คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : [SF TEUKYE]Sorry ขอโทษครับ...ผมรักแฟนเพื่อน:2
SHORT FICTION TEUKYE-Sorry ขอโทษครับ...ผมรักแฟนเพื่อน:2
Actor : LEETEUKxYESUNG
Author : YESUNGFANCLUB
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
คำพูดที่ยากเกินกว่าจะพูดออกมาได้ดันพูดไปซะแล้ว แต่ก็ดีแล้วนี้อีทึก ดีแล้วเยซองจะได้จากนายไปซะที ดีแล้วไม่ใช่เหรอ..แล้วจะมาเสียใจทำไม มาเสียใจทำไม...
เยซองอึ้งไปเล็กน้อย ใบหน้าหวานก้มลงต่ำมือเล็กกำเข้าหากันแน่น เสียงสะอื้นหายไปแล้ว แต่น้ำตาก็ยังคงไหลลงมาไม่หยุด
..ผมเข้าใจผิดเอง ว่าพี่ก็มีใจให้..
..ผมเข้าใจผิดเอง ว่าพี่รักผม..
..ผมเข้าใจเรื่องทุกอย่างผิดไปเอง..
เยซองหันหลังเดินกลับไป ทิ้งไว้แต่คนร่างสูงที่ไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป ต้องแกล้งทำเป็นว่าไม่รัก ต้องแกล้งทำเป็นว่าไม่สนใจ ต้องแกล้ง...ทำเป็นเกลียด ทั้งๆที่รักอย่างหมดหัวใจ ทั้งๆที่อยากอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา ทั้งๆที่ไม่เคยเกลียด...
เยซองเดินกลับมาหอพักด้วยสภาพทรุดโทรม พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นใบหน้าสวยๆของพี่ฮีชอลที่เดินเข้ามาหาเขา เยซองหลบสายตาที่จ้องมองมาก่อนจะหลีกตัวเพื่อเดินเข้าห้องของตัวเองไป เขายังไม่อยากเจอใครตอนนี้ โดยเฉพาะพี่ฮีชอล
ฮีชอลที่เห็นร่างบางกำลังจะเดินไปก็คว้าเข้าที่ต้นแขนของร่างบาง ก่อนจะดึงตัวเข้ามาหา
“นายเป็นอะไร เยซอง”
“...”เยซองเลือกที่จะเงียบ เขายังไม่อยากตอบคำถามของใครทั้งนั้น
“อืม..พี่เข้าใจ อยากร้องไห้หรือเปล่า”เยซองเงียบ ร่างบางเสหน้ามองออกกไปทางหน้าต่าง
“ถ้าไม่อยากให้ใครเห็น เข้าไปร้องไห้ที่ห้องของพี่มั๊ย”
ฮีชอลคงจะคิดผิดที่พาเยซองเข้ามาในห้องของเขาและอีทึก ตัวเขาเองลือไปว่านี่เป็นห้องของเขาและอีทึก เขาพาเยซองเดินเข้ามาในห้องก่อนที่จะกดตัวเยซองให้นั่งลงข้างๆตัวเขา
ร่างบางมองไปยังภาพของใครอีกคนที่เป็นเจ้าของห้อง
“ร้องไห้เถอะ อย่าเก็บเอาไว้เลย”
ฮีชอลคว้าตัวของเยซองเข้ามากอดไว้แนบอก สักพักตัวของร่าบางก็สั่นจากแรงสะอื้นเขารับรู้ถึงความเปียกชื้นที่เสื้อของเขาที่มันกำลังทำหน้าที่รองรับน้ำตาที่มากมายของร่างบาง
อีทึกที่เพิ่งจะกลับมาถึงหอพักก็เดินไปนั่งที่โซฟาในห้องนั่งเล่น เขาเอนกายลงบนโซฟาตัวหนานุ่ม ภาพที่เขาทำร้ายจิตใจของร่างบางยังคงชัดอยู่ในหัวสมองราวกับมีคนมาฉายภาพให้เขาดูซ้ำไปมา
แกร๊ก!
ประตูห้องของเขาถูกเปิดออกโดยเพื่อนร่วมห้องที่เดินออกมา เขารู้ดีว่าตัวเองต้องเจอกับอะไร แต่ตอนนี้เขายังไม่พร้อม
“อยู่ตรงนั้นแหละ มีเรื่องจะพูดด้วย”
ฮีชอลที่เห็นว่าร่างบางหลับไปแล้วเลยเดินออกมาข้างนอกเพื่อรอคุยกับใครบางคน แต่ไม่นึกว่าพอออกมาก็จะเจอพอดี
“...”อีทึกนั่งนิ่ง รออีกคนที่กำลังเดินมาทางเขาก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เอนกายพิงพนักโซฟา ยิ้มน้อยส่งให้เขา
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”ฮีชอลถามเพื่อนร่วมวงที่หันมามองหน้าของแล้วทำหน้าเข้าใจยาก
“เรื่องมันเป็นยังไงฉันไม่รู้หรอกนะ แต่แค่อยากจะบอกว่าเยซองนอนอยู่บนเตียงของนาย”
อีทึกตกใจเล็กน้อยก่อนที่จะกลับมานิ่งดังเดิม
“What do you think”ฮีชอลถามขึ้นมาเป็นภาษาอังกฤษ วันนี้หมอนี่มาแปลกแฮะ ความคิดของอีทึกที่ดูว่าจะขำกับอาการของคนตรงหน้า
“ฮ่ะๆ ตลกใช่มั๊ยล่ะที่เห็นฉันถามแบบนั้น แต่นายต้องตอบฉันมาอีทึก”
“Love your fans”เมื่อฮีชอลถามเป็นภาษาอังกฤษเขาก็ต้องตอบเป็นภาษาอังกฤษถึงจะถูกใช่มั๊ย
“หึๆ เยซองไม่ใช่แฟนของฉันและเขาไม่มีทางเป็นแฟนของฉันได้ เพราเขาไม่ได้รักฉันเหมือนใครแถวนี้ อีทึกนายทำร้ายจิตใจแฟนตัวเองได้ดีเยี่ยมมาก ฉันล่ะนับถือแกจริงๆ”
อีทึกหัวเราะเบาๆกับคำชมของฮีชอล
“ถึงนายจะทำร้านจิตใจของเยซองมากเท่าใด เยซองก็จะยิ่งเจ็บปวดมากเท่านั้น คนเราน่ะนะถ้าลองได้รักใครไปแล้ว มันก็ยากที่จะทำให้เลิกรักได้ ฉันรู้ว่าเยซองปวดร้าวเหลือเกิน เขารักนายไม่ใช่ฉันเข้าใจมั๊ย”ฮีชอลหันไปจ้องหน้าของหัวหน้าวงที่ยังคงนั่งนิ่ง
“แค่เพียงวินาทีเดียวที่นายหันหลังให้เยซอง เขาก็เจ็บจนไม่รู้จะพูดว่ายังไงแล้ว นาย..พูดจริงเหรอว่าไม่ได้รักเยซอง เกลียดเขานายพูดได้เต็มปากเหรอ”
“ฉันไม่รู้ว่านายจะทำยังไงต่อนะ แต่ฉันอยากจะพูดในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง เยซองรักนายมาก มากเสียจนไม่สามารถเดาได้เลยว่ามันมากแค่ไหน กลับไปหาเยซองเถอะ กลับไปทำความเข้าใจ อย่ามัวแต่มานั่งโง่คิดเสียสละเป็นพระเอกอยู่เลย”ฮีชอลพูดจบก็จ้องมองใบหน้าเพื่อนร่วมวงที่กำลังมองหน้าเขา
“ฉันไม่ได้คิดที่จะเป็นพระเอก เพราะเรื่องนี้มันไม่ได้เป็นละครน้ำเน่าที่ตอนหลังพระเอกต้องมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ฉันไม่ได้เหมือนพระเอกละคร”อีทึกตอบกลับบ้าง เขาไม่รู้ว่าเพื่อนคนนี้คิดจะทำอะไร แต่ยังไงเขาก็ทำแบบนั้นไม่ได้
“แกมันโง่อีทึกทั้งๆที่รักมากแต่ยังทำมาเป็นเสียสละ เลิกเล่นละครน้ำเน่าได้แล้ว เห็นแล้วมันชวนอ้วกว่ะ”ฮีชอลตอบกลับไปบ้าง อีทึกเงียบไป เขาตอบอะไรคนตรงหน้าไม่ได้เลย
“เรื่องนี้มันมีแค่นายกับเยซอง ตัวประกอบอย่างฉันมันก็ทำได้แค่เพียงตัวประกอบ”
“นายจะบอกว่าให้ฉันไปบอกรักเยซองงั้นหรอ”
“ถ้าจะบอกว่าใช่แล้วนายจะเชื่อหรือเปล่า”
“ทั้งๆที่นายเองก็จะเจ็บไม่ต่างจากฉัน”
“ไม่เลยคนที่เจ็บไม่ใช่แค่ฉันคนเดียว คนที่เจ็บคือเราสามคน นาย ฉันและเยซอง ถ้าสามมุติว่านายให้ฉันไปคบกับเยซองแล้วนายเลือกที่จะเจ็บเพียงคนเดียว แล้วนายไม่คิดเหรอ ว่าเยซองเองก็จะเจ็บเช่นกัน แล้วฉันเองก็ด้วยเพราะเยซองรักนายไม่ใช่ฉัน การเห็นคนที่เรารักเจ็บปวด มันไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะ”
“นายเลือกที่จะเจ็บคนเดียวหรือไง”
“ก็บอกแล้ว ว่าเรื่องนี้มันเป็นของนาย นายก็ต้องดำเนินตอนจบด้วยตัวเองสิ”
“หมายความว่าไง”
“นายคือคนที่เยซองรัก และเยซองก็คือคนที่นายรักถูกมั๊ย เพราะฉะนั้นไปทำให้เยซองมีความสุขเสียที”
“ฉันไม่เข้าใจ”
“ไอ้โง่เอ๊ย..ก็ไปบอกรักเยซองสิอย่ามัวแต่มานั่งนิ่งแบบนี้”
“เลิกทำตัวเป็นพระเอกที่ทำให้ฉันดูเหมือนตัวร้ายของละครได้แล้ว ฉันไม่ชอบ เรื่องของนายนายก็ต้องกำกับเอง ทำตอนจบให้สวยหวานทีเถอะ”
ฮีชอลเดินจากไปแล้ว ทิ้งไว้ก็แต่ร่างของใครอีกคนที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมกำลังนั่งคิดว่าจะทำยังไงดีเยซองถึงจะให้อภัย พึ่งจะบอกว่าเกลียดไปแท้ๆ
...เอาวะ เป็นไงเป็นกัน...
อีทึกลุกขึ้นยืนก่อนที่จะตรงไปที่ห้องของตัวเองที่ตอนนี้กำลังมีร่างบางหลับใหลอยู่ เขาเปิดประตูออกช้าๆแล้วเดินตรงไปที่เตียงของเขาซึ่งมีร่างของใครบางคนนอนอยู่ เขาเดินตรงไปก่อนจะหย่อนกายนั่งลง
คนบนเตียงสะดุ้งเล็กนาย บิดกายแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ พอตาเริ่มชินแสงก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหน้าของผู้เข้ามาใหม่
“ขอโทษครับ ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้”ร่างบางลุกขึ้นยืนกำลังจะเดินออกไปแต่โดนอีทึกโอบรอบเอวแล้วดึงมานั่งลงบนตักของตน เยซองดิ้นอยู่ในอ้อมกอดนั่น ก่อนที่จะหยุดเพราะแรงเริ่มหมดแล้ว
“อย่าทำแบบนี้ถ้าพี่ฮีชอลมาเห็น...”
“ฉันรักนาย”
ยังพูดไม่ทันจบก็โดนสวนขึ้นมาซะก่อน ดวงตาเรียวเล็กเบิกกว้างมือที่เคยแกะมือหนาออกหยุดลงเป็นการกุมเอาไว้หลวมๆแทน
“อะไรนะ”
“ฉันรักนาย”
“อย่ามาล้อเล่นนะ มันไม่ขำ”
“ก็ไม่ได้จะล้อเล่น”
“มันไม่ขำ”
“มันไม่ขำ”
“พี่ว่าอะไรนะ”
“พี่รักนาย”
“...”
ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วบริเวณช้าๆ เยซองนิ่งเงียบไปอีทึกอุ้มร่างบางมาวางไว้ข้างๆตนก่อนที่จะยิ้มอ่อนโยนให้
“ผมรักเยซอง”
“...”
แล้วเลื่อนหน้าไปใกล้
“ผมรักคุณ”
ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบเข้าหากัน เยซองที่ไม่ทันตั้งตัวเผยอปากออกทำให้อีทึกส่งลิ้นร้อนเข้าไปข้างในโพรงปากเล็กก่อนที่จะชอนไชเก็บเกี่ยวความหอมหวานไปทั่ว เยซองที่ตอนแรกไม่ยอมกลับต้องยอมโอนอ่อนตาม มือเรียวยกขึ้นโอบรอบคอของอีทึกไว้ ลิ้นเล็กพยายามตอบสนองเต็มที่ ลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวกระหวัดแลกเปลี่ยนความหอมหวานซึ่งกันและกัน รสจูบที่แสนหอมหวาน อ่อนโยนและนุ่มละมุน ความรู้สึกราวกับอยู่บนปุยเมฆ ทุกอย่างยังคงดำเนินต่อไปถ้าเกิดไม่มีมือเล็กๆของคนตรงหน้าที่เริ่มประท้วงว่าตัวเองเริ่มไม่ไหวแล้ว ทำให้อีทึกจำต้องถอนจูบออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
“เยซอง พี่ขอโทษที่ทำร้ายนายที่บอกว่าเกลียดมันไม่ใช่เรื่องจริง ที่บอกว่ารักแบบน้องชายก็ไม่ใช่เรื่องจริง พี่ไม่รู้จะทำยังไงให้นายหายโกรธทำได้แค่เพียงขอโทษ พี่รูว่านายไม่ให้อภัยพี่แน่แต่ถึงยังไงพี่ก็ยังคงต้องพูดมันออกมาอยู่ดี...”
“...”
“..ให้อภัยพี่ได้มั๊ยครับคนดี”
“..”
“ให้อภัยในสิ่งที่พี่ผมลงไป ขอโทษถ้าทำให้เจ็บ พี่รับอาสาเป็นหมอมาดูแลหัวใจดวงนั้น อยู่ที่ว่านายจะยอมหรือเปล่า...”
“...”เยซองไม่ตอบแต่กลับดึงคนตรงหน้าเข้ากอดอีกครั้งน้ำใสๆไหลเอ่อล้นลงมาจาดตาคู่สวย ไม่ใช่เพราเสียใจหากแต่ดีใจต่างหาก
อีทึกกอดตอบคนรัก เขารู้แล้วว่านี่คือสิ่งที่ฮีชอลอยากให้เขาทำ..
ขอบใจนายมาก..ฮีชอล ขอบใจในทุกๆอย่าง
“เยซอง หวังว่านายคงมีความสุข”
THE END
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
คุยกันหน่อย
คงจะรู้นะว่าประโยคสุดท้ายคือของใคร- -ตอนนี้ออกแนวหวาน
(หรือเปล่า)พอได้แต่งอะไรหวานๆทีมันก็จะหวานไปตลอด โฮะๆ
คู่ต่อไปคือเยทึก..เอ่อเพิ่งจบทึกเยไปต่อเยทึกเลยเรอะ ทำไงดีหว่า
T-Tอยากร้องไห้ มันจะออกมาแนวไหนล่ะเนี่ย เฮ้อ~สู้โว้ย^^O
รักคนอ่านไปล่ะนะ จุ๊ฟๆ ^.^
ความคิดเห็น