ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Lack of the meaning ความห่วงใยที่ไร้ความหมาย (100% จบแล้ว) SHINee จงคีย์ NC 18+!
Lack of the meaning
ความห่วงใยที่ไร้ความหมาย
Jonghyun-key Shot fiction in Fan page
อ่านแล้วคอมเม้นด้วยนะคะ!!!
อ่านแล้วคอมเม้นด้วยนะคะ!!!
Sm Entertainment
กรุงโซล,ประเทศเกาหลี
“ไลฟ์ที่จะขึ้นวันนี้คือ ไลฟ์ของ Ingygayo เพลง One จบตามด้วย Hello ต่อเลย” ชเวจินผู้จัดการส่วนตัวมาบอกตารางการขึ้นไลฟ์ในวันนี้ของหนุ่มทั้งห้าคน SHINee
ในประชุมย่อยของค่าย
“เฮ้อ ขึ้นไลฟ์อีกแล้ว น่าเบื่อจริงๆ” คีย์หนุ่มหน้าหวานและผู้นำแฟชั่นอินเทรนของวงเอ่ยขึ้น อย่างเซ็งๆ
“ขึ้นไลฟ์กี่โมงเหรอครับ” อนยู ลีดเดอร์ของวงที่ได้ฉายาว่าเต้าหู้ เพราะเขาดูอ่อนโยนและใจเย็น ได้ถามเวลาขึ้นไลฟ์กับชเวจิน
“ช่วงบ่ายโมงตรงน่ะ เดี๋ยวรถตู้ของทาง SBS จะมารับ ฉันอยากบอกทุกคนว่าให้ไปซ้อมเต้นก่อนไปขึ้นไลฟ์สักสองสามรอบซะนะ”
“โถ้ ชเวจินฮยอง จะซ้อมให้ตายกันไปข้างเลยหรือไงครับ ผมจะตายอยู่แล้วนะครับเนี่ย” จงฮยอน หนุ่มอารมณ์ดีตลอดเวลา(?) ถามชเวจินด้วยสีหน้าเหมือนจะเหนื่อยสุด ๆ
“ถึงจะเหนื่อยแต่มันก็งานนะ ฮยอง” แทมิน มักเน่ที่น่าเอ็นดูของทุกคนในวงและทุกคนในค่าย หันไปบอกจงฮยอนในขนาดที่ตัวเองกำลังนั่งดื่มนมอยู่
“แทมินพูดถูก เราเป็นนักร้องจะเหนื่อยยังไงก็คืองาน” มินโฮบอกอย่างนิ่งแล้วก้มอ่านหนังสือแปลของตัวเองต่อ
“เข้าข้างกันจริงๆนะ สองคนนี้ -*-“ จงฮยอนเย้ยยันทั้งคู่อย่างจงใจ
“แล้วฉันพูดจริงหรือเปล่า” มินโฮเงยหน้ามาพูดอีกครั้ง
“เออ! จริง จบ!”
“จงฮยอน!!”
ชเวจินเรียกจงฮยอนเสียงดุ
“ว่าไงครับ! ฮยอง”
“นายไปซ้อมก่อนเลยคนเดียวสามรอบ เพลง Hello ถ้าฉันตามไปแล้วไม่เห็นนายเต้นล่ะก็...ตายคาห้องซ้อมแน่!!”
OoO
T^T << จงฮยอน
>O< << คีย์
-O- << อนยู
= =; << มินโฮ
-*- << แทมิน
“ไม่นะ T^T ฮยองอย่าโหดร้ายกับผม”
“มันสมควรแล้วไม่ใช่หรือไงห๊ะ! สองคนนั้นพูดถูกแล้วว่ามันคืองาน นายยังจะไปเย้ยยันสองคนนั้นอีก รีบลุกจากตรงภายในสองวิ..!”
“ไม่ ผมไม่ซ้อมคนเดียว ถ้าอยากให้ผมซ้อมต้องเอาสองคนนั้นไปด้วย”
“หนึ่ง! จะลุกหรือไม่ลุก”
“ไม่ลุก ผมไม่ยอม! T^T”
“ฉันจะให้โอกาสอีกครั้ง”
“จะนับกี่สิบรอบผมก็ไม่ซ้อมคนเดียว”
“ได้ งั้น สอง! ตลอดทั้งเดือนนี้นายไม่มีวันหยุด จงฮยอน!...ไป แทมิน มินโฮ อนยู คีย์ ฉันให้เวลาเตรียมตัวในการซ้อม 1 ชั่วโมง แล้วไปเจอกันที่ห้องซ้อม Shinee room 1”
“ฮยอง ม่ายยยยยย T^T ผมซ้อมแล้วคร๊าบบบ”
“นายก็รู้นี่ จงฮยอน ฉันพูดคำไหนก็คือคำนั้น ไม่มีกลับคำ...แล้วเจอกันภายในหนึ่งชั่วโมง ห้ามเลตเด็ดขาด ไม่งั้นจะโดนเหมือนจงฮยอน เข้าใจมั้ย!”
“เข้าใจแล้วคร๊าบบ ฮยอง!!” อีกสี่คนตอบพร้อมกัน ยกเว้น จงฮยอนที่นั่งทำหน้าอย่างกับจะตาย
“ฉันเคยบอกแล้วว่าอย่าไปเถียงกับชเวจินฮยอง ไงล่ะ อดหยุดเลย” คีย์ที่เดินเข้ามาคุยกับจงฮยอนหลังจากที่อีกสามคน แทมิน มินโฮ และอนยู ต่างแยกย้ายออกไปข้างนอกห้องประชุมย่อยกันหมดแล้ว
“แล้วมายุ่งอะไรด้วยไม่ทราบ!”
“ก็ฉันเป็นห่วงนายนี่”
“เหอะ แน่ใจเหรอ ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่บอกให้ฮยองกลับคำพูดที่ไม่ให้ฉันหยุดล่ะ”
“นายก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ ฉันว่าแทมินกับมินโฮพูดถูกแล้ว เราเป็นนักร้องนะ จงฮยอนเหนื่อยก็จริงแต่มันคืองาน แน่ล่ะ ฉันเบื่อที่จะต้องขึ้นไลฟ์ แต่ยังไงก็ต้องซ้อมนะ ถึงจะเต้นคล่องแค่ไหนก็เถอะ แต่กันพลาด มันจะดีที่สุด”
“หยุดพูดเถอะ นายเข้าข้างมินโฮนี่ เพราะว่านายน่ะ...ชอบมันใช่มั้ยล่ะ”
“จงฮยอน...”
คีย์เรียกคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ทำไมนะ ทำไมเขาถึงนึกว่าคีย์เข้าข้างมินโฮมาโดยตลอด ทั้งๆทีบอกว่าเป็นห่วงจงฮยอนแท้ๆ แต่ทำไมเขากลับคิดไป อีกแบบ
แล้วอีกอย่างคีย์ไม่ได้ชอบมินโฮสักหน่อย แต่เป็น...
“หึ ช่างเถอะ นายออกไปก่อนได้มั้ย ฉันอยากอยู่คนเดียว”
“อะ...อื้อ รีบตามไปที่ห้องซ้อมนะ ลองไปซ้อมด้วยกันก่อนก็ได้ สักรอบนึงก็ยังดี ฉันเชื่อว่าชเวจินฮยอง ไม่ให้นายไม่มีวันหยุดหรอก เชื่อฉันเถอะ...แล้วเรื่องที่นายบอกว่าฉันชอบมินโฮน่ะ มันไม่จริงสักหน่อย และ... ฉันเป็นห่วงนายนะ จงฮยอน” คีย์เดินออกจากประชุมไปอย่างช้าๆ โดยไม่กลับหันมามองคนข้างหลังอีก
1 ชั่วโมงต่อมา
SHINEE DANCE ROOM 1
“เอาล่ะจ๊ะ หนุ่มๆทั้งห้าคน วันนี้เราจะเปลี่ยนท่าเต้นในเพลง Hello ในไลฟ์วันนี้เล็กน้อยนะจ๊ะ”
“เปลี่ยนตรงไหนเหรอครับอาจารย์ชินเย” อนยูถามอาจารย์สอนเต้นอย่างตั้งใจ แน่สิ เขาเป็นลีดเดอร์ของวง จะต้องตั้งใจเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะเขาต้องเป็นคนนำท่าใหม่อีกด้วย
“เปลี่ยนต้องท่อนท้ายเท่านั้นแหละจ๊ะ ไม่มากหรอก แค่เปลี่ยนจากเดินหลังกลับให้เวทีแล้วหันขวาพร้อมกัน เป็น หันกลับมามองหน้าเวทีแล้วทำท่าประจำตัวของแต่ละคนให้ดูเป็นธรรมชาติเล็กน้อย ยิ้มนิดๆก็พอจ๊ะ
“อย่างนั้นไม่มีปัญหาครับ ผมจะบอกให้ทุกคนซ้อมตามที่อาจารย์บอก”
“ดีมากจ๊ะ เอาล่ะ งั้นเริ่มกันเลย”
“ครับ ทุกคนเริ่มซ้อมกันเถอะ เปลี่ยนท่าตอนจบนิดหน่อยเป็น....รีบหาท่าของตัวเอง แล้วรีบซ้อมเถอะ ก่อนที่ชเวจินฮยองจะมาดู” หลังจากที่อนยูตกลงกับอาจารย์ชินเยเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับไปบอกหนุ่มๆทั้งสี่คนนั่งวอร์มร่างกายอยู่หลังห้องมุมด้านซ้าย
ทุกคนลุกจากการวอร์มร่างกายแล้วไปยืนประจำตำแหน่งของตัวเองหน้ากระจกบานใหญ่ อาจารย์ชินเยถามทุกคนว่า...
“ทุกคนพร้อมนะ โอเค...One true Twee Start Dance!” อาจารย์ชินเฮกดรีโมทเปิดเพลง Hello ของ SHINee
แล้วหนุ่มทั้งหาคนก็เต้นอย่างพร้อมเพียงกัน และ ไม่มีใครสะดุดหรือเต้นผิดสักคน
และแล้วท่าเต้นตอนท้ายก็มาถึง
ท่อนจบทุกคนเดินหลังให้กระจก(ในไลฟ์เดินหลังจากให้คนดู)แล้วหันกลับมาหมดทั้งตัวเพื่อนทำท่าที่เป็นของตัวเอง อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด
“โอเค ทำได้ดีมากค่ะ เดี๋ยวจะให้เต้นอีกสักรอบก็พักยี่สิบนาที เดี๋ยวอีกสักแปปนึงชเวจินจะมาดูพวกนายแล้วแหละ แล้วต้องเต้นให้ชเวจินดูอีกรอบนึงนะ จากนั้นก็ไปเตรียมตัวแต่งหน้าทำผมให้เสร็จแล้วรอรถมารับไปสถานี SBS ได้เลย อาจารย์ต้องไปทำธุระก่อนนะ โชคดีจ๊ะทุกคน ^^”
“โชคดีครับอาจารย์!” ทุกคนหันไปบอกอาจารย์ชินเย
“อ้อ! แล้วอย่าทำให้ผู้จัดการชเวจินโมโหอะไรขึ้นมาอีกล่ะ ขาโหดเลยนะ จะบอกให้ อิอิ” ก่อนอาจารย์ชินเยเดินออกจากห้องซ้อมก็ได้หันกลับมาบอกทุกคน เหมือนทุกๆครั้งที่เข้าเตือนทุกทีหลังออกจากห้องซ้อม
“ป่ะเถอะ เต้นอีกรอบนึงนะ ทุกคน ลุกๆ” อนยูที่ยิ้มอย่างร่าเริงบอกให้ทุกคนลุกเพื่อซ้อมอีกครั้ง
ระหว่างเต้น เพลง Hello รอบที่ 2...
ครืด...
ประตูกระจกในห้องซ้อมถูกเลื่อนเปิดออกด้วยแรงดันของใครคนหนึ่ง
“แทมิน ท่านประธานยอนเรียกพบจ๊ะ”
เสียงเลขาของผู้จัดการยอนมินซู ดังขึ้นทำให้การเต้นของแทมินหยุดลงในทันที
“ท่านประธานเรียกผมเหรอฮะ พี่ชินเร” (ชินเรเป็นน้องสาวของชินเย อาจารย์สอนเต้นของ shinee)
“ใช่จ๊ะ เห็นว่ามีเรื่องด่วน ต้องเรียกเธอไปพบเดี๋ยวนี้”
“อ้อ งั้นโอเคฮะ ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
“มีเรื่องอะไรหรอเปล่า แทม” มินโฮเดินเข้ามาจับไหล่แทมินอย่างเป็นห่วง เรียกชื่อที่ ‘แทม’ เพราะมันดูแตกต่างจากคนอื่น
“ไม่รู้สิ เอาไว้ผมไม่คุยกับผู้จัดการเสร็จแล้วจะมาบอกนะฮะ มินโฮ”
“มีอะไรก็บอกฉันนะ” มินโฮลูบหัวแทมินเบาเหมือนทุกอย่าง คนตัวเล็กถึงกับหน้าแดงนิดๆอย่างเขินอาย
“ฮะ...///><///”
“ไปจ๊ะ แทมิน ท่านประธานรออยู่”
ชินเร เลขาของประธานยอนเรียกแทมิน คนตัวเล็กตามเลขาชินเรไป โดยไม่ลืมหันมายิ้มให้ทุกคนในวง โดยเฉพาะ มินโฮ...
ห้องท่านประธานยอนกึมซุก
“นายตัดสินใจดีแล้วใช่มั้ย แทมิน”
“ฮะ ท่านประธาน ผมตัดสินใจดีแล้ว ถึงแม้ว่าผมจะรักการร้องและการเต้นมาแค่ไหน แต่ถ้ามันจำเป็นผมต้องเสียมันไปฮะ”
“ทำไมต้อง ‘เรียนต่อ’ ในที่ไกลๆด้วยนะ มหาลัยของกรุงโซลก็ถือว่ามีชื่อเสียงพอๆกับต่างประเทศเลยทีเดียว”
“ผมอยากไปหาประสบการใหม่ๆดูนะฮะ...ผมขอความกรุณาท่านประธานอย่าพึ่งบอกทุกคนด้วยนะฮะ”
“ไอ้เรื่องนั้นมันไม่มีปัญหา แต่คนที่ไม่ยอมให้เราทำแบบนั้นแน่ ก็คงจะเป็น มินโฮ คนเดียว นายเองก็รู้นี่ ว่ามินโฮมันห่วงนายมากขนาดไหน ถึงฉันจะเป็นประธานของค่าย แต่ก็เข้าใจในความรู้สึกของศิลปินในค่ายฉันทุกคน ฉันไม่อยากนายต้องทะเลาะกับมินโฮในเรื่องนี้ มันเรื่องใหญ่เลยทีเดียว”
“เขาคงไม่สนใจผมหรอกฮะ ท่านประธานยอน”
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้น”
“ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นห่วง แต่ผมกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันนี่ฮะ เขาจะมาสนใจผมทำไม ที่เป็นห่วงก็เพราะว่าผมเด็กสุดในวงก็เท่านั้นเอง”
“ถึงยังไงก็เถอะ ไปบอกมินโฮดีๆแล้วกัน นี้ฉันบอกในฐานะรุ่นพี่แล้วกันนะ” อายุของท่านประธานยอนเพียงแค่ 26 ปีเท่านั้น เขาดูไม่แก่เลยแหละ แถมหน้าตายังหล่อเหลาเอาการอีกต่างหาก ค่ายนี้หน้าตาดีตั้งแต่ประธานยันทีมงานในค่ายทั้งหมด
“แล้วผมจะอธิบายให้เขาเข้าใจเองฮะ เมื่อถึงเวลานั้น ขอบคุณท่านประธานมานะฮะ ที่ค่อยดูแลผมมาเสมอ ให้โอกาสเด็กอย่างผมได้มาเป็นนักร้อง”
“นั้นเพราะความสามารถของนายต่างหากล่ะ แทมิน เอาเถอะ ฉันจัดการเรื่องเอกสารทุกอย่างรวมไปถึงงานแถลงข่าว สื่อต่างๆให้ นายแค่จัดการเรื่องเรียนและเรื่องเดินทางก็พอแล้ว ว่าแต่นายจะไปเมื่อไหร”
“ประมาณต้นเดือนหน้าฮะ”
“อีกหนึ่งเดือนสินะ”
“อาจจะเป็นอย่างนั้นฮะ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก่อน แต่ถ้าทางมหาลัยที่โน้นมีการเปลี่ยนแผน ผมคงต้องเดินทางไปก่อนแน่ๆ ผมอยากให้ท่านประธานจัดการเรื่องแถลงข่าวและบอกสื่อไม่เกินปลายเดือนนี้นะฮะ”
“แต่ก่อนที่แถลงข่าว นายต้องบอกคนในวงอีกสี่คนก่อนนะ นายอย่าลืม”
“ผมไม่ลืมแน่ๆฮะ ผมต้องขอตัวก่อนนะฮะ วันนี้มีขึ้นไลฟ์ Ingygayo”
“งั้นโชคดี”
“ขอบคุณฮะ ท่านประธานยอน” แทมินโค้งขอบคุณท่านประธานยอน ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของท่านประธานไป
กลับมาที่ SHINEE DANCE ROOM 1
“ท่านประธานยอน เรียกนายไปคุยอะไร” มินโฮเดินเข้ามาถามแทมิคนแรกเมื่อเขาเดินมาถึงที่ห้องซ้อมเต้น ตามด้วยคีย์ อนยู จงฮยอนที่เดินตามมินโฮมาติดๆ
“นั้นสิ แล้วทำไมต้องเรียกนายไปคนเดียวด้วยล่ะ” คีย์ที่พูดตามออกมา
“เออ...คือ เรื่องการเต้นน่ะ พอดีว่าท่านประธานอยากให้ฉัน Show case แบบ Solo เดี๋ยวนะ”
“เรื่องแค่นี้ให้ชเวจินฮยองมาบอกก็ได้ ไม่เห็นต้องเรียกไปเองเลย” คีย์พูดต่อ
“สงสัย Show case ครั้งนี้จะสำคัญมากสินะ” มินโฮพูดสียงเรียบ เหมือนรู้ทัน ว่าแทมินกำลังโกหก
“ว่าแต่ขึ้น Show case ไลฟ์ไหนเหรอ” อนยูถามต่อเพื่อไม่เกิดความเงียบขึ้นในกลุ่ม
“ยังไม่รู้เหมือนกันฮะ อนยูฮยอง คงต่อรอชเวจินฮยองมาบอก”
“งั้นก็ตั้งใจแล้วกันนะ พวกเราจะรอดูนายโซโล ^^” จงฮยอนที่กลับมาอารมณ์ดีตามเดิม โยกหัวแทมินไปมาอย่างอารมณ์ดี
“ขอบคุณฮะ ฮยอง^^;” แทมิน...ขอโทษนะ ฮยอง ที่ผมต้องโหก ผมยังบอกพวกฮยองไม่ได้ตอนนี้
“ว่าแต่ จงฮยอนฮยอง ไม่โดนชเวจินฮยองห้ามไม่ให้มีวันหยุดแล้วเหรอฮะ”
“ชเวจินฮยองกลับมาบอกว่าถ้าฉันตั้งใจสองมากกว่านี้สองเท่าในช่วงอาทิตย์นี้เขาจะให้ฉันกลับไปหยุดงานได้ตามปกติน่ะ”
“ชเวจินฮยองให้อภัยแล้ว ก็ตั้งใจซ้อมมากๆนะฮะ^^”
“อื้อ!”
สถานี SBS (Ingygayo)
“แทม นายมีไม่เรื่องจะบอกฉันหน่อยเหรอ”
“เรื่องอะไรเหรอฮะ มินโฮฮยอง^^”
อีกสิบนาที วง SHINEE ก็จะขึ้นไลฟ์แล้ว ทุกคนไปยืนรออยู่หลังเวทีหมด ยกเว้น มินโฮกับแทมิน ที่ยังอยู่ในห้องแต่งตัวของศิลปิน
“ก็เรื่องที่นายไปพบท่านประธานยอนน่ะสิ”
“ก็ผมบอกที่ห้องซ้อมเต้นไปแล้วนี่ฮะ”
“แน่ใจเหรอ ว่าแค่เรื่องนั้นเรื่องเดียว ไม่ได้มีเรื่องอื่นด้วย”
“อ่ะ...เออ ก็เรื่องเดียวสิฮะ มินโฮฮยอง รีบไปกันเถอะอีกไม่กี่นาทีจะขึ้นไลฟ์แล้วนะ” แทมินบอกปัดแล้ว เดินไปที่ประตูเพื่อออกจากห้อง
“นายโกหกฉันไม่เนียนเลยนะ”
“ผมเปล่าโกหก” แต่ผมยังบอกไม่ได้...แทมิน
ปัง!~
ด้านหน้าเวทีของไลฟ์
“SHINEE SHINEE SHINEE~!”
เสียง SHINee World หรือ SNW ดังก้องไปทั่วห้องส่งของสถานี มือจับแท่งไฟสีเขียวอ่อนโบกไปข้างหน้าตามจังหวะเพลง Hello หลังจากจบเพลงช้าไปอย่างเพลง One ของหนุ่มแห่งแสงทั้งห้า ...SHINEE
อนยู จงฮยอน คีย์ มินโฮ และ แทมิน เต้นและร้องอย่างเต็มที่ ตามตำแหน่งของตัวเอง สุดท้ายก็ตามด้วยท่าจบที่เปลี่ยนใหม่ ทำเอา SNW กรี๊ดสนั่นห้องส่งเลยทีเดียว เพราะรู้ว่าพวกเขาเปลี่ยนท่าตอนจบมาเพื่อไลฟ์นี้โดยเฉพาะ
.
หอพัก SM
ห้องพัก SHINEE
“โอ๊ยยย...เหนื่อยชะมัด” จงฮยอนพูดด้วยเสียงเหนื่อยแล้วเดินเข้ามาในห้องพักเพื่อเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหาน้ำดื่ม
“จงฮยอนฝากหยิบขวดน้ำมาให้ฉันด้วยนะ” อนยูตะโกนบอกจงฮยอน
“จงฮยอนดื่มน้ำช้าๆสิ เดี๋ยวก็สำลักหรอก” คีย์เดินเข้าไปบอกจงฮยอนด้วยเสียงเป็นห่วง
“รู้แล้วน่า ไม่ตายหรอก” จงฮยอนว่ากลับ
“อย่าอารมณ์เสียสิ จงฮยอน คีย์เป็นห่วงนายนะ ถึงได้บอก”
“เป็นห่วงงั้นเหรอ ไร้สาระสิ้นดี” แล้วก็กระดกน้ำเข้าปากอีกรอบ
“จงฮยอน มันจะมากเกินไปแล้วนะเว้ย!” อนยูที่ตอนคราบความอ่อนโยนของเขาได้ขาดผึ่งลงแล้ว เดินเข้าไปกระชากเสื้อ จงฮยอน จนน้ำในขวดกระชอกและตกลงไปที่พื้น
“อนยู อย่านะ!” คีย์เข้าไปแยกสองคนออก
“อนยูฮยอง จะทำอะไรจงฮยอนฮยองฮะ!”แทมินวิ่งเข้ามาดูสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักในตอนนี้
“พวกนายสองคนทะเลาะอะไรกัน” มินโฮรีบเดินเข้ามาดูอีกคน
“ก็จงฮยอนน่ะสิ พูดดูถูกคีย์เกินไปแล้ว คีย์ไปห่วงนายมากนะเว้ย ถึงได้บอกไปแบบนั้น”
“พอเถอะ! อนยู ถึงฉันจะพูดอะไรไป จงฮยอนเขาก็ไม่เคยฟังฉันอยู่แล้ว! คำพูดของฉันมันไร้ความหมายต่อเขาเสมอ มันน่าไร้สาระมาตลอด ฮึก” คีย์วิ่งออกไปข้างนอกห้องพักพร้อมน้ำตาที่ไหลริน ออกมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคนอึ้งไปหมด จงฮยอนเองด้วยเหมือนกัน คนที่ตั้งสติได้คนแรกคือ แทมิน ที่วิ่งตามคีย์ออกจากห้องไป
“นายเป็นบ้าไรวะ! จงฮยอน!!” อนยูผลักจงฮยอนจนล้มลงไปที่พื้น จากนั้นก็วิ่งตามคีย์กับแทมินลงไปข้างล่าง จงฮยอนไม่ได้ตอบโต้กลับ เขานั่งอยู่ตรงนั้นไม่ยอมลุกไปไหน มินโฮ ที่ยืนอยู่ตรงข้างๆเขาจะเดินเขาไปช่วยแต่ทว่า...
“นายไม่จำเป็นต้องช่วยคนไม่ดีอย่างฉันหรอกมินโฮ นายไปพักเถอะ ฉันจะนั่งคิดอะไรอยู่ตรงนี้สักพัก”
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้” แล้วมินโฮก็เดินเข้าไปในห้องนอนของเขา ปล่อยให้จงฮยอนนั่งอยู่ตรงนั้น
Jonghyun Take
‘ฉันเคยบอกแล้วว่าอย่าไปเถียงกับชเวจินฮยอง ไงล่ะ อดหยุดเลย’
‘แล้วมายุ่งอะไรด้วยไม่ทราบ!’
‘ก็ฉันเป็นห่วงนายนี่’
‘จงฮยอนดื่มน้ำช้าๆสิ เดี๋ยวก็สำลักหรอก’
‘รู้แล้วน่า ไม่ตายหรอก’
สองครั้งแล้วที่ผม...ทำร้ายจิตใจของคีย์ ทั้งๆที่เขาเป็นห่วงผม
‘พอเถอะ! อนยู ถึงฉันจะพูดอะไรไป จงฮยอนเขาก็ไม่เคยฟังฉันอยู่แล้ว! คำพูดของฉันมันไร้ความหมายต่อเขาเสมอ มันน่าไร้สาระมาตลอด ฮึก’
ผมทำร้ายคีย์จนเขาร้องไห้...ผมนี่เลวจริงๆ ตลอดมาผมไม่เคยพูดดีๆกับเขาด้วยซ้ำ คำพูดของผมที่พูดออกกับเขามีแต่คำพูดประชดประชันเสมอ แต่เขาก็ไม่ตอบโต้ผมเลย ทำไมนะ...ผมยังจะทำร้ายจิตใจและพูดจาใส่ร้ายเขาอีก
‘หยุดพูดเถอะ นายเข้าข้างมินโฮนี่ เพราะว่านายน่ะ...ชอบมันใช่มั้ยล่ะ’
‘จงฮยอน...’
เสียงของคีย์ที่เรียกชื่อผมอย่างแผ่วเบา ตอนนั้นผมไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่าจิตใจของคีย์เป็นเช่นไร ผมนึกว่าที่คีย์พูดแบบนั้นเพราะจะปกป้องมินโฮ แต่คีย์บอกว่า...
“......................................................แล้วเรื่องที่นายบอกว่าฉันชอบมินโฮน่ะ มันไม่จริงสักหน่อย และ... ฉันเป็นห่วงนายนะ จงฮยอน”
แปลว่า คีย์ไม่ได้ชอบมินโฮสินะ ทำไม ทั้งๆที่ผมใจร้ายกับเขาขนาดนี้ เขายังใจเย็นได้ แถมยังเป็นห่วงผมเสมอ ค่อยบอกและให้กำลังใจผมเสมอ แต่ผมกลับผลักไสเขาไป ทุกคนคงเห็นผมเป็นคนไม่ดีไปหมดแล้ว ทุกคนผมทำตัวปกติหมด ยกเว้นกับคีย์ ผมทำร้ายจิตใจเขามาเสมอ ผมผิดเอง...ผมจะขอโทษเขายังไงดีนะ
End Jonghyun take
สวนสาธารณะ SM
พื้นที่ที่ทางค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง SM Entertainment ได้ซื้อที่ดินไว้เพื่อนสร้างบริษัทค่าย หอพัก และที่อำนวยความสะดวกทางด้านกีฬาทุกประเภทไว้กว่า 10 ไร่ รวมไปถึงสาธารณะของทางค่ายอีกด้วย ที่นี้เป็นเขตหวงห้าม ห้ามบุคคลภายนอกเขา จะเขาได้เฉพาะ คนที่ทำงานอยู่ในค่าย SM เท่านั้น ที่นี้มียามเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง และนี่ก็เป็นเวลาสองทุ่มเศษๆแล้ว แต่เวลานี้ยังมีใครคนหนึ่งที่มานั่งร้องไห้ พลางคิดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คีย์
Key take
ทุกครั้งที่ผมเป็นห่วงจงฮยอน มันไร้สาระตลอดเลยใช่มั้ย ทำไมเขาใจร้ายกับผมแบบนี้ ผมทำอะไรผิด ทำไมเขาต้องพูดไม่ดีกับผมด้วย ทำไมกับทุกคน เขาพูดดีหมด ยิ่งแทมินเขาเอ็นดูมาก เพราะว่าแทมินเป็นน้องเล็กใช่มั้ย ผมว่าไม่ใช่หรอกแววตาของจงฮยอนมองแทมินไม่เหมือนน้องเล็กเลยสักนิด เขามองเหมือนผู้ชายคนหนึ่ง ที่น่าถะนุถนอม น่าดูแล และพออยู่ด้วยก็มีความสุขและยิ้มได้เสมอ แต่กับผม เขาทำไม่พอใจใส่ผมตลอด เขาหาว่าผมชอบมินโฮทั้งๆทีไม่ใช่ ผมไม่ได้เข้าข้างใคร ที่ผมพูดไปทุกอย่างเพราะเขาคนเดียว...จงฮยอน แต่เขากลับเห็นคำพูดของผมเป็นคำพูดที่ไร้สาระ หึ มันช่างน่าสมเพชจังนะ คิมคีย์บอม
“คีย์ฮยอง อยู่ไหนฮะ!!!”
แทมิน
!
“ฮึก...” ผมสะอื้น และเอามือตัวเองปิดปากไว้เพื่อไม่เสียงสะอื้นดังจนแทมินได้ยิน
ผมไม่อยากให้ใครมาเห็นผมในสภาพนี้เลยแหะ
“คีย์! นายอยู่ไหนน่ะ!”
อนยูก็ตามมาอีกคนเหรอ...!
ผมรีบเช็ดคราบน้ำตาที่ดวงตาของผมให้จางลงทั้งสองข้าง ก่อนที่พวกเขาทั้งสองคนจะมาเห็น
“คีย์ มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้คนเดียว มันอันตรายนะ ถึงที่นี้จะไม่ให้คนเข้าก็เถอะ แต่พวกงูหรือสัตว์ร้ายตอนกลางคืนมันเยอะ นายไม่น่าวิ่งหนีลงมาข้างล่างนะ เป็นยังไงบ้างห๊ะ” อนยูเดินตามเข้ามานั่งข้างๆผมแล้ว เล่นถามมาเป็นชุดๆเลย
“แค่อยากมานั่งสงบสติน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่มีอะไรได้ไง นายวิ่งร้องไห้ออกมาจากห้องนะ”
“ฉันก็แค่ตกใจน่ะ นายอย่าสนใจเลยนะ จริงสิ! เมื่อฉันได้ยินเสียงแทมิน เรียกฉันเหมือนกัน หายไปไหนแล้วเนี่ยยยย”
“จริงด้วยแหะ เดี๋ยวฉันจะลองไปเดินหาดู นายรออยู่ตรงนี้นะ อย่าพึ่งไปไหนล่ะ” อนยูลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้ววิ่งไปตามหาแทมิน
“เฮ้อ
อยากนั่งคิดอะไรคนเดียวจังแหะ” คีย์บ่นเสียงเบา
“คิดคนเดียว จะคิดอะไรออก” เสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังเรียกให้คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกเลยทีเดียว จงฮยอน
ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ เขาหาคีย์เจอได้ยังไงในเมื่อ เขาไม่ได้ตามมาตั้งแต่ต้น
“คิดออกสิ ขอตัวก่อนนะ อยากอยู่คนเดียว” ผมลุกขึ้นแล้วจะเดินหนีไปอีกทางหนึ่ง ตอนนี้ผมไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเขา ผมไม่อยากโดนเขาทำร้ายด้วยคำพูดอีกแล้ว ต่อไปนี้ผมจะไม่เป็นห่วงเขาอีกแล้ว พอกันที!
หมับ!
ข้อมือของผมโดนจับเอาไว้จากคนที่อยู่ด้านหลัง มันทำตัวผมตอนนี้รู้สึกชาไปหมด หัวใจของผมรู้สึกเต้นแรงยังไงไม่รู้ ตั้งแต่ผมรู้จักกับจงฮยอนมา เขาไม่เคยคิดจะแตะต้องผมเลยด้วยซ้ำ แม้กระทั้งรูปหัวผมเหมือนแทมิน ก็ยังไม่เคย ไม่เคยเลยสักครั้ง
“ฉันรู้ว่านายกำลังเดินหนีฉัน คีย์” จงฮยอนพูดออกมา
“ฉันเปล่าเดินหนี นาย จงฮยอน ฉันแค่อยากหาที่นั่งคิดอะไรคนเดียว เงียบๆก็เท่านั้น” ผมหันไปตอบเขาเสียงเรียบ
“แน่ใจเหรอ นั่งคิดตรงนี้ก็ได้นี่ ไม่เห็นจะต้องไปนั่งที่อื่นเลย”
“ถ้านายอยู่ ฉันจะคิดออกได้ยังไง” จะคิดออกได้ยังไง ในเมื่อเขายังอยู่ตรงนี้ ให้ตายเถอะ! น้ำตาผมจะไหลอีกแล้ว ทำไมผมมันอ่อนอย่างนี้นะ น่าสมเพชตัวเองจริงๆ หึ
“ฉันว่าคิดออกได้เยอะทีเดียวแหละ”
“นายไม่ต้องช่วยฉันคิดหรอกนะ ฉันอยากคิดเองคนเดียว
คนเดียวเท่านั้น”
“นายคงเกลียดฉันแล้ว
”
เขาหาว่าผมเกลียดเขา
“ฉันเปล่าบอกว่าเกลียดนาย! ฉันไม่เคยเกลียดนายเลย คนบ้า!”
ผมทนไม่ไหวแล้ว น้ำตาของผมมันทะลักออกมาอีกครั้งจนได้สินะ จงฮยอนเห็นผมร้องไห้ก็อึ้งไปเล็กน้อย
“ทำไมนายต้องคิดว่าฉันเกลียดนายด้วย นายรู้มั้ยว่าคำพูดนายมันทำร้ายจิตใจฉันขนาดไหน ฮึก ฉันสิต้องเป็นคนที่ต้องถามนายว่านายเกลียดฉันใช่มั้ย ถึงต้องทำร้ายจิตใจฉันขนาดนี้ ! ฮือ นายไม่เคยจะพูดดีๆกับฉันสักครั้ง ไม่สิ นายน่ะ ไม่เคยคิดที่จะพูดกับฉันเลย นายทำดี พูดดีกับทุกคน แต่กับฉันนายไม่! ทุกครั้งที่ฉันพูดกับนาย นายบอกว่าเป็นเรื่องไร้สาระบ้าง หาว่าฉันเข้าข้างมินโฮบ้าง คิดไปต่างๆนานา แต่นายเคยถามฉันบ้างมั้ย
ว่าที่ฉันเป็นห่วงนายเพราะอะไร ฮึก นายเคยถามฉันบ้างมั้ย คนบ้า! นายมัน
อุ๊บ!”
ร่างของผมถูกจงฮยอนกระชากเขาไปประกบริมฝีปากอย่างรวดเร็ว ผมอึ้งมากในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้ ลิ้นที่เขาสอดเข้ามาในโพรงปากผมมันช่างร้อนและรุนแรงมาก หัวสมองผมตอนนี้มันตื้อไปหมด พยายามควบคุมมันให้ได้เพื่อที่จะให้หลุดจากพันธนาการนี้ แต่มันไม่ไหวเลย จูบของเขามันช่างรุนแรงแต่
อ่อนหวานนัก
“พูดจบหรือยัง
" จงฮยอนถอนริมฝีปากออก แต่ยังไม่เอามือที่กุมใบหน้าของผมมออก
เขาถามผมเหรอ แต่ผมกำลังมึนๆอยู่เลยแหะ
“คีย์ นะ
”
ผลัก!
ผมผลักจงฮยอนออกห่าง เมื่อผมตั้งสติได้ มือปาดน้ำตาที่ไหล ออกมาทั้งสองข้าง
“นายเกลียดฉันแล้วจะจูบฉันทำไม ฮือๆ! เราไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ตลอดมานายทำเหมือนฉันเป็นธาตุอากาศในสายตานายมาตลอดไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนี้จะมาสนใจทำไมกัน!” ผมมันบ้า บ้าที่ไปตกหลุมรัก คนอย่างจงฮยอน!
ที่ผมค่อยเป็นห่วงและพยายามเข้าหาเขาและพูดคุยกับเขา ทุกอย่างนี้เป็นเพราะผมรักเขา แต่เขาไม่เคยรู้เรื่อง ในชีวิตเขาทำเหมือนผมไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ ผมพยายามเขาหา แต่เขากลับตีตัวออกห่าง เขาทำเหมือนผมไม่มีตัวตน ทั้งๆทีอยู่ใกล้เขามาตลอด แต่เขากลับมองไม่เห็นผมเลย ผมเหมือนธาตุอากาศในสายตาเขา เหมือนคนที่ไม่มีตัวตนสำหรับเขา ทุกครั้งที่ชเวจินฮยองเรียกทุกคนประชุมให้แสดงความคิดเห็นในโปรเจคต่างๆ งานเพลง พอผมได้แสดงความคิดเห็นออกไป จงฮยอนจะเงียบเสนอไม่เอ่ยปากพูดอะไร ในความคิดเห็นของผมเลยสักนิด ทั้งๆที มินโฮ อนยู และแทมิน ช่วยๆผมคิดทั้งนั้น ผมอยากถามเขาว่าผมทำอะไรให้เขาเกลียดนักเหรอ
“แล้วใครบอกว่าฉันเกลียดนาย คีย์ แล้วใครบอกว่าฉันเห็นนายเป็นธาตุอากาศ แล้วใครบอก
ว่าฉันไม่สนใจนาย”
“ไม่มีใครบอกฉันหรอก แต่การกระทำของนาย มันทำให้ฉันคิดแบบนั้น แล้วมันจริงมั้ยล่ะ!” ณ ตอนนี้ ผมไม่อยากจะพูดดีๆกับเขาแล้วในเมื่อเขาเองก็ไม่คิดจะพูดดีๆกับผมมาตั้งแต่ต้น
“โอเค คีย์ ฉันยอมรับก็ได้ว่าที่ผ่านมาฉันพูดไม่ดีกับนายมาตลอด แถมยังทำเหมือนนายไม่มีตัวตน ไม่สนใจ ไม่พูดด้วยกับนาย แต่ ฉันไม่ได้เกลียดนายนะ”
“แล้วการกระทำของนายไม่ได้หมายความว่านายเกลียดฉันงั้นเหรอ”
“ฉันขอโทษนะ ที่ฉันต้องทำกับนายแบบนั้น ทั้งๆทีนายเป็นห่วงฉันมาตลอด แต่ฉันกลับไม่สนใจเลย แถมยังผลักไสนายอีก
ต่อไปนี้ฉันจะพูดดีๆกับนายนะ”
“แล้วเรื่องที่นายบอกว่าไร้สาระล่ะ มันหมายความว่ายังไง”
“เรื่องนั้น เรื่องไหน ฉันก็จะขอโทษนาย ขอร้อง อย่าร้องไห้นะ ฉันทนไม่ได้ที่เห็นนายร้องไห้ออกมา” จงฮยอนเดินเข้าปาดคราบน้ำตาของผมให้หมดไป พร้อมเชยคางของผมให้มองหน้าเขาถึงแม้ตรงนี้จะมีไฟหลอดเล็กๆแต่ผมก็มองเขาได้ชัดเจน
“อย่าร้องไห้เลยนะ ฉัน
”
“เฮ้ย จงฮยอน แกจะทำไรคีย์อีกวะ!” อนยูเดินเข้ามากระชากจงฮยอนออกจากตัวผม
“เขาไม่ได้อะไรฉัน อนยู ปล่อยจงฮยอนซะนะ!” ผมเข้าไประหว่างกลางสองคนแล้วพยายามแยกเขาออกจากกัน
“นายจะไปปกป้องมันทำไมคีย์ จงฮยอนทำร้ายนายนะ!”
“อนยูฮยอง ใจเย็นๆก่อนฮะ อย่ามีเรื่องกันเลย” แทมินก็เขามาช่วยพูดอีกแรง
“จะให้ฉันใจเย็นได้ยังไง แทมิน มันกำลังทำร้ายคีย์นะ”
“ฉันยังไม่ได้ทำไรคีย์สักหน่อย”จงฮยอนพูด
“แล้วที่ฉันเห็นเมื่อกี้มันอะไร”
“ฉัน
.จะจูบคีย์ต่างหาก”
OoO << หน้าแทมิน
///OoO/// << หน้าผม
OoOx2 << หน้าอนยู
“วะ
ว่าไงนะ จูบคีย์งั้นเหรอ พระเจ้า!”
ลีดเดอร์อึ้งไปในทันที
“ฮยองทั้งสองจะจูบกัน โอ้ ม่ายยย”
“ไม่ใช่สักหน่อย ///-_-////”
“จะไม่ใช่ได้ยังไงในเมื่อ
”
“ปล่อยฉันได้แล้ว ไอ้อนยู -_-“
“ไม่ปล่อย ถึงนายจะจูบคีย์ แต่คีย์เขายอมนายหรือเปล่าล่ะ”
“><พอๆ อย่าถามอะไรไปมากกว่านี้สักทีเถอะ อนยู”
“ยอมไม่ยอมก็ลองถามเจ้าตัวดูสิ หึ”
“จงฮยอน!” อ๊าก เขาจะทำให้ผมอายไปไหนนะ ร้องไห้ไม่ออกแล้ว เขินแทน
“ไม่ถามแล้วก็ได้ แต่! ฉันไม่อยากให้นายเข้าใกล้คีย์อีกเป็นอันขาด!”
“เออ
” ผมว่ามันชักจะไปใหญ่แล้ว
“สงสัยว่าจะทำแบบนั้นไม่ได้ คนมันเป็น ‘แฟน’ กัน ก็ต้องอยู่ใกล้กันตลอดสิ”
แฟน!!
‘สงสัยว่าจะทำแบบนั้นไม่ได้ คนมันเป็น ‘แฟน’ กัน ก็ต้องอยู่ใกล้กันตลอดสิ’
‘สงสัยว่าจะทำแบบนั้นไม่ได้ คนมันเป็น ‘แฟน’ กัน ก็ต้องอยู่ใกล้กันตลอดสิ’
โฮกกกก ผมอยากจะละลายคาตรงนี้
“ฟะ
แฟน! นายสองคนรักกันตอนไหนเนี่ย”
“นั้นสิฮะ ฮยองทั้งสองคน เออ
รักกันตอนไหน”
‘รักกันตอนไหน’ งั้นเหรอ
“ตอนนี้ยังไม่รักกันแต่ว่าอีกไม่นานหรอก อย่าถามมากเลย ไปกันเถอะ คีย์” จงฮยอนหลุดออกมากถูกอนยูจับคอเสื้อไว้ได้ จากนั้นก็เดินมาจูงมือผมให้เดินตามเขาไปดื้อๆ ปล่อยให้อนยูและแทมินยืนอึ้งในสิ่งที่เขาพูดไปเมื่อครู่
‘ตอนนี้ยังไม่รักกันแต่ว่าอีกไม่นานหรอก
’ แปลว่าความรักของผม ยังมีความหวังอยู่ใช่มั้ยนะ แต่ เขาพูดจริงๆเหรอ เขาไม่ได้โกหกหรือพูดไปงั้นๆใช่มั้ย หัวใจผมตอนนี้มันพองโตขึ้นมาอีกครั้ง
คืนนี้ผมคิดว่าผมนอนหลับฝันดีแน่ๆ ตลอดเดินทางกลับมาที่ห้องพักผมกับจงฮยอนต่างคนต่างเงียบไม่พูดอะไร มือที่ของจงฮยอนที่จูงผมไว้ ทำเอาผมหน้าแดงตลอดทาง ผมไม่กล้าถามเรื่องที่เขาพูดออกมาต่อหน้าอนยูกับแทมินั้นเลย เพราะกลัวว่าเขาจะไม่ตอบ หรือว่ามันอาจจะไม่เป็นความจริง ผมเลยยังเงียบไว้ก่อน แต่ที่ผมดีใจที่สุดคือ
จงฮยอนเริ่มพูดดีๆกับผมแล้ว ><
วันรุ่งขึ้น
เมื่อคืนผมนอนหลับสบายจัง นี่ก็เจ็ดโมงเช้าแล้ว ได้เวลาที่ผมต้องทำอาหารแล้วสินะ ใช่ ทุกคนวงทำอาหารไม่ค่อยจะได้เรื่องเลยสักคนยกเว้น ผม(ชมตัวเองระยะประชิด) ผมคิดว่าก่อนจะไปทำอาหารเช้า ผมควรจะไปล้างหน้าล้างตาให้มันสดชื่อยิ่งกว่านี้ ไม่งั้นได้มีหลับคากระทะแน่ๆ
“จงฮยอน นายกลับมาพูดกับฉันให้รู้เรื่องหน่อยสิวะ ที่นายพูดเมื่อวานนี้ มันหมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความตามที่ฉันพูดไปทั้งหมดเมื่อวานนี้แหละ”
ก่อนที่ผมจะเดินออกจากห้องนอน ผมก็ได้ยินเสียงคนสองคนที่กำลังคุยกันอย่างเอาเรื่อง จงฮยอนกับอนยูสินะ เขาคุยเรื่องอะไรกัน
“เมื่อวาน แกพูดแค่จะเอาชนะฉันใช่มั้ย เพราะนายรู้ว่าฉันคิดอะไรกับคีย์”
อนยู เขาคิดอะไรกับผมอ่ะ
“ถ้าบอกว่าใช่ล่ะ จะทำไม?”
“แกมันเลวจริงๆ!”
พลัก!
กำหมัดของอนยูสัดเข้าที่หน้าของจงฮยอนไปหนึ่งที่อย่างเต็มแรง ผมตกใจมากจนเอามืออุดปากตัวเองไว้
“แกเห็นความรู้สึกของคีย์เป็นแค่ของเล่นหรือไง จะเอาชนะฉัน ฉันไม่ว่านะเว้ย แต่ถ้านายไม่รักคีย์ก็อย่าไปให้ความหวังเขาเซ่! นายไม่จำเป็นต้องพูดดีๆ กับคีย์ก็ได้ แต่การไปให้ความหวังของคนที่รักนายมันเจ็บปวดยิ่งกว่านะ!”
ทำไมอนยูเขารู้ว่าผมคิดยังไงกับจงฮยอน ทำไมจงฮยอนต้องให้ความหวังผม ทำไมจงฮยอนต้องการเอาชนะอนยูด้วย
“นายรู้มั้ย ว่าตลอดเวลามาคีย์แอบรักนายมานานแค่ไหน สองปีที่รู้จักกันมา ฉันพยายามให้คีย์หันมาสนใจฉันบ้างแต่มันไม่มีทางเลย คีย์น่ะ สนใจแต่นายคนเดียว ค่อยเป็นห่วง ค่อยดูแล ค่อยให้กำลังใจนาย แต่นายกลับผลักไสเขา ฉันอยากจะโอบกอดเขาไว้แต่ก็ไม่ได้ เพราะคนที่คีย์รัก ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นนาย นายมีโอกาสได้กอดคีย์ แต่ฉันไม่! นายมีสิทธิ์ในตัวคีย์ทุกอย่าง
เพราะว่าคีย์รักนาย”
ฮึก อนยู ฮือๆ ขอบคุณนะ ที่มีความรู้สึกดีๆกับผม แต่ว่า ผมรักจงฮยอน ถึงแม้ว่าเขาจะเอาชนะ หรือ ให้ความหวังผมก็ตาม แต่ยังไงผมก็รักจงฮยอน ฮึก ผมยอมเป็นคนโง่ ไม่รับรู้อะไรเลยจะดีกว่ามาได้ยินแบบนี้
ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมไม่อยากอยู่ที่นี้แล้ว ฮึก!
แอด
ปัง!
ผมเปิดประตูวิ่งผ่านเขาสองคนไปอย่างรวดเร็ว ผมไม่อยากจะอยู่ที่นี้อีกแล้ว ผมไม่อยากเจ็บปวด ผมอยากจะไปจากที่นี้สักที
“คีย์!!!” เสียงของอนยูเรียกดังออกมาจากห้องพัก แต่ผมไม่อยากหยุดฟังใครทั้งนั้นในตอนนี้ ผมอยากวิ่งหนีไปให้ไกลๆเลยไกลมากเท่าไหร ไม่มีใครหาผมเจอก็ยิ่งดี
หลายชั่วโมงผ่านไป
ตอนที่นี้ทุกคนที่ SM คงยุ่งกับการหาตัวผมให้วุ่นแล้ว ผมหนีออกกมาจากหอพักตั้งแต่เช้า นี้มันก็ใกล้มืดแล้ว ดีนะ ที่ไม่มีใครจำผมได้ เพราะชุดที่ผมใส่อยู่มันเป็นฮู้ตคุมหัวไว้ เดินก้มๆหน้าหน่อยก็ไม่มีใครจำผมได้แล้ว อันจริงๆต่างงานวันนี้ไม่แน่นเท่าไหรนัก ถ้ามันมีอะไรไม่ดีขึ้นมาจริงๆผมจะออกแถลงข่าวเอง
ผมเดินเล่นไปเรื่อยๆตามทางเดินข้างแม่น้ำฮัน พลางคิดเรื่องของวันนี้ไปด้วย เมื่อวานผมคงคิดถูกแล้วที่ผมไม่ได้ถามจงฮยอนว่าที่พูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เขาคงจะหาคำตอบมาให้ผมไดไม่ดีนัก และวันนี้ผมก็รู้ความจริงว่าเขาแค่อยากเอาชนะ อนยูเท่านั้น เพราะเขารู้ว่าอนยูคิดยังไงกับผม อนยูพูดถูกแล้ว ที่บอกว่า กลับไปไม่ดีกับผม ยังดีกว่ามาให้ความหวังผมด้วยซ้ำ
แม่น้ำฮันที่ถูกแสงอาทิตย์สาดส่องมายังผิวน้ำทำให้สีแม่น้ำนั้นเหมือนสีส้มสว่างใสไปเลยทีเดียว ผมเดินไปตามทางของแม่น้ำนี้ มองไปทางไหนก็มาคู่รักที่มานั่งชมวิวกันจนถึงยามค่ำคืน น้อยคนนักที่จะมาเดินคนเดียวไร้คู่เช่นผม เพราะมันดูเงียบเหงามายังไงล่ะ แต่บางคนที่มาที่นี้เพราะนั่งคิดโน้นคิดนี้ไปเรื่อยๆ อ่านะ
เอาล่ะ ตอนนี้ผมชักจะเริ่มหิวแล้วสิ ลองหาซื้อไส้กรอกทานดีกว่า ผมอยากไม่อยากกลับไปที่หอพักเท่าไหร เอาไว้ดึกมากกว่านี้หน่อยแล้วค่อยกลับดีกว่า ไม่งั้นทุกคนรอพิพากษาผมอยู่แน่ๆ = _=
“คุณป้าครับ ขอไส้กรอกสองไม้ครับ” ผมบอกป้าอายุไว้กลางคนคนนึงที่ยืนย่างไส้กรอกอยู่
“รอแปปนะ พ่อหนุ่ม ป้ากำลังย่างอยู่”
“ครับ”
ผมยืนก้มหน้ารอไส้กรอกที่กำลังย่างนั้น เสียงใครคนหนึ่งที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาหูของผม
“ป้าครับ ผมก็ขอไส้กรอกไม้นึงครับ”
เขา มาที่นี้ได้ยังไง ผมไม่อยากเจอหน้าเขาเลย !
“ป้าครับ ผมไม่เอาแล้วนะครับ ขอโทษด้วย” ผมบอกป้าคนนั้นที่กำลงยืนย่างไส้กรอกอยู่ แล้วเตรียมจะเดินหนีจงฮยอนให้เร็วที่สุด แต่ผมกลับโดนดึงแขนไม่ให้ไปไหน
“ถ้านายไม่เอาแล้ว ก็ยืนรอเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”
“ไม่จำเป็น”
“เอาเถอะ ยังไงก็ยืนรอก่อน แล้วค่อยคุยกัน
ป้าครับเอาสองไม้เลย” จงฮยอนบอกผมทั้งๆทียังจับแขนผมไว้อยู่
“แล้วทำไม่ต้องให้ยืมรอด้วย นายจะทำอะไรมันก็เรื่องของนาย ไม่เกี่ยวกับฉัน อย่ามายุ่งกับฉัน!”
“ป้าครับ เร็วๆหน่อยได้มั้ย แฟนผม เค้ารอนผมจนโวยวายแล้วเนี่ย”
“นี่ จงฮยอน หยุดพูดในสิ่งที่มันไม่เป็นจริงสักทีเถอะ อย่าให้ความหวังฉันอีกต่อไปเลย !!”
ผมสะบัดแขนให้หลุดจากมือที่จงฮยอนจับอยู่ แต่มันไม่หลุดเลย จงฮยอนจับแขนผมแน่นเกินไป ทำไมไม่ปล่อยผมให้ไปไกลๆจากชีวิตเขาซะนะ เขาจะไม่ได้ต้องให้ความหวังผม แสแสร้งผมด้วยการพูดในสิ่งที่เขาไม่อยากพูดออกมาตั้งแต่แรก
“ป้าครับ ถ้าช้าผมไม่เอาแล้วนะครับ”
“จ๊ะๆ ได้แล้วจ้าพ่อหนุ่ม แหม ใจเย็นๆกันหน่อยสิ วัยรุ่นสมัยนี้เลือดร้อนจริง อะ อ่าว ไปซะแล้ว เฮ้อ”
ป้าคนขายไส้กรอกยื่นถุงไส้กรอกให้จงฮยอน จงฮยอนรีบหยิบตังค์ในกระเป๋าออกมาจ่าย จากนั้นก็ลากคีย์ออกไปทันที
..
กลับมาบริเวณแม่น้ำฮัน
“จงฮยอน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”
“อย่าเสียงดังสิ คนเข้ามองกันใหญ่แล้วนะ เดี๋ยวก็ได้เป็นข่าวหรอก”
“ใครสน เป็นข่าวก็ดีสิ ฉันจะได้ลาออกจากวงสักที!”
“แค่ไม่พอใจฉันแค่นี้ ถึงจะต้องออกจากวงเลยหรือไง”
“ฉันเปล่าไม่พอใจ แต่ฉันไม่อยากเจ็บปวดและอึดอัดอีกต่อไปแล้ว!!!”
ผมตะโกนออกในที่สุด จงฮยอนอึ้งไปเลยทีผมต่อแบบนี้
“ถ้าฉันไม่ได้ยินที่นายพูดกับอนยูเมื่อเช้า ฉันคงเป็นคนโง่ต่อไปใช่มั้ย จงฮยอน ฮึก นายรู้มั้ย ว่าคำพูดของนายเมื่อคืน มันให้ความหวังต่อหัวใจฉันมากแค่ไหน นายรู้บ้างมั้ย ฮือๆ”
“
”
“นายเคยรู้บ้างมั้ย ว่าฉันคิดยังไงกับนาย แค่สนใจฉันบ้างหรือเปล่า ฮึก”
“
”
“ได้โปรดเถอะ ถ้านายไม่คิดอะไรกับฉันเหมือนที่นายพูดจริงๆ ก็ปล่อยฉันไปซะดีกว่า กลับมาไม่คุยกันเหมือนเดิม ทุกอย่าง นายจะกลับมาไม่สนใจฉันทำเหมือนฉันเป็นธาตุอากาศเหมือนเดิมก็ได้นะ แต่อย่าทำให้ฉันเจ็บปวดอีกต่อไปเลย ฮือๆ”
“ฉันคงกลับไปทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ ส่วนเรื่องเมื่อเช้าฉันอยากอธิบาย”
“มีอะไรที่นายจะต้องอธิบายอีก ฮึก ในเมื่อความจริงในก็พูดมันออกไปหมดแล้ว”
“มีสิ มีแน่ๆ!”
“ไม่ ฉันไม่ไป ปล่อยนะ ปล่อย!” จงฮยอนลากคีย์ไปตามทางที่ไม่มีคนเดินมากนัก
“นายต้องฟังฉันอธิบาย”
“ไม่ ฉันไม่ฟัง! ฮึก”
“อย่าดื้อสิ คีย์!”
“นายนั้นแหละ ไม่เข้าใจอะไรเลย!!”
“แล้วอยากให้ฉันเข้าใจมั้ยล่ะ”
“ฉะ
ฉันไม่รู้ เข้าใจหรือไม่เข้าใจมันก็ขึ้นอยู่ที่นาย”
“โอเค ตอนนี้ฉันยอมรับว่ายังไม่เข้าใจนาย แต่อีกเดี๋ยวก็คงเข้าใจแล้วแหละ ตามมานี่!”
โอ๊ย ! นี่เขาชักจะเริ่มโหดร้ายแล้วนะเนี่ย ทำอะไรรุนแรงชะมัด อยากจะลากก็ลาก - -^^
Hotel xxx
โรงแรม ! จะบ้าไปแล้ว จงฮยอนพาผมมาเพื่ออะไร!
“จงฮยอน นายพาฉันมาที่นี้ทำไม กันหา!”
“พามาจับกบมั้ง...ก็พามาคุยให้รู้เรื่องสิ”
“แต่ไม่ใช่ที่นี้ก็ได้ ร้านกาแฟ ร้านอะไรก็ได้ที่คนเยอะๆ น่ะ”
“ถ้าอยากเป็นข่าวนัก ก็เอาสิ”
“เหอะ!”
ตุ๊บ!
“เบาๆก็ได้ ไม่เห็นต้องเหวี่ยงเลยนี่ โรคจิตชะมัด - -*” ผมโดนจงฮยอนเหวี่ยงลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว
“โทษที แรงเยอะน่ะ”
“ชิ มาอะไรก็ว่ามาสิ ฉันไม่อยากในนี้นานหรอกนะ” ยิ่งในห้องแบบนี้ด้วย ผมยิ่งไม่อยากอยู่ใหญ่เลย ในห้องมีแต่สีชมพู เตียงก็สีชมพู อะไรมันอินเลิฟขนาดนี้นะ น่ากลัวจริงๆ
“เรื่องเมื่อเช้า ที่ฉันคุยกับอนยูมันเป็นเรื่องจริง” ว่าแล้วเชียว
“แล้วนายจะมาบอกฉันทำไม นายทำสำเร็จแล้วนี่ เอาชนะ อนยู แล้วก็ให้ความหวังฉัน!”
“ฉันขอโทษ”
“ขอโทษ ขอโทษงั้นเหรอ นายรู้มั้ยว่าฉันเสียใจ ฮือๆ”
“แต่นายไม่รู้หรอก ว่าที่ฉันพูดออกไปนั้นเพราะ...!”
“เพราะ เพราะอะไร บอกฉันสิ! บอกฉันมา!”
“เพราะ...ฉันชอบนาย!!”
ไม่จริง! จงฮยอนบอกว่าชอบผม ไม่จริงใช่มั้ย...เขาหลอกผมอีกแล้ว
“ไม่จริง นายหลอกฉัน คนอย่างนายนะเหรอจะมาชอบฉัน เราไม่เคยมีความรู้สึกดีๆให้กันเลย มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง”
“เป็นได้สิ! ถ้าฉันเก็บความรู้สึกนั้นไว้ไม่ให้ใครรู้ก็เท่านั้น”
“ฉันรู้...ที่นายพูดออกไปเมื่อกี้เพราะจะทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นใช่มั้ย”
“ฉันพูดจริงนะ ฉันชอบนาย”
“นายชอบแทมินต่างหาก”
“ใช่ ฉันชอบแทมิน”
“นั้นไง นายบอกว่าชอบแทมิน แล้วนายจะมาบอกว่าชอบฉันได้ยังไง ฮือๆ”
“แต่ฉันชอบแบบน้องชายนี่...อย่าร้องสิ ฉันไม่อยากเห็นนายร้องไห้เลย” จงฮยอนเอื้อมมือมาเช็ดหน้าคีย์อย่างอ่อนโยน
“ที่ฉันร้องไห้ ไม่ใช่เพราะนายหรอกเหรอ”
“...”
“นายไม่มีอะไรจะพูดแล้วใช่มั้ย งั้นเรากลับกันเถอะ แทมิน อนยู มินโฮและคนอื่นๆคนรอกันหมดแล้ว”
“อย่าพึ่งกลับเลย ไหนๆ เราก็มาถึงนี้แล้ว...”
“แต่ฉันอยากกลับ แล้วมันหมายความว่ายังไง มาถึงนี้แล้ว”
“แล้วมาถึงโรงแรม แถมยังอยู่ในห้องสองคนแบบนี้ สงสัยว่ามันนั่งคุยเล่น”
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยด้วยหรอก”
“หึ ที่ฉันหมายถึงน่ะ มันอย่างนี้ต่างหาก”
จงฮยอนดึงตัวคีย์เข้ามาประกบจูบอย่างรวดเร็ว ทำเอาคนตัวเล็กไม่ทันตั้งตัวแต่อย่างใด ลิ้นร้อนที่แทรกซึมเข้าไปในโพรงปากเล็กทำให้มันแน่นไปเต็มปาก เสียงครางของจงฮยอนเป็นที่น่าพอใจในตัวเขาเองนัก เพราะว่าริมฝีปากอิ่มของคีย์ช่างหวานและนิ่มไปเสียเหลือเกิน ตอนนี้ในหัวสมองของคนตัวเล็กอึ้งไปหมดพยายามตั้งสติให้ได้แต่มันไม่เป็นใจเอาซะเลย ยิ่งจงฮยอนจู่โจมเข้ามาในโพรงปากมากเท่าไหรก็ยิ่งเคลิ้มไปกันมันมากเท่านั้น คีย์ไม่นึกว่ารสจูบของจงฮยอนจะมีผลต่อร่างกายของเขามากถึงขนาดนี้ มือที่ประครองหน้าคนตัวเล็กของจงฮยอนเริ่มเคลื่อนลงมาที่คอ และไหล่เล็กตามลำดับ จากนั้นได้จัดการเอามือทั้งสองข้างโอบรอบตัวของคีย์เอาไว้ไม่ให้ขยับหนีไปไหนได้
“ฉันชอบนายนะ”จงฮยอนถอนริมฝีปากออกมาบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปให้คีย์ ตามด้วยประกบจูบลงไปอีกครั้ง และอีกครั้งจนร่างเล็กแทบจะฮวบลงไปอยู่แล้ว
จงฮยอนไม่รอช้าพาร่างเล็กลงไปนอนบนเตียงสีแดงสดอย่างช้าๆไม่ให้คีย์รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด แต่มันกลับอ่อนโยนและนุ่มนวลเสียเหลือเกิน มือบางขอคีย์ยึดเสื้อของจงฮยอนไว้ไม่ปล่อย สายตาที่จ้องมองกันด้วยความเขินอายของทั้งคู่มันช่างส่งผลให้จงฮยอนอยากจะหอมแก้มแดงๆของคีย์เสียเหลือเกิน
.......................................
ตัด NC 18+ ออก สามารถขอได้ที่เมล
Stamp_love_jamsai@hotmail.com ใช้หัวข้อว่า 'ขอฟิคเรื่อง Lack of the meaning จงคีย์ shinee'
หรือคนที่มี Face book กดถูกใจเพจ
http://www.facebook.com/pages/Yehjin-Fanfic/192254094135150
แล้วเข้าไปอ่านในบันทึกเพจได้เลยค้า!
.....................................................
.......................................
ตัด NC 18+ ออก สามารถขอได้ที่เมล
Stamp_love_jamsai@hotmail.com ใช้หัวข้อว่า 'ขอฟิคเรื่อง Lack of the meaning จงคีย์ shinee'
หรือคนที่มี Face book กดถูกใจเพจ
http://www.facebook.com/pages/Yehjin-Fanfic/192254094135150
แล้วเข้าไปอ่านในบันทึกเพจได้เลยค้า!
.....................................................
“รักนาย รักตลอดไป...คีย์”
ทั้งคู่มีความสุขกันบนเตียงใหญ่สีแดงเพลิง ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบจนถึงฟ้าสว่างของอีกวัน กว่าจะกลับถึงค่ายก็ปาเข้าไปเกือบสิบโมงแล้ว ทั้งคู่มีความสุขมากเมื่อมีความรู้สึกดีให้แก่กัน คีย์คิดว่าถึงแม้ว่ายังไง จงฮยอน จะหลอกหรือจะรักเขาจริงๆหรือไม่ตอนนี้เขาไม่อีกต่อไปแล้ว ขอแค่จงฮยอนอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจกันและกันก็พอ จงฮยอนเองก็เช่นกันเขารู้ว่าตลอดมาทำให้คีย์ต้องเสียใจมาตลอด เขาไม่เคยสนใจความรู้สึกของคนที่เป็นห่วงเขากว่าๆใครอย่างคีย์ด้วยซ้ำ จนได้ยินที่อนยูพูดในวันนั้นเขาถึงได้กลับไปมองคีย์อีกครั้งและจะศึกษากันและกันตลอดไป และเขาจะรักและดูแลคีย์เป็นอย่างดี
จงฮยอนทำตัวดีขึ้น ตั้งใจซ้อม ร้องและทำงาน ออกงานอีเวนท์ ทุกงานอย่างมีความสุข โดยมีกำลังใจจากคีย์และทุกคนในวงอีก 3 คนให้ไม่ห่าง แค่นี้เขาก็มีความสุขมาพอแล้ว
จงฮยอนทำตัวดีขึ้น ตั้งใจซ้อม ร้องและทำงาน ออกงานอีเวนท์ ทุกงานอย่างมีความสุข โดยมีกำลังใจจากคีย์และทุกคนในวงอีก 3 คนให้ไม่ห่าง แค่นี้เขาก็มีความสุขมาพอแล้ว
(Special Part)
หลังจากที่กลับมาจากโรงแรม xxx 10.00 A.M
“พวกนายสองคนหายไปไหนมาห๊า!!!”
“โอ้ยยยย เสียงชเวจินฮยองจะทำให้ตึกนี้ถล่มแล้วนะคร๊าบ”
“ไม่ต้องมาพูดมาเลยไอ้จงฮยอน ไอ้เด็กไม่มีความรับผิดชอบ นายด้วยเหมือนกันคีย์ พวกนายหายไปไหนกันมา!”
“พวกผมไป...”
“จงฮยอนออกตามหาคีย์พึงเจอครับฮยอง เมื่อวานพอเข้ารู้ว่าคีย์หายตัวไปก็เลยออกตามหาทั้งคืน พึ่งได้กลับมานะครับ เมื่อวานเขาโทรบอกผมแล้ว ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกฮยอง เพราะมันโทรมาบอกดึกแล้วนะครับ” อนยูไม่อยากจะโกหกหรอกว่าอันที่จริงแล้วหายหัวกันไปไหนไม่รู้ทั้งสองคนตั้งแต่เมื่อคืนเหมือนกัน เขาไม่อยากเห็นเป็นเรื่องใหญ่ เอาไว้เอากลับไปจัดการเองที่หอดีกว่า
“เอาอย่างนี้ คีย์ นายหายไหนมา”
“ผม...เออ ผมไปเดินเล่นข้างนอกคนเดียวน่ะครับ เห็นว่ามันดึกแล้วเลยน้องพักที่โรงแรม” คีย์ก็เล่นบทเนียนตามน้ำไปว่าตัวเองออกไปเดินเล่น
“ส่วนผมก็นึกว่าคีย์เป็นอะไรไปเลยออกตามหาครับ พอเจอเขาแล้ว เลยโทรกลับมาบอกอนยูตอนดึกแล้ว ผมเลยค้างที่โรงแรมด้วยเลย”
“ที่หลังอย่าทำแบบนี้อีก รู้มั้ยว่าพวกเราเป็นห่วงแค่ไหน ถ้าพวกนายเป็นอะไรไป หรือเป็นข่าว มันจะแย่นะ”
“ผมขอโทษครับฮยอง ต่อไปจะไม่มีแบบนี้อีกแล้ว”
“ขอให้มันจริง แล้วนายล่ะ จงฮยอน”
“ผมเองก็ขอโทษที่ออกไปตามหาคีย์โดยไม่บอกก่อนนะครับ ฮยอง”
ทั้งคีย์และจงฮยอนก้มหัวคำนับชเวจินอย่างนอบน้อม
“ฉันล่ะเหนื่อยใจกับพวกนายจริง เอาเถอะๆ รีบกลับหากันทั้งสามคน ไปอาบน้ำแต่งตัว ตอน 11 โมงมีงานถ่ายแบบเสื้อผ้าแฟชั่นของ MAYPOLE”
“ครับ / ครับ / ครับ”
ทั้งสามคำนับลาอีกทีก่อนจะเดินกลับหอ
หอพัก SHINee
“รู้มั้ยถ้าไม่แก้ตัวให้ เรื่องมันจะใหญ่แค่ไหน เล่นหายกันไปทั้งคืนแบบนั้น” อนยูถามทั้งคนเมื่อกลับมาถึง แทมินกับมินโฮไปถ่ายแบบของ MAYPOLE ก่อนแล้ว แล้วพวกเขาอีก 3 คนจะตามไป
“เรื่องมันยาวน่ะ อนยู เอาไว้จะเล่าให้ฟังแล้วกัน ห่าววว ง่วงนอนชะมัด แต่ดันมีถ่ายแบบซะนี้ ขอนอนก่อนได้ป่ะ เดี๋ยวค่อยอาบน้ำ” จงฮยอนบ่ายเบียงไม่ยอมพูดเรื่องเมื่อวานออกมา
“ไม่ได้ เล่ามาก่อน แล้วห้ามนอน ไปอาบน้ำด้วย”
“ก็ได้ๆ ฉันกับคีย์ เรารักกัน เป็นแฟนกัน”
“จงฮยอน ใครบอกว่าเป็นแฟนนายกัน”
“แล้วเป็นป่ะล่ะ”
“เป็น...><”
“พวกนายสองคน เออ...เป็นแฟนกันแล้งงั้นเหรอ”
“ใช่ รู้แล้วก็อย่ามายุ่งกับคีย์น้อยของฉันอีก เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน”
“หึ อย่างนั้นเองสินะ” แววตาเศร้าของๆอนยู ทำให้คีย์ อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะรู้ว่าอนยูคิดยังไงกับเขา
“อนยู ขอบคุณนะ ที่มีความรู้สึกๆดีให้ฉัน แต่ยังไงเราก็ยังอยู่ด้วยนะ แต่ฉันจงฮยอน รักมานานแล้วจริงๆ”
“อือ...ฉันรู้คีย์และฉันเข้าใจ”
“อนยู นายเป็นเพื่อนที่ดี เป็นหัวหน้าวงที่ดี และเป็นคนดีเสมอนะ ฉันเชื่อว่าสักวันนายคงจะเจอกับคนที่ดี ไม่ต่างจากคีย์” จงฮยอนพูดเสริมอย่างจริงใจ ไม่ได้แกล้งให้เข้าตายใจแต่อย่างใด
“ฉันเห็นด้วยกับจงฮยอนนะ ฉันเชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น”
“โอเค ฉันเข้าใจ ยังไงพวกเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ใช่มั้ย”
“แน่นอน พวกเราจะอยู่ด้วยกัน เนอะ จงฮยอน”
“อื้อ ใช่ๆ พวกเราทั้ง 5 คน แทมิน มินโฮ คีย์ จงฮยอน และอนยูด้วยไง ^^”
“ขอบใจนะ ตอนนี้ฉันเริ่มโอเคแล้ว แต่ขอฉันทำใจสักพักก่อนนะ จงฮยอน นายต้องมีความรับผิดชอบมากกว่านี้ เวลาไหนที่ฉันไม่ว่าง หรือ คีย์เจ็บปวด นายต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด ถ้าดูแลไม่ได้ จะแย่งคืนแน่”
“ไม่มีทาง ต่อไปนี้ฉันจะเป็นคนใหม่ จะดูแล ค่อยเอาใจ คีย์น้อยของฉัน ไม่มีทางยกให้นายหรอก แบร่ :p”
“ฮ่าๆๆ ฟังแบบนี้แล้วก็ดีขึ้นมาหน่อย”
“นั้นสินะ = =;;”
“แต่ตอนนี้จะ 10 โมงครึ่งแล้ว ถ้าพวกนายทั้งสองคนยังไม่ไปอาบน้ำ ฉันจะฟ้องฮยอง!!!”
“โฮ้ ไอ้ลีดเดอร์ขี้ฟ้อง!!!”
“ฮ่าๆๆ”
“นายหาว่าฉันขี้ฟ้องเหรอ ไอ้จง แกวันนี้แกหน้าบวมแน่ มาให้ต่อยซะดีๆ!!!
จงฮยอนกับอนยูวิ่งไล่กันจนเหนื่อย จงฮยอนไม่ยอมให้อนยูได้ต่อยหน้าของเขาแน่ๆ คีย์เองก็อดหัวเราไม่ได้แล้วเดินเข้าห้องนอนไปเพื่อที่จะอาบน้ำและเตรียมตัวไปถ่ายแบบกับเพื่อร่วมกันอีก 4 คน แทมิน มินโฮ อนยู จงฮยอน และเขาอีก 1 คือคีย์หนุ่มหน้าหวานคนรักของจงฮยอนในตอนนี้และตลอดไป รวมเป็น 5 ...SHINee ^^
The End
Thank you FC YEHJIN
อย่าลืมติดตามภาคต่อ 2 มิน SHINEE
จะ ทำยังไง เมื่อ แทมิน จะไปเรียนต่อเมืองนอก!!!
ใน Charisma Lovers ! เร็วๆนี้ ค่ะ !!
จะ ทำยังไง เมื่อ แทมิน จะไปเรียนต่อเมืองนอก!!!
ใน Charisma Lovers ! เร็วๆนี้ ค่ะ !!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น