ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Pitfall Lover

    ลำดับตอนที่ #1 : Ep 01 : สถานะ

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 58


     
    -----------------------------------------------------------
     
    Pitfall Lover Ep01 : สถานะ 
     
    ------------------------------------------------
     
    1 กระสุน ต่อ 1 การสังหาร
     

    กวาดสายตาไปให้ทั่ว หยุดเรื่องของเขาซะ
     

    ต่อไปก็จะเป็นแค่เรื่องของผม
     
     

     
    ปัง!!!!!
     
     
     
    ชายชราอ้วนท้วม ร่างกระตุก ก่อนจะหงายตึงไปด้านหลัง
     
     
    -------------------------------------------------------
     
     
    เกิดเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ที่สวนสาธารณะยองเชปาร์ค ริมแม่น้ำฮัน
     



    ผู้เสียชีวิตจำนวน 7 คน 
     
    เด็กชายอายุ 8 ปี 
     
    ชายวัยรุ่นนักศึกษา 2 คน อายุ 19 ปี 
     
    หญิงชราวัย 63 ปี 
     
    ชายวัยทำงาน อายุ 27 ปี 
     
    และชายชรา อายุ 57 ปี พร้อมหลานสาววัย 4 ขวบ 
     
     
     
     
    ทุกศพถูกยิงเข้าที่กลางอก
     
     
     
    "ฆาตกร....มันโรคจิตชัดๆ"

     
    สารวัตรหนุ่ม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวน 
     
    เอ่ยออกมาด้วยความแค้น หลังจากที่ได้เข้าตรวจพื้นที่
     


     
    "เอายังไงต่อดีครับ สารวัตรซง"

     
    ซึงฮุนตำรวจหนึ่งในทีมเอ่ยถามคนเป็นหัวหน้า


     
     
    "กระจายกำลังไปตรวจค้น ทุกตึกสูงในระยะ 800 หลา"
     
     
    "จากวิถีกระสุน ไอ้สารเลวต้องซุ่มยิงมาจากฝั่งตะวันตกแน่ๆ"
     
     
    "เน้นตึกสูงที่สุดก่อน...."
     
     
    "ปอกกระสุนปืน M24 คนร้ายต้องเป็นสไนเปอร์มืออาชีพแน่ๆ"
     
     
    "รีบกระจายกำลัง ด่วนเลย"
     
     
    "สั่งตั้งด่านตรวจรถทุกคัน ที่มุมหน้าออกจากโซล"
     
     
    "แล้วก็ส่งรายชื่อตึกสูงทั้งหมดให้ผมด้วย"
     
     


     

    "ครับ....ได้ครับ"
     

     
    ก่อนที่ทีมลูกน้องในหน่วย จะแยกย้ายไปทำหน้าที่ 
     
    คนออกคำสั่งก็ครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยปากสั่งการอย่างรอบคอบอีกครั้ง


     
     
     
    "....ผมขอรายชื่อตึกสูงที่อยู่เลยจากระยะ 800 หลา ให้ผมด้วย"
     

     
    ลูกน้องในทีมได้แต่ชะงัก....... 
     
    พร้อมกับทำหน้าสงสัย ทำให้สารวัตรซง ต้องขยายความต่อทันที


     
     
    "คนร้าย อาจจะฝีมือดีกว่าที่เราคิด มันอาจยิงจากระยะที่ไกลกว่าข้อจำกัดของปืนก็ได้"
     
     
    "เราต้องสืบและลากคอมันมาให้ได้"
     
     
    "ผมไม่อยากพลาด ปล่อยให้มันลอยนวล"
     
     
    พูดจบสารวัตรซงก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ 
     
    เพราะคดีนี้ เป็นคดีที่ใหญ่และสะเทือนขวัญมาก 
     
    คนร้ายฆ่าคน 7 คน โดยการใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที
     


     
     
    ครืนนน!!!! ครืนน!!!!
     
     
    ไม่ทันจะเคลียร์พื้นที่เสร็จ..... ก็มีสายเรียกเข้าจากผู้กองหยาง


     
     
    "ครับ....หัวหน้า"
     
     
    "สถานการณ์เป็นไงบ้าง"

     
    คนเป็นหัวหน้าเอ่ยถาม โดยไม่รอฟังคำตอบ ก็ร่ายยาวอย่างร้อนใจ


     
    "มินโฮ....นายรู้แล้วใช่มั้ย ว่า 1ใน 7 คนที่เสียชีวิต"

     
    "มีท่านสมาชิกวุฒิสภากับหลานสาวของท่าน รวมอยู่ด้วย"
     
     



    "ครับ.....ทราบครับ"
     


     
    "รู้ใช่มั้ย....ว่าต้องรีบไขคดีนี้ให้เร็วที่สุด"

     
     
    "ตอนนี้ ข่าวถูกเผยกระจายอย่างหนัก จนคนทั้งโซลหวาดกลัว"
     




     
    "ผมเร่งดำเนินการทุกอย่างแล้วครับ"
     
     



     
    "คดีนี้....อาจเป็นคดีที่เหมือนกับ 7 ปีก่อนก็ได้"
     
     
    "ต้องรีบหาคำตอบให้ได้นะ"
     




     
    "ครับ....หัวหน้า"
     

     
    จบบทสนทนา มินโฮ ก็จมอยู่กับความเศร้าทันที 
     
    ยิ่งเห็นแม่ของเด็กชายวัย 8 ขวบ ร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า 
     
    มันยิ่งน่าสะเทือนใจ 
     
     
     
    แรงกดดันจากคนบริสุทธิ์ 7 คน ที่ต้องมาตาย โดยไร้เหตุผล 
     
    มันทำให้เขาอยากจัดการกับไอ้คนร้ายที่ชั่วช้า และรีบลากคอมันมารับโทษให้ได้
     

     
    ------------------------------------
     

    "งานผมจบแล้ว"
     
     
    "ต่อไปเราไม่จำเป็นต้องติดต่อกันอีก"
     
     


    "นายพูดแบบนี้กับคนเป็นพ่อเลยหรอ....นัม....แทฮยอน"
     
     


    บทสนทนาทางโทรศัพท์ ของคนสองคน
     
    ซึ่งเต็มไปด้วยอารมณ์เย็นชา และแฝงไปด้วยความขัดแย้ง
     

     
     
    "ที่เคยตกลงกันไว้ไม่ใช่แบบนี้....."
     
     



     
    "อย่าคิดมากสิ.......แทฮยอน นายทำดีแล้ว"
     
     
     
    "ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะจบ"
     





     
    โครมมมม!!!!!!
     
     
     
    เสียงประตูห้องดังขึ้น พร้อมกับชายฉกรรจ์คนนึง ที่โผล่พรวดเข้ามา 
     
    พร้อมกับรอยยิ้มซึ่งชัดเจนด้วยความอวดดี
     



     
    "ไง........."
     

     
    แทฮยอนตัดสายและโยนโทรศัพท์ทิ้งทันที 
     
    เวลานี้เขารู้ดีว่า คำว่า .....จบ ของคนเลวๆ อย่าง ชเว ซึงฮยอน คืออะไร
     


     
     
    เขากำลังจะโดนฆ่าปิดปาก
     
     
     

     
    "ไม่อยากจะเชื่อเลยแหะ......ว่าสไนเปอร์มือ 1 จะหน้าหวานขนาดนี้"
     
     

     
     
    "ยินดีที่ได้รู้จักนะ"
     
     


    แทฮยอนไม่เอ่ยปากให้เสียงเวลา 
     
    เขาถีบโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าให้พุ่งใส่คนที่ยืนพล่ามไม่หยุดทันที
     
    ซึ่งดูเหมือนมันจะได้ผล แต่ก็ช่วยได้ไม่มากนัก 

    เพราะคนที่บุกเข้ามาถอยหลบได้ทัน
     
    และในเสี้ยววิ ชายคนนั้นก็พุ่งมาประชิดตัวแทฮยอนได้แบบไม่ยากเย็น
     
     

     
    มือหนาบีบเข้าที่คอ พร้อมกับใช้แรงมหาศาล 
     
    ดันจนแทฮยอนไปติดชิดกับผนังห้อง


     
    แทฮยอนเหวี่ยงหมัดออกไป เพื่อตอบโต้ แต่ก็เปล่าประโยชน์ 
     
    เมื่อคู่ต่อสู้ไวกว่ามาก มันยกแขนข้างขึ้นมากันหมัดของแทฮยอนเอาไว้ได้
     
    ก่อนจะยกยิ้มอย่างผู้ชนะ และปล่อยหมัดใส่หน้าแทฮยอนอย่างเต็มแรง
     
     
     
    ร่างบางได้แต่เซถลาไปตามแรงหมัด 
     
    ก่อนจะคว้าเอาโคมไฟมาฟาดใส่หน้าของอีกฝ่ายอย่างเต็มๆ
     
     
     
    แต่ดูคนตรงหน้าจะไม่สะทกสะท้าน 
     
    แม้จะมีเลือดซึมออกมาจากปลายคิ้วให้เห็น


     
    แทฮยอนรู้ตัวว่าเสียเปรียบทันที 
     
    การสู้ระยะประชิดตัวแบบนี้ ไม่ใช่อะไรที่เขาถนัดเลย
     



     
    "แบบนี้ค่อยสนุกขึ้นมาหน่อย"
     

     
    ผู้บุกรุก ดูจะชื่นชอบกับความเจ็บปวด 
     
    และรสชาติของเลือดที่ไหลซึมออกมา 
     
    นิ้วยาวถูกเกลี่ยไปที่บริเวณแผล เลือดสีแดงข้นติดชุ่มอยู่บนนิ้วนั้น

     ก่อนจะเอามาแตะที่ปลายลิ้น
     
    มันเหมือนเป็นการกระตุ้น และเพิ่มความซาดิสให้มีมากขึ้นกว่าเดิม
     

     

     
    "หมดประโยชน์แล้ว....ก็ไม่ควรจะมีชีวิตอยู่"
     
     
    "จริงมั้ย"
     
     
    จบประโยค ก็มีเพียงหมัดหนักที่ลอยเข้ามากระแทกใส่หน้าของแทฮยอนอีกครั้ง
     
    ตามด้วยแรงเหวี่ยง ที่โดนทุ่มไปจนชนกับบานกระจกหน้าต่าง 
     
    ซึ่งตอนนี้มันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
     
     
     
    สภาพแทฮยอนในตอนนี้ คือ ไม่มีทางสู้คนตรงหน้าได้เลย 
     
    ความเจ็บปวดจากแรงกระแทก แทบจะมีอยู่ทุกพื้นที่บนตัว
     
     


    "หึ....อ่อนแอจังเลยนะ"
     
     

    "ไม่คิดว่าจะหมดเวลาสนุกเร็วขนาดนี้"
     



     
    ฉึบ!!!!!
     
     

    มือข้างนึงกดปลายมีดเข้ามาที่ท้องของแทฮยอนอย่างรวดเร็ว 
     
    มืออีกข้างก็อุดปากของแทฮยอนไว้ เพื่อไม่ให้มีเสียงร้องใดๆ ออกมา
     


     
    "เจ็บหน่อยนะ......."
     
     

    คนมีมีดในมือ ออกแรงกดเพิ่มขึ้นอีก.....
     
    และก็เพิ่มขึ้นอีก.......
     


    เลือดค่อยๆ ซึมไหลออกมา.....
     
    ไหลออกมา.....
     
    แล้วก็ไหลไม่หยุด.....จนนองเต็มพื้น......
     
     
     
     
     
    "อีกเดี๋ยว......ก็ไม่เจ็บแล้วล่ะ"
     
     
     
    คนที่พล่ามไม่หยุด ดูสนุกสนานกับกลิ่นคาวเลือด 
     
    และสีหน้าความเจ็บปวดของอีกฝ่าย 
     
    ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่ดูสะใจ
     
     
     
     
    แทฮยอนตาพร่ามั่ว จากที่หายใจหอบถี่ 
     
    ตอนนี้มันกลายเปลี่ยนเป็นความแผ่วเบา และทุกอย่างก็ดับวูบ 
     


    เมื่ออีกฝ่ายออกแรงผลักเบาๆ 
     
    ร่างของแทฮยอนร่วงหล่นลงไป จากช่องหน้าต่าง
     


     
     
    "เรียบร้อยมั้ย จีวอน"
     
     
     
    "ครับ.....นาย"
     
     
     
    จีวอนยืนเช็คคราบเลือดออกจากมีดของตน 
     
    ก่อนจะชะโงกหน้าออกไปดูร่างของอีกคนที่นอนแน่นิ่งจมกองเลือด
     
    และยิ้มออกมาอย่างพึ่งพอใจ
     
     
    -------------------------------------
     
     
    "ย่าส์......ฝนตกทำบ้าอะไรว่ะเนี่ย"
     

     
    "หมดกัน........แบบนี้ยิ่งหาหลักฐานยากไปใหญ่"
     
     
    มินโฮบ่นอย่างหัวเสีย เพราะเวลาล่วงเลยมาแทบจะหมดวัน 
     
    พวกเขายังหาหลักฐานอะไรไม่ได้เลย หนทางดูมืดหม่นไปหมด 
     
     
     
    มินโฮ พร้อมกับลูกน้องในทีม ต่างเข้าไปตรวจค้น ทุกตึกที่มีความเป็นไปได้
     
    ตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดแทบจะทุกที่ 
     
    แต่ก็ไม่มีวี่แวว หรืออะไรที่ผิดสังเกต
         
    ดูเหมือนความพยายาม จะไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างสำเร็จได้เสมอไป



     
    เวลาล่วงเลยผ่านไป..... มินโฮยังคงออกตรวจตามตึกต่างๆ 
     
    แม้สภาพอากาศจะไม่เป็นใจ
     
     
     
     
    "ตึกนี้.......ตึกสุดท้ายแล้วครับสารวัตร"

     
    หมวดซึงฮุนกล่าวรายงาน
     
     


     
    "ในรัศมี 800 หลาใช่มั้ย"
     
     



    "ใช่ครับ"
     
     
    ตำรวจทุกคนในทีมต่างทำงานด้วยความเหนื่อยล้า 
     
    มินโฮเองก็มีสภาพไม่ต่างกันมากนะ
     
     

    "เช็คภาพจากกล้องวงจรปิดให้ดี ดูย้อนหลัง ก่อนหน้าเหตุการณ์ให้ดี"
     

    "คนร้ายต้องเข้ามาสำรวจ หรือหาพื้นที่ก่อนลงมือแน่ๆ"
     
     
     
    "ย้อนกับไปเช็ค ข้อมูล การเข้าออกของแต่ละตึกจาก รปภ.ด้วย"
     

    "อันไหนน่าสงสัย รวบรวมข้อมูลมาให้หมด"
     
     
     
    มินโฮได้แต่ถอนหายใจ เพราะตอนนี้การคว้านหาตัวคนร้าย 
     
    มีเป้าหมายไม่ชัดเจน และหาหลักฐานใดๆ มาประกอบคดีไม่ได้เลย 
     
    แต่ตำรวจทุกคนก็ยังคงทำงานอย่างหนักกันต่อไปทั้งคืน
     
     
     
    -------------------------------

    "เมี๊ยววววว เมี๊ยวววว"

     
    ลูกแมวน้อย ร้องควรญครางเสียงดัง
     
    มันกำลังหาที่กำบังอุ่นๆ เพื่อหลบสายฝนที่เทลงมาไม่ขาดสาย


     
    ลิ้นเล็กๆ แต่สากๆ ของลูกแมวตัวน้อย
     
    เลียที่ใบหน้าของคนที่นอนหมดสติอยู่ 
     
    สัมผัสเล็กๆ นั้น กลับทำให้แทฮยอนสะดุ้งเฮือกและฟื้นขึ้นอีกครั้ง
     
     

     
    โชคดีเหลือเกินที่เขาตกลงมาจากชั้น 5 
     
    ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของอพาร์เมนท์ก็จริง 
     
    แต่ด้านล่างมีผ้าใบ บวกกับเป็นกองขยะขนาดใหญ่ 
     
    มันช่วยลดแรงกระแทกได้ดี และช่วยให้เขารอดมาได้


     
     
    "อ้ะ.....อ่าาาาา....Shitttt"
     
     
    แทฮยอนร้องและสบถออกมา 
     
    เพราะทุกครั้งที่เขาพยายามขยับตัว 
     
    ความเจ็บปวดก็แทรกตัวขึ้นมาทันที
     
     
     
    แทฮยอนเอามือข้างนึงกดไว้ที่บาดแผลเพื่อห้ามเลือด 
     
    ก่อนจะพยายามใช้แรงที่เหลือในตอนนี้พาร่างของตัวเองไปยังบันไดหนีไฟ 
     
    ก่อนจะกลับขึ้นไปบนห้องของตัวเอง 
     
    โดยที่ไม่ลืมจะหิ้วลูกแมวตัวจิ๋วตัวนั้นกลับมาด้วย
     



     
    "เป็นไรเจ้าแมวน้อย......แกไม่เป็นไรแล้วนะ"
     
     
     
    แทฮยอนพึมพำกับแมวตัวน้อย ก่อนจะหมดสติลงอีกครั้ง
     
    เนื่องจากเลือดที่ไหลออกมา 

    มันมากเกินกว่าที่สภาพร่างกายของเขาจะทนไหวในตอนนี้
     
     
    ------------------------------------------
     
    เช้าวันต่อมา
     
    มินโฮยังคงนั่งจมอยู่กับกองข้อมูลต่างๆ เขาเริ่มจับประเด็นสำคัญบางอย่างได้
     
    ผลชันสูตรของท่านสมาชิกวุฒิสภาเป็นศพเดียวที่มีกระสุนฝังอยู่ในตัว
     
    อีก 6 คนที่เหลือ กระสุนทะลุผ่านออกไป 
     
    ซึ่งถ้าถูกยิงจากมือปืนที่ซุ่มยิงในระยะเดียวกัน 
     
    ผลลัพธ์ที่ออกมา ไม่ควรจะเป็นเช่นนี้
     
     
     
    "หมวดคิม ผมฝากเช็คประวัติของท่านสมาชิกวุฒิธิสภาด้วยนะ"
     

    "เช็คให้ละเอียดว่ามีความขัดแย้งกับใครบาง"


    มินโฮคิ้วผูกเป็นปม สายตาก็จับจ้องแต่รายงานเอกสารต่างๆ

    พร้อมๆ กับให้ผู้หมวดในทีมช่วยหาข้อมูลสำคัญๆ ให้เพิ่ม
     





    "น่าจะเยอะเลยล่ะครับสารวัตร"
     

     
    คนเป็นลูกน้องกล่าวพร้อมกับสีหน้าเหนื่อยๆ 

    เพราะตอนนี้พวกเขาพวกเขาทำงานกันแบบไม่ได้หลับไม่ได้นอน 

    ซึ่งเวลาก็ล่วงเลยมาเกินกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว
     


     
     
    "แล้วก็ช่วยเช็คตึกโรงแรม K ด้วย"


    มินโฮออกคำสั่งพร้อมกับนั่งดูแผนที่ อยากครุ่นคิด 

    เขามีลางสังหรณ์แปลกๆ กับตึกนั้นอย่างบอกไม่ถูก
     



     
    "ตึกนั้นสูงสุดในโซลก็จริง แต่อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุกว่า 1367 หลา"
     

    "มันเทียบกับสนามฟุตบอล 13 สนามครึ่งเลยนะครับ"
     

    "มันเลยจากระยะทำการของปืน M24 ไปกว่า 500 หลา"
     
     

    หมวดคิม จินอู วิเคราะห์รายละเอียดอย่างคล่องแคล่ว 
     
    สมกับเป็นฝ่ายข้อมูลชั้นเยี่ยมในทีมสืบสวน
     
     


     
    "แต่ตึกนั้นก็อยู่ในวิถีของกระสุนปืน"
     
     
    "โอกาสที่สไนเปอร์จะยิงจากจุดนั้นแล้วเข้าเป้าได้ ก็ยังมีอยู่"
     

    "ถ้าไอ้ฆาตกรชั่วนั้น คำนวณแรงลม กับวิถีที่ลูกกระสุนตกได้ดี"
     

    "โอกาสจะฆ่าคนจากระยะไกลๆ แบบนั้น มันก็ทำได้"
     
     


     
    "แต่.....โอกาสเข้าเป้าคงมีแค่ 1 ในล้าน"
     
     
     
    จินอูวิเคราะห์ตาม โดยที่เห็นบางอย่างในสายตาของคนเป็นหัวหน้า
     


     
     
    "หรือ......สารวัตรคิดว่า....เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นฝีมือของคน คนเดียว"
     

     
    คนเป็นหัวหน้ายกยิ้มนิดๆ 
     
    ให้กับเพื่อนร่วมทีมที่ฉลาดและอ่านความคิดของเขาได้ทัน
     


     
     
    "ย่าส์......แบบนี้พวกมันจงใจสร้างสถานการณ์"
     

    "เพื่อให้ดูเหมือนเป็นการฆาตกรรมหมู่"
     

    "ทั้งๆ ที่เป้าหมายจริงๆ มีแค่ท่านสภาชิกวุฒิสภาคนเดียว"


    "ถ้าทฤษฎีนี้ถูกต้อง แล้วทำไมพวกมันต้องใช้สไนเปอร์ 2 คน"






    "นั้นแหละ.....ที่เราต้องการคำตอบ"


    "ฝากด้วยหมวดคิม"





    "ได้....ครับสารวัตร"
     
     
       
    จินอูรับคำสั่ง พร้อมกับทำหน้าที่อย่างแข็งขันต่อไป
     


     
    "แย่แล้วครับสารวัตร เกิดเรื่องใหญ่แล้ว"
     


     
    หมวดซึงฮุน วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น
     
    พร้อมกับรายงานว่าเกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมแบบเมื่อวาน 
     
    เหตุการณ์ทุกอย่างเหมือนกันถูกฉายซ้ำ 
     
    เพียงแค่เปลี่ยนสถานที่ ทำให้คนบริสุทธิ์ ต้องตายไปอีก 7 คน
     


     
    จากเหตุการณ์นี้ ทำให้น้ำหนักและประเด็นที่มินโฮสงสัยเมื่อครู่ถูกทำร้ายลงทันที


    ---------------------------------------------------
     
     
    1 สัปดาห์ต่อมา
     

    ทีมสืบสวนของมินโฮ ถูกเรียกเข้าประชุมด่วน 
     
    เพื่อรายงานความคืบหน้า
     
    ซึ่งในที่ประชุม ทีมของมินโฮถูกวิจารณ์อย่างหนัก 
     
    เพราะไม่สามารถสืบสวนหรือหาหลักฐานอะไรได้เลย 
     
    มีเพียงทฤษฎีและข้อสันนิฐานเท่านั้น ซึ่งมันไม่เพียงพอ
     
     
     
    ทีมสืบสวนของมินโฉถูกถอดออกจากการสืบสวนทันที 
     
    ด้วยคำสั่งของ ผบ.ตร. และยังถูกสั่งพักงานทั้งแผนกเป็นเวลา 6 เดือน 
     
    เพื่อแสดงความรับผิดชอบ
     

     
    เพราะตอนนี้สังคมและสื่อมวลชนต่างคาดหวัง และกดดันเป็นอย่างมาก 
     
    ทุกฝ่ายต่างอยากให้ตำรวจแสดงศักยภาพ
     
    โดยการจับตัวคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด
     
     
     
    มีการจัดแถลงข่าวปลดทีมของมินโฮ
     
    และนำทีมสืบสวนของสารวัตรซึงยูนมาทำหน้าที่แทน
     
     
     
    ซึ่งทีมสืบสวนใหม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ในระยะเวลาเพียง 3 วัน 
     

     
     
     
    ข่าวทุกสำนักต่างรายงานว่า คนร้าย คือ ทหารรับจ้างของเกาหลีเหนือ 
     
    เป็นคนที่ปัญหาด้านสุขภาพจิต 
     
    และเคยก่อเหตุใช้ปืนไรเฟิล ยิงเพื่อนบ้านตายไป 3 คน เมื่อ 3 ปีก่อน
     
     


     
     
    "แพะ......ก็แค่แพะรับบาป"
     
     
     
    มินโฮตบโต๊ะดังลั่น ทำเอาทุกคนในห้องประชุมสะดุ้งเฮือก
     
     


    "มินโฮ.....พวกเราไม่มีหลักฐาน เราปฎิเสธความจริงพวกนี้ไม่ได้หรอก"
     
     
    คนเป็นผู้กองก็ได้แต่นั่งกุมขมับ 
     
    เขาต้องใช้เส้นสายบวกกับการการขอร้อง อ้อนวอน
     
    ผู้บังคับบัญชาอย่างมาก เพื่อที่จะช่วยให้ลูกน้องในทีมของเขาไม่โดนไล่ออก
     
     
     

     
    "....โชคดี......ที่ทีมพวกนายเคยสร้างผลงานเอาไว้..."


    " ไม่งั้น.....ป่านนี้พวกนายคงได้ยุติอาชีพตำรวจแน่"
     
     




     
    "โชคดี....ที่พวกมันสร้างหลักฐานได้มากกว่า"
     
     
    "ผมไม่จบเรื่องนี้ง่ายๆ แน่"
     

    มินโฮยังคงพูดด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว
     
     


     
    "แต่.....พวกเราโดนสั่งพักงานกันหมดเลยนะครับ"
     
     
    จินอูพูดเบาๆ อย่างสลด 
     
    ขณะที่มินโฮได้แต่พยายามระงับสติอารมณ์ที่คุกรุ่น 
     
    แต่ดูเหมือนมันจะปิดบังสายตาของใครต่อใครไม่ได้เลย
     

     
    สาเหตุที่มินโฮเดือดดาดขนาดนี้ 
     
    เพราะเขาและทุกๆ คนในห้องประชุมนี้ต่างก็รู้ดีว่า
     
    สารวัตรซึงยูนนั้นกินนอกกินในอยู่กับนักการเมืองและนักธุรกิจหลายๆ ฝ่าย
     

     
    คดีนี้......ถูกปิดด้วยลงด้วยความไม่ยุติธรรม
     
     
    --------------------------------------


     
    "ป้าครับ โซจู 3 ขวด เอาปลาหมึกมาด้วยจานนึงครับ"
     
     
    มินโฮที่ถูกพักงาน เขาเลยออกมานั่งดื่มเงียบๆ คนเดียว ที่ร้านข้างทางเล็กๆ
     


     
    "ป้าาาาาครับ.....ผมขอ....ขอโซจูเพิ่มอีกขวด"
     


     
    "ไหวมั้ยพ่อหนุ่ม......ดื่มไปเยอะแล้วนะ"
     


     
    มินโฮหันไปตามเสียงของหญิงวัยกลางคนเจ้าของร้านทันที
     



     
    "ไหววววครับ....."
     
     
    "นี่ครับ....เงิน.....ไม่ต้องทอนนน"
     
     
    มินโฮเห็นเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่อีกฝั่งของร้าน 
     
    ซึ่งมานั่งดื่มคนเดียว แต่มีขวดโซจูที่ถูกเปิดแล้วดื่มไปแล้วเกือบ 10 ขวด
     



    "ป้าาาาา ครับ ขอเบียร์หน่อยยย"
     
     
    "ขอเบียร์ด้วย"
     

    โซจูหมดก็สั่งเบียร์ต่อ มีเพียงอาหารเท่านั้นที่เด็กนั้นไม่สั่งเพิ่ม
     
    ปลาหมึกสดในจานของโต๊ะเด็กคนนั้น คืบคานยั่วเยียไปมา 
     
    จนจะออกมานอกขอบจานอยู่แล้ว

    แต่เด็กคนนั้นก็จับปลาหมึกตัวเล็กๆ นั่นโยนลงไปในจานเหมือนเดิม 
     
    แล้วก็กระดกดื่มไปเรื่อยๆ ......



    เขาไม่กินอาหารต้องหน้าเลยสักนิด 
     
    ทำเหมือนกับว่าสั่งปลาหมึกมานั่งเป็นเพื่อนเสียอย่างนั้น 
     
    แถมยังคอยดูแลเพื่อนปลาหมึกตัวจิ๋วในจานเป็นอย่างดี
     

     
     
    "เออ.....แปลกคน....ท่าทางจะเมาจริงเว้ย"
     

     
    มินโฮพึมพำ พร้อมยกยิ้มนิดๆ 

    เขาดูชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้นอย่างเพลิดเพลิน 
     
    ราวกับว่า ได้นั่งดูคนเมาเล่นตลก 

    ซึ่งทำให้ความเครียดของเขาหายไปนิดนึง
     


     
     
    เบียร์ถูกสั่งมาเพิ่มขวดแล้วขวดเล่า จนถึงเวลาที่ร้านต้องปิด 
     
    มินโฮก็ดื่มไปไม่น้อย
     
    เขาเดินออกจากร้านและตกอยู่ในสภาวะตึงๆ 
     
    และเขาก็ต้องเอามือขึ้นมาตบหน้าตัวเองแรงๆ 2-3 ที 
     
    เพราะภาพตอนนี้ตรงหน้าเขามันสั่นไหวโครงเครงไปหมด
     


     
     
    "เชี่ยยยย......นี่กุมาววว...หรือไอ้เด็กนั้นเดินไม่ตรงว่ะ"
     
     

     
    มินโฮพยายามหยุดเดิน และยืนให้ตรงและนิ่งที่สุด 
     
    พร้อมกับเพ่งสายตาไปที่คนด้านหน้า
     



     
    "สวัสดีแมวววววว......สบายดีป่าวววว"
     
     

    มินโฮหลุดขำออกมา เขามั่นใจแล้วว่า 
     
    คนที่เมามากกว่าไม่ใช่เขาแน่ๆ
     
     
     
    เพราะไอ้เด็กที่นั่งเลี้ยงปลาหมึกเมื่อกี้เดินเซไปเซมา 
     
    ราวกับว่าพื้นโลกมันเอียงได้ทุกๆ 2 วิ 

    และจบด้วยการลงนั่งคุยกับหมาแต่ดันทักว่าเป็นแมว

     


     
    "อ้าวววว.....ไปไหนอ่าาาาา"
     
     
    "ไอ้แมวตัวน้อย ....ช่วยฉันแล้วก็หายไปนะ"

     
     
    หมาแก่ตัวโต มองคนเมาอย่างสงสัย.....  

    ก่อนที่มันจะเดินจากไป......
     
    ปล่อยให้คนเมาบ่นไปเรื่อยเปื่อย 

    ด้วยเสียงพูดที่อ่อแอ้ แต่ก็ยังพอฟังรู้เรื่อง 



    มินโฮนึกสนุกจึงหยุดดูด้วยความอยากรู้และสงสัยว่า
     
    ไอ้เด็กคนนี้จะเล่นบทเพี้ยนอะไรต่อ
     
     

     
    "ถังขยะเปียก......ซารางเง"
     
     

     
    "ฉันชื่อ......นัม แทฮยอนนะ"
     
        
     
     
     
     
    -------------------To Be Continued------------------
     
     
     
     
     
     
    >>>> ฮ่อลลลลล อยากเขียนแนวนี้ หนีมาเปิดเรื่องใหม่ ซะงั้น????

    สืบสวน สอบสวน+แอคชั่น + คอมเมดี้

    เราจะไหลไปเรื่อยๆ ค่ะ :)



    พลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะ

    ตัดตอนสั้นไปมั้ยค่ะ แอบกลัว - -"


     
     


     
    >>>> คอมเม้นท์ได้เลย

    >>> คุยได้นะค่ะ 

    >>>ทวิตมีแล้ว @yayoyao86 

    ^___^


        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×