ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Crazy Game เกมร้าย พ่ายรัก

    ลำดับตอนที่ #7 : Crazy Game : Chapter 6

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 56


      หลังจากไปเยี่ยมอาการของภูผาแล้ว ทั้งสามคน ใหญ่ เมฆ และปาร์คก็มานั่งถกกันเกี่ยวกับเรื่องของภูผากับโมทย์

      โดยที่ใหญ่ เห็นว่าไม่ควรปล่อยให้โมทย์ลอยนวล น่าจะสั่งสอนให้หลาบจำ ว่าไม่ควรมาทำร้ายร่างกายใครก็ตาม ตามอำเภอใจตัวเองแบบนี้

      ส่วนเมฆนั้นไม่เห็นด้วย เพราะไม่อยากให้เรื่องราวมันใหญ่โตไปกว่านี้ แล้วอีกอย่างพวกเขาก็ยังไม่รู้ต้นตอที่เป็นสาเหตุจริงๆของเรื่อง บางทีภูผาอาจจะเป็นฝ่ายผิดก็ได้ ถ้าเขาคิดจะไปแย่งใบหยกที่เป็นแฟนของโมทย์มา ยังไงเสีย เรื่องนี้โมทย์ก็ไม่ผิดซะทีเดียว

      ส่วนปาร์คนั้นได้แต่นั่งจ๋อย เพราะเขาเป็นคนไปยุยงให้ภูผาเข้าไปจีบใบหยกแบบจู่โจม บางทีอาจจะมีคนเห็นแล้วเอาเรื่องนี้ไปบอกโมทย์ทำให้เขาไม่พอใจ เลยมาทำร้ายภูผา ก็เป็นได้

     

    ขณะที่เมฆและใหญ่กำลังถกเถียงกันอย่างไม่มีทีท่าว่าจะได้ข้อยุติอยู่นั้น จู่ๆสายตาของใหญ่ก็เหลือบไปเห็นน้ำที่กำลังเดินมาทางโรงอาหาร ประสาททุกโสตสัมผัสของเขาถึงกับหยุดทำงาน

    ตอนนี้รอบตัวของเขาไม่รับรู้อะไร แม้กระทั่งเสียงของเมฆที่กำลังพูดอยู่ จิตใจของเขาจดจ่ออยู่กับชายร่างเล็กที่กกำลังเดินตรงมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ เพียงคนเดียวเท่านั้น

     

    "นี่นายฟังฉันอยู่รึป่าววะ ไอ้ใหญ่"เมฆสะกิดใหญ่ที่เหม่อลอย และเบื่อนสายตาไปทางอื่น เหมือนไม่ได้สนใจในสิ่งที่เขาพูด
     

    "เอ่อ.. ฟัง .. ฟังอยู่"ใหญ่รีบตอบก่อนจะทำทีเฉมองไปทางอื่น เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้ว่าเขาทำอะไร
     

    "เอ่อ ก็ดีแล้ว ตกลงนายยอมเชื่อฉันแล้วใช่ไหม ถึงไม่ยอมเถียงอะไรเนี่ย"เมฆถามต่อ เมื่อเห็นว่าใหญ่เงียบไป
     

    "ยังไม่ยอม แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาคุยกับนายแล้ว ฉันมีธุระ ไปก่อนนะ"ใหญ่บอก ก่อนจะลุกออกไป

    เขาไม่ได้เดินตรงไปหาน้ำทันที เพราะกลัวเพื่อนจับพิรุจได้ เขาเสแสร้งเดินไปอีกทางหนึ่งก่อนจะหลบเขามุมตึก แล้ววิ่งอ้อมโรงอาหารเพื่อไปยังทางเขาอีกทางหนึ่ง ก่อนจะมองหาน้ำที่พึ่งเดินเข้ามาในโรงอาหารก่อนหน้าเขาเพียงแค่นิดเดียว

     

    เจอเป้าหมายแล้ว ! เขากำลังต่อแถวซื้อก๋วยเตี๋ยวอยู่ ใหญ่ไม่รอช้า รีบเดินไปต่อแถวข้างหลังเขาทันที
     

    "เจอตัวซักทีนะ นายน้ำ"ใหญ่ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูของน้ำ ทำเอาเจ้าตัวสะดุ้งโหยง
     

    "อะไรของนายเนี่ย !!! "น้ำรีบกระโดดไปให้ห่างตัวของใหญ่ทันที พลางเดินหนีไป
     

    "จะไปไหนล่ะ ยังคุยกันไม่รู้เรื่องเลย"ใหญ่ได้แต่มองตามทั้งที่ในใจก็อยากจะตามไปนะ แต่ตอนนี้สายตาคนในโรงอาหารเริ่มมองมาที่เขาซะแล้วสิ คงเป็นเพราะเห็นเขาไปกระซิบข้างหูน้ำละมั้ง จึงทำให้ทุกคนเริ่มมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ ใหญ่ได้แต่ถอนหายใจ และเดินคอตกจากไปท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทา
     

      ทางด้านเมฆและปาร์ค หลังจากที่ใหญ่แยกตัวออกไป ทั้งสองคนก็ชวนกันไปแทงสนุกเกอร์ที่แก้เซง เพราะหัวหน้าแก๊งค์ดันหนีหายไปซะดื้อๆ
     

    "ไอ้เมฆ นายว่าช่วงนี้ไอ้ใหญ่มันดูแปลกๆไปรึป่าววะ"ปาร์คเริ่มบทสนทนาขึ้นหลังจากแทงลูกแรกแล้วพลาดเป้า
     

    "อื่อ ฉันก็ว่าอย่างนั้น ดูท่าทางมันวุ่นวาย แล้วก็ชอบเหม่อลอย บางทีมันก็โมโหอะไรก็ไม่รู้ขึ้นมาดื้อๆ ดูไม่ค่อยมีเหตุผลซักเท่าไหร่"เมฆครุ่นคิดถึงอาการแปลกๆของใหญ่แต่ละที ตั้งแต่เรื่องที่เขาโมโหเมื่อเช้า และอีกมากมายที่ใหญ่แสดงพิรุจให้เห็น
     

    "หรือว่าไอ้ใหญ่มันจะมีความรักวะ"จู่ๆปาร์คก็เสนอขึ้น ทำให้เมฆหยุดชะงักทันที
     

    "จะเป็นไปได้ไง ไอ้ใหญ่มันเสือผู้หญิงจะตาย จะไปหลงรักใครง่ายๆได้หรอ แล้วถ้ามันเกิดใช่ขึ้นมาจริงๆ ทำไมไอ้ใหญ่ถึงไม่บอกเรื่องนี้ให้เรารู้"เมฆส่ายหัวกับความคิดของปาร์ค เพราะเขาสนิทกับใหญ่มาก จึงไม่คิดว่าใหญ่จะมีความลับกับเขา
     

    "แต่ท่าทางของมันไม่เหมือนเดิมนาาาา.."ปาร์คพูดทิ้งทาย เมฆนิ่งไม่แสดงอาการใดๆ แต่ในหัวก็รู้สึกคล้อยตามคำพูดของปาร์คเหมือนกัน
     

    "ไม่พูดเรื่องนี้ละ เปลี่ยนเรื่องๆ"ปาร์คเริ่มเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นสถานการ์เริ่มมาคุ
     

    "ว่าแต่นายเถอะไอ้เมฆ จีบอาจารย์โบว์ไปถึงไหนละ"ปาร์คยิงคำถามใส่ จนเมฆไม่ทนตั้งตัว
     

    "ก็เฉยๆหว่ะ ฉันทักไลน์อาจารย์ไป ก็ไม่ยอมตอบ อ่านนะแต่ไม่ตอบ"เมฆทำหน้าเซงๆ ก่อนจะแทงลูกสีดำตัวสุดท้ายเข้าหลุมไป
     

    "โหย ไอ้บ้า .. อาจารย์โบว์เค้าโตแล้วนะโว้ย อายุห่างกับเราตั้ง 7-8 ปี เขาคงไม่มาเล่นอะไรมุ้งมิ้งๆเป็นเด็กๆเหมือนสาวๆของแกที่ผ่านมาหรอก"ปาร์คบอก ทำให้เมฆเริ่มฉุกคิดได้
     

    "แล้วอีกอย่างนะ อาจารย์เขาก็ไม่ใช่เพื่อนเล่นเรานะโว้ย ถ้านายไม่คิดจะชอบเธอจริงๆ ก็ถอนตัวเถอะหว่ะ หัวใจไม่ใช่เรืองล้อเล่น"ปาร์คเสริมต่อ
     

    "ไม่ได้หรอก เกมนี้ฉันเป็นคนคิดเอง เรื่องอะไรฉันจะปล่อยให้ตัวเองพ่ายแพ้วะ"เมฆยังคงไม่เปลี่ยนความคิด
     

    "คิดดีๆนะ หัวใจไม่ใช่ขอล้อเล่น ถ้านายเอามาเล่นแบบนี้ ซักวันหนึ่งเถอะ นายจะต้องเจ็บเพราะคิดล้อเล่นกับหัวใจ"ปาร์คพูดเอาซะคม จนเมฆต้องวางไม้คิวแล้วตบมือให้เป็นการล้อเลียน
     

    "ฉันพูดจริงนะเว้ย แล้ววันหนึ่งนายจะเสียใจ"ปาร์คบอก ก่อนจะเริ่มจัดวางลูกสนุ๊กใหม่เพื่อเล่นต่อ


     

      "หัวใจไม่ใช่ขอล้อเล่น ถ้านายเอามาเล่นแบบนี้ ซักวันหนึ่งเถอะ นายจะต้องเจ็บเพราะคิดล้อเล่นกับหัวใจ" คำพูดของปาร์คยังคงวนเวียนในหัวของเมฆซ้ำๆ
     

    "เจ็บ เจ็บอะหยังวะ อู้ไปเรื่อยไอ้ปาร์คนิ (เจ็บ เจ็บอะไรวะ พูดไปเรื่อย ไอ้ปาร์คนิ)"เมฆบ่น ขณะที่เขากำลังเดินไปที่ที่ประจำของเขา จะเป็นที่ไหนไปได้ ถ้าไม่ใช่ .. ที่ให้อาหารปลา ในวัดข้างมหาลัย
     

    "ลุง วันนี้ขอ 6 ถังนะครับ"เมฆชี้ถังน้ำที่ข้างในบรรจุขนมปังแผ่นไว้เต็มกับลุงคนขายอาหารปลา ก่อนจะหิ้วไปที่ท่าน้ำอย่างทุลักทุเล เขาค่อยๆฉีกขนมปังเป็นส่วนๆ ก่อนจะโยนมันลงไปในน้ำ และมองดูปลาน้อยใหญ่หลายชนิดแหวกว่ายขึ้นมาเพื่องับขนมปังที่ลอบตุบป่องๆอยู่ในน้ำ พลางเหม่อลอย..



    "ไอ้เมฆ นายรู้ป่ะ ว่าทำไมจนถึงป่านนี้แล้ว อาจารย์โบว์แก ถึงยังไม่มีแฟน"ภาพและคำพูดของปาร์คผุดขึ้นในหัวสมอง
     

    "ไม่รู้หว่ะ แกมัวทำแต่งานมั้ง"เมฆตอบอย่างไม่สนใจ
     

    "ไม่ใช่หรอก ฉันเคยไม่ยินพวกเด็กเครื่องกลมันเล่าต่อๆกันมานะ เกี่ยวกับเรื่องความรักของอาจารย์โบว์น่ะ"ปาร์คบอก ทำให้เมฆละสายตาจากลูกสนุ๊กตรงหน้า หันมาฟังปาร์คพูดต่อทันที
     

    "เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อก่อนแกมีแฟนคนหนึ่ง คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม รักกันมาก แต่พอตอนที่อาจารย์แกไปเรียนต่อเมืองนอกแล้วจบกลับมา แกก็ดันพบว่าแฟนแกกลายเป็นสามีของคนอื่นไปซะแล้ว ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นก็ยังคุยกันปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"ปาร์คเล่า
     

    "อ่าว แล้วทำไมแฟนแกทำแบบนั้นวะ"เมฆขมวดคิ้วอย่างมึนงง เพราะเห็นว่ารักกันมาก แต่ทำไมแฟนของเธอ ถึงได้คิดหักหลังเธอแบบนี้
     

    "ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่นี้แหละก็เป็นสาเหตุที่ทำให้อาจารย์โบว์แก ไม่ยอมรักใครอีกเลย"ปาร์คบอกก่อนนะตั้งไม้คิวแล้วแทงสนุ๊กต่อ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทิ้งเมฆให้ขบคิดเรื่องนี้อย่างลำพัง


     

    "ซื้อขนมปังเยอะขนาดนี้ กะจะให้ถึงพรุ่งนี้เลยรึไงห๊า เมฆา"เสียงหนึ่ง เรียกเมฆให้ตื่นจะห้วงความคิด เมฆรีบหันไปหาเจ้าของเสียงที่อยู่ด้านหลัง ใช่เลย!เหมือนที่เขาคาดไว้ไม่มีผิด อาจาร์โบว์
     

    "อาจารย์ มาได้ไงครับ"เมฆร้องทักแบบตื่นๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วยกมือไหว้
     

    "อาจารย์เอาเศษอาหารเหลือมาให้น้องหมาน่ะ"ณิชาภาบอกยิ้มๆ ก่อนจะชูถุงที่เต็มไปด้วยเศษข้าวให้เขาดู เมฆมองรอยยิ้มของเธอแล้วรู้สึกสงสารจับใจ ผู้หญิงตัวเล็กๆแบบอาจารย์ผ่านเรื่องราวที่แสนเลวร้ายแบบนั้นมาได้อย่างไร
     

    "อ่อ งั้นก็ดีเลยครับ เดี๋ยวผมไปด้วยนะ"เมฆบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนและปัดฝุ่นออกจากตัว
     

    "อ่าว ไม่ให้อาหารปลาแล้วหรอ"ณิชาภาถามก่อนจะส่งสายตาไปทางถังขนมปังที่วางอยู่ตรงพื้น
     

    "อ่อ ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวค่อยกับมาให้อีกก็ได้"เมฆบอกยิ้มๆ ก่อนจะหันไปทางคนขายขนมปัง
     

    "ลุงฝากไว้ก่อนนะ เดี๋ยวผมกลับมาให้ต่อครับ"ลุงยกมือเล็กน้อยแทนคำตอบรับ เมฆหันกลับมายิ้มให้ณิชาภาพลางยื่นมือขวาไปหาเธอ
     

    "บ้ารึไงยะ ฉันให้เธอไปให้อาหารน้องหมาด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้เธอมาแต๊ะอั๋งฉันได้นะ"ณิชาภาบอกเหวี่ยงๆ
     

    "ผมไม่ได้จะแต๊ะอั๋งอาจารย์นะครับ ที่ผมยื่นมือให้เนี่ย ผมจะถือถุงเศษอาหารให้ต่างหาก"เมฆบอกยิ้มๆ ณิชาภาแก้มแดงทันทีเพราะเธอพึ่งปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อออกไป
     

    "จ้า แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก"ณิชาภายื่นถุงเศษอาหารให้เมฆด้วยความเขินอาย


     

      ทั้งสองเดินมาจนถึงลานกว้างหน้าวิหารวัด มีสุนัขจรจัด 4-5 ตัว ยื่นรออาหารอยู่ก่อนแล้ว
     

    "ไม่ต้องแย่งกันนะ วันนี้ได้ข้าวมาเยอะเลย"ณิชาภาบอก เมื่อสุนัขเหล่านั้นวิ่งกรูมาหาเธอ
     

    "ดูมันเชื่องดีนะครับ น่ารักดี"เมฆบอกพลางยื่นมือจะไปลูบหัวสุนัขสีน้ำตาล พันธุ์ไทยหลังอานตัวหนัง แต่ก็ต้องชักมือกลับเมื่อเจ้าสุนัขตัวนั้นอ้าปากจะงับมือเขา พลางร้องขู่
     

    "ไม่เอานะ น้ำตาล อย่ากัดพี่เขารู้ไหม"ณิชาภารีบยกมือปลามสุนัขตัวนั้นทันที
     

    "น้ำตาล?"เมฆพึมพำ
     

    "ใช่ อาจารย์ตั้งชื่อมันว่าน้ำตาลน่ะ ส่วนนี้ก็ เจ้าดำ เจ้าหูขาว เจ้าหลายสี แล้วก็เจ้าแดงอิฐ"ณิชาภาชี้บอกชื่อของสุนัขแต่ละตัวเธอเป็นคนตั้งให้ตามลักษณะทางกายภาพของพวกมัน
     

    "อ่อ แบบนี้นี่เอง ตั้งชื่อง่ายจังเลยนะครับ แล้วถ้าอย่างผมนี่อาจารย์จะตั้งชื่อว่าอะไรหรอ"เมฆลองถามย้อนดูบ้าง ณิชาภาหันมามองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ก่อนจะยิ้มแล้วตอบว่า
     

    "ก็ชื่อเจ้ากะล่อนไง.. นี่แน่ะ! "ณิชาภาบอกก่อนจะยื่นมือไปดีดที่หน้าผากของเมฆดังเปี๊ยะ
     

    "โอ้ย ! เจ็บเป็นบ้าเลย"เมฆกุมหัวตัวเอง ก่อนนะแอบมองคนตรงหน้าที่หัวเราะกับท่าทางของเขา
     

    "อาจารย์นี่ซาดิสไม่เบาเลยนะครับเนี่ย มิน่าล่ะตอนนี้ถึงไม่มีแฟน ฮ่าๆๆ"เมฆเผลอปากแซวออกไป ก่อนที่จะต้องตบปากตัวเองซ้ำเมื่อคนตรงหน้าไปตลกด้วยและทำหน้าเศร้า
     

    "ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ"เมฆบอกเบาๆ เมื่อเห็นณิชาภาเงียบไป บรรยากาศรอบตัวมาคุขึ้น เมฆเดินนำณิชาภามาถึงที่ให้อาหารปลา
     

    "อาจารย์ยังอยากจะให้อาหารปลากับผมอยู่รึป่าวครับ"เมฆทำหน้ารู้สึกผิด ที่เขาเผลอพูดอะไรไม่ดีออกมา ณิชาภาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะฝืนยิ้มให้เขา
     

    "ให้สิ อย่ากังวลน่า ฉันไม่เป็นอะไรหรอก"ณิชาภาบอกก่อนจะเดินไปหยิบถังขนมปังขึ้นมาแล้วโยนแผ่นขนมปังให้ร่อนลอยออกไปก่อนจะตกสู่ผิวน้ำ ทำให้เมฆคิดอะไรสนุกๆเพื่อช่วยให้ณิชาภารู้สึกผ่อนคลายได้
     

    "อาจารย์เคยทำแบบนี้รึป่าวครับ เวลาผมโมโห หรือมีอะไรไม่สบายใจนะ ผมมักจะทำแบบนี้บ่อยๆ"เมฆบอกก่อนจะหยิบแผ่นขนมปังขึ้นมาหนึ่งแผ่นและเหวี่ยงมือไปด้านหลังแล้วขว้างขนมปังให้ร่อนออกไปไกลตามแรงเหวี่ยง แผ่นขนมปังร่อนไปไกลจนข้ามเขตตาข่ายที่วัดกั้นไว้
     

    "เป็นไงละครับ ฝีมือผม"เมฆหันมาหาณิชาภา ก่อนจะยืดอกอย่างภาคภูมิใจ
     

    "โถ่ ได้แค่นี้ทำเป็นเก่ง ดูฝีมือฉันบ้างนะ"ว่าแล้วเธอก็ทำตามเขา ทั้งสองคนแข่งกันขว้างขนมปังให้ไกลด้วยความสนุกสนาน ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ
     

      บ่อยครั้งที่เมฆเหลือบมองณิชาภา เขารู้สึกหัวใจพองโตทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเธอหัวเราะ และเวลาที่เธอหันมายิ้มให้เขา มันทำให้เขารู้สึกว่าโลกทั้งใบของเขาที่เดิมเป็นสีขาว ธรรมดาๆ กลับได้รับการแต่งเติมจากรอยยิ้ม แววตา และความสุขของคนข้างๆ จนตอนนี้โลกของเขามีสีสันมากมายเต็มไปหมด และเขาเองก็อยากให้เธอได้รู้สึกแบบเขาบ้าง เขาอยากทำให้โลกสีหม่นหมองของเธอกลับมีชีวิตชีวา มีสีสัน เหมือนที่เธอกำลังให้เขาอยู่ตอนนี้ ไม่ว่าด้วยวิธีใด ถ้ามันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเขาก็อยากจะทำ ...






     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×