อาณาจักรเล็กๆในตู้หนังสือ (รีวิวหนังสือ)

ลำดับตอนที่ #15 : รีวิว...หนึ่งหทัยมังกร : กะรัต (แนว Chinese Period)

หนึ่งหทัยมังกร

ผู้เขียน : กะรัต

สำนักพิมพ์คำต่อคำ

… คำโปรยปกหลัง…

เมื่อหนึ่งสตรีที่หมายปองกลับต้องพระทัยองค์จักรพรรดิ แม้สละสิ้นอำนาจราชศักดิ์  เซวียเสวี่ยจิ้ง ก็ยอมแลก ขอเพียงได้สมรักกับนางในดวงหทัยอย่าง ฉวนลี่ถิง ทว่าชีวิตเยี่ยงราชนิกุลกฎระเบียบเป็นดั่งโซ่พันธนาการ ยังมีหลายชีวิตของข้าติดตามและราษฎรที่ต้องห่วงใยกระทั่งหนึ่งลมหายใจก็ยากใช้ต่อรองกับผู้เป็นใหญ่เหนือหล้า หรือสุดท้ายท่านอ๋องอย่างเขาต้องหักใจปล่อยมือ

เพื่อดำรงไว้ซึ่งคำว่า...ภักดี

ราวกับโชคชะตาได้พาฉวนลี่ถิงมาพบเขา เสวี่ยอ๋อง รูปงามผู้กุมหัวใจอันเฉยชาของนางแต่ความรักที่มากอุปสรรคด้วยฐานันดร และเหล่าสาวงามที่หมายมาดอยากเป็นชายา ภัยร้ายอาจพุ่งสู่เขาหากนางดื้อดึงจะครองคู่ ทว่าหนึ่งคำสัญญาที่ให้ไว้กับพี่สาวซึ่งตายจาก กลายเป็นเชือกรัดนำชีวิตสู่กระแสสวาทแห่งวังหลัง

นางอาจต้องฝืนใจยอมทอดกายลงบรรจถรณ์ทองคำ เพื่อหลานตัวน้อยและคนรัก...

ดั่งคนสูญวิญญาณ...

 

งานหนังสือวันสุดท้าย งานรีวิวก็ต้องมาค่ะ...

ต้องออกตัวก่อนว่า นาตนงเคยรีวิว 2 เรื่องก่อนหน้าไว้ใน Facebook ของตัวเองค่ะ สามารถกดลิงค์ไปอ่านกันได้ค่ะ

“ดวงใจรักจ้าวยุทธ์”

“ยอดพธูจอมทัพ”

นิยายลำดับที่ 3 เซ็ตนี้ เป็นเรื่องของ เสวี่ยอ๋อง กับ ท่านหญิงฉวน ต้องออกตัวก่อนว่าพัฒนาการของนักเขียนดีขึ้นมากค่ะ พล็อตเรื่องแน่นขึ้น มีความสมเหตุสมผลมากขึ้น ทั้งยังให้กลิ่นอายจีนที่มากขึ้นด้วย

ความน่าสนใจของนิยายเรื่องนี้อยู่ตรงที่คนเขียนไม่ได้ชูโรงแค่พระเอกและนางเอก แต่ปมหลักๆอยู่ที่สงครามวังหลังโดยมีนางเอกเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญ จากนิยายเรื่องก่อนหน้า นาตนงได้เสนอประเด็นเกี่ยวกับปูมหลังของตัวละคร ซึ่งอยากให้ผู้เขียนเพิ่มเติมลงไปเพื่อให้ตัวละครมีมิติมากขึ้น ขอบอกว่าเล่มนี้ทำได้ดีมากค่ะ มีการสอดแทรกความรู้ผสมผสานกับความสามารถของนางเอกได้ค่อนข้างเนียนเลยทีเดียว ทำให้เราเห็นภาพของ ‘ฉวนลี่ถิง’ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ส่วน ‘เสวี่ยอ๋อง’พระอนุชาขององค์จักรพรรดิ พูดเลยยยยยย นาตนงเห็นแววความเก่งกาจมาตั้งกะเล่มแรกแล้ว แต่ยังไม่ได้โชว์ความสามารถอะไรมากพอมาเล่มนี้ก็โอเคได้เห็นท่านอ๋องจับกระบี่ เท่ใช้ได้เลย แถมคารมคมคายเวลาตอบโต้กับพระชนนีและจักรพรรดิค่อนข้างแสดงให้เห็นว่าเฉลียวฉลาดและถ่อมตัวอันเป็นบุคลิกสำคัยเลยทีเดียว เรื่องความหวาน...อ่านไปท้ายๆเล่มเริ่มหมั่นไส้ “เยอะไปนะเพคะ หมั่นเจงๆ” แต่ก็นะเป็นบุรุษที่แน่วแน่และรักเดียวใจเดียวนี่มันดีงามจริงๆ

เมื่อเทียบกับ 2 เรื่องก่อนหน้าแล้ว นาตนงชอบเล่มนี้มากกว่าค่ะ เทคะแนนให้กับการพัฒนางานเขียนรัวๆ เพราะมันพิสูจน์ว่านักเขียนทำการบ้านหนักขึ้น นอกจากนี้นาตนงยังเทคะแนนรัวๆ ให้กับตัวละครหลักในเรื่องด้วย ขอบอกกกกกนาตนง #ทีมพระมเหสีค่ะ เป็นตัวละครที่อ่านแล้วรู้สึกทั้งรักและสงสาร พูดจากใจว่าอินกับชะตากรรมของนางมาก เลยเชียร์ตลอดตั้งแต่เปิดตัว ใจหนึ่งก็กลัวนะว่าคนเขียนจะหักหลังเรามั้ย ทำให้นางกลายเป็นตัวละครร้ายที่สุดไรเงี้ย แต่พออ่านแล้วไม่มีการหักหลังเกิดขึ้นค่อยโล่งหน่อย ส่วนตัวที่เกลียดมาก...จะใครล่ะคะ ก็องค์จักรพรรดิผู้มักมากในสตรี อะหือออออ ฮีนี่ตัวสร้างปัญหา เอาแต่ใจ เอาแต่อารมณ์ ชอบเอาชนะ น่าหมั่นไส้สุดๆ เหมาะแล้วแหละกับตัวละครที่ไม่รู้จักความรักเลย

หากถามว่าพล็อตเรื่องนี้ซับซ้อนมากแค่ไหน...นาตนงก็ต้องบอกว่าไม่ได้ซับซ้อนมากค่ะ ตัวร้ายตัวไหน มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรคนเขียนไม่ได้หลอก เราสามารถอ่านแบบสบายๆแล้วก็สนุกไปด้วย แต่ถ้าใครไม่ได้อ่าน 2 เล่มแรก อาจจะมีงงๆ อยู่บ้าง เพราะว่าทั้ง 3 เรื่องนี้มี ไทม์ไลน์ที่คาบเกี่ยวกัน เหตุการณ์ต่างๆ จึงมีการถูกกล่าวถึงอยู่บ้าง แต่ก็นับว่าผู้เขียนได้กล่าวถึงโดยให้รายละเอียดพอเข้าใจ อ่านแยกกันได้ไม่มีปัญหาค่ะ

ส่วนสำนวนนักเขียนก็มีแปลกๆ แปร่งๆ บ้างในบางจุด แต่ก็ยังรู้สึกถึงกลิ่นอายของนิยายแปลที่มากขึ้น จะว่าไปจุดสะดุดของนาตน่าจะอยู่ที่การเรียกขานตำแหน่ง เป็นพระชนนี องค์จักรพรรดิ พระมเหสี ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนี้ค่ะ แต่ด้วยความที่ฮ่องเต้มีสนมเยอะ นั่นละค่ะเรื่องใหญ่ นาตนงงงค่าาาาา ชื่อสกุลคล้ายกัน พอเรียกสนมโจว,สนมเฉียน,สนมเจ้า ฯลฯ ทุกตำแหน่งไม่แตกต่างเลย เลยไม่รู้ว่าสำคัญแค่ไหน ดูเป็นตำแหน่งเมียน้อยเท่ากันหมด ฮ่าๆๆๆๆ คือมันอาจจะดีกับคนอื่นก็ได้ค่ะเพราะทำความเข้าใจไม่ยาก แต่มันต้องอาศัยความจำว่าใครเป็นใคร นาตนงแรมต่ำค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ แต่เอาเป็นว่าจุดสะดุดนี้มันเป็นปัญหาส่วนตัวของนาตนงเองเท่านั้นแหละ

สรุปคะแนน...เล่มนี้ให้ 7.5/10 เลยค่ะ ต่อไปก็รอเรื่องสุดท้ายชิลๆ เนาะ