คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Earned IT : Frist met
Earned IT : Chapter 2
22:00 PM
เซฮุนได้ยืนอยู่ตรงหน้าชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ หรืออีกหนึ่งสัญลักษณ์เมืองลอนดอน ที่เรียกกันว่า "London Eye" มาร์คพูดกับเขาว่าสถานที่แห่งนี้แหละคือเซอร์ไพร์สใหญ่ให้เซฮุน
"มึงเค้าปิดแล้วหนิ เราขึ้นไปได้หรอวะ?"
มาร์คเดินมาข้างๆเซฮุนก่อนจะกอดคอไว้ ในขณะเดียวกันไอมนุษย์มาร์คก็ส่งยิ้มละมุนมาให้ มือขาวชี้ไปที่ชิงช้าสวรรค์แล้วพูดขึ้นมาว่า…
"กูเช่าที่นี่ไว้ถึงเที่ยงคืนอ่ะ ป่ะ ขึ้นไปข้างบนกัน"
คนที่บ้านเป็นถึงมหาเศรษฐีอย่างมาร์ค แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก มาร์คเดินกอดคอร่างบางจนถึงหน้าทางขึ้นประตูชิงช้าสวรรค์ พนักงานผู้ชายส่งสายตาทำท่าทางรังเกียจใส่พวกเขาทั้งสอง เพราะพนักงานคนนี้อาจจะคิดว่าพวกเขาเป็นเกย์ ซึ่งสายตานั้น ทำให้เซฮุนรู้สึกไม่อยากนั่งที่นี่อีกแล้ว มาร์คสังเกตได้ว่าใบหน้าหวานก้มหน้าลง เลยกระซิบข้างหูเซฮุนเบาๆว่า
"ชั่งเขาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก"
พนักงานผู้ชายคนเดิมผายมือให้พวกเขาทั้งสองขึ้นไปนั่งบนกระเช้าขนาดใหญ่ของชิงช้าสวรรค์ ก่อนที่เขาจะเริ่มอธิบายกฎของการนั่งกระเช้า และถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินจะต้องทำอย่างไรบ้าง
"การขึ้นลอนดอนอายระยะเวลาการหมุนหนึ่งรอบ ประมาณ 30 นาทีนะครับคุณผู้ชาย"
เมื่อพนักงานอธิบายกฎต่างๆเสร็จแล้ว เขาก็ได้เอื้อมมือไปปิดประตูกระเช้า แต่สีหน้าของเซฮุนตอนนี้ไม่สู้ดีเอามากๆ เริ่มซีดขึ้นเรื่อยๆ มาร์คเห็นสีหน้าแบบนั้นก็อดเป็นห่วงเพื่อนสนิทไม่ได้
"เห้ยเซฮุน มึงไหวป่ะเนี่ย?"
"ไหวดิ คนอย่างกู ไม่เคยกลัวอะไรนะ"
"โอเคไหวก็ไหว"
พอชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่เริ่มเคลื่อนตัวได้ประมาณห้านาที มันก็มากพอที่จะสังเกตเห็นแม่น้ำเทมส์ซึ่งไหลผ่านใจกลางกรุงลอนดอนในตอนใต้ บรรยากาศที่เซฮุนเห็น นั้นสวยงามเอามากๆ อดใจไม่ไหวจนต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเก็บไว้ ในขณะที่เซฮุนกำลังถ่ายรูปอยู่นั้น มาร์คก็ถามขึ้นมาว่า…
"มึงต้องกลับจริงๆหรอวะ เซฮุน?"
"อิ้มก็จริงดิ จะโกหกให้ได้อะไรล่ะวะ"
"มึงรู้ป่ะ ว่ากู…"
"เห้ยมาร์ค! มึงดูดิ เราอยู่จุดสูงสุดของลอนดอนอายแล้ว โหสวยมากอ่ะเห็นลอนดอนหมดทุกทิศเลย กูถ่ายรูปไปอวดตากับยายอีกแปปนึงนะ"
มาร์คยิ้มให้กับความใสซื่อของคนตรงหน้า คิดดูสิ เขาจะพูดเรื่องสำคัญอยู่แล้ว อยู่ดีๆปากบางก็พูดขัดขึ้นเสียเฉยๆ แต่ก็อดดีใจกับเพื่อนสนิทไม่ได้ เขาหน่ะมาที่นี่ตั้งแต่จำความได้ เห็นจนเบื่อ…แต่เซฮุนเนี่ยสิ ขนาดแค่หน้ามหาวิทยาลัยก็ออกไปจนนับครั้งได้ เขารู้สึกดีใจมากที่ทำให้เซฮุนมีความสุขได้มากขนาดนี้ นี่แหละคือจุดสูงสุดแล้วที่ "เพื่อนสนิท" อย่างเขาจะทำได้
"เออมาร์คเมื่อกี้มึงจะพูดเรื่องอะไรนะ?"
"อ๋อ ไม่มีอะไรละ กูลืม ฮ่าๆ"
เซฮุนไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ได้แต่พยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบตอบ เขาถ่ายรูปเสียจนเม็มในโทรศัพท์มือถือเกือบเต็ม เด็กหนุ่มทั้งสองคนนั่งบนกระเช้าโดยไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากเพราะมัวแต่ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนของกรุงลอนดอน มันชั่งสวยมากจริงๆ สวยเสียจนไม่อยากจากที่นี่ เมื่อหมดรอบสำหรับการนั่งลอนดอนอาย ด้านล่างจะมีพนักงานคอยเปิดประตูให้เหมือนเดิม พนักงานเอื้อมมือเปิดประตูกระเช้าขนาดใหญ่ก่อนจะซักถามว่า พอใจกับการบริการหรือการนั่งชมบรรยากาศหรือไม่ คำถามนั้นทำให้คนที่ไม่แคร์อะไรอย่างมาร์คกระตุกยิ้ม แล้วตอบกลับไปว่า
"ทีหลัง คุณพนักงานทั้งหลาย ก็หัดมีมารยาทกับคนที่เค้ารักหรือชอบเพศเดียวกันบ้างนะครับ ผมรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้หนักหัวใครเพราะมันเป็นเรื่องของพวกเขา พวกคุณไม่มีสิทธิส่งสายตาดูถูกมาแบบนั้น เข้าใจนะครับ"
มาร์คส่งยิ้มเย็นยะเยือกให้กับพนักงาน ซึ่งเซฮุนเองยังรู้สึกหวาดกลัวกับรอยยิ้มนั้น พนักงานคนนั้นไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ก้มหัวในเชิงขอโทษให้มาร์คเท่านั้น พวกเขาทั้งสองเดินเลียบแม่น้ำเทมส์จนถึงรถสปอร์ตคันงามของมาร์ค เพื่อนสนิทมักจะพูดโม้ให้เซฮุนฟังประจำว่ารถคันนี้มีเพียง 10 คันในทวีปยุโรป มาร์คไว้ใจเซฮุนมาก เล่าทุกอย่างให้เซฮุนฟังแม้กระทั่งตัวเลขในบัญชี เซฮุนไม่เคยนึกอิจฉาหรือคิดขอความช่วยเหลืออะไรจากมาร์คเลย บางครั้งเซฮุนก็ได้รับของมากมายส่งมาถึงหอพักแต่ไม่แม้แต่จะระบุชื่อผู้ส่ง ไม่ว่าจะเป็นเกม เสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ หรือแม้กระทั่งหนังสือ ของพวกนั้นส่งมาแทบทุกเดือนจนเซฮุนแอบนึกหลงตัวเองว่าเขาอาจจะมีแฟนคลับที่ชื่นชอบในความฉลาดของตัวเอง แต่เซฮุนคิดผิด ของพวกนั้นล้วนเป็นของที่มาร์คส่งมาให้ แต่เซฮุนไม่เคยรู้…
"เซฮุน มึงขึ้นเครื่องกี่โมงนะ?"
"เที่ยงคืนว่ะ เดี๋ยวมึงขับรถไปจอดหน้าหอนะ แล้วเดี๋ยวกูขึ้นไปเอาของแปปเดียว มึงรออยู่บนรถละกัน"
"เออโอเค ถือคนเดียวไหวนะ?"
"ได้ดิ แข็งแรงขนาดนี้"
มาร์คเอื้อมมือไปขยี้ผมเซฮุนจนยุ่ง ขับรถมาได้ไม่นานก็มาถึงหน้าหอชายในมหาวิทยาลัย มือบางเอื้อมเปิดประตูรถสปอร์ตก่อนจะรีบเดินขึ้นห้องไป
…นี่คือคืนสุดท้ายแล้วสินะที่เขาจะได้ยืนอยู่บนมหาวิทยาลัยระดับโลก…
แกร็ก…
เซฮุนก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง มือเรียวเอื้อมหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่และเป้ใส่สัมพาระอีกหนึ่งอัน เขาเดินออกจาห้องนอนของตัวเองก่อนจะเดินไปที่บานประตูสีขาว ใบหน้าหวานหันมามองห้องนี้อีกครั้ง ก่อนจะเปิดประตูเดินออกไป…
"ทำไมมึงไปนานจังวะ"
"อ๋อ กูเผลอคิดอะไรเพลินอ่ะ"
"โอเครเอาพาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน ทุกอย่างครบแล้วใช่ไหม"
"อืม…ครบแล้ว"
มาร์คส่งสายตาจับผิดมาทางเซฮุนประมาณว่า แน่ใจหรอ? เซฮุนเลยหยิบพาสปอร์ตกับตั๋วเรื่องบินออกมาโชว์ให้มาร์คดู มาร์คพยักหน้าเข้าใจแล้วสตาร์ทรถออกจากมหาวิทยาลัยทันที เพราะนี่ก็สายมากแล้ว มาร์คเร่งเครื่องยนต์รถสปอร์ตคันหรู ไปที่สนามบินฮีทโธรว์ ซี่งอยู่ห่างจากลอนดอนตั้ง 24 กิโลเมตร มาร์คขับเร็วจนหัวใจคนนั่งข้างๆตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่ก็ต้องขอบคุณเพราะความเร็วของรถคันนี้ ทำให้เซฮุนมาถึงทันเวลาเช็คอิน
23:15 PM ณ สนามบินฮีทโธรว์(London Heathrow Airport)
"มาร์คมึงยืนรอตรงนี้นะ เดี๋ยวกูไปเช็คอินแปปนึง"
"โอเคเร็วๆละกัน"
ใบหน้าหวานพยักหน้าขึ้นลงเป็นคำตอบ ก่อนจะรีบสาวเท้าไปต่อแถวเช็คอิน เซฮุนยื่นกระเป๋าให้พนักงานชั่งน้ำหนัก ซึ่งน้ำหนักมันเกินกำหนดเยอะเลยทีเดียว เซฮุนเลยจำเป็นต้องเจียดเงินในกระเป๋าสตางค์มาจ่าย แต่เวลานี้เขาไม่สนใจอะไรแล้วเพราะแอร์คนเมื่อกี้บอกกับเขาว่า อีก 10 นาที เขาจะต้องขึ้นเครื่อง แต่เซฮุนก็ขอร้องกับแอร์ว่าเขาจำเป็นจะต้องบอกลาเพื่อนสนิทก่อน แอร์คนสวยเลยบอกให้เซฮุนรีบวิ่งไปบอกลาเพื่อนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เขาเลยรีบวิ่งไปหามาร์คซึ่งยืนรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว…
"มาร์คกูต้องรีบไปขึ้นเครื่องแล้วว่ะ แต่กูอยากบอกลามึงก่อน…"
"…"
"เซฮุน…มึงจำที่ลอนดอนอายได้ป่ะ ที่กูลืมว่าจะพูดอะไรกับมึง กูนึกออกแล้วนะ…"
"…"
"กูอยากจะบอกว่ากูโครตดีใจ…ที่กูมีเพื่อนแบบมึง เพื่อนคนอื่นดีแต่อิจฉาที่บ้านกูรวย แต่มึง…มึงไม่เคยเลยเซฮุน กูรักมึงนะ I really love you man (กูรักมึงจริงๆนะเว้ย)"
เซฮุนสังเกตเห็นน้ำใสๆที่คลออยู่ในดวงตาของมาร์ค เขาเลยโผกอดมาร์ค กอดให้แน่นที่สุด เขาก็ดีใจ ที่เขามีเพื่อนแบบมาร์ค ซึ่งชีวิตนี่ เขาเองยังไม่รู้ว่าจะหาเพื่อนแบบมาร์คได้อีกมั้ย
"กูก็รักมึงนะ มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเท่าที่กูเคยมี กูขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่กูต้องไปแล้ว โชคดีนะ…มาร์ค"
เซฮุนคลายอ้อมกอดจากเพื่อนสนิท แล้วรีบวิ่งไปที่ทางเข้า Gate เขายื่นพาสปอร์ตและตั๋วเครื่องบินให้พนักงานต้อนรับ ในขณะเดียวกัน เขาก็หันมามองมาร์คเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะโบกมือลา แล้วรีบเดินเข้า Gate ไป เมื่อถึงตัวเครื่องบิน เซฮุนได้ยื่นตั๋วให้กับแอร์สาวสวยคนเดิม เธอพาเขาไปนั่งบนเก้าอี้โดยสาร ซึ่งระบุที่ไว้บนตั๋ว ก่อนจะยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับเด็กหนุ่ม เซฮุนหย่อนสะโพกนั่งลงบนเบาะสีน้ำเงินเข้ม เขาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ เปลือกตาบางค่อยๆปิดลงอย่างผ่อนคลาย เขาเหนื่อยมาทั้งวัน และนี้ก็ดึกมากแล้วขอนอนพักเอาแรงเสียหน่อย ระยะเวลาที่ใช้ในการบินไปกรุงโซลก็ค่อนข้างที่จะยาวนาน ประมาณ 10 ชั่วโมงได้
10:00 AM ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอินช็อน
เซฮุนลืมตาขึ้นมาในตอนเช้าก็พบว่าตอนนี้เขาใกล้ถึงสนามบินอินช็อนแล้ว พนักงานบนเครื่องบินเริ่มเดินแจกอาหารเช้าให้แก่ผู้โดยสาร นักบินเพิ่งประกาศว่าอีก 1 ชั่วโมงจะเข้าสู่พรมแดนประเทศเกาหลี ซึ่งอีกหนึ่งชั่วโมงที่เหลือ เซฮุนเลือกที่จะดูหนังรอเวลา ในขณะที่เซฮุนดูหนังกำลังจะจบ เสียงนักบินก็ประกาศขึ้นอีกครั้ง
"ผู้โดยสารโปรดทราบ ขณะนี้ เครื่องบิน LS26 กำลังจะเทียบท่าลงจอดท่าอากาศยานนานาชาติอินช็อน ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านกรุณารัดเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง ขอบคุณครับ"
เซฮุนเอื้อมมือไปคาดเข็มขัดให้เด็กน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆเขา ก่อนจะคาดเข็มขัดให้ตัวเองเพื่อความปลอดภัย เมื่อเครื่องลงจอดผู้โดยสารก็แห่กันไปที่ทางออกของเครื่องบิน ในขณะที่เซฮุนเลือกที่จะออกไปคนสุดท้ายเพราะเขาไม่อยากเบียดเสียดกับผู้คน เมื่อออกมาจากตัวเครื่อง เซฮุนก็ได้ไปยืนรอรับกระเป๋าเดินทางไปใหญ่ พอรับกระเป๋าเสร็จ ขาเรียวก้าวเท้าเดินตามทางเลื่อน เมื่อสิ้นสุดทางเลื่อน เขาเหลือบไปเห็นผู้คนมากมายที่ส่วนใหญ่จะมี "ครอบครัว" มารอรับ แต่เขานั้น…ไม่มี เซฮุนสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระของตัวเอง อยู่ๆสมาร์ทโฟนในกระเป๋าเสื้อส่งเสียงร้อง แต่เบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาทำให้คิ้วเรียวได้รูปขมวด
"สวัสดีครับ นี่ใครครับ? "
"หันมาทางซ้าย"
เสียงทุ้มขึ้นจมูกตอบกลับมา เซฮุนคิดว่าไอคนที่โทรเข้ามา เป็นโรคจิตชัวร์ๆ อะไรคือการสั่งให้เขาหันไปทางซ้าย คิดว่าตัวเองเป็นใคร ไร้สาระสิ้นดี
"โรคจิตรึเปล่า? ผมไม่มีเวลามาเล่นไร้สาระกับคุณหรอกนะครับ แค่.. "
"ฉันเบื่อสายตาของพวกผู้หญิงที่จ้องจะงาบฉันมากเลยว่ะ โอเซฮุนหันมาหน่อยเถอะ"
เซฮุนหันไปตามที่ปลายสายบอกเพราะเจ้าของเสียงทุ้มนั่นรู้ชื่อของเขา ต้องเป็นโรคจิตที่ไม่ธรรมดาแน่ๆ แต่โรคจิตที่เซฮุนเห็นอยู่ทางด้านซ้ายนั้นทำเขาต้องถลึงตาขึ้น
นั่น..
มัน…
คิมจงอิน!
เซฮุนส่งยิ้มแห้งไปให้คิมจงอินที่ยืนอยู่ทางด้านซ้ายซึ่งด้านหลังเต็มไปด้วยผู้หญิงวัยรุ่นที่ส่งสายตาหวานเยิ้มให้จงอิน บทสนทนาแรก เขาเล่นไปด่าลูกประธานาธิบดีว่าเป็นโรคจิต เขาจะมองหน้าจงอินติดมั้ย
"คือเมื่อกี้ ผมขอโทษนะครับ…ผมไม่คิดว่าจะเป็นคุณหนู"
"ไม่เป็นไรชั่งมันเถอะ อ้อ แล้วก็ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณหนู เรียกฉันว่าไค"
"โอเคครับคุณไค"
"ไปกันเถอะ ฉันเบื่อสายตาของเด็กไร้สาระพวกนี้"
ขายาวก้าวเท้าเดินออกไปก่อน จงอินเดินเร็วชนิดที่ว่าเซฮุนก้าวเท้าตามแทบไม่ทัน ทุกท่าทางของจงอินดูดีจนเขาเองยังแอบมองตามไม่ได้ เซฮุนอยากเกิดมาในหุ่นและหน้าแบบนั้นบ้าง ลักษณะแมนๆที่ทำให้ผู้หญิงละลาย แต่สิ่งที่เขาได้มา คือผิวขาวเหมือนนมสดชั้นดี ปากสีชมพู คิ้วและตาที่ค่อนข้างเหมือนผู้หญิง อย่างน้อยส่วนสูงเขาก็ใกล้เคียงกับจงอิน อาจจะตัวบางกว่ามาก แต่แค่นั้นก็แอบทำให้เซฮุนภูมิใจ…
เมื่อออกมาข้างนอกสนามบินก็พบกับการ์ดชุดดำจำนวนมาก เซฮุนรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในหนังแอ็คชั่น เขายืนรอได้ไม่นาน รถเก๋งคันหรูยี่ห้อRosaloy ก็ขับมาจอดเทียบท่า การ์ดชุดดำที่นั่งอยู่ข้างคนขับลงมาเปิดประตูให้จงอิน ก่อนจะก้มหัวให้ จงอินก้าวขาขึ้นไปบนรถ เซฮุนเห็นการ์ดก้มหัวให้เขาอย่างนอบน้อม เขาอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
"ไม่ต้องก้มหัวให้ผมหรอกครับ ไม่เป็นไร คุณเข้าไปนั่งที่เดิมเถอะ"
"ไม่ได้ครับ คุณผู้ชายต้องขึ้นไปนั่งก่อน ผมถึงจะขึ้นไปนั่งที่เดิมได้"
เซฮุนพยักหน้าเป็นคำตอบก่อนจะรีบขึ้นไปนั่งในตัวรถ การ์ดคนอื่นๆที่อยู่ข้างนอกทยอยขึ้นรถ เพราะรถของเขาเป็นรถที่อยู่ระหว่างกลาง ข้างหน้ามีรถนำทางหนึ่งคัน ส่วนข้างหลังก็มีอีกหนึ่งคัน ขบวนรถทยอยออกจากสนามบินก่อนจะมุ่งหน้าสู่กรุงโซล เซฮุนกวาดตามองบรรยากาศข้างนอกตัวรถ เกาหลีเปลี่ยนไปเยอะเลย เขาไม่ได้มาที่นี่หลายปีแล้ว
"เป็นไง เกาหลีเปลี่ยนไปเยอะมั้ย? "
"ก็เยอะนะครับ แล้วนี่คุณจะพาผมไปส่งที่บ้านก่อนใช่มั้ยครับ?"
"เปล่า พ่อฉันไม่ได้บอกนายหรอ?"
"…"
"นายน่ะ ต้องย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกับฉัน พ่อฉันอยากให้นายมาเป็นผู้ช่วยบ้าบออะไรนั่น"
"ผมอาศัยอยู่กับคุณไม่ได้หรอกครับ ผม…"
"หึ นายขัดอะไรพ่อฉันไม่ได้หรอกเด็กทุน และตอนนี้เรากำลังจะไปขับรถไปหาประธานาธิบดี"
เซฮุนกำลังจิตตก ท่านคิมเขาคิดอะไรอยู่ ให้เขาไปอยู่กับคิมจงอินเนี่ยนะถึงเขาจะเป็นเด็กทุน ต้องทดแทนบุญคุณมากมายคือการเป็นผู้ช่วยอันนี้เขาพอจะเข้าใจ แต่การที่จะให้เขาไปอยู่กับจงอินตลอด24ชั่วโมงนี่มันไม่มากเกินไปหรอ เซฮุนคิดอะไรเพลินไปหน่อยรู้ตัวอีกที ก็อยู่หน้าคฤหาสน์สุดหรูใจกลางกรุงโซล
การ์ดคนเดิมลงมาเปิดประตูให้พวกเขาทั้งสองก่อนจะก้มหัวให้อีกเช่นเคย เซฮุนก้าวขาเรียวออกมาข้างนอกตัวรถ เขาสำรวจมองบ้านหลังมหึมา ก่อนจะรีบก้าวเท้าตามจงอินเข้าไปในตัวบ้าน เมื่อเขาเข้ามาในตัวบ้านก็พบกับความอลังการงานสร้างของคฤหาสน์หลังโต ที่ห้องรับแขกของตัวบ้านมีชายวัยกลางคนกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ เขาลดหนังสือพิมพ์ลงจ้องที่ใบหน้าหวานก่อนจะพูดขึ้นมา
"เซฮุนใช่ไหม? เข้ามานั่งนี่สิ"
"ครับผม"
เซฮุนเดินเข้าไปหาท่านประธานาธิบดีอย่างนอบน้อมหรืออีกชื่อหนึ่งคือ "คุณคิมจงยอน" ในขณะเดียวกันลูกชายคนเดียวของท่านคิมก็เดินเข้ามานั่งฝั่งตรงข้ามกับเซฮุน
"จงอินมาพอดีเลย โอเค ฉันจะเริ่มเรื่องเลยแล้วกัน เซฮุนต่อไปนี้ เธอจะต้องย้ายข้าวของมาอยู่คอนโดเดียวกับจงอิน เพื่อที่เธอจะได้สอนให้เขามีประสิทธภาพในการทำงานมากขึ้น และควบคุมพฤติกรรมไร้สาระของเจ้าลูกชายฉัน อย่างเช่น เที่ยวผับ คั่วสาว หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ดี"
"ผมยอมรับทุกข้อเสนอนะครับ แต่ผมขอข้อนึงได้มั้ย"
"…"
"ผมขอไม่อยู่คอนโดเดียวกับเขาได้มั้ยครับ"
"ขอโทษนะ…แต่ข้อนี้ฉันให้ไม่ได้"
เซฮุนพยักหน้ารับเป็นคำตอบ เขาคงไปขัดใจท่านคิมไม่ได้ ซึ่งในขณะเดียวกันจงอินก็พูดขัดคนเป็นพ่อขึ้นมาว่า
"เหอะ ถ้าเขาไม่อยากอยู่แล้วไปบังคับทำไมวะ ผมอยู่คนเดียวได้"
"นี่ไค แกคิดว่าฉันโง่เหรอไง แกจะหนีเที่ยวมากกว่า คุยเสร็จแล้วไปหาฉันที่ห้องทำงานด้วย ส่วนเซฮุนเธอไปเยี่ยมคุณตากับคุณยายท่านซะ เขาคงจะคิดถึงหลานมาก ตอนเธอเสร็จธุระคนสนิทฉันจะพาเธอไปส่งที่คอนโดของไคทีหลัง นี่คนสนิทฉัน จางอี้ชิง"
ท่านคิมแนะนำคนสนิทให้เซฮุนรู้จัก ก่อนจะเดินขึ้นไปที่ห้องทำงานในขณะเดียวกัน ไคก็เดินตามผู้เป็นพ่อไป ผู้ชายที่คุณท่านแนะนำเมื่อกี้เดินมาหาเด็กหนุ่ม ก่อนจะทำความเคารพด้วยการก้มหัวให้ร่างบางหนึ่งครั้ง
"สวัสดีครับ ผมอี้ชิงหรือเรียกสั้นๆว่าเลย์นะครับ คุณเซฮุน"
"ครับคุณเลย์ แล้วนี่เราจะออกกันไปเลยรึเปล่าครับ"
"อ้อใช่ครับ เชิญทางนี้"
อี้ชิงผายมือให้เซฮุนเดินไปที่รถคันหรูซึ่งจอดรอไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เซฮุนก้าวขึ้นไปบนรถ ก่อนที่คนขับรถจะเดินทางออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ เส้นทางที่กำลังจะไปนี้ไม่ต้องบอก เด็กหนุ่มก็รู้ว่าคือที่ไหน บ้านคุณยายและคุณตาของเขาเอง
***
เซฮุนยืนอยู่หน้าตึกสภาพทรุดโทรม ที่นี่เคยเป็นที่อาศัยของเขาในตอนที่เซฮุนศึกษาอยู่ระดับมัธยมต้น บางครั้งเขาก็คิดถึงบรรยากาศแบบนี้ตอนอยู่อังกฤษ เพราะอย่างน้อยที่นี่เขาก็มีคุณตากับคุณยาย เซฮุนเดินไปกดลิฟท์ที่สภาพสุดแสนจะทรุดโทรม และอาจจะค้างหรือพังลงได้ทุกเมื่อ
ขายาวก้าวเท้าไปตามทางเดิน เซฮุนคิดในใจว่าเขาคงจะต้องขอข้อเสนอใหม่กับประธานาธิบดีคิมอีกครั้งเป็นแน่ สภาพตึกนี้แม้แต่ทางเดินยังไม่มีไฟเขาอดห่วงคุณยายที่ต้องเดินกลับจากที่ทำงานมาที่ห้องไม่ได้ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดโหมดไฟฉายเป็นอุปกรณ์ช่วยในการนำทางแทน และแล้วก็มาถึง ห้องที่เด็กหนุ่มเคยอยู่ …
ก๊อก ก๊อก ก๊อก…
. . .
"คุณตา คุณยาย ผมกลับมาแล้ว!"
เสียงที่ตะโกนถามไป ไร้วี้แววคนตอบ ทำให้เซฮุนเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ ปกติถึงคุณยายท่านจะออกไปทำงาน แต่คุณตาของเซฮุนท่านจะอยู่ที่ห้อง
"ไม่มีใครอยู่เหรอครับคุณเซฮุน?" เสียงนุ่มของเลย์ถามว่าที่เลขาของจงอิน เพราะเขาสังเกตเห็นสีหน้าของร่างบางที่ตอนนี้ดูตึงเครียด คิ้วเรียวขมวดเป็นปมก่อนจะสายหน้าเป็นคำตอบ
"นะ..นั่นใครน่ะ" เสียงแหบพร่าของคนวัยชราตอบกลับมา เซฮุนไม่รอช้าก่อนจะรีบผลักบานประตูอพาร์ทเม้นที่ค่อนข้างจะเก่าเข้าไปข้างในตัวห้อง เซฮุนโผกอดคุณตาของเขาอย่างโหยหาอ้อมกอดนี้มานานแสนนาน
"ซะ..เซฮุน หลานตา หลานตา! กลับมาแล้ว" คุณลีโอบกอดหลานสุดที่รักด้วยความคิดถึง หลานรักกลับสู่อ้อมกอดของคุณตาอีกครั้ง มันทำให้น้ำตาของคุณลีไหลออกมาจากดวงตา น้ำที่ไหลออกมานั้นมีแต่ความดีใจและความคิดถึง
"ผมคิดถึงคุณตามากเลยครับ"
"ตาก็คิดถึงหลานมากเหลือเกิน กลับมานานรึยัง หิวมั้ย เหนื่อยรึเปล่า"
"เพิ่งกลับมาวันนี้แหละครับ เห็นตาสบายดีผมก็ไม่หิวไม่เหนื่อยแล้วครับ" เซฮุนส่งยิ้มให้คุณตาเพราะเขารู้ว่าคุณตาคงเป็นห่วงเขามาก
"แล้วพ่อหนุ่มที่อยู่ข้างหลังหลานฉัน นั่นใคร"
"สวัสดีครับคุณลี ผมขอโทษที่เสียมารยาทไม่ได้แนะนำตัวนะครับ ผม จางอี้ชิง เป็นคนสนิทของท่านประธานาธิบดีคิม"
"คุณ…เลย์น่ะหรือ"
"ใช่ครับผม"
เลย์รับรู้ได้ถึงบรรยากาศแห่งความสุขของคนที่ไม่ได้พบหน้ากันมานาน ตาหลานนั่งถามสารทุกข์สุขดิบกันอย่างมีความสุข จนเมื่อเวลาล่วงเลยมาถึง 5 โมงกว่าๆ ใกล้จะถึงเวลาเวลาที่คุณยายของเซฮุนจะกลับมาจากที่ทำงาน
แกร๊ก. . .
"เซฮุน…" หญิงสาววัยชราพูดชื่อของหลานชายสุดที่รักก่อนจะเดินเข้ามากอดหลานอย่างอบอุ่นและเต็มไปด้วยความคิดถึง "กลับมาเมื่อไหร่ลูก ฮุนนาของยายเหนื่อยมั้ย เรียนหนักมากรึเปล่า ฮื่ออ"
"คุณยายไม่ร้องไห้สิครับ ผมยังสบายดี ไม่เหนื่อยหรอก ผมเห็นหน้ายายก็หายเหนื่อยแล้ว" หลานชายพูดตอบก่อนจะยิ้มให้คุณยายของเขาสบายใจ มือบางเอื้อมขึ้นมาลูบหน้าหลานรักของตัวเองอย่างอ่อนโยน
"ฮุนนาของยายโตขึ้นเยอะเลย เป็นหนุ่มแล้ว ยายคิดถึงหนูมากเลยนะรู้ไหม"
"ผมก็คิดถึงคุณยายมากถึงมากที่สุดเลยครับ" เซฮุนหอมแก้มผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดในโลกพอๆกับแม่ มือบางลูบผมหลานของตัวเองพลางกอดไปด้วย
"แล้วคืนนี้หนูนอนที่นี่รึเปล่าลูก ยายไม่ได้จัดห้องนอนไว้ให้เลย"
"คือ..ผมอยากนอนกับคุณยายคุณตามากนะครับ แต่ผม..นอนไม่ได้ ยายรู้มั้ย ผมได้งานแล้วนะ ต่อไปคุณยายไม่ต้องทำงานแล้วนะครับ ผมเป็นห่วง แล้วผมจะให้คุณยายกับคุณตาย้ายไปคอนโดดีๆ ที่นี่อันตรายมาก"
"หลานยายนี่น่ารักจริงๆ แล้วเซฮุนได้งานที่ไหนล่ะลูก งานหนักมั้ย"
"ไม่หนักเลยครับคุณยาย ผมได้เป็นผู้ช่วยของลูกประธานาธิบดีคิมด้วยแหละ! เจ๋งใช่ไหมครับ" ปากบางอมชมพู พูดเรื่องนู้นเรื่องนี้ไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ประเทศอังกฤษ หรือเพื่อนๆของเขา คุณตากับคุณยายก็พยักหน้าเออออไปกับหลานชายที่พูดจ้อไม่หยุด
“ขอโทษนะครับคุณเซฮุน ใกล้ถึงเวลาที่คุณจะต้องไปคอนโดของนายน้อยแล้วนะครับ”
“…”
“เซฮุนไปเถอะลูก ยายกับตาอยู่ได้ ไว้วันหลังมาเยี่ยมใหม่นะลูก”
“โอเคครับ คุณยายงั้นผมกลับก่อนนะครับ ผมรักยายนะ” เซฮุนโผกอดหญิงกับชายวัยชราอีกครั้งเป็นการบอกลาก่อนจะเดินออกจากห้องไป
***
เด็กหนุ่มนั่งอยู่บนรถคันหรูอีกครั้ง เส้นทางในการเดินทางครั้งนี้มุ่งสู่ใจกลางเมือง เซฮุนเงยหน้ามองตึกระฟ้าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคอนโดของคนที่เขาต้องมาอยู่ร่วมอาศัย อี้ชิงสั่งบอดี้การ์ดสองคนให้ช่วยถือสัมพาระของเซฮุนขึ้นไปที่ห้องของคิมจงอิน เซฮุนต้องขึ้นลิฟท์เดี่ยวซึ่งลิฟท์นั้นจะขึ้นไปที่ห้องของคิมจงอินโดยตรง ห้องของไคอยู่ชั้นบนสุด ซึ่งทั้งชั้นนั้นเป็นของเขาคนเดียว และในขณะนี้ เซฮุนยืนอยู่หน้าห้องหมายเลข 818
ก๊อก ก๊อก ก๊อก. . .
"ใครวะ!!! "
"เอ่อ…ผมเองครับ…เซฮุน"
"รอแปปนึงเดี๋ยวฉันเปิดประตูให้"
ไม่นานนักบานประตูสีดำก็เปิดออก ก่อนจะเห็นใบหน้าคมเปลือยท่อนบนอยู่ เซฮุนยกข้าวของในมือเข้าไปในห้องใหญ่
"เชิญ"
"…"
"ห้องนายอยู่ทางซ้าย ส่วนห้องฉันอยู่ทางขวา และตอนนี้คู่ขาฉันนอนรออยู่ ห้ามกวน ห้ามส่งเสียง ถ้าหิว มาม่าอยู่ในตู้เก็บกับข้าว แค่นั้นแหละ บาย"
"คุณไค…"
"อะไรอีกวะ"
"คุณท่านสั่งห้ามคุณยุ่งกับผู้หญิงหนิครับ"
"เซฮุน นายคิดว่านายเป็นใคร? ถ้าเปิดปากพูดเรื่องนี้กับพ่อฉัน อย่าหาว่าฉันไม่เตือน"
เซฮุนถอนหายใจเบาๆ เหนื่อยใจเหลือเกิน เขาจะทำได้ยังไง ควบคุมคนแบบคุณไคเนี่ยนะ เซฮุนรู้สึกกลัวกลับใบหน้าคมเมื่อกี้ของจงอินเหลือเกิน ร่างสูงทำหน้าโหดใส่เขา ทั้งชีวิตเขาไม่เคยโดนใครขู่ เขาควรจะรายงานเรื่องนี้ให้คุณท่านฟังดีมั้ย หรือเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวเองดีนะ…
TBC.
ตอนที่ 2 ผ่านไปแล้วคะทุกคนน กรี๊ดลั่นนน55555
#ลูกประธานKH *แก้ไขแล้ว* ทวิตเตอร์ไรท์ @_dariaofficial
ความคิดเห็น