คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #75 : Special:SF Look At Only ME![3]
Title: look at only me!
Pairing: ??? x YESUNG[SF …YE]
Author:[ป๊า]ท็อปรัก[ม๊า]เย่
Rating:PG
Note:ติดตามกันต่อ แต่งตอนที่ทำการบ้านไปด้วย(เทพจัด)ผิดพลาดตรงไหนขออภัยครับ
ซึงฮยอนขับรถมาถึงที่โรงแรมของเขาก่อนจะจอดรถและดับเครื่องให้สนิท เขาหันไปมองร่างบางที่ยังคงหลับอยู่ในความฝันเขามองร่างบางด้วยสายตาที่แสนจะอ่อนโยนก่อนจะเดินลงจากรถฝั่งของตนมาเปิดประตูและช้อนตัวของร่างบางขึ้นในอ้อมแขนแล้วพาเดินเข้าไปในโรงแรม
ซึงฮยอนพาร่างบางมาที่ห้องของเขาก่อนจะเปิดประตูเข้าไปวางร่างบางลงบนโซฟานุ่มมือหนาลูบไปตามใบหน้าหวานก่อนจะยิ้มอย่างพึงใจ
“ขอโทษ..ถ้ามันทำให้นายลำบากใจแต่ฉัน......ไม่มีทางเลือกแล้ว”
ซึงฮยอนพูดเบาๆกับร่างบางที่ขยับตัวบิดไปมาใบหน้าหวานที่ดูซีดลงไปเรื่อยๆ
“อย่า...ได้โปรด”
ร่างบางละเมอขึ้นมาเบาๆก่อนจะจับมือหนาที่กำลังไล้ไปมาบนใบหน้าตน
“ผม..ไม่ได้จะหลอกฮึกเพื่อนคุณ”
ร่างบางเริ่มร้องไห้ ซึงฮยอนมองด้วยความตกใจแต่เขาก็ไม่ได้พูดหรือปลุกให้ร่างบางตื่นขึ้นมายังคงนั่งฟังสิ่งที่ร่างบางละเมอต่อไป
“ผมฮึก...อย่าทำผมผมไม่ได้จะหลอกเพื่อนคุณ แต่ผม...”ร่างบางเงียบไปแล้วแต่อาการร้องไห้ยังคงมีให้เห็น ซึงฮยอนลูบกลุ่มผมนิ่มเบาๆก่อนจะยกตัวร่างบางขึ้นมากอด
“ฉันก็ไม่คิดจะหลอกนาย ไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำเพราะฉะนั้นได้โปรด.....”
“....”
“ได้โปรดอยู่กับฉันตลอดไป”
ซึงฮยอนกอดร่างบางแน่นขึ้นราวกับว่าถ้าเขาไม่กอดไว้แบบนี้ร่างบางตรงหน้าอาจจะหายไป หายไปจากชีวิตเขาตลอดกาล
อนยูที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ไม่ดีนัก ชุดนักศึกษาของเขาเปียกไปหมดรวมไปถึงรางกายทั้งร่างด้วยเช่นกัน มือที่เปื้อนเลือดของเขากำเข้าหากันแน่น
ก่อนที่เขาจะตัดสินใจเดินออกมา
“เยซอง...ฉันขอโทษ”มือที่เคยท้าวกระจกกำแน่นเข้าหากัน อนยูมองเข้าไปในกระจกที่สะท้อนภาพของเขาอยู่
“ไอ้อนยู ไอ้บ้าแกทำอะไรลงไป แกทำอะไรลงไป!!!”
อนยูตะโกนลั่นอยู่หน้ากระจกก่อนจะต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของตนที่สะท้อนอยู่บนกระจกบานใส
“แกทำอะไรลงไป!!!”คำถามเดิมๆถูกตะโกนรอบแล้วรอบเล่าแต่คำถามเหล่านี้กลับตอบยากยิ่งนักสำหรับอนยู เขาต่อยเข้าไปในกระจกไม่ยั้งจนมือของเขานองไปด้วยเลือด
ซ่า!!!!
เขาเปิดน้ำจากก๊อกออกให้ไหลลงไปเรื่อยๆเขามองตัวเองในกระจกก่อนจะใช้มือที่เพิ่งต่อยกระจกนั้นวักน้ำขึ้นมาและสาดเข้าไปในกระจกที่กำลังสะท้อนภาพของตัวเอง
“แกทำอะไรลงไป”
คำถามเดิมที่ดังขึ้นอีกครั้งราวกับกำลังหวังให้ใครมาตอบ แต่มันจะมีใครรู้ได้นอกจากเขา เขาคนเดียวเท่านั้นที่จะตอบคำถามเหล่านี้ได้ เขาคนเดีวยเท่านั้น!!!
อนยูเดินออกไปจากห้องน้ำก่อนจะมุ่งตรงไปยังโต๊ะของพกเขาที่นั่งกันอยู่ คยูฮยอนที่เพิ่งจะล้อเรื่องของซึงฮยอนและเยซองกับคังอินพอหันมาเห็นเพื่อนก็ตกใจตาโต เขามองเพื่อนที่ไม่ต่างอะไรไปจากลูกหมาตกน้ำ สภาพที่เขาไม่เคยได้เห็นจากเพื่อนคนนี้นัก
“ไอ้อน ไปทำบ้าอะไรมาวะ”
“...”
อนยูไม่ตอบเขาเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ม้าหินก่อนจะค่อยๆหลับตาลงไปช้าๆ
คยูฮยอนมองเพื่อนรักที่มีทีท่าเปลี่ยนไปด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะสะกิดเพื่อนข้างๆให้หันมาดู
“มันเป็นอะไรวะ”
“ไม่รู้ว่ะ”
คยูฮยอนมองหน้าคังอินเพียงเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมา
“เออๆแต่เท่าที่ดู เหมือนคนอกหักเลยว่ะ”
“อกหัก?อย่างไอ้อนอกหัก”
“ไม่รู้ดิแต่เหมือนไปรักคนๆหนึ่งเข้าแล้วไปทำร้ายอะไรเขาไว้งั้นแหละ”
“แล้วไงต่อ”
“แล้วไงต่อเรอะ..เฮอะก็รู้สึกผิดไงเลยเป็นอีหรอบเนี้ย”
อนยูลืมตาโพลงมองเหื่อนสองคนที่กำลังนั่งหัวเราะด้วยความสนุกสนานมือหนาเอื้อมไปจับมือของคยูฮยอนเอาไว้ก่อนจะกระชากตัวของเพื่อนมาใกล้
“เฮ้ยๆๆๆอะไรของแกวะ”
“เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ แกพูดว่าอะไรนะ”
“ก็ ก็บอกว่าเหมือนแกตกหลุมรักใครแล้วไปทำร้ายก่อนจะรู้สึกผิดเลยทำร้ายตัวเอง”
อนยูเงียบไปเขาปล่อยมือของคยูฮยอนออกก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งแล้วเสหน้ามองออกไปที่อื่น
‘ถ้าฉัน..เป็นอย่างที่พวกนายว่าจริง....ฉันคงจะเลวมากในสายตาของเขา’
เยซองค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆความเจ็บปวดทีหลังดูจะทุเลาลงไปบ้างแล้ว เขามองไปรอบๆห้องแล้วก็ต้องหยุดอยู่ที่ร่างสูงของคนคุ้นตา
“ซึง...”
ยังพูดไม่ทันจบร่างสูงก็หันหลังกลับมาเสียก่อนร่างสูงรีบเดินเข้ามาหาร่างบางด้วยความดีใจ ร่างบางหลับไปนานมากมากเสียจนเขารู้สึกเป็นกังวล
“นายตื่นได้ซะที ฉันตกใจมากรู้มั๊ยที่นายหลับไปนานซะขนาดนั้น”
มือหนาเอื้อมมาจะจับใบหน้าของอีกคน แต่เยซองกลับเบี่ยงตัวหลบออกแล้วยิ้มอ่อนโยนให้
“ผมขอโทษ..แต่ผม.....”
“อืม ฉันเข้าใจ”
มือหนาเอื้อมไปลูบหัวของอีกคนด้วยความรัก เยซองเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงที่กำลังโน้มหน้าลงมา
“ถ้าฉัน...”
เยซองจ้องตาแป๋วกับคำพูดที่ซึงฮยอนกำลังจะพูดใบหน้าหวานขึ้นสีชมพูเล็กน้อยเมื่อคนตัวสูงใช้นิ้วมือไล้ไปมาตามริมฝีปากของตน
“ถ้าฉันจะขอนายแต่งงาน”
“...”
“นายจะว่ายังไง”
เยซองเงียบไปมือหนาเลื้อยไปมาตามใบหน้าหวานที่ดูมีสีหน้าตกใจและตามเหตุการณ์ไม่ถูก
“แต่ผม...”
“ฉันรู้เยซอง...แต่ฉันไม่ไว้ใจ”
“ไม่ไว้ใจ?”
“ไม่ใช่นาย..แต่เป็นอนยู”
เยซองหลบสายตาคมที่ก้มมองลงมาในดวงตาของตน หัวใจของเขากระตุกวูบมือเล็กพยายามปัดมือหนาที่จับอยู่ที่ริมฝีปากตน
“ผมขอตัวก่อน”
เยซองพยายามจะลุกอกไปแต่ความเจ็บที่หลังก็ทำให้เขาต้องอยู่นั่งนิ่งๆที่เดิม กะดูกสันหลังของเขาระบมหมดแล้วมั้ง
“อย่าเพิ่งลุกเลย ฉันเพิ่งเปิดหลังของนายดูมันบวมมาก เดี๋ยวเราจะไปหาหมอกัน”
ซึงฮยอนพูดเบาๆเยซองมองตาคมที่อ่อนโยนสำหรับเขาเสมอก่อนจะรีบหลบตาลงไป
ความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้เขาไม่กล้าที่จะมองสบตาซึงฮยอนต่อไปได้
แล้วเพราะอะไรเขาถึงรู้สึกผิด
เพราะอะไรกัน!!!!
ซึงฮยอนพาเยซองที่นั่งหน้าบึ้งตลอดทางมายังโรงพยาบาลที่เขาใช้มาตรวจสุขภาพเป็นประจำ เขาเหลือบมองร่างบางที่เอาแต่ทำหน้าเครียดและไม่ยอมคุยกับเขาทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้
“เยซอง”เขาลองเรียกดูเบาๆแต่ร่างบางกลับเดินนำหน้าเขาไปเสียเฉยๆและไม่มีท่าทีว่าจะหันหน้ามาหาเขาเลย ซึงฮยอนมองร่างบางที่เดินนำตนไปก่อนอย่างงงๆก่อนจะวิ่งตามร่างบางไปกระชากแขนเรียกสติของร่างบางให้กลับมา
“เป็นอะไรไปทำไมวันนี้เงียบจัง”
เยซองมองสบตาของร่างสูงความรู้สึกภายในใจมันไม่ได้เรียกร้องเหมือนแต่ก่อนมือเล็กเอื้อมไปแตะมือหนาเบาๆก่อนจะแกะออกแล้วกุมไว้แทน
“ขอผมคิดอะไรคนเดียวสักพักนะครับ”
ซึงฮยอนมองร่างบางที่ยิ้มให้ตนเขาตกใจและมองร่างบางอย่างไม่เข้าใจไหนเคยบอกว่าเวลามีอะไรจะมาปรึกษาเขาไง มีอะไรจะบอกเขาก่อนไงแล้วจะไม่เก็บไว้คนเดียวไง แต่เขาก็เถียงอะไรไม่ได้ต้องยอมปล่อยให้ร่างบางคิดอะไรอยู่คนเดียว
‘เยซอง...ฉันยังไม่เสียนายไปใช่มั๊ย’
ทั้งสองมาหยุดอยู่ที่หน้าของหมอประจำตัวซึงฮยอนไม่นานพยบาลคนสวยก็เดินเปิดประตูออกมาก่อนจะยิ้มให้ทั้งคู่และผายมือเชิญให้ทั้งคู่เดินเข้าไปด้านใน
“ไงซึงฮยอน”
“ไงชินดง”
เสียงทักทายเป็นกันเองทำให้พยาบาลสาวรู้ได้ทันทีว่านี่คือเพื่อนของคุณหมอชินดงที่เคยบอกว่าจะมาหาเธอยิ้มให้ทั้งสามก่อนจะขอตัวออกไป
“แล้วนั่นใครวะ”
“แฟนฉันเอง”
เยซองสะดุ้งกับคำว่าแฟนความรู้สึกไม่พอใจเล็กๆผุดขึ้นในจิตใจก่อนจะจางหายลงไปเขามองซึงฮยอนที่ยิ้มให้เพื่อนของเขาอย่างมีความสุขเวลาที่เอ่ยตอบว่าเขาเป็นอะไรกับเจ้าตัว
“แฟน?”
“เออ แฟนฉันเองชื่อคิม จงอุนหรือเยซองน่ะแหละที่เล่าให้ฟังไง”
เยซองค่อยๆเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะก้มหน้ามองพื้น
“ว่าแต่มานี่มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า”
ซึงฮยอนมองหน้าเพื่อนสนิทก่อนจะเสมองไปยังร่างบางที่มองมาที่เขาอยู่ก่อนแล้ว เพียงแค่สบตาร่างบางก็หันหน้าหนีไปทันที
“อืม..มีสิ”
“อ้อที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง แต่ไอ้อนยูมันก็จริงๆเลยนะดันกดไปที่กระดูกสันหลังของเยซองซะได้นี่ถ้าไม่รีบมาหาฉันล่ะก็ป่านนี้เยซองคงแย่แล้วแน่ๆ”
ชินดงที่พอฟังเรื่องราวทั้งหมดจากซึงฮยอนแล้วก็เอามือท้าวคางมองเยซองที่มองไปรอบห้องอย่างสนใจ
“อืม..แล้วเยซองเป็นยังไงบ้างวะ”
“ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอก แต่อย่าเพิ่งให้ทำงานหนักๆแล้วก็กินยาแก้อักเสบแค่นี้ก็พอแล้ว”
ซึงฮยอนพยักหน้ารับรู้ก่อนที่ชินดงจะบอกให้ทั้งสองไปรอรับยาที่ช่องจ่ายยาของโรงพยาบาล
ซึงฮยอนพาเยซองที่เดินห่างออกจากเขาไปมากโขเขามองร่างบางที่เดินตามหลังเขามาอย่างสงสัย เยซองเป็นอะไรไป
“เยซอง”เขาหยุดยืนก่อนที่จะเรียกร่างบางให้หันมา เยซองเงยหน้าขึ้นมองซึงฮยอนที่มองตนอยู่ก่อนแล้ว
“ครับ”
“นายเป็นอะไรไปน่ะ”
เยซองมองหน้าของซึงฮยอนที่มองเขาด้วนสายตานิ่งเฉยหากแต่แฝงไปด้วยความเจ็บปวดถึงมันจะไม่ชัดมากนักแต่เขาก็มองออกอยู่ดี
“เปล่าครับ..ผมไม่ได้เป็นอะไร”
“...”
ซึงฮยอนเอื้อมมือไปแตะไหล่ร่างบางแต่เยซองกลับเบี่ยงตัวหลบแล้วถอยห่างออกไปอีกนิด
“นี่คือหลักฐานว่านายกำลังเปลี่ยนไป”
“ผมไม่ได้เปลี่ยนไป”
เยซองเถียงทันควัน ซึงฮยอนมองร่างงบางที่ส่งสายตาแข็งกร้าวมาให้เขาเขายิ้มนิดๆก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างบางมากขึ้นกว่าเดิม
“นาย...กำลังนอกใจฉันหรือเปล่า”
“!!!”
“นาย..เลิกรักฉันแล้วหรือเปล่า”
เยซองมองใบหน้าคมของร่างสูงที่กำลังเขยิบเข้ามาหาเขาใกล้ขึ้นกว่าเดิม
“ฮ่ะๆฉันอาจจะคิดไปเองก็ได้”
ซึงฮยอนถอยหน้าห่างออกไปแล้วเดินนำร่างบางไปเรื่อยๆเขาไม่หันกลับมามองร่างบางอีกมือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋าแต่ใครจะรู้ว่าเขากำลังกำมือเข้าหากันจนเส้นเลือดปูดขึ้นมา
เยซองมองร่างสูงที่เดินห่างออกไปไกลเขายิ้มให้ตัวเองอย่างสมเพช
“เป็นอะไรไปเยซอง..ปกตินายเป็นอย่างนี้ไม่ใช่เหรอไง”
เขาเดินตามซึงฮยอนไปช้าๆ
ซึงฮยอนบอกให้เยซองนั่งรอเขาก่อนหลังจากที่ทั้งคู่รับยาเสร็จเพราะเขาจะไปเอารถและจะมารับร่างบางอีกที เยซองนั่งรอซึงฮยอนที่สวนในโรงพยาบาลเขามองไปรอบตัวอย่างสนใจเหล่าหมู่มวลดอกไม้ที่มีหลากหลายสีถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว
“มาคนเดียวหรือครับ”
เยซองกำลังจะหันไปดูว่าใครมาทักเขาแต่พอหันไปก็โดนมือหนายื่นมือที่มีผ้าเช็ดหน้าเข้ามาปิดที่จมูกเขาสูดดมอะไรบางอย่างในผ้านั่นก่อนที่ความมืดจะเข้าคุกคามความรู้สึกทั้งหมดและเขาก็ค่อยๆหมดแรงจนโลกทั้งใบมืดมิดไปหมด
TBC
09/01/2553
วู้วๆๆๆ\^O^/แต่งเสร็จแล้วดีใจมากมาย
อยากรู้กันใช่มั๊ยล่ะว่าใครเป็นคนทำ หึๆ
อยากรู้แต่ก็ไม่บอกฮ่าๆ ตามกันต่อเองนะจ๊ะ
ขอโทษที่มาต่อให้ช้าเพราะว่าติดเรียน ช่วงนี้รู้สึกหัวสมองไม่แล่น
เพื่อนเลยบอกว่าให้ซื้อเปบทีนมากิน วันนี้เพิ่งไปซื้อมากินแล้วแบบ
รสชาติแบบ...=_=เฮ้อ..แต่พอกินแล้วก็รู้สึกหัวสมองมันแล่นๆนะ
เพื่อนบอกว่าต้องกินทุกวันแล้วหัวสมองมันจะดีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
กวาเลยจะให้แม่ซื้อมาให้กินอีก ลองไปซื้อมากินกันดูนะ :)
ความคิดเห็น