ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่2...สุดที่รักของใจ..เพื่อนฉันนั้นคือเธอ
หลังจากที่ทั้งสองลงมาจากรถไฟฟ้าแล้ว ก็กำลังเตร็ดเตร่อยู่ริมถนนกัน...
“เฮ้อ! เซ็งจังวุ้ย ฉันไม่เข้าใจเลยอะ ทำไมอิน ทำไมเธอต้องเข้ามาห้ามฉันด้วย ฉันเกือบจะได้ตั๊นปากเน่า ๆ  ของนายนั่นแล้วเชียวนะ” เอมมิลานกล่าวด้วยอารมณ์ที่กำลังเสียสุด ๆ
“เอาเถอะน่าเอมมี่ เธอไม่เห็นเหรอว่าคนทั้งรถไฟฟ้าเค้ากำลังมองเราอยู่นะ ถ้าฉันไม่ลากเธอออกมาก่อน ป่านนี้ เฮ้อ! ฉันไม่อยากจะคิดเลยจริง ๆ ว่าจะเป็นยังไง”
“ไม่เห็นจะต้องคิดเลยว่าจะเป็นยังไง อิโธ่เอ๊ย! เรื่องแค่เนี้ยม่ายเห็นจะต้องอายเลย นายนั่นตั้งหากที่สมควรจะต้องอาย” เอมมิลานโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้
“เธอไม่อายแต่ฉันอายนี่นา แล้วถึงเค้าจะปากไม่ดียังไง แต่คนที่เริ่มคือเราไม่ใช่เหรอ..เอาเถอะฉันไม่อยากจะเถียงกับเธอแล้ว” อินธุดากล่าวพร้อมกับทำหน้าเหนื่อยใจ แต่เมื่อเหลือบไปเห็นสีหน้าของคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ  ที่ยังไม่ดีขึ้น ก็เลยพูดออกไปว่า
“เอมมี่จ๋า เลิกทำหน้าแบบนี้ได้แล้ว เดี๊ยวคนที่เดินผ่านไป ผ่านมา  เค้าก็เผ่นกันหมดหรอก เพราะนึกว่านักโทษแห่งคุกอักซคาบันแหกคุกมา”
“คุณอินธุดาคะไม่ตลกเลยนะ”
“เอาน่า ขำขำ เดี๊ยวอินธุดาคนสวยจะพาไปเลี้ยงไอติมละกันนะ แล้วเมื่อไหร่คุณเอมมิลานจะเลิกทำหน้าอย่างนี้ซักทีละคะ”
“จริงงะ >_< พาไปเลี้ยงไอติมจริง ๆนะ *-*  งั้นยิ้มอย่างนี้สวยพอหรือยังจ๊ะ” เอมมิลานพูดพร้อมกับยิ้มหวานไปให้อินธุดา
“เฮ้อ ! เธอน่าจะบอกฉันแบบนี้ตั้งนานแล้วนะ ปล่อยให้ฉันเก๊กหน้าแบบนี้ตั้งนาน เมื่อยชะมัด”
“แหมยัยเอมมี่ เธอนี่จริง ๆ เลยนะ ฉันก็นึกว่าเธอจะเครียดเรื่องเมื้อกี้”
“แหะ แหะ มันก็มีบ้างแหละจ๊ะ แต่อันที่จริงฉันเองก็ผิดเหมือนกันแหละที่ไปทำแบบนั้นกับเค้า ก็พอดีแผนการมันก็ผุดขึ้นมาในหัวสมองน้อย ๆ ของฉันงะ ก็เลยไม่ทันได้คิด แล้วพอเค้ามาว่าเธออย่างนั้นด้วยฉันก็เลยฉุนหนะ ใครใช้ให้เค้ามาว่าเพื่อนฉันละ เชอะ” เอมมิลานพูดพร้อมกับเชิดหน้าอย่างถือดี
“จ้า..แม่คนรักเพื่อน แต่ถึงยังไงฉันก็ต้องขอโทษเธอด้วยเหมือนกันนะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันไปปิ๊งเค้าเข้า เรื่องราวมันก็คงจะไม่เป็นแบบนี้หรอก ขอโทษจริง ๆ นะเอมมี่”
เอมมิลานมองหน้าเพื่อนพร้อมกับตบไหล่แรง ๆ 2 ที
“ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่นา ก็เราเป็นสุดที่รักของกันและกันนี่เนอะ ไม่งั้นเค้าจะว่ามีเพื่อนไว้ทำไมละจริงมั๊ย”
แล้วทั้งสองก็มองหน้ากันและกัน พร้องกับหัวเราะดัง ๆ คล้าย ๆ กับโลกใบน้อย ๆ ใบนี้มีแค่พวกเธอสองคน แต่ดูเหมือนทั้งสองคนก็จะลืมเช่นกันว่า ทั้งสองสาวกำลังเดินอยู่ริมถนน แล้วก็มีสายตาหลายสิบคู่จ้องมองอยู่ พร้อมกับนึกในใจว่า บ้ารึเปล่าวะ แน่นอนเค้าคงไม่กล้าพูดออกมาให้ทั้งสองได้ยินแน่ ๆ เพราะไม่อย่างงั้นแล้วหนึ่งในสองสาวต้องกระโดดมาชกปากเขาแน่ ๆ เลย...
**********************************
....ไหล่ของฉัน
มันไม่ได้มีความหมายเพียงเพื่อประคองหัวฉันไว้คนเดียวเท่านั้น
แต่เพื่อนสามารถใช้มันเพื่อประคองหัวเพื่อนได้ด้วย
....เสื้อของฉัน
ไม่ได้มีไว้ห่อหุ้มร่างกายของฉันเพียงอย่างเดียว
มันพร้อมจะเป็นที่เช็ดน้ำตา และที่สั่งขี้มูกของเพื่อนถ้าเพื่อนต้องการ
.....แขนของฉัน
ไม่ได้มีไว้จูงหมาเดินเล่น
แต่มันสามารถใช้ประคองเพื่อนเมื่อเพื่อนจะล้ม แต่ถ้าเพื่อนล้มลงไปแล้ว
ฉันก็ยังมีอีกมือ 1 คู่ไว้คอยช่วยฉุดเพื่อนขึ้นมา
.....ปากของฉัน
ไม่ได้มีไว้เพื่อกินและพูดพล่ามทั้งวันหรอกนะ
แต่มีไว้พูดให้กำลังใจเพื่อนด้วยเมื่อถึงเวลาจำเป็น
.....ตาของฉัน
มีไว้เพียงเพื่อกระพริบขึ้นลงเสียเมื่อไหร่
ฉันเอาไว้ใช้มัน มองสิ่งดี ๆ ในตัวเพื่อนด้วยหาก
.....ฟันของฉัน
ก็ไม่ได้มีไว้กัดใคร ๆ เขา แต่มีไว้เพื่อจะใช้ประดับเหงือก ทุกครั้งฉันยิ้มให้เพื่อน
.....หูของฉัน
ก็ไม่ได้มีไว้เพื่อเจาะรูแขวนเครื่องประดับ แต่มันใช้ฟังเพื่อน เมื่อเพื่อนต้องการระบายอะไรออกมาให้ฉันฟัง
...เท้าของฉัน
ไม่ได้มีไว้เพื่อสะสมกลิ่นโอเค ถึงแม้มันจะมีบ้าง แต่ฉันจะใช้เท้า เพื่อเดินอยู่ข้าง ๆ เพื่อนนี่แหละ จะไม่ไปไหนไกล
.....สมองของฉัน
อาจไม่ค่อยมีประโยชน์เวลาสอบนักก็จริง แต่มันจะทำงานหนัก เมื่อเพื่อนต้องการความช่วยเหลือ
.....ส่วนพวกตับ ไต ไส้ กระเพาะ ม้าม เซี่ยงจี๊ ของฉัน
มันมีไว้ทำหน้าที่ของมันน่ะ แต่ถ้าเพื่อนฉันต้องการอย่างรีบด่วน ฉันยินดีสละให้
(อย่างละครึ่งเท่านั้นนะ)
.....และหัวใจของฉัน
ก็ไม่ได้มีไว้สูบฉีดเลือดเพียงอย่างเดียว แต่มันทำหน้าที่เก็บเพื่อนไว้ข้างในได้ด้วย
(คัดลอกมาจากเว็บไซต์ maama.com)
“เฮ้อ! เซ็งจังวุ้ย ฉันไม่เข้าใจเลยอะ ทำไมอิน ทำไมเธอต้องเข้ามาห้ามฉันด้วย ฉันเกือบจะได้ตั๊นปากเน่า ๆ  ของนายนั่นแล้วเชียวนะ” เอมมิลานกล่าวด้วยอารมณ์ที่กำลังเสียสุด ๆ
“เอาเถอะน่าเอมมี่ เธอไม่เห็นเหรอว่าคนทั้งรถไฟฟ้าเค้ากำลังมองเราอยู่นะ ถ้าฉันไม่ลากเธอออกมาก่อน ป่านนี้ เฮ้อ! ฉันไม่อยากจะคิดเลยจริง ๆ ว่าจะเป็นยังไง”
“ไม่เห็นจะต้องคิดเลยว่าจะเป็นยังไง อิโธ่เอ๊ย! เรื่องแค่เนี้ยม่ายเห็นจะต้องอายเลย นายนั่นตั้งหากที่สมควรจะต้องอาย” เอมมิลานโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้
“เธอไม่อายแต่ฉันอายนี่นา แล้วถึงเค้าจะปากไม่ดียังไง แต่คนที่เริ่มคือเราไม่ใช่เหรอ..เอาเถอะฉันไม่อยากจะเถียงกับเธอแล้ว” อินธุดากล่าวพร้อมกับทำหน้าเหนื่อยใจ แต่เมื่อเหลือบไปเห็นสีหน้าของคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ  ที่ยังไม่ดีขึ้น ก็เลยพูดออกไปว่า
“เอมมี่จ๋า เลิกทำหน้าแบบนี้ได้แล้ว เดี๊ยวคนที่เดินผ่านไป ผ่านมา  เค้าก็เผ่นกันหมดหรอก เพราะนึกว่านักโทษแห่งคุกอักซคาบันแหกคุกมา”
“คุณอินธุดาคะไม่ตลกเลยนะ”
“เอาน่า ขำขำ เดี๊ยวอินธุดาคนสวยจะพาไปเลี้ยงไอติมละกันนะ แล้วเมื่อไหร่คุณเอมมิลานจะเลิกทำหน้าอย่างนี้ซักทีละคะ”
“จริงงะ >_< พาไปเลี้ยงไอติมจริง ๆนะ *-*  งั้นยิ้มอย่างนี้สวยพอหรือยังจ๊ะ” เอมมิลานพูดพร้อมกับยิ้มหวานไปให้อินธุดา
“เฮ้อ ! เธอน่าจะบอกฉันแบบนี้ตั้งนานแล้วนะ ปล่อยให้ฉันเก๊กหน้าแบบนี้ตั้งนาน เมื่อยชะมัด”
“แหมยัยเอมมี่ เธอนี่จริง ๆ เลยนะ ฉันก็นึกว่าเธอจะเครียดเรื่องเมื้อกี้”
“แหะ แหะ มันก็มีบ้างแหละจ๊ะ แต่อันที่จริงฉันเองก็ผิดเหมือนกันแหละที่ไปทำแบบนั้นกับเค้า ก็พอดีแผนการมันก็ผุดขึ้นมาในหัวสมองน้อย ๆ ของฉันงะ ก็เลยไม่ทันได้คิด แล้วพอเค้ามาว่าเธออย่างนั้นด้วยฉันก็เลยฉุนหนะ ใครใช้ให้เค้ามาว่าเพื่อนฉันละ เชอะ” เอมมิลานพูดพร้อมกับเชิดหน้าอย่างถือดี
“จ้า..แม่คนรักเพื่อน แต่ถึงยังไงฉันก็ต้องขอโทษเธอด้วยเหมือนกันนะ ถ้าไม่ใช่เพราะฉันไปปิ๊งเค้าเข้า เรื่องราวมันก็คงจะไม่เป็นแบบนี้หรอก ขอโทษจริง ๆ นะเอมมี่”
เอมมิลานมองหน้าเพื่อนพร้อมกับตบไหล่แรง ๆ 2 ที
“ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่นา ก็เราเป็นสุดที่รักของกันและกันนี่เนอะ ไม่งั้นเค้าจะว่ามีเพื่อนไว้ทำไมละจริงมั๊ย”
แล้วทั้งสองก็มองหน้ากันและกัน พร้องกับหัวเราะดัง ๆ คล้าย ๆ กับโลกใบน้อย ๆ ใบนี้มีแค่พวกเธอสองคน แต่ดูเหมือนทั้งสองคนก็จะลืมเช่นกันว่า ทั้งสองสาวกำลังเดินอยู่ริมถนน แล้วก็มีสายตาหลายสิบคู่จ้องมองอยู่ พร้อมกับนึกในใจว่า บ้ารึเปล่าวะ แน่นอนเค้าคงไม่กล้าพูดออกมาให้ทั้งสองได้ยินแน่ ๆ เพราะไม่อย่างงั้นแล้วหนึ่งในสองสาวต้องกระโดดมาชกปากเขาแน่ ๆ เลย...
**********************************
....ไหล่ของฉัน
มันไม่ได้มีความหมายเพียงเพื่อประคองหัวฉันไว้คนเดียวเท่านั้น
แต่เพื่อนสามารถใช้มันเพื่อประคองหัวเพื่อนได้ด้วย
....เสื้อของฉัน
ไม่ได้มีไว้ห่อหุ้มร่างกายของฉันเพียงอย่างเดียว
มันพร้อมจะเป็นที่เช็ดน้ำตา และที่สั่งขี้มูกของเพื่อนถ้าเพื่อนต้องการ
.....แขนของฉัน
ไม่ได้มีไว้จูงหมาเดินเล่น
แต่มันสามารถใช้ประคองเพื่อนเมื่อเพื่อนจะล้ม แต่ถ้าเพื่อนล้มลงไปแล้ว
ฉันก็ยังมีอีกมือ 1 คู่ไว้คอยช่วยฉุดเพื่อนขึ้นมา
.....ปากของฉัน
ไม่ได้มีไว้เพื่อกินและพูดพล่ามทั้งวันหรอกนะ
แต่มีไว้พูดให้กำลังใจเพื่อนด้วยเมื่อถึงเวลาจำเป็น
.....ตาของฉัน
มีไว้เพียงเพื่อกระพริบขึ้นลงเสียเมื่อไหร่
ฉันเอาไว้ใช้มัน มองสิ่งดี ๆ ในตัวเพื่อนด้วยหาก
.....ฟันของฉัน
ก็ไม่ได้มีไว้กัดใคร ๆ เขา แต่มีไว้เพื่อจะใช้ประดับเหงือก ทุกครั้งฉันยิ้มให้เพื่อน
.....หูของฉัน
ก็ไม่ได้มีไว้เพื่อเจาะรูแขวนเครื่องประดับ แต่มันใช้ฟังเพื่อน เมื่อเพื่อนต้องการระบายอะไรออกมาให้ฉันฟัง
...เท้าของฉัน
ไม่ได้มีไว้เพื่อสะสมกลิ่นโอเค ถึงแม้มันจะมีบ้าง แต่ฉันจะใช้เท้า เพื่อเดินอยู่ข้าง ๆ เพื่อนนี่แหละ จะไม่ไปไหนไกล
.....สมองของฉัน
อาจไม่ค่อยมีประโยชน์เวลาสอบนักก็จริง แต่มันจะทำงานหนัก เมื่อเพื่อนต้องการความช่วยเหลือ
.....ส่วนพวกตับ ไต ไส้ กระเพาะ ม้าม เซี่ยงจี๊ ของฉัน
มันมีไว้ทำหน้าที่ของมันน่ะ แต่ถ้าเพื่อนฉันต้องการอย่างรีบด่วน ฉันยินดีสละให้
(อย่างละครึ่งเท่านั้นนะ)
.....และหัวใจของฉัน
ก็ไม่ได้มีไว้สูบฉีดเลือดเพียงอย่างเดียว แต่มันทำหน้าที่เก็บเพื่อนไว้ข้างในได้ด้วย
(คัดลอกมาจากเว็บไซต์ maama.com)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น