ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Crazy Game เกมร้าย พ่ายรัก

    ลำดับตอนที่ #5 : Crazy Game : Chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 17 ธ.ค. 56


      ณ สนามฟุตบอลของมหาลัย ใหญ่ ใหญ่กำลังยืนท่องบางอย่างหน้ากระจกด้วยความประหม่า
     

    "เอ่อ ไปกินไจแอ้นท์ด้วยกันไหม ฉันมีคูปองลด20% สองใบ แต่หาคนไปด้วยไม่ได้ ... ไม่ดีๆดูไม่เป็นตัวเองเลย"ใหญ่ส่ายหน้า ก่อนจะเริ่มพูดใหม่อีกครั้ง
     

    "โทษฐานที่ทำหลังฉันเจ็บ เพราะฉะนั้นต้องไปกินข้าวกับฉันเพื่อนเป็นการไถ่โทษ ... ไม่ได้ แบบนี้ก็ดูมีพิรุจเกินไป"ใหญ่ขยี้หัวตัวเองอย่างหัวเสีย จะชวนเขาไปยังไงดีวะเนี่ย จะได้ดูไม่จงใจเกินไป
     

    "จะชวนสาวที่ไหนไปดินเนอร์หรอคร๊าบบบ"เสียงหนึ่งลอดมาจากในห้องน้ำ ทำเอาใหญ่สะดุ้ง และเมื่อประตูห้องน้ำเปิดออก ใหญ่ก็ยิ่งสะดุ้งหนักกว่าเดิม เพราะคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำคือ น้ำ ที่ยืนยิ้มให้เขาเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร
     

    "อ่อ อ่อ ... ก็คนแถวนี้แหละ แต่ไม่รู้เขาจะไปด้วยรึป่าว"ใหญ่แก้ตัวแล้วทำทีเฉมองไปทางอื่น
     

    "ใครที่ไหนหนอ ... จะไปกล้าปฏิเสธ ใหญ่ หนุ่มเจ้าเสน์ห์ประธานชมรมฟุตบอลได้"น้ำแซว
     

    "นายรู้จักชื่อฉันด้วยหรอ เอ่อว่าแต่นายชื่ออะไร ว่าจะถามตั้งแต่คราวที่แล้วละ ลืมซะสนิท"ใหญ่ยังคงเนียนต่อไป
     

    "ฉันชื่อน้ำ เป็นช่างภาพอยู่ชมรมวารสาร ฉันชอบมาถ่ายรูปที่สนามฟุตบอลอยู่บ่อยๆน่ะ จึงไม่แปลกหรอกที่ฉันจะรู้จักนาย"น้ำแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
     

    "อ่อ แล้ววันนี้ไม่ไปถ่ายรูปรึไง มาอยู่อะไรในห้องน้ำนี่ หรือเป็นพวกโรคจิตถ้ำมอง"ใหญ่ยื่นหน้าไปใกล้ๆพลางมองไปรอบตัวเขาอย่างจับผิด
     

    "บ้าน่า ฉันแค่มาเข้าห้องน้ำเฉยๆ แล้วอีกอย่างวันนี้ฟ้าครึ้มๆ แสงไม่ค่อยมี ถ่ายรูปไม่สวยหรอก ฉันเลยว่าจะกลับละ"น้ำบอก
     

    "งั้นก็แปลว่านายว่างละสิ งั้นดีเลยไปกินไจแอ้นท์กัน ฉันมีตั๋วลด20%สองใบ แต่ยังไม่มีใครไปด้วยเลย"ใหญ่พูดอย่างรวดเร็วพลางหยิบตั๋วส่วนลดออกมาโชว์

    น้ำตกใจและทำอะไรไม่ถูกเมื่อโดนใหญ่จู่โจม ร่างกายจึงสั่งให้เขาพยักหน้ารับอย่างอัตโนมัติ

     

    "เย่ ต้องแบบนี้สิ"ใหญ่ถอนหายใจก่อนจะยิ้มร่า ค่อยโล่งอกไปหน่อย กลัวนายนี่ปฏิเสธชิบหาย

    "แต่ฉันต้องพาน้องสาวไปด้วยนะ เพราะเราสองคนต้องกลับบ้านพร้อมกัน"น้ำบอกเมื่อตั้งสติได้
     

    "ไม่มีปัญหา เรารีบไปกันเถอะ ฉันหิวจะแย่แล้ว"ว่าแล้วใหญ่ก็ยื่นมือไปจับไหล่ของน้ำแล้วหมุนตัวเขาหันหลังเดินออกจากห้องน้ำ

     

      ณ ตึกคณะวิศวกรรม แพรมน น้องสาวของน้ำได้นั่งรอเขาอยู่แล้ว และก็ต้องตกใจเมื่อเห็นพี่ชายของตัวเองเดินตรงมาพร้อมกับใหญ่
     

    "น้องแพร นี่พี่ใหญ่นะ ส่วนนาย นี่น้องสาวฉัน ชื่อ แพร"น้ำจัดแจงแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน
     

    "สวัสดีค่ะ พี่ใหญ่"แพรมนยกมือไหว้ใหญ่  ใหญ่ก้มหัวรับการไหว้
     

    "เดี๋ยววันนี้เราไปกินไจแอ้นท์กันนะ พี่ใหญ่เขามีบัตรลดแต่ไม่มีใครไปด้วยเลยมาชวนพี่น่ะ"น้ำบอกน้องสาวหน้าตาเฉย
     

    "อ่อ หรอคะ"แพรมนตอบรับงงๆ ก่อนจะมองใหญ่ด้วยสายตางงระคนสงสัย พี่ชายเราไปสนิทกับพี่ใหญ่ตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย
     

    "เอ่อ .. ฉันหิวแล้วอ่ะนะ เราไปกันเถอะ"ใหญ่รีบบอกก่อนจะเดินนำไปที่รถ เพราะกลัวแพรมนจับพิรุจของเขาไป
     

    "พี่น้ำ พี่สนิทกับพี่ใหญ่ตั้งแต่ตอนไหน และสนิทขนาดเขาชวนไปกินข้าวด้วยกันเลยหรอ"แพรมนกระซิบถามน้ำที่ยังไม่รู้สึกรู้สาอะไร
     

    "ก็พึ่งรู้จักกันนะ และก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก"น้ำตอบ
     

    "แล้วทำไมเขาชวนพี่ไปกิน ฉันว่ามันแปลกๆอยู่นะ"แพรมนขมวดคิ้วสงสัย
     

    "เขาคงอยากกินมาก แต่ไม่มีเพื่อนไปกินมั้ง เลิกคิดมากเถอะน่า "น้ำลูบหัวน้องสาว ก่อนจะเดินตามใหญ่ไป
     

     

      ณ ร้านไจแอ้นท์ที่ห้างดังแห่งหนึ่ง กลางเมืองกรุงเทพ
     

    ใหญ่ น้ำ และแพรมนเดินเข้ามาในร้าน มองหาที่นั่งละเลือกที่นังในสุดของร้าน และเมื่อจะนั่งลงเท่านั้นแหละ ใหญ่ก็รีบท้วงขึ้น เมื่อน้ำจะนั่งฝั่งตรงข้ามเขา ฝั่งเดียวกับแพรมน
     

    "นาย มานั่งข้างๆฉันนี่"ใหญ่ดึงแขนน้ำไว้ น้ำและแพรมองหน้ากันงงๆ
     

    "ทำไมล่ะ ให้ฉันนั่งข้างน้องฉันก็ดีอยู่แล้ว"น้ำถาม ใหญ่ยืนนิ่งพยายามหาข้ออ้าง โถ่เว้ย จะบอกว่าอยากนั่งด้วยก็ไม่ได้ ทำไงดี ?

    "เอ่อ .... ก็ฉันปวดหลัง จะหยิบจะเอื้อมอะไรก็ลำบาก นายช่วยมาบริการฉันหน่อยสิ ถือว่าไถ่โทษที่ทำหลังฉันเจ็บละกันนะ"ใหญ่บอกพลางส่งสายตาอ้อนวอน น้ำถึงกับยิ้มในความขี้อ้อนของเขา
     

    "ก็ได้ๆ บอกกันดีๆก็ได้ ไม่เห็นต้องทำหน้าเด็กน้อยแบบนี้เลย"น้ำบอกเขินๆก่อนจะเดินมานั่งข้างใหญ่ด้วยความเต็มใจ แพรมนสังเกตท่าทางของทั้งสองคน และเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่
     

      ระหว่างการรับประทานอาหาร ใหญ่คอยแหย่ คอยแกล้งน้ำตลอด นอกจากนั้นก็ยังชวนคุยถึงแต่เรื่องของน้ำ คอยถามถึงสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบ และเวลาเรียนต่างๆ เหมือนกับไม่เห็นแพรมนในสายตา

      ส่วนน้ำเองก็ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรในคำถามของเขา มีเพียงแพรมนเท่านั้นที่จับพิรุจของใหญ่ได้ และเมื่อพวกเขาแยกย้ายกับใหญ่ สาวเจ้าจึงได้เริ่มเปิดประเด็นกับพี่ชาย

     

    "พี่น้ำ พี่ใหญ่เขามาจีบพี่หรอ"สิ้นคำถาม น้ำถึงขั้นสำลักน้ำเปล่าที่พึ่งดื่มไป
     

    "บ้าน่า เอาอะไรมาพูด"น้ำหน้าแดงระเรื่อ
     

    "ใช่แน่ๆ แพรดูออกนะ พี่ใหญ่เคยคอยมองพี่น้ำตลอดเลย และก็ยังคอยหลบสายตาเวลาแพรมองด้วย"แพรบอกอย่างมั่นใจ
     

    "คิดมากไปรึป่าว ไม่จริงหรอก พี่เป็นผู้ชาย เขาจะมาคิดอะไรกับพี่ได้ยังไง"น้ำเฉมองไปทางอื่น พยายามหาข้อแก้ตัวแทนใหญ่
     

    "ได้สิ พี่เองก็รู้ว่ามันเป็นไปได้"แพรมนบอก น้ำไม่ตอบอะไรเอาแต่ก้มหน้านิ่ง ใช่สิ มันเป็นไปได้ แต่มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว และฉันก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ให้ใครเดินเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าคนนั้นเป็นหญิงหรือชาย

     

      ใหญ่ขับรถกลับมาถึงบ้านด้วยความรู้สึกสุขเต็มเปี่ยม ภายในหัวของเขามีแต่ภาพของน้ำ รอยยอ้ม และเสียงหัวเราะของเราตลอดเวลา
     

    "แปลกจัง ลมอะไรหอบให้ลูกของแม่กลับมาบ้านได้เนี่ย "ศศิพิมพ์ แม่ของใหญ่ออกมาต้อนรับเมื่อเห็นว่ารถของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนขับเข้ามาจอดในบ้าน เพราะปกติแล้วใหญ่จะพักอยู่ที่หอพักใกล้มหาลัยใหญ่เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
     

    "ลมแห่งความสุขครับแม่"ใหญ่บอกพลางตรงเข้าไปกอดศศิพิมพ์แน่น
     

    "ความสุขอะไร เล่าให้แม่ฟังได้ไหม"ศศิพิมพ์ดึงลูกชายออกจากอ้อมกอด พลางจ้องหน้าเขาเขม็ง ใหญ่หน้าแดงระเรื่อก่อนหลบสายตานาง
     

    "ท่าทางแบบนี้ สงสัยลูกชายของแม่จะมีความรักแล้วละมั้ง"ศศิพิมพ์เดา ใหญ่ตกใจมากที่แม่มองออกจึงรีบเดินหนีเข้าไปในบ้าน
     

    "นายเล็กกลับบ้านมารึยังครับแม่ ทำไมบ้านดูเงียบๆ"ใหญ่รีบเปลี่ยนเรื่อง
     

    "กลับมาแล้วจ้า อยู่บนห้องน่ะ"ตอบก่อนจะเดินไปหยิบจานผลไม้ในตู้เย็นออกมาให้ลูกชาย
     

    "อ่อครับ"ใหญ่หยิบแอปเปิ้ลจากในจานเข้าไปกินแบบเนียนๆ แล้วทำทีไม่สนใจมารดาที่คอยหาโอกาสถาม แต่ศศิพิมพ์ใช้ไม้เด็ด จับหน้าใหญ่แล้วบิดกลับมาหาเธอในทันที
     

    "บอกแม่มาได้รึยัง ว่าไปตกหลุมรักใครมา"ศศิพิมพ์ถามแกมขู่  ทำเอาใหญ่ดิ้นพลัก
     

    "โอ้ย แม่คร๊าบบ ยอมแล้วครับ ..."ใหญ่ร้องลั่น เมื่อเห็นมาลูกชายยอมสิโรลาภศศิพิมพ์จึงปล่อยมือ
     

    "เอาล่ะ ยอมแล้วก็ว่ามา"ศศิพิมพ์นั่งกอดอกสบายใจเฉิบ ใหญ่คลำคอตัวเองเบาๆด้วยความเจ็บ ก่อนจะอึกอักและเล่าว่า
     

    "ผมไม่รู้หรอกนะครับว่ามันใช่ความรักรึป่าว แต่เวลาที่ผมเจอเค้า ผมรู้สึกตื่นเต้น อยากหาเรื่องคุย อยากเดินด้วย อยากอยู่ด้วยนานๆ พอไม่ได้เจอกันในหัวขอผมก็มีแต่ภาพเค้าลอยมา และผมก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้คิดถึงเค้า"ใหญ่บอกยิ้มๆ ทำเอาศศิพิมพ์ยิ้มตามไปด้วย เพราะเธอไม่เคยเห็นลูกชายคนโตของเธอเพ้อแบบนี้มาก่อน
     

    "แล้วคนที่ลูกพูดถึงเค้าเป็นใครหรอ"ศศิพิพม์ถามต่อ ทำเอาใหญ่หุบยิ้มทันทีและมีที่ลังเลว่าจะบอกดีหรือไม่
     

    "เอ่อ.. ตอนนี้ผมยังไม่ค่อยแน่ใจอะไร รอผมแน่ใจแล้ว ผมจะบอกแม่ละกันนะครับ หาวววววว... ง่วงจังเลย ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ"ใหญ่ทำทีเป็นหาวก่อนจะขอตัวมารดาแล้ววิ่งขึ้นห้องนอนไป

    ศศิพิมพ์ได้แต่ยิ้มรับกับท่าทางของลูกชาย

     

    "ยิ้มอะไรกันหน่ะคุณ"เสียงของวิรัตน์ พ่อของใหญ่ท้วงขึ้นเมื่อเขาเดินเข้าบ้านมาแล้วเห็นภรรยาของตัวเองยืนยิ้มอยู่คนเดียว
     

    "อ่าวคุณ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ฉันไม่ได้ยินเสียงรถเลย"ศศิพิมพ์หันไปหาชายร่างสูงที่อยู่ตรงหน้าประตู
     

    "มาเมื่อกี่นี่แหละ ใหญ่กลับมาบ้านหรอ เห็นรถจอดอยู่"
     

    "ค่ะ ท่าทางเขาจะมีความรักนะคะ รอยยิ้มของเขาเหมือนกับคุณ ตอนจีบฉันเลย"
     

    "คุณนี่ก็ว่าไปเรื่อย .. ^^"





     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×