บทนำ
“โอ๊ยยยยย
”ฮึฮึฮึ ฮ่าฮ่าฮ่า” มันบ้าไปแล้ว -_-
“อ๊ากกกกกก”
“ย้ากกกก ฮ่าฮ่าฮ่า” เอาเข้าไป -_-
“ว้ากก..ก..ก... อะ โอ้วววว” OoO
ฮึฮึ ฮ่าฮ่า ตกใจละสิ เพราะตอนนี้ฉันกำลังเตะและอัดพวกนั้นอยู่อย่างคล่อง แล้วพวกนั้นที่ว่าก็กำลังนอนแอ้งแม้งหมดสติอยู่บนพื้น สงสัยใช่ไหมละว่าเกิดอะไรขึ้น จะเล่าให้ฟังเดี๊ยวนี้แหละว่าฉันกำลังจะกลับบ้านแล้วเจอพวกสก๊อยกำลังรุมอัดเด็กนักเรียนคนหนึ่งที่ไม่มีทางสู้ ซึ่งเขาคนนั้นก็คือเพื่อนร่วมห้องของฉันเอง เขาชื่อว่า.......................... ฉันก็เลยวิ่งเข้ามาช่วยในฐานะเพื่อนร่วมห้อง ก็แค่นั้น เพราะฉันคือคนที่เรียนยูโดแล้วได้สายดำตั้งแต่ ม.2 (โฮะโฮะโฮะ ชมตัวเอง)
“..ธ..เธอคือพายใช่มั้ย ที่อยู่ห้องเดียวกัน?” -_-;
“ใช่แล้ว!” -v- (พูดด้วยนำ้เสียงภาคภูมิใจ)
“ขอบใจนะ เธอนี่เก่งเนอะ” o_o
“อื้ม ใช่แล้วฉันเก่ง” -v- โฮะโฮะโฮะ ชมตัวเอง
“งั้นเอาไอ้นี่ไปละกัน” -_-;;
“ลูกอมเหรอ” ฉันมองในมือตังเองและพบว่ามันเป็นลูกอม2เม็ด
“ก็ใช่นะสิ เธอเห็นเป็นข้าวมันไก่รึไง” -_-;;
โห o๐O หมอนี่ก็กวนรองเท้าใช่เล่นนะเนี่ย เห็นหงิมๆขี้อาย ใครจะนึกว่าเป็นแบบนี้
“ปะ..เปล่าหรอก แค่ฉันกลัวฟันผุนะ ช่วงนี้กินอมยิ้มเยอะไป เนี่ย นายเอาป่ะ มีเต็มกระเป๋าเลย” ว่าแล้วฉันก็เปอดกระเป๋านักเรียนของตัวเอง ซึ่งข้างในเต็มไปด้วยอมยิ้มหลากสีหลากกลิ่นที่เอาไว้กินกับยัยนำ้แดงเพื่อนฉันเอง มันชื่อนำ้แดง
“เหรอ งั้นเอาลูกอมคืนมา ไว้ฉันจะหาอย่างอื่นตอบแทนเธอทีหลัง วันนี้ขอบใจมากฉันไปละนะ”ว่าแล้วเขาก็เอามือปาดเลือดที่มุมปาก เอ หมอนี่ก็หน้าตาใช้ได้เละนะ คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบ ดวงตาสีเทาคมเข้มที่ดูเข้ากับผมสีดำที่คุ้มกะลาหัวเขาอยู่ และเมื่อหน้าตาอย่างนี้มาอยู่กับนิสัยอย่างงี้ ทำให้ฉันอดนึกไม่ได้ว่าเขาเป็นผู้ชายจริงรึเปล่า แต่เพราะฉันเพิ่งเห็นว่าเขาก็กวนรองเท้าได้อย่างคล่องแคล่ว ก็เลยเปลี่ยนความคิดใหม่แล้วว่าเขาเป็นผู้ชายจริงๆ
“อะ อืม ไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ” ฉันโบกมือบ้ายบาย
อ๊ะ เกือบลืมแนะนำตัวไปเลย ฉันชื่อพายเป็นน้องของพี่.................................. เราอาศัยอยู่ในบ้านกันสองคนเพราะพ่อตายด้วยโรคมะเร็งเนื้อร้ายไร้ทางรักษา เลยเป็นเหตุให้แม่เสียใจทนอยู้ไม่ไหวจึงฆ่าตัวตายแล้วจากไปตอนพี่อยู่ม.3 แต่แม่ก็ยังได้เขียนจดหมายลาตายไว่บอกประมาณว่าให้อยู่ต่อไปด้วยลำแข้งของตัวเอง แล้วใช้เงินของแม่ที่อยู่ในบัญชีในการตั้งตัวให้ไปต่อได้ จากนั้นก็ทิ้งทรัพย์สินทั้งหมดไว้ให้ และด้วยความที่บ้านเราก็อยู่ใกล้ตลาดด้วย ดังนั้นชีวิตของเราพี่น้องจึงไม่ลำบากเท่าที่ควร
เฮ้อ วันนี้กินอะไรดีน้า พี่ไปตลาดรึเปล่า นอนเร็วๆดีกว่า เอ แต่วันนี้มีหนังเรื่องนั้นนี่นา.... แล้วฉันก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆจนจะถึงบ้านแล้วฉันก็เห็นลูกหมาตัวหนึ่งอยู่ในลัง มองมาตาแป๋วเลย ดูจากท่าทางคงเป็นพันธุ์ไซบีเรีย ฮัสกี้ ด้วยละ น่ารักจังเลย ใครเอามาทิ้งกันเนี่ยน่าสงสารจังเลย น่าเลี้ยงจังเลย ขนนุ่มจังเลย งั้นก็เลี้ยงเลย เฮ
“เยส!” ในที่สุดก็อ้อนสำเร็จจนได้ ถึงจะต้องเจียด เอ๊ย แบ่งค่าขนมของฉันซื้อข้าวให้มันกินก็เถอะ พายรับได้ค่ะ เอาละต่อไปนี้แกจะมีชื่อว่า.................................นะเพราะแกเป็นตัวผู้ ฮ่าฮ่าฮ่า ขนนุ่มจังเลย(ฉันอาบนำ้ให้มันแล้ว เร็วมั้ยละ)
และในตอนนั้นเองที่ฉันไม่รู้ว่า...
…อะไรจะตามมา...
…ในอนาคต
บทที่ 1
เช้าวันรุ่งขึ้น
เอกอี้ เอ้กเอ้กกกกกกกก เอกอี้ เอ้กเอ้กกกกกกกก ติ๊ด!
“เฮ้ออออ หาววววว ง่วงจัง” ฉันกดปิดโทรศัพท์ที่ตั้งปลุกเป็นเสียงไก่ได้เนียนมากลง แล้วไปอาบนำ้กินขนมปังปิ้งของพี่................................ที่ปิ้งไว้ให้ แล้วเราก็แยกทางกัน โอ๊ะลืมบอกไปว่าพี่..........................ของฉันนะ เรียนจบแล้วและตอนนี้กำลังหางานทำอยู่ เพราะเพิ่งตกงานไงละ -_-;;
“ฮึบ” ฉันแบกกระเป๋าใบโตขึ้นรถเมล์ เพราะวันนี้มีทำชิ้นงาน สิ่งประดิษฐ์อะไรก็ไม่รู้ของคุณครูที่อุตสาห์ให้เตรียมกันไป และด้วยความที่ฉันต้องออกแรงในการยกกระเป๋ามากเกินไปจนแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจนออกมาประมาณว่า ช่วยด้วยยยยยยย จึงมีคนมาช่วยแบกกระเป๋าใบโตนั่นให้ แล้วชายผู้มาช่วยในเวลาคับขันแบบนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้ได้นอกจาก แถนแถ้น คนเก็บเงินค่าโดยสารไงละ
“ทำไมวันนี้กระเป๋าหนักจังเลยละ ไอ้หนู ขนาดลุงยังคิดว่ามันหนักเลย แล้วหนูแบกเข้าไปได้ยังไง จะเอาอะไรไปโรงเรียนเยอะแยะล่ะไอ้หนู ฉอด ฉอด ฉอด............”
พระเอกมาแบกนะ
ความคิดเห็น