คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 26th January 2008...
Secret Admirer
Chapter 5 ~ 26 มกราคม ปี 2008
ร่างบางเหลือบมองนาฬิกาแขวนผนังในห้องนั่งเล่นซึ่งบอกเวลาห้าทุ่มครึ่งและอมยิ้มอยู่คนเดียว
“เหลืออีก30นาทีสินะ! ชั้นจะนอนตอนนี้ไม่ได้! เค้าจะมาแน่ๆ…” ร่างบางพูดให้กำลังใจตัวเองว่า secret admirer จะต้องมามอบของขวัญด้วยตัวเองอย่างแน่นอน ปีนี้เค้าอยากจะรู้เหลือเกินว่าใครกันที่ให้ของขวัญเค้ามาตลอด4ปี และเค้าก็คาดว่าจะเป็นหนึ่งในสมาชิกวงเป็นแน่ เนื่องจากว่าของขวัญเหล่านั้นถูกพบในบ้านพัก ไม่มีทางเป็นแฟนๆแน่นอน
“จะใช่ยุนโฮมั้ย??” ร่างบางสงสัยว่าจะเป็นยุนโฮ ด้วยเหตุผลที่ว่า ยุนโฮนั้นดีกับเขามาก และในบางครั้งก็ดีเกินกว่าที่เพื่อนสนิทจะเป็นได้ ยูชอนและจุนซูถูกตัดออกจากลิสท์เรียบร้อยเพราะไม่มีความเป็นไปได้เลย
ร่างบางยิ้ม เป็นยุนโฮสินะ! และคืนนี้ร่างบางก็จะรอการปรากฎตัวของยุนโฮและของขวัญในปีนี้ หัวใจเต้นรัวผิดปกติอย่างที่ไม่เคยเป็น ภาพหนึ่งลอยมาในหัวของแจจุง
“แต่เป็นไปได้มั้ยถ้าจะเป็นชางมิน??? ไม่ๆ ไม่มีทางหรอก... คนเดียวที่รู้ว่าชั้นมันโคตรผู้ชายก็มีแต่ชางมิน” และอีกเหตุผลที่ร่างบางไม่คิดว่าเป็นชางมินก็เพราะว่า ชางมินคอยหยอกล้อเค้ามาตั้งแต่ต้น พวกเค้ายังถูกเรียกว่า “soulfighter”! เพราะฉะนั้น เค้ามั่นใจเต็มเปี่ยมว่าไม่ใช่ชางมิน!
ร่างบางยังคงหลงอยู่ในความคิดของตัวเอง ในขณะนั้นเอง กล่องที่ถูกห่ออย่างสวยงามก็ปรากฎอยู่ตรงหน้าของร่างบางร่างบางเงยหน้าขึ้นมาพบกับยูชอนที่กำลังยืนโบกของขวัญไปมาตรงหน้าของเขา
“นายคือ secret admirer ของชั้นหรอ???” แจจุงทำตาโตตกใจอย่างไม่เชื่อสายตา!
.
...
......
........
..........
“ใช่สิ พยายามได้ดีฮะพี่! ฝันต่อไปเหอะ!” ยูชอนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและยื่นมือมาหยิกแก้มแจจุงทั้งสองข้าง
ร่างบางดูโง่ไปทันใด
“อ๊ายยย… พี่ผมนี่น่ารักจังเลย นั่งรอ secret admirer อยู่อย่างเงี่ย…” ยูชอนนั่งลงข้างๆแจจุงและวางของขวัญลงบนตักร่างบาง
“หมายความว่าไง?”
“นี่ไม่ใช่ที่ที่ดีสำหรับการรอเลยนะ ว่ามั้ย? ผมเจอกล่องนี้หน้าห้องเราเมื่อกี้นี้เองฮะ พี่น่าจะไปรอหน้าห้องนะ” ยูชอนเริ่มหาว
“แต่พี่ไม่ได้ยินเสียงใครออกมาจากห้องเลยนี่” แจจุงพูดเสียงดังเพราะเริ่มหงุดหงิด
“เน่ เบาๆหน่อย ทุกคนหลับอยู่นะ นอกจากคนนั้น ผมว่านะ” ยูชอนขำกับคำพูดตนเอง “ยังไงก็แล้วแต่ พี่แค่สายไปนิดแล้วก็บื้อไปหน่อยมั้ง?? ผมบอกพี่ว่าอย่ารอตรงนี้ไง… อ้าาา ง่วงจัง พี่ก็ควรจะไปนอนได้แล้วนะ พรุ่งนี้เรามีตารางงานตอนเช้าเลยด้วย…” ยูชอนกล่าวอย่างงงงวยและลุกเดินไปยังห้องนอน
“ไม่เป็นไร… นายไปนอนก่อนเลย พี่อย่ากอยู่ตรงนี้ซักพัก”
“อย่าอยู่ดึกนักล่ะ สุขสันต์วัน... อุ๊บ... ยังไม่เที่ยงคืนเลย... หรือผมยังไม่ควรอวยพรมั้ง?? พี่คงอยากให้ secret admirer พูดเป็นคนแรกสินะ กู๊ดไนท์ฮะ!” และยูชอนก็เดินจากไป ปล่อยแจจุงอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่น
‘อีก5นาที…’ ร่างบางมองนาฬิกาอย่างเศร้าๆที่ตัวเองพลาดที่จะได้พบคนคนนั้นอีกแล้วในปีนี้
เข็มนาฬิกาเลื่อนไปที่เลข12 ร่างบางก็ค่อยๆเปิดกล่องของขวัญพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างช้าๆ ไม่มั่นใจว่ามันเป็นน้ำตาจากความสุขหรือเศร้า อาจเป็นทั้งคู่ สุขเพราะคนคนนั้นไม่เคยลืมวันเกิดตน และเช่นกัน เศร้าเพราะคนคนนั้นไม่มาปรากฎตัวให้เห็น
ร่างบางสูดหายใจลึกเมื่อเห็นกล่องกำมะหยี่ในกล่องของขวัญ และแหวนวงสวยที่อยู่ในกล่องเมื่อครู่ก็ถูกร่างบางนำมาสวมให้นิ่วเรียวยาวของตน ร่างบางนำแหวนกลับใส่ลงไปในกล่องและหยิบการ์ดที่มากับของขวัญดั่งเช่นทุกปีขึ้นมาอ่าน
******
ถึง แจจุง…
สุขสันต์วันเกิด ผมรู้ว่าคุณรอการปรากฎตัวของผมอยู่ในปีนี้ ผมขอโทษที่ทำให้คุณผิดหวัง ผมเดาว่าตัวเองคงยังไม่กล้าพอที่จะทำเช่นนั้น
******
“ไอเจ้าขี้ขลาดโง่เง่า” ร่างบางบ่นด้วยลมหายใจ น้ำตายังคงไหลลงมาไม่หยุด
******
ผมไม่รู้ว่าคุณจะตอบสนองอย่างไรกับสิ่งที่ผมจะบอกต่อไป แต่ขอร้องอย่าโกรธผมเลย ผมรักคุณ คิมแจจุง… มากกว่าเพื่อนรัก มากกว่าพี่ ผมหวังว่าคุณคงจะไม่รู้สึกขยะแขยงกับคำสารภาพนี้ ผมได้แต่เก็บความรู้สึกนี้มาตลอดตั้งแต่ได้พบคุณครังแรก ไอคนขี้ขลาดคนนี้ยังกลัวเกินกว่าจะพูดมันต่อหน้าคุณ
แจจุง คุณจะรับความรู้สึกของผมมั้ย?? คุณจะรักผมเหมือนที่ผมรักคุณมั้ย??
******
“อะไรนะ???? เค้ารักชั้น???” ร่างบางได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข
******
ผมยังไม่ต้องการคำตอบตอนนี้หรอก โปรดใช้เวลาคิดดีๆก่อน ถ้าคุณยอมรับผม และมีความรู้สึกเดียวกันกับผม ก็โปรดใส่แหวนที่ผมให้ในปีนี้บนนิ้วของคุณ ผมจะไปหาคุณเมื่อผมเห็นแหวนนั่นบนนิ้วของคุณ แต่ถ้าคุณไม่รับความรู้สึกผม ได้โปรดอย่าส่งแหวนกลับให้ผม ให้ใส่มันเป็นจี้ไว้ที่คอ ผมจะดีใจมากหากเห็นมันบนคอของคุณแทนความเป็นเพื่อนของคุณต่อผมและแทนความรักของผมต่อคุณ ดีกว่าจะเห็นมันถูกส่งกลับมาให้ผม
รักอย่างยิ่ง,
secret admirer ของคุณ…
******
ร่างบางกำแหวนไว้ในมือ เค้าควรจะรับมันดีมั้ย ความรู้สึกของคนคนนั้น
“พี่… ยังไม่นอนหรอ???” จุนซูทักเมื่อเห็นพี่ชายกำลังนั่งจุมปุ๊กอยู่คนเดียว ร่างบางเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของจุนซู
“โอ๊ะ จุนซูอ่า… ยังหรอก คงอีกซักพักนึงน่ะ”
“พี่ทำไรอยู่?” จุนซูหาวและนั่งลงบนพื้นตรงหน้าของแจจุง สายตาก็มองไปที่แหวนวงสวยในมือพี่ชายและการ์ดอวยพรบนตัก
“ผมอ่านได้มั้ย??” จุนซูถามอย่างเป็นห่วง เค้าเองอยากที่จะอ่านการ์ดแต่ก็กลัวจะล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวของแจจุง เมื่อร่างบางพยักหน้า จุนซูก็รับการ์ดมาอ่าน
“นายคิดว่าไงจุนซู??”
“พี่รักเค้ามั้ยล่ะ?” จุนซูตอบคำถามด้วยคำถาม
“ฮืมม… รักสิ… ไม่ๆ พี่หมายถึง ไม่รัก…” ร่างบางยังลังเลที่จะตอบ จุนซูหัวเราะในใจและชายตามองร่างบาง
“อะไรกัน?? อย่ามองพี่แบบนั้นสิ!” แจจุงโบกหัวจุนซูเบาและหัวเราะกลบเกลื่อน
“พี่ ตอบผมมา พี่รักเค้ารึปล่าว??”
ร่างบางจ้องหน้าน้องชาย “พี่ก็ไม่รู้จุนซู พี่หมายถึง พี่จะรักคนแปลกหน้าได้ไง?? พี่ไม่รู้ว่าเค้าเป็นใคร!”
“อะไร?? คนแปลกหน้า?? เค้าไม่ใช่คนแปลกหน้า! เค้าก็เป็นคนในวงเราเหมือนกันนะ พี่ต้องรู้จักเค้าสิ อย่างน้อยก็ตั้งแต่เดบิวท์” จุนซูพูดอย่างหงุดหงิด
“ใช่ พี่รู้ แต่ใครล่ะ???? ยุนโฮ?? ยูชอน?? ชางมิน?? หรือว่านาย จุนซู??” ร่างบางหลุดหัวเราะเมื่อเห็นหน้าจุนซูตอนที่ถูกกล่าวชื่อ
“พี่อ่ะ! ไม่ใช่ผมนะ โอเค๊! ผมจะพูดไงดี ไม่ใช่ผมละกัน ผมไม่ได้รักพี่แบบนั้น” จุนซูแก้ต่างไม่หยุด
“อาจจะเป็นยูชอนก็ได้… เค้าเป็นคู่ชีวิตพี่นี่ [หรือ soulmate : อ๋องุงิ] ”
“เน่ ไม่ใช่ยูชอนเหมือนกัน! ยูชอนเป็นแฟนผม เค้ารักผม ไม่ใช่พี่! เค้าเป็นคู่ชีวิตผม!” .... จุนซูเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองเพิ่งจะคลายความจริงที่เค้ากับยูชอนปกปิดจากสมาชิกคนอื่นๆ
“ห้าๆๆ… ในที่สุดนายก็ยอมรับ!” ร่างบางหัวเราะสะใจ
“เฮ้ยย!!!! พี่หลอกผม…” จุนซูทำหน้างอน
“พี่ก็แค่อยากฟังความจริงจากปากนายเอง พี่รู้ว่ามันต้องมีอะไรซักอย่างระหว่างพวกนาย!” ร่างบางยิ้มและลูบหัวน้องชายอย่างเอ็นดู “พี่ดีใจด้วยสำหรับนายและชอนนี่…”
“ขอบคุณฮะพี่…” จุนซูหน้าแดงขึ้นมาทันที พี่แจจุงรู้ความลับแล้วไงล่ะ
“ดีจังที่ถูกรัก ฮะ…?” แจจุงถอนหายใจ
“อื้มม พี่ก็รู้สึกได้ นี่..เค้ากับลังหยิบยื่นมันให้พี่นะ ก็ขึ้นอยู่กับพี่แล้วว่าจะรับมันไว้รึปล่าว” จุนซูพยายามยุร่างบาง
“แต่พี่ไม่รู้นี่ว่าเค้าเป็นใคร ใช่ยุนโฮมั้ย หรือชางมิน??”
“แต่พี่ก็ควรจะรับโอกาสนี้ไว้ ไม่สำคัญว่าใครคือคนคนนั้น ผมมองว่าทั้งสองคนนั้นก็เป็นผู้ชายที่ดี และผมมั่นใจ ว่าใครก็แล้วแต่ พี่หัวหน้าหรือน้องชายคนเล็ก เค้าก็สามารถรักพี่ได้พอๆกับความรักที่พี่จะให้เค้าได้”
“พี่ควรเสี่ยงมั้ย??”
“การเสี่ยงก็ไม่ได้ทำให้พี่เจ็บปวดนี่ ลองคิดดูนะฮะ… ที่ผมมั่นใจคือว่าเค้ารักพี่ คว้าโอกาสที่จะรักและถูกรักเอาไว้” จุนซูกล่าวทิ้งท้ายก่อนปล่อยแจจุงนั่งคิดอยู่คนเดียวเช่นเดิม
***
**
*
วันนี้ร่างบางทำอาหารมากเป็นพิเศษ ยังไงก็วันเกิดเค้านี่เนอะ ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากที่เมื่อคืนครุ่นคิดอยู่นาน ร่างบางตัดสินใจจะให้โอกาสตัวเองและคนคนนั้น ที่นิ้วของร่างบางมีแหวนวงสวยจากคนที่เป็นที่รัก
ในขณะนั่น ร่างบางก็รู้สึกมีใครกอดเค้าจากด้านหลัง รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆและสัมผัสของจูบเบาๆที่ต้นคอ
“ผมเห็นว่าคุณสวมแหวนแล้ว ผมจะนับว่าคุณรับนะ…”
แจจุงหันหลังขวับอย่างรวดเร็วและเห็นยุนโฮที่กำลังยืนยิ้มให้เขา
“ยุนโฮ??? เป็นนาย??”
“ใช่ ชั้นเอง ชั้นคือคนนั้นของนาย”
“อ้าาา แล้วก็เป็นนายจริงๆ” แจจุงสวมกอดยุนโฮ
ยุนโฮถึงกับเอนไปด้านหลังเนื่องจากอยู่ดีๆแจจุงก็กอดมาซะงั้น เขายิ้มและกอดกลับ ร่างบางได้แต่สะอื้นในอ้อมกอดของร่างสูง
“เน่ ร้องไห้ทำไม?? นายผิดหวังที่เป็นชั้นหรอ??” ยุนโฮถามอย่างเป็นกังวล
“เปล่า… ชั้นดีใจที่เป็นนาย… ชั้นรู้ว่าเป็นนาย…”
“นี่… นี่… อย่าร้องสิ โอเค๊…” มือหนายื่นขึ้นมาปาดน้ำตาให้ร่างบาง “ขอบคุณที่รับมันนะ แจจุง ชั้นรักนายแจจุงกี้… ชั้นรักนายมากๆ” ยุนโฮสารภาพ
“ชั้นก็รักนาย ยุนโฮอ่าาา…” ร่างบางลูบแก้มร่างสูงเบาๆ
ร่างสูงเอนลงทีละนิดเพื่อกอบกุมริมฝีปากสีหวานของร่างบาง แจจุงได้แต่หลับตารอการจุมพิตของชายผู้เป็นที่รัก ชายที่รอคอยมาแสนนาน secret admirer ของเค้า
***
**
*
ชางมินซึ่งยืนอยู่หลังกำแพงห้องครัวหันหนีทันทีที่เห็นยุนโฮก้มลงจูบแจจุง เค้าไม่สามารถรับมันได้อีกแล้ว ชางมินเดินกลับไปยังห้องนอนรวมของเค้าและยุนโฮกับจุนซู ร่างอันไร้เรี่ยวแรงของชางมินล้มลงบนพื้นทันทีเมื่อพ้นประตูห้อง น้ำตาไหลพรากลงมาเปียกหน้าเต็มไปหมด ชางมินกำเสื้อตัวเองไว้แน่น เค้าไม่สามารถรับความเจ็บปวดในหัวใจไหวอีกต่อไปแล้ว จุนซูผู้ซึ่งอยู่ในห็องก็รีบวิ่งมายังน้องเล็กด้วยความเป็นห่วง
“ชางมินอ่า เกิดอะไรขึ้น?? เค้าปฏิเสธหรอ?? พี่แจปฏิเสธนายหรอ??” เขาถามอย่างกังวลและกอดชางมินแนบกับหน้าอก
“ผมสายพี่… ผมสายไป…” ชางมินร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของจุนซู
“ชืออ… อย่าร้องสิมินอ่า…” จุนซูสางผมน้องเล็กและพยายามทำให้คนในอ้อมแขนสงบลง
ยูชอนเข้ามาในห้องและกดล๊อกประตู ภาพที่เห็นแทบจะทำให้ยูชอนลงไปกองกับพื้น ชางมินที่ร้องไห้อย่างหนักในอ้อมกอดของจุนซู ยูชอนถอนหายใจและเดินไปยังทั้งคู่
“ชั้นไม่อยากจะเชื่อว่ายุนโฮจะทำแบบนี้ได้ คนไร้หัวใจ… มินอ่า อย่าร้องนะ…” ยูชอนพยายามปลอบน้องเล็กแม้ที่จริงแล้วตัวเองก็แทบจะเก็บน้ำตาไว้ไม่ไหวแล้วก็ตาม
“ผมมันโง่สิ้นดี… และขี้ขลาด… ผมรักพี่เค้ามากจนกลัวจะถูกปฏิเสธ ผมน่าจะมอบของขวัญให้พี่เค้าเองเมื่อคืน ปีที่แล้วก็ด้วย แล้วก็ปีก่อนๆนั้น ผมน่าจะให้ผ้ากันเปื้อนพี่เค้าแล้วก็บอกว่าผมรักพี่ตั้งแต่แรก แล้วตอนนี้มันก็สายไปแล้ว พี่แจรักพี่ยุนโฮ ผมสายและโง่และขี้ขลาดและ…และ… ” ชางมินผู้ซึ่งอยู่ในอาการที่แย่มากๆ ไม่ยอมหยุดร้องไห้ ได้แต่โทษตัวเองกับเรื่องทั้งหมด
“ชูวว… มินอ่า อย่าทำอย่างงี้สิ” จุนซูพยายามยั้งน้องเล็กจากการโทษตัวเอง แต่ตนเองนั้นก็ร้องไห้ไม่หยุดเช่นเดียวกัน
“ไม่ ชางมิน มันยังไม่สาย! ยุนโฮกำลังแทงนายข้างหลัง หยุดร้องซะ… กลับไปบอกความจริงกับแจจุงซะสิ!” ยูชอนปาดน้ำตาชางมินและลากชางมินไปกับเค้า
“ไม่ฮะ… ผมทำไม่ได้ พี่แจจุงพูดว่าเค้ารักพี่ยุนโฮ แล้วพี่เค้าก็รักพี่แจจุงด้วย… ผมทำลายมันไม่ได้” ชางมินกระชากมือออกจากมือยูชอน
“ชางมิน อย่าโง่หน่า! นายยังมีโอกาสนะ นายจะปล่อยให้ยุนโฮทำแบบนี้กับนายไม่ได้” ยูชอนพยายามดึงชางมินออกไปอีกครั้ง
“ไม่… ผมทำไม่ได้ ปล่อยพวกเค้าเถอะฮะ… พวกเค้าก็รักกัน ผมเป็นคนที่มาสาย ตอนนี้ผมจะมาทำลายทุกอย่างไม่ได้”
“แต่ชางมิน นาย…”
“ไม่ฮะ อย่าเลย… แล้วก็ได้โปรดอย่าบอกพี่แจจุงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมไม่อยากเป็นมือที่สาม ปล่อยเค้า… ถ้าพี่แจมีความสุข ผมก็มีความสุข…” ชางมินยิ้ม แต่น้ำตาก็ยังคงไหลลงมาไม่หยุด
“ชอนนี่ ปล่อยเค้าเถอะ อย่าบังคับชางมินเลย…” จุนซูยังคงกอดน้องชายไม่ปล่อย
ยูชอนทรุดลงบนพื้นและดึงทั้งสองร่างเข้ามาในอ้อมกอดและร้องไห้ไม่หยุดเช่นเดียวกัน
ทำไมบทนี้มันยาวจังนะ ทำไมรู้สึกว่าการแปลบทนี้
มันยากกว่าบทก่อนๆ ทำไมถึงใช้เวลานานเหลือเกิน
เมื่อมาดูเวลาตอนนี้ก็ตกใจไปเลย
นับตั้งแต่เริ่มเปิดไฟล์งานขึ้นมาแปล
ก็ห้าชั่วโมงครึ่งพอดี นานจัง
หรือเป็นเพราะว่า แปลๆ หยุดๆ
ไม่ให้หยุดได้ไงล่ะ พอถึงครึ่งหลัง
ก็ไม่อยากจะแปลต่อแล้ว
ไม่ใช่เพราะขี้เกียจ แต่เพราะว่า
นอนร้องไห้เองเท่านั้น
ตอนนี้อ่านเรื่องนี้ยังร้องไม่หนักขนาดนี้เลย
อ๋อหนะร้องไห้ง่ายอยู่แล้ว
แล้วยิ่งตอนนี้ อ๋อมัเรื่องไม่สบายใจมากๆ
แล้วมันไม่มีที่ระบาย
ไม่มีคนอ่านก็ไม่เป็นไรหรอก
เขียนทิ้งไว้แล้วจะดีขึ้นใช่มั้ยล่ะ
การที่ผิดสัญญาตัวเองน่ะไม่เป็นไรใช่มั้ย
เมื่อสัญญาว่าจะไม่ร้องไห้เพราะว่าพวกเค้า
แต่ในที่สุดก็กลั้นไว้ไม่ได้
ถึงจะไม่มีใครเห็นแต่ก็รู้ดีอยู่
อ๋อก็แค่คนขี้แง ก็แค่เด็กคนนึงเท่านั้น
มันไม่สำคัญหรอกค่ะมันก็แค่...
ข้ามไปเถอะ
ความคิดเห็น