คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : [SF KYUYE]สัญญาสิครับ
SHORT FICTION KYUYE–สัญญาสิครับ
Actor : KYUHYUN x YESUNG
Author : YESUNGFANCLUB
เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากหอพักของกลุ่มนักร้องชื่อดังของเกาหลี ที่มักจะเป็นที่รักของใครหลายๆคนที่พบเห็น และที่เอะอะโวยวายกันอยู่นั้นก็คงไม่พ้น...เรื่องอาหาร
“อีไก่!!!!!!!!!!”
เสียงเจ้าแม่ประจำวงดังขึ้นแล้วตามมาด้วยหมอนอิงใบหนึ่งที่ลอยฟิ้ว~!ข้ามหัวของเยซองไป ดีที่เขาหลบได้อย่างหวุดหวิดไม่งั้นล่ะก็เขาเนี่ยแหละที่จะโดนหมอนใบนั้นเอง
“อะไรของพี่เนี่ย...พี่ฮีชอล มาวิ่งตามผมทำไม!”
“แล้วแกมาแย่งกินไก่ของฉันทำม๊ายยยยยย~”
เป็นอย่างงี้แทบ(จะ)ทุกวัน ถ้าไม่เรื่องทะเลาะกันเพราะแย่งกินไก่ก็ต้องแย่งกันว่าวันนี้จะทำอะไรกินดี...เฮ้อ~เย่ล่ะเซ็ง
“เยซองนายไม่ไปกินข้าวเหรอ”เสียงทุ้มๆแต่แฝงความเป็นห่วงดังขึ้นจากข้างหลังของเขา แต่ใครจะสนหล่ะก็ตอนนี้เขากำลังเล่นเกมอย่างเมามันอยู่หนิ
ไม่ตอบและไม่แม้แต่จะใส่ใจ...
คนตัวโตกว่าที่เห็นว่าเจ้าตัวเล็กข้างหน้าเขามัวแต่เล่นเกมอย่างไม่ลืมหูลืมตาก็ได้แต่เอือมระอา เพื่อนของเขาแต่ละคน...เฮ้อ~
“คยูฮยอนนายไปดูไอ้เย่มันทีดิ๊ แม่งเอาแต่เล่นเกมไม่สนใจฉันเลย”
คังอินบ่นเอามือเท้าคางกับโต๊ะ ฮึ่ย!เดี๋ยวก็จับกดให้เป็นเคะซะเลยนี่...ไอ้เปา
คยูฮยอนที่มองรุ่นพี่ร่างอวบของตนก็เหลือบไปมองที่โทรทัศน์ซึ่งมีใครคนหนี่งซึ่งร่างบางกว่าเขา หน้าหวานกว่าเขา กำลังเมามันกับไอ้เกมที่เขาเพิ่งสอนไปเมื่อวาน...ท่าจะติดใจแฮะ
ไม่อยากไปยุ่งด้วยเลย กลัวพี่แกจะอาละวาดใส่ แต่ก็ขัดบัญชาของพี่หมีใหญ่ของวงได้
เลยตัดสินใจลุกออกมาจากโต๊ะกินข้าวเดินเข้าไปหาเยซองที่เอาแต่นั่งกดจอยส์เกมอยู่อย่างไม่สนโลก
“พี่เยซอง”เรียกเบาๆ แต่ก็ยังเฉย
“พี่เยซอง”เรียกดังกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ผลที่ได้ก็คืออย่างเดิม
“พี่-เย-ซอง”พูดจบก็เอื้อมมือไปคว้าจอยส์เกมมาถือไว้ซะเลยทำเอาคนที่กำลังเพลิดเพลินถึงกับฉุนกึกขึ้นมาทันที
“ทำบ้าอะไรของนาย คยูฮยอน!!!”ตะโกนใส่หน้าเจ้ามักเน่13ที่บังอาจมาแย่งของรักของเขาไป
“ก็พี่ไม่สนใจผม เอาแต่นั่งเล่นเกมอยู่นั่นแหละ”ตอบกลับแบบไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
“ก็ฉันเงียบให้นายพูดต่อแล้วทำไมนายไม่พูดเล่า”
“จริงหรอ...พี่รู้มั๊ยว่าพี่ติดเกมมากกว่าผมซะอีกนะ”พูดแล้วยิ้มให้ ทำเอาอีกคนแอบหวั่นไหวไปกับรอยยิ้มนั่นเล็กน้อย
“มีอะไร”ถามกลับไปทั้งๆที่จ้องจอยส์เกมไม่วางตา
“พี่คังอินเรียกไปทานข้าวครับ”ตอบแล้วเอาจอยส์เกมไปเก็บไว้กับตัวกันอีกคนคว้าไป
“ไม่หิว เอาของๆฉันคืนมานะ”พูดแล้วพยายามแย่งเอาของๆตัวเองแต่เอื้อมยังไงก็ไปไม่ถึงถมยังเสียท่า โดนกอดแบบไม่รู้ตัวซะอีก
“พี่โดนจับแล้ว...”คยูฮยอนก้มลงมากระซิบเสียงพร่าใส่หูคนตัวเล็กกว่าทำเอาขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
“ด..โดนเรื่องอะไร”ถามเสียงสั่น เป็นครั้งแรกที่โดนกอดแบบนี้
จะไม่ให้สั่นเห็นทีจะไม่ได้ ก็ตอนนี้เขาอยู่ภายใต้อ้อมกอดของเจ้าน้องเล็กของวงนะ อีกอย่างเกิดมาเขายังไม่เคยถูกใครกอดระยะประชิดแบบนี้เลย..จะไม่ให้เขินก็กระไรอยู่
“ข้อหาติดเกมเกินขนาดครับ”ตอบแล้วยิ้มอีกเหมือนเคย
“มันไม่มีอยู่ในกฎหมายนะ”ถามแล้วพยายามผลักคนตรงหน้าออกยิ่งผลักกลับยิ่งรัดแน่นขึ้น
“แต่มันมีในกฎของเราไงครับ”
ประโยคเมื่อกี้ทำเอาเยซองใจสั่นขึ้นมาซะเฉย เขาเป็นอะไรเนี่ยหน้าร้อนผ่าวแปลกๆ เจ้าเด็กนี่กำลังเล่นอะไรกับเขากันมาพูดให้หวั่นไหวทำไม!?
ไม่เพียงแต่เยซองที่ใจสั่นและก็หน้าแดงคยูฮยอนก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกันเขารู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมาทันที เฮ้อ~เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอเนี่ยแหละคนที่ทำเอาเขาใจเต้นไม่หยุด
“อ..เออเดี๋ยวฉันไปขอปิดทีวีก่อน”ตอบแล้วผลักอกแกร่งนั่นออกห่างตัว ก้มหน้างุดๆปิดบังใบหน้าของตัวเองเต็มที่
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวผมปิดให้ พี่ไปกินข้าวแล้วพี่คังอินรออยู่”
คยูฮยอนรู้สึกเจ็บแปลกๆเมื่อพูดถึงอีกคน เขารู้ตัวเองดีว่าเป็นอะไร
“แต่ฉัน...”ว่าจะเถียงกลับแต่โดนมือของไอ้เด็กหื่นยื่นมาปิดปากของเขาเอาไว้
“ถ้าพี่ยังเถียงไม่เลิก ผมจะกดพี่ซะ”พูดทีเล่นทีจริง แต่ทำเอาเยซองกลัวจนแทบอยากจะฆ่าคนตรงหน้า ฮึ่ย!เขาเป็นเมะนะ มาพูดงี้ได้ไง
“ฉันตังหากที่ต้องกดนายไม่ใช่นายมากดฉัน!”พอมือที่ปิดปากของตนอยู่ออก ก็รีบแย้งทันที ไอ้เด็กบ้า อย่ามาทำเหมือนเขาเป็นเคะเซ่!
“แน่ใจหรอครับ ว่าจะกดผมได้”ถามอย่างใสซื่อ หึๆอย่างพี่น่ะหรอ จะมากดผมพี่เยซอง
“อ...เออ!”ตะโกนใส่หน้ารุ่นน้องร่วมวงแล้วเดินกระทืบเท้าปึงปังออกจากห้องไปทันที
“หึๆ แล้วเราจะได้เห็นกันว่าใครจะกดใครกันแน่....พี่เยซอง”
เยซองเดินมาที่ห้องครัวแล้วตบโต๊ะกินข้าวดัง ปั้ง! ก่อนที่จะลากเก้าอี้มานั่งลง หน้าตาบูดบึ้งอย่างเห็นได้ชัด
“เป็นอะไรวะ”
“ก็ไอ้เด็กบ้าคยูฮยอนน่ะสิ...”
“ผมทำไมครับ”
เจ้าตัวการที่เยซองกำลังจะนินทาก็เดินเข้ามาทันทีแล้วเอื้อมมือไปกอดเยซองไว้หลวมๆ
“คยูฮยอน!!!!!”เยซองตะโกนซะดังลั่นบ้าน ทำเอาคังอินที่กำลังดื่มน้ำ สำลักออกมาทันที
“แค่กๆ ไอ้เย่ แกจะตะโกนทำไม”คังอินประท้วงทันที ถ้าเขาสำลักน้ำตายจะทำไงดีเนี่ย
“หุบปากคังอิน!!!!”เยซองตะโกนขึ้นมาทันที ตอนนี้เขากำลังโมโห อีเด็กบ้านี่ทำอย่างกับเขาเป็นเคะงั้นแหละ ถึงได้กอดเอาๆแบบนี้
“พี่เยซองโมโหอะไรครับ”คยูฮยอนถามแบบเด็กน้อยที่ไม่รู้ความผิด แต่เยซองนี่สิแทบจะพ่นไฟออกจากปากได้อยู่แล้ว
“ก็นายมากอดฉันทำไมเล่า”
“ก็ผมอยากกอด”ตอบคำถามได้ดีมากขอบใจนะ คยูฮยอน
เยซองแทบจะกระอักเลือดตาย ดูสิพี่อีทึกมองเขาด้วยสายตาแปลกๆแล้วเห็นมั๊ยเล่า
“พี่ไม่เคยนึกเลยนะว่านายจะเป็นเคะน่ะ เยซอง”อีกทึกพูดเสียงหื่นทำเอาคนฟังขนลุกทันที
“พี่อีทึก ผมเป็นเมะนะ!”เถียงกลับแทบไม่ทันแหนะ
“นายยังไม่รู้อีกเหรอเยซอง”เป็นคราวของฮันกยองบ้าง ถึงเขาจะแอบมองฮีชอลอยู่แต่กับเยซองนี่ก็อีกแบบนะ
“ฮันกยอง หุบปาก!”
เยซองพยายามจะลุกขึ้นยืนแต่พอเห็นคยูฮยอนมองด้วยสายตาเคืองเหมือนเขาไปขัดใจอะไรสักอย่าง
“แล้วพี่อยากรู้มั๊ยว่าพี่เป็นอะไร”คยูฮยอนถามคนที่เอาแต่จ้องหน้าของเขาแล้วจ้องตาสีรัตติกาลนั่น ราวกับจะล้วงลึกไปถึงจิตใจ
“…”เยซองเงียบ เขาจะตอบว่าอะไรดีหล่ะ เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าที่จริงแล้วเขาเป็นเมะหรือเคะกันแน่ แต่เขากลับไปตะโกนปาวๆว่าเขาเป็นเมะเพราะจะได้ไม่ต้องมีใครคอยมาป้วนเปี้ยนให้รำคาญใจ
คยูฮยอนค่อยๆเลื่อนหน้าลงมาใกล้เยซองเรื่อยๆ เขารู้สึกแค่เพียงว่าเขาต้องการจูบคนตรงหน้า
เยซองที่เหมือนโดนสะกด ยิ่งจ้องมองดวงตาดวงนั้นยิ่งรู้สึกราวกับกำลังโดนสะกดจิต
“นี่พวกแกน่ะ จะทำอะไรกันก็ไปทำที่อื่นสิ”เสียงของฮีชอลดังขึ้นมา เยซองที่พอจะได้สติก็รีบผลักคยูฮยอนออกห่างทันที
เมื่อกี้ถ้าพี่ฮีชอลไม่ทักหล่ะก็ เขาได้โดนจูบต่อหน้าสมาชิกคนอื่นๆแล้วแน่ๆ
“พี่เยซอง ผมมองพี่แค่นี้ก็รู้แล้ว ว่าพี่น่ะเป็นเคะ”เรียวอุคน้องรักพูดขึ้นบ้าง เขาเหลือบสายตามองเยซองนิดนึงแล้วหัวเราะออกมาเบาๆที่เห็นว่าพี่เขากำลังหน้าแดง
“พูดมากน่า”แต่มีหรือที่คนหัวดื้ออย่างเยซองจะยอมรับน่ะ ฝันไปเถอะ
“พี่เยซอง งั้นพี่ลองมองตาของผมดูสิ แล้วบอกออกมาว่าพี่รู้สึกยังไง”คิบอมเดินออกมาจากกระทะที่เขากำลังทอดไข่อยู่ มาหยุดยืนอยู่หน้าเยซองแล้วเอื้อมมือไปจับใบหน้าซาลาเปานั่นให้หันมาทางเขา แล้วเริ่มเกมจ้องตาทันที
เยซองที่ไม่เคยโดนแบบนี้มาก่อนก็ดูตกใจเล็กน้อย แต่พอจ้องเข้าไปในดวงตาของคิบอมเขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย มันออกแนวเฉยๆเสียด้วยซ้ำ
“พอเถอะคิบอม ฉันรู้สึกเฉยๆ”เยซองตอบออกไปอย่างที่ตนคิด ก็จริงนี่นา เขารู้สึกอย่างงี้จริงๆนะ
“ง่ะ...นึกว่าพี่จะเคลิ้มแบบไอ้ยาคู๊ซะอีก”คิบอมพูดแล้วปล่อยเยซองทันที
“ฮ่ะๆ ก็ฉันบอกแล้วว่าฉันเป็นเมะ”ตอบออกไปอย่างเต็มคำ แต่พอมองไปที่หัวหน้าวงคนสวยกลับได้สายตาหื่นกามมาแทน เอ่อ...เขาจะปลอดภัยมั๊ยเนี่ย
“งั้นผมไปนะ ไม่กินแล้วข้าวน่ะ ไม่หิว”พูดด้วยความรวดเร็วแล้วรีบเดินจ้ำๆออกไปทันที ถ้าอยู่ตรงนั้นนานๆมีหวังพี่อีทึกกินเขาแทนข้าวแน่ๆ แต่ที่จริงแล้วเขาต้องกินพี่อีทึกเซ่ ถึงจะถูก
ทางด้านสมาชิกที่เหลือ เมื่อเห็นว่าเยซองไม่อยู่แล้ว ก็รีบเปิดประเด็นคุยกันทันที
“ฉันว่านะ เยซองดูแปลกๆนะ มันบอกว่ามันเป็นเมะ แต่ไหงกลับเคลิ้มเวลาจ้องตากับคยูฮยอนหล่ะ”ฮีชอลเปิดประเด็นคนแรก ที่เหลือก็ได้แต่พยักหน้าหงึกหงักๆตาม
“งั้นฉันจะทดสอบให้เอามั๊ย”อีกทึกเสนอ
“ไม่ต้องเลย ฉันรู้แกคิดอะไรอยู่”ฮีชอลตอบกลับเขาไม่ยอมให้น้องชายของเขาโดนอีทึกกดหรอกนะ
“ง่ะ ฮีชอลอ่า~”เมื่อถูกขัดก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ฮีชอลน่ะหวงเยซองจะตายไป(เหรอ?)
“ฉันเองๆ”ถึงคราวหมีออกโรงบ้าง แต่กลับได้สายตาอาฆาตมาแทนคำตอบ
“เค้าขอโทษ”รีบพูดแทบไม่ทัน
“แล้วจะทำไงดี เยซองถึงจะรู้ซะทีว่าตัวเองน่ะเป็นเคะ”ซองมินนั่งเอาคางเกยไว้บนไหล่ของเรียวอุค เรียวอุครีบผลักหัวซองมินออกไปทันที
“อย่ามาทำอะไรบ้าๆแบบนี้นะ”พูดเสียงเบาแบบเขินๆ
สมาชิกคนอื่นๆได้แต่มองตามแบบอิจฉา
“งั้นฉันว่า...ลองให้คยูฮยอนเข้าไปอยู่ใกล้ๆเจ้าเย่มันดูดิเผื่อบางที
มันจะได้รู้วะทีว่ามันเป็นเคะ แล้วพอมันรู้เมื่อไหร่ ฉันเนี่ยแหละที่จะเผด็จศึกมันเอง วะฮะฮะฮ่า”ฮันกยองบอกแล้วทำสีหน้าเอาจริงสุดๆ หึๆ เมื่อฮีชอลไม่เคยเหลือบมองเขา เขาก็ต้องหาคนใหม่มาแทนที่
“ไม่ต้องเลยไอ้มังกรหื่น แต่แผนแกมันใช้ได้ว่ะ เอางี้หล่ะกันนะ คยูฮยอนนายลองไปตีสนิทกับไอ้เย่ดูดิ๊ว่ามันจะรู้สึกยังไง แล้วเราค่อยมาต่อแผนอื่นอีกที”ฮีชอลพูดอีกครั้งก่อนที่ทุกคนจะพยักหน้าเห็นด้วย
“ตกลงตามนี้แหละ”ทุกคนพูดออกมาก่อนที่จะมองหน้ากันแบบเอาจริงสุดๆ ดูท่าว่าคราวนี้พี่เย่ของเราจะเจอศึกหนักซะแล้ว....
เยซองที่พักนี้รู้สึกแปลกๆ จะไม่ให้แปลกได้ไงหล่ะก็เจ้าคยูฮยอนยี่สิ เอาแต่เดินตามเขาต้อยๆอย่างไม่ห่างสายตา เวลาคังอินมาคุยกับเขาเจ้าเด็กนี่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมทุกครั้ง
เช่นเมื่อวาน...
“เยซอง เราไป...”
“ไม่ได้พี่เย่ไม่ว่าง!!!!”คยูฮยอนตะโกนขัดทันที เยซองก็ได้แต่อ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น อิเด็กนี่เป็นใครถึงมาตัดสินเขา
แล้วก็พี่อีทึก...
“เย่จ๋า~ไปจัดคิสด้วยกันนะวันนี้”
“พี่เย่เขาขอให้ผมสอนเล่นเกมให้น่ะ”อีกแล้ว เจ้าเด็กบ้านี่อีกแล้ว พอเขาถามว่ามีสิทธิ์อะไรมาตัดสินชีวิตเขาอย่างนี้ หมอนี่กลับตอบมาว่า...
“ก็เพราะพี่เป็นคนของผม”
เฮ้อ~อยากจะบ้าตาย เวลาเขาจะเข้าห้องน้ำอีเด็กนี่ก็จะตามเข้าไปด้วย ดีที่เขาห้ามทันไม่งั้นเด็กบ้านี่ต้องเข้าไปเฝ้าเขาแน่ๆ
อึดอัดๆจริงๆนะ แต่เขาก็เริ่มรู้สึกว่าหัวใจตัวเองเป็นแปลกๆเวลามีเจ้าเด็กนี่มาอยู่ใกล้ๆ หรือที่จริงแล้วเขาจะเป็นเคะ...
“พี่เยซองผมมีเรื่องจะคุยด้วย”คยูฮยอนเดินเข้ามาหาเยซองถึงในห้อง
“มีอะไร”แต่ก็ยังคงน้ำเสียงเย็นชาได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
“ผมแค่อยากจะถามพี่ว่า ช่วงนี้พี่รู้สึกยังไงเวลามีผมอยู่ด้วย”
“...”ตอบไม่ถูก แต่ที่จริงรู้สึกเขินๆต่างหากที่ต้องพูดออกไปในสิ่งที่ตนคิด ก็เขาน่ะคิดมาตลอดว่าตัวเองเป็นเมะ อยู่ๆจะให้มายอมรับว่าใจเต้นเวลาอยู่ใกล้คยูฮยอนมันจะเป็นไปได้ยังไงเล่า
“พี่รู้สึกใจเต้นแปลกๆหรือเปล่า...”
“พี่รู้สึกว่าหน้าแดงเวลาอยู่ใกล้ผมหรือเปล่า”
เยซองไม่ตอบแต่เขากลับจ้องมองหน้าคมๆของคยูฮยอนนิ่ง เขาตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าเขารู้สึกยังไงกับเจ้าเด็กนี่ เพียงแต่เขารู้สึกว่าวันไหนที่ไม่มีเจ้าเด็กนี่มาคอยป้วนเปี้ยนใกล้ๆ เขาจะรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างขาดไป
“พี่...ช่วยตอบผมที่เถอะ”
คยูฮยอนแองยอมรับได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า เขารู้สึกตกหลุมรักคนตรงหน้าอย่างฉุดไม่อยู่ เขาตกหลุมรักคนตรงหน้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้วจริงๆ
“พี่..ช่วยตอบทีว่าพี่รู้สึกแบบเดียวกับผม”
เยซองดวงตาเบิกกว้างเล็กน้อย เขาจับจังหวะในการเต้นของหัวใจตัวเองไม่ทัน มันเต้นรัวไปหมด
“พี่ ผมไม่รู้ว่าพี่จะรู้มั๊ยแต่ตอนนี้ผมแค่อยากให้พี่รับรู้ไว้”
คยูฮยอนเดินเข้ามาหาเยซองช้าๆ เขาเอามือเล็กๆของเยซองขึ้นมากุมไว้หลวมๆ จ้องมองลงไปในดวงตาเล็กๆนั่น ดวงตาที่เขาชอบที่สุด
“พี่..รู้มั๊ยว่าผมแอบรักพี่มานานแค่ไหนแล้ว”
เยซองไม่ตอบเพียงแต่จ้องมองลงไปในดวงตาของคยูฮยอน ดวงตาคู่นี้มักจะสะกดเขาได้เสมอ ไม่ว่าเวลาไหนก็ตามเขาชอบดวงตาคู่นี้ ดวงตาที่แสดงออกถึงความห่วงใยเขาเสมอ
แต่เขายังไม่แน่ใจในตัวเอง ว่าที่จริงแล้วเขาคิดยังไงกับคยูฮยอนกันแน่....
“พี่ไม่ตอบผมตอนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ผมก็แค่อยากให้พี่รู้เอาไว้ว่า
ผม....รักพี่”
“ผมอาจจะไม่ดีพอกับพี่ ผมอาจจะไม่ใช่คนที่พี่รัก แต่ผมรักพี่ ผมไม่รู้ว่าผมเป็นอย่างงี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ผม...”
คยูฮยอนคว้าร่างของเยซองเข้ามากอด ใบหน้าของเยซองซุกลงตรงอกแกร่งของคยูฮยอน เขากำลังได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่มันเต้นแบบเดียวกันกับเขา
“ผมอยากกอดพี่อย่างนี้ อยากจูบพี่ แต่ผมก็ทำไม่ได้”
“...”
เยซองได้แต่เงียบให้เป็นคำตอบ เขารู้ได้ทันทีว่าเสียงของคยู ฮยอนฟังดูเศร้าแค่ไหน แต่เขาอยากให้หัวใจตัวเองแน่ใจกว่านี้ก่อน
“พี่ช่วยบอกผมทีว่าพี่ทำยังไงผมถึงตกหลุมรักพี่ได้”
เยซองเงียบให้อีกครั้ง เขาจะตอบได้ยังไงในเมื่อเขาไม่ได้เป็นตัว
คยูฮยอนเอง
คยูฮยอนเงียบไปแล้ว ตอนนี้เขาอยากจะกอดคนตรงหน้าให้ได้นานที่สุด เขากลัวว่าต่อไปเขาอาจจะไม่ได้กอดคนตรงหน้านี้อีกแล้ว
ก่อนหน้านี้- -
“เฮ้!ไอ้คยู วันนี้แกต้องไปถามไอ้เย่ให้ฉันนะเว้ย ว่าตกลงมันเป็นอะไรกันแน่ระหว่างเมะกับเคะ”ฮันกยองเดินยิ้มหน้าระรื่นมาหาคยูฮยอนแล้วเอ่ยประโยคที่ทำเอาคยูฮยอนเองก็งง
“แล้วทำไมต้องวันนี้ด้วยครับ”
“เอาน่า...ก็ฉันอยากรู้นี่นาว่ามันเป็นอะไรกันแน่ เพราะฉันรู้แล้ว หล่ะว่าที่จริงแล้วฉันชอบมันเข้าให้แล้ว ฮ่าๆ”ฮันกยองพูดทีเล่นทีจริงแต่ทำเอาคยูฮยอนเงียบไปพักใหญ่
“เอ่อ...ครับ งั้นเดี๋ยวผมจะถามให้นะ”คยูฮยอนตอบกลับไป ฮันกยองเดินมาตบบ่าคยูฮยอนเบาๆ
“พรุ่งนี้รับรองได้เลย ว่าเยซองต้องมีฉันอยู่เคียงข้างเป็นแน่วะฮะฮ่า”
ฮันกยองพูดแล้วเดินจากไปยิ้มหน้าระรื่นชื่นบาน
“พี่ฮันกยอง ผมขอโทษครับ”
คยูฮยอนเอ่ยเสียงแผ่ว เขารู้สึกผิดที่ต้องทำให้ฮันกยองต้องเจ็บปวด
“พี่ยังไม่รู้สินะว่ามีใครหลายคนหลงพี่จนงัวหัวไม่ขึ้น”
“...”
เยซองไม่ตอบแต่กอดตอบคยูฮยอนแล้วเอาหน้าซุกลงไปให้ชิดยิ่งขึ้นจนฟังเสียงจังหวะหัวใจของคยูฮยอนได้อย่างชัดเจน
“พี่รู้สึกแบบผมบ้างหรือเปล่า”
“ฉันไม่รู้...”เยซองตอบเสียงแผ่ว เขาไม่รู้จริงๆว่าเขารู้สึกแบบไหนกับคยูฮยอน
“...อืม”คยูฮยอนตอบรับ เขาไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น เพียงแต่หลับตาลงแล้วรับฟังเสียงหัวใจของตัวเองที่มันดงก้องอยู่
ตึกตัก!
ตึกตัก!
ตึกตัก!
พี่ได้ยินมั๊ยพี่เยซองว่าหัวใจของผมกำลังบอกรักพี่อยู่
พี่ได้ยินมันมั๊ยครับ....
เยซองหลับตาลงช้าๆปิดเปลือกตาลงรับฟังเสียงที่เขาเริ่มชอบที่จะฟัง
เขารู้แล้ว...ว่าตัวเองรู้สึกยังไงเวลามีเด็กคนนี้มาอยู่ใกล้ๆ
เขารู้แล้ว...ว่าตัวเองรู้สึกดีแค่ไหนเวลามีคยูฮยอนมากอดเขาแบบนี้
แต่ที่เขายังไม่อยากยอมรับคือ...เขาไม่อยากเป็นเคะ เขารู้สึกแปลกๆเวลาบอกว่าตัวเองเป็นเมะแต่ไหงกลับมากลายร่างเป็นเคะไปได้
ขำไม่อยากยอมรับว่าตัวเองคือ...อุเคะ!!!!
“คยูฮยอน..นายรักฉัน...จริงหรือเปล่า”เยซองลองตัดสินใจถามออกไป อยากให้แน่ใจกันไปเลย ว่าคยูฮยอนรู้สึกยังไงกับเขากันแน่
“อืม ผมมั่นใจในตัวเองว่าผมรักพี่ถ้าไม่เชื่อก็ลองฟังเสียงหัวใจของผมที่เต้นอยู่ตอนนี้สิ”คยูฮยอนว่าเยซองหลับตาลงอีกครั้งแล้วฟังดีๆ
ใช่เขารู้สึกได้ว่าหัวใจของคยูฮยอนเต้นแบบเดียวกับเขา
ถ้านี่คือเสียงของหัวใจที่บอกว่ารักเขา
ถ้าอย่างนั้นเสียงของหัวใจของเราก็ตรงกันแล้วหล่ะคยูฮยอน
ว่าฉัน....ก็รักนาย
“อืม..นายรักฉัน”
“...”
“แล้วฉันก็...”
เขาอยากจะบอกออกไปเพียงแต่ เขายังรู้สึกไม่ชินอยู่ดี ที่ต้องมาบอกรักใครแบบนี้
แต่ขอแค่เพียงยังมีอ้อมกอดของคยูฮยอนอยู่แบบนี้ เขาก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว
‘นายอย่าทิ้งฉันไปนะ คยูฮยอน’
“แล้วฉันก็อะไรครับ”
“แล้วฉันก็...รักนาย”บอกเสียงเบาแต่มันกลับดังในโสตประสาทของคยูฮยอน
เรื่องจริงใช่มั๊ยที่เขาได้ยินเยซองบอกรักเขา
มันคือเรื่องจริงใช่มั๊ย....!?
“จริงหรอครับ”
“ฉันจะโกหกไปทำไมหล่ะ แต่นายต้องสัญญานะว่าจะไม่ทิ้งฉัน”
“ผมไม่กล้าทิ้งพี่ไปหรอก ไม่รู้หรือไงว่ามีใครหลายคนจ้องจะกินพี่”
คยูฮยอนตอบแล้วปล่อยเยซองออกก่อนจะก้มลงไปจูบหน้าผากของเยซองเบาๆ
“นายสัญญานะ”
ไม่มีเสียงตอบกลับ แต่สิ่งที่ยืนยันได้กลับเป็นจูบที่แสนจะอ่อนหวานนั่นที่ไม่ได้โป้ปดแต่อย่างใด
“สัญญาสิครับ”
THE END
- - - - - - - - - - - - - - -
คุยกันหน่อย
ช่วงนี้กวาอาจจะมาอัพได้แค่นิดหน่อย กรืออาจจะเป็นเรื่องยาว
เพราะกวาได้อัพลงในเวริ์ดแล้วนั่งพิมพ์แทบแย่แหนะ=W=
ช่วงนี้มันออกแนวเศร้าๆใช่มั๊ยอ่า...เพราะอะไรน่ะหรอก็แค่กวา
เกิดอาการฟังเพลงไม่ผิดใช่มั๊ยที่รักเธอของกอล์-ไมค์แล้วแบบ
พล็อตเรื่องก็ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด มันก็ดีอ่ะนะแต่พอฟังไปฟังมา
มันก็ดันเป็นพล็อตเศร้าหมดเลยกวาคิดว่าเรื่องต่อไปก็ต้องเศร้า
อีกแน่นอนอย่าเพิ่งเบื่อกันนะเออฮ่าๆรักคนอ่านแล้วเม้นจ่ะจุ๊ฟๆ^3^
ความคิดเห็น