ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ห่วง
cinna mon
หลังจากที่ฉันและพีชทักทายกันเสร็จเรียบร้อย ฉันหันหลังทำท่าจะแบกกระเป๋าเข้าไปในห้อง แต่ยังไม่ทันที่จะได้เปิดประตู เสียงเรียกชื่อของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น ทำให้ฉันต้องชะงักและหันกลับไปมอง
"อ้าว เชน และไอ้เตล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันหรอ"
ผู้เข้ามาใหม่ซึ่งนั่นก็คือเชนเหลือบมองฉันก่อนจะตอบคำถามพีช
"เตพักห้องเดียวกับพีมิกน่ะ อ่ะ นี่คีย์การ์ดห้องของนาย แล้วก็ขอบใจสำหรับกระเป๋า"
เชนหันไปตอบพีชก่อนจะยื่นคีย์การ์ดให้พีมิก
"อืมๆ ของแกนี่หนักชิบเลย นี่ถ้าไม่เห็นว่าปวดแขนล่ะก็ ฉันคงไม่แบกขึ้นมาให้แกแน่ๆ"
คนตรงหน้าเชนรับสิ่งที่เขายื่นให้ก่อนที่จะบ่น
"ขอโทษทีเพื่อน แต่นี่มันคราวของฉัน ดูอย่างรอบที่แล้วที่ขาแกเดี้ยงสิ ฉันยังอุตส่าห์แบกแกเลยนะ"
คราวนี้เชนตอกกลับ ทำเอาพีมิกหน้านิ่งไม่กล้าโต้กลับไปเลยล่ะ
"เออๆ งั้นถือว่าหายกัน ฉันไม่เถียงกับแกแล้ว ไปล่ะ"
"อืม ไว้เจอกัน"
หลังจากที่ยืนโต้ตอบกันอยู่ไม่กี่ประโยค ทั้งคู่ก็แยกย้ายกันโดยที่พีมิกเดินออกไปทางประตูห้อง งั้นก็แสดงว่า คนที่พักห้องนี้ นอกจากฉันกับพีชแล้วก็คือเชน ไม่ใช่พีมิก...
เอาล่ะสิ แล้วฉันจะสู้หน้าคนเย็นชาแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ ไม่เอาแล้วดีกว่า ฉันเข้าห้องดีกว่า ไม่พูดไม่จา ไม่ต้องโต้ตอบอะไรกับเขาน่ะเป็นอันดีที่สุด
คิดแล้วฉันก็หันหลังกลับไปหาลูกบิดประตูสุดที่รัก(ชั่วคราว)ของฉันทันที แต่ยังไม่ทันจะได้สัมผัสมันฉันก็ถูกเสียงของคนข้างหลังเบรกไว้ซะก่อน เอาแล้วไง ความซวยกำลังมาเยือนฉันแล้ว
"มีอะไรหรอ"
ฉันหันกลับไปถามทางต้นเสียง(หันเยอะเหลือเกิน) ก็ได้พบกับคำตอบอันน่าทึ่งจากคนอย่างเขา
"ฉันช่วย"
ว่าจบเขาก็เดินเข้ามาแย่งกระเป๋าไปจากมือฉันทันที แหม เราก็นึกว่าเขาจะอ่อนโยนกับเราซะอีก ที่ไหนได้... เหมือนเดิม!!
"ไม่เป็นไรอ่ะ แขนนายเจ็บอยู่ไม่ใช่รึไง ฉันถือเองได้"
ยืนนึกได้ไม่นานฉันก็ห้ามเขาโดยใช้เหตุผลที่ได้ฟังมาเมื่อกี้ทันที
แต่สงสัยว่าฉันจะห้ามเขาไว้ไม่ได้แล้วล่ะ ก็พ่อคนหัวดื้อเล่นแย่งกระเป๋าฉันแล้วเดินนำเข้าไปในห้องเรียบร้อยแล้วน่ะสิ ส่วนฉันยืนเอ๋อได้ไม่นานก็ต้องรีบตามเข้าไปดูเพราะเขาบ่นว่าปวดแขน
ไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็เจ็บอยู่แล้วแท้ๆ ยังจะมาช่วยคนอื่นอีก
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้อง นายก็ไม่ยอมฟังฉัน ไหนขอฉันดูหน่อย"
ฉันดึงแขนของเขาเข้ามาดูก็ไม่เห็นว่ามีอะไรเลย แล้วเขาเจ็บตรงไหนกันล่ะ พอฉันจะเงยหน้าขึ้นไปถามก็พบว่าตัวเองถูกคนตัวสูงตรงหน้ามองด้วยสายตานิ่งๆอยู่ก่อนแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าเขามองฉันทำไมหรอกนะ แต่ที่แน่ๆคือ สายตาแบบนี้มันมีความหมายอะไรบางอย่างที่ฉันไม่รู้แอบแฝงอยู่เป็นแน่
"มองอะไร?"
หลังจากที่สบตาเขาอยู่เกือบนาน ฉันก็เลือกที่จะหันหลบสายตาของเขาทันที ก่อนที่จะพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
"เปล่า"
เขาตอบพร้อมทั้งเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ชิส์ คิดว่าฉันไม่รู้เหรอไง
"งั้นก็ช่างมันเถอะ ว่าแต่นายเจ็บตรงไหนอ่ะ ฉันไม่เห็นว่ามันจะมีบาดแผลอะไรตรงไหนเลย"
"ฉันหายแล้ว หรือถ้าจะเป็นก็เป็นตอนที่ฉันอุ้มเธอไปห้องพยาบาลตอนนั้นนั่นแหละ แล้วอีกอย่างฉันปวดแขน ไม่ได้เจ็บแขน มันไม่จำเป็นจะต้องมีแผลสักหน่อยนี่"
เอ้อ! ฉันมันผิดเอง ฉันผิดเองที่ดันไปถามคนอย่างนาย คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่านายแอบด่าฉันน่ะ คนอุตส่าห์เป็นห่วงแท้ๆ ยังคิดพูดทำร้ายน้ำใจกันอีก นายคิดผิดแล้วนะอีตาบ้า!
"งั้นนายก็สมควรที่จะกลับไปพักผ่อนได้แล้วนะ! เดี๋ยวเกิดมีแผลขึ้นมาจริงๆแล้วจะยุ่ง!"
หลังจากที่ฉันพูดพร้อมส่งสัญญาณว่ากำลังจะมีสงครามก่อตัวขึ้น ฉันก็ดันหลังเขาให้พ้นประตูห้องแล้วก็นึกอะไรบางอย่างได้ก่อนที่จะปิดประตูห้อง
"อ่ะนี่! ปวดแขนก็เอาไปทาซะ แล้วก็ขอบใจที่ช่วยฉันถือกระเป๋าเข้าห้องให้นะ"
ฉันยื่นยาทาแก้ปวดหลอดเล็กให้เขา ก่อนที่จะขอบคุณไปตามมารยาท
"..."
เขารับมันไว้มือ แล้วมองมันอย่างเงียบๆ
"ฉันจะนอนแล้ว ไปได้แล้ว ฝันดี"
ว่าแล้วฉันก็บอกลาเขาก่อนที่จะปิดประตูโดยทันที
หลังจากที่ฉันและพีชทักทายกันเสร็จเรียบร้อย ฉันหันหลังทำท่าจะแบกกระเป๋าเข้าไปในห้อง แต่ยังไม่ทันที่จะได้เปิดประตู เสียงเรียกชื่อของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้น ทำให้ฉันต้องชะงักและหันกลับไปมอง
"อ้าว เชน และไอ้เตล่ะ ไม่ได้มาด้วยกันหรอ"
ผู้เข้ามาใหม่ซึ่งนั่นก็คือเชนเหลือบมองฉันก่อนจะตอบคำถามพีช
"เตพักห้องเดียวกับพีมิกน่ะ อ่ะ นี่คีย์การ์ดห้องของนาย แล้วก็ขอบใจสำหรับกระเป๋า"
เชนหันไปตอบพีชก่อนจะยื่นคีย์การ์ดให้พีมิก
"อืมๆ ของแกนี่หนักชิบเลย นี่ถ้าไม่เห็นว่าปวดแขนล่ะก็ ฉันคงไม่แบกขึ้นมาให้แกแน่ๆ"
คนตรงหน้าเชนรับสิ่งที่เขายื่นให้ก่อนที่จะบ่น
"ขอโทษทีเพื่อน แต่นี่มันคราวของฉัน ดูอย่างรอบที่แล้วที่ขาแกเดี้ยงสิ ฉันยังอุตส่าห์แบกแกเลยนะ"
คราวนี้เชนตอกกลับ ทำเอาพีมิกหน้านิ่งไม่กล้าโต้กลับไปเลยล่ะ
"เออๆ งั้นถือว่าหายกัน ฉันไม่เถียงกับแกแล้ว ไปล่ะ"
"อืม ไว้เจอกัน"
หลังจากที่ยืนโต้ตอบกันอยู่ไม่กี่ประโยค ทั้งคู่ก็แยกย้ายกันโดยที่พีมิกเดินออกไปทางประตูห้อง งั้นก็แสดงว่า คนที่พักห้องนี้ นอกจากฉันกับพีชแล้วก็คือเชน ไม่ใช่พีมิก...
เอาล่ะสิ แล้วฉันจะสู้หน้าคนเย็นชาแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ ไม่เอาแล้วดีกว่า ฉันเข้าห้องดีกว่า ไม่พูดไม่จา ไม่ต้องโต้ตอบอะไรกับเขาน่ะเป็นอันดีที่สุด
คิดแล้วฉันก็หันหลังกลับไปหาลูกบิดประตูสุดที่รัก(ชั่วคราว)ของฉันทันที แต่ยังไม่ทันจะได้สัมผัสมันฉันก็ถูกเสียงของคนข้างหลังเบรกไว้ซะก่อน เอาแล้วไง ความซวยกำลังมาเยือนฉันแล้ว
"มีอะไรหรอ"
ฉันหันกลับไปถามทางต้นเสียง(หันเยอะเหลือเกิน) ก็ได้พบกับคำตอบอันน่าทึ่งจากคนอย่างเขา
"ฉันช่วย"
ว่าจบเขาก็เดินเข้ามาแย่งกระเป๋าไปจากมือฉันทันที แหม เราก็นึกว่าเขาจะอ่อนโยนกับเราซะอีก ที่ไหนได้... เหมือนเดิม!!
"ไม่เป็นไรอ่ะ แขนนายเจ็บอยู่ไม่ใช่รึไง ฉันถือเองได้"
ยืนนึกได้ไม่นานฉันก็ห้ามเขาโดยใช้เหตุผลที่ได้ฟังมาเมื่อกี้ทันที
แต่สงสัยว่าฉันจะห้ามเขาไว้ไม่ได้แล้วล่ะ ก็พ่อคนหัวดื้อเล่นแย่งกระเป๋าฉันแล้วเดินนำเข้าไปในห้องเรียบร้อยแล้วน่ะสิ ส่วนฉันยืนเอ๋อได้ไม่นานก็ต้องรีบตามเข้าไปดูเพราะเขาบ่นว่าปวดแขน
ไม่เข้าใจเขาเลยจริงๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็เจ็บอยู่แล้วแท้ๆ ยังจะมาช่วยคนอื่นอีก
"ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้อง นายก็ไม่ยอมฟังฉัน ไหนขอฉันดูหน่อย"
ฉันดึงแขนของเขาเข้ามาดูก็ไม่เห็นว่ามีอะไรเลย แล้วเขาเจ็บตรงไหนกันล่ะ พอฉันจะเงยหน้าขึ้นไปถามก็พบว่าตัวเองถูกคนตัวสูงตรงหน้ามองด้วยสายตานิ่งๆอยู่ก่อนแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าเขามองฉันทำไมหรอกนะ แต่ที่แน่ๆคือ สายตาแบบนี้มันมีความหมายอะไรบางอย่างที่ฉันไม่รู้แอบแฝงอยู่เป็นแน่
"มองอะไร?"
หลังจากที่สบตาเขาอยู่เกือบนาน ฉันก็เลือกที่จะหันหลบสายตาของเขาทันที ก่อนที่จะพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ
"เปล่า"
เขาตอบพร้อมทั้งเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ชิส์ คิดว่าฉันไม่รู้เหรอไง
"งั้นก็ช่างมันเถอะ ว่าแต่นายเจ็บตรงไหนอ่ะ ฉันไม่เห็นว่ามันจะมีบาดแผลอะไรตรงไหนเลย"
"ฉันหายแล้ว หรือถ้าจะเป็นก็เป็นตอนที่ฉันอุ้มเธอไปห้องพยาบาลตอนนั้นนั่นแหละ แล้วอีกอย่างฉันปวดแขน ไม่ได้เจ็บแขน มันไม่จำเป็นจะต้องมีแผลสักหน่อยนี่"
เอ้อ! ฉันมันผิดเอง ฉันผิดเองที่ดันไปถามคนอย่างนาย คิดว่าฉันไม่รู้หรือไงว่านายแอบด่าฉันน่ะ คนอุตส่าห์เป็นห่วงแท้ๆ ยังคิดพูดทำร้ายน้ำใจกันอีก นายคิดผิดแล้วนะอีตาบ้า!
"งั้นนายก็สมควรที่จะกลับไปพักผ่อนได้แล้วนะ! เดี๋ยวเกิดมีแผลขึ้นมาจริงๆแล้วจะยุ่ง!"
หลังจากที่ฉันพูดพร้อมส่งสัญญาณว่ากำลังจะมีสงครามก่อตัวขึ้น ฉันก็ดันหลังเขาให้พ้นประตูห้องแล้วก็นึกอะไรบางอย่างได้ก่อนที่จะปิดประตูห้อง
"อ่ะนี่! ปวดแขนก็เอาไปทาซะ แล้วก็ขอบใจที่ช่วยฉันถือกระเป๋าเข้าห้องให้นะ"
ฉันยื่นยาทาแก้ปวดหลอดเล็กให้เขา ก่อนที่จะขอบคุณไปตามมารยาท
"..."
เขารับมันไว้มือ แล้วมองมันอย่างเงียบๆ
"ฉันจะนอนแล้ว ไปได้แล้ว ฝันดี"
ว่าแล้วฉันก็บอกลาเขาก่อนที่จะปิดประตูโดยทันที
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น