ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    every things ทุกสิ่งหยุดที่เธอ

    ลำดับตอนที่ #10 : ห่วง

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ย. 54


    cinna mon

     หลังจากที่ฉันและพีชทักทายกันเสร็จเรียบร้อย ฉันหันหลังทำท่าจะแบกกระเป๋าเข้าไปในห้อง แต่ยังไม่ทันที่จะได้เปิดประตู เสียงเรียกชื่อของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น ทำให้ฉันต้องชะงักและหันกลับไปมอง



    "อ้าว เชน และไอ้เตล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันหรอ"

    ผู้เข้ามาใหม่ซึ่งนั่นก็คือเชนเหลือบมองฉันก่อนจะตอบคำถามพีช



    "เตพักห้องเดียวกับพีมิกน่ะ อ่ะ นี่คีย์การ์ดห้องของนาย แล้วก็ขอบใจสำหรับกระเป๋า"

    เชนหันไปตอบพีชก่อนจะยื่นคีย์การ์ดให้พีมิก



    "อืมๆ ของแกนี่หนักชิบเลย นี่ถ้าไม่เห็นว่าปวดแขนล่ะก็ ฉันคงไม่แบกขึ้นมาให้แกแน่ๆ"

    คนตรงหน้าเชนรับสิ่งที่เขายื่นให้ก่อนที่จะบ่น



    "ขอโทษทีเพื่อน แต่นี่มันคราวของฉัน ดูอย่างรอบที่แล้วที่ขาแกเดี้ยงสิ ฉันยังอุตส่าห์แบกแกเลยนะ"

    คราวนี้เชนตอกกลับ ทำเอาพีมิกหน้านิ่งไม่กล้าโต้กลับไปเลยล่ะ 



    "เออๆ งั้นถือว่าหายกัน ฉันไม่เถียงกับแกแล้ว ไปล่ะ"



    "อืม ไว้เจอกัน"

    หลังจากที่ยืนโต้ตอบกันอยู่ไม่กี่ประโยค ทั้งคู่ก็แยกย้ายกันโดยที่พีมิกเดินออกไปทางประตูห้อง งั้นก็แสดงว่า คนที่พักห้องนี้ นอกจากฉันกับพีชแล้วก็คือเชน ไม่ใช่พีมิก...

    เอาล่ะสิ แล้วฉันจะสู้หน้าคนเย็นชาแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ ไม่เอาแล้วดีกว่า ฉันเข้าห้องดีกว่า ไม่พูดไม่จา ไม่ต้องโต้ตอบอะไรกับเขาน่ะเป็นอันดีที่สุด

    คิดแล้วฉันก็หันหลังกลับไปหาลูกบิดประตูสุดที่รัก(ชั่วคราว)ของฉันทันที แต่ยังไม่ทันจะได้สัมผัสมันฉันก็ถูกเสียงของคนข้างหลังเบรกไว้ซะก่อน เอาแล้วไง ความซวยกำลังมาเยือนฉันแล้ว



    "มีอะไรหรอ"

    ฉันหันกลับไปถามทางต้นเสียง(หันเยอะเหลือเกิน) ก็ได้พบกับคำตอบอันน่าทึ่งจากคนอย่างเขา



    "ฉันช่วย"

    ว่าจบเขาก็เดินเข้ามาแย่งกระเป๋าไปจากมือฉันทันที แหม เราก็นึกว่าเขาจะอ่อนโยนกับเราซะอีก ที่ไหนได้... เหมือนเดิม!!



    "ไม่เป็นไรอ่ะ แขนนายเจ็บอยู่ไม่ใช่รึไง ฉันถือเองได้"

    ยืนนึกได้ไม่นานฉันก็ห้ามเขาโดยใช้เหตุผลที่ได้ฟังมาเมื่อกี้ทันที

    แต่สงสัยว่าฉันจะห้ามเขาไว้ไม่ได้แล้วล่ะ ก็พ่อคนหัวดื้อเล่นแย่งกระเป๋าฉันแล้วเดินนำเข้าไปในห้องเรียบร้อยแล้วน่ะสิ ส่วนฉันยืนเอ๋อได้ไม่นานก็ต้องรีบตามเข้าไปดูเพราะเขาบ่นว่าปวดแขน

    ไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็เจ็บอยู่แล้วแท้ๆ ยังจะมาช่วยคนอื่นอีก



    "ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้อง นายก็ไม่ยอมฟังฉัน ไหนขอฉันดูหน่อย"

    ฉันดึงแขนของเขาเข้ามาดูก็ไม่เห็นว่ามีอะไรเลย แล้วเขาเจ็บตรงไหนกันล่ะ พอฉันจะเงยหน้าขึ้นไปถามก็พบว่าตัวเองถูกคนตัวสูงตรงหน้ามองด้วยสายตานิ่งๆอยู่ก่อนแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าเขามองฉันทำไมหรอกนะ แต่ที่แน่ๆคือ สายตาแบบนี้มันมีความหมายอะไรบางอย่างที่ฉันไม่รู้แอบแฝงอยู่เป็นแน่



    "มองอะไร?"

    หลังจากที่สบตาเขาอยู่เกือบนาน ฉันก็เลือกที่จะหันหลบสายตาของเขาทันที ก่อนที่จะพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ



    "เปล่า"

    เขาตอบพร้อมทั้งเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ชิส์ คิดว่าฉันไม่รู้เหรอไง



    "งั้นก็ช่างมันเถอะ ว่าแต่นายเจ็บตรงไหนอ่ะ ฉันไม่เห็นว่ามันจะมีบาดแผลอะไรตรงไหนเลย"



    "ฉันหายแล้ว หรือถ้าจะเป็นก็เป็นตอนที่ฉันอุ้มเธอไปห้องพยาบาลตอนนั้นนั่นแหละ แล้วอีกอย่างฉันปวดแขน ไม่ได้เจ็บแขน มันไม่จำเป็นจะต้องมีแผลสักหน่อยนี่"

    เอ้อ! ฉันมันผิดเอง ฉันผิดเองที่ดันไปถามคนอย่างนาย คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่านายแอบด่าฉันน่ะ คนอุตส่าห์เป็นห่วงแท้ๆ ยังคิดพูดทำร้ายน้ำใจกันอีก นายคิดผิดแล้วนะอีตาบ้า!



    "งั้นนายก็สมควรที่จะกลับไปพักผ่อนได้แล้วนะ! เดี๋ยวเกิดมีแผลขึ้นมาจริงๆแล้วจะยุ่ง!"

    หลังจากที่ฉันพูดพร้อมส่งสัญญาณว่ากำลังจะมีสงครามก่อตัวขึ้น ฉันก็ดันหลังเขาให้พ้นประตูห้องแล้วก็นึกอะไรบางอย่างได้ก่อนที่จะปิดประตูห้อง



    "อ่ะนี่! ปวดแขนก็เอาไปทาซะ แล้วก็ขอบใจที่ช่วยฉันถือกระเป๋าเข้าห้องให้นะ"

    ฉันยื่นยาทาแก้ปวดหลอดเล็กให้เขา ก่อนที่จะขอบคุณไปตามมารยาท



    "..."

    เขารับมันไว้มือ แล้วมองมันอย่างเงียบๆ



    "ฉันจะนอนแล้ว ไปได้แล้ว ฝันดี"

    ว่าแล้วฉันก็บอกลาเขาก่อนที่จะปิดประตูโดยทันที
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×