ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (GOT7) | yellowCrime's fan fiction | jackbam.

    ลำดับตอนที่ #4 : sf : bruised | jackson/bambam !yuri (jia/mook)

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 61


     
     
     
     
     
     
    sf : bruised 
     
     
     
     

     

    ไอ้แจ็ค ถ้ายังไม่หยุดปากหมาเดี๋ยวฉันจะงัดหมาออกจากปากให้เอง

     

     

    เป็นภาพคุ้นตาที่ทุกคนมักจะเห็นเจียมีเรื่องกับเพื่อนนักเรียนชายในห้อง เธอมักจะสวมชุดพละอยู่เสมอแม้วันนั้นจะไม่มีวิชาเรียนเลยก็ตาม ก็มันคล่องตัวกว่า เธอมักจะอ้างแบบนั้นเสมอกับมุกต์เพื่อนสนิทของเธอ ซึ่งตอนนี้กำลังปรามเพื่อนตัวเองไว้ไม่ให้ไปต่อยกับเด็กชาย

     

     

    เจีย ช่างมันเถอะน่า ฉันไม่เป็นไร อย่ามีเรื่องเลย

     

     

    น้อยไปน่ะสิยัยมุกต์ ปากหมาอย่างมันรอดเทศกิจมาได้ยังไงตั้ง 17 ปี อยู่บ้านแม่ต้องเอาตะกร้อครอบปากไว้รึเปล่าก็ไม่รู้

     

     

    เห้ย เป็นผู้หญิงก็หัดทำตัวให้สมกับเป็นผู้หญิงบ้างดิวะ หรือเป็นกะเทย

     

     

    สัดแจ็ค

     

     

    ก่อนมุกต์จะพบว่าเจียสะบัดแขนที่ตัวเองเกาะกุมไว้เพื่อจะทิ้งหมัดไปที่เด็กผู้ชายตรงหน้า แม่นอย่างกับจับวาง ถึงจะเป็นเด็กผู้หญิงแต่เจียก็เป็นนักกีฬาคนหนึ่ง แรงหมัดไม่น้อยทำให้แจ็คล้มลง  

     

     

    แต่เสียงร้องที่เปล่งออกมาเพราะความเจ็บกลับเป็นเสียงของมุกต์

     

     

    ตาเรียวของเจียเบิกกว้างอย่างตกใจ เพื่อนตัวเล็กที่ถูกตนสะบัดแขนออกเซล้มไปชนกับเหลี่ยมโต๊ะ ทั้งห้องชุลมุนเพราะเสียงกริ่งเข้าเรียนดังขึ้นพอดี เธอชี้หน้าแจ็คอย่างคาดโทษไม่ให้มาล้อมุกต์อีก ก่อนจะหันไปพยุงเพื่อนขึ้นมาจากพื้น

     

     

    เจ็บปะวะ ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะเว้ย

     

     

    แกแม่งก็ใจร้อนตลอด ฉันห้ามอะเคยฟังบ้างมั้ย

     

     

    มุกต์เบี่ยงตัวหลบเพื่อไปหาที่นั่งของตัวเอง ตลอดทั้งคาบเจียซึ่งนั่งที่นั่งติดกันแทบอยู่ไม่เป็นสุข มุกต์ไม่พูดอะไรกับเธออีก โอเค อันนี้เข้าใจได้ว่ามุกต์เป็นเด็กตั้งใจเรียน แต่นี่ไม่แม้แต่จะหันหน้ามาหา หรือแม้แต่สนใจการมีตัวตนของเธอเลย

     

     

    บางอย่างในอกของเด็กสาวบีบตัวอย่างรุนแรง มันเหมือนไปวิ่งรอบสนามมาร้อยรอบ เหงื่อในมือทำให้แทบกำปากกาไม่อยู่

     

     

    มุกต์ไม่เคยเป็นแบบนี้ และเจียไม่เคยรู้สึกอยากร้องไห้เท่านี้มาก่อน

     

     

     

    มุกต์ เดี๋ยวพวกฉันลงไปจองโต๊ะนะ” 

     

     

    เป็นปกติที่พักกลางวันคนจะเยอะจนแทบหาที่นั่งไม่ได้ มุกต์เป็นเด็กเรียนเก่ง นั่นทำให้อาจารย์เอ็นดูและเรียกใช้อยู่บ่อยครั้ง อย่างครั้งนี้อาจารย์ก็ให้เธอรวบรวมชีทของเพื่อน ๆ ไปส่งที่ห้องพักครูท้ายคาบ  กว่าจะรอครบกลุ่มแล้วลงไปทานข้าวพร้อมกันแบบนั้นโต๊ะเต็มก่อนพอดี

     

     

    เจีย มึงจะแดกมะข้าว

     

     

    กูไดเอทอยู่ พวกมึงไปเหอะ

     

     

    มี่เบ้ปาก รู้ทั้งรู้ว่าเจียน่ะเป็นนักกีฬา มวลน้ำหนักเธอมากกว่าเพื่อน ๆ วัยเดียวกันเพราะกล้ามเนื้อมากกว่าไขมันอยู่แล้ว แต่เด็กผู้หญิงวัยนี้จะมีใครอยากหนักขนาดนี้กัน และเพราะแบบนั้นมี่กับเพื่อน ๆ คนอื่นจึงลงไปกันก่อน ทั้งห้องเหลือแค่เจียกับมุกต์

     

     

    เด็กสาวเชื้อสายจีนมองเพื่อนที่กำลังจัดชีทให้เป็นระเบียบ เธอพบความผิดปกติ

     

     

    มุกต์ เอาแขนมาดูหน่อย

     

     

    ทั้งที่รู้ว่าจะถูกเมินแต่ก็ยังพูดออกไป เจียเม้มปากเพื่อสะกดความรู้สึก ทั้ง ๆ ที่อยากพูดกับมุกต์ให้รู้เรื่อง อยากบอกว่าเธอไม่ได้ตั้งใจทำให้อีกฝ่ายเจ็บ เธอมีเรื่องกับแจ็คเพราะอีกฝ่ายมาล้อเลียนมุกต์ จะให้ทนอยู่เฉย ๆ ได้เหรอ

     

     

    มุกต์ที่ถนัดขวาแต่กลับใช้มือซ้ายถือกองกระดาษไว้แนบอก เด็กสาวตัวเล็กกัดริมฝีปากล่างเพื่อกลั้นเสียงตัวเองไว้ แต่เสียงร้องเพราะความเจ็บที่เล็ดลอดออกมาทำเอาเจียต้องขมวดคิ้ว

     

     

    มุกต์ มานี่ ไปห้องพยาบาล

     

     

    ไม่ ฉันต้องเอางานไปวางบนโต๊ะอาจารย์ยอมพูดกับเพื่อนในที่สุด เพราะเจียกำลังจะลากเธอไปอีกทาง ห้องพยาบาลน่ะอยู่คนละทางกับห้องพักครู

     

     

    ดื้อจังวะ

     

     

    เจียแย่งงานในมือเพื่อนมาถือไว้ก่อนจะสั่งให้เพื่อนอยู่ตรงนี้อย่าเพิ่งไปไหน ก่อนจะกลับมาแล้วจูงเพื่อนไปห้องพยาบาล นักกีฬาอย่างเธอรู้ดีว่าการบาดเจ็บแล้วโกหกว่าไม่ได้เป็นอะไรน่ะร้ายแรงแค่ไหน ถึงภายนอกจะไม่เห็นบาดแผลว่าเป็นอะไร แต่เห็นได้ชัดว่ามุกต์เจ็บที่แขนขวา

     

     

    เห้ย อาจารย์ไม่อยู่ จะเข้าไปได้เหรอมุกต์ชะงักเท้า เป็นเวลาพักกลางวันที่ทุกคนลงไปทานอาหารกันหมด ทั้งชั้นจึงเงียบ เหมือนตอนนี้มีแค่พวกเธอสองคน และเธอแทบจะได้ยินเสียงอีกฝ่ายหายใจ

     

     

    ฉันสนิทกับอาจารย์ ไม่เป็นไรหรอกมุกต์กลอกตา แน่ล่ะ เจียน่ะรู้จักกับคนแทบจะทั้งโรงเรียนเลยมั้ง

     

     

    ถอดเสื้อ

     

     

    และมีเพียงความเงียบที่น่าอึดอัดตอบกลับมา

     

     

    เจียวางกล่องยาลงบนเตียงก่อนจะจับเพื่อนที่หันหน้าไปอีกทางให้หันมาทางตัวเอง มุกต์สะดุ้งเพราะอีกฝ่ายแตะโดนไหล่เธอ

     

     

     

    มุกต์ ถอดเสื้อให้ฉันดูไหล่แกเดี๋ยวนี้

     

     

    คนตัวเล็กที่น้ำตาคลอเพราะความเจ็บเมื่อกี้ช้อนตามองอีกฝ่าย เจียรู้ว่ามุกต์น่ะเป็นคนดื้อเงียบ แต่ไม่คิดว่าจะดื้อขนาดนี้ เธอจ้องหน้าเพื่อนนิ่ง ๆ ก่อนมุกต์จะถอนหายใจอย่างยอมแพ้

     

     

    กระดุมเสื้อค่อย ๆ ถูกเจ้าตัวปลดออก เจียพบว่าหัวใจเธอเต้นเป็นจังหวะแปลก ๆ เธอกระแอมเพื่อไม่ให้ทั้งห้องเงียบเกินไป ไม่อย่างนั้นมุกต์ต้องได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงอย่างกับจะหลุดออกมานี่แน่ ๆ

     

     

    เสื้อนักเรียนถูกปลดกระดุมออกเพียงไม่กี่เม็ด มุกต์รั้งเสื้อลงให้เห็นไหล่เล็กเนียนที่ตอนนี้ช้ำจนน่ากลัว เจียแทบจะร้องไห้ เธอพึมพำขอโทษเพื่อนไม่หยุด

     

     

    แกรู้ใช่ไหมว่าฉันโกรธ

     

     

    มุกต์พูดขึ้นมาในที่สุด เจียที่กำลังทายาให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา แววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดของอีกฝ่ายทำให้เธออ่อนลง อย่างกับลูกหมาที่กำลังสำนึกผิดแล้วทำเสียงหงิง ๆ อย่างน่ารักอะไรทำนองนั้น 

     

     

    ฉันไม่ได้โกรธเพราะแกทำฉันเจ็บ ช้ำแค่นี้เดี๋ยวก็หาย แต่ฉันโกรธเพราะแกไปต่อยไอ้แจ็คมัน

     

     

    เจียชะงักมือ ใจเธอกระตุกเหมือนโดนตะขอเกี่ยวแล้วเหวี่ยงไปมา 

     

     

    มุกต์โกรธเพราะเธอต่อยแจ็คอย่างนั้นหรอกเหรอ เพราะมุกต์เป็นห่วงมันใช่ไหม แล้วถ้ามุกต์ห่วงมันทำไมเธอต้องรู้สึกเหมือนจะร้องไห้แบบนี้ด้วยล่ะ

     

     

    แกเก่ง ฉันรู้ แกปกป้องฉันเสมอเวลาฉันโดนแกล้ง แต่แกอย่าลืมสิว่ามันเป็นผู้ชาย แรงมันเยอะกว่าแก ฉันไม่อยากให้แกเจ็บ

     

     

    ฉันเป็นห่วงแกนะ

     

     

    ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ เจียแทบกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้แทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ หัวใจกลับมาพองโตอีกครั้งแค่เพราะคำว่าเป็นห่วงจากคนที่เธอคิดว่าเป็นห่วงเขาอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนที่จะหลุดหัวเราะ ก่อนที่เจียจะติดกระดุมเสื้อให้มุกต์แล้วจัดให้เรียบร้อย

     

     

    เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วไปคลินิกกัน อย่างน้อยก็เอายาแก้ช้ำมากิน

     

     

    ค่า คุณแม่

     

     

    น่ารักมากค่ะคนเก่ง

     

     

    มุกต์ฉีกยิ้มกว้างให้เจียที่วางมือบนหัวเธอแล้วโคลงหัวไปมาแบบเด็ก ๆ เป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันไม่รู้ที่นักกีฬาคนเก่งอย่างเธออยากไปหาหมอ บางทีหมออาจมีคำตอบให้ว่าจังหวะการเต้นของหัวใจเธอทำไมถึงขึ้นอยู่กับรอยยิ้มของเพื่อนตรงหน้า อานี่เธอกำลังป่วยใช่ไหมนะ

     

     

    มุกต์หลับตาแปปนึงดิ ได้ปะ

     

     

    เจียที่เป็นคนมั่นใจในตัวเองมาตลอดพูดด้วยน้ำเสียงแกว่ง ๆ มุกต์หลับตาอย่างว่าง่าย เจียชอบที่มุกต์กลับมาเป็นมุกต์ของเธอเหมือนเดิม ไม่ใช่มุกต์ที่เอาแต่เมินเธอคนนั้น

     

     

    นี่เธอคิดจะทำอะไร

     

     

    เจียถามตัวเองทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอก็ไม่มีคำตอบให้ตัวเองเหมือนกัน

     

     

    เธอไล่สายตามองคนตรงหน้า ใกล้กันจนต้องกลั้นลมหายใจ มุกต์มีไฝที่ใต้ตา และเจียพบว่ามันโคตรมีสเน่ห์ ขนตามุกต์ยาวเป็นแพรับกับดวงตากลมโตที่อันตรายกับหัวใจเธอที่สุด เจียใช้นิ้วโป้งค่อย ๆ ไล้กรอบหน้าของอีกฝ่าย มุกต์มีไฝที่ข้างแก้มอีกที่ด้วย ไหล่เล็กของเพื่อนเธอสั่นเล็ก ๆ มุกต์ผอมจนเจียกลัวว่าถ้าเผลอกอดแรง ๆ เพื่อนตัวเล็กอาจแหลกคามือ

     

     

    เธอเผลอกัดริมฝีปากตัวเองตอนสายตาไล่ลงมาที่ริมฝีปากของเพื่อนสนิท

     

     

    โรคที่ยังวินิจฉัยไม่ได้ของหัวใจกำเริบหนัก สาบานว่าตอนนี้ทั้งคู่นั่งอยู่บนเตียงห้องพยาบาล ไม่ใช่กำลังวิ่งมาราธอนหรืออะไรทำนองนั้น

     

     

    และจนแล้วจนรอดเธอก็ทำไม่ได้ เจียเพียงวางหน้าผากของเธอชิดกับหน้าผากของอีกฝ่าย การที่จะก้าวข้ามเส้นของความสัมพันธ์มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอ การได้อยู่กับมุกต์ทุกวันแบบนี้มันดีจนเธอกลัวว่าจะเผลอทำทุกอย่างพัง แค่วันนี้ที่ถูกเมินก็เกินกว่าที่เธอจะรับได้แล้วในตอนนี้

     

     

    ไหล่ซ้ายของมุกต์ถูกใช้เป็นที่พักของเจียชั่วคราว มุกต์ที่เห็นถึงความผิดปกติของเพื่อนไม่ได้ว่าอะไร บ่อยครั้งที่เธอหาคำตอบกับการกระทำของคนตรงหน้าไม่ได้ และเธอก็กลัวเกินกว่าจะตั้งคำถามกับมัน

     

     

    ขออยู่แบบนี้สักพักนะ

     

     

     

    ที่ไหนสักแห่งบนเส้นของความสัมพันธ์ ทั้งคู่พบว่าตัวเองหย่อนขาลงมาอีกด้านหนึ่งแล้วโดยไม่รู้ตัว 

     

     

    |๔ #yCfic

    เม้าก่อน เรามีเพื่อนสนิทอยู่คนนึงค่ะ สนิทกันมาแทบจะครึ่งชีวิตกันแล้วมั้ง เป็นคนที่เรียกได้ว่าเป็นฮีโร่ของเราเลย ช่วยเราไว้บ่อยมาก นางถึงกับเคยพูดว่าถ้าไม่มีผู้ชายคนไหนดีเท่าฉันแกห้ามมีแฟนนะ เฮ่อ เหมือนจะต้องขึ้นคาน

    อะไรที่เรารู้สึกว่ามันดีอยู่แล้วเราก็มักจะอยากให้มันเป็นแบบนั้นตลอดไปเนอะ เพราะไม่มีอะไรรับประกันว่าอนาคตจะเหมือนเดิมไหม แต่บางทีลองเสี่ยงดูก็น่าสนุกเหมือนกันนะคะ นี่เป็นพวกชอบความเจ็บปวด ฮ่า

     

    อย่าลืมเอาใจช่วยน้องเจียเค้านะคะ ขอให้ได้พบคุณหมอในเร็ววัน ใครว่าน้องเขาเหมือนกะเทยระวังโดยต่อยแบบแจ็คนะ 

    ปล. ทุ่งดอกลิลลี่นี่สดใสดีจริง ๆ 


    S
    N
    A
    P
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×