ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Pitfall Lover

    ลำดับตอนที่ #4 : Ep 04 : การกระทำ

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 58




    --------------------------------------
    Pitfall Lover Ep 04 : การกระทำ
    --------------------------------------

    "ขอต้อนรับเข้าสู่บ้าน DSI"


    "นี่มัน.....อะไรกันครับ"


    มินโฮถามกลับอย่างหัวเสียทันที 

    เมื่อเขาเห็น คัง ซึงยูน นั่งวางมาดอยู่บนโซฟา ในเซฟเฮ้าส์



    "ใจเย็นๆ กันก่อน"


    "จริงแล้วซึงยูนอยู่หน่วยนี้มา ตั้งแต่แรกเริ่ม"


    "ภาพลักษณ์ภายนอกในกรมตำรวจ เขาจึงถูกวางให้เล่นในบทตำรวจเลว"


    ผู้กองหยางอธิบายอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนมินโฮจะไม่ชอบใจนัก

    เพราะมาดของซึงยูนที่ดูเหย่อหยิ่ง จนน่าหมั่นไส้



    "แบบนี้....ผมก็เป็นรุ่นพี่นะสิ"


    "หวังว่าเด็กใหม่.....ของผู้กองจะไม่มาเป็นภาระนะครับ"



    ซึงยูนเหมือนวางระเบิดไว้ลูกโต ก่อนจะเดินแยกออกไป 

    โดยที่ไม่สนใจใคร....


    คนเป็นหัวหน้าหน่วยอย่างผู้กองหยางได้แต่ลอบถอนหายใจ 

    เขาเริ่มกังวลกับสถานการณ์ในทีมตอนนี้พอสมควร



    "เอาล่ะ...พวกนายแยกย้ายไปพักผ่อนกันก่อน"


    "มินโฮ...นายกับน้องนายพักผ่อนเยอะๆ ล่ะ"


    "ยังบาดเจ็บกันอยู่...."


    "โดยเฉพาะนาย....มินโฮ....รู้นะว่าอีกไม่นาน..."


    "เราจะต้องออกทำภารกิจกันแล้ว"


    "ส่วนซึงฮุนกับจินวู จัดข้าวของเสร็จ เดี๋ยวมาคุยกับฉัน"


    "เราต้องวางแผนเรื่องเทคนิคกับข้อมูลกัน"


    หลังจากจบคำสั่งทุกคนก็แยกย้ายกันพักผ่อน 


    ------------------------------------


    "นายใช้ห้องน้ำก่อนได้เลยนะ"


    "เสร็จแล้วค่อยมาเรียกฉันก็ได้"


    "ฉันจะจัดของก่อนนิดหน่อย"


    มินโฮเอ่ยบอกอีกฝ่ายอย่างเรียบๆ 

    เพราะห้องของมินโฮและแทฮยอนอยู่ติดกัน 

    โดยที่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน 



    แทฮยอนไม่ตอบอะไร แต่เขาก็ทำตามอย่างที่มินโฮบอก
     
    และหลังจากที่แทฮยอนจัดการทุกอย่างเรียบร้อย 

    เขาก็ต้องเดินไปบอกมินโฮ ตามที่ตกลงกันไว้



    "คุณ.....คุณ......"


    ทันทีที่แทฮยอนเปิดประตูห้องน้ำอีกฝั่งที่เชื่อมไปยังห้องมินโฮ 

    เขาก็เห็นมินโฮนอนหลับอยู่ และดูเหมือนมินโฮจะไม่ได้ยินที่เขาเรียก 

    แทฮยอนจึงตัดสินใจเดินเข้าไปดูใกล้ๆ



    มินโฮที่นอนอยู่ มีเหงื่อซึมเต็มใบหน้า ริมฝีปากก็ดูซีดจนน่าตกใจ

    มือบางจึงค่อยๆ เอื้อมไปแตะที่หน้าผาก



    "มีไข้นี่นา.....คุณ....คุณ"



    "อืมม....."


    มินโฮตอบสั้นๆ เขาพยายามจะขยับตัว 

    แต่สีหน้าของเขาก็แสดงออกถึงความเจ็บปวดทันที



    "ไหวมั้ย...."




    "....................."


    มินโฮไม่ตอบ แต่ท่าทางของเขาทำให้แทฮยอนรู้ดีว่าอาการของมินโฮแย่จริงๆ



    "กินยาหรือยัง"




    ".....ร้อน......"



    แทฮยอนเอยถามแต่ดูเหมือนมินโฮจะตอบไม่ตรงคำถาม 

    ซึ่งมันทำให้แทฮยอนเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องเช็ดตัวให้คนป่วย



    "เจ็บมั้ย"


    แทฮยอนถามมินโฮอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้ 

    เมื่อเขาทำแผลให้มินโฮหลังจากที่เช็ดตัวเสร็จ



    "เจ็บน้อยกว่าตอนที่นายกดแผลฉัน ตอนที่ติดอยู่ในรถเยอะเลย"

    มินโฮตอบพร้อมกับยกยิ้มนิดๆ



    "ก็....ผมเรียกคุณตั้งนาน...คุณก็ไม่รู้สึกตัวนี่"





    "ขอบคุณนะ"




    "ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก คุณเจ็บเยอะแบบนี้ก็เพราะช่วยผม"



    "......ถ้านายเป็นฉัน....นายก็คงทำแบบเดียวกัน"





    ".......ไม่.....ผมอาจจะไม่ใช่คนดีแบบคุณก็ได้"



    แทฮยอนเลือกที่จะตอบออกไปแบบนั้น มินโฮได้แต่นั่งนิ่งกับคำตอบ

    ลึกๆในใจของแทฮยอนตอนนี้ เขากลัวเหลือเกิน

    กลัวว่า....ถ้ามินโฮได้รู้ความจริง....

    มินโฮอาจจะเสียใจ.....ที่ช่วยเขาไว้




    "คุณนอนพักเถอะ..."



    "มีอะไรก็เรียกผมนะ..."



    "ผมจะนอนเฝ้าคุณตรงนี้"



    พูดจบแทฮยอนก็จัดแจงเตรียมนอนที่โซฟาตัวยาวในห้องของมินโฮ



    "แล้วแผลนายเป็นไงบ้าง"



    "ดีกว่าแผลคุณเยอะ"


    "เลิกห่วงคนอื่นได้แล้ว"





    "นายกลับไปนอนที่ห้องนายเถอะ"


    "มีอะไรเดี๋ยวฉันไปเรียกเอง"






    "ไม่.....ผมรู้ว่าคุณไม่ไปเรียกหรอก"


    "นอนเถอะ....ผมง่วงแล้ว"


    พูดจบแทฮยอนก็นอนหันหลังให้มินโฮทันที 

    มินโฮได้แต่ยกยิ้มเล็กๆ กับท่าทางตัดบทดื้อๆ ของแทฮยอน 



    มินโฮนอนมองด้านหลังของคนที่เพิ่งได้รู้จักกัน อยู่นาน....

    ทำไมเขาถึงรู้สึกดีอยู่ในใจอย่างน่าประหลาด 

    เขาก็ตอบตัวเองไม่ได้เลย จนในที่สุดเขาก็ค่อยๆ หลับไป



    -----------------------------------


    "ตอนนี้สายของฉันยืนยันเรื่องสถานที่ ที่พวกไอ้ซึงฮยอนจะนัดกันส่งยาล๊อตใหญ่ได้แล้ว"


    "ฉันอยากให้นาย...จินวูหาทีมเข้าไปติดตั้งกล้องวงจรปิด......."


    "แล้วก็เครื่องดักฟัง"


    "จำเอาไว้....หน่วยเราทำงานกับแบบลับๆ ก็จริง"


    "แต่ถ้าเก็บหลักฐานได้ ก็จะเป็นเรื่องดี ที่เราจะเปิดโปงพวกมันได้"



    "แล้วถ้าเราเก็บหลักฐานไม่ได้ล่ะครับ"


    ซึงฮุนถามอย่างสงสัย.........

    และเขาก็อยากได้คำตอบที่ชัดเจนว่าเขามีสิทธิ์ที่จะจับตายพวกชั่วได้หรือไม่


    "เราจะฆ่ามันทิ้ง......"


    กลายเป็นซึงยุนที่ให้คำตอบ ด้วยท่าทีเรียบเฉย




    "แต่...สิ่งนั้นจะเป็นทางเลือกสุดท้ายของเราจริงๆ"


    "เราพยายามรวบรวมหลักฐาน เพื่อจะเปิดโปงมัน"


    "สายเราแฝงตัวกับพวกมันมานาน"


    "ถ้าเราฆ่ามันทิ้ง โดยแฉเรื่องชั่วของพวกมันไม่ได้เลย"


    "3-4 ปี ที่เราอุตส่าห์ทำกันมาก็เปล่าประโยชน์"


    "ผมอยากให้ทุกคน....เข้าใจเรื่องนี้ไว้ด้วย"


    ผู้กองหยางกำชับเจตนารมณ์ของหน่วยงานอย่างแน่วแน่ 

    ก่อนจะวางแผนการในการจับกุมอย่างรอบคอบต่อไป


    -------------------------------


    "คุณ.......คุณ........."



    "คุณ........เป็นอะไร"


    แทฮยอนตื่นขึ้นมา เพราะได้ยินเสียงมินโฮ หอบหายใจแรงไม่หยุด 

    มือหนากำผ้าห่มไว้แน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

    แทฮยอนตัดสินใจ เขย่าตัวมินโฮ สักพักเขาถึงรู้สึกตัว และสะดุ้งตื่นขึ้น



    "คุณฝันร้ายหรอ"




    "................."



    มินโฮได้แต่จ้องแทฮยอนไม่วางตา เขาไม่พูดอะไร 

    แต่มือหนากลับคว้าข้อมือของอีกคนมากำไว้แน่น




    "เป็นอะไรหรือเปล่า....."



    แทฮยอนยังคงกังวลกับท่าทีของมินโฮ เขาย้ำถามซ้ำๆ 

    แต่มินโฮกลับส่ายหน้า แล้วก็ข่มตาหลับไป



    "ฝัน......ก็แค่ความฝัน"



    "เด็กอย่างนาย....."



    "เด็กอย่าง...นัม....แทฮยอน"



    ".......จะมายิงฉันได้ยังไงกัน"



    มินโฮได้แต่พร่ำบอกตัวเองในใจ โดยที่ไม่พูดอะไรออกมา



    ------------------------------------

    ก๊อก!!!!! ก๊อก!!!! ก๊อก!!!!!!!



    "สารวัตร........"



    "อุ้ยตายยย........"


    จินวูเข้ามาปลุกมินโฮในช่วงสายของเช้าวันต่อมา 

    ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามาก็ต้องตกใจ 

    เมื่อภาพตรงหน้า ทำให้เขาเขินอายอย่างบอกไม่ถูก




    มินโฮค่อยๆ ตื่นขึ้น เพราะเสียงโวยวายของคนที่เข้ามาปลุก

    จากที่งัวเงีย มินโฮก็ตาสว่างทันที 

    เมื่อข้างกายเขามีร่างบางของอีกคนนอนอยู่ข้างๆ

    แถมมือของเขายังกุมมืออีกฝ่ายไว้แน่น

    เมื่อตั้งสติได้มินโฮก็รีบปล่อยมือบางนั้นออกทันที



    "มะ....ไม่ใช่อย่างที่คิด...."


    ทันทีที่มินโฮปฎิเสธ แทฮยอนก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นมา




    "ไม่ใช่อะไรล่ะครับ.....สารวัตร"


    เมื่อแทฮยอนตื่นมา เขาก็ตกใจไม่น้อย

    เพราะตอนนี้สถานการณ์ระหว่างเขากับมินโฮมันชวนให้น่าคิดไปไกลจริงๆ




    "จะมาเรียกให้ลงไปกินข้าว....."



    "แต่ผมว่า....สารวัตรคง....ยัง...ไม่หิว"



    จินวูพูดแบบกลั้นขำแบบเขินๆ



    "ไม่ต้องห่วงครับ....ถือว่า...ผมไม่รู้ไม่เห็นก็แล้วกัน"


    พูดจบจินวูก็ยกมือขึ้นมาปิดตา 

    ก่อนจะรีบหายตัวออกไปจากห้องโดยที่ไม่รอฟังคำอธิบาย




    "ไม่น่าล่ะ.....ถึงบอกว่าไม่ใช่ญาติกัน"




    "คิคิ.....อย่างงี้นี่เอง....."

    จินวูเดินพึมพำอย่างสนุกสนานออกมา จนซึงฮุนสังเกตเห็น




    "เป็นอะไรจินวู....ดูครึกครื้นเชียว"



    "เปล่า......"

    จินวูตอบเสียงสูง พร้อมกับยิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี



    "แล้วสารวัตรล่ะ.....เรียกลงมากินข้าวพร้อมกันสิ"


    "น้องชายเขาด้วย....."




    "โอ้ยยย.....ให้เขานอนพักไปเถอะ"



    "อีกเดี๋ยว.....คงลงมาเองล่ะ...."




    "ไม่ต้องรอหรอก"



    "สารวัตรบอกแบบนั้นหรอ"



    "................"


    จินวูไม่ตอบ แต่กลับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินไป

    ทิ้งให้ซึงฮุนงุนงงต่อไปกับท่าทางแปลกๆ ของเพื่อนสุดน่ารักของเขา




    "มะ....เมื่อคืน....คุณฝันร้ายหรอ"



    "คุณจับแขนผมไว้แน่นเลย"



    "คุณหลับ....แล้วก็ไม่ยอมปล่อย...."



    "ผมก็ง่วง.....ก็เลย....หลับ....หลับบนเตียงคุณไปเลย"


    แทฮยอนพยายามอธิบายอย่างเคอะเขิน 

    หน้าเขาเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนมินโฮเองก็จะเป็นไม่ต่างกัน



    "อ่อ.....ขอโทษ....."





    "เดี๋ยวผมลงไปอธิบายให้พี่จินวูฟังเอง"





    "ช่างเถอะ.....พูดไป....หมอนั่นก็ไม่ฟังหรอก"


    "มโนไปไหนต่อไหนแล้ว....."





    "แต่ว่า......."


    แทฮยอนไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี เพราะมินโฮยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่น 

    ก่อนจะเอามือมายีหัวเขาเบาๆ อย่างเอ็นดู 




    "ทำไม....ใจถึงเต้นแรงนัก"



    "ทำไม....อยู่ดีๆ...ถึงหายใจติดๆ ขัดๆ"


    แทฮยอนได้แต่ตั้งคำถามอยู่ในใจ 





    "หิวข้าวหรือยัง....ลงไปกินข้าวเถอะ"



    "ลงไปช้า....เดี๋ยวจินวูยิ่งคิดไปใหญ่"



    แทฮยอนได้ยินแบบนั้นก็ลุกพรวด รีบกลับไปยังห้องของตัวเองทันที 

    ทำเอามินโฮแอบขำกับท่าทางรีบลน จนน่าตลกของแทฮยอน



    ไม่นานแทฮยอนก็ลงไปข้างล่าง 

    จินวูจึงเรียกให้แทฮยอนมาทานข้าวด้วยกัน



    "อ้าว....สารวัตรซงล่ะ"



    "นาย....เห็นสารวัตรตื่นหรือยัง"


    ซึงฮุนเอ่ยถาม แทฮยอนเหลือบมองจินวูที่นั่งแอบยิ้มกรุ่มกริ่ม 

    มันทำให้แทฮยอนไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี




    "เออ.....คือ...."




    "หรือว่าสารวัตรเจ็บแผล ลงมาไม่ไหว"


    ซึงฮุนถามเอง ตอบเองหลังจากเห็นแทฮยอนอ้ำอึ้งอยู่



    "ลงมาไม่ไหว....งั้นฝากแทฮยอนช่วยดูแลด้วยนะ"



    "เดี๋ยวพวกเราจะออกไปทำงานข้างนอก"



    เป็นจินวูที่พูดพร้อมกับอมยิ้มนิดๆ ทำเอาแทฮยอนรู้สึกอายยิ่งกว่าเดิม 



    "ฝากด้วยนะ แทฮยอน"


    หลังจากซึงฮุนฝากฝังเสร็จ

    แทฮยอนพยักหน้าเล็กๆ ก่อนจะก้มหน้าเขี่ยข้าวในจานไปมาแก้เขินอยู่อย่างนั้น


    -----------------------------------------


    "ทำไมไม่ลงไปกินข้าวล่ะ...."


    แทฮยอนตัดสินใจอยู่นาน กว่าจะรวบรวมความกล้าเข้าไปหามินโฮในห้อง



    "ยังไม่ค่อยหิว....."



    มินโฮตอบโดยที่สายตายังคงจับจ้องไปที่หน้าจอทีวี 

    ซึ่งเขากำลังเล่นเกมส์

    แทฮยอนจึงหันไปมองในสิ่งที่อีกคนกำลังจดจ่ออยู่ 

    ซึ่งแทฮยอนก็ได้รู้ว่าเกมส์ที่มินโฮเล่นอยู่นั้น เป็นเกมส์ที่ตำรวจกำลังไล่ล่าคนร้าย




    ปัง!!!!! ปัง!!!! ปัง!!!!!





    "คุณยิงตัวประกัน"




    แทฮยอนพูดออกมาอย่างตกใจ ที่มินโฮยิงตัวประกันในเกมส์ ก่อนที่จะยิงคนร้าย




    "ถ้าไม่ยิง....คนร้ายก็ยิงอยู่ดี"




    แทฮยอนตกใจกับคำตอบที่ได้รับนิดๆ




    "นายอยากลองเล่นมั้ย"




    ".....ไม่....ผมไม่ชอบยิงปืน"



    แทฮยอนตอบอย่างฝืนใจ คิ้วของเขาขมวดเป็นปมทันที 

    เขาไม่แน่ใจว่าที่เขาพูดออกมานั้น ใช่เรื่องโกหกหรือไม่




    "คุณกินข้าวสิ....จะได้กินยา"



    "ก็รอนายเอามาให้"




    "ทำไมต้องรอผมเอามาให้..."




    "นั่งเล่นเกมส์ได้...."



    "ก็ลงไปกินข้าวได้สิ"




    "ไม่ได้....ลุกไปไม่ไหว...."



    มินโฮทิ้งจอยเกมส์ทันที 

    พร้อมกับหันมาสบตากับแทฮยอนอย่างขอความเห็นใจ



    "ปวดแผล.....ปวดหัวด้วย"



    แทฮยอนถอนหายใจเสียงดัง กับท่าทางของมินโฮ




    "ทำไม....ยาสีฟัน...นายยังบีบใส่แปรงไว้ให้ได้เลย"




    "ข้าว....ก็ยกมาป้อนให้หน่อยสิ"


    แทฮยอนหลบสายตาออกจากมินโฮทันที อยู่ดีๆ หน้าเขาก็เห่อร้อนขึ้นมา 




    "นาย....ทำให้ฉันเคยตัวเองนะ"




    "รับผิดชอบด้วย......."




    "ผม....ก็แค่....ผมทำเพราะคุณช่วยผมไว้"




    "แค่นั้นเองหรอ......."


    มินโฮยังคงมองอีกฝ่ายที่เอาแต่หลบหน้า



    "ก็ดี....งั้นนายก็คงต้องดูแลจนกว่าฉันจะหายดี"



    พูดจบมินโฮก็ทิ้งตัวลงนอน 

    ทำไมจู่ๆ เขาถึงรู้สึกหมดแรง เมื่อได้ยินแทฮยอนพูดแบบนั้น 

    เขาดูสึกผิดหวังในคำตอบ 

    แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าตัวเขาเองคาดหวังอะไรจากคนตรงหน้า



    --------------------------------------


    แชะ!!!!!! แชะ!!!!! แชะ!!!!!!


    ซึงฮุนและจินวู เข้ามาสำรวจโกดังร้างแห่งหนึ่ง 

    พวกเขาพยายามเก็บข้อมูล รวมทั้งถ่ายภาพ 

    สถานที่ที่พวกซึงฮยอนจะนัดกับลูกค้ารายใหญ่ในการซื้อขายยาเสพย์ติด



    "เรียบร้อยมั้ยจินวู"



    "อืมมม....ฉันว่า....งานนี้มันยากเหมือนกันนะ"



    "ที่นี่ไม่ใช่เล็กๆ เลย"



    "ก็จริงอยู่....แต่เห็นผู้กองบอกว่า...."

    " สายอาจจะระบุตำแหน่งให้เราได้ชัดเจนว่าพวกมันจะแลกของกันตรงไหน"




    "ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีนะสิ....."


    จินวูแสดงสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด จนซึงฮุนสังเกตได้ 

    จึงเดินเข้ามาตบไหล่เพื่อนตัวเล็กอย่างเห็นอกเห็นใจ 

    กับภาระหน้าที่ที่หนักอึ้ง เพราะถ้างานในส่วนของจินวูออกมาไม่เพอร์เฟค

     นอกจากพวกเขาจะขาดหลักฐานชิ้นสำคัญแล้ว 

    คนในทีมก็จะทำงานกันอย่างยากลำบาก รวมทั้งอันตรายก็อาจจะมีมากขึ้นด้วย 



    "อย่าคิดมากน่า.....นายก็ทำเต็มที่แล้วนี่"



    "รีบๆ จบงานกันเถอะ...."



    "ถ้ามีพวกลูกน้องไอ้ซึงฮยอนเข้ามา เดี๋ยวจะแย่เอา"



    จินวูพยักหน้า ก่อนจะเร่งสำรวจพื้นที่อย่างจริงจัง 

    เพื่อกลับไปทำข้อมูลส่งต่อให้ผู้กองหยางและซึงยูนวางแผนการจับกุมในครั้งนี้


    ------------------------------------


    กึก!!!!!!!!

    แทฮยอนวางถาดที่มีทั้งข้าวและยาให้มินโฮบนโต๊ะ 

    โดยที่ไม่พูดอะไร ก่อนจะตั้งท่าเดินออกไปทันที



    แต่ก่อนจะเดินออกไป......

    เขาก็อดไม่ได้ที่จะแอบมองมินโฮที่นอนเฉยๆ อยู่บนเตียง

    แทฮยอนเห็นอยู่ว่ามินโฮไม่ได้หลับ 

    แต่เขาก็ไม่ยอมขยับลุกขึ้นมากินข้าว กินยา



    สุดท้ายเป็นแทฮยอนเองที่ทนไม่ได้ เขาต้องจัดแจงพยุงให้มินโฮลุกขึ้น

     และป้อนข้าวโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ




    "อิ่มแล้ว....."


    แทฮยอนขมวดคิ้วเป็นปมทันที เพราะมินโฮกินข้าวไปไม่กี่คำ ก็ไม่ยอมกินต่อ



    "รู้ตัวมั้ย....ว่าคุณเหมือนเด็กมาก"




    "..................."




    "ขี้อ้อน........"


    แทฮยอนพูดเสียงเรียบๆ เบาๆ แต่มินโฮก็ได้ยินชัดเจน



    เขาดึงหน้าดุใส่แทฮยอนทันที



    "ออกไปได้แล้ว....."




    "ขี้งอน......."


    มินโฮมองคนตรงหน้านิ่งๆ อยู่ชั่วครู่




    "....ทำไมถึงคิดว่าฉันกำลังอ้อนนาย"



    "....ทำไมถึงคิดว่าฉันต้องงอนนายด้วย"




    "...................."


    แทฮยอนรู้สึกอึดอัดใจอย่างประหลาด 

    เขาไม่กล้าคิดอะไรต่อไปจากนี้เลย ไม่กล้าตอบอะไรออกมา 

    ใจเขาเต้นแรงไปหมด ทำไมมินโฮถึงถามอะไรแบบนี้

    เขาต้องการคำตอบแบบไหนกันแน่




    ครืน!!!!



    เสียงโทรศัพท์มินโฮสั่นนิดๆ มีอีเมล์เข้ามาจากผู้กองหยาง 

    มินโฮรีบเปิดอ่าน ก่อนจะคว้ายามากินแล้วลุกไปนั่งทำงานที่โต๊ะ 

    เมื่อแทฮยอนเอาแต่ยืนนิ่ง มินโฮจึงเป็นฝ่ายพูด และเปลี่ยนประเด็นเรื่องอย่างทันที


    "นายดูแลฉัน เพราะฉันช่วยนายไว้"



    "นายทำได้ดีมาก....ฉันดีขึ้นเยอะแล้ว"



    "นายออกไปพักผ่อนเถอะ"



    "ขอบใจ"



    มินโฮพูดเรียบๆ โดยที่ไม่มองแทฮยอนสักนิด 

    เขาเปลี่ยนมาให้ความสนใจกับงานตรงหน้าแทน 

    แทฮยอนจึงเดินออกไปเงียบๆ


    --------------------------------


    "โอ้ยยย!!!!!!"

    หลังจากจินวูทำงานเสร็จ เขากับซึงฮุนก็ออกมาหาอะไรใส่ท้อง 

    แต่ระหว่างที่จินวูแยกตัวเดินออกมาซื้อไอศครีม 

    เขาก็ชนกับชายหนุ่มคนนึง โดยไม่ทันตั้งตัว



    "...ไอติม...สตอเบอรี่ของฉัน"


    จินวูโวยวายทันที ที่ไอศครีมในมือของเขา 

    หกเลอะอยู่บนเสื้อของอีกฝ่ายแทบจะหมด



    "นี่....นาย....เดินไม่ดูคนเลยหรือไง"


    "แล้วขอโทษอ่ะ....พูดเป็นหรือเปล่า"



    จินวูจ้องคนข้างหน้าอย่างเอาเรื่อง 

    ก่อนที่อีกฝ่ายจะจ้องเขม้งกลับมา โดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ



    "....ขะ....ขอโทษ....."



    จากสายตาที่ดุดัน สุดท้ายคนที่เอ่ยปากขอโทษกลับกลายเป็นจินวูแทน

    สายตาดุๆ มองหน้าจินวู สลับกับเสื้อเขาที่เปื้อน 

    แล้วก็เปลี่ยนไปมองโทรศัพท์ในมือของจินวู




    แน่นอน....จินวู รู้ตัวได้ทันทีว่าเขาเป็นคนผิด 

    เพราะเขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินไอศครีม 

    แล้วก็เอาแต่เล่นโทรศัพท์

    จินวูยู่หน้าอย่างสำนึกผิด 

    ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนบางออกมาเช็ดเสื้อให้คนตรงหน้า



    แต่อีกฝ่ายกับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้แน่น



    "ไม่ต้อง....."


    น้ำเสียงแข็งๆ ไม่ต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกเอ่ยขึ้น 

    แต่จินวูก็พยายามขืดแรงจะเช็ดให้

    ยิ่งจินวูฝืนมากเท่าไร อีกฝ่ายก็ออกแรงห้ามมากเท่านั้น




    "จะ....เจ็บนะ...."





    "ก็บอกว่าไม่ต้อง....."



    "ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรอไง"




    "เฮ้ย....คุณ....ไม่เห็นต้องพูดจาอะไรแบบนี้เลย"



    ไม่ทันที่จินวูจะได้พูดอะไรต่อ สายตาของคนตรงหน้าก็เปลี่ยนไป 

    เขาแทบจะเหวี่ยงจินวูออกให้พ้นทาง 

    ก่อนจะแยกตัวรีบเดินไปขึ้นรถหรูสีดำ ที่ขับหายออกไปอย่างรวดเร็ว




    "มีอะไรหรอ....จินวู"


    ซึงฮุนมาไม่ทันเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่เขาก็เห็นจินวูยืนหัวเสียอยู่



    "เดินชนกับเด็กบ้านะสิ"


    "เด็กอะไรทำตัวเหมือนนักเลงไม่มีผิด"



    --------------------------------------

    "นายไปทำอะไรมา"


    เลขาแดซองคนสนิทของซึงฮยอนถามอย่างสงสัย 

    เมื่อจุนฮเวที่ก้าวเขามาในรถพร้อมกับรอยเลอะเทอะบนเสื้อ


    "แค่เด็กบ้าห่วงกินเดินมาชน...."


    พูดจบจุนฮเวก็เอื้อมมือไปหยิบ

    ผ้าเช็ดหน้าออกจากสูทหรูของเลขาแดซองมาเช็ดเสื้อของเขา 

    ก่อนจะโยนคืนให้ โดยที่ไม่สนใจว่าคนเป็นเจ้าของผ้าเช็ดหน้าจะรู้สึกยังไง



    เลขาแดซองได้แต่งุนงงกับการกระทำของเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ 



    "มีอะไรก็ว่ามา...."



    "เร็วๆ สิ...."


    ด้วยท่าทางบวกกับน้ำเสียง 

    เลขาแดซองจึงเลือกที่จะมองข้ามเรื่องผ้าเช็ดหน้าของเขาไปทันที



    "อาทิตย์หน้า...คอนเฟิร์มงานใหญ่"




    "นายมีหน้าที่คุมกัน....นี่คือ..."



    "แค่นี้ใช่มั้ย....."


    จุนฮเวดึงซองน้ำตาลในมือของแดซอง 

    ดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดยืดยาว....


    จุนฮเวเปิดซองน้ำตาลดู แล้วก็ยกยิ้มอย่างพอใจ

     เพราะปืนไรเฟิลที่เขาสั่งไป ซึงฮยอนก็จัดแจ้งหาให้ได้ 



    "เอาใบนั่นไปรับของตามที่อยู่ในนั้น"



    "ส่วนรายละเอียด นายจะบอกอีกที"



    จุนฮเวยักคิ้วใส่คนพูดมากอย่างกวนประสาท 

    ก่อนจะเอามือตีเบาะคนขับเบาๆ อย่างยียวนให้คนขับจอดรถ 

    และขอลงจากรถไป แต่ก็ทิ้งความหงุดหงิดไว้กับเลขาแดซองไม่หาย


    ---------------------------------


    มินโฮนั่งดูข้อมูลจากที่ผู้กองหยางและจินวูส่งมา 

    เขาดูแผนที่ของโกดังอย่างละเอียด 

    เพื่อเตรียมข้อมูลเขาไปประชุมวางแผนในช่วงค่ำของวันนี้

    แต่ด้วยผลของฤทธิ์ยา ทำให้มินโฮค่อยๆ ฝุบหลับไปที่โต๊ะทำงาน



    แทฮยอนเห็นว่าใกล้ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว 

    จึงไปเคาะประตูเรียกมินโฮ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ



    แทฮยอนอดเป็นห่วงไม่ได้จึงเดินเข้าไปดู เขาเห็นมินโฮหลับสนิท

     และมีอีกสิ่งหนึ่งที่แทฮยอนอดอยากรู้ไม่ได้เลย 

    นั้นก็คือ ข้อมูลแผนการการจับกุมชเว ซึงฮยอน 



    แทฮยอนตัดสินใจถ่ายรูปข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอเก็บไว้ทั้งหมด 

    โชคดีที่มินโฮตื่นขึ้นมาหลังจากที่เขาถ่ายรูปพวกนั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว



    "ยังมีไข้อยู่นิดๆ นะ...."


    แทฮยอนทำทีเป็นเอามือไปอังที่หน้าผากของมินโฮ 

    เพื่อปกปิดเรื่องที่เขาทำลงไปเมื่อครู่



    "เย็นแล้ว....ผมมาตามคุณไปทานข้าว"



    "หรือคุณอยากทานบนห้อง"



    "ไม่.....เดี๋ยวฉันลงไปเอง"



    "อยู่แต่ในห้องเริ่มเบื่อ...."



    แทฮยอนพยักหน้าเล็กๆ ก่อนจะเดินออกไป 

    โดยที่มินโฮ ไม่รู้สึกสงสัยหรือติดใจอะไรสักนิด



    "หอมจัง...."



    "ข้าวต้มนี่น่ะหรอ"




    "......................."


    มินโฮไม่พูดอะไร เขาแอบยิ้มอย่างสุขใจ 

    เพราะจริงๆ แล้วเขาคิดว่า ตัวแทฮยอนต่างหากที่หอม



    มินโฮยืนดูแทฮยอนทำอาหารอยู่เงียบๆ 

    ก่อนที่แทฮยอนจะหันมา ทั้งคู่สบตากัน รอยยิ้มเล็กๆ ก็เกิดขึ้น



    ใจมินโฮสั่น จนเขาเผลอตัว ยกมือขึ้นมาทาบที่หน้าอก



    "คุณ....เจ็บแผลหรอ"


    แทฮยอนรีบวางมือจากการทำอาหาร แล้วเดินเข้าไปดูมินโฮใกล้ๆ



    "ปะ....เปล่า......"


    ยิ่งแทฮยอนเข้ามาใกล้มากเท่าไร มินโฮก็ยิ่งหวั่นไหวมากเท่านั้น




    "ไม่เป็นอะไรแน่นะ....."




    แทฮยอนพยายามเอามือไปแตะที่หน้าผากและซอกคอของคนป่วย




    "อย่าเป็นห่วงฉันให้มากนะสิ...."



    มินโฮกับรั้งมือนั้นไว้ เสี้ยววินาที สายตาทั้งคู่ก็เชื่อมประสานเข้าหากัน


    รอบข้างทุกอย่างเงียบสงัดลงทันที


    มีแต่เสียงใจที่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ


    คนสองคนกำลังถูกดึงดูดเข้าหากันช้าๆ อย่างไม่รู้ตัว


    มือหนาค่อยๆ ประคองใบหน้าขาวอย่างอ่อนโยน


    ใบหน้าเอียงปรับให้ได้องศา


    แทฮยอนเองก็ค่อยๆ หลับตา รอรับสัมผัสจากริมฝีปากของอีกฝ่าย





    "ทาาาาด้าาาาาา"




    "กลับบ้านแล้วครับ"



    "หายไปไหนกันหมด"



    เสียงที่โผล่พรวดเข้ามาก่อนตัวของจินวูและซึงฮุน 

    ทำเอามินโฮและแทฮยอนรีบผละออกจากการกันทันที



    แทฮยอนกลับไปยืนทำอาหารตามเดิม 

    ส่วนมินโฮก็ทำเป็นนั่งอ่านนิตยสารแก้เขินอยู่ที่โต๊ะ



    ตลอดระยะเวลาที่มินโฮพักฟื้น
     
    แทฮยอนก็จะดูแลอยู่ไม่ห่าง ความผูกพัน ความห่วงใยมีมากขึ้น 

    จนทุกคนต่างสังเกตเห็นได้ชัดเจน



    ยกเว้นแต่เจ้าตัวทั้ง 2 คน ที่ไม่ยอมเปิดเผยออกมา

    มินโฮไม่คิดจะสารภาพ หรือบอกถึงความรู้สึกของเขาในตอนนี้



    เขาคิดว่ามันดูเร็วไป และเขาเองก็กลัวว่า วันนึงเขาอาจจะหายไปจากแทฮยอน 

    เพราะด้วยหน้าที่การงานของเขา 

    เขาไม่อยากเอาความรู้สึกของเขาไปผูกมัดแทฮยอน



    แม้หลายครั้งเขาชอบลองใจถามแทฮยอนออกไป 

    ว่ารู้สึกยังไงกับเขา และในทุกครั้ง แทฮยอนจะเงียบ ไม่ตอบอะไร 

    มีเพียงการกระทำเท่านั้นที่แสดงให้รู้ว่า มินโฮ คือ คนที่เขาห่วงใย



    "ถ้าคุณรู้ความจริง.....ความรู้สึกคุณอาจจะเปลี่ยนไปอีกแบบ"



    แทฮยอนได้แต่นึกเตือนตัวเองอยู่ในใจตลอดเวลา 

    และสุดท้ายคำตอบระหว่างเขากับมินโฮ ก็ชัดเจนขึ้น ด้วยคำที่ว่า



    เป็นไปไม่ได้..........



    -------------------------------------------------


    ตลอดระยะเวลา 5 วัน

     ทุกคนต่างทำงานกันอย่างหนัก จนในที่สุดก็ใกล้ถึงเวลาที่จะต้องออกปฎิบัติภารกิจ


    "กล้องและอุปกรณ์ทุกอย่างเรียบร้อยดีนะ จินวู"


    "ครับหัวหน้า"


    จินวูตอบผู้กองหยาง พร้อมกับทำงานอย่างขมักเขม้น


    "ใกล้ได้เวลาแล้ว"



    "5 ทุ่มตรง คือเวลานัดหมายของพวกมัน"



    "พวกเราจะแยกเป็น 3 ทีม"


    "ซึงยูน และ มินโฮ แยกกันคนละทีม"


    "เตรียมเข้าบุกจับกุม รอคำสั่งจากฉันเท่านั้น"


    "เราจะล้อมมันจากทางด้านข้าง ซึ่งเป็นทางเข้า-ออก"


    "ส่วนซึงฮุนและจินวู ค่อยซัพพอร์ทด้านเทคนิค อยู่กับฉันในรถส่งสัญญาณ"


    "ทุกอย่างเราจะทำอย่างรัดกุม"


    "สายของเราแฝงตัวอยู่ในนั้นนึงคน"


    "เขาเป็นสไนเปอร์ คุมกันให้ซึงฮยอน"


    "เขา...คือ...กู....จุนฮเว"





    "ย่าส์....ไอ้เด็กนักเลงคนนั้น"





    "นายว่าอะไรนะ....คิม จินวู"





    "เออ...เปล่า...ครับ...ขอโทษครับ"


    จินวูตกใจนิดหน่อย เมื่อผู้กองหยางเปิดเผยข้อมูลของสายลับให้คนในทีมได้รู้


    "สายของเราแฝงตัวอยู่กับพวกมันมา 3 ปี"



    "เราจะจบภารกิจนี้โดยที่พลาดไม่ได้เลย"



    "ถ้าซึงฮยอนรอด เท่ากับว่าเราอาจจะต้องเสียจุนฮเวไป"



    "ระยะเวลาที่พวกเราทุ่มเทมาทั้งหมดจะสูญเปล่า"


    "และที่ผมต้องการจริงๆ คือ การรวบรวมพยานหลักฐาน" 


    "เพื่อเปิดโปงเรื่องชั่วที่มันทำ"


    "ถ้าเป็นไปได้ ผมเชื่อพวกเราที่เป็นตำรวจ"


    "อยากเห็นมันต้องทนอยู่รับโทษในคุกไปจนแก่ตาย....."


    "ผมไม่อยากให้มันแค่...ตาย....เพื่อชดใช้กรรม"


    "เข้าใจที่ผมพูดนะ"






    "ครับหัวหน้า....."





    "แต่ผมว่าคนอย่างมัน....จำเป็นต้องตายมากกว่า....."


    ซึงยูนพูดอย่างแค้นเคือง 

    เขาตามคดีของซึงฮยองมานาน วันนี้เขาอยากให้เป็นวันสุดท้ายของมัน




    "เหลือเวลาอีก 10 นาที ไปเตรียมตัวสแตนด์บายกันได้แล้ว"



    "ขอให้ทุกคนระวังตัวด้วย"






    "ครับ......หัวหน้า"


    หลังจากทุกคนเดินออกจากห้องประชุม 

    แทฮยอนก็ลอบมองมินโฮอยู่เงียบๆ แต่มินโฮก็สังเกตเห็น




    "ปิดคดีนี้ได้....นายก็จะได้กลับบ้านแล้วนะ"





    "คุณระวังตัวด้วยนะ........"





    ".................."



    มินโฮยกยิ้มให้คนตรงหน้านิดๆ เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา 

    แต่ในใจเขาชัดเจนที่สุดว่า...... 

    ถ้าเขาเลือกได้ เขาก็อยากเลือกที่จะกลับมาเจอกับแทฮยอน 

    กลับมาอยู่กับแทฮยอนอีก



    -------------------------------------

    11.00 p.m

    โกดังร้าง

    รถลีมูซีนคันยาว วิ่งเข้ามายังจุดนัดพบอย่างตรงเวลา


    "พวกมันมากันแล้วครับ"


    "ตรงตามที่สายของผู้กองแจ้งไว้ทุกอย่าง"


    "พวกมันเข้ามาจากทางด้านข้าง 2 ฝั่งของโรงงาน"

    จินวูรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง




    "รถของชเว ซึงฮยอนมาทางฝั่งซ้าย มีรถลูกน้องตามมาด้วย 4 คัน"

    "ลูกน้องของซึงฮยอนมีประมาณ 12 คน"




    "รถของลูกค้ารายใหญ่ของมัน กาเซีย พ่อค้ายาเสพย์ติดรายใหญ่จากรัสเซีย"


    "มีลูกน้องมาด้วย 9 คน"

    "รถติดตาม 3 คัน"


    ซึงฮุนรายงานสถานการณ์ให้ทีมของมินโฮ และซึงยูนทราบทันที




    "พวกมันกำลังย้ายไปไหน"





    "แย่แล้วครับท่าน พวกมันตัดสัญณานดาวเทียม"


    "ตอนนี้สัญณานโทรศัพท์และเครื่องดักฟัง ทุกอย่างล่มหมด"


    จินวูรายงานสถานการณ์อย่างหน้าตาตื่น

    นิ้วเรียวพยายามกดป้อนรหัสเพื่อดึงกู้สัญญานให้กลับมา แต่ก็ไม่ได้ผล



    "พวกมันเปลี่ยนจุดแลกของ"



    "ย้ำ....พวกมันเปลี่ยนจุดแลกของ"


    ซึงฮุนรายการอย่างกำชับให้ทีมที่ลงพื้นที่ได้ทราบ






    "ย้ายไปไหน กล้องเก็บภาพพวกมันได้หรือเปล่า"



    ผู้กองหยางเริ่มถามด้วยอารมณ์ที่ตึงเครียด 

    เพราะทุกอย่างดูเหมือนจะไม่ง่ายอย่างที่คิด 

    เมื่อซึงฮยอนซ้อนแผนมาเป็นอย่างดี





    ".....มุมอับ.....เราไม่เห็นพวกมันแล้วครับ"





    โครมม!!!!!!!




    ผู้กองหยางหันไปถีบเก้าอี้ จนล้มคว่ำ



    "ให้มันไปอย่างงี้สิ"



    "เราติดกล้องเป็น 30-40 ตัว"



    "แต่ดันเก็บภาพพวกมันไม่ได้"



    "ตอนนี้เราไม่ต่างอะไร จากคนหูหนวก ตาบอด"






    ปัง!!!!!! ปัง!!!!!




    "ตำรวจถูกยิง ย้ำ....มีเจ้าหน้าที่ถูกยิง"


    "คนของผมบาดเจ็บ 1 คน พวกมันรู้ตัวแล้ว"


    ซึงยูนรายงานเข้ามาทันที หลังเสียงปืนสิ้นสุดลง






    -------------To Be Continued---------------
     
     
     
     
     
     
    >>>> คอมเม้นท์ได้เลยน๊าาาา ผิดพลาดตรงไหนขออภัยน๊าาาา
     
     
    >>> คุยได้นะค่ะ 

    >>> @yayoyao86 
     
     

     

    ^___^


     
     
     
    ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเนอะ......ขอบคุณมากๆค่าาาา


    แนวนี้คนอ่านน้อย

    แต่เราก็อยากเขียน

    ขอบคุณสำหรับคนที่ติดตามมากๆ นะค่ะ

    หวังว่าจะสนุกด้วยกานเนอะ

    ตอนนี้แอบให้คุณซงอ้อนล่ะ ^___^





    Beenzino - If I Die Tomorrow


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×