่อยมีถึงจะมีก็เหลือแต่พวกเศษๆเท่านั้น
ผมตัดสินใจหยิบกิมจิออกมา คิดในใจว่ากินกิมจิกับข้าวก็คงไม่เป็นไร
“ฉันช่วยมั๊ยคิบอม”
ผมหันไปมองทางด้านหลังก่อนจะเจอเข้ากับเรียวอุคที่เดินเข้ามาหาผมช้าๆ ผมนิ่งไปมองหน้าเรียวอุคไม่วางตา
“เดี๋ยวฉันทำข้าวผัดกิมจิให้กินละกันนะ”
เรียวอุคพูดแค่นี้ก่อนที่จะหลีกเดินไปอีกทาง จุดเตาแก๊สแล้วก็เอากระทะวางลงไป ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดฝาหม้อข้าวแล้วตักข้าวออกมาใส่จานใบใหญ่
นี่คิดจะให้ฉันกินจนหมดเลยหรือไง...!!
ผมได้แต่ถามอีกคนในใจ เรียวอุคเดินมาหาผมก่อนที่จะดันหลังให้ผมเดินออกไปข้างนอก
“ไปรอกับพี่เยซองก่อนนะ เดี๋ยวฉันเอาไปให้”
ผมสะอึก ทำไมฉันจะต้องไปรอกินข้าวของนายพร้อมกับพี่เยซองด้วยล่ะ
แต่ผมก็ทำได้แค่เพียงถามในใจเท่านั้น แล้วตัดสินใจเดินออกมานั่งรอนอกห้องครัวกับพี่เยซอง
ผมเดินไปนั่งลงข้างๆที่เขาที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
“พี่ครับวันนี้ไม่มีงานหรือครับ”
เนื่องจากผมคิดว่าบรรยากาศมันเงียบเกินไป เงียบเสียจนผมทนอยู่ไม่ไหวจึงต้องเอ่ยปากออกมา ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนไม่ว่าจะเป็นกับใครก็แล้วแต่ผมก็ไม่เคยคิดจะเป็นคนพูดก่อน แม้แต่พี่ทงเฮก็ตาม
“ถ้าฉันมีคงไม่มานั่งให้นายเห็นหน้าอยู่หรอก”
ผมไม่รู้ว่าพี่เขาจะตอบกวนประสาทผมหรือเปล่า หรือพูดตรงเกินไป ผมยิ้มให้พี่เขาบางๆและผมก็รับรู้ได้เลยว่ามันออกมาจากใจของผมจริงๆ
“ครับ”
“วันนี้ฉันยังไม่เห็นหน้านายเลยตั้งแต่เช้า ไปมุดหัวอยู่ไหนมา”
“ผมอยู่ในห้องตั้งแต่เช้าแล้วล่ะครับ”
ผมตอบพี่เขาไปก่อนที่จะกระเถิบตัวเข้าไปใกล้มากขึ้น ผมชอบที่จะอยู่กับพี่เยซองแบบนี้ใกล้ๆและผมก็ไม่ชอบให้เรียวอุคมานั่งอยู่ข้างๆพี่เยซอง เล่นกับพี่เยซองหรือแม้แต่มายืนอยู่ใกล้ๆพี่เยซอง
มันดูเห็นแก่ตัวไปหรือเปล่ากับความคิดของผม..?
“นายจะกระเถิบเข้ามาใกล้ทำไม ฉันร้อน”
ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าของพี่เยซองที่แดงเหมือนคนกำลังเขิน
อย่าเข้าใจผิดไปเลยคิบอม...บางทีพี่เขาอาจจะร้อนอย่างที่ว่าจริงๆก็ได้
“พี่ครับ”
เป็นอีกครั้งที่ผมเป็นคนพูดออกมาก่อน
“หืม?”
“พี่กับเรียวอุค”
“ทำไม”
“รักกันมากเลยหรือครับ”
ผมลองถามในสิ่งที่ไม่น่าจะถาม พี่เยซองดูท่าจะตกใจกับคำถามที่มันไร้สาระของผม
“ก็..ก็ต้องรักกันสิรักกันมากๆด้วย”
ผมได้แต่เงียบและนั่งกลับตานิ่งให้คำพูดนั้นค่อยๆกรีดลงไปในจิตใจของผม
“รักกันมากขนาดนั้นเลยหรือครับ”
ผมลองถามให้แน่ใจ ทั้งๆที่คำตอบผมก็รู้อยู่แล้ว
“ใช่สิ ถามอะไรบ้าๆน่ะคิบอม”
พี่เยซองดูท่าจะเริ่มรำคาญผม ผมเลยเงียบแล้วหันไปนั่งนิ่งๆแล้วกระเถิบออกห่างมาเล็กน้อย ปล่อยให้คำพูดของพี่เยซองเมื่อกี้กรีดแทงหัวใจของผมให้เป็นแผลลึกลงไปมากกว่าเดิม
“นายเป็นอะไรหรือเปล่าคิบอม”
พี่เยซองลุกขึ้นยืนก่อนที่จะเดินมานั่งยองๆลงตรงหน้าผม มือเล็กเอื้อมมากุมมือของผมเอาไว้หลวมๆ
หยุดเถอะครับพี่..อย่าเป็นห่วงผม อย่าเข้าใกล้ผมไปมากกว่านี้เลย
“ทำไมไม่ตอบวะ คนถามดีๆ”
พี่เยซองขึ้นเสียงใส่ผมเล็กน้อยด้วยความหงุดหงิด ผมเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้พี่เขาก่อนจะดึงมือของผมออกมา
“ไม่เป็นไรหรอกฮะ”
“ดูท่าว่าจะไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าสิท่า ถึงได้แปลกไปอย่างนี้”
ผมแปลกไปยังไงเหรอครับ???
พี่เยซองยืดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของพี่เขา ก่อนที่จะเอามือล้วงกระเป๋าทำท่าจะเดินออกไป ผมคว้าตัวของพี่เขาลงมากอด
พี่เยซองเสียหลักล้มมานั่งลงบนตักของผม
ผมบ้าอะไรอยู่....!!!
“พี่เยซองครับ”
“ไอ้บ้าคิบอมปล่อยฉัน”
“ขอผมอยู่อย่างนี้สักพักนะครับ”
“อย่ามาไร้สาระนะ ปล่อยดิวะ”
พี่เยซองดิ้นไปมาในอ้อมแขนของผม ผมกอดรัดตัวของพี่เขามากยิ่งขึ้น
ไอ้คิบอม ไอ้คนอ่อนแอ ไอ้คนหลอกลวง
ผมได้แต่ด่าตัวเองอยู่อย่างนั้น ทั้งๆที่แกมีทงเฮอยู่แล้ว ทั้งๆที่แกก็รู้อยู่แล้วว่าพี่เยซองมีเรียวอุคอยู่ข้างกายแล้วแท้ๆ แกยังจะทำแบบนี้อีก
ไอ้คนเลว...คิม คิบอม
“คิ...”
ผมเงยหน้าขึ้นไปประกบริมฝีปากลงบนริมฝีปากอวบของพี่เยซอง ที่อ้าปากเผยออกด้วยความตกใจ เรียวลิ้นร้อนของผมส่งเข้าไปควานหาความหอมหวานภายในโพรงปากของคนในอ้อมแขน มือพี่เยซองยกขึ้นมาทุกลงไปที่อกของผมแรงๆสองสามที ก่อนที่มันจะหยุดลง แรงดิ้นที่พี่เขาเคยดิ้นก็เปลี่ยนไปเป็นหยุดเฉยๆให้ผมทำตามใจตัวเอง ลิ้นเล็กที่เคยหลีกหนีผมกลับเปลี่ยนเป็นตอบสนอง
“พี่เยซองครับ ข้าวผัด....”
เคร้ง!!!
เสียงของตกกระทบพื้นพร้อมกับเสียงของคนคุ้นเคยที่ผมได้ยินบ่อยๆดังมาจากทางด้านหลัง พี่เยซองรีบผละออกจากตัวผมแล้วลุกขึ้นยืนทันที
“เรียวอุค”
“พี่เยซอง...”
เสียงของเรียวอุคช่างแผ่วเบาในความรู้สึกของผม และผมก็รู้ดีว่าตอนนี้เรียวอุคตกใจกับเหตุการณ์ที่เขาเห็นมากเพียงใด
“คือมันไม่ใช่อย่างที่นายเข้าใจนะ”
“พี่เยซองครับ...ผมผิดหวังในตัวพี่จริงๆ”
เรียวอุคเดินเข้ามาพี่เยซองก่อนที่จะฟาดฝ่ามือเรียวลงไปบนแก้มป่องๆของพี่เยซอง จนคนที่โดนตบหน้าหันไปตามแรงมือ เรียวอุคน้ำตาไหลพรากมือเรียวเอื้อมมาผลักตัวของพี่เยซองออกไป
“คิบอมเกินอะไรขึ้นน่ะ เสียงดังไปถึงชั้นสองเลยนะ”
พี่ทงเฮที่คงจะได้ยินเสียงทะเลาะกันวิ่งออกมาจากห้อง ก่อนที่จะเห็นเรียวอุควิ่งตัดหน้าไป
“เรียวอุค เรียวอุค”
พี่ทงเฮเรียกเรียวอุคเสียงดัง ก่อนที่จะมองมาทางผมอย่างเอาเรื่อง
“ทงเฮคือมันไม่ใช่อย่างที่เรียวอุคคิดนะ ฉันกับคิบอมไม่ได้มีอะไรกันทั้งนั้น”
พี่เยซองแก้ตัวกับพี่ทงเฮซึ่งพี่เขาก็เอาแต่ยิ้ม ยิ้มที่แสนเจ็บปวด
“ผมทราบดีครับ ว่าพี่รักเรียวอุคมากขนาดไหน”
“ทงเฮคือพี่...”
“ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ผมไม่อยู่”
“...”
“แต่ผมทนไม่ได้ถ้าจะเห็นเรียวอุคร้องไห้”
“ทงเฮอย่าบอกนะว่านาย...”
“ครับ ผมขอโทษ”
พี่เยซองนิ่งไป เขามองใบหน้าของทงเฮนิ่ง สายตาเต็มไปด้วยความว่างเปล่าและเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็น
“ทงเฮนี่แก!!!”
“ผมขอโทษ แต่ผมรักเรียวอุคพอๆกับที่พี่รักเขาแหละครับ”
ผมเองก็นิ่งและตกตะลึงไปเช่นกัน แต่ผมไม่เข้าใจ...ว่าไอ้ความรู้สึกดีใจเล็กๆนั่นมันคืออะไร?
“คิบอมพี่ขอโทษนะ แต่พี่ไม่สามารถห้ามตัวเองได้นายก็รู้ ว่าความรักมันไม่เข้าใครออกใคร”
“แล้วแกมาตกลงคบกับคิบอมทำไม”
พี่เยซองขึ้นเสียงสูงและตะโกนใส่หน้าของพี่ทงเฮด้วยความโมโห
“พี่ครับใจเย็นๆก่อนนะ”
ผมเดินเข้าไปจับบ่าของพี่เยซองเบาๆแต่กลับโดนอีกคนปัดมือของผมออก
“แกก็เหมือนกันไอ้คิบอม ถ้าแกไม่มาทำอะไรบ้าๆแบบนั้น เรียวอุคก็คง...ฉันกับเรียวอุคก็คงไม่ทะเลาะกันแบบนี้หรอก”
พี่เยซองยกนิ้วชี้หน้าผมก่อนจะด่าผมด้วยความโมโหไม่ต่างอะไรไปจากพี่ทงเฮ
“ที่จริงแล้ว..ผมไม่ได้ต้องการคบกับคิบอมหรอกครับ แต่เพราะไม่อยากเข้าไปขัดความรู้สึกของพี่และเรียวอุค ผมเลย....”
พี่เยซองทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ก่อนที่ทงเฮจะเดินเข้ามาใกล้มือเรียวเอื้อมออกไปหมายจะจับไหล่ที่กำลังสั่นด้วยคววามโกรธ
พลั่ก!!!
พี่เยซองเงื้อหมัดขึ้นก่อนที่จะประเคนเข้าไปที่มุมปากของพี่ทงเฮจนคนโดนต่อยล้มลงไปนอนกองกับพื้น ผมมองด้วยความตกใจ
“พี่ครับ พี่ทำเกินไปแล้ว”
ผมตวาดใส่หน้าของพี่เยซอง ที่ดูท่าจะตกใจไม่น้อย เขามองมือของตัวเองที่เพิ่งจะต่อยเข้าที่ปากของพี่ทงเฮ ดวงตาเล็กเบิกกว้าง
“พี่ทำมากเกินไปจริงๆ พี่ทงเฮไม่ผิดสักหน่อย”
“เออใช่!!!”
“...”
“เรื่องนี้ไม่มีใครผิดหรอก ไม่มีเลย ฉันเองฉันเองที่ผิด ถ้าฉันไม่ไปขอเรียวอุคคบก่อนนาย เรื่องแบบนี้คงไม่เกิด!!!!”
พี่เยซองเดินจากไปแล้ว เหลือไว้แต่ผมและพี่ทงเฮที่ยังคงนั่งนิ่งและทำอะไรไม่ถูก
“นายไม่โกรธพี่หรือไง”
ผมส่ายหน้าไปมาช้าๆ
“ผมโกรธพี่ไม่ได้หรอกครับ...เพราะผมก็รักพี่เยซองแบบที่พี่รักเรียวอุคนั่นแหละครับ”
พี่ทงเฮยิ้มให้ผม ก่อนที่จะหลับตาลงช้าๆ ผมอุ้มพี่เขาขึ้นแนบอกก่อนที่จะพาร่างของพี่ทงเฮเข้าไปในห้องของผม
พักสักแปบเถอะครับ...แล้วพี่จะดีขึ้น!!
28/02/2553
คิม คิบอม
TBC
28/02/2553
แต่งจบเมื่อวานแต่เพิ่งเอามาลงวันนี้หวังว่าคงไม่โกรธกัน อนเย่คงต้องรอไปก่อน
ยังคิดพล็อคไม่ออก แต่เรื่องนี้บังเอิญอยากแต่งแบบนี้มานานเลยขอลงก่อน
อ่านแล้วงงขอโทษครับ เพิ่งเคลียอะไรต่างๆไป(แต่ยังเคลียไม่เสร็จเรียบร้อยดี)
ยังมึนๆกับตัวเองไม่หาย กวาเปิดบ้านแจกรูปแล้วนะไปสูบได้ เอามาบ้างทำเองบ้าง
อันไหนที่มีเครดิตแสดงว่ากวาทำเอง แต่ถ้าไม่มีไม่ใช่ว่าไม่อยากใส่แต่มันจำไม่ได้ไปเอามา
จากหลายๆที่เยอะแยะไปหมด สูบไปแล้วเม้นด้วยนะอัพเหนื่อย ทำเหนื่อย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น