ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Ep.3 พลังแห่งจินตานาการ
สวบๆ
เสียงที่ดังขึ้นจากพุ่มไม้ด้านหลังทั้งสองทำให้พวกเขาต้องหันควับไปดูและสิ่งที่เจอคือ......
"อ้าว มาอยู่นี้เองพ่อหนุ่มแวมไพร์" ร่างสูงใหญ่ออกมาจากพุ่มไม้ยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะปัดเศษดินเศษอย่่าออกจากตัว เขาอยู่ในเครื่องแบบนักเรียนแบบเดียวกับแวมไพร์หนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ชายเสื้อนักเรียนหลุดออกนอกกางเกงแขนเสื้อถูกพับขึ้นกระดุมสองถูกปลดเม็ดบนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แผงอกและที่แขน สีตัวออกคล้ำ ผมเผ้ายุ่งยิ่งเหมือนเพิ่งไปฟัดกับอะไรซักอย่าง
".........."เด็กสาวเงียบไปชั่วขณะทำหน้าบอกบุญไม่รับก่อนจะเอ่ยปากถาม
"อย่าบอกนะว่าเจ้าเนี่ย"ไม่รู้อะไรดลบันดาลให้เธอพูดออกไปแบบนั้นแต่ลางสังหรณ์ของเธอมันว่ามันจะต้องเกี่ยวอะไรกับไอ้บ้าหัวยุ่งข้างหน้าเธอแน่
ขณะที่เธอลุ้นคำตอบอยู่ ทันใดนั้นเด็กหนุ่มก็อ้าปากพร้อมเปล่งเสียงจนเธอหยุดหายใจไปชั่วขณะ
"ใช่" เด็กหนุ่มบอกด้วยสีหน้าปกตินิ่งเฉยก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นงุนงงเมื่อเห็นว่าเด็กสาวทำสีหน้าอมทุกข์ เขามองหน้าเด็กสาวเหมือนเป็นเชิงถามว่า 'เป็นอะไร'
เด็กสาวมองหน้าเด็กหนุ่มที่กำลังทำหน้างงกับสีหน้าของเธอ เธอเอามือกุมขมับ นั้นทำให้เด็กหนุ่มงงหนักเข้าไปอีก เห่! อะไรนะ สาเหตุที่เธอเป็นอย่างนี้หน่ะเหรอ?
จะอะไรซะอีกหล่ะนอจาก......
"นี่ ยังเห็นว่าชั้นมีตัวตนอยู่ตรงนี้มั้ยเนี่ย"ร่างสูงใหญ่เอ่ยขึ้น หลังจากที่เขาโผล่มาไอ้เพื่อนบ้ามันยังไม่ได้ทักเขาซักคำเอาแต่จ้องตาเด็กผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ เอ๊ะ!หรือมันจะเป็นแฟนกัน ไม่ๆๆ ไม่มีทาง อย่างไอ้เจ้านี่เนี่ยนะผู้หญิงที่ไหนเค้าจะเอา มันไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก! ไม่มีทาง! ไม่มีทางงงงง!!! ไม่มีทางที่มันจะมีแฟนก่อนเขาได้!! ไม่มีทางงงงง!!!!!
หลังจากที่ตีโผยตีผาย คิดเองเออเองเสร็จสรรพ เขาตวัดดวงตาสีส้มของเขาที่ส่องประกายในความมืดไปทางเพื่อนของเขาที่หน้าตกใจ
"นี่...นาย...เป็นอะไรไปอีกฟระ...อย่าบอกนะว่าแกคิดอะไรเป็นตุเป็นตะอีกแล้วหน่ะ" เด็กหนุ่มมองเพื่อนของเขาตรงหน้าด้วยสายตาหวาดๆ เขาไม่ได้กลัวว่ามันจะทำร้ายเขาหรอก ถ้าเรื่องกำลังหล่ะก็เขาสู้ได้อยู่แล้ว แต่ที่เขากลัว ไม่สิ ที่เขาสยองก็คือไอ้จินตการที่แสนล้ำเลิศเกินมนุษย์ของมันต่างหากหล่ะ!!
::Mode::
[Hitoshi]
ไอ้เพื่อนบ้าตัวนี่มันคิดเรื่องบ้าๆบอๆอีกแล้วเรอะ!!
ผมหล่ะสยองจริงอะไรจริงเวลาที่ไอ้เพื่อนคนนี้มันเริ่มคิดอะไรแปลกๆ เห๊ะ! ผมรู้ได้ยังไงหน่ะเหรอ ยังดูไม่ออกกันอีกเหรอครับ เวลาไอ้บ้านั่นมันแต่งเรื่องในสมองจนแทบจะเป็นตำนานนั่นหน่ะ มันจะแสดงออกมาทาง 'ใบหน้า' คิ้วมันจะขมวดแทบจะพันกันเป็นเงื้อนตาย ขนาดตอนสอบมันยังขมวดขนาดนี้เลย!!&nbsp และตาของมันจะเป็นประกาย เรืองแสงกว่าปกติเป็นพิเศษถ้าจ้องตามันเกินสามวิอาจจะเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื้อในดวงตาซึ่งอาจนำสู่สาเหตุของการตาบอดได้(ขนาดนั้นเลยเรอะ=_=//ไรเตอร์)ดูออกง่ายซะขนาดนี้ผมไม่รู้ก็แปลกแล้วครับ
แต่ว่าแม้ผมจะดูอาการมันออก รู้ว่าอาการมันเป็นยังแต่ผมยังขาดไปอีกอย่างนึงคือ'วิธีการรักษา'
ผมอยู่กับมันมาก็นานพอสมควรแต่ผมยังไม่รู้เลยว่าจะหยุดอาการนี้ของมันยังไงดี คือเมื่อมันเริ่มสร้างสตอรี่ของมันขึ้นมาแล้วไม่มีใครสามารถหยุดความคิดมันได้!! บางคนอาจคิดว่าแค่ชอบคิดไปเรื่อยเปื่อยไม่เห็นเป็นไร คุณคิดผิดแล้ว!! มันไม่ใช่การคิดเรื่อยเปื่อยธรรมดาแต่มันีคือการสร้างโลกขึ้นมาอีกโลกนึงในสมองของมัน!!&nbsp ในความคิดของมันบางทีสำลีในโลกแห่งความจริงอาจเป็นปีศาจสำลีที่แอบฆ่ามนุษย์ด้วยการเอานุ่นยัดปากก็เป็นได้!!
เห็นรึยังว่าน่ากลัวขนาดไหน!!
ปกติผมเป็นคนสบายๆไม่ค่อยใส่ใจอะไรซักเท่าไรแต่เรื่องอาการของมันเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ผมคอยใส่ใจเฝ้าระวังมากถึงมากที่สุด....สาเหตุก็เพราะ
.....ผมเคยโดนมากับตัวนะสิ.....
ตอนนั้นเป็นตอนที่ผมเพิ่งเสียแม่ไป ตอนเด็กๆผมเป็นเด็กร่าเริงแต่พ่อของผมเค้ามักไม่ชอบใจที่ผมออกไปเล่นกับเพื่อนๆ พ่อต้องการให้ผมสืบทอดตระกูลแวมไพร์ พ่อต้องการให้ผมเป็นปีศาจที่แข็งแกร่ง พ่อจึงจับให้ผมฝึกการต่อสู้ทุกวันห้ามไปไหนทั้งสิ้น แต่ผมมักหนีออกไปเล่นนอกบ้านบ่อย และแน่นอนเมื่อกลับมาพ่อต้องทำโทษแต่คนที่ห้ามพ่อก็คืิอ.............แม่ แม่ห้ามพ่อไม่ให้ลงโทษผมและยังยังช่วยผมหนีออกไปเล่นกับเพื่อน ผมรักแม่มากดังนั้นการที่แม่ตายทำให้มันทำให้นิสัยผมเปลี่ยนไป ช่วงที่แม่ตายผมร้องไห้อยู่ในห้องหลายวันไม่ยอมกินข้าว ไม่ออกไปเล่นกับเพื่อน จนวันนึงผมก็ออกมาจากห้องเหล่าคนรับใช้รีบไปบอกพ่อ แน่นอนพ่อไม่ปลอบผมแถมยังดุผมอีกต่างหากว่าอ่อนแอ แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ต้องการให้ใครมาปลอบอีกต่อไป ผมเร่ิมฝึกการต่อสู้ ไม่ออกไปไหน ไม่สุงสิงกับใคร เพื่อนคนเดียวที่ผมมีตอนนั้นคือ'คาซุกิ'ที่มันกำลังบ้าอยู่ตอนนี้ พอมันเห็นผมเห็นซึมไปมันก็ใช่สมอง(ที่มีอยู่น้อยนิด)ของมันวิเคราะห์เป็นตุเป็นตะ วิเคราะห์ไปวิเคราะห์มา มันคิดว่าผมกำลังวางแผนจะฆ่าตัวตาย!! มันเลยควบคุมพฤติกรรมผมทุกฝีก้าว มันแอบติดกล้องวงจรปิดไว้ในห้องน้ำผม ใส่เครื่องติดตามไว้ในกระเป๋าผม ติดเครื่องดักฟังไว้ในห้องผม แล้ววันนึงผมกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องผมตลกวลีนึงคือ'ชีวิตของข้าช่างไร้ค่า'ผมเลยพูดมาแบบขำๆ แต่เจ้านั่นมันได้ยิน มันคิดว่าผมกำลังจิตตกและกำลังจะฆ่าตัวตาย!! มันเลยรีบดิ่งตรงมาที่บ้านผมจับผมมัดไว้แถมยังเอาผ้าอุดปากไว้ด้วยเหตุผลที่ว่า
'เดี๋ยวนายกัดลิ้นตาย'
แกนี่มันช่าง....!! เฮ้อ
คงจะรู้เรื่องกันนะครับแต่ถึงไม่รู้เรื่องผมก็จะอธิบายต่อไม่ได้เพราะว่าตอนนี้ไอ้บ้าคาซุกิมันกำลังพุ่งเข้ามาคว้าตัวผมแล้ว!!
เสียงที่ดังขึ้นจากพุ่มไม้ด้านหลังทั้งสองทำให้พวกเขาต้องหันควับไปดูและสิ่งที่เจอคือ......
"อ้าว มาอยู่นี้เองพ่อหนุ่มแวมไพร์" ร่างสูงใหญ่ออกมาจากพุ่มไม้ยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะปัดเศษดินเศษอย่่าออกจากตัว เขาอยู่ในเครื่องแบบนักเรียนแบบเดียวกับแวมไพร์หนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ชายเสื้อนักเรียนหลุดออกนอกกางเกงแขนเสื้อถูกพับขึ้นกระดุมสองถูกปลดเม็ดบนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่แผงอกและที่แขน สีตัวออกคล้ำ ผมเผ้ายุ่งยิ่งเหมือนเพิ่งไปฟัดกับอะไรซักอย่าง
".........."เด็กสาวเงียบไปชั่วขณะทำหน้าบอกบุญไม่รับก่อนจะเอ่ยปากถาม
"อย่าบอกนะว่าเจ้าเนี่ย"ไม่รู้อะไรดลบันดาลให้เธอพูดออกไปแบบนั้นแต่ลางสังหรณ์ของเธอมันว่ามันจะต้องเกี่ยวอะไรกับไอ้บ้าหัวยุ่งข้างหน้าเธอแน่
ขณะที่เธอลุ้นคำตอบอยู่ ทันใดนั้นเด็กหนุ่มก็อ้าปากพร้อมเปล่งเสียงจนเธอหยุดหายใจไปชั่วขณะ
"ใช่" เด็กหนุ่มบอกด้วยสีหน้าปกตินิ่งเฉยก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นงุนงงเมื่อเห็นว่าเด็กสาวทำสีหน้าอมทุกข์ เขามองหน้าเด็กสาวเหมือนเป็นเชิงถามว่า 'เป็นอะไร'
เด็กสาวมองหน้าเด็กหนุ่มที่กำลังทำหน้างงกับสีหน้าของเธอ เธอเอามือกุมขมับ นั้นทำให้เด็กหนุ่มงงหนักเข้าไปอีก เห่! อะไรนะ สาเหตุที่เธอเป็นอย่างนี้หน่ะเหรอ?
จะอะไรซะอีกหล่ะนอจาก......
"นี่ ยังเห็นว่าชั้นมีตัวตนอยู่ตรงนี้มั้ยเนี่ย"ร่างสูงใหญ่เอ่ยขึ้น หลังจากที่เขาโผล่มาไอ้เพื่อนบ้ามันยังไม่ได้ทักเขาซักคำเอาแต่จ้องตาเด็กผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ เอ๊ะ!หรือมันจะเป็นแฟนกัน ไม่ๆๆ ไม่มีทาง อย่างไอ้เจ้านี่เนี่ยนะผู้หญิงที่ไหนเค้าจะเอา มันไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก! ไม่มีทาง! ไม่มีทางงงงง!!! ไม่มีทางที่มันจะมีแฟนก่อนเขาได้!! ไม่มีทางงงงง!!!!!
หลังจากที่ตีโผยตีผาย คิดเองเออเองเสร็จสรรพ เขาตวัดดวงตาสีส้มของเขาที่ส่องประกายในความมืดไปทางเพื่อนของเขาที่หน้าตกใจ
"นี่...นาย...เป็นอะไรไปอีกฟระ...อย่าบอกนะว่าแกคิดอะไรเป็นตุเป็นตะอีกแล้วหน่ะ" เด็กหนุ่มมองเพื่อนของเขาตรงหน้าด้วยสายตาหวาดๆ เขาไม่ได้กลัวว่ามันจะทำร้ายเขาหรอก ถ้าเรื่องกำลังหล่ะก็เขาสู้ได้อยู่แล้ว แต่ที่เขากลัว ไม่สิ ที่เขาสยองก็คือไอ้จินตการที่แสนล้ำเลิศเกินมนุษย์ของมันต่างหากหล่ะ!!
::Mode::
[Hitoshi]
ไอ้เพื่อนบ้าตัวนี่มันคิดเรื่องบ้าๆบอๆอีกแล้วเรอะ!!
ผมหล่ะสยองจริงอะไรจริงเวลาที่ไอ้เพื่อนคนนี้มันเริ่มคิดอะไรแปลกๆ เห๊ะ! ผมรู้ได้ยังไงหน่ะเหรอ ยังดูไม่ออกกันอีกเหรอครับ เวลาไอ้บ้านั่นมันแต่งเรื่องในสมองจนแทบจะเป็นตำนานนั่นหน่ะ มันจะแสดงออกมาทาง 'ใบหน้า' คิ้วมันจะขมวดแทบจะพันกันเป็นเงื้อนตาย ขนาดตอนสอบมันยังขมวดขนาดนี้เลย!!&nbsp และตาของมันจะเป็นประกาย เรืองแสงกว่าปกติเป็นพิเศษถ้าจ้องตามันเกินสามวิอาจจะเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื้อในดวงตาซึ่งอาจนำสู่สาเหตุของการตาบอดได้(ขนาดนั้นเลยเรอะ=_=//ไรเตอร์)ดูออกง่ายซะขนาดนี้ผมไม่รู้ก็แปลกแล้วครับ
แต่ว่าแม้ผมจะดูอาการมันออก รู้ว่าอาการมันเป็นยังแต่ผมยังขาดไปอีกอย่างนึงคือ'วิธีการรักษา'
ผมอยู่กับมันมาก็นานพอสมควรแต่ผมยังไม่รู้เลยว่าจะหยุดอาการนี้ของมันยังไงดี คือเมื่อมันเริ่มสร้างสตอรี่ของมันขึ้นมาแล้วไม่มีใครสามารถหยุดความคิดมันได้!! บางคนอาจคิดว่าแค่ชอบคิดไปเรื่อยเปื่อยไม่เห็นเป็นไร คุณคิดผิดแล้ว!! มันไม่ใช่การคิดเรื่อยเปื่อยธรรมดาแต่มันีคือการสร้างโลกขึ้นมาอีกโลกนึงในสมองของมัน!!&nbsp ในความคิดของมันบางทีสำลีในโลกแห่งความจริงอาจเป็นปีศาจสำลีที่แอบฆ่ามนุษย์ด้วยการเอานุ่นยัดปากก็เป็นได้!!
เห็นรึยังว่าน่ากลัวขนาดไหน!!
ปกติผมเป็นคนสบายๆไม่ค่อยใส่ใจอะไรซักเท่าไรแต่เรื่องอาการของมันเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ผมคอยใส่ใจเฝ้าระวังมากถึงมากที่สุด....สาเหตุก็เพราะ
.....ผมเคยโดนมากับตัวนะสิ.....
ตอนนั้นเป็นตอนที่ผมเพิ่งเสียแม่ไป ตอนเด็กๆผมเป็นเด็กร่าเริงแต่พ่อของผมเค้ามักไม่ชอบใจที่ผมออกไปเล่นกับเพื่อนๆ พ่อต้องการให้ผมสืบทอดตระกูลแวมไพร์ พ่อต้องการให้ผมเป็นปีศาจที่แข็งแกร่ง พ่อจึงจับให้ผมฝึกการต่อสู้ทุกวันห้ามไปไหนทั้งสิ้น แต่ผมมักหนีออกไปเล่นนอกบ้านบ่อย และแน่นอนเมื่อกลับมาพ่อต้องทำโทษแต่คนที่ห้ามพ่อก็คืิอ.............แม่ แม่ห้ามพ่อไม่ให้ลงโทษผมและยังยังช่วยผมหนีออกไปเล่นกับเพื่อน ผมรักแม่มากดังนั้นการที่แม่ตายทำให้มันทำให้นิสัยผมเปลี่ยนไป ช่วงที่แม่ตายผมร้องไห้อยู่ในห้องหลายวันไม่ยอมกินข้าว ไม่ออกไปเล่นกับเพื่อน จนวันนึงผมก็ออกมาจากห้องเหล่าคนรับใช้รีบไปบอกพ่อ แน่นอนพ่อไม่ปลอบผมแถมยังดุผมอีกต่างหากว่าอ่อนแอ แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ต้องการให้ใครมาปลอบอีกต่อไป ผมเร่ิมฝึกการต่อสู้ ไม่ออกไปไหน ไม่สุงสิงกับใคร เพื่อนคนเดียวที่ผมมีตอนนั้นคือ'คาซุกิ'ที่มันกำลังบ้าอยู่ตอนนี้ พอมันเห็นผมเห็นซึมไปมันก็ใช่สมอง(ที่มีอยู่น้อยนิด)ของมันวิเคราะห์เป็นตุเป็นตะ วิเคราะห์ไปวิเคราะห์มา มันคิดว่าผมกำลังวางแผนจะฆ่าตัวตาย!! มันเลยควบคุมพฤติกรรมผมทุกฝีก้าว มันแอบติดกล้องวงจรปิดไว้ในห้องน้ำผม ใส่เครื่องติดตามไว้ในกระเป๋าผม ติดเครื่องดักฟังไว้ในห้องผม แล้ววันนึงผมกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องผมตลกวลีนึงคือ'ชีวิตของข้าช่างไร้ค่า'ผมเลยพูดมาแบบขำๆ แต่เจ้านั่นมันได้ยิน มันคิดว่าผมกำลังจิตตกและกำลังจะฆ่าตัวตาย!! มันเลยรีบดิ่งตรงมาที่บ้านผมจับผมมัดไว้แถมยังเอาผ้าอุดปากไว้ด้วยเหตุผลที่ว่า
'เดี๋ยวนายกัดลิ้นตาย'
แกนี่มันช่าง....!! เฮ้อ
คงจะรู้เรื่องกันนะครับแต่ถึงไม่รู้เรื่องผมก็จะอธิบายต่อไม่ได้เพราะว่าตอนนี้ไอ้บ้าคาซุกิมันกำลังพุ่งเข้ามาคว้าตัวผมแล้ว!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น