ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กุหลาบพันธ์มังกร

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 เหยียบเกาะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 138
      0
      19 ก.ค. 54

    บทที่ 2

    เหยียบเกาะ

    ภายในห้องนอน เหลียง เหม่ย จู ทิ้งตัวนั่งบนโซฟาตัวใหญ่ มือข้างหนึ่งกดรีโมททีวีเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ และดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้ให้ความสนใจกับรายการทีวีเลยแม้แต่น้อย ในมืออีกข้างเป็นแก้วไวน์ขาวชั้นดีมือเรียวค่อยแกว่งแก้วไวน์นั้นเบาๆ อยู่หลายรอบอย่างคนใช้ความคิด

    ก๊อกๆๆ

    “น้องมิน นอนยังจ๊ะพี่ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม” เสียงหวานของ เหลียง เหม่ย หลิน บุตรสาวบุญธรรมคนโตแห่งตระกูลเหลียงดังผ่านประตูห้องนอนขนาดใหญ่ หลังจากเสียงเคาะประตูเงียบลง

    “ค่ะพี่เว มินยังไม่นอนค่ะ” คุณหนูสี่ขานรับก่อนกระดกแก้ไวน์ขึ้นเทน้ำใสเสมือนน้ำเปล่านั้นลงคอรวดเดียวหมดจากนั้นจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องให้พี่สาวเข้ามาด้านใน

    เว หรือ เวธกา เป็นชื่อภาษาที่ติดตัวมาแต่กำเนิดของ เหลียง เหม่ย หลิน ด้วยความที่คนเลี้ยงเธอตั้งแต่เด็กนั้นเป็นคนสนิทของภรรยามิสเตอร์เหลียงซึ่งเป็นคนไทย ทำให้คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเหลียงถูกปลูกฝังความเป็นไทยไว้ตั้งแต่เด็กจนกระทั้งคนเลี้ยงดูเธอได้เสียชีวิตลงนั่นแหละ และที่สำคัญตัวเธอเอกก็ชอบและยินดีรับไว้อย่างง่ายดายทำให้ไม่อยากต่อการถ่ายทอดให้ และเมื่อได้ทราบว่าน้องสาวต่างสายเลือดคนที่สี่นั้นน่าจะมีเชื้อสายไทยด้วยแล้วนั้น ทั้งสองคนจึงตกลงกันว่าจะคุยกันด้วยภาษาไทย และเรียกชื่อไทยด้วยกันทั้งคู่

    คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเหลียงก้าวเข้ามานั่นบนโซฟาขนาดใหญ่ที่วางไว้มุมหนึ่งของห้องนอน พิจารณาใบหน้านวลเจ้าของห้องอีกครั้ง เธอยอมรับว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นคนสวยจัดคนหนึ่งเลยทีเดียว แววตาเด็ดเดี่ยวมั่นคงนั้นทำให้เธอค่อนข้างเชื่อบิดาบุญธรรมมากขึ้นว่าเธอผู้นี้จะสามารถดูแลธุรกิจที่ทำเงินมหาศาลนั้นได้แน่นอน

    “ทำไมพี่เวมองมินแบบนั้นล่ะคะมีอะไรหรือเปล่า

    “แด๊ดตั้งใจสร้างเกาะเหม่ย จู มากเลยนะ แด๊ดรักที่นั่นมาก” คุณหนูใหญ่เอ่ยขึ้น

    “มินทราบค่ะ และมินก็รู้ดีว่ามินควรต้องทำยังไง” คุณหนูสี่เดินตรงไปยังเค้าน์เตอร์ขนาดกลาง ที่มีขวดไวน์หลากหลายรสชาดวางเรียงรายอยู่หลายขวด ก่อนเทไวน์ขาวขวดที่เปิดไว้แล้วลงไปในแก้วใสจากนั้นค่อยๆ ยกขึ้นเทผ่านลงคอจนหมดในทีเดียวอีกครั้งก่อนบอกพี่สาว

    “น้องมินไม่โกรธแด๊ดใช่ไหม”

    “โกรธเรื่องอะไรคะ” หญิงสาวเทไวน์เพิ่มในแก้วก่อนเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ คนถาม

    “ไม่รู้สิแด๊ดกลัวมากเลยนะ แด๊ดกลัวน้องมินจะโกรธ น้อยใจ แด๊ดบ่นให้พี่ฟังเสมอตั้งแต่ส่งน้องมินไปเรียนที่อเมริกาแล้ว

    “ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดที่แด๊ดรับมินมาเป็นลูกบุญธรรม มินถือว่าแด๊ดเป็นผู้มีพระคุณของมิน เพราะถ้าวันนั้นมินไม่ได้แด๊ด คงไม่มี เหลียง เหม่ย จู หรือคุณหนูสี่ลูกสาวเจ้าพ่อแห่งเกาะฮ่องกงในวันนี้ ป่านนี้มินอาจเป็นผู้หญิงข้างถนน หรือผู้หญิงขายตัวอยู่ในบ่อนบ้า นั่นแล้ว” นึกถึงเหตุการณ์วันนั้นหญิงสาวอดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าถ้ามิสเตอร์เหลียงไม่มาเจอในวันนั้นเธอจะเป็นเช่นไรในวันนี้

    “มันก็คืออดีตอย่างพูดถึงมันอีกเลย น้องมินเข้าใจแด๊ดก็ดีแล้ว พี่ก็พลอยหมดห่วงไปด้วย แด๊ดรักน้องมินมากนะ”

    “ค่ะมินทราบค่ะว่าแด๊ดรักมิน มินถึงไม่เคยคิดอะไรไงคะ มินรู้ดีค่ะว่าสิ่งที่แด๊ดเลือกไว้ให้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตมิน แด๊ดรักสิ่งไหนมินก็จะรักสิ่งนั้นของแด๊ด มินจะดูแลของที่แด๊ดรักให้ดีที่สุดเท่าที่กำลังของมินจะทำได้ เพราะมันเป็นทางเดียวที่มินจะตอบแทนพระคุณที่แด๊ดได้หยิบยื่นชีวิตใหม่ให้มิน” พูดจบคุณหนูสี่ก็ลุกขึ้นไปเติมไวน์เพิ่มอีกเมื่อกระดกรวดเดียวหมดไปเมื่อครู่อีกครั้ง

    “แล้วเรื่อง คุณเหวินล่ะน้องมินคิดเห็นยังไง”

    “ถ้าแด๊ดเห็นว่าดีมินก็ว่าดีค่ะ บอกแล้วไงว่ามินเชื่อว่าแด๊ดจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้มิน”

    “พี่ก็เชื่อแบบนั้นเหมือนกัน และถ้ามินมั่นใจและเชื่อแบบนั้นพี่ก็หายห่วง” คุณหนูใหญ่มองใบหน้านวลอย่างพิจารณาอีกครั้ง เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาไม่ได้ขัดกับสิ่งที่เจ้าหล่อนพูดออกมาก เธอจึงรู้สึกโล่งใจอย่างที่พูดจริงๆ

    “แต่อาจจะเหนื่อยหน่อยนะ เพราะคุณเหวินไม่เชื่อใจและไว้ใจใครง่ายๆ โดยเฉพาะผู้หญิงไทย”

    “เกลียดผู้หญิงไทยว่างั้นเถอะ” ใบหน้านวลเชิดขึ้นเล็กน้อยเมื่อเอ่ยชื่อบุคคลที่สามคนนี้ขึ้นมา

    “ก็ไม่ถึงกับเกลียดหรอกแค่มีเรื่องฝังใจนิดหน่อย และนี่ยิ่งแด๊ดให้ไปเป็นคนดูแลและค่อยช่วยเหลือน้องมินด้วยแล้ว พี่ว่าคงพยศกับน้องมินน่าดู”

    “เดี๋ยวก็รู้ใครจะพยศกว่ากัน” ริมฝีปากอิ่มเหยียดยิ้มเล็กน้อย เหมือนกำลังนึกถึงเรื่องๆ สนุกๆ ได้ขึ้นมา

    “คุณเหวิน เป็นคนฉลาด ทันคน รักอิสระ พูดตรง ไม่ชอบคนงี่เง่า เอาแต่ใจตัวเองบ้างบางครั้ง ปากร้าย แต่ลึกๆ เป็นคนอ่อนหวานมากนะเวลาได้อยู่กับคนเขารัก เขาน่ารักมากนะถ้าลงได้เปิดใจรักใครสักคน” คุณหนูใหญ่บอกข้อมูลส่วนของชายหนุ่มให้น้องสาวทราบ ใบหน้าเปื้อนยิ้มเล็กน้อย

    “พี่เวรู้รายละเอียดของคุณเหวินเยอะจังนะคะ” หญิงสาวหรี่ตามองหน้าพี่สาวเล็กน้อยอย่างต้องการจับผิด

    “ก็พี่กับคุณเหวินโตมาด้วยกันนี่จ๊ะ นอนเถอะพี่ไม่รบกวนแล้ว แล้วก็พอได้แล้วนะไวน์น่ะอย่าดืมเยอะนักมันไม่ดีต่อสุขภาพนะจ๊ะ” พูดจบคุณหนูใหญ่ก็ออกนอกห้องไป ปล่อยให้เจ้าของห้องมองตามร่างบางไปอย่างคุ่นคิดในเรื่องที่ตัวเองสังเกตุเห็นจากสีหน้าพี่สาวเมื่อครู่

    *****************************************

    สิงค์โปร!” เสียงอุทานของหญิงสาวที่นอนขนาบร่างกำยำอยู่ดังขึ้น

                “ใช่ผมคงต้องไปอยู่ที่สิงค์โปรสักระยะหนึ่ง  ชายหนุ่มย้ำ ก่อนหลับตาลงอย่างต้องการพยายามข่มอารมณ์ปรารถนาที่กำลังก่อตัวขึ้นอีกครั้งที่หญิงสาวข้างกายเป็นคนปลุกเร้าให้เกิดขึ้น

                “คุณต้องไปอยู่ที่นั่นจริงๆ เหรอคะ” ซินเวีย ละริมฝีปากจากบริเวณอกกำยำก่อนเงยหน้าขึ้นถาม

                “ใช่”

                “นานเท่าไหร่คะ”

                “ยังไม่มีกำหนด”

                “ไม่ไปไม่ได้เหรอคะ” น้ำเสียงนั้นค่อนข้างแผ่วเบา และออกจะติดๆ ขัดๆ ด้วยเพราะริมฝีอวบอิ่มนั้นกลับไปจูบไล้บริเวณอกกำยำอีกครั้ง

                “มันเป็นคำสั่งของคุณลุง อีกอย่างผมไม่มีทางปล่อยให้เกาะเหม่ย จู ที่มีธุรกิจทำเงินหลักของคุณลุงผมต้องตกอยู่กับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนั้นหรอก”

    ริมฝีปากอวบอิ่มหยุดการกระทำทุกสิ่งเพียงแค่ได้ยินชื่อเกาะ ภาพหญิงสาวหน้าหวานนัยน์ตาโตคมกริบลอยเด่นตรงหน้าซินเวียทันที แม้ว่าเธอจะได้หน้าหญิงสาวเพียงแว็บเดียวที่ห้างสรรพสินค้าในเกาะฮ่องกงก็ตาม ทว่าเธอนั้นจำความสวยเด่นของหญิงสาวที่ชายหนุ่มกำลังพูดถึงได้เป็นอย่างดี ทำให้เธออดหวั่นใจกับคำพูดเขาไม่ได้

                “ไม่ปล่อยเกาะ หรือไม่ปล่อยผู้หญิงคนนั้นกันแน่คะ เพราะผู้หญิงคนนั้นสวยเด่นอยู่ไม่น้อยนะคะ” เจ้าของร่างอวบอิ่มเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนเปรยออกมา

                “เกาะผมไม่มีทางปล่อยแน่นอน ส่วนผู้หญิงคนนั้นผมก็ไม่มีทางปล่อยเช่นกันถ้าคิดไม่ซื่อกับลุงผม” แม้น้ำเสียงจะหนักแน่นว่าเขาจะทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ หากแต่ซินเวียกับกลัวว่าเขาจะไม่ปล่อยผู้หญิงคนนั้นไปไม่ใช่ด้วยสาเหตุที่เธอคิดไม่ซื่อกับมิสเตอร์เหลียงอย่างที่พูดจริง

                ซินเวีย เป็นคู่ควงออกหน้าของ เหวิน จู เลี่ยน มานาน มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งหลายต่อหลายครั้ง เธอรู้จักนิสัย และรู้รสนิยมเขาเป็นอย่างดี เพียงแค่ได้เห็น เหม่ย จู ในวันนั้นเพียงครู่เดียว ซินเวียรู้ได้ทันทีว่าอีกไม่ช้านานความสัมพันธ์ของเธอกับคงต้องจบลงเป็นแน่ และนี่ยิ่งต้องไปอยู่ใกล้ชิดกันเช่นนั้น ทั้งสวย ทั้งเก่ง อย่างคุณหนูสี่ มีหรือชายใดที่อยู่ใกล้จะไม่อยากเป็นเจ้าของเจ้าหล่อน

                “เป็นอะไรหรือเปล่าซินเวีย” ชายหนุ่มถามขึ้นเมื่อร่างอวบอิ่มขยับถอยออกจากร่างเขาไป หากแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

                “เปล่าค่ะ ซินเวียแค่...” ชายหนุ่มปล่อยให้หญิงสาวพูดได้เพียงแค่นั้นก็กดริมฝีปากลงริมฝีปากอวบอิ่มนั้นเสีย จากนั้นเขาก็เริ่มโหมไฟปรารถนาที่เจ้าหล่อนเป็นคนก่อให้เมื่อครู่ ไม่นานร่างสองร่างก็เริ่มผสานเป็นหนึ่งเดียว

                ตระกูล เหวิน นั้นโด่งดังและมีบารมีไม่แพ้ ตระกูลเหลียง ดังนั้นไม่ผิดที่ เหวิน จู เลี่ยน จะเป็นหนุ่มเนื้อหอมมีสาวๆ หมายปองต้องการเป็นผู้หญิงของเขาด้วยกันทั้งนั้น หากแต่เขากับไม่คิดที่จะผูกมัดกับใครทั้งสิ้น ด้วยความอยากเป็นหนุ่มนักรัก และยังอยากมีชีวิตที่เป็นอิสระแบบนี้ตลอดไป

    สำหรับซินเวียที่เขายอมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยนั้น เพราะเจ้าหล่อนไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่คอยเรียกหาความถูกต้อง และเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆ นานา ทว่าซินเวียกลับไม่เคยแม้จะเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ เมื่อต่างคนต่างเสพสุขด้วยกันจบก็จบกันไป เธอพอใจและยอมรับกับสิ่งที่เขาให้เธอหลังจากได้หลับนอนด้วยกันแล้วแค่นั้นก็เพียงพอ และนั่นเป็นสิ่งที่ เหวิน จู เลี่ยน ต้องการและพึงใจในตัวเธอมากที่สุด ทำให้ซินเวียกลายเป็นคู่ควงเขาได้นานที่สุดในเวลานี้

    **************************************

    ประเทศสิงค์โปร...

    ณ เกาะเหม่ย จู ชื่อ เหม่ย จู นั้นใช่เป็นเพียงชื่อเกาะส่วนตัว และยังเป็นชื่อของตึกขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นตามหลักฮวงจุ้ยสำหรับคาสิโนโดยเฉพาะอีกด้วย เพียงแค่ร่างเล็กก้าวลงจากเรือเร็วและได้สัมผัสผืนแผ่นดินของเกาะส่วนตัวนั้น พลังอะไรบางอย่างเข้าแทรกซึมเข้ามา ทว่าหญิงสาวสัมผัสมันเป็นพลังเสริมแรงใจให้กับเธอเพิ่มยิ่งขึ้น

    เป็นครั้งแรกที่ เหลียง เหม่ย จู ได้ขึ้นมาบนเกาะแห่งนี้ หญิงสาวยอมรับว่าเกาะแห่งนี้เสมือนสวรรค์ชั้นดี นับว่าเป็นเมืองอีกเมืองหนึ่งได้เลยทีเดียว เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นโรงแรม สนามกอล์ฟ แหล่งช้อปปิ้ง สปา โรงเรียน และอื่นๆ ต่างมีเปิดไว้ให้บริการ และเธอเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอรับรู้และได้เห็นบนเกาะนี้คือสิ่งที่เธอต้องดูแลและควบคุมมั้นทั้งหมดเพราะมันล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจที่บิดาเธอเป็นคนสร้างมันขึ้นมาทั้งนั้น

    “โหน่าอยู่จังเลยนะมิน” เสียใสของเพื่อนสนิทดังขึ้น

    “อืม น่าอยู่แต่ฉันไม่ชอบ”

    “ทำไมวะออกจะสวยดูธรรมชาติดีด้วย”

    “มันก็ไม่แตกต่างอะไรกับเมืองคนบาปหรอกเกศ”

    “จะว่าไปมันก็ใช่นะ แต่ฉันว่าอย่างน้อยมันก็ไม่วุ่นวายเหมือนบ้านเรา” เกศินีรีบบอก

    เกศ หรือเกศินีเป็นเพื่อนรักกับตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนอยู่ด้วยกันตอนมัธยมศึกษาตอนต้น และแยกจากกันไปหลังจากที่มินตราต้องไปเรียนต่อที่อเมริกา ทว่าสองคนก็ยังคงติดต่อกันอยู่เลยมา ทำให้ทั้งคู่รู้เรื่องราวของกันและกันค่อนข้างมาก เกศินีไม่ได้เป็นเด็กกำพร้าเช่นมินตรา หากแต่พื้นฐานฐานะก็ไม่ได้ดีอะไรนัก มีพี่น้องหลายคนเธอเป็นพี่สาวคนโตต้องรับภาระหน้าที่ดูแลหลายปากท้อง ในระหว่างที่สองอยู่ห่างกันแต่เวลาเกศินีมีเรื่องทุกข์ร้อนอะไรไม่เว้นแม้แต่เรื่องเงินมินตราก็จะยืนมือเข้าช่วยเหลือตลอด ดีที่ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นมินตรานั้นได้ใช้สกุลเหลียงอย่างถูกต้องแล้วทำให้เธอสามารถยื่นมือช่วยเหลือเพื่อนรักได้อย่างไม่ติดขัดแต่อย่างไร

    “ฉันกลัวว่าจะวุ่นวายยิ่งกว่านะสิ” หญิงสาวหันมองหน้าเพื่อนรักนิดหนึ่งก่อนยิ้มบางๆ ให้

    “คุณหนูสี่ครับเชิญที่รถดีกว่าผมจะได้พาไปที่พักก่อน” หญิงสาวพยักหน้าพร้อมกับคว้ามือเพื่อนรักให้เดินตามไปที่รถ

    “ดูเงียบสงบดีจังเลย ผู้คนหายไปไหนกันหมด”

    “ก็อยู่ในคาสิโนไง ทุกคนที่ก้าวเข้ามาบนเกาะนี้ก็ด้วยวัตถุประสงค์เดียวคือเข้าไปเสี่ยงโชคในนั้น” เหลียง เหม่ย จู ตอบเพื่อนรัก

    “รีชาร์ต ไปที่คาสิโน ก่อนนะฉันอยากเข้าไปดู” หลังจากตอบคำถามเพื่อนรักก็หันไปบอกการ์ดคนสนิททันที

    “ครับคุณหนู ว่าแต่คุณหนูจะไม่เข้าที่พักก่อนเหรอครับ เข้าไปที่คาสิโนก่อนเลยผมเกรงว่าคุณหนูจะไม่ได้การอำนวยความสะดวกสิครับ” การ์ดคนสนิทรีบบอก

    “ไม่เป็นไรฉันแค่อยากเข้าไปดู และอาจจะไปลองเสี่ยงโชคดูสักหน่อย อ่อและไม่ต้องบอกใครนะว่าฉันจะเข้าไปที่นั่น”

    “แต่...”

    “ทำตามที่บอก ไปที่คาสิโน และไม่ต้องบอกใคร ฉันจะเข้าไปในฐานะลูกค้า”

    “ครับคุณหนู” รีชาร์ตมองหน้าเจ้านายสาวผ่านกระจกมองหลังเห็นแววตามุ่งมั่นและจริงจังนั้นแล้ว จึงรีบรับคำอย่างปฏิเสธไม่ได้

    เกาะเหม่ย จู ถูกเปิดเป็นคาสิโนขนาดใหญ่มาเกือบ 10 ปี ทั้งนักเล่น นักเสี่ยงโชค ร่วมด้วยนักธุรกิจทั้งประเภทเดียวกันและต่างประเภทกันไป รู้ดีว่าเกาะแห่งนี้เป็นของเหลียง จวิ้น เจี๋ย และรู้ว่าชื่อเกาะแห่งนี้เป็นชื่อของลูกสาวบุญธรรมคนเล็ก ทว่าก็ยังไม่เคยมีเคยเห็นหน้าคุณหนูสี่แห่งตระกูลเหลียงสักคน

    ********************************************


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×