ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Pitfall Lover

    ลำดับตอนที่ #2 : Ep 02 : ตัวละคร

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 58




    --------------------------------
    Pitfall Lover Ep 02 : ตัวละคร
    -------------------------------------


    "ถังขยะเปียก......ซารางเง"
     
     

     
    "ฉันชื่อ......นัม แทฮยอนนะ"


    มินโฮมองซ้ายมองขวา ก่อนจะยืนแอบขำอยู่พักใหญ่ 

    กับท่าทางเมารั่วของคนตรงหน้า

    ที่นั่งบ่นพึมพำ โอบกอดนั่งขยะ ราวกับว่ามันเป็นเพื่อน



    "นายช่วยฉัน....ช่วยฉัน ฉันเป็นอิสระแล้ว"


    "นายโคตรรรร ดีกับฉ้านนนเลยนะ 5555"



    หลังจากพักรักษาตัวนานกว่า 10 วัน แทฮยอนก็ออกมาเดินเล่น 

    เป็นครั้งแรกที่เขาออกมาใช้ชีวิตแบบปกติ อย่างที่ควรจะเป็น 

    อย่างที่พ่อและแม่หวังอยากจะให้เขาเป็น


    เป็นเพียงคนธรรมดา ที่รู้จักทั้งความทุกข์และความสุข 

    ไม่ใช่คนที่แบกไว้แต่ความทุกข์อย่างแต่ก่อน



    พ่อแม่แทฮยอนถูกฆ่าตาย ตั้งแต่เขายังเด็ก 

    เพราะพ่อของเขาไปเป็นพยานชี้ตัว

    ให้กับคดีของนักการเมืองที่มีอิทธิพลคดีนึง 



    เขาจึงถูกส่งตัวไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า 

    ก่อนจะมีคนๆ นึงมาอุปถัมภ์ และหาพ่อแม่บุตรธรรมให้เขา 

    ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ แทฮยอนจึงได้ไปเรียนต่อที่อเมริกา


    เขาเรียนจบในระดับมหาวิทยาลัยด้านกฎหมาย 

    มีประวัติที่ขาวสะอาด



    แต่.....เบื้องหลัง แทฮยอนอยู่ภายใต้การปกครองของชเว ซึงฮยอน 

    นักธุรกิจมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเกาหลี 



    ชีวิตของแทฮยอนถูกขีดเส้นกำกับเอาไว้ทุกอย่างมาตลอด

    เขาก็ถูกฝึกให้เป็นนักฆ่า เป็นสไนเปอร์มือหนึ่งของชเว ซึงฮยอน 



    ซึงฮยอง คือ คนบงการและปลูกฝังให้แทฮยอนล้างแค้นให้กับพ่อแม่ของตัวเขาเอง 

    ซึ่งมีเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ที่แทฮยอนเห็นด้วยกับซึงฮยอน


    เพราะแทฮยอนก็อยากทำแบบนั้นเช่นกัน 

    แต่เงื่อนไขของแทฮยอน คือ ฆ่าเฉพาะนักการเมืองชั่วๆ เลวๆ เท่านั้น 



    และท่านสมาชิกสภาผู้แทนคนนั้น คือ คนสุดท้ายที่แทฮยอนจะฆ่า เพื่อล้างแค้น



    แต่เมื่อแทฮยอนขอวางมือ....ชเว ซึงฮยอน ก็ส่งคนมาฆ่าปิดปากเขาอย่างเลือดเย็น




    "เฮ้ย.....ไอ้หนู.....กลับบ้านนอนได้แล้ว"


    มินโฮพูดเชิงไล่ เรียกสติ หลังจากที่ยืนดูอยู่สักพัก 

    เขาก็เห็นแทฮยอนหัวเราะสลับกับร้องไห้ ไม่ยอมเลิก




    "บ้าน.....บ้านพ่องงงง...อยู่ทางนู้นนน"


    มินโฮตาโตทันที เขาสะดุ้งกับคำว่าบ้านพ่องง...ของคนตรงหน้าอย่างมาก 

    รู้สึกเหมือนโดนหลอกด่ายังไงก็ไม่รู้



    ส่วนคนเมาที่หันมาตอบก็ชี้มั่วซั่วไปที่เกาะกลางถนน 

    ข้ามฝั่งไปก็เป็นตึกร้าง ทำเอามินโฮงุนงง จนแทบสร่างเมา



    "แล้วบ้านแม่งงงง....อ่า"


    มินโฮก็เอาคืนบ้าง ถามกลับไปแบบกวนๆ 



    "บ้านแม่งงงก็อยู่บ้านเดียวกับบ้านพ่องงงนั้นแหละ"


    "ถามอะไรโง่ๆ....."



    แทฮยอนนั่งตอบ พร้อมหลอกด่าไปอีกนึงทีด้วยน้ำเสียงยานคาง

    เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอร์



    มินโฮถอนหายใจทิ้งทันที


    "เออ....ตามใจ นอนตรงนี้ไปแล้วกัน"



    "ทิ้งให้พ่องง...ให้แม่งงงรอที่บ้านก็ตามใจ"



    "ไปนะ"


    มินโฮหมดความอดทนกับคนเมาตรงหน้า 

    แต่ก่อนที่เท้าของเขาจะก้าวออกจากตรงนั้นไป 

    คำพูดสั้นๆ กับทำให้เขาต้องเปลี่ยนใจ



    "ไปสิ.....ไปเลย....ไม่เป็นไรหรอกน๊าา"


    "กลับเองด้ายยยย..."



    แทฮยอนบ่นพึมพำออกมาก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนกับพื้น

    คำพูดเบาๆ และภาพตรงหน้า.......

    มันทำให้ความทรงจำในอดีตของมินโฮเมื่อหลายปีก่อนย้อนกลับมาทันที





    มินโฮเคยมีเพื่อนคู่หูที่ทำงานในทีมสืบสวนด้วยกัน 

    และพวกเขาก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก 



    พโยกับมินโฮ เป็นคู่ซี้อันดับต้นๆ ที่สร้างผลงาน ไขคดีมามากมาย

    คืนนึงพวกเขาไปเลี้ยงฉลองที่ปิดคดีได้ พโยเมาเละ จนรั่วไม่ได้สติ 

    และบอกกับมินโฮว่าไม่ตรงไปส่ง เขากลับเองได้



    "ไปเลย...มินโฮ...ฉันกลับเองได้....."


    "ไม่เป็นไรหรอกน๊าา"


    "กลับเองด้ายยยย..."


    สุดท้ายเช้ามา พโยกลายเป็นศพ เพราะถูกโจรกระจอกฆ่าตาย 

    โจรพวกนั้นสารภาพว่าแค่ต้องการจะปล้นเงิน 

    แต่พโยต่อสู้ สุดท้ายพโยถูกแทงจนเสียชีวิต




    มินโฮหยุดนิ่ง เขาเจ็บปวดกับเรื่องนี้และโทษตัวเองมาตลอด

     เขาไม่ยอมให้ใครมาเป็นคู่หูของเขาอีกเลยนับตั้งแต่วันนั้น



    วันนี้เขาจึงตัดสินใจ ลากไอ้เด็กขี้เมา 

    นัม แทฮยอน.......... กลับไปด้วย



    โครม!!!!!


    มินโฮโยนร่างคนเมา ทิ้งลงบนโซฟาอย่างแรง

     แล้วเขาก็ไม่สนใจอะไรใดๆ อีกเลย 

    เขาเข้าไปอาบน้ำ แล้วเข้าห้องนอน ทำเหมือนปกติ


    --------------------------------------

    วันต่อมา

    ทีวีเปิดทิ้งไว้ เหมือนแค่ให้มีเสียงคนพูดๆ ไปเรื่อย

    มันเป็นวิธีที่มินโฮชอบใช้ มันสร้างบรรยากาศทำให้เขาไม่รู้สึกเหงา

    เหมือนกับว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว 



    ทั้งที่จริงๆ แล้วในวันนี้ที่ห้องของเขา

    ก็มีใครอีกคน.....นอนอยู่ที่โซฟา



    แทฮยอนค่อยๆ ลืมตาขึ้น มือบางขยี้ตาเพื่อไล่ความงัวเงีย 

    เขากำลังเรียบเรียงเหตุการณ์ และคิดได้ว่าที่นี้ไม่ใช่ที่ที่เขาคุ้นชิน


    "ตื่นแล้วหรอ ไอ้เด็กขี้เมา"


    "ตื่นก็กลับบ้านไปได้แล้ว"


    มินโฮนั่งอยู่ที่ตรงทำงานอีกมุมของห้องเอ่ยขึ้น 

    โดยที่ไม่ได้สนใจอะไรคนที่เพิ่งตื่นมากนัก


    แทฮยอนไม่พูดอะไร เขาพยายามจะลุกเพื่อจะกลับ 

    แต่ความเจ็บปวดของบาดแผลที่ท้องก็เล่นงานจนเขาต้องทิ้งตัวลงนั่งอีกหน



    "เป็นอะไร......นัม แทฮยอน"


    แทฮยอนตกใจไม่น้อย ที่เจ้าของบ้านรู้จักชื่อตน 

    แต่เขาก็มีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่า นั้นก็คือ การพยายามปิดบังความจริง



    "เจ็บ....เจ็บข้อเท้า"


    แทฮยอนโกหกอย่างเลี่ยงไม่ได้ จะให้คนอื่นรู้ได้ยังไงว่าโดนมีดแทงมา



    "นายรู้จักชื่อฉันได้ไง"




    "หึ.....ไอ้หนู....นายแนะนำตัวกับหมา ฉันจำได้"


    "แถมเรียกหมาว่าแมวน้อย"


    มินโฮพูดไปกลั้นขำไป แต่ก็จบด้วยการบ่นสั่งสอน



    "ทีหลังจะเมา ก็เอาที่พอไหวสิ"


    "อย่าทำตัวเป็นภาระของคนอื่น"


    แทฮยอนเจ็บแผลจนพูดแทบไม่ออก 

    เขารู้สึกได้เลยว่าแผลที่ท้องน่าเปิด 

    เขาแอบเปิดเสื้อขึ้น แล้วก้มดูแผล มีรอยเลือดซึมๆ ออกมา




    "ครับ.....หัวหน้า...."


    "ได้ครับ....ผมจะรีบเข้าไปเดี๋ยวนี้"


    โทรศัพท์ของมินโฮมีสายเรียกเข้ามา 

    เขาพูดไม่กี่คำ ก็รีบคว้าข้าวของเพื่อเตรียมตัวออกไปข้างนอกทันที



    "กลับมา....เราคงไม่ได้เจอกันนะ"



    มินโฮพูดไล่ทางอ้อมอย่างชัดเจน 

    แทฮยอนก็ได้แต่มองหน้าคนพูดอย่างนิ่งๆ



    หลังจากที่มินโฮออกไปแล้ว 

    แทฮยอนก็เริ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ และเขาก็รู้ได้ทันทีว่ามินโฮ คือ ตำรวจ 



    "Shitt!!! "



    แทฮยอนได้แต่สบถพึมพำ ตำหนิตัวเอง

    ก่อนจะหันไปเจอข่าวในทีวี 


    "หลังจากเปลี่ยนทีมสืบสวนของสารวัตรซง มินโฮ ถูกปลดออกไป"

    "ตอนนี้ทีมสืบสวนใหม่ก็สามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้แล้วนะคะ"

    "โดยในวันนี้สารวัตรคัง ซึงยูน ได้ออกมาแถลงข่าว......"



    ผู้สื่อข่าวในทีวียังคงประมวลเหตุการณ์คดีสะเทือนขวัญอย่างต่อเนื่อง 

    และภาพข่าวในทีวีก็ทำให้แทฮยอนถึงกับตะลึง



    "ไอ้หมอนั่น"



    แทฮยอนตาโตทันที 

    เขาจำได้แล้วว่า มินโฮ คือตำรวจ ที่ทำคดีที่เขามีส่วนร่วมก่อไว้



    ใจนึงก็อยากรีบๆ ออกไปให้พ้นๆ จากตรงนี้ 

    แต่สภาพร่างกายของเขาไม่ให้ความร่วมมือ


    ไข้เล่นงานแทฮยอนทันที ผลจากการดื่มทั้งทีแผลยังไม่หายดี 

    แถมดูจากสภาพแล้ว เมื่อคืนมินโฮไม่ได้แบกแทฮยอนมาดีๆ แน่ 

    แทฮยอนมั่นใจแบบนั้น ซึ่งมันไม่มีอะไรผิดเพี้ยนไปจากที่เขาคิดจริงๆ


    แทฮยอนอ่อนแรงเกินกว่าจะลุกหรือทำอะไรทั้งนั้น 

    สุดท้ายเขาก็ค่อยๆ หมดสติไป


    ---------------------------------------


    "มินโฮ....สายของฉัน ยืนยันได้แล้วว่าคดีฆาตกรรมต่อเนื่องนี้ "

    "ชเว ซึงฮยอง เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง"


    ผู้กองหยาง หัวหน้าสูงสุดที่มินโฮทำงานด้วยมานาน 

    กล่าวด้วยความเคร่งเครียด


    "ชเว ซึงฮยองเป็นนักธุรกิจ ตอนนี้กำลังผันตัวมาเล่นการเมือง"

    "เบื้องหลังของคนๆ นี้ มันเป็นมาเฟียตัวพ่อ ค้ายา ค้ามนุษย์"




    "มันจงใจเก็บท่านสมาชิกวุฒิสภาสินะ"



    ทั้งจินวู และซึงฮุน ต่างพูดแสดงความคิดเห็นเสริมต่อจากคนเป็ยหัวหน้าทันที 


    "สายของฉันแฝงตัวอยู่ในกลุ่มพวกมันมานานหลายปี"


    "ไอ้ชเวกำลังคว้านหาสไนเปอร์มือดีคนใหม่"

    "เพื่อเข้าไปทำงานกับมัน โชคดีคนที่มันเลือก......"

    ".......เป็นสายของเรา"


    คำพูดของผู้กอง เรียกรอยยิ้มของทีมสืบสวนได้เป็นอย่างดี 

    โดยเฉพาะมินโฮ



    "ตอนนี้พวกมันกำลังจะส่งยาล็อตใหญ่"

    "รอดูความเคลื่อนไหว น่าจะภายในเร็วๆ นี้"

    "รอสายของฉันคอนเฟริมกลับมาอีกที"


    "แล้วก็.....ฉันขอสั่งให้ทุกคนเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ"



    "แล้วพวกเราจะทำอะไรได้ล่ะครับ"

    "พวกเราโดนสั่งพักงานตั้ง 6 เดือน"


    ซึงฮุนทำหน้าลสดทันที พร้อมกับรำพึงรำพัน 

    เขาหวังที่จะให้คนเป็นผู้กองเห็นใจ

    และแผนของเขาก็ใช้ได้ผล




    "พวกนายกลับมาทำหน้าที่ทุกอย่างตามเดิม"

    "แต่ทุกอย่าง.....ต้องเป็นความลับ"





    ผู้กองหยาง คืนตราตำรวจให้กับทุกคนในทีม 

    ทำให้ทุกคนต่างยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว



    "เตรียมตัวให้ดี......อย่าให้ใครสังเกตได้ล่ะ"


    มินโฮ จินอู และซึงฮุน ต่างพากันเล่นละคร

    เดินออกจากห้องผู้กองด้วยสีหน้าสลด 

    และพากันเก็บข้าวของที่โต๊ะทำงาน 

    เหมือนกับว่าโดนพวกเขาโดนพักงานยาวจริงๆ



    มินโฮแยกตัวออกมาและตรงกลับบ้านทันที 

    ปล่อยให้ซึงฮุนและจินอู เดินกลับด้วยกันตามลำพัง



    "เมื่อไรสารวัตร จะกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อนนะ"


    จินวูมองดูมินโฮจากด้านหลัง ก่อนจะตั้งคำถามขึ้นมา 



    เมื่อก่อนมินโฮเคยเป็นคนสนุกสนาน 

    แต่เดี๋ยวนี้มินโฮกลายเป็นคนแข็งกระด้าง 

    เขาไม่ยอมให้ใครเข้าในโลกของเขาได้อีกเลย 

    นับตั้งแต่เพื่อนคู่หูของเขาตายไป




    "แล้วนายล่ะ.....จินอู"


    "นายทำใจได้แล้วจริงๆ หรอ"


    ซึงฮุนหยุดเดินแล้วถามจินอูอย่างจริงจัง 

    จินอูหยุดนิ่งอยู่ชั่วครู่....... ก่อนจะหันกลับมาตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม 

    แต่ดวงตากลับมีน้ำใสๆ คลออยู่.....




    "ได้สิ........พโยไม่ชอบให้ฉันร้องไห้"


    "ฉัน.....เลยยิ้มไง...."


    จินอูยิ้มทั้งน้ำตา ภาพตรงหน้ามันทำให้ซึงฮุนรู้สึกผิดไม่น้อย 

    แต่เขาก็เป็นห่วงเพื่อนคนนี้จริงๆ



    จินอูคบกับพโย ซึ่งพอทั้งคู่ตัดสินใจซื้อคอนโดเพื่อที่จะอยู่ด้วยกัน 

    แต่พโยก็มาจากไปเสียก่อน



    ซึงฮุนทำได้เพียงเอามือขึ้นมายี้ผมของคนที่ทำเป็นเข้มแข็งอย่างอ่อนโยน


    "นายเก่งแบบนี้เสมอเลยนะจินอู"




    "แน่นอน....นายเพิ่งรู้หรอ"


    จินอูเช็ดน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว 

    พร้อมกับทำท่าน่ารักๆ เหมือนที่เคยเป็นเสมอ 


    คงเป็นเพราะเวลา.....เวลาช่วยให้จินอู 

    ทำใจยอมรับเรื่องเลวร้ายได้ดีขึ้น...... และเข้มแข็งขึ้น

    แต่ความเสียใจ.....ไม่เคยมีวันลดน้อยลงได้เลย


    ------------------------------------


    "ย่าส์.......ขาไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย"


    มินโฮกลับมาถึงบ้าน ก็ยังเห็นเด็กขี้เมานอนอยู่ที่โซฟา

    เขาจึงถือวิสาสะเข้าไปจับขาของอีกคนขึ้นมาดู

    แต่เมื่อแทฮยอนลืมตาตื่นขึ้น.........



     สายตาก็ประสานกัน.........อย่างบังเอิญ

    มินโฮเหวี่ยงขาแทฮยอนออกทันที




    "โอ้ยยย...."


    สีหน้าแสดงออกถึงความเจ็บปวดทันที 

    เพราะแรงเหวี่ยงนั้นกระเทือนมาถึงแผลที่เขาถูกแทง



    "ทำไม.....ยังไม่ไปอีก"


    มินโฮพูดโดยไม่สนใจคนที่กำลังเจ็บสักนิด 

    แม้ใจจริงก็แอบรู้สึกผิดนิดๆ ก็ตาม แต่เขาเลือกที่จะไม่แสดงออกมา



    "..................."


    แทฮยอนเงียบไม่ตอบ 

    ทำเอามินโฮต้องพ่นลมหายใจออกมา ด้วยความไม่พอใจ



    "บ้านอยู่ไหนเดี๋ยวไปส่ง"




    "............................"

    แทฮยอนยังคงเงียบ ไม่ยอมปริปาก




    "เมา.....จนหูหนวกเป็นใบ้ไปแล้วหรอไง"



    "ลุก......"


    มินโฮไม่เพียงแต่ออกคำสั่ง 

    มือหนาคว้าแขนอีกคน ก่อนจะกระชากให้ลุกขึ้นอย่างสุดแรง



    "โอ้ยยยยยย.........."




    "เป็นอะไร......"



    มินโฮพั้งปากออกไปอย่างไว

    ก่อนที่ความรู้สึกจะรับรู้ได้ว่าคนตรงหน้า ตัวร้อนอย่างกับไฟ 

    เขารีบปล่อยมือออกทันที ด้วยความตกใจ



    "เดี๋ยวพาไปส่งโรงพยาบาล"


    มินโฮค่อยๆ ปล่อยมือออกช้าๆ เขาต้องเลี่ยงสายตา

    ออกจากคนป่วย

    ด้วยความรู้สึกอึดอัดใจอย่างประหลาด




    "ให้ไว........ก่อนที่ฉันจะจับนายโยนไปนอกห้อง"



    ---------------------------------------


    "คุณควรจะรอบคอบให้มากกว่านี้นะ"


    "คุณทำแบบนี้มันกลายเป็นเรื่องยากสำหรับผม"

    "ที่ต้องมาตามเช็ดตามกวาด"




    "หึ.....แต่คุณก็ทำได้ดี สมกับราคาค่าจ้างไม่ใช่หรอ"



    บทสนทนาระหว่างซึงยูนกับนักธุรกิจใหญ่ชเว ซึงฮยอน

    ซึงฮยอนคุยโทรศัพท์โดยการผ่านเครื่องแปลงเสียง 

    ขณะนั่งอยู่ในรถหรูคันใหญ่ พร้อมกับเลขาแดซองคนสนิท



    "ไม่มีอะไรเพอร์เฟคหรอก คุณสารวัตร...."


    "อย่างน้อยเราก็ไม่ได้ทิ้งหลักฐานอะไรไว้"

    "ขอบคุณสำหรับการ จัดฉาก แล้วกัน"


    ซึงฮยอนกล่าวออกมาอย่างสบายใจ



    "แต่เรื่องนี้ยังมีเงื่อนงำ ผมกลัวว่าไอ้พวกนั้นจะตามกลิ่นมาเจอ"


    "ไอ้พวกนี้เหมือนหมาล่าเนื้อ พวกมันกัดไม่ปล่อยนะครับ"


    ซึงยูนพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลอย่างชัดเจน




    "หึ....พวกมันโดนพักงานเป็นครึ่งปีจะมาทำอะไรผมได้"




    "นายครับ......."


    เลขาแดซองเอ่ย...เรียกคนเป็นเจ้านายเบาๆ 

    พร้อมกับยกนาฬิกาให้ดู เพื่อเป็นการเตือน



    ในการสนทนาแบบนี้ชเว ซึงฮยอน จะใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที 

    เพื่อไม่ให้คนอื่นจับพิกัด หรือหาที่อยู่ของเขาได้



    "ค่าตอบแทนก้อนสุดท้าย เดี๋ยวเลขาผมจะจัดการให้"


    "เชิญรอนับเงินได้เลย"


    จบประโยคซึงฮยอนก็วางสายทันที



    "เป็นไง.....บันทึกทุกอย่างไว้เรียบร้อยหรือเปล่า"


    "รู้ที่อยู่ของพวกมันมั้ย"



    "ไม่ทันครับหัวหน้า ดาวเทียมค้นหาสัญญาณไม่ทัน"


    ซึงยูนเขวี้ยงโทรศัพท์ทันที ที่ลูกน้องในทีมรายงานเสร็จ 

    เขาเองก็พยายามรวบรวมหลักฐานมาเล่นงานชเว ซึงฮยอนเช่นกัน 

    แต่ดูท่าทางจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ








    "นาย...........ชื่ออะไร"


    หลังจากจบบทสนทนากับสารวัตรซึงยูน 

    ซึงฮยอนก็กลับมาสนทนากับลูกน้องคนนึงที่นั่งเงียบอยู่ในรถมานาน



    "กู......กู จุนฮเว"


    จุนฮเว ตอบด้วยน้ำเสียงเรียงนิ่ง 

    แววตาเขาฉายออกมาชัดเจนว่าเป็นคนไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น 

    และพร้อมจะมีเรื่องได้ทุกเมื่อ ซึ่งมันถูกใจซึงฮยอนไม่น้อย



    "นาย.....ทำงานให้ฉันมานานแค่ไหน"



    "....3.....ปี"




    "ฉันจะเปลี่ยนให้นายมาเป็นสไนเปอร์ให้ฉัน"


    "พร้อมทำงานใช่มั้ย"






    "ก็ขึ้นอยู่กับราคา......."


    จุนฮเว ตอบออกไป พร้อมยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์




    "เฮ้ยยย....รอบตัวฉันมีแต่คนหิวเงินสินะ"


    ซึงฮยอนพูดอย่างอารมณ์ดี 




    "ก็คนเราทุกคนต้องกิน ต้องใช้"


    จุนฮเว ลอยหน้าลอยตาตอบอย่างท้าทาย




    "หึ.....นายนี่มัน....ตรงๆ ดี"


    "ฉันชอบ.....แต่....ถ้านายทำงานพลาดเมื่อไร"


    "รู้ใช่มั้ย ว่าผลตอบแทบจะไม่ใช่เม็ดเงินอย่างที่นายต้องการ"



    คำพูดที่ไม่ใช่แค่คำขู่..... ทำเอารอยยิ้มเจ้าเลห์ของจุนฮเวหายไปทันที 

    และเขาก็เลือกที่จะตอบกลับไป อย่างมั่นใจ




    "ไม่มีวันนั้น.....ไม่มีวันที่ผมจะพลาดแน่ๆ ....."


    ซึงฮยอนยกยิ้มมุมปาก เขาไม่เจอคนอวดดี ต่อหน้าเขาตรงๆ แบบนี้มานาน



    "ดี....ฉันจะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัวทีหลัง"


    "อ่ะ.....นี่ค่าจ้างก้อนแรกของแก"


    "กลับไป...เตรียมพร้อม รอรับงานจากฉัน"


    ซึงฮยอนคว้าซองเงินสด ออกมาจากชุดสูทหรู 

    ยื่นมันให้จุนฮเว จากความหนาก็รู้ได้ทันทีว่านั้นเป็นเงินจำนวนไม่น้อย


    จุนฮเวยกยิ้ม แสดงออกว่าเขายินดี..... ก่อนจะโค้งให้เล็กๆ 

    แต่สายตาไม่ได้ก้มต่ำลงด้วยเลย..... มันดูกวนประสาทอย่างชัดเจน




    จากนั้นซึงฮยอนก็สั่งให้หยุดรถ และปล่อยให้จุนฮเวลงจากรถไป


    "ไอ้เด็กคนนี้ มันดูไม่น่าไว้ใจนะครับนาย"


    เลขาแดซองพูดออกไปตามความคิด 

    แต่คนเป็นเจ้านายได้แต่ยกยิ้ม เขารู้สึกสนุกมากกว่าที่จะมานั่งกังวล




    "คนแบบนี้อ่านทางง่าย..."

    "ง่ายกว่านัม แทฮยอนเสียอีก"






    "นายครับ....แย่แล้วครับ"


    เลขาคนสนิทของซึงฮยอนหน้าตาตื่น 

    พร้อมกับรีบยื่นโทรศัพท์ของตนให้คนเป็นเจ้านายดู 

    พร้อมกับแจ้งรายละเอียด ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ




    "คนของเราที่ตามประกบให้สารวัตรมืดคนนั้น ส่งภาพนี้มาครับ"



    มันเป็นภาพของมินโฮและแทฮยอน

     เดินออกมาจากคอนโด และขับรถออกไปด้วยกัน



    ซึงฮยอนดูภาพแล้ว ม่านตาของเขาก็ขยายกว้างทันที 

    สิ่งแรกที่เขาโกรธมาก คือ จีวอนทำงานพลาด 



    สิ่งต่อมา ที่โกรธยิ่งกว่า ก็คือ นัม แทฮยอน ยังไม่ตาย 

    แต่กลับไปโผล่หัว อยู่กับไอ้ตำรวจที่ตามจิกคดีของเขา



    ซึ่งก่อนหน้านี้สารวัตรซึงยูนก็เตือนเขาแล้วว่า

    ทีมของไอ้ตำรวจมืดนี้ เป็นพวกกัดไม่ปล่อย



    ซึงฮยอนรู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้คงจบยากกว่าที่เขาคิดเอาไว้แน่ๆ 

    เขาส่งภาพนี้ให้ จีวอน 

    พร้อมกับสั่งให้คนของเขาที่ตาม มินโฮกับแทฮยอน อย่าให้คลาดสายตา




    เพียงชั่วครู่ จีวอนก็โทรกลับมาทันที


    "ผม......ขอโทษครับพ่อ"


    "แกรู้ใช่มั้ยต้องทำยังไง......"


    "ผมจะไม่พลาดเป็นครั้งที่ 2"



    จีวอนยืนยันหนักแน่น แม้คนที่ต้องฆ่าจะเป็นลูกบุตรธรรมเหมือนกันกับเขา 

    แต่เขาไม่เคยนับน้อง.....ไม่เคยนับเป็นญาติ


    มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เขาจะรักและเชื่อฟังทุกอย่าง 

    คนๆ นั้น คือ ชเว ซึงฮยอน



    จีวอนลูกเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ ความทรงจำของเขา 

    ไม่มีพ่อแม่ หรือญาติพี่น้องที่ไหนเลย 

    เขาถูกเลี้ยงดูและฝึกฝนให้เป็นนักฆ่า ไม่ต่างจากแทฮยอน 



    เพียงแต่ว่า จีวอน ไม่มีหัวใจ ไม่มีความทรงจำ 

    เขาจึงเหมือนหุ่นยนต์ ฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น 

    ในความคิดของเขา คือ ทำตามคำสั่งของซึงฮยอนเท่านั้น




    "เก็บพวกมันให้หมด ทั้ง 2 คน"





    -------------To Be Continued---------------






    >>>> คอมเม้นท์ได้เลย เครียดดดดมั้ย งงมั้ยยยยย

    ตัวละครเริ่มออกมาเยอะแล้ว ปมแต่ละคนเริ่มเห็นแล้วเนอะ

    >>> คุยได้นะค่ะ 

    >>>ทวิตมีแล้ว @yayoyao86 

    ^___^


     
     


    ผิดพลาดตรงไหนขออภัยฮับป๋มมมม!!!!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×