คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เด็กน้อยเรืองฤทธิ์ [100%] [Re-Write]
“ทำไมวันนี้คุณเจ้านายถึงหน้าบูดเป็นตูดลิงอย่างนั้นล่ะครับ ฮ่าๆๆ” เลขาประจำตัวของภาคิณเอ่ยแซวเมื่อเห็นหน้าของบอสที่เพิ่งเดินเข้ามา
“นั่งหน้าดำต่อไปเหอะ ไม่ต้องมาแซวคนอื่น - -“ ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเซ็งๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง
หลายคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมเจ้านายกับลูกน้องถึงพูดคุยกันโดยไม่มีท่าทีเคารพกันซักนิด จริงๆมันก็ไม่แปลกเท่าไหร่หรอกในเมื่อ กัน นภัทร เป็นเพื่อนสนิทของโตโน่มาตั้งแต่ม.1 พอเรียนจบเค้าเลยเสนอให้เพื่อนมาเป็นเลขาให้เค้าหน่อยซึ่งมันก็ตอบตกลงแทบจะทันทีทั้งๆที่ความรู้ของเจ้าตัวสามารถไปนั่งแท่นเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทอื่นได้สบายๆ แต่มันก็ยังเลือกจะเป็นเลขาเค้าโดยให้เหตุผลว่า จะได้โดดงานได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนไล่ออก =__=**
“เออๆไม่แซวแล้วก็ได้ว่าแต่มึงเป็นไรวะ คุณนายน้อยสร้างเรื่องให้อีกเหรอไง?” ร่างโปร่งถามอย่างรู้ทัน
“ก็เออดิ!!! อยู่ดีๆก็บอกว่าจะไปเที่ยวตามประสาแม่ม่ายกับคุณนายลำไยข้างบ้าน แต่เท่านั้นก็ไม่แย่เท่ากับการที่ไอ้เด็กริทตัวแสบจะต้องมาอยู่บ้านกูเป็นเวลา 1 เดือนด้วยน่ะสิ!!!”
“ห๊า?? ริท...เด็กข้างบ้านที่มึงบอกว่าชอบกวนประสาทมึงน่ะเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ! แม่งเซ็งชิบหายเลย” กันเห็นเพื่อนซึมๆจึงเดินเข้าไปตบไหล่หนาเบาๆ
“เอาหน่าๆ มันอาจจะไม่แย่อย่างที่มึงคิดก้อได้นะ”
“แย่มากกว่าที่คิดน่ะสิ!! มึงก็รู้ว่ากูเกลียดหมอนั่นมากๆ” นภัทรหัวเราะน้อยๆก่อนจะเอ่ยคำบางคำชิดหูเพื่อน
“เกลียดอะไรมักจะได้อย่างนั้นนะคุณภาคิณ ฮ่าๆ >[]< นี่อาจจะเป็นบุพเพสันนิวาสก็ด๊ายย” ตาเรียวตวัดสายตามองหน้าเพื่อนของตัวอย่างเคืองๆ
“บุพเพพ่อง....มึงสิไอ้กัน!! ไปๆๆเลิกแซวแล้วไปทำงานทำการได้แล้ว”
“คร้าบบบบ คุณเจ้านาย ฮ่าๆๆ^[]^”
บางที...นี่อาจจะเป็นพรหมลิขิตก็ได้นะโตโน่ ภาคิณ ที่มันลิขิตมาเพื่อให้นายกับริทได้คู่กันยังไงล่ะ....
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“กลับมาแล้วค้าบบ อ๊ะ...กลิ่นอะไรวะเหมือนกลิ่นไหม้เลย” ร่างสูงยกมือขึ้นปิดจมูกเพราะความเหม็นที่เหมือนกลิ่นไหม้มันรุนแรง ก่อนจะตัดสินใจเดินตามกลิ่นไปซึ่งกลิ่นก็มาจากห้องครัวนั่นเอง
“ตาเถร!!!!!!!!! ครัวไหม้!!!!!!!!!! ทำอะไรของนายวะไอ้คุณเรืองฤทธิ์??!” โตโน่แหกปากอย่างตกใจเมื่อมาเห็นสภาพห้องครัวเต็มตา กระทะเล็กๆที่ตั้งอยู่บนเตานั้นกำลังลุกไหม้โดยที่มีร่างเล็กยืนไอค่อกแค่กอยู่
“แค่กๆ โอ๊ยย จะแหกปากหาพระแสงเร๊อะไอ้ตี๋ตาตี่ เอาน้ำมาช่วยกันดับเด๊!!” ร่างสูงรีบลนลานหาน้ำตามที่เจ้าเด็กแสบบอกทันที ก่อนจะเดินไปกระชากตู้เย็นแล้วหยิบน้ำ 2 ขวดใหญ่มาราด
“ซู่วววววววว!!!” ไฟที่ลุกไหม้ตอนนี้ได้ดับลงแล้วเหลืออยู่นิดหน่อย ริทก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาตบๆ ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงกระทะดำๆและครัวไหม้ๆ - -*
“ฟู่ววว!! รอดไป ว่าแต่....นายเข้ามาทำอะไรในห้องครัวบ้านฉันห๊ะ??” เมื่อปฏิบัติการกอบกู้?ห้องครัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โตโน่ก็หันมาตวาดใส่ตัวการทันที
“ถามแปลกๆ เข้าห้องครัวนี่มานอนมั้ง - -“ คนตัวเล็กตอบอย่างไม่มีความรู้สึกผิดแฝงอยู่แม้แต่น้อย - - ก่อนจะเดินออกจากห้องครัวไปซะเฉยๆ
เอ๋อแดกสิครับ ภาคิณ =__=;;
“นี่ๆ หยุดเดินแล้วมาคุยกันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้นะ ริท เรืองฤทธิ์” ร่างสูงก้าวยาวๆไปคว้าคนตัวเล็กไว้ก่อนจะลากไปยังห้องนั่งเล่นกลางบ้าน
“โอ๊ย!! เจ็บนะ” เด็กหนุ่มมุ่ยหน้าด้วยความเจ็บเมื่อโดนแรงมหาศาลของร่างสูงกดลงให้นั่งลงบนโซฟา
“ต่อจากนี้ 1 เดือนเราต้องอยู่ร่วมกัน เพราะงั้นฉันคงต้องขอตั้งกฎระเบียบอะไรซักหน่อยนะ”
“กฎบ้ากฎบออะไรของลุง? ไม่ฟังอ่ะจะกินข้าว หิวว” โตโน่มองคนที่ทำท่าเป็นเด็กอย่างไม่อยากเชื่อว่าคนๆนี้จะอายุ 17 แล้ว - -***
“นี่!! มองไรอ่ะ ไปหาข้าวมาให้ผมกินหน่อยสิ คนบอกว่าหิวอ่ะ หิวววว ไม่เข้าใจหรือไง” เสียงแหบตะโกนขึ้นมาขัดความคิดของร่างสูงทำให้โตโน่สะดุ้งน้อยๆ
“ขอโทษเหอะ นี่มันบ้านกระผมนะครับ อยากกินก็ไปหากินเองดิ”
“ได้....งั้นผมจะไปทอดไข่” พูดจบก็ทำท่าจะลุกขึ้นไปทำอย่างที่ว่าจริงๆแต่ร่างสูงกลับกดร่างเล็กให้นั่งลงตามเดิม
แค่เมื่อกี๊ก็ไหม้ไปกว่าครึ่งแล้วนะครับถ้าปล่อยให้ไปทอดอีกมีหวังไม่เหลือ....
“เดี๋ยวฉันจะไปทำให้ แต่นายต้องนั่งฟังกฎของฉันก่อน ตกลงไหม?”
“ก็ได้ มีอะไรว่ามา” ว่าแล้วคนตัวเล็กก็นั่งไขว่ห้างอย่างเชิดๆ
“ข้อแรก นายห้ามทำกับข้าวเด็ดขาดถ้าหิวก็ซื้อเข้ามากินหรือจะโทรสั่งเอาก็ได้ ถ้าวันไหนฉันว่างฉันจะทำให้นายกินเอง ตกลงไหม?”
“ก็ดี ขี้เกียจอยู่พอดี”
“เฮ้อออ ข้อสอง นายห้ามร้องเพลง เต้น หรืออะไรก็ตามที่จะก่อให้เกิดมลพิษทั้งทางเสียงและทางสายตา....”
“ไม่มีทางอ่ะ ผมจะร้อง! ผมชอบร้องเพลง ลุงจะทำไม? ของแบบนี้ห้ามกันได้ด้วยเหรอ” ร่างเล็กรีบพูดแทรกขึ้นมาทันที ทำให้ชายหนุ่มต้องเอามือขึ้นมากุมขมับอย่างเครียดๆ
“ก็ได้ๆ จะร้องจะเต้นหรือจะทำบ้าอะไรก็แล้วแต่นายเหอะ แต่ห้ามร้องตอนที่ฉันยังไม่ตื่นเข้าใจ??”
“ไม่เข้าใจ!!!” เออดี ขอบคุณว่ะ = =’’
“นายไม่มีสิทธิค้านฉันหยวนให้นายขนาดนี้แล้วนะ หรือนายอยากไปนอนนอกบ้าน?”
“เออๆก็ได้วะ คนแก่อะไรใจร้ายชะมัด” ริทบ่นกระปอดกระแปดอย่างเซ็งๆ ทำให้คนที่ถูกเรียกว่าแก่ถึงกับสะดุ้ง
ดูคุณเธอพูด 25 นี่แก่เหรอวะ -*-?
“ข้อต่อไป นายห้ามหยิบจับหรือทำการซุกซนอะไรก็ตามที่จะทำให้บ้านฉันเกิดความเสียหาย”
“เออๆหมดยังเนี่ยหิวข้าวจะแย่แล้วน๊า”
“ข้อสุดท้าย ห้ามนายเข้ามายุ่มย่ามกับห้องของฉันไม่ว่าจะกรณีใดๆทั้งสิ้น แค่นี้ล่ะทำได้ไหม??”
“ไม่ได้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” คราวนี้เสียงหวานกลับตะโกนขึ้นมาซะดังทำให้ร่างสูงถึงกับผงะ
“อะไรไม่ได้??”
“ก็ห้ามยุ่มย่ามกับห้องลุงน่ะแหล่ะไม่ได้ ผมจะนอนห้องลุง ไม่รู้ล่ะ”
“เฮ้ยยยย ได้ไง นายก็นอนห้องพักแขกสิ” ร่างสูงเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ เรื่องอะไรจะยอมให้เด็กข้างบ้านตัวแสบอย่างนายนี่มานอนห้องเค้าล่ะ
“ก็ห้องลุงมันอยู่ติดกับห้องผมนี่หน่า ผมชอบวิวอ่ะมันสวยที่สุดแล้ว อีกอย่างห้องลุงก็ใหญ่ที่สุดในบ้านด้วย ผมชอบนอนห้องใหญ่ๆ” ดูเหตุผลคุณเธอสิครับ - -
“ยังไงๆก็ไม่ได้ นายต้องไปนอนห้องรับรองแขกหรือไม่ก็ห้องแม่ฉันเท่านั้น”
“แต่ผมจะนอนห้องลุง”
“ไม่ได้”
“จะนอนๆๆๆ”
“ไม่ได้ๆๆๆๆๆ”
“ไม่รู้ จะนอนอ่ะ”
“ก็บอกว่าไม่ได้ไงล่ะเว้ยยย พูดแค่นี้ไม่เข้าใจเหรอ ปัญญาอ่อนหรือไง ห๊า??????” โตโน่แหกปากอย่างสุดทนเมื่อร่างเล็กไม่ยอมเลิกเถียงซักที
“...............................” เด็กหนุ่มนิ่งไปเมื่อโดนตวาด ปลายหางตากลมมีน้ำตาซึมเล็กน้อย
“เฮ้ยย ร้องไห้ทำไม?” ร่างสูงตะโกนเสียงหลงอย่างตกใจเมื่อเห็นน้ำตาของอีกฝ่าย ให้ตายเหอะ....เค้ายิ่งเป็นโรคแพ้น้ำตาอยู่ด้วย
“ฮึ่กๆๆ คนใจร้าย!! ทำไมต้องว่ากันด้วยเล่า ผมก็แค่ชินกับบรรยากาศเหมือนห้องผมแค่นั้นเอง ฮึ่ก....ห้องลุงก็ออกจะใหญ่ ตะ....ฮึ่กๆๆ....ตัวผมก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก ลุงจะแบ่งห้องให้ผมไม่ได้เลยเหรอ ฮือออ” พูดจบก็ปล่อยโฮออกมาเสียยกใหญ่ ทำให้คุณชายภาคิณถึงกับลนลานทำอะไรไม่ถูก
ตายห่าแล้ว ไปทำลูกเค้าร้องไห้ ทำไงดีวะเนี่ย ร่างสูงคิดอย่างเครียดๆก่อนจะรั้งคนตัวเล็กมากอดไว้แล้วเอาหน้าตัวเองแนบลงกับแก้มใสเบาๆ ใช้วิธีนี่แม่ยังหยุดร้องเลย เพราะงั้นเอามาใช้กับเจ้าตัวเล็กคงได้เหมือนกันมั้ง - - (คิดผิดแล้วเฮีย 555)
“ก็ได้ๆ หยุดร้องนะ เฮ้อ....อยากนอนก็นอน” เด็กหนุ่มหน้าแดงขึ้นมาเมื่อจู่ๆศัตรูตลอดการอย่างโตโน่กลับมาทำอ่อนโยนด้วยแบบนี้ มือเล็กดันอกหนาออกก่อนจะส่งยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ไปให้
“ลุงสัญญาแล้วนะ เพราะงั้นไปทำกับข้าวให้ผมกินได้แล้ว หิววว” โตโน่มองหน้าคนที่จู่ๆก็เปลี่ยนโหมดไม่บอกไม่กล่าวอย่างงงๆก่อนจะเดินกลับเข้าไปที่ห้องครัวอีกครั้งเพื่อทำอาหาร
ตกลงว่ากูช่วยดูแลลูกเพื่อนแม่หรือดูแลเด็กอนุบาลกันแน่วะเนี่ย =*=???
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ริท นายนอนที่โซฟานะ เดี๋ยวฉันไปเอาผ้าห่มกับหมอนมาให้” ร่างสูงที่ตอนนี้มีผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวพันอยู่รอบเอวเพราะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ พูดกับคนตัวเล็กที่กำลังนอนดูการ์ตูนอยู่บนโซฟา ร่างเล็กกระเด้งตัวขึ้นจากโซฟาทันทีหลังฟังคำของร่างสูง ก่อนจะวิ่งไปล้มตัวลงบนเตียงนอน
“เฮ้ย!! ฉันบอกให้นายนอนที่โซฟาไง ลงไปจากเตียงฉันเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ยยย” ชายหนุ่มตะโกนอย่างฉุนๆ แต่คนบนเตียงกลับไม่สนใจฟังแถมยังกลิ้งตัวไปมาบนเตียงนอนอีกต่างหาก
“โห่วว ลุงคิณ เตียงลุงก็ออกจะกว้าง ผมก็ตัวเล็กนิ๊ดเดียว แบ่งๆกันนอนไม่ได้เหรอไง?” ริทพูดพลางเงยหน้าขึ้นยักคิ้วให้อีกฝ่ายอย่างกวนๆ
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้สิ ฉันไม่ชอบนอนเตียงร่วมกับใคร ถ้าไม่ใช่สาวๆล่ะก็...หมดสิทธิ!”
“ลุงแม่งง คิดถึงแต่เรื่องอย่างว่า อุบาทว์ว่ะ! เตียงเค้ามีไว้นอนนะลุง ไม่ได้มีไว้สืบพันธุ์อย่างเดียว ลุงโรคจิตอ่ะ!” ร่างเล็กพูดพลางทำหน้าขยะแขยง ทำให้ร่างสูงทนไม่ไหว เดินไปเขกกบาลงามๆหนึ่งที
“นี่แหน่ะ! อุตส่าห์ไม่ว่าที่เรียกลุงแล้วนะ ยังจะมาด่ากันอีก ถ้าไม่พอใจนอนที่โซฟาก็เชิญย้ายก้นของนายไปนอนห้องพักแขกข้างล่างเลยไป๊!!” ปากบางเบ้ออกอย่างงอนๆ ก่อนจะกระโดดลงจากเตียง
“ลุงคิณแม่ง...ใจร้าย ชอบทำร้ายเด็ก คอยดูนะ ถ้าน้าน้อยกลับมาผมจะฟ้องให้หมดเลย ว่าลุงแกล้งอะไรผมไว้บ้าง” พูดจบก็คว้าผ้าเช็ดตัวที่อยู่ใกล้มือแล้วเดินปึงปังเข้าห้องน้ำไปทันที
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++
“.............................”
“................................”
“..............................”
“ลุง....หลับยัง???”
“.........................”
“ลุง...ลุงคิณ....หลับยัง??” เสียงเล็กๆดังฝ่าความมืดออกมา ทำให้ร่างสูงที่กำลังสะลึมสะลือจวนเจียนจะหลับเต็มที่ต้องลืมตาขึ้นมาตอบออกไปอย่างรำคาญ
“จะเรียกทำไมนักหนาเนี่ย คนจะหลับจะนอน”
“.............................” ไม่มีเสียงตอบรับจากคนตัวเล็ก แต่กลับได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามาใกล้เตียงแทน
“ลุง...ผมขอนอนบนเตียงด้วยคนนะ” ชายหนุ่มเด้งตัวขึ้นมานั่งบนเตียงก่อนจะควานมือไปเปิดโคมไฟบนโต๊ะใกล้หัวเตียงหวังจะด่าเด็กแสบที่ไม่ยอมจบเรื่องที่นอนซักที แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นแววตาของคนตัวเล็กแดงกล่ำใกล้จะร้องไห้เต็มที
“เป็นอะไรของนายเนี่ย??” ร่างเล็กไม่ตอบแต่กลับสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกับร่างสูง พลางกอดแขนล่ำอย่างออดอ้อน
“ให้ผมนอนด้วยคนนะลุง รับรองว่าผมจะไม่ดิ้น ไม่แตะตัวลุงเลย....ผม....กลัว....” ปลายประโยคเบาลงจนแทบไม่ได้ยินทำให้โตโน่ต้องถามซ้ำอีกครั้ง
“ห๊ะ...กลัวอะไร?”
“ผมกลัวความมืด!! พอใจยัง? เพราะงั้นผมเลยนอนคนเดียวไม่ได้ไง....นี่!! หยุดขำเดียวนี้นะลุง!!” เสียงเล็กแว้ดขึ้นมาอย่างอายๆเมื่อจู่ๆคนตรงหน้าก็ขำออกมาไม่หยุด
“ฮ่าๆ โทษทีๆ ก็ฉันไม่คิดนี่ว่าเด็กแสบอย่างนายจะกลัวความมืด ฮ่าๆๆๆ”
“ขำพอยังลุง? ผมง่วง นอนเหอะ” พูดจบก็ล้มตัวลงบนเตียงนอนพลางหันหน้าหนีไปอีกทาง
ร่างสูงสังเกตเห็นร่างกายที่อยู่ภายใต้ผ้านวมผืนใหญ่สั่นเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะไม่เคยชินกับสถานที่ แถมยังกลัวความมืดอีก ทำให้เกิดอาการตัวสั่นแบบนี้...เด็กก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำนั่นแหล่ะหน่า.... มือใหญ่สอดมือเข้าไปใต้ผ้าห่มก่อนจะลูบหัวเล็กๆเป็นเชิงปลอบใจ
“ขอโทษที่หัวเราะ ความมืดมันไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกนะ อีกอย่างตอนนี้นายก็ไม่ได้อยู่คนเดียวซักหน่อย ฉันก็นอนอยู่ข้างๆนายทั้งคนนะ” พูดไปพลางลูบหัวไปพลางซักพักร่างเล็กก็หยุดสั่น เมื่อเห็นดังนั้นชายหนุ่มจึงเอามือออกก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกคน
“นี่ลุง...”
“หื้อ???”
“ขอมือหน่อยดิ” ยังไม่ทันได้ถามว่าขอไปทำไม มือเรียวก็คว้ามือหนามากุมไว้ซะเองก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงจนเหลือแต่ส่วนผมที่โผล่ออกมาจากผ้าห่ม
“ราตรีสวัสดิ์นะลุงคิณ”
ร่างสูงยิ้มให้กับความมืดเล็กน้อย ทั้งๆที่ไม่เคยชินกับการนอนร่วมกับคนอื่นแถมมือยังโดนยึดไปอีก ทำให้จะพลิกตัวนอนท่าที่ถนัดก็ไม่ได้ แต่เค้าก็ไม่คิดที่จะปลดมือเรียวนั่นออก กลับกัน...ชายหนุ่มกลับกระชับมือบาง
ให้แน่นขึ้นไปอีก...........คืนนี้มันอบอุ่นกว่าทุกวันนะ...ว่าไหม?
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++
“วันนี้เข้าเช้านะครับ คุณประธานบริษัท” กันเอ่ยแซวเพื่อนสนิทที่เดินหน้าบูดเข้ามาในออฟฟิศ
“กูไปส่งเด็กแสบที่โรงเรียนมันมาเว้ย! แม่งเอ๊ยยย โรงเรียนห่าอะไรวะเข้าเรียน 7 โมง ไอ้เด็กบ้านั่นแม่งก็ปลุกกูขึ้นมาทำกับข้าวให้มันกินตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง เพื่อที่จะเอามันไปส่งให้ทัน 7 โมง เชี่ยแม่งง วงจรชีวิตกูรวนหมดแล้วเนี่ยย” โตโน่กระแทกตัวลงบนเก้าอี้ก่อนจะฟุบหน้าลงบนโต๊ะอย่างเซ็งๆ
“เอาหน่ามึง ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีไง ถ้าเป็นปกติ 9 โมงมึงก็ยังกลิ้งอยู่บนเตียงอยู่เลย เอางี้ดีกว่า...วันนี้ไปผับของเจ๊เอกกี้กัน เจ๊แกบ่นหานายมาหลายวันละ บอกว่าเดี๋ยวนี้ลูกค้ากระเป๋าหนักอย่างนายไม่ค่อยไปร้านเลย”
เจ๊เอกกี้เป็นเจ้าของผับหรูชื่อดังย่านรัชดาที่ไม่ว่าไฮโซคนไหนก็ต้องรู้จัก ทั้งเค้าและโตโน่ไปเยี่ยมผับของเจ๊แกประจำ และไปแต่ละครั้งก็สร้างรายได้ให้กับผับเจ๊แกมากมาย พวกเค้าสองคนเลยกลายเป็นซุปเปอร์เมมเบอร์ของร้านไปโดยปริยาย
“เออ...ก็ดีเหมือนกันว่ะแม่ง...ช่วงนี้กูกำลังเซ็งๆอยู่พอดี เลิกงานแล้วไปกัน”
“เออ...งั้นกูไปทำงานต่อก่อนนะ” ชายหนุ่มพยักหน้าให้เพื่อนเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มลงมือทำงานที่ค้างอยู่ของตนบ้าง
++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++
+++++
“ต๊ายยย โตโน่สุดหล่อของเจ๊ หายหน้าหายตาไปนานเลยน๊า” ชายหนุ่มรูปร่างท่าทางอ้อนแอ้นเดินเข้ามาทักทั้งกันและโตโน่อย่างสนิทสนม
“ชวนนี้ผมยุ่งๆอ่ะเจ๊เลยไม่ได้มา วันนี้ขอเหมือนเดิมนะ”
“ได้จ้ะ เดี๋ยวจะจัดเด็กนั่งดริงค์แจ่มๆไปให้เลย!” ร่างสูงพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินไปนั่งในโซนลูกค้าวีไอพี
“เออ....กูว่าจะถามมึงตั้งนานละ แต่ลืมถามว่ะ....มึงไม่ต้องไปรับริทเหรอวะ?”
“เชี่ยแม่ง!! กูลืม” โตโน่สบถออกมาอย่างตกใจ พลางยกนาฬิกาขึ้นมาดูทันที
“2 ทุ่ม!! ห่าเอ๊ยย กูบอกจะไปรับมันตอน 6 โมง ทำไงดีวะ?”
TBC…Part 2
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++
TalK
ญ่ารีไรท์ใหม่ตอนช่วงต้นนะคะ เปลี่ยนสรรพนามที่ริทใช้เรียกเฮียค่ะ แบบนี้มันดูน่ารักแกมกวนนิดๆมากกว่าเรียกฉันกับนายอ่ะ 5555+
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ความคิดเห็น