ตอนที่ 31 : Chapter 28
บทที่ 28
ยุนกิกำลังนั่งนับเวลารอแฟนตัวเองมาหาที่คอนโด
มือบางบีบกันแน่นอย่างต้องการควบคุมสติของตัวเองให้นิ่งมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจทำได้เลย
เขาจะทำยังไงดี นัมจุนต้องเห็นภาพนั้นแน่ๆ
แฟนของเขาเป็นคนคิดมาก ไม่รู้ว่าป่านนี้จะคิดไปถึงไหนแล้ว
แกร๊ก!
เสียงประตูห้องที่ถูกปลดล็อกเรียกความสนใจจากร่างบางได้ทันที เพราะคนที่เขาไว้ใจจนให้คีย์การ์ดคอนโดก็มีแค่คนเดียว
“นัมจุน...”
“อ้าว กลับมาแล้วเหรอ” ร่างสูงก็ยังคงส่งยิ้มให้กับแฟนตัวเล็กของตัวเอง “กูซื้อของมาฝากแน่ะ มีแต่ของที่มึงชอบทั้งนั้นเลยนะ”
“...”
“ต้องขอบใจน้องมึงนะที่ไปช่วยกูเลือกน่ะ ไม่งั้นกูคงเดาใจมึงไม่ถูกแน่”
“มึงเห็นหมดแล้วใช่มั้ย” เสียงห้าวถามอย่างไม่มีอ้อมค้อมทำเอาร่างสูงนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนที่นัมจุนจะยิ้มเจื่อนๆ พร้อมกับเอ่ยออกมา
“หะ เห็นอะไรเหรอ”
“กูกับไอ้แทฮยองไง” ยุนกิถามพร้อมกับเดินมาใกล้แฟนตัวเองมากขึ้น “มึงเห็นใช่มั้ย”
“...อืม” เสียงทุ้มตอบรับ “แต่มึงไม่ต้องอธิบายหรอกนะ กูเข้าใจ...”
“ไม่ มึงต้องฟัง เพราะมึงไม่เข้าใจ” มือเรียวจับร่างสูงให้หันกลับมา ก่อนจะจับไหล่แกร่งไว้แน่น “มันไม่ได้เป็นแบบที่มึงเห็น กูไม่ได้ตั้งใจจะไปกับมัน กูไม่ได้เต็มใจไปกับมันเลยด้วยซ้ำ”
“แล้วมึงไปอยู่กับไอ้เด็กนั่นได้ยังไง”
“เรื่องมันเป็นอย่างนี้...”
‘ปล่อยสักทีได้มั้ยไอ้แทฮยอง มึงลากกูมาทำอะไรที่นี่’ เสียงห้าวโวยวายพร้อมกับพยายามแกะมือใหญ่ที่ล็อกข้อมือตัวเองมาตั้งแต่มหาวิทยาลัย ไอ้เด็กนี่มันไปดักรอเขาถึงคณะเลยนะ พอเจอหน้ากันก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ลากเขาออกมาแล้วพามาที่ห้างสรรพสินค้าแบบนี้
‘พี่จะเสียงดังทำไมเนี่ย ไม่อายเขาเหรอ’
‘แล้วมึงจะลากกูมาทำอะไรล่ะ ปล่อยสักที’ สุดท้าย มือเล็กก็สะบัดออกจากการเกาะกุมได้สำเร็จ ‘สรุปลากกูมาทำอะไร’
‘ผมก็แค่อยากให้พี่มาช่วยเลือกของให้พี่จินเท่านั้นเอง’
‘แค่นี้อ่ะนะ?’ ยุนกิเสียงสูง ก่อนจะกลอกตาอย่างเอือมระอา ‘มึงบอกดีๆ ก็ได้มั้ง ฉุดกระชากลากถูมาเหมือนจะพากูไปฆ่า’
‘ก็ถ้าผมชวนดีๆ พี่จะมาเหรอ’
คำตอบคือไม่ -0-
ช่วงนี้นัมจุนระแวงเขากับแทฮยองจะตาย ถึงแม้จะเคยคุยกันหลายรอบแล้วแต่เขาก็รู้ว่าแฟนของเขาเป็นคนคิดมาก อะไรที่ทำให้แฟนสบายใจ เขาก็พร้อมทำหมดแหละ
อีกอย่าง ไอ้เด็กนี่มันก็จ้องเล่นงานเขาแค่ไหน เรื่องอะไรเขาจะเอาตัวเองมาเสี่ยง
‘อีกอย่าง ถ้ามัวแต่ชวนและรอพี่ตอบรับคงไม่ทันแน่’
‘ไม่ทัน?’
‘โอ๊ะ คอแห้งจัง’ ร่างสูงพูดขัดขึ้นมา ‘ผมว่าเรามาเหนื่อยๆ ไปพักดื่มอะไรในร้านกาแฟนั้นก่อนดีกว่านะครับ’
ไม่ว่าเปล่า ยังลากคนพี่จนปลิวตามมา ยุนกิได้แต่เดินตามเข้าร้านกาแฟร้านนั้นอย่างงงๆ
อะไรของมันวะ
‘ผมเอาเอสเพรสโซครับ พี่เอาอะไร’
‘เอ่อ คาปูชิโนก็ได้’
สั่งเสร็จก็เข้าไปหาที่นั่ง ไม่รอให้ร่างเล็กเลือก แทฮยองกดไหล่บางให้นั่งลงตรงนั้นและเดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามทันที
‘กูถามจริงไอ้แทฮยอง ลากกูออกทำไม’
‘ก็บอกไปแล้วไงครับว่าจะให้พี่มาช่วยเลือกของให้พี่จิน’
‘มันมีโอกาสให้มึงให้ของเพื่อนกูด้วยเหรอ’
‘ผมก็แค่อยากให้เท่านั้นแหละ’ เสียงทุ้มเอ่ยพร้อมทั้งรอยยิ้ม ‘หรือว่าพี่ไม่พอใจล่ะ’
‘อย่าไร้สาระ’ ร่างเล็กเอ่ยอย่างเย็นชา ก่อนที่ของที่พวกเขาจะมาเสิร์ฟ ทั้งสองหันไปยิ้มขอบคุณพนักงานก่อนจะสนใจเครื่องดื่มของตนเอง
‘พี่ว่าผมควรจะซื้ออะไรให้พี่จินดี’
‘ก็แล้วแต่มึงดิ ไอ้จินไม่ใช่คนเรื่องมาก ให้อะไรมันก็เอาหมดแหละ’ เสียงห้าวว่าพร้อมยกกาแฟขึ้นดื่ม
ก่อนจะสำลักทันทีเมื่อรุ่นน้องตอบกลับมา
‘ไม่จริงหรอก ผมให้หัวใจพี่จินไปนานแล้ว พี่เขายังไม่เอาเลย’
‘แค่กๆๆ ไอ้ห่า’ ต่อว่าพร้อมกับหยิบแก้วน้ำเปล่ามาดื่ม
‘ฮ่าๆๆ ผมเล่นแค่นี้เอง สำลักเลยเหรอ’ ร่างสูงหัวเราะพร้อมกับหยิบทิชชู่ที่อยู่มุมโต๊ะ ‘มาๆ ผมเช็ดปากให้’
‘เฮ้ย ไม่ต้องๆ’
‘เถอะน่า’ ว่าพร้อมกับเช็ดมุมปากให้คนพี่อย่างแผ่วเบา ตาเรียวมองคนผิวเข้มอย่างไม่เข้าใจ ร่างขาวเห็นว่าแทฮยองนั้นแอบเหลือบมองไปเยื้องๆ ฝั่งตรงข้าม รอยยิ้มร้ายปรากฏบนใบหน้าหล่อเพียงชั่วครู่แล้วมันก็หายไป
แววตาสนุกสนานแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง
ยุนกิลองมองไปทางเดียวกับรุ่นน้อง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจทันทีเมื่อเห็นใครที่นั่งอยู่ในร้านนั้น
โฮซอกกับนัมจุน!
มือเรียวปัดมือของเดือนบริหารออกอย่างรวดเร็ว ด้วยความที่เริ่มสติหลุด มือบางก็เผลอปัดไปโดนแก้วกาแฟของตนเองจนของเหลวร้อนนั่นลวกมือขาว
ซ่า!!!
‘โอ๊ย!’
‘เฮ้ย!’ แทฮยองร้องออกมาอย่างตกใจ ‘พี่ทำบ้าอะไรเนี่ย’
มือหนาคว้ามือขวาที่ตอนนี้แดงเถือกเพราะถูกของร้อนลวก ทิชชู่อีกจำนวนหนึ่งถูกดึงออกมาเช็ดคราบสีน้ำตาลออกจากมือเรียวพร้อมกับก้มหน้าลงไปเป่า
ยุนกิชะงักค้างกับท่าทีแบบนั้นไปชั่วครู่ ก่อนจะดึงมือออกมาอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาเรียวสวยมองคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ ‘ที่มึงทำแบบนี้ ก็เพราะว่าสองคนนั้นอยู่ร้านตรงข้ามเราใช่มั้ย’
‘พี่พูดอะไรอ่ะ’
‘อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องได้มั้ย กูรู้ว่ามึงเห็นนัมจุนกับโฮซอกที่อยู่ร้านนั้นน่ะ!’
‘...โอ๊ะโอ รู้ตัวเสียแล้ว’ รอยยิ้มมุมปากปรากฏบนใบหน้าหล่อทันที ทำเอาเดือนวิศวะเลือดขึ้นหน้า
‘มึงทำแบบนี้ทำไมวะ อยากเห็นกูทะเลาะกับนัมจุนมากนักหรือไง!’
‘ใช่ ก็เหมือนกับที่พี่กีดกันผมกับพี่จินไง’ ตาคมวาวโรจน์ก่อนจะกลับมาเป็นปกติ ‘แต่พี่นัมจุนก็ยังโชคดีกว่า ถ้าเลิกกับพี่ก็ยังมีน้องชายพี่คอยดูแลไง’
เพียะ!!
ใบหน้าหล่อหันไปตามแรงตบของมือขาวทันที ทั้งร้านนั้นเงียบสนิทพร้อมกับหันมาที่โต๊ะของทั้งสองหนุ่ม แทฮยองเอาลิ้นดุนแก้มข้างโดนตบก่อนจะหันกลับมาอย่างไม่พอใจ
แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นแววตาของคนพี่
‘มึงมันเป็นคนที่มีความคิดทุเรศที่สุดเท่าที่กูเคยเจอมาเลยนะ’
‘...’
‘ในสายตากู มึงก็แค่คนที่แพ้แต่เสือกไม่ยอมรับ แล้วก็โยนความผิดให้คนนั้นคนนี้ไปทั่ว’ เสียงห้าวว่าพร้อมกับแค่นหัวเราะ ตาคู่สวยนั้นฉายแววเจ็บใจระคนสมเพช ‘มึงอยากทำเชี่ยอะไรก็เชิญเถอะ แต่กูกับนัมจุนไม่มีวันเลิกกันเพราะมึงแน่ๆ จำเอาไว้ไอ้เฮงซวย’
“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ กูไม่ได้ตั้งใจไปกับมันจริงๆ” เสียงห้าวพร้อมกับมือขาวที่ตกจากไหล่กว้างมาเกาะอยู่ตรงอกแกร่ง “มึงเชื่อกูนะ กูไม่ได้อยากไปกับมัน”
เมื่อเห็นท่าทางของคนตัวขาว ใจของร่างสูงก็อ่อนยวบทันที
แขนแกร่งรวบร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอดทันที มือหนาลูบผมนุ่มของคนที่ซบอยู่บนไหล่อย่างแผ่วเบาก่อนจะพร่ำเอ่ยเพื่อให้แฟนตัวเล็กสบายใจ
“กูเชื่อ กูเชื่อมึงนะ ไม่ต้องคิดมากหรอก”
“จริงนะ”
“อื้อ จริงสิ” มือใหญ่ดันไหล่เล็กออกมาพร้อมกับสบตาคนในอ้อมแขนแล้วส่งยิ้มให้ “เฮ้ย ร้องไห้ด้วยเหรอ ไอ้ขี้แยเอ๊ย ^o^”
“เออดิ ก็กูกลัวมึงไม่เข้าใจอ่ะ” ว่าพร้อมกับปาดน้ำตา “กูกลัวจริงๆ นะ กูรักมึง กูไม่เคยคิดจะมีใครคนอื่นนอกจากมึงเลยนะนัมจุน”
“ครับ กูรู้” เสียงทุ้มว่าพร้อมกับมือใหญ่ที่ช่วยเช็ดน้ำตาให้ยุนกิ “กูก็รักมึงนะ เรื่องเหตุการณ์วันนี้กูเชื่อมึงทุกอย่างเลย ไม่ต้องร้องแล้ว”
“อื้อ” ร่างเล็กพยักหน้าก่อนจะส่งยิ้มให้แฟนหนุ่ม “เจ็บมืออ่ะ”
“จริงสิ โดนกาแฟลวกมานี่นา” นัมจุนจับมือซ้ายของคนตัวเล็กขึ้นมา ก็เห็นว่ามันมีรอยแผลอยู่ “ไปล้างมือไป เดี๋ยวกูทำแผลให้”
“อื้อ” ยุนกิรีบตอบรับแล้วเดินหายเข้าไปในส่วนครัว ร่างสูงมองตามด้วยความเอ็นดูก่อนจะถอนหายใจออกมา
ถึงจะยังคาใจเรื่องของยุนกิและแทฮยองก็เถอะ แต่ถ้าแฟนยังยืนยันว่ารักเขาคนเดียวก็โล่งใจขึ้นเยอะเลย
หลายวันต่อมา งานประกวดดาวเดือนของมหาวิทยาลัยก็เริ่มขึ้นแล้ว
ซอกจินกำลังมองหาตัวรุ่นน้องในคณะของตัวเองอยู่ที่ด้านหลังเวที แต่เพราะคนด้านหลังนั้นเยอะเหลือเกิน ทำให้เขาหาตัวน้องไม่เจอเลย
ไปแต่งตัวกันตรงไหนนะเจ้าเด็กพวกนี้
“อ้าว พี่ซอกจิน”
เสียงทุ้มเรียกให้ร่างเพรียวนั้นหันไปมองทันที “อ้าว ว่าไง โบกอม”
“หาคณะวิทย์อยู่เหรอครับ”
“ใช่ ไม่รู้ว่าหายไปไหน” เสียงหวานว่า ก่อนจะมองรุ่นน้องที่อยู่ในชุดเจ้าชายในเทพนิยาย “ว่าแต่ แต่งแบบนี้ก็หล่อดีนะเนี่ยโบกอม”
“อย่าแซวสิครับ” คนน้องว่าพร้อมกับหัวเราะอย่างขัดเขิน
“จริงๆ นะ หน้าตารูปร่างนายเหมาะกับเป็นเจ้าชายอยู่แล้ว”
“พี่จิน” เสียงทุ้มของใครบางคนขัดคนสองคนที่กำลังคุยกันอยู่ได้ทันที ก่อนที่คนตัวบางจะถูกกระชากให้ออกห่างจากเดือนสถาปัตย์ทันที “มึงมายุ่งอะไรกับพี่จิน”
“จองกุก...”
ใช่แล้ว คนที่กล้ากระชากแขนเดือนหน้าหวานแบบนี้ก็มีอยู่คนเดียว
“อะไรของมึงเนี่ย กูเห็นพี่ซอกจินเขาอยู่คนเดียว ก็เลยมาชวนคุยไง” โบกอมหัวเราะ “หวงใช้ได้เลยนะเนี่ย”
“เรื่องของกู” เสียงทุ้มตอบ “อย่าให้กูเห็นว่ามึงมายุ่งกับพี่จินอีก ไปกันเถอะครับ”
“ดะ เดี๋ยวสิ” ร่างบอบบางนั้นปลิวไปตามแรงลากของรุ่นน้อง ทิ้งให้ชายหนุ่มอีกคนมองตามนิ่งๆ
ก่อนที่รอยยิ้มมุมปากนั้นจะปรากฏบนใบหน้าหล่อ
มีความสุขให้มากๆ ล่ะ เพราะอีกไม่นาน มึงจะต้องเจ็บปวดเหมือนกับที่มึงทำไว้กับกูแน่นอน จอนจองกุก
“เฮ้ ใจเย็นๆ สิ จะลากกันอะไรขนาดนี้ล่ะ” เสียงหวานบอกรุ่นน้องก่อนจะขืนตัวเล็กน้อยจนจองกุกยอมหยุด “อะไรของนาย พี่กำลังคุยกับเพื่อนนายอยู่นะ”
“ผมบอกพี่แล้วนะว่าอย่าไปยุ่งกับมันอีก” ร่างสูงหันมาหาคนพี่อย่างไม่สบอารมณ์ “มันไม่หวังดีกับพี่นะครับ”
“นั่นก็เพื่อนนายเองนะ นายยังดูไม่น่าไว้ใจยิ่งกว่าอีก”
“นี่ผมพูดจริงนะครับพี่จิน” มือหนาจับไหล่ร่างเพรียวไว้พร้อมกับมองลึกเข้าไปในตาคู่สวยตรงหน้า “ผมเป็นห่วงพี่จริงๆ นะ หมอนั่นมันเป็นบุคคลที่ไม่สมควรยุ่งด้วยที่สุด”
ตากลมมองตาคมตรงหน้าอย่างสงสัย สายตาไม่พอใจที่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่างทำให้ร่างเพรียวนั้นต้องจ้องอยู่อย่างนั้น
แต่พออ่านออก คิ้วเรียวก็ขมวดแน่นกว่าเก่า
กลัว...งั้นเหรอ?
“อ้าว ก็ว่าหายไปไหน ที่แท้ก็มาหาพี่ซอกจินตรงนี้นี่เอง” เสียงทุ้มร่าเริงที่คุ้นเคยทำให้ทั้งสองคนผละออกจากกันทันที ตาหวานหันไปมองก็พบเดือนปีสองของตัวเองที่เดินเข้ามาหาอย่างร่าเริง
“ว่าไงฮยอนอู”
“ก็ผมตามหาจองกุกอยู่น่ะครับ หมอนี่ยังแต่งตัวไม่เสร็จเลยนี่นา” ร่างใหญ่หัวเราะเบาๆ “พี่ซอกจินก็ไปด้วยกันสิครับ ไปช่วยดูอะไรให้พวกเราด้วย”
“ก็ตั้งใจจะทำอยู่แล้วน่า” คนหน้าหวานส่งยิ้มให้รุ่นน้อง “ดาซมติดเรียนอยู่นะตอนนี้ แต่เดี๋ยวอีกสักพักก็คงตามมาแล้ว”
“ครับผม” ฮยอนอูตอบรับแล้วกอดคอเดือนคนปัจจุบันของตัวเอง “ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวจะแสดงไม่ทันนะ”
“ครับ” จองกุกตอบรับก่อนจะเหลือบมองมาทางรุ่นพี่เล็กน้อย แล้วตามรุ่นพี่ปีสองของตัวเองไป
ซอกจินมองตามอย่างไม่เข้าใจนัก
โบกอมจะทำอะไร ทำไมจองกุกถึงกลัว
รอบตัวเขามีแต่อะไรกันเนี่ย ไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว
รออยู่สักพัก ทั้งดาวและเดือนของวิทยาศาสตร์ก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
คงเพราะการแสดงของพวกเรามาในรูปแบบของความรักวัยนักศึกษา การแต่งตัวเลยง่ายกว่าคณะอื่นๆ
และตอนนี้ทั้งสองก็พร้อมแล้วที่จะขึ้นแสดงในวันนี้
“เป็นไงทั้งคู่ พร้อมมั้ย”
“พร้อมค่ะ/พร้อมครับ”
“ทำให้เต็มที่นะ เดี๋ยวพี่กับพี่ดาซมจะดูอยู่หน้าเวที”
รุ่นน้องทั้งสองพยักหน้ารับ ก่อนที่จะเตรียมไปอยู่กับรุ่นพี่ปีสองที่คอยคุมตัวเองอยู่
แต่จองกุกก็ต้องชะงักเมื่อถูกมือบางคว้าไว้ก่อน
“แต่งตัวไม่เรียบร้อยเลยนะ” เสียงหวานว่าพร้อมกับมือเรียวที่ส่งมาจัดปกเสื้อที่พับอยู่พร้อมกับจัดเนคไทด์ให้เขา “เดี๋ยวเขาก็มองว่าพระเอกพี่เป็นเด็กใจแตกตั้งแต่เริ่มเรื่องหรอก”
“ขอบคุณครับ”
“แล้วก็...เมื่อกี้นี้น่ะ” ซอกจินถอนหายใจ “พี่ไม่รู้หรอกนะว่านายหมายถึงอะไร แต่ถ้าไม่อยากให้คนอื่นทำร้ายพี่ได้นอกจากนาย นายก็บอกมาสิว่าโบกอมจะทำอะไร”
“...ผมไม่รู้หรอกครับ” จองกุกว่าพร้อมกับจับมือบางไว้ “ผมรู้แค่ว่ามันแค้นผม และคนของผมอย่างพี่ไม่ปลอดภัยแน่นอน”
“นายไปทำอะไรเขาไว้”
“...พี่ไม่อยากรู้หรอก” ร่างสูงตอบแค่นั้นก่อนจะปล่อยมือของร่างเพรียว “ผมไม่ให้มันทำอะไรพี่หรอกนะ ไม่ต้องห่วง”
พูดแค่นั้นก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้เดือนหน้าหวานนั้นมองตามอย่างไม่เข้าใจ
สองคนนั้นสนิทกันมากไม่ใช่เหรอ มันมีอะไรที่เป็นจุดแตกหักขนาดนั้น
เฮ้อ ช่างเถอะ เชื่อว่าต้อนยังไงเดือนคนปัจจุบันของเขาก็คงไม่บอกหรอก
“ก็จบไปแล้วนะคะ สำหรับการแสดงของคณะวิทยาศาสตร์ ขอเสียงปรบมือให้น้องจองกุกและน้องเยริมด้วยค่า ^o^”
ซอกจินกับดาซมที่นั่งดูอยู่ก็ปรบมือทันทีที่พิธีกรสาวบอก หญิงสาวนั้นแอบเช็ดน้ำตาของตัวเองออกด้วย น้องๆ ปีหนึ่งของพวกเขาแสดงได้ดีจริงๆ นะ นี่ไม่ได้อวยด้วยเพราะผู้ชมรอบข้างก็อินไม่แพ้กัน โดยเฉพาะฉากที่จองกุกเลิกกับเยริมและฉากที่หญิงสาวนั้นฆ่าตัวตายด้วยการกรอกยานอนหลับใส่ปากแล้วลงไปดิ้นทรมานกับพื้นก่อนจะนิ่งไปทั้งน้ำตาซึ่งเรียกให้ผู้ชมบางคนร้องไห้ตามได้ทันที
ทั้งสองทำได้ดีจริงๆ ถึงแม้จะเป็นดาวเดือนที่ไม่ได้มาจากการแข่งขันในคณะก่อนเหมือนอย่างพวกเขา แต่ทั้งคู่ก็ทำได้ดีสมกับที่ปีสองเลือกมา
“ก่อนอื่นขอตบน้องจองกุกก่อนได้มั้ยคะ ทำไมถึงเลวได้ใจขนาดนี้”
“ฮ่าๆๆ อย่าสิครับ” เด็กหนุ่มหัวเราะก่อนจะแกล้งหลบหลังดาวของตัวเองเมื่อพิธีกรสาวเงื้อมือแกล้ง เรียกเสียงกรี๊ดจากผู้ชมได้ทันที
“เอ้อ แล้วพี่ชานยอลกับพี่ซูจีล่ะดาซม ไม่มาดูน้องเหรอ” เสียงหวานถามน้องอย่างนึกขึ้นได้ เพราะชานยอลก็นัดแล้วว่าจะมาดู
“พี่เขาโดนอาจารย์เรียกกะทันหันน่ะ ส่วนพี่ซูจีก็มีนัดกับพี่มินโฮพอดี เห็นว่าเตรียมเรื่องงานแต่งที่จะจัดขึ้นหลังเรียนจบกันน่ะ”
“โห โรแมนติกจังแฮะ”
“ก็ตามนั้นแหละ ฉันล่ะอยากได้คนแบบนี้บ้างจัง”
“บอกอีตาฮยอนอูสิ”
“ซอกจิน เดี๋ยวนายจะโดนนะ” ดาซมคาดโทษเพื่อนพร้อมเสียงหัวเราะ ก่อนจะหันไปทางเวที “เฮ้ย ดูสิ น้องจองกุกมองมาทางนายด้วยน่ะ”
ร่างเพรียวรีบหันไปตามที่เพื่อนสาวบอกทันที ก่อนจะพบกับสายตาคมที่จ้องเขาอย่างไม่วางตาจนตัวเขาเองนี่แหละที่ต้องหลบตาไปอีกทาง
จ้องอะไรนักหนาล่ะตาบ้าเอ๊ย -0-
“ไหนๆ จุดเด่นของเรื่องนี้ก็สื่อถึงความรักแล้ว พวกเราก็อยากฟังแล้วสิว่าคำนิยามของคำว่ารักของพวกคุณเป็นอย่างไร”
“เรื่องนั้นให้จองกุกเป็นคนตอบดีกว่า” พูดจบ เยริมก็ยื่นไมค์ให้เพื่อนทันที จองกุกรับมาอย่างงงๆ แล้วหัวเราะออกมา
“เฮ้ย โยนอย่างนี้เลยเหรอ”
“อ้อ จริงสิ วันนี้เขาก็มานั่งดูนี่นา” พิธีกรสาวแซวพร้อมกับหัวเราะคิกคักเรียกเสียงกรี๊ดพร้อมกับรอยยิ้มของคนรอบข้างร่างเพรียวที่นั่งด้านหน้าจนซอกจินต้องก้มหน้าพร้อมกับเสยผมอย่างประหม่า
ให้ตายเถอะ มันไม่ได้สวยงามหรือจีบกันหวานแหววอย่างที่หนังสือพิมพ์ของมอชอบลงหรอกนะ
“ไหนลองบอกมาสิคะน้องจองกุกคนหล่อ คำว่ารักของน้องจองกุกคืออะไร”
“อ่า จริงๆ ผมก็ยังไม่ค่อยรู้จักมันเท่าไหร่หรอกครับ” ร่างสูงเกาหัวขัดเขิน ทำเอารุ่นพี่ที่นั่งดูอยู่กลอกตาเล็กน้อยกับท่าทางแบบนั้น “แต่มีคนคนหนึ่งเคยบอกกับผมว่า ความรักก็เหมือนกับหนังสือเล่มโปรดของเรา”
ซอกจินนิ่งไปทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นจากคนบนเวที
จะไม่อึ้งได้ยังไง ก็เขานั่นแหละที่เป็นคนบอกรุ่นน้องแบบนั้นในตอนที่ยังคบกัน
ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะยังจำได้
“ยังไงเหรอคะ”
“เราจะชอบหนังสือเล่มหนึ่งก็จากปกที่เราเห็นใช่มั้ยครับ แต่เราจะรักหรือไม่รักมันก็ต่อเมื่อเราได้อ่านเนื้อหาของมันจริงๆ และเมื่อเรารักมันแล้ว เรา ก็อ่านมันซ้ำๆ ถึงเนื้อหามันจะไม่ได้เปลี่ยนไปเลยก็ตาม” จองกุกว่าพร้อมรอยยิ้ม “ก็เหมือนกับคนเราที่อาจจะชอบกันเพราะรูปลักษณ์ภายนอก แต่เราจะรักกันก็ต่อเมื่อได้ศึกษานิสัยกันจริงๆ แล้ว และเราก็จะอยากอยู่กับเขาไปตลอดถึงแม้นิสัยใจคอเขาจะเหมือนเดิมทุกอย่างก็ตาม แต่มันก็เป็นสิ่งที่เรารักและอยากอยู่ด้วยไปตลอดครับ”
“โห แอบลึกซึ้งเหมือนกันนะคะ” พิธีกรสาวพยักหน้ารับ “คนคนนั้นต้องสำคัญกับน้องจองกุกมากๆ เลยนะคะ พี่เห็นสายตาน้องดูมีความหมายมากๆ เลย”
“ก็คงอย่างนั้นแหละครับ” เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าสบตากับคนพี่จนซอกจินที่จ้องอยู่ถึงกับสะดุ้ง “เขาก็ถือว่าเป็นหนังสือเล่มนั้นของผม มันเคยเป็นเล่มโปรดของผมยังไง ตอนนี้ผมก็ยังชอบมันเหมือนเดิม”
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาพักเบรกก่อนจะประกาศผลดาวเดือนประจำปีนี้
ซอกจินกับดาซมก็เข้ามาหารุ่นน้องของตัวเองที่กำลังพักผ่อนอยู่ที่โซนของคณะตัวเองเช่นกัน
แต่ส่วนของเดือนหน้าหวานไม่ได้มาให้กำลังใจน้องเหมือนเพื่อนสาวหรอก เพราะเขาได้บอกสิ่งนั้นไปตั้งแต่ก่อนแข่งขันกันแล้ว
แต่เขาคาใจที่จองกุกพูดต่างหาก
‘...มันเคยเป็นเล่มโปรดของผมยังไง ตอนนี้ผมก็ยังชอบมันเหมือนเดิม’
หมอนั่นพูดจริงเหรอ
“ไงเด็กๆ อ้าว หายไปไหนคนหนึ่งล่ะเนี่ย” เสียงหวานใสของดาวปีสามทักทายทั้งสามคนขึ้น รุ่นน้องที่ได้ยินเสียงก็เข้ามาหาทันที
“โอ๊ะ พี่ดาซมมาแล้ว ^o^”
“มาตั้งแต่ที่น้องๆ แสดงแล้วย่ะตาฮยอนอู ^o^ เมื่อกี้เยริมทำได้ดีมากเลยนะ พี่ร้องไห้ตามเลยอ่ะ เธอในเรื่องน่าสงสารมากจริงๆ”
“ขอบคุณค่ะ ><”
“แล้วจองกุกไปไหนล่ะ ทำไมอยู่กันแค่นี้”
“ไปคุยโทรศัพท์น่ะค่ะ เห็นว่าที่บ้านโทรมา”
“ไปทางไหนล่ะ” เดือนหน้าหวานถามบ้าง
“ตรงนู้นค่ะพี่ซอกจิน”
“โอเค” ร่างเพรียวตอบรับแล้วเดินไปตามที่อีกฝ่ายบอก ก็พบกับร่างสูงที่กำลังเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงตัวเองพร้อมกับเสยผมอย่างหงุดหงิด “จองกุก”
“อ้าว พี่จินเองเหรอ” เจ้าของชื่อหันมาพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ “มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“นายนั่นแหละ ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ”
“ก็...เรื่องเดิมๆ แหละครับ พี่อย่าสนใจเลย” คนเด็กกว่าแค่นยิ้มเบาๆ “พี่นั่นแหละ คงไม่ได้มาตามผมเพื่อถามเรื่องนี้หรอกนะ”
“ก็แหงล่ะ” เสียงหวานหัวเราะเบาๆ “เรื่องที่นายตอบบนเวทีไง”
“...อ้อ เรื่องนิยามความรักน่ะเหรอครับ”
“นายยังจำมันได้ด้วยเหรอ”
“พี่นี่ก็ชอบถามคำถามเดิมๆ ตลอดเลยนะ” จองกุกหัวเราะแล้วขยับเข้ามาใกล้รุ่นพี่ “ผมก็เคยบอกแล้วไง อะไรที่เกี่ยวกับพี่ ผมก็จำมันได้หมดแหละ”
‘นี่จองกุก นายรู้อะไรป่ะ’ เสียงหวานของรุ่นพี่เอ่ยกับแฟนหนุ่มที่นอนกอดตัวเองอยู่ ใบหน้าหวานเงยจากอกแกร่งพร้อมกับส่งยิ้มให้
‘รู้อะไรเหรอครับพี่จิน’
‘ความรักของเราน่ะเหมือนกับหนังสือมากเลยนะ’
‘หนังสือ? ไปอ่านนิยายเรื่องไหนมาอีกล่ะครับคนสวยของผม’ ไม่ว่าเปล่า จมูกโด่งยังก้มลงฟัดบนกลุ่มผมสีเข้มอย่างเอ็นดูคนในอ้อมกอดจนซอกจินได้แต่หัวเราะคิกคัก
‘ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย’ ร่างเพรียวยิ้ม ‘ก็เวลาที่เราจะเลือกหนังสือสักเล่มเราก็จะเลือกที่ปกใช่มั้ย นายก็เหมือนกัน พี่สนใจนายตั้งแต่ครั้งแรกที่นายเข้ามาหาเพราะหน้าตาและบุคลิกที่ดูสุภาพของนาย ถึงแม้บางทีนายจะดูเจ้าชู้แต่มันก็เป็นปกติของผู้ชาย’
‘...’
‘แต่พอได้ลองเปิดอ่านหรือได้ลองคบนายแล้ว ทำให้พี่รู้ว่าเราก็เข้ากันได้ดีเลยนะ’ ว่าแล้วจูบปลายคางของจองกุกเบาๆ ‘อย่าทำให้พี่ผิดหวังนะที่เลือกนาย อื้อ!’
เสียงหวานหายไปทันทีเมื่อปากหยักเข้ามาปิดปากอิ่มอย่างแผ่วเบา ก่อนจะผละออกไป ‘กว่าพี่จะยอมรับในตัวผมได้มันนานนะครับ ผมไม่ทำให้คนที่ผมหลงรักมานานนั้นผิดหวังหรอก’
‘...’
‘เชื่อใจผมนะ พี่จินที่รักของผม’
แล้วไงล่ะ เชื่อใจแล้วก็เป็นอย่างนี้
ในตอนนั้นเขาพูดเรื่องนี้ตอนที่เพิ่งตื่นนอน ก็กำลังมึนๆ งงๆ ไม่คิดว่าร่างสูงจะจำมันได้จนถึงตอนนี้
แต่เขามีเรื่องที่คาใจมากกว่านี้
“แล้วที่นายบอกนายชอบหนังสือเล่มนั้นเหมือนเดิม นายไม่ได้หมายถึงพี่ใช่มั้ย”
“ถ้าไม่ใช่พี่แล้วจะเป็นใครล่ะครับ” ร่างสูงหัวเราะ “ตอนนี้ผมก็อยู่กับพี่แค่คนเดียว”
“ก็มันดูเป็นไปไม่ได้นี่” มือบางยกขึ้นเสยผมสีชมพูของตัวเอง “แล้วอีกอย่าง ที่นายบอกว่า เอ่อ ชะ ชอบพี่มาตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้” ให้ตายเถอะ เสียงสั่นทำไม “พูดจริงเหรอ”
“...แล้วพี่คิดว่ายังไงล่ะ”
“ก็ไม่เชื่อไง” ร่างเพรียวแค่นยิ้มเพราะสิ่งที่รุ่นน้องถามมันไร้สาระมากสำหรับเขา “นายทำร้ายพี่มาตั้งแต่แรกที่เราเจอกัน นายยังคิดว่าพี่จะเชื่อประโยคนั้นของนายอีกเหรอ”
“แล้วถ้าผมอยากให้พี่เชื่อมันล่ะ” ไม่ว่าเปล่า ยังจับมือเรียวขึ้นมาพร้อมกับสบตาหวานตรงหน้าอีกด้วย “ผมพูดจริงนะ เมื่อก่อนผมชอบพี่ยังไง ตอนนี้ผมก็ยังต้องการพี่เหมือนเดิม”
“...”
“มันอาจจะดูไม่น่าเชื่อเลยนะ เพราะผมก็ทำร้ายพี่มาเยอะ แต่ผมอยากให้พี่เชื่อใจผมอีกครั้งได้มั้ย”
“...”
“แล้วผมจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังอีกแล้ว”
“...”
“พี่กลับมาหาผมได้มั้ย”
“...”
“...”
“...พี่ไม่รู้” ซอกจินดึงมือออกจากการเกาะกุมของรุ่นน้อง แววตาคู่สวยฉายแววสับสนอย่างเห็นได้ชัด “โอ้พระเจ้า นายพูดจริงๆ เหรอจองกุก นายต้องการพี่จริงๆ เหรอ”
“ผมพูดแบบนี้มาตลอด พี่ก็น่าจะรู้แล้วว่า...”
“แล้วนายอยากให้พี่กลับไปหานายทำไม”
“ผม...”
“อยู่นี่กันนี่เอง” เสียงหวานใสที่คุ้นเคยดังขึ้นทำให้ทั้งคู่หยุดเถียงกันทันที จูฮยอนส่งยิ้มมาให้พร้อมกับบอกธุระของตัวเอง “ขอโทษที่ขัดจังหวะนะคะ แต่ว่าจองกุกต้องเตรียมตัวได้แล้วค่ะ”
“...ครับ” เด็กหนุ่มตอบรับอย่างว่าง่าย ก่อนจะหันมากระซิบร่างเพรียว “จบงานแล้วค่อยว่ากันนะครับ”
ซอกจินมองตามจนทั้งสองเดินจากไป ก่อนที่มือเรียวจะยกขึ้นมาเสยผมตัวเองอย่างสับสน
จะเอายังไงกันแน่
ไม่ใช่แค่เรื่องจองกุกหรอก ใจเขาด้วยนี่แหละ จะเอายังไงกันแน่
จะทนไหวมั้ยเนี่ย คิมซอกจิน
“ว่าไง ฉันมาดูประกวดดาวเดือนน่ะ... เลิกแล้วเหรอ โอเค เดี๋ยวฉันไปรับที่คณะนะ” สาวหน้าคมตอบรับพร้อมรอยยิ้มก่อนจะกดวางสาย เธอเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากระโปรงพลีทของตนเองแล้วมองไปที่เวทีเล็กน้อย ก็เสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้ดูจนจบ เลยไม่รู้ว่าระหว่างเดือนจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ ใครจะได้เป็นเดือนของมหาวิทยาลัยกันแน่
แต่คนปลายสายเมื่อกี้สำคัญกว่างานนี้เยอะเลย J
เธอเดินออกจากงานประกวดแล้วตรงไปที่รถของตัวเอง เตรียมจะเปิดประตูเข้าไปเพื่อไปหาคนที่เธอนัดไว้
“นี่ ขอคุยด้วยหน่อยสิ”
แต่เสียงหวานที่คุ้นเคยของใครบางคนก็ทำให้เธอชะงัก
“อีรินเหรอ” เธอหันมาทำหน้าฉงน ทำไมเพื่อนสาวที่แสนร่าเริงของเธอถึงได้ทำหน้าเครียด “มีอะไรหรือเปล่า”
“รีบหรือเปล่า ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย”
“อืม ฉันมีนัดน่ะ ด่วนหรือเปล่า ไว้วันหลัง”
“สำหรับฉันมันก็ด่วนแหละ” ฮเยมินตอบพร้อมกับส่งของในมือให้คนตัวสูงกว่า “อันนี้พอจะทำให้เธอคุยกับฉันได้มั้ย”
อีกฝ่ายรับมันไปดู เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
รูปเธอกับจองกุก!
“เธอไปเอารูปนี้มาจากไหน”
“ฉันเอามาจากไหนก็ไม่สำคัญหรอก แต่มันทำให้ฉันรู้ว่าเธอเคยนัดกับเด็กนี่เมื่อหลายเดือนก่อนเพื่อทำอะไรสักอย่าง” สาวผมบลอนด์ว่าพร้อมกับสบตาเพื่อนสาวของตนเอง “รู้สึกจะเป็นช่วงก่อนที่ฉันจะโดนแบล็คเมล์ด้วยนะ ว่ามั้ย?”
“เธอ...” หญิงสาวกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ท่าทางมีพิรุธทำให้ฮเยมินยิ้มมุมปากออกมาทันที
“มีอะไรจะบอกฉันมั้ย” เธอมองเพื่อนด้วยสายตากดดัน “อย่าให้ฉันต้องลงมือไปสืบเองนะ”
“...”
“...”
“...อยากรู้อะไรล่ะ แต่ได้แป๊บเดียวนะ”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โอ้ย นี่พูดจริงป่ะ เอาจริงๆ ก็ยังทำใจให้เชื่อจองกุกให้สนิทใจไม่ได้ ก็แหม ตัวทำร้ายซอกจินมาตั้งนานอ่ะ เราก็กลัวซอกจินจะเสียใจ
โบกอมนี่มีแผนอะไร แล้วแค้นจองกุกเรื่องอะไรกันแน่นะ อยากรู้ค่ะ
ยุนกิอา สงสารยุนกิอ่ะ
โบกอมกับจองกุกก็ต้องดูกันต่อไปค่ะ ^o^
ยุนกิเราน่าสงสาร T^T
โบกอมนี่มีความหลังอะไรกับจองกุกแค้นอะไรกันมาาห้ะะะ
พี่ก้านี่รักและมั่นคงกับนัมจุนจริงๆแต่ตอนนี้เริ่มกลัวนัมจุนจะเปลี่ยนใจแล้วสิ่เพราะทุกเวลาที่มีปัญหาคนที่อยู่ข้างๆคือโฮซอก แทก็วุ่นวายยุนกิจริงจริ้งง สี่คนนี้จะเป็นยังไง
////เย้ดีใจกับไรท์ที่จบปีหนี่งด้วย5555555
สองหนุ่มก็ดูต่อไปนะ
สี่คนนี้ก็ต้องลุ้นต่อไปว่าจะเป็นยังไงนะคะ ><