ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    •FujoshiღClub•

    ลำดับตอนที่ #4 : •Write novel :: I admit that I love you ยอมรับ ว่ารักมึง By NiNiN

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 55


    Write novel





    I admit that I love you ยอมรับ ว่ารักมึง
    By.WINNER



    . . . มีคนบอกกับผมว่า อย่ามี ทิฐิและ ศักดิ์ศรีในการที่จะรักใครสักคน . . .

     

                แต่ผมละทิ้งทิฐิและศักดิ์ศรีเพื่อไปรักคนอย่างมันไม่ได้ ถึงแม้ตอนนี้หัวใจผมจะรักมันมากกว่าตัวผมแล้วก็ตาม

     

                @ หลังห้องน้ำที่มหาวิทยาลัยเอกชน

                “คืนนี้ที่ผับxxx ตีสอง เราต้องเคลียร์กับพวกมันนะ” เพื่อนที่ยืนอยู่ข้างผมพูดขึ้น

                พวกผมมันก็แค่นักเลงนักเรียน บ้านรวย ใช้เงินแบบล้างผลาญนี่แหล่ะครับ มีเรื่องไปทั่ว แต่เวลามีเรื่อง พวกผมจะไม่ใช้อำนาจเบ่งว่าใครใหญ่แล้วข่มคู่ต่อสู้หรอกนะครับ แบบนั้นมันไร้ศักดิ์ศรี ไม่ยุติธรรมอ่ะครับ

     

                เหตุการณ์ในคืนนั้นที่พวกเรามีเรื่องต้องเคลียร์กับอีกฝ่ายที่เด็กปลายแถวของคณะผมไปมีเรื่องเล็กน้อย จนเป็นเรื่องใหญ่ จนต้องเดิมพันกันด้วยศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย  ทำให้ผมได้พบเจอกับผู้ชายอย่าง มันคนที่เป็นคนของคู่แข่งพวกผม ผมเริ่มรู้จักมัน เริ่มรู้สึกดีกับมัน และ . . .

    .

    .

    .

    .

    .

    เริ่ม . . . รักมัน

     

    [End side Be-em]

     

    [Kris side]

            ผมกลับมาจากอังกฤษ เพื่อมาศึกษาต่อที่เมืองไทยในมหาวิทยาลัยเอกชนเดียวกันกับพี่ชายผม พี่ฟาริสที่ตอนนี้อยู่ปีสาม ส่วนผมหรอ ปีหนึ่งสถาปัตยกรรม นามว่า คริสผู้โด่งดัง เพราะเป็นน้องชายคนดังของคณะสถาปัตยกรรม ถ้าถามถึงเหตุผล ก็พี่ชายผมมันนักเลงของแท้ครับ ขนาดม๊ายังปวดหัว แต่มันได้ป๊าเป็นแบ็คอัพครับ ป๊าบอกว่า เป็นผู้ชายต้องเรียนรู้เรื่องพวกนี้ไว้ และอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผมกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืนคือ ผมไปมีเรื่องกับ บีเอ็มปีสามวิศวกรรม ผู้ชายอย่าพวกเรา ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ครับ เรื่องศักดิ์ศรีนี่มันคือเรื่องยิ่งใหญ่ หลังจากคืนนั้น ผมก็มีเรื่องกับไอ้คุณบีเอ็มมาเรื่อยๆ พร้อมกับพี่ฟาริส มันเป็นคนพาผมไปมีเรื่องเองแหล่ะ ฮ่าๆๆ J

            Rrr

            =Fa-ris=

                “ครับ”

                [ประชุม ที่คอนโดกู มาเร็วๆนะน้องชาย]

            “กูเรียนอยู่ ไอ้พี่เวร !!

                [ยากอะไรล่ะน้องรัก โดดสิวะไอ้โง่] ดูมันครับ ด่าน้องสุดหล่อของมันได้ยังไงกัน ชิส์

                “เออๆ ก็ได้ อีกสิบห้านาที เจอกัน”

                ผมกดวางสาย แล้วเดินออกจากห้องแบบชิลๆ โดยไม่เกรงกลัวอาจารย์ผู้สอนเลยครับ ทำไมน่ะหรอ อาจารย์ยังไม่มาน่ะสิ คิคิ ><’’

     

            @ คอนโดฯ

                ปัง !!

            ผมถีบประตูห้องสูทคอนโดฯสุดหรูของพี่ชายผมออก แล้วเดินไปนั่งโซฟา เอาท่อนขาขึ้นพาดที่โต๊ะกระจกเตี้ยๆ

                “มีไรไอ้พี่เวร” ผมถามเสียงดุ เนื่องจากบรรยากาศมันร้อนมากในขณะที่ผมขับรถมา และไหนรถจะโคตรบรมติด

                “พวกเราทั้งสองฝ่ายตกลงจะส่งมึงไอ้คริส ไปต่อสู้กับไอ้บีเอ็มของฝ่ายนู้น” พี่แชมป์เพื่อนไอ้ฟาริสพูดขึ้นแบบเนียบๆ แต่คนได้ยินอย่างผมนี่หูผึ่งเลยครับ

                “พี่ ผมจะไปสู้อะไรเขาได้ ทำไมไม่ให้พี่พีชไปล่ะ” ผมเถียงเลย พี่พีชเพื่อนไอ้ฟาริสเนี่ย โคตรเก่งเรื่องชกต่อย หมัดหนักสุดๆ ผมรับประกัน

                “ก็ไอ้พีชมันไม่มีในสิ่งที่มึงมีน่ะสิ ถามมาได้ น้องใครวะ ทำไมโง่อย่างนี้ =’’=” เอ้า ด่าเข้าไปนะมึง ด่าไม่จบ กูด่ากลับ !!

                “มีอะไร ??”

                “หน้าตาหวานๆ รอยยิ้มสวยๆ นี่ไง ไอ้เวร” พี่ผมก็ต่ออีกรอบ จริงๆผมไม่ได้หน้าหวานนะ ออกจะหล่อ แต่ว่าหน้าตาดีที่สุดมั้ง มันเลยเรียกไอ้หน้าหวาน ซึ่งผมไม่ชอบ แต่ก็ยอมตลอด

                “เกี่ยวไรกับตีกันวะ ??” คือผมไม่เข้าใจจริงๆนะเนี่ย

                “แล้วใครบอกจะให้มึงไปตีกับมัน พวกเราสองฝ่ายตกลงกันว่าจะส่งตัวแทนแต่ละฝ่ายให้สู้กัน ใครพูดคำว่า รัก ก่อน ฝ่ายนั้นจะแพ้ ซึ่งพวกกูเลือกมึงว่ะ ไอ้หน้าหวาน J” ไอ้พี่เฟลสุดกวนตีนพูดขึ้นอีกรอบ พร้อมอธิบายเสร็จสรรพ แต่กระผมคนนี้ไม่เข้าใจ ทำไมต้องเลือกโผมมมม ม ม !!

                “ง่า ทำไมไม่เอา พี่ฮิโระเล่า =3=” ผมบ่นอุบอิบ พี่ฮิโระที่นั่งอยู่มองมาที่ผมแล้วมองตาอย่างอาฆาตทันที พี่ฮิโระแกหน้าหวานบ๊องแบ๊วกว่าผมตั้งเยอะนะ แต่แฟนอย่างพี่พีชหันมามองผมอีกราย

                “กูหวง ชัดยัง” พี่พีชพูดเสียงเข้ม

                “อีกอย่าง พวกมันก็รู้ว่าฮิโระเป็นเมียไอ้พีช” พี่แชมป์พูดเสริม

                “ดังนั้น ตำแหน่งนี้ จึงเหมาะกับมึงไงครับ J” ปิดท้ายด้วยพี่เฟล =’’=

            “กูเชื่อว่าน้องอย่างมึงทำได้ กูเป็นกำลังใจให้ J” ไอ้เหี้ยฟาริสสสสสสสสสส ส !!

     

               

    ซึ่งเหตุนี้เองทำให้ผมต้องมานั่งดื่มเหล้าอยู่ในผับกับไอ้บีเอ็ม ไอ้ผู้ชายหน้านิ่ง ที่เอาแต่อัดบุหรี่เข้าปอด โดยไม่สนกฎของผับที่ว่าห้ามสูบบุหรี่ แต่มันคงไม่แคร์อยู่แล้ว มันเป็นหุ้นกับผับนี้ ใครจะว่าอะไรได้

                “น้องครับ พี่ขอเบอร์หน่อยสิ” ผู้ชายกร่างๆ แบบหางแถวเดินเข้ามาขอเบอร์ผมเป็นคนที่ 4 แล้ว แต่ก็ต้องเดินกลับไปนั่งที่ เพราะสายตาดุๆของไอ้บีเอ็มที่ตวัดไปมอง

                ความจริงมันต้องเป็นผู้หญิงที่ต้องเดินมาขอเบอร์ผม แต่ตอนนี้มันก็ไม่แปลกหรอกครับ ก็ไอ้พวกพี่เวรมันจับผมแปลงโฉม ใส่ขาสั้นกับเสื้อกล้าม เซ็ตผม เหมือนผู้หญิงมากครับ ถ้ากูมีนมอ่านะ =’’=

                ผมที่มานั่งกินเหล้าติดแหงก ไม่มีโอกาสเริงร่าหาเหล่านารีมาเสพย์สม ก็เพราะว่าติดภารกิจใหญ่ ที่ต้องดำเนินให้เสร็จภายในหนึ่งอาทิตย์ ซึ่งความจริงเวลามันไม่จำกัด

                “กูไม่ชอบผู้ชาย” มันที่นั่งข้างๆผมพูดขึ้นเสียงแผ่ว แต่ผมก็ได้ยินชัดเจน

                “งั้นสงสัยว่า กูคงเป็นคนแรกที่มึงจะต้องรัก” ผมกวนยียวนประสาทไป แล้วกระดกวอดก้าที่เกือบจะเพียวลงคอ บาดคอสัด !!

                “หึ ไม่แน่” มันพูดจบ ก็โน้มหน้า เอาริมฝีปากนั่นมาบดเบียดกับริมฝีปากของผมอย่างหนักแน่น ดุดัน ไม่มีใครยอมใคร ต่างฝ่ายต่างจู่โจม วอดก้าที่ดื่มไปไม่รู้ว่าเพิ่งออกฤทธิ์หรืออย่างไร ทำให้ผมมึนๆ จนต้องเอนหัวไปพิงไหล่มันไว้

                สุดท้ายผมก็ไปค้างที่บ้านมัน ผมนอนกับมันบนเตียงในห้อง ผมรู้ทุกอย่าง แต่สมองโคตรมึน ปวดหัว เหมือนหายใจไม่ออก พอตอนเช้าแม่ของมันก็เข้ามาถามอาการผม ผมก็ทำตัวน่ารัก เพราะผมเวลาอยู่กับผู้ใหญ่ จะทำตัวไม่สมกับนิสัย จนไอ้ฟาริสมันล้อผม

                วันนั้นทั้งวันผมก็อยู่กับมัน จากนั้นเราก็เจอกันบ่อยขึ้น พูดจาก็ดูไม่ห่างเหิน จนมีอยู่วันหนึ่ง มันพาผมไปนอนที่คอนโดฯ แล้วให้ผมย้ายมาอยู่กับมัน ส่วนเรื่องสู้อะไรกันนั้น ผมก็ลืมไปแล้วครับ เลยสี่วันตั้งนานแล้ว เวลาไอ้ฟาริส พี่แชมป์ พี่พีช พี่เฟล พี่ฮิโระถาม ผมก็แถๆไป

               

     

    วันนี้ตอนเย็นหลังเลิกเรียนมันจะมารับผมที่คณะ สองถึงสามอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมเริ่มรู้จักมันมากขึ้น รับมันเข้ามาในชีวิต ตอนนี้ผมก็ไม่รู้หรอกครับ ไม่สนอะไร ผมว่า ผมน่าจะเริ่มรักมันเข้าแล้วสิ แต่ศักดิ์ศรีและทิฐิของพวกพี่ๆ ทำให้ผมไม่กล้า  

    ผมนั่งรอสบายๆ นั่งกินขนมไปอยู่ที่โต๊ะ แล้วผมก็ได้ยินเรื่องที่ไม่สมควรจะได้ยินเข้า

                “แกรู้เรื่อง ที่พี่เลย์กับพี่ฟาริสมีเรื่องกัน แล้วส่งคนมาสู้กัน แล้วถ้าใครพูดว่า รัก ก่อน จะเป็นฝ่ายชนะใช่ป่ะ” ผู้หญิงในคณะผม โต๊ะข้างหลังผมพูดขึ้น

                “อ๋อ รู้สิแก ข่าวดังจะตายไป แต่มันก็เริ่มเงียบแล้วนิ่” เพื่อนผู้หญิงในกลุ่มนั้นพูดขึ้น

                “บ้าหรอ พี่ชายฉันบอกว่า คืนนี้ พี่บีเอ็มจะแบล็คเมล์คริส เพื่อให้บอกรักพี่บีเอ็มแหล่ะ”

    ผมที่ได้ยินเรื่องนี้ถึงกับช็อค สมองไม่สั่งการให้รับรู้อะไรอีกต่อไป มันเจ็บหน่วงๆอยู่ในอก เหมือนมีอะไรมาบีบที่หัวใจของผม ตลอดระยะเวลาที่ผมรู้จักมัน ผมไม่ได้คิดเรื่องต่อสู้อยู่ในหัวสมองเลย จนวันนี้ ผมที่รักมัน แต่ก็ไม่คิดว่าความรักของผมจะถูกทำลายลงแบบนี้ มันคงจะต้องการชนะผม มันคงไม่ใส่ใจผมในช่วงที่ผ่านมา แน่ล่ะ ผู้ชายฆ่าได้แต่หยามไม่ได้นี่นา สำหรับมันแล้วคงไม่ต้องการความรัก

    ตอนนี้สมองอื้ออึงไปหมด แต่ผมก็ต้องสะดุ้ง เพราะมีคนมาสัมผัสผมที่ไหล่ ผมเหล่มองใบหน้าคมที่ในตอนนี้ผมชอบมันจับหัวใจ ผมเดินตามมันมาขึ้นรถ ระหว่างทางผมก็เงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนขึ้นคอนโดฯแล้ว ก็ยังเงียบ ไม่มีใครพูดอะไร ผมนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก แล้วมองมันที่นั่งกุมมือตัวเองไว้ ใบหน้าของมันดูจริงจังมาก จนกรามขึ้นเป็นสัน

    “ไม่ทำล่ะ จะรออะไรอยู่ ??” ผมตัดสินใจถามออกไป

    “กูรู้หมดแล้ว เรื่องที่มึงคิดจะแบล็คเมล์กูอ่ะ ทำดิ ทำไมไม่ทำล่ะ” ผมก็ถามต่อไปโดยไม่มองหน้ามันแม้แต่น้อย

    “พี่ . . . พี่ไม่กล้า” มันตอบ เหมือนจะลังเลอะไรสักอย่างอยู่

    “กูไม่รู้ว่ามึงคิดอะไร แต่ถ้ามึงต้องการชนะ กูก็จะยอม” มันหันมามองหน้าผมด้วยความสงสัย

    “ผมรักพี่นะ พี่บีเอ็ม” ผมพูดออกไปพร้อมกับหัวใจที่เจ็บมาก

    ตอนนี้น้ำตาของผมจะไหลอยู่แล้ว ผมเดินออกมา แล้วขับรถที่จอดไว้ที่ลานจอดรถคอนโดฯมันตั้งนานแล้ว เพราะปกติ จะมีมันคอยมารับส่ง พาไปนู่นนี่ จะมีแค่มัน มันคนเดียว ผมขับไป น้ำตาก็ไหล ผมไม่รู้จุดหมายที่จะไป

    Rrr

    =Fa-ris=

    “มีไร ??” ผมพยายามปรับโทนเสียงให้ปกติที่สุด

    “กูรู้นะ ว่ามึงรักมัน กูขอสั่งห้ามโดยเด็ดขาด” ฟาริสมันสั่งเสียงจริงจัง ผมไม่เคยได้ยินโทนเสียงแบบนี้จากมัน
                “มึงห้ามหัวใจกูได้ด้วยหรอ” ผมตอบไป น้ำตาก็เริ่มไหลแล้ว ในขณะที่ผมกำลังจะเลี้ยว ก็มีรถบรรทุกขับมา จนผมหักหลบไม่ทัน และผมก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
    . . . .

     

    [End side Kris]

     

     

     

     

     

    [Be-em side]

     

            ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในห้องพยาบาลสีขาวท่ามกลางศัตรู แต่คนที่ผมรักตอนนี้ นอนอยู่บนเตียงสีขาว ร่างทั้งร่างมีผ้าพันแผลพันแต่ละจุดของร่างกาย รอยฟกช้ำมากมาย ผมมองดูภาพนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ถ้าย้อนเวลาไปได้ ผมจะรั้งน้องไว้ ผมจะบอกความในใจไป แต่เพราะว่าทิฐิและศักดิ์ศรีมันค้ำคอผมอยู่ ผมจึงไม่ได้พูดออกไป ผมอยากเจ็บแทนน้อง ผมรักน้อง

                ผลัวะ !!

            หมัดแน่นๆของไอ้ฟาริสพี่ชายร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงต่อยผมเข้ามาเต็มๆ

                “เป็นเพราะมึง ไอ้บีเอ็ม ที่ทำให้น้องกูเป็นแบบนี้ ขนาดกูเป็นพี่มัน ก็ยังไม่เคยทำให้มันเจ็บ มึงเป็นใคร ไอ้เวรเอ้ย ไสหัวมึงออกจากห้องนี้ กูจะไม่ให้มึงยุ่งกับน้องกูอีก !!” มันตะโกนด่าผมเสียงดัง นั่นสินะ ผมเป็นใคร ทำไมผมถึงทำให้ร่างบางเจ็บขนาดนี้ คนที่ผมรัก และรักผมต้องมาเจ็บปางตาย เพราะผมคนเดียว

                “มึงไม่ต้องมาให้น้องพวกกูเห็นหน้าอีกนะ” ไอ้พีชคนที่มีอำนาจดำอยู่เบื้องหลังบอกผมเสียงเรียบ

            “ออกไปจากชีวิตน้องพวกกู” ไอ้เฟลก็พูดขึ้น

                “อย่ามายุ่งกับมันเลย” ไอ้แชมป์พูดต่อ

                “ขอร้องเถอะ” ปิดท้ายด้วยฮิโระ

                ผมตัดสินใจเดินออกมาจากห้องนั้น ก่อนออกไป ผมก็มองไปที่ร่างบาง รอยแผลเต็มตัวนั่น ผมรู้สึกผิดจากขั้วหัวใจ ผมเดินไปขึ้นรถ ไม่รู้ว่าเรื่องที่ผมจะทำนี้ มันพอจะทำให้ร่างบายดีใจและทดแทนความผิดได้ไหมนะ

    ผมขับรถมาที่คอนโดฯเลย์ เข้าไปที่ห้องของมัน ก็อยู่กันครบ สงสัยรอฟังผลที่พวกมันวางแผนจะให้ผมแบล็คเมล์น้อง

            “เป็นไงมั่งวะ ??” ใครสักคนถามผมขึ้น ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรทั้งนั้น

            “พวกมึงฟังกู กูรักน้อง กูอยากอยู่กับน้อง กูขอยอมแพ้ พวกมึงจะว่าอะไรกู จะทำไมกูก็ได้ แต่กูรักน้อง” ผมพูดออกไปเสียงเรียบ ไม่ว่าผลจะออกมายังไง อย่างน้อยผมก็ได้พูดออกไป ถึงแม้จะไม่ได้ต่อหน้าเจ้าตัวก็เถอะ ตอนนี้ผมขอยอมรับ ขอละทิ้งทิฐิ และศักดิ์ศรีทุกอย่าง ผมไม่สนแล้ว ว่าพวกเราเป็นใคร ตอนนี้ ผมขอทำอะไรสักอย่างเพื่อน้องก็พอ

            ถ้าถามถึงสภาพผมหลังจากนั้นหรอ เละครับ โดนรุมระยำตีน แต่ก็มานั่งกินเหล้ากับพวกมันจนตอนนี้ เวลาตีสามกว่าๆแล้ว

                “ความจริง กูก็พอรู้ความรู้สึกมึง ที่พวกกูยำมึง ก็เพราะว่ากว่ามึงจะยอมรับความรู้สึกตัวเองได้ ก็เล่นพวกกูเหนื่อยเลยเนี่ย ไอ้เพื่อนเหี้ยเอ้ย” เลย์ ตัวตั้งตัวตีพูดขึ้น ทำเอาผมตกใจไม่น้อย คงวางแผนกันไว้สินะ

                “ฮ่าๆๆ ทีนี้ก็เหลือแต่พวกนั้นแล้ว ว่าจะยอมหรือเปล่านะ” อีกคนพูด แต่ตอนนี้ ผมมึนมาก เชิญคุยกันไปเถอะ นอนดีกว่า

                และจากนั้นมาอาทิตย์หนึ่ง น้องก็ออกจากโรงพยาบาล กลับมาเรียนเหมือนเดิม ทุกครั้งที่ผมจะไปหาน้อง พวกมันก็ไล่ผมไป ผมแอบมองน้อง น้องชอบนั่งเหม่อ เหมือนคนไม่มีอะไรอีกแล้ว น้องไม่ค่อยยิ้ม แล้วไอ้เลย์ก็ประกาศว่าพวกมันแพ้เพราะว่าผมยอมรับว่ารักน้องก่อน

                “กูจะให้โอกาสมึง ครั้งสุดท้าย ไปหามันสิ” จู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น เป็นเสียงของไอ้ฟาริส

                “ทำไม ??” เพราะมันหวงน้องมันจะตาย เป็นไปไม่ได้เลย ที่มันจะยอม

                “กูสงสารน้อง” ในขณะที่มันพูด สายตามันเต็มไปด้วยความเศร้าที่แฝงอยู่ในนัยน์ตานั่น

                “ขอบใจ กูจะดูแลโอกาสครั้งนี้ และจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือ” ผมพูดพร้อมกระตุกยิ้ม

                ผมเดินเข้าไปหาน้อง แล้วจับมือน้องพาไปที่คอนโดฯของผม สภาพน้องหรอครับ มองผมแบบเหม่อๆ แต่ไม่ตอบโต้อะไร ผมเห็นแล้วปวดใจ สภาพน้องเป็นไปได้ถึงขนาดนี้เลยหรอ

                “คริส มองตาพี่สิ” ผมพูดเรียกความสนใจน้อง ตอนนี้ผมและน้องนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกของคอนโดฯผม

                น้องหันมาทางผม แต่สายตาก็ยังดูเหม่อลอย สักพักน้ำตาน้องก็ไหล สายตาน้องหลบหน้าผม เสมองไปทางอื่น อย่างเห็นได้ชัด

                “คริส อย่าทำแบบนี้ได้ไหม พี่ไม่อยากเห็นคริสเป็นแบบนี้นะ พี่ทนไม่ได้ คริสเจ็บ พี่ก็เจ็บ พี่ยอมรับแล้ว พี่รับแล้ว ว่าพี่รักคริส พี่จะละทิ้งทิฐิ ศักดิ์ศรีทุกอย่างนะ คริสจะให้โอกาสพี่ได้บ้างหรือเปล่า” ผมพูดและถามน้องเสียงสั่น ผมที่สั่งน้องให้มองตา เป็นผมเองที่หลบตาน้อง

                น้องจับมือผมเบาๆ ผมเลยมองที่ใบหน้าหวานเปื้อนน้ำตา ตอนนี้น้องยิ้มอยู่ เป็นครั้งแรกที่ผมได้รอยยิ้มที่อ่อนโยนจริงใจ เต็มไปด้วยความรัก ผมจะรักษาความรักครั้งนี้ไว้ให้นานที่สุด แต่ผมจะไม่สัญญา ผมขอแค่จะอยู่ข้างน้อง รักน้องตราบเท่าที่ผมจะทำได้

                “กะ . . กอดคริสหน่อย” น้องพูดเสียงสั่น แต่ผมก็ตอบรับคำขอ โน้มตัวไปกอดน้อง จูบที่หน้าผากน้องเบาๆ

                “ให้พี่ดูแลคริสนะ” ผมพูดเสียงแผ่ว ตอนนี้ผมดีใจมาก ที่ดวงใจของผมอยู่ในอ้อมกอดแบบนี้

                “คริสรักพี่บีเอ็ม รักที่สุด คริสไม่ปล่อยพี่ไปแล้วนะ ถึงคริสจะแพ้ คริสก็จะไม่ปล่อยมือจากพี่” น้องพูด พร้อมกับจับมือผมแน่น

                “คริสไม่แพ้ คริสชนะใจพี่แล้วนะ” ผมพูดกอดน้องแน่นขึ้นเหมือนกัน

                ความรักต้องการแค่หัวใจของคนทั้งสอง ความรักไม่มีขอบเขต ไม่กำหนด เพศ อายุ ต่างๆ อย่าใช้สมองในการที่จะรักใคร ให้ใช้หัวใจนำทาง ความรักไม่ควรมีทิฐิ และศักดิ์ศรีมาเกี่ยวข้อง เพราะมันจะไม่ใช่ความรัก . . .

    --------------------------------------------------------------------------------------------------

    จบ....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×