ตอนที่ 6 : Chapter 5
บทที่ 5
‘พี่จิน ติวชีวะให้หน่อยสิ ผมเลือกได้แล้วว่าจะเข้าสาขาเดียวกับพี่ ^o^’
‘พี่อ่านหนังสือเยอะไปแล้วนะ พักผ่อนบ้างสิ ผมเป็นห่วง’
‘ไว้ถ้าพี่สอบติดแล้วเราไปเที่ยวกันนะครับ ^^’
สัมผัสที่นุ่มนิ่มราวกับขนตุ๊กตาและอุ่นชื้นที่มือบางนั้นปลุกร่างเพรียวให้ตื่นมาจากความฝัน ซอกจินที่เผลอฟุบหลับไปค่อยๆ เงยหน้าจากหนังสือเรียนที่เขาวางไว้บนเตียงก่อนจะหันไปมองมือขวาของตัวเองที่ยังถือดินสอค้างไว้อยู่
ริมฝีปากอิ่มระบายยิ้มออกมาทันทีที่เห็นว่าอะไรมาปลุกเขาจากความฝันบ้าๆ นั่น
“ไงเจ เห็นฉันเผลอหลับเลยมาปลุกเหรอ” มือเรียววางดินสอลงแล้วลูบหัวเล็กๆ ของเจ้าหูตกที่มาเลียมือเขาเมื่อครู่ กระต่ายน้อยที่ได้ยินชื่อของตัวเองก็หันมามองหน้าสวยของเจ้าของเล็กน้อยแล้วกระโดดมานอนกลางหนังสือแทน เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างเอ็นดูจากคนหน้าหวานได้ทันที
“อะไรกัน ฉันอ่านหนังสืออยู่นะ มานอนขวางได้ยังไง” เสียงหวานต่อว่าอย่างไม่จริงจังก่อนจะก้มลงฟัดพุงน้อยๆ ของเจ้าหูตกอย่างหมั่นเขี้ยวไปหนึ่งที ฮอลแลนด์ลอปตัวกลมที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องว่าเจ้านายพูดอะไรก็กระโดดออกจากหนังสือแล้วมานอนพิงแขนซ้ายของเดือนคณะวิทย์แทน
คงจะจริงที่เขาบอกแฮะ ว่าฮอลแลนด์ลอปเป็นกระต่ายที่แสนรู้และฉลาดมากสายพันธุ์หนึ่ง
เพราะเจของเขานอกจากจะจำชื่อของตัวเองได้แล้ว มันยังเข้าใจเวลาเขาพูดอะไรอีกด้วย
จะน่ารักเกินไปแล้วนะ เจ้าตัวเล็กเอ๊ย!
ซอกจินระบายยิ้มออกมาอีกครั้งกับท่าทางของลูกชายตัวเอง ก่อนจะเงยหน้ามองนาฬิกาที่หัวเตียง พอเห็นว่าเพิ่งจะสิบเอ็ดโมงก็ก้มลงอ่านหนังสือต่อ แต่เพราะความฝันเมื่อครู่ทำลายสมาธิในการอ่านของเขาเสียหมด ร่างเพรียวถอนหายใจออกมาพร้อมกับถอดแว่นสายตาและปิดหนังสือชีวะของตัวเอง กระต่ายน้อยที่นอนพิงแขนเขาอยู่ก็ผุดลุกขึ้นมานั่งเมื่อซอกจินขยับแขน ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะถูกมือเรียวอุ้มลงจากเตียงมานอนหงายบนตักของคนที่นั่งบนพื้นแทน
“ปล่อยออกมาตั้งแต่เช้า ไม่ได้ทำห้องฉันเลอะใช่มั้ย”
“...”
“ไม่ตอบอีก แต่ไม่มีกลิ่นก็คงไม่ได้ทำหรอกเนอะ ใช่มั้ยๆๆ” ถามซ้ำพร้อมกับโยกขาหน้าของลูกชายเบาๆ จนเจเริ่มดิ้นอย่างรำคาญ เจ้านายคนสวยก็ยอมปล่อยให้กระต่ายของตัวเองพลิกกลับมานอนคว่ำตามปกติ มือบางลูบไปตามขนนุ่มๆ ฟูๆ พร้อมกับถอนหายใจออกมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงฝันเมื่อครู่
ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย ตัวปลอมที่แสนดีอย่างแกนี่หายออกไปจากหัวบ้างเถอะ
จอนจองกุกมันร้ายกาจ ท่องไว้สิ คิมซอกจิน...
ลบภาพคนดีของเด็กนั่นออกไปสักทีเถอะ
แต่จะว่าไป พอฝันถึงเรื่องของจองกุกก็นึกขึ้นได้
ว่ากี่วันแล้วนะ ที่เด็กนั่นไม่ได้มาก่อกวนเขา
ใช่ อ่านกันไม่ผิดหรอก
หลังจากวันที่เด็กนั่นขู่เขา หลายวันมานี้เขาก็แทบไม่เจอหน้าจองกุกอีกเลย
ไม่ใช่ว่าอดีตคนรักของเขาไม่ไปที่มหาวิทยาลัยนะ แต่หมายถึงการเจอกันแบบซึ่งๆ หน้าน่ะ เด็กคนนั้นไม่ได้เข้ามาหาเขาอย่างเช่นวันก่อนๆ ผิดกับแทฮยองที่แทบจะมาให้เจอทุกครั้งที่ว่าง
สำหรับยุนกิและฮเยมินมันก็คงเป็นเรื่องดี เพราะการเจอจองกุกในทุกๆ ครั้ง มันก็ทำให้ร่างเพรียวปวดประสาทได้ตลอดเวลา
แต่สำหรับซอกจินแล้ว เขาไม่ได้สบายใจเลยสักนิด
ไม่ใช่ว่าเขาอยากให้จองกุกมาคอยรังควานหรอกนะ เขาไม่ใช่นางเอกละครบางเรื่องนะที่ไม่ว่าจะโดนพระเอกรังแกแค่ไหนก็ยอมให้ตลอดน่ะ - -
เพียงแต่เขารู้สึกว่ามันดูจะง่ายไป ถ้าจองกุกจะถอยออกไปทั้งๆ ที่ร้ายใส่เขาขนาดนั้น
เหมือนกับทะเลที่เงียบสงบ ก่อนจะเกิดคลื่นยักษ์ที่ถล่มทุกอย่างจนพังพินาศ
เขาอาจจะคิดมากไป แต่เพราะเขารู้จักเด็กคนนั้นมากไง เขาถึงได้ระแวงแบบนี้
คนอย่างจองกุกน่ะ ทั้งร้ายกาจ ทั้งเอาแต่ใจ
โอ๊ย วันนี้วันหยุดนะคิมซอกจิน อย่าเอาเรื่องอื่นมาคิดมากสิ
ร่างเพรียวแทบจะทึ้งหัวตัวเอง แทนที่ในวันหยุดแบบนี้ เขาจะได้อ่านหนังสือทบทวนบทเรียนไปเพลินๆ กลับต้องมานั่งปวดหัวกับเด็กที่ไม่น่าจดจำแบบนั้น
ไร้สาระจริงๆ เลยนะคิมซอกจิน L
คนหน้าหวานสะบัดหัวไล่ความคิดเกี่ยวกับอดีตคนรัก ก่อนจะอุ้มลูกชายของตัวเองไปนอนบนเตียงกว้างสีชมพูตามเดิม ก่อนจะลุกขึ้นไปเช็คความเรียบร้อยของกรงเจ้าตัวน้อย โห เขาใส่อาหารไว้เมื่อคืนตั้งเยอะ จะหมดแล้วเหรอเนี่ย
กินจุพอได้เลยนะเจ้าอ้วน น่าด่าซะจริง -0-
ก็คิดไปอย่างนั้นแหละ ดีซะอีกถ้าเจของเขาจะกินเยอะๆ จะได้มีพุงให้เขาฟัดเล่นไง ^o^
ร่างเพรียวเอื้อมไปหยิบถุงอาหารเม็ดและถุงหญ้าแห้งสำหรับลูกกระต่ายแล้วจัดการเตรียมใส่ถาดอาหารให้กระต่ายน้อย เสียงหวานฮัมเพลงโปรดของตัวเองอย่างอารมณ์ดี
กริ๊ง!
เสียงแสบแก้วหูจากกริ่งหน้าประตูทำเอาคนหน้าหวานถึงกับสะดุ้งก่อนจะขมวดคิ้วอย่างสงสัย ใครมาหาเขาแต่เช้าล่ะเนี่ย จะว่าเป็นยุนกิก็ไม่น่าใช่เพราะหมอนั่นไม่มีทางที่จะตื่นเวลานี้ และอีกอย่างถ้าเพื่อนตัวขาวของเขาจะมาหา มันจะต้องโทรมาบอกก่อน
แล้วนี่ใครล่ะเนี่ย
เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นเพื่อนบ้านใหม่
จริงสิ เขาก็เพิ่งได้ข่าวจากพนักงานเมื่อวานหลังจากกลับจากรับน้อง ห้องข้างๆ ที่ไม่มีใครอยู่มานานเป็นเดือน ในตอนนี้มีผู้อาศัยแล้ว
ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ ก็คงเป็นเพื่อนบ้านใหม่มาทักทายแหละ เพราะตอนเขามาอยู่ใหม่ๆ เขาก็ไปทักทายคนข้างห้องของตัวเองเหมือนกัน
เมื่อคิดแบบนั้น เดือนหน้าหวานก็ผละออกจากการเตรียมอาหารให้เจตัวน้อยแล้วเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเอง ร่างเพรียวเดินผ่านโซนรับแขกของตนเองแล้วเปิดประตูโดยไม่คิดจะเปิดจอด้านข้างประตูดูว่าแขกหน้าห้องเป็นใคร
แต่พอเห็นหน้าอีกฝ่ายแล้ว ก็ทำเอาซอกจินถึงกับเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“ว่าแล้วว่าพี่ต้องยังอยู่ห้องนี้เหมือนเดิม” เสียงทุ้มพร้อมกับรอยยิ้มน่ารักที่ประดับบนใบหน้าหล่อแสนคุ้นเคยทำเอามือบางรีบประตูอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ทันร่างสูงที่ใช้มือหนาผลักประตูให้เปิดออกกว้างแล้วแทรกตัวเข้าไปในห้องของร่างเพรียวพร้อมกับปิดประตูและล็อกมันทันที ซอกจินถอยกรูดออกจากคนที่บุกรุกเข้ามาในห้อง ในขณะที่ผู้บุกรุกกลับมีท่าทีพอใจในท่าทางของเจ้าของห้อง
“พี่จะตกใจอะไรขนาดนั้นครับ”
“จองกุก...”
ใช่แล้ว คนที่กล้าทำกับเขามากขนาดนี้ก็มีคนเดียวนี่แหละ
“ก็ผมเองน่ะสิครับ พี่คิดว่าเป็นใครเหรอ ^o^”
“นายมาที่นี่ทำไม” ซอกจินถามเสียงแผ่ว “ออกไปจากห้องพี่เดี๋ยวนี้เลยนะ”
“พี่จะระแวงอะไรขนาดนั้น” จองกุกหัวเราะเบาๆ “ผมก็แค่อยากจะทักทายเพื่อนบ้านก็เท่านั้น”
“หมายความว่า...” แค่หยุดคิดเพียงชั่วครู่ ร่างสูงก็เข้ามาประชิดตัวเสียแล้ว แขนแกร่งรวบเอวบางของคนตัวเล็กกว่าเข้ามาอยู่ในพันธนาการแล้วก้มลงกระซิบข้างหู
“ใช่แล้ว ผมคือคนที่เพิ่งย้ายมาอยู่ข้างห้องพี่ไง J”
ให้ตายเหอะ นี่มันยิ่งกว่าคำว่าซวยอีกนะเนี่ย -0-
“นายก็มีทั้งบ้านที่นี่และคอนโดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ จะมาเสียเงินซื้อเพิ่มทำไม แล้วก็ปล่อยพี่สักที มันอึดอัด” ซอกจินพยายามดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมแขนแข็งแรงของรุ่นน้อง แต่ยิ่งดิ้นแขนคู่นี้ก็ยิ่งรัดแน่นจนร่างเพรียวเริ่มหายใจไม่ออก “จองกุก ปล่อย พี่หายใจไม่ออก”
เพราะเสียงหวานที่แผ่วลงเหมือนคนหายใจไม่ออกจริงๆ ทำให้แขนแกร่งค่อยๆ ลดแรงที่ใช้กอดคนตัวเล็กกว่าลง ใบหน้าหล่อที่เกยอยู่บนไหล่บางยอมถอยออกมามองหน้าร่างเพรียวแทน
แต่ก็ยอมแค่นั้นแหละ ไม่ได้ปล่อยคนตัวเล็กกว่าออกจากอ้อมกอดหรอก J
“คำถามแรกนะครับ ใช่ครับ ผมมีบ้านที่นี่และมีคอนโดอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ผมขายคอนโดนั้นไปแล้วย้ายมาอยู่ที่นี่แทน ส่วนคำถามที่สอง ก็เพราะที่นี่ทั้งใกล้มหาลัยกว่าบ้านผมและคอนโดเก่าแถมยังใกล้พี่อีกด้วย ^^”
“...”
“ก็บอกแล้วไง ว่าผมไม่มีทางปล่อยพี่ไปง่ายๆ หรอก อะไรที่ผมอยากได้ ผมก็ต้องได้มันกลับมา”
“...นายจะทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่” ซอกจินเงยหน้าสบตากับดวงตาคมของรุ่นน้องที่ก้มใบหน้าหล่อลงมาจนเกือบชิด ดวงตาหวานฉายแววความเจ็บปวดออกมาอย่างไม่ปิดบัง “จะทำร้ายกันไปถึงเมื่อไหร่เหรอจองกุก”
“...”
“พี่ไม่รู้ว่านายเป็นยังไงหลังจากที่เราเลิกกัน แต่ในตอนนั้นพี่เจ็บจริงๆ นะ”
“...”
“ไม่มีใครอยากเป็นของเล่นของใครหรอกนะจองกุก วันที่นายบอกว่าความรักที่นายให้พี่เป็นแค่การเล่นของเล่นเท่านั้น นายรู้มั้ยว่าพี่แทบจะเป็นบ้า กว่าพี่จะหายจากอาการบ้าๆ แบบนั้นได้มันนานแค่ไหน”
“...”
“จนตอนนี้ พี่ยังรักใครใหม่ไม่ได้เลย”
“...”
“เพราะพี่กลัว พี่กลัวมากจริงๆ เวลามีใครเข้ามาในชีวิต ภาพของนายมันก็ซ้อนทับขึ้นมาตลอดเวลา”
“...”
“พี่อยากจะลืมนายนะ อยากจะทิ้งเรื่องนายไปให้หมดเลย แต่นายกลับเดินเข้ามาหาพี่อีกแบบนี้ พี่คงจะทำมันได้หรอกนะ”
“...”
“นายยังต้องการอะไรอีกกันแน่ นายเคยผลักไสกัน แล้วตอนนี้กลับมาบอกว่าต้องการ พี่อยากจะรู้ใจนายจริงๆ นะ อยากรู้จริงๆ ว่าทำไม...” เสียงหวานพูดได้แค่นั้นแล้วเงียบหายไปทันที
เพราะริมฝีปากที่เข้าครอบครองริมฝีปากอิ่มนั้น ดูดกลืนทุกคำพูดของร่างเพรียวไปจนหมดสิ้น
มือหนาข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นมาประคองท้ายทอยของคนสวยอย่างแผ่วเบา ส่วนแขนอีกข้างก็โอบรัดคนเป็นพี่ให้แนบชิดกันยิ่งขึ้น ฟันคมขบริมฝีปากล่างของซอกจินเบาๆ อย่างขออนุญาตก่อนจะรุกล้ำเข้าไปกวาดเก็บความหวานในโพรงปากเล็กเมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ขัดขืน
สัมผัสที่แสนคุ้นเคยจากจองกุกทำให้คนหน้าหวานถึงกับเบลอไปชั่วขณะ ตากลมหลับพริ้มพร้อมกับขยับริมฝีปากตอบรับสัมผัสจากรุ่นน้องอย่างลืมตัว มือบางที่กำเสื้อบนอกแกร่งแน่นค่อยๆ เปลี่ยนเป็นลูบไล้เบาๆ อย่างเผลอไผล ยิ่งได้กลิ่นน้ำหอมที่ตัวเองหลงใหลจากตัวของร่างสูงก็เหมือนยิ่งถูกมอมเมาสติไปทุกที
แต่พอรู้สึกได้ถึงมือหนาที่สอดเข้ามาสัมผัสหน้าท้องแบนราบใต้เสื้อยืดสีชมพูตัวโคร่งของตัวเอง สติของร่างเพรียวก็กลับมาทันที
พลั่ก!!
มือเรียวผลักร่างสูงเต็มแรงจนผละออกมาได้ ซอกจินหอบหายใจหนักพร้อมกับยกมือปิดปากของตัวเองในขณะที่สายตายังจ้องมองรุ่นน้องที่เซออกไปเล็กน้อยอย่างไม่วางตา จองกุกสบตากับคนเป็นพี่ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมาแล้วแลบลิ้นเลียไปตามริมฝีปากของตัวเอง
“ยังหวานเหมือนเดิมเลยนะครับ J”
ประโยคนั้นทำให้ใบหน้าหวานแดงจัดขึ้นมาได้ทันที อารมณ์หลายๆ อย่างตีตื้นขึ้นมาจนซอกจินไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโกรธหรือกำลังเขินร่างสูงตรงหน้ากันแน่ แต่กระนั้น แววตาหวานก็ฉายแววหงุดหงิดออกมา
“ออกไปจากห้องพี่เดี๋ยวนี้เลยนะ” พูดจบก็ดันร่างสูงไปที่ประตูห้อง แต่ข้อมือบางทั้งสองข้างก็โดนมือหนาจับไว้แน่น
“เดี๋ยวสิครับ ผมไม่ได้มาแค่ทักทายเฉยๆ หรอกนะ”
“จะเอาอะไรอีกล่ะ แล้วก็ปล่อยพี่ด้วย” ร่างเพรียวพยายามบิดแขนให้หลุดจากพันธนาการของรุ่นน้องแต่ก็ไม่สำเร็จ “จอนจองกุก!”
“ไปเที่ยวกัน ^^”
“...ฮะ?” คนเป็นพี่ถึงงงเมื่อได้ยินที่จองกุกพูด ตาหวานมองหน้าร่างสูงอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
ไอ้เด็กนี่เนี่ยนะ ชวนเขาเที่ยว???
มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
“ไม่ พี่ไม่ไป” ร่างเพรียวปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกับออกแรงบิดแขนตัวเองออกจากมือใหญ่ของรุ่นน้อง แต่ก็ยังไม่สามารถหลุดออกมาได้
“ผมไม่ได้ชวนสักหน่อย” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าหล่ออีกครั้ง “ผมบังคับต่างหาก J”
“แล้วคิดว่านายจะบังคับพี่ได้หรือไง ไม่ไป ยังไงพี่ก็ไม่ไปเด็ดขาด”
“ผมไม่พาพี่ไปขายหรอกน่า”
“ไม่ได้กลัวเรื่องนั้นเว้ย แต่ยังไงพี่ก็ไม่...”
“หรือว่าพี่อยากสานต่อเมื่อกี้” เสียงทุ้มขัดเสียงหวานที่กำลังปฏิเสธพร้อมดึงคนตัวเล็กกว่าเข้ามาหาโดยไม่ให้ร่างเพรียวตั้งตัว จมูกโด่งก้มลงคลอเคลียกับปลายจมูกรั้น “ยังไงผมก็ว่างทั้งวัน ถ้าพี่ไม่ออกไปกับผม เราก็มาสานต่อเรื่องเมื่อกี้กันก็ได้นะ”
พูดแล้วก็ทำท่าจะก้มลงมาขโมยจูบคนพี่อีกรอบ แต่ซอกจินก็ใช้แรงทั้งหมดผลักร่างสูงออกไป คนหน้าหวานมองรอยยิ้มกวนๆ ของอีกคนอย่างหงุดหงิด
“นายจะบ้าหรือไง”
“เลือกสิครับ จะออกไปเที่ยวกัน หรืออยู่ในห้องนี้...กับผม”
ยิ่งได้ยินอย่างนั้น คนหน้าหวานก็ยิ่งเดือดดาล แต่ก็ไม่สามารถต่อต้านอะไรได้ เพราะในสถานการณ์แบบนี้ คนที่เป็นต่อคือจองกุก
ไอ้เด็กเวรเอ๊ย - -
“เออๆ งั้นรอแป๊บนึงแล้วกัน พี่ไปเปลี่ยนชุดก่อน” พูดจบก็เดินกระแทกเท้าไปที่ห้องนอนของตัวเอง เสียงปิดประตูดังปังเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ จากรุ่นน้องได้เป็นอย่างดี
พี่จินก็เป็นพี่จินเหมือนเดิมเลยนะ ^^
เอ๊ะ อะไรหนักๆ ที่เท้า
ร่างสูงก้มมองที่เท้าของตัวเองเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาทับอยู่ แล้วก็เป็นอย่างที่คาดเมื่อเห็นก้อนขาวๆ นอนทับบนเท้าเขาอยู่
จองกุกก้มลงอุ้มเจ้าก้อนสีขาวขึ้นมาถึงรู้ว่าเป็นกระต่ายฮอลแลนด์ลอปสีขาว คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย
จังกู?
ไม่สิ ไม่ใช่จังกู
ถึงหน้าตาจะคล้ายกันก็เถอะ แต่เขาจำได้ จังกูของเขากับรุ่นพี่หน้าหวานจะขนสั้นกว่านี้และมีตาสีแดง ไม่ใช่ขนฟูๆ กับตาสีดำดูใสซื่อแบบเจ้าตัวเล็กนี่
“แกชื่ออะไรล่ะเนี่ย” เสียงทุ้มเอ่ยถามกระต่ายน้อยที่อุ้มอยู่ มันมองหน้าเขาพร้อมกับเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัย ท่าทางแบบนั้นเรียกเสียงหัวเราะด้วยความเอ็นดูจากร่างสูงได้ทันที
“แกนี่เหมือนพี่จินชะมัดเลย เจ้าตัวเล็ก”
“...”
“แต่ความดื้อนี่คงต่างกันอยู่แหละมั้ง รู้มั้ยว่าเจ้านายแกน่ะดื้อสุดๆ ไปเลย”
“จองกุก...” เสียงหวานของคนที่เพิ่งเปิดประตูห้องหายไปทันทีเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะถามถึงอยู่ในมือร่างสูง แต่เหมือนจองกุกจะยังไม่รู้ตัวว่าคนพี่แต่งตัวเสร็จแล้ว ถึงได้ยังเล่นหยอกล้อกับกระต่ายตัวน้อยของเขาแบบนั้น
ท่าทางแบบนั้น... รอยยิ้มแบบนั้น...
ภาพของจองกุกตอนที่ร่างสูงยังเป็นเด็กเกรดสิบซ้อนทับขึ้นมาทันทีจนร่างเพรียวต้องสะบัดหัวไล่ภาพนั้นออกไปทันที
แต่ท่าทางที่แสนอ่อนโยนแบบนั้น มันเหมือนกับว่าจองกุกคนเดิมกลับมาอยู่ตรงหน้าเขา
ไร้สาระน่าคิมซอกจิน
ตัวตนที่แท้จริงของเด็กนี่ คือความร้ายกาจต่างหาก
“พี่ขอน้องคืนด้วย” คิดอย่างนั้น ซอกจินเดินออกจากห้องของตัวเองไปหาร่างสูงที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นพรมของห้อง ตาคมหันมามองร่างเพรียวเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นแล้วยอมส่งกระต่ายน้อยในมือให้แต่โดยดี
“ตัวใหม่เหรอพี่”
“อืม” ร่างเพรียวตอบรับในขณะที่รับกระต่ายมาไว้ในอ้อมแขน “เพิ่งซื้อมาเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนน่ะ”
“น่ารักดีนะครับ ชื่ออะไรเหรอ”
“เจ”
“หน้าเหมือนจังกูเลยนะครับ จริงสิ จังกูหายไปไหนล่ะ”
“...ตายไปแล้วล่ะ พี่ก็เลยซื้อตัวนี้มาและตั้งชื่อว่าเจเพราะว่ามันทำให้พี่นึกถึงจังกูน่ะ” ตาคู่สวยฉายแววเศร้าเล็กน้อย แต่เพียงนิดเดียวก็หายไป “แต่พี่ไม่ได้จะเอาน้องมาแทนจังกูหรอก อะไรที่มันผ่านไปแล้วพี่ก็อยากจะลืมๆ มันไปบ้าง ดีกว่าจมกับอะไรเก่าๆ แหละนะ”
พูดจบก็เดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเองเพื่อเอาลูกชายตัวเล็กไปใส่ในกรง ทิ้งให้ร่างสูงมองตามแล้วยกยิ้มมุมปาก
คิดว่าเขาไม่รู้เหรอว่ารุ่นพี่หน้าหวานต้องการจะสื่ออะไร
สุดท้ายพี่ก็เก่งแต่ปากนั่นแหละ ในใจจริงๆ ของพี่คิดอะไรอยู่ ผมรู้ดียิ่งกว่าตัวพี่ซะอีก J
“แล้วสรุปจะบอกพี่ได้หรือยังว่าจะพาพี่ไปไหน” ร่างเพรียวถามในขณะที่นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ของรุ่นน้อง มือบางจิกเบาะแน่นเพราะว่าความเร็วที่จองกุกใช้ขับขี่ก็ไวจนน่ากลัวชนิดที่ว่าต่อให้ใส่หมวกกันน็อกไว้แบบนี้ก็คงช่วยอะไรไม่ได้
แต่จะให้เกาะเอวเด็กนี่เหรอ เขาไม่ทำหรอก = =
“ไปกินข้าวเที่ยงกันก่อนครับ แล้วไปสวนสาธารณะกัน”
“สวนสาธารณะ? ตอนนี้เนี่ยนะ” ซอกจินถามอย่างไม่แน่ใจ นี่มันเพิ่งเที่ยงเองนะ กินข้าวเสร็จก็ตีอย่างช้าสุดบ่ายสอง
ไปเดินเล่นสวนสาธารณะตอนบ่ายสองเนี่ยนะ -0-
“ครับ แล้วก็อยู่ถึงเย็นเลยไง ^o^”
“นายคิดว่าพี่จะว่างขนาดนั้นเลยหรือไง”
“พี่พูดไปเถอะ ยังไงพี่ก็ปฏิเสธผมไม่ได้อยู่ดี”
เออ ไอ้เด็กนี่พูดถูก - -
ให้ตายเถอะ ทำไมจองกุกมันถึงเหนือกว่าเขาทุกเรื่องแบบนี้นะ เถียงอะไรไปก็ไม่เคยชนะเลยจริงๆ
ร่างเพรียวได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัวว่าคนเป็นน้องแอบลอบมองใบหน้าหวานผ่านกระจกมองหลังอยู่ จองกุกหัวเราะเบาๆ ให้กับท่าทางเหมือนเด็กของรุ่นพี่ ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าจอดหน้าร้านเมื่อมาถึงที่หมายของเขาแล้ว
“คาเฟ่แมว?” คนหน้าหวานทวนชื่อร้านก่อนจะหันมามองหน้ารุ่นน้องอย่างสงสัย ร่างสูงส่งยิ้มกลับมาพร้อมกับเอ่ยตอบ
“ใช่ครับ ผมเห็นพี่ชอบสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ ไง ก็เลยพามา”
“แต่นายไม่ชอบแมวนี่...” ซอกจินพึมพำออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นโสตประสาทของจองกุกไปได้
“ผมดีใจนะที่พี่ยังจำได้” ร่างสูงเอ่ยออกมา “แต่ตอนนี้ผมชอบมันแล้วล่ะ มองไปมองมามันน่ารักดี เวลาเปลี่ยนไป ความชอบของผมก็ต้องเปลี่ยนบ้างอะไรบ้างแหละครับ”
“แล้วทำไมต้องกลับมาหาพี่อีกล่ะ” เสียงหวานเผลอถามออกไป เรียกให้คนเป็นน้องหันกลับไปหาทันที “ถ้าความชอบของนายมันเปลี่ยนไปแล้ว ก็เลิกยุ่งกับพี่สักทีสิ”
“พี่เป็นกรณียกเว้นน่ะครับ ^^” รอยยิ้มร้ายถูกส่งให้ร่างเพรียวอีกครั้งจนซอกจินขนลุก “พี่เลิกถามเรื่องนี้สักทีเถอะ ผมก็บอกพี่แล้วไงว่ายังไงผมก็ไม่ปล่อยพี่ไปง่ายๆ หรอก”
“...”
“เข้าไปกันเถอะครับ” มือหนาคว้าข้อมือเรียวแล้วออกแรงลากให้คนพี่เดินตามซึ่งคนตัวเล็กก็ไม่ขัดขืนแต่อย่างใด ตากลมมองแผ่นหลังกว้างของคนข้างหน้าอย่างไม่เข้าใจ
พี่อยากจะรู้ความคิดนายจริงๆ นะ จองกุก
ใจนายคิดอะไรอยู่กันแน่นะเด็กน้อย
“นั่งตรงไหนดีครับพี่จิน” คำถามจากร่างสูงทำเอาซอกจินตื่นจากความคิด ร่างเพรียวมองไปรอบๆ ร้านที่มีคนอยู่ประปราย ก่อนจะตอบส่งๆ ไป
“ตรงไหนก็ได้ นายเลือกเลย”
“อ่า งั้นเอามุมนั้นดีกว่าเนอะ ไม่ค่อยมีใครสนใจดี” พูดจบก็ลากคนหน้าหวานไปที่มุมในสุดของร้าน ก่อนจะกดไหล่คนพี่ให้นั่งลงบนเบาะนั่งแล้วเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม
หลังจากนั่งลงปุ๊บ พนักงานของร้านก็เดินเข้ามาหาทันที ทั้งคู่สั่งอาหารในส่วนของตัวเองอย่างรวดเร็ว จากนั้นความเงียบก็เข้ามาครอบคลุมโต๊ะทันทีที่พนักงานเดินออกไป มีเพียงเสียงเพลงสบายๆ ที่ร้านเปิดให้ลูกค้าฟังเท่านั้นที่ยังไม่ทำให้อึดอัดเท่าไหร่
จองกุกก็เอาแต่เล่นเกมในโทรศัพท์ของตัวเอง ส่วนซอกจินก็เอาแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
จนกระทั่งคนหน้าหวานรู้สึกเหมือนมีอะไรมาแตะที่ตักของตัวเอง
ซอกจินหันไปมองตาม ก็พบกับแมวตัวกลมสีน้ำตาลอ่อนตัวหนึ่งที่มานั่งข้างเขาพร้อมกับเอียงคอเล็กน้อยมองใบหน้าสวยอย่างสงสัย
จริงสิ ที่นี่เป็นคาเฟ่แมวนี่นา
ริมฝีปากอิ่มระบายยิ้มออกมาทันทีพร้อมกับนัยน์ตาหวานที่ฉายแววเป็นประกายเหมือนเด็กเจอของเล่นที่ถูกใจ มือเรียวอุ้มเจ้าแมวน้อยมานอนบนตักตัวเองทันที
“ชื่ออะไรฮะเรา” ลูบขนเบาๆ พลางมองป้ายชื่อที่อยู่บนปลอกคอ “คุกกี้เหรอ ชื่อน่ารักจังเลยนะ ^^”
“เมี้ยว~” หัวกลมๆ ของแมวน้อยคลอเคลียกับมือบางอย่างออดอ้อน เรียกเสียงหัวเราะจากเจ้าของมือได้ทันที
“ขี้อ้อนจริงๆ นะเราเนี่ย”
จองกุกลอบมองคนพี่ที่นั่งเล่นกับแมวน้อยตรงข้ามอย่างมีความสุข ท่าทางน่ารักๆ ของคนตรงหน้าทำเอาร่างสูงอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามรอยยิ้มสดใสนั้น
หึ แล้วอย่างนี้จะให้เขาปล่อยซอกจินไปง่ายๆ ได้ยังไง
จริงอยู่ที่เขาไม่ได้รักคนตรงหน้า แต่คนน่ารักๆ แบบรุ่นพี่หน้าหวานคนนี้ ใครๆ ก็ต้องการไม่ใช่เหรอ J
ขนาดเดือนปีสองอย่างแทฮยองยังอยากได้พี่เขาเลย ถึงขนาดมาคุยกับเขาว่าให้เลิกยุ่งกับซอกจินเลยนี่นา
แต่อย่าหวังเลย ว่าเขาจะเลิกยุ่งกับซอกจินง่ายๆ
แล้วก็อย่าหวัง ว่าเขาจะปล่อยรุ่นพี่หน้าหวานให้ไปหาแทฮยองง่ายๆ เช่นกัน ไม่มีทางเสียหรอก
อย่างน้อย ก็จนกว่าเขาจะเบื่อแหละนะ ^^
“มองอะไร” เสียงหวานถามขึ้นเรียกให้ร่างสูงตื่นจากความคิด จองกุกกระพริบตาปริบๆ มองดวงตาหวานที่มองเขาอย่างไม่ไว้ใจแล้วส่งยิ้มกลับไป
“ก็มองพี่นั่นแหละ มองไม่ได้เหรอครับ ^^”
“ไร้สาระ” เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาก่อนจะก้มลงไปเล่นกับเจ้าคุกกี้ต่อ จองกุกเก็บโทรศัพท์แล้วเท้าคางกับโต๊ะ มองท่าทางของคนตัวเล็กกว่าโดยไม่ได้สนใจคำต่อว่าเมื่อครู่เลยสักนิด
“ตัวนี้เป็นพันธุ์เอ็กโซติก ช็อตแฮร์ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกความสนใจของร่างเพรียวให้หันไปหาอีกครั้ง “ตัวอ้วนๆ กลมๆ ตาโตๆ ดูน่าฟัดน่ากอดแบบนี้ใช่แน่ๆ แมวพันธุ์นี้จะเป็นแมวนิ่งๆ แต่บทจะเล่นก็ซนพอได้เลย จริงๆ มันกลัวคนแปลกหน้ามากเลยนะครับ แต่คงเพราะพี่เหมือนมันมั้ง เลยเข้ามาเล่นด้วย”
“พี่เหมือนมันตรงไหน = =”
“อยากรู้เหรอ” จองกุกโน้มตัวข้ามโต๊ะไปหารุ่นพี่จนคนหน้าหวานผงะไปเล็กน้อย อยากจะถอยออกมาแต่มือหนาก็คว้าแขนไว้ก่อน “ก็พี่น่าฟัดน่ากอดเหมือนเจ้าตัวนี้เลยไง ^^”
ดวงตาหวานสบตากับรุ่นน้องที่มองมา สายตาและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่จองกุกใช้มองเขาเรียกริ้วสีแดงจางๆ ขึ้นบนแก้มนุ่มของคนหน้าสวยทันที มือบางดันคนน้องให้กลับไปนั่งเหมือนเดิมพร้อมกับหลบตาร่างสูงอย่างขัดเขิน
แค่คำพูดก็ทำให้เขาปั่นป่วนได้ขนาดนี้เลยเหรอ
อันตราย
จอนจองกุกอันตรายเกินไป
เวลาสี่ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
จองกุกมองท่าทางของคนตัวเล็กกว่าอย่างพอใจ ถึงจะปฏิเสธมากแค่ไหน แต่คนพี่ก็ยังหวั่นไหวกับเขาอยู่ตลอดแหละ
สุดท้ายพี่มันก็เก่งแต่ปากแหละ คิมซอกจิน
2.47 pm สวนสาธารณะ
หลังจากทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อย คนตัวสูงก็พา (เรียกว่ากึ่งบังคับน่าจะถูกกว่า) รุ่นพี่หน้าหวานมานั่งเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ๆ มหาวิทยาลัย จองกุกทิ้งให้ร่างเพรียวนั่งรอที่เก้าอี้ใต้ต้นไม้และวิ่งหายไปไหนไม่รู้ ซอกจินก็ได้แต่เล่นโทรศัพท์รอรุ่นน้องพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
เวลาบ่ายๆ ของวันเสาร์แบบนี้ เขาควรจะนอนอ่านหนังสืออยู่ที่คอนโดไม่ใช่เหรอ
แล้วเขามานั่งทำอะไรที่นี่ล่ะเนี่ย
แถมไอ้คนที่ลากเขามาก็หายไปไหนไม่รู้แล้วด้วย
หนีกลับซะเลยดีมั้ย - -
ร่างเพรียวก่นด่าทั้งรุ่นน้องจอมเผด็จการและตัวเองที่ยอมใจง่ายออกมาด้วยในใจอย่างดุเดือด และเพราะเอาแต่คิดอะไรในใจ เลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครมาอยู่ด้านหลังแล้ว
ขวดน้ำเย็นเฉียบแตะเข้าที่ข้างแก้มนิ่มจนซอกจินสะดุ้งโหยง คนหน้าหวานรีบหันไปมองทันที ก็พบรอยยิ้มร่าเริงจากคนหน้าหล่อที่พาเขามาที่นี่
“เล่นอะไรของนายเนี่ย” เสียงหวานถามอย่างหงุดหงิดเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ จากจองกุกได้ทันที ร่างสูงเดินอ้อมมานั่งลงข้างๆ รุ่นพี่หน้าหวานแล้วยื่นขวดน้ำไปให้
“เห็นนั่งเหม่อๆ คนเดียว ก็เลยอยากแกล้งนิดหน่อย ^^ ผมซื้อน้ำมาให้น่ะครับ เห็นพี่ดูเหนื่อยๆ คงเพราะซ้อนมอเตอร์ไซด์ตากแดดมาเกือบทั้งวันสินะ”
“...นายจำได้ด้วยเหรอ” ร่างเพรียวรับขวดน้ำมาจากคนอายุอ่อนกว่าพร้อมกับถามเสียงแผ่ว
“จำได้อยู่แล้วครับ ผมไม่ลืมหรอก”
“...”
“พี่ไม่ชอบอากาศที่ร้อนหรือหนาวเกินไป” พูดพร้อมกับหันมามองหน้าสวยของรุ่นพี่ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือบางที่ถือขวดน้ำอยู่ “และถ้าต้องเจออากาศที่ร้อนจัด พี่ก็จะชอบดื่มน้ำเย็นๆ แบบนี้ บางทีก็ดื่มทีเดียวสามสี่ขวดเลย”
“...”
“ถ้าพี่ไม่ได้เปลี่ยนไป ผมก็จำมันได้หมดแหละ ผมบอกแล้วไงว่า...” เสียงทุ้มหายไปทันทีเพราะจู่ๆ มือเรียวอีกข้างก็วางลงบนอกกว้างอย่างแผ่วเบา ดวงตาหวานมองลึกเข้าไปในดวงตาคมที่แสนว่างเปล่าของรุ่นน้องก่อนจะเอ่ยออกมา
“คิดอะไรอยู่กันแน่”
“...”
“รู้สึก...รู้สึกอะไรอยู่ บอกพี่ได้มั้ย”
“...”
“ตั้งแต่เมื่อเช้ามา พี่เดาอะไรนายไม่ได้เลย”
“...”
“พี่อยากเข้าใจนายจริงๆ นะ อย่างน้อยถ้านายไม่บอกว่าทำไมยังยึดติดอยู่กับของเล่นที่นายทิ้งไปแล้วอย่างพี่ ก็บอกกันหน่อยได้มั้ย ว่าตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่”
“...”
“ต้องทำยังไงพี่ถึงจะได้รู้ว่าในสายตาว่างเปล่าของนายมันมีอะไรอยู่ข้างในกันแน่”
“...”
“ช่างเถอะ พี่ขอโทษที่ทำแบบนี้” ร่างเพรียวผละออกไปดื้อๆ ทำเอารุ่นน้องถึงกับงงในท่าทางของคนหน้าหวาน ตาคมมองซอกจินที่เปิดขวดน้ำแล้วยกขึ้นดื่มอย่างสงสัย แต่ท่าทางที่นิ่งไปของคนเป็นพี่ก็ทำให้เขาไม่อยากจะถามอะไรมากมาย
ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาอยู่แล้ว
ความคิดหลายๆ อย่างเข้ามาในหัวของคนหน้าหวานอย่างไม่ขาดสายแต่ซอกจินก็พยายามกดอารมณ์ไม่ให้แสดงออกมา เขาไม่น่าเลย ไม่น่าไปอยากรู้อะไรแบบนั้นเลย
เพราะพอรู้แล้ว ก็ต้องมาเจ็บเองแบบนี้
ทั้งสายตา ทั้งเสียงหัวใจของจองกุก
มันเย็นชามากจริงๆ
ดวงตาคู่คมมันไม่บอกอะไรเขาเลย เช่นเดียวกับหัวใจของร่างสูงที่เต้นอย่างสม่ำเสมอ
จริงๆ เขาน่าจะรู้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว
เพราะตอนที่จูบกัน มีแค่เขาคนเดียวที่หัวใจเต้นรัวและมีความรู้สึกให้กับสัมผัสเก่าๆ แบบนั้น
ผิดกับคนตรงหน้า ที่ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย...
โอเค เขาเข้าใจแล้ว
สำหรับจองกุกแล้ว มันไม่มีสักเสี้ยวเลยที่ร่างสูงตรงหน้าจะรู้สึกอะไรกับเขา แม้แต่ความผูกพัน เด็กนี่ยังไม่มีให้เขาเลย
เขาเป็นแค่ของเล่นอย่างที่อีกคนบอกจริงๆ
อีกไม่นาน เมื่อรุ่นน้องคนนี้เบื่อแล้ว ก็คงจะโดนเขี่ยทิ้งอีกครั้งเหมือนที่ผ่านมา
--------------------------------------------------------------------
มีแทจินเดทกันก็ต้องมีกุกจินเดทกันค่ะ (นี่เดทแล้วนะ 55555) มาต่อให้แล้วเนอะ มีความช้าไม่ใช่อะไร ตอนนี้แต่งสามเรื่องสามแนว ไรท์จะกลายเป็นคนหลายบุคลิกแล้ว เดี๋ยวเขิน เดี๋ยวเศร้า เดี๋ยวขำ พ่อแม่ไรท์จะจับส่งโรงพยาบาลอยู่แล้ว 55555 ในตอนนี้ก็มีเขินคิสซีนที่ตัวเองแต่ง (ทุกวันนี้ยังถามตัวเองอยู่ว่ามึงเขินเองทำไม 5555) เข้าเรื่องจริงจังดีกว่าเนอะ กระต่ายเราเริ่มแผลงฤทธิ์น้อยลง แต่เอาจริงๆ เราว่าถ้าโดนแบบนี้ปวดใจกว่าอีกนะ เขาเสแสร้งทำดีแต่เขาไม่รัก ยากอ่ะแบบนี้ (อ้าว แต่งเองว่ายากเอง -0-) เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อนั้น ฝากติดตามด้วยนะคะ ขอคอมเม้นเป็นกำลังใจด้วยนะ ><
ปล.ช่วงนี้โมเม้นเยอะจังเลยนะคะ แม่นางเมนเราดูหวงพ่อกระต่ายเหลือเกิน ชาวเรือว่าไงกันบ้าง 555555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แล้วก็นะ ปล่อยให้เค้าลากไปไหนมาไหนได้ยังไงคะพี่จิน ทำไมไม่อยู่ในห้องกับเค้า (อ้าว ไอนี่ แกทีมใครย๊ะ)
สู้ๆค่ะไรท์
ปล. เสพโมเม้นต่อปายยย
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ ^^
พี่จินก็สู้ๆน้า ไรท์สู้ๆ ในเมื่อห้องข้างๆมีจองกุกมาอยู่ด้วย คาดว่าชีวิตสงบๆของพี่จินจะต้องหายไปเเน่ๆเลย -..- อย่างเช่น ย่องเข้ามาปล้นจูบ ขโมยของ--- (ไม่น่าจะใช่)
จ้อนใจร้าย ไม่มีความรู้สึกให้พี่จินบ้างเลยหรือไงนะ หรือเเค่อยากได้ตัวพี่จินจริงๆ ;____; สงสารพี่จินจังเลย
แทแทมาช่วยฮีลหน่อยเร็ว บทมีเเววจะหายนะเรา 5555555!
ป.ล. จริงค่ะ โมเม้นท์ช่วงนี้เยอะมาก ตั้งเเต่ฉลองวันที่จองกุกบรรลุนิติภาวะก็ดูเหมือนจะหวงพ่อกาตุ่ยไปซะตลอด... ตั้งแต่ไปเที่ยว. กลางคอนเอย บลาๆๆๆ ...อื้อหือ เเขนนี่คล้องแสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่...
คือถ้าจองกุกจะทำขนาดนั้นเราว่าพี่จินแจ้งความดีกว่าค่ะ 5555 น่ากลัวเกิ๊นนนนนนน ทางเมนเราก็เจ็บต่อไป น้องมันเย็นชาเกินไปจริงๆ
ทุกคนที่ไม่ใช่พี่จินมีสิทธิบทหายค่ะ ดูยัยสวยโฮซอกสิ หายไปแล้ว 5555555
สำหรับชาวเรืออย่างพวกเราก็ถูกลดหน้าที่มาซัพพอร์ตอย่างเดียวนาจาาาาา กัปตันของพวกเราจัดเต็มไปแล้ว 55555 นี่สงสัยนะ มีอะไรที่สองคนนี้ยังไม่ได้ทำอีกเนี่ย แคปชั่นก็มาแล้ว งานกอดก็มาแล้ว งานพูดเรื่องจูบก็มาแล้ว มันเหลืออะไรอีกคะชาวเรืออออออ 5555555