ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ยังไง...ก็ยังไม่ได้กลับคืนมา
“  อืม  สรุปว่าเอาตามที่เราเสนอมานี้แหละ  เพียงแต่เปลี่ยนตัวอย่างประชากร  เป็นนิสิตทั้งมหาวิทยาลัยของเราละกัน  งานวิจัยของเธอจะได้นำเสนอต่อทางโรงพยาบาลเราได้อย่างมีคุณภาพ ” ชายอาวุโสกล่าว  พร้อมกับยื่นแบบโครงร่างการทำวิจัยคืนให้ลูกศิษย์สาว
“ ค่ะ  อาจารย์  เดี๋ยวยังไง  หนูขอไปแก้งานแล้วจะนำมาให้อาจารย์ดูพรุ่งนี้อีกทีนะคะ  ส่วนแบบสอบถาม  ขอส่งอาทิตย์หน้าละกันค่ะ ”  หญิงสาวตอบ
“ โอเค  รีบเอามาให้อาจารย์ดูหน่อยละกัน  งานวิจัยของเรามันจะช้าก็ตอนเก็บข้อมูลนั่นแหละ”
“ ค่ะ  ถ้างั้นหนูลานะคะอาจารย์”  หญิงสาวกล่าวลาพร้อมกับยกมือไหว้อาจารย์ที่ปรึกษาproject
.ประตูห้องพักปิดลง  หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกหลังจากที่เคร่งเครียดมาตลอด 1 ชั่วโมงแห่งการนำเสนอโครงร่างproject  แล้วสายตาก็เหลือมองเห็นประตูลิฟท์ที่กำลังจะปิด  ทำให้หญิงสาวต้องใช้วิชาที่ติดตัวมา  วิ่งตรงไปยังลิฟท์ทันที
“ รอด้วยค๊าๆๆ ”  หญิงสาวตะโกนเรียก พร้อมกับที่ เจ้าตัวก็วิ่งมาถึง และ... 2 มือ กับอีก 1 เท้า ยันประตูลิฟท์ที่กำลังจะปิดไว้  แล้วแทรกตัวเองเข้ามาในลิฟท์อย่างรวดเร็ว
“ จะรีบไปไหนเฮอะ ปภาวี  อาจารย์ยังอยากขึ้นลงชั้น 5 โดยใช้ลิฟท์อยู่นะ  เกิดเธอเป็นอะไรไป  แล้ววิญญาณไม่ไปไหน  ต้องมาติดแหง็กอยู่กับลิฟท์นี้  เดี๋ยวอาจารย์ก็แย่พอดีหรอก  ต้องขึ้นลงบันได ตั้ง 5 ชั้นนะ ” 
...หญิงสาวหันไปมองเจ้าของเสียง  ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากอาจารย์รัชนีกร  หรือ อาจารย์ สอง  ที่ปรึกษาส่วนตัวซึ่งสนิทกับหญิงสาวดีประมาณว่า ซี้ปึ๊ก เลยแหละ
“ โห่..จารย์เล่นแรงเนอะ ....ตั้งแต่เที่ยงเลยนะ”
“ ก็แล้วดูเราทำสิยัยเปรียว ...มันน่านัก!  วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา  เดี๋ยวประตูลิฟท์หนีบจริงๆ อย่ามาโอดครวญให้อาจารย์ฟังละกัน”
“ ค๊า ..ความผิดหนูเองค่ะ...คราวหน้าจะไม่ทำอีกแล้ว...พอใจไหมคะอาจารย์ ...แต่ถ้าหนูต้องกลายเป็นผีเฝ้าลิฟท์จริงๆ  ไม่ว่าจารย์อยู่ที่ไหนหนูก็จะตามไปจนเจอนั่นแหละค่ะ ...แหมก็เราสองคนเป็นคู่กันเราขาดกันไม่ได้นี่คะอาจารย์  ”    หญิงสาวพูดพร้อมส่งสายตาละห้อยให้อาจารย์ที่ปรึกษา  ทำให้อาจารย์สาวถึงกับหัวเราะในความบ๊องของลูกศิษย์สาว 
ทันทีที่ประตูลิฟท์ชั้น 1 เปิดออก  หญิงสาวก็พบว่าเพื่อนรักมายืนรออยู่ตรงหน้าลิฟท์พอดี 
“ อ้าว!...แบงค์....แกจะไปไหนเหรอ ”
“ จะขึ้นไปรอแกที่หน้าห้องอาจารย์สมพรนั่นแหละ  เห็นว่าเที่ยงกว่าแล้วแกยังไม่ลงมา  นึกว่าจะต้องตามขึ้นไปซับน้ำตาให้แกซะแล้ว” 
“ ขอบใจที่เป็นห่วง  แต่น่าเสียดายที่ไม่มีน้ำตาให้แกคอยซับ ”
“ก็แหม...แกเล่นเข้าไปตั้งชั่วโมงกว่าแล้วนี่หว่า    พวกยัยนุ่นที่เข้าไปก่อนหน้าแก  แต่ละคนที่ออกมากลายเป็นนกกระปูดตาแดงเดินเรียงแถวออกมาซะงั้น  แล้วงานเป็นไงมั่งวะ  ผ่านไหม”
“ ฮื่อ..สบายมาก  แต่ว่ามีแก้นิดหน่อย  ส่วนแบบสอบถามค่อยส่งอาทิตย์หน้า ” หญิงสาวยิ้มให้เพื่อนแม้ใบหน้าจะอิดโรยเพราะอดหลับอดนอนมาทั้งคืน  ด้วยต้องเตรียมนำเสนองานให้อาจารย์ในวันนี้
“ เฮ้ย!...โล่งอกไปที่งานแกผ่าน  จะได้ไม่ต้องมานั่งยุ่งหัวปั่นเหมือนพวกนั้น”
“ วันนี้ท่าทางโชคจะเข้าข้างอ่ะ  กว่าจะรอดมาได้เนี่ย เกือบตายเหมือนกัน  ชั้นตื่นเต้นและลุ้นแทบแย่ว่าอาจารย์จะให้ผ่านไหม  ”
“  อย่างนี้มันต้องฉลอง...ป่ะ เดี๋ยวชั้นเลี้ยงข้าวแกเอง  นี่มันเที่ยงกว่าแล้ว  ไปที่โรงอาหารละกัน”
พูดพลางเดินนำหน้าเพื่อนสาวที่ยิ้มแทบไม่หุบ  ด้วยวันนี้มีลาภปากฟรีอีก 1 มื้อ
.................................
ระหว่างทางเดิน  นายแบงค์  เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้  จึงหันกลับมาอย่างรวดเร็ว  ส่งผลให้คนที่เดินตามมาด้านหลังชนเข้าอย่างจัง
“ อู๊ย...นี่แกจะหยุดก็บอกกันบ้างดิ  จะเอาคืนจากเมื่อวานรึไง ” หญิงสาวโวย
“ เปรียว...วันนี้แกโทรหาหมอนั่นรึยัง”
“ หมอนั่น ! ...ใครอ่ะ?”
“ เฮ้อ...ไอ้เปรียวเอ๋ย    ก็ไอ้คนที่เอาแม่หนูปุ๊กปิ๊กของแกไปเก็บไว้  เป็นคนๆเดียวกับที่เอาลุงซูไปซ่อม  และก็เป็นคนเดียวกับที่เกือบจะชนแกเมื่อวานไง  ที่สำคัญ  วันนี้หมอนั่นบอกให้แกโทรไปหาเพื่อที่เอาหนูปุ๊กปิ๊กพร้อมกับลุงซูของแกคืน .จำได้รึยังวะ”
หญิงสาวนิ่งคิด 5 วินาที ก่อนพยักหน้าเป็นสัญญาณบอกว่าจำได้ละ
“ แล้วแกโทรไปยัง ? ”
“ อ๋อ...ยัง”  พูดไปเหมือนจะนึกขึ้นได้ “ เดี๋ยว...ตอนนี้มันกี่โมงแล้ว”
“ เที่ยงกับอีก20นาที แกมีเวลาเหลืออีก 10 นาที  รีบโทรไปเลยนะ    ไม่งั้นก็รอพรุ่งนี้โน่น.. ”
“ เออๆ..รู้แล้วน่า  ”  พูดจบก็เอามือถือในกระเป๋าขึ้นมา  แล้วทำท่าจะกดหมายเลข  แต่ก็เพิ่งนึกได้(อีกรอบ)  “ ชั้นไม่มีเบอร์หมอนั่นว่ะ”
“ อ้าว...เมื่อวานเค้าให้นามบัตรแกไว้ไม่ใช่เหรอ”
“ มันก็ใช่...แต่ตอนที่ยัยพวกนั้นมารุมถามชั้น...ชั้นรำคาญเลยให้นามบัตรหมอนั่นไป  แล้วก็ลืมเอาคืนอ่ะ”
พอได้ฟังเพื่อนรักพูดจบ  ชายหนุ่มถึงกับเอามือตบหน้าผากทันที  เพื่อให้ตื่นจากฝันกลางวันอันเลวร้ายที่เหมือนจะตามหลอกหลอนทั้งวันนี้และพรุ่งนี้อีกแถมยังมีวันต่อไปอีกแน่  ถ้าไอ้เปรียวไม่ได้รถคืนมา .... ขืนถูกเพื่อนรักตามติดอยู่อย่างนี้  มีหวัง...พืชที่หว่านไปกับสาวๆ  ต้องกลายเป็นแห้วแน่ๆ    อย่างเมื่อวานก็ถูก น้องแบม  เด็กพยาบาลงอนไปแล้ว 1 คน เมื่อมาเจอชายหนุ่มที่นั่งกินข้าวกับเพื่อนสาวตัวแสบเข้า ( ก่อนหน้านั้นนายแบงค์โทรไปยกเลิกนัด  เหตุผลก็คือ...ไม่สบาย  ท้องเสีย )  และวันนี้ก็มีนัดกับ อีก 2 สาว  แล้วใครจะช่วยเนี่ย...
....แล้วเสียงของนางฟ้าผู้ชุบชีวิตในร่างของผีเสื้อสมุทร(นายแบงค์แอบตั้งให้)  นามเสนาะว่า  อัมมรา ก็ดังขึ้นมา
“เปรียวจ๋า...รออัมก่อน...นี่จ๊ะ...แหมลืมได้ไงเนี่ย  นามบัตรของหนุ่มในฝันของสาวๆเชียวนะ  อัม อุตส่าห์เอามาคืนนะเนี่ย  เผื่อเปรียวเกิดเปลี่ยนใจที่จะลงสมัครจีบคุณกวินภพ แข่งกับสาวๆคนอื่นบ้าง ...ไปล่ะนะ”    พูดเสร็จก็เดินออกไป  ปล่อยให้สองเพื่อนรักยืนงงกับการมา+การพูด+การไป แบบสายฟ้าแลบของแม่สาวหุ่น XXXL  ที่ไม่น่าจะทำสถิติทุกอย่างได้รวดเร็วขนาดนี้
ผ่านไปสักครู่  สติจึงได้กลับมาทั้งสองคน  แบงค์จึงรีบพูดขึ้น
“นี่...แกรีบโทรเลยเดี๋ยวนี้ไอ้เปรียว  อีก  8 นาที เร็วเข้า”
“ เออ...รู้แล้วน่า  เร่งอยู่ได้  ”หญิงสาวก้มมองนามบัตรในมือ  แล้วกดหมายเลขเบอร์ที่อยู่บนนามบัตร  สักพักแบงค์เริ่มสังเกตว่าใบหน้าเพื่อนสาวเริ่มบูดบึ้ง  แล้วเสียงที่คุยโทรศัพท์ชักจะเริ่มดังเกินไปทุกขณะ  ....สุดท้ายก็เห็นเพื่อนมองมือถือ  ส่วนสายตานะเหรอ  สงสัยอยากจะฆ่าคนที่อยู่ปลายทางมากๆ    จึงถามด้วยความสงสัย
“ ว่าไงบ้างวะเปรียว...ตกลงเค้าให้แกไปเอากุญแจที่ไหน”
“ เอาที่ไหนงั้นเหรอ...หมอนั้นเล่นตุกติกกับชั้น  ให้ยัยผู้หญิงปากปลาร้าที่ไหนก็ไม่รู้มารับสาย  ยัยนั่นก็ท่าจะบ้า  พูดออกมาได้ว่า  หล่อนเป็นใคร  เป็นอะไรกับวิน  ทำไมถึงมีเบอร์วินได้  แล้วทำไมวินถึงให้หล่อนโทรมาหา  แล้วรู้ไหมว่าชั้นเป็นใคร ฯลฯ ....โอ้ย!..ชั้นจะบ้าตาย  พูดยังกะชั้นอยากโทรหาซะเต็มที    พอขอพูดกับหมอนั่น...ยัยบ้านั่นก็ตัดสายชั้นซะงั้น    ”
“ แล้วตกลงว่า แกยังไม่ได้คุยกับหมอนั่น”
“ ก็เออดิ...เสียอารมณ์ชะมัดยาก...แล้วนี่ชั้นจะได้ลุงซูคืนเมื่อไหร่กันนี่”
“ เอาว่ะ...พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่..ไปกินข้าวดับอารมณ์กันดีกว่าป่ะ...หิวจะแย่แล้ว” 
หญิงสาวพยักหน้าแล้วเดินตามเพื่อนไป
.............................
ที่โรงอาหาร  หญิงสาวที่ขณะนี้มือถือจานผลไม้เพื่อที่จะนำกลับไปที่โต๊ะ  ซึ่งนายแบงค์เพื่อนรักกำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวไก่เป็นชามที่สอง  โดยที่สายตาลืมมองด้านหน้าด้วยมัวแต่เหลียวหลังมองร้านขนมหวาน+ไอศกรีมที่เพิ่งผ่านไปอย่างเสียดาย  และเหตุการณ์อุบัติรักก็เกิดขึ้นอีกครา เมื่อดันไปชนร่างสูงที่เดินมา  พร้อมกับแตงโมชิ้นหนึ่ง ซึ่งท่าทางมันยังจะไม่อยากถูกประหารในท้องหญิงสาวสักเท่าไหร่  กระเด็นไปถูกเสื้อของคนตรงหน้า
“ เอ่อ...ขอโทษนะคะ...”  หญิงสาวยิ้มแหยๆให้คนตัวสูงที่ถูก  แล้วมองดูผลงานของตนเอง ...เสื้อที่ยังกะเพิ่งซื้อมาใหม่นั้น  ตอนนี้ปรากฏเป็นรอยสีแดงของแตงโมบนเสื้อจนเห็นได้ชัด 
“คุณนี่...ซุ่มซ่ามได้ตลอดเวลาเลยนะ”  กวินภพ กล่าวพร้อมกับส่ายหน้า
คำพูดของชายหนุ่มทำให้ความคิดที่จะเอาผ้าเช็ดหน้าของตนเองไปเช็ดรอยเปื้อนบนเสื้อให้นั้น ถึงกับหยุดชะงัก...และนิสัยอันปกติของหญิงสาวก็ผุดออกมาทันที
“ เอ๊ะ..นี่คุณว่าผู้หญิงอย่างนี้เลยเหรอ...ชั้นว่าชั้นขอโทษแล้วนะ...คนอะไรเพิ่งเจอหน้าครั้งแรกก็หาเรื่องแล้ว...เป็นโรคจิตรึไง”
“ เพิ่งเจอหน้าครั้งแรกเหรอ!”  ชายหนุ่มชี้ที่หน้าตัวเอง
“เออดิ...ผู้ชายอะไรไม่มีมารยาท...ปากพาซวยตั้งแต่เกิดรึไง....ชั้นถือว่าชั้นขอโทษแล้วนะ....เพราะงั้น...ขอตัว” ว่าแล้วก็เดินกระแทกไหล่ชายหนุ่มเดินไป ‘แต่ก็นึกคุ้นหน้าอีตานี่เหมือนกันแฮะ’
ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนงงอยู่พักใหญ่กับคนที่เดินจากไปซึ่งไม่มีท่าทางว่าจำตนเองได้อีกแล้ว ‘ ยัยนี่สมองเสื่อมรึไงเนี่ย...เพิ่งเจอเมื่อวานเองนะ’  แล้วเสียงหวานแกมออดอ้อนของหญิงสาวสวยระดับดาวมหาวิทยาลัย ซึ่งตอนนี้มายืนอยู่ตรงหน้าก็ทำให้ชายหนุ่มกลับเข้ามาสู่โหมดความเป็นตัวของตัวเอง
“ วิน ไปกันรึยังคะ  เมย์นัดเพื่อนไว้ที่คณะน่ะคะ  วินไปส่งเมย์นะคะ  เพื่อนๆของเมย์อยากรู้จักวินกันค่ะ... นะคะ”
“ ได้ครับ..สำหรับเมย์แล้ว  ผมยังไงก็ได้” พลางส่งสายตาที่ทำให้สาวสวยถึงกับอายม้วนไปทีเดียว
“ ปากหวานจังค่ะ...แต่เอ๊ะ...เสื้อวินไปโดนอะไรมาคะเนี่ย...ดูสิ...เลอะหมดเลย  เดี๋ยวเมย์เช็ดให้นะคะ”  พูดจบก็เอาผ้าเช็ดหน้าสีหวานเตรียมเช็ดให้
“ ไม่ต้องครับเมย์  เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนใหม่เลยดีกว่าครับ  ตอนบ่ายผมต้องเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษาด้วย ”
“ เอางั้นเหรอคะ...งั้น วินไปเปลี่ยนเสื้อก่อนไหมคะ  แล้วเดี๋ยวค่อยไปส่งเมย์”
“ โอเคครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วเดินควงสาวสวยออกจากโรงอาหารไป
.......................
ทันทีที่ชายหนุ่มเปิดประตูด้านคนขับ โดยที่สาวสวยที่มาด้วยรออยู่ในรถคันหรูแล้ว  เสียงดังที่เรียกขึ้น  ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วหันกลับไปมองหญิงสาวที่เพิ่งชนเค้าไปเมื่อกี้ ซึ่งกับกำลังสูดลมหายใจให้หายเหนื่อยจากการที่ต้องวิ่งมา  ‘ เปรียว...ยัยนี่อีกแล้วเหรอ....คราวนี้อะไรอีกละ’
“นี่นาย...ชั้นมาขอกุญแจกับรถชั้นคืน”
“ หืม..คุณจำผมได้ด้วยเหรอ...แล้วเมื่อกี้”
หญิงสาวพยักหน้า ตอบ “ พอดีไอ้แบงค์เพิ่งบอกน่ะว่าเป็นนาย  ชั้นก็เลยนึกขึ้นมาได้”
“ อะไรนะ! เพิ่งนึกหน้าผมได้งั้นเหรอ...หลังจากเจอกันมา 3 ครั้งเนี่ยนะคุ๊ณ...ถามจริง  สมองคุณทำด้วยอะไรเนี่ย”
ซึ่งส่งผลให้หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์คุกรุ่นนิดๆ
“ ก็สมองคนเดินดินธรรมดานั่นแหละ...แต่บังเอิญนายเป็น 1ใน100 คน ซึ่งสมองชั้นมันปฏิเสธที่จะบันทึกไว้น่ะ  พอใจในคำตอบยังอ่ะ....แล้วก็คืนของที่นายเอาไปมาได้แล้ว”
“ ไม่คืน...ผมจำได้ว่าให้คุณโทรมาหาตอนเที่ยง limit ไม่เกินเที่ยงครึ่ง ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่อะไร คุณไม่ทำตามข้อตกลงนี่ ”
“ ใครว่าชั้นไม่โทร...ผู้หญิงของนายไม่ได้บอกเหรอ แต่ก็นะ  เจ้าหล่อนคงบอกอยู่หรอกนะ ...ถึงขนาดตัดสายชั้นซะเฉยเลย....พูดแล้วก็เสียดายค่าโทรศัพท์ชะมัด” 
พูดพลางส่งสายไปให้คนที่นั่งอยู่ในรถ  จนสาวสวยอดทนนั่งต่อไปไม่ได้  ด้วยเพราะเห็นชายหนุ่มที่ตนหมายมั่นว่าจะจับให้อยู่หมัด  ยืนคุยกับหญิงสาวคนหนึ่ง  ถึงแม้ความสวย  เมย์ชญามั่นใจว่าไม่มีใครสู้หล่อนได้  แต่ไอ้ความน่ารักที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของหญิงสาว ร่างสูงโปร่ง  ที่ขนาดหล่อนเองเป็นผู้หญิงยังยอมรับเลยว่า มองได้ไม่รู้จักเบื่อ  ทำให้ต้องรีบออกมาดับไฟตั้งแต่ต้น
“ วินคะ  เมย์รอนานแล้วนะ...แล้วใครกันคะวิน  รุ่นน้องหรือแค่คนรู้จักคะ”  พูดพลางกอดแขนชายหนุ่ม  ส่วนสายตาก็ส่งไปประเมินคนตรงหน้า
.....สายตาของสาวสวยทำให้  ปภาวี ชักสีหน้าขึ้นมาทันที แล้วก็นึกได้ว่า  เคยได้ยินเสียงอย่างนี้ที่ไหน 
“ อ๋อ...จำได้ละ  คุณนี่เองที่เป็นคนรับโทรศัพท์...มิน่าละ  ทำยังกะแม่หมาที่เพิ่งออกลูกใหม่  หวงลูกยังกะอะไรดี’’
ส่งผลให้ชายหนุ่มยืนอึ้งกับคำตอบของหญิงสาว  ส่วนคนถูกพาดพิงตรงๆนั่นเหรอ
“ แก.. แกว่าชั้นเหรอ”  พลางชี้หน้าหญิงสาว  ทำให้ปภาวีนึกสนุก ‘ ขอยั่วยัยนี่ให้หายแค้นซะหน่อยเหอะ’
“ อ๋อ...แล้วที่คุณถาม...ชั้นน่ะไม่ใช่รุ่นน้องหรอกนะคะ...แล้วก็ไม่ใช่แค่คนรู้จักด้วย...เพราะเราเจอกันมาหลายครั้งแล้วด้วย...ไม่งั้นวินเค้าคงไม่ให้ชั้นโทรหาหรอก จริงไหมคะวิน ”  หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม
“ หมายความว่าไงคะวิน  ที่ยัยนี่พูดน่ะ  ” สาวสวยซัก  นั่นทำให้ชายหนุ่มต้องรีบแก้สถานการณ์ก่อยที่มันจะแย่ไปกว่านี้
“ เอ่อ...เมย์ไปนั่งรอในรถก่อนนะครับ เดี๋ยวผมขอคุยธุระซักครู่นะครับ...”
“ วินน่ะ...เห็นยัยนี่ดีกว่าเมย์งั้นเหรอ”
“ เมย์ครับ  ผมมีธุระคุยกับเค้าจริงๆนะครับ  แล้วก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เมย์คิดด้วย  ”  น้ำเสียงชายหนุ่มชักเริ่มแข็งขึ้น
“ ก็ได้ค่ะ  แต่อย่าให้นานนะคะ  เมย์รีบ”  พูดจบก็เดินสะบัดก้นเข้าไปนั่งกระแทกในรถ  แต่สายตาก็ยังคงมองมาที่ปภาวีอย่างเจ็บใจ  แล้วก็ต้องตาโต  เมื่อเห็นหญิงสาวโน้มคอชายหนุ่มลงมากระซิบบางอย่าง  แล้วยิ้มหวานให้กับคนที่ยืนงงอยู่กับการกระทำของหญิงสาวโดยไม่ได้ตั้งตัว 
“ พรุ่งนี้นายอย่าเบี้ยวล่ะ  ไม่งั้นนายจะเจ็บตัวยิ่งกว่าวันนี้” พูดจบก็กระแทกรองเท้าส้นสูงกับเท้าข้างหนึ่งของชายหนุ่มผู้โชคร้ายทันทีที่พูดจบ  แล้วเดินจากไป  ทิ้งให้กวินภพยืนเจ็บและแค้นไว้เบื้องหลัง
..
แบงค์มองหน้าเพื่อนสาวที่เดินมานั่งแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี  สงสัยมันได้กุญแจคืนแล้วแฮะ ...แล้วไม่รอช้าเอ่ยถามออกไปด้วยความหวัง
“ แกได้แม่หนูปุ๊กปิ๊กคืนแล้วใช่ไหม  จะได้รีบไปเอาลุงซูแกกลับมากัน”
“ เปล่าหรอก...ต้องรอพรุ่งนี้...ส่วนวันนี้ชั้นก็เกาะติดแกไปทั้งวันอย่างนี้แหละ”  หญิงสาวตอบสิ่งที่เป็นการดับความหวังและความฝันของเพื่อน ... ส่วนนายแบงค์น่ะเหรอ  ตอนนี้กำลังทำใจว่า อาทิตย์นี้ได้กินแห้วทั้งอาทิตย์แน่ๆ  .... แต่เหมือนว่า...ชาติที่แล้วหรือชาติก่อนโน้น  นายแบงค์ของเราคงทำบุญไว้บ้างไม่มากก็น้อย  ผลบุญจึงส่งให้โทรศัพท์ของหญิงสาวดังขึ้น  และเสียงคุยโทรศัพท์ของปภาวีก็ทำให้แบงค์หน้าตาสดชื่นขึ้นมาทันที
“ หวัดดีค๊าเจ๊อ้อม  ” 
“..................”
“ อ๋อ  ว่างค่ะวันนี้  ได้ค่ะ....เดี๋ยวตอนเย็นเจอกันค่ะ”
หญิงสาวมองเพื่อนซึ่งตอนนี้หน้ายิ้มไม่หุบด้วยความดีใจแกมโล่งอกจนปิดไม่มิด
“ ไม่ต้องทำหน้าเสียอกเสียใจขนาดนั้นก็ได้มั้งไอ้คุณแบงค์...ที่วันนี้ชั้นไม่อยู่เป็นนางมารขัดขวางความรักของแกน่ะ” หญิงสาวพูดประชดนิดๆ
“ ยังไง เดี๋ยวตอน 5 โมงเย็นไปส่งชั้นที่ร้านยำด้วยละกันแล้ว 5 ทุ่มไปรับกลับด้วย  เพราะชั้นไม่มีรถ  ...เข้าใจไหม  ”
ชายหนุ่มพยักหน้า  ‘ เอาวะ  อย่างน้อยก็มีเวลาไปตามนัดสาวๆ  ’
บอกเล่าเก้าถึงสิบ
ยังสอบอีก 1 วิชาค่ะ  เพราะงั้นคงเป็นวันศุกร์นี้ที่จะมาอัพนะคะ  ยังไงช่วยแนะนำด้วยละกันค่ะ  ตอนหน้าจะเริ่มเข้าสู่  ว่า ทำไมจึงเป็นสาวร้านยำกับเพลย์บอยร้านนมแล้วนะคะ  เพราะช่วงแรกต้องเริ่มเก็บสะสมความแค้นของนางเอกกะพระเอกก่อนค่ะ  อิอิ
“ ค่ะ  อาจารย์  เดี๋ยวยังไง  หนูขอไปแก้งานแล้วจะนำมาให้อาจารย์ดูพรุ่งนี้อีกทีนะคะ  ส่วนแบบสอบถาม  ขอส่งอาทิตย์หน้าละกันค่ะ ”  หญิงสาวตอบ
“ โอเค  รีบเอามาให้อาจารย์ดูหน่อยละกัน  งานวิจัยของเรามันจะช้าก็ตอนเก็บข้อมูลนั่นแหละ”
“ ค่ะ  ถ้างั้นหนูลานะคะอาจารย์”  หญิงสาวกล่าวลาพร้อมกับยกมือไหว้อาจารย์ที่ปรึกษาproject
.ประตูห้องพักปิดลง  หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกหลังจากที่เคร่งเครียดมาตลอด 1 ชั่วโมงแห่งการนำเสนอโครงร่างproject  แล้วสายตาก็เหลือมองเห็นประตูลิฟท์ที่กำลังจะปิด  ทำให้หญิงสาวต้องใช้วิชาที่ติดตัวมา  วิ่งตรงไปยังลิฟท์ทันที
“ รอด้วยค๊าๆๆ ”  หญิงสาวตะโกนเรียก พร้อมกับที่ เจ้าตัวก็วิ่งมาถึง และ... 2 มือ กับอีก 1 เท้า ยันประตูลิฟท์ที่กำลังจะปิดไว้  แล้วแทรกตัวเองเข้ามาในลิฟท์อย่างรวดเร็ว
“ จะรีบไปไหนเฮอะ ปภาวี  อาจารย์ยังอยากขึ้นลงชั้น 5 โดยใช้ลิฟท์อยู่นะ  เกิดเธอเป็นอะไรไป  แล้ววิญญาณไม่ไปไหน  ต้องมาติดแหง็กอยู่กับลิฟท์นี้  เดี๋ยวอาจารย์ก็แย่พอดีหรอก  ต้องขึ้นลงบันได ตั้ง 5 ชั้นนะ ” 
...หญิงสาวหันไปมองเจ้าของเสียง  ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากอาจารย์รัชนีกร  หรือ อาจารย์ สอง  ที่ปรึกษาส่วนตัวซึ่งสนิทกับหญิงสาวดีประมาณว่า ซี้ปึ๊ก เลยแหละ
“ โห่..จารย์เล่นแรงเนอะ ....ตั้งแต่เที่ยงเลยนะ”
“ ก็แล้วดูเราทำสิยัยเปรียว ...มันน่านัก!  วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา  เดี๋ยวประตูลิฟท์หนีบจริงๆ อย่ามาโอดครวญให้อาจารย์ฟังละกัน”
“ ค๊า ..ความผิดหนูเองค่ะ...คราวหน้าจะไม่ทำอีกแล้ว...พอใจไหมคะอาจารย์ ...แต่ถ้าหนูต้องกลายเป็นผีเฝ้าลิฟท์จริงๆ  ไม่ว่าจารย์อยู่ที่ไหนหนูก็จะตามไปจนเจอนั่นแหละค่ะ ...แหมก็เราสองคนเป็นคู่กันเราขาดกันไม่ได้นี่คะอาจารย์  ”    หญิงสาวพูดพร้อมส่งสายตาละห้อยให้อาจารย์ที่ปรึกษา  ทำให้อาจารย์สาวถึงกับหัวเราะในความบ๊องของลูกศิษย์สาว 
ทันทีที่ประตูลิฟท์ชั้น 1 เปิดออก  หญิงสาวก็พบว่าเพื่อนรักมายืนรออยู่ตรงหน้าลิฟท์พอดี 
“ อ้าว!...แบงค์....แกจะไปไหนเหรอ ”
“ จะขึ้นไปรอแกที่หน้าห้องอาจารย์สมพรนั่นแหละ  เห็นว่าเที่ยงกว่าแล้วแกยังไม่ลงมา  นึกว่าจะต้องตามขึ้นไปซับน้ำตาให้แกซะแล้ว” 
“ ขอบใจที่เป็นห่วง  แต่น่าเสียดายที่ไม่มีน้ำตาให้แกคอยซับ ”
“ก็แหม...แกเล่นเข้าไปตั้งชั่วโมงกว่าแล้วนี่หว่า    พวกยัยนุ่นที่เข้าไปก่อนหน้าแก  แต่ละคนที่ออกมากลายเป็นนกกระปูดตาแดงเดินเรียงแถวออกมาซะงั้น  แล้วงานเป็นไงมั่งวะ  ผ่านไหม”
“ ฮื่อ..สบายมาก  แต่ว่ามีแก้นิดหน่อย  ส่วนแบบสอบถามค่อยส่งอาทิตย์หน้า ” หญิงสาวยิ้มให้เพื่อนแม้ใบหน้าจะอิดโรยเพราะอดหลับอดนอนมาทั้งคืน  ด้วยต้องเตรียมนำเสนองานให้อาจารย์ในวันนี้
“ เฮ้ย!...โล่งอกไปที่งานแกผ่าน  จะได้ไม่ต้องมานั่งยุ่งหัวปั่นเหมือนพวกนั้น”
“ วันนี้ท่าทางโชคจะเข้าข้างอ่ะ  กว่าจะรอดมาได้เนี่ย เกือบตายเหมือนกัน  ชั้นตื่นเต้นและลุ้นแทบแย่ว่าอาจารย์จะให้ผ่านไหม  ”
“  อย่างนี้มันต้องฉลอง...ป่ะ เดี๋ยวชั้นเลี้ยงข้าวแกเอง  นี่มันเที่ยงกว่าแล้ว  ไปที่โรงอาหารละกัน”
พูดพลางเดินนำหน้าเพื่อนสาวที่ยิ้มแทบไม่หุบ  ด้วยวันนี้มีลาภปากฟรีอีก 1 มื้อ
.................................
ระหว่างทางเดิน  นายแบงค์  เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้  จึงหันกลับมาอย่างรวดเร็ว  ส่งผลให้คนที่เดินตามมาด้านหลังชนเข้าอย่างจัง
“ อู๊ย...นี่แกจะหยุดก็บอกกันบ้างดิ  จะเอาคืนจากเมื่อวานรึไง ” หญิงสาวโวย
“ เปรียว...วันนี้แกโทรหาหมอนั่นรึยัง”
“ หมอนั่น ! ...ใครอ่ะ?”
“ เฮ้อ...ไอ้เปรียวเอ๋ย    ก็ไอ้คนที่เอาแม่หนูปุ๊กปิ๊กของแกไปเก็บไว้  เป็นคนๆเดียวกับที่เอาลุงซูไปซ่อม  และก็เป็นคนเดียวกับที่เกือบจะชนแกเมื่อวานไง  ที่สำคัญ  วันนี้หมอนั่นบอกให้แกโทรไปหาเพื่อที่เอาหนูปุ๊กปิ๊กพร้อมกับลุงซูของแกคืน .จำได้รึยังวะ”
หญิงสาวนิ่งคิด 5 วินาที ก่อนพยักหน้าเป็นสัญญาณบอกว่าจำได้ละ
“ แล้วแกโทรไปยัง ? ”
“ อ๋อ...ยัง”  พูดไปเหมือนจะนึกขึ้นได้ “ เดี๋ยว...ตอนนี้มันกี่โมงแล้ว”
“ เที่ยงกับอีก20นาที แกมีเวลาเหลืออีก 10 นาที  รีบโทรไปเลยนะ    ไม่งั้นก็รอพรุ่งนี้โน่น.. ”
“ เออๆ..รู้แล้วน่า  ”  พูดจบก็เอามือถือในกระเป๋าขึ้นมา  แล้วทำท่าจะกดหมายเลข  แต่ก็เพิ่งนึกได้(อีกรอบ)  “ ชั้นไม่มีเบอร์หมอนั่นว่ะ”
“ อ้าว...เมื่อวานเค้าให้นามบัตรแกไว้ไม่ใช่เหรอ”
“ มันก็ใช่...แต่ตอนที่ยัยพวกนั้นมารุมถามชั้น...ชั้นรำคาญเลยให้นามบัตรหมอนั่นไป  แล้วก็ลืมเอาคืนอ่ะ”
พอได้ฟังเพื่อนรักพูดจบ  ชายหนุ่มถึงกับเอามือตบหน้าผากทันที  เพื่อให้ตื่นจากฝันกลางวันอันเลวร้ายที่เหมือนจะตามหลอกหลอนทั้งวันนี้และพรุ่งนี้อีกแถมยังมีวันต่อไปอีกแน่  ถ้าไอ้เปรียวไม่ได้รถคืนมา .... ขืนถูกเพื่อนรักตามติดอยู่อย่างนี้  มีหวัง...พืชที่หว่านไปกับสาวๆ  ต้องกลายเป็นแห้วแน่ๆ    อย่างเมื่อวานก็ถูก น้องแบม  เด็กพยาบาลงอนไปแล้ว 1 คน เมื่อมาเจอชายหนุ่มที่นั่งกินข้าวกับเพื่อนสาวตัวแสบเข้า ( ก่อนหน้านั้นนายแบงค์โทรไปยกเลิกนัด  เหตุผลก็คือ...ไม่สบาย  ท้องเสีย )  และวันนี้ก็มีนัดกับ อีก 2 สาว  แล้วใครจะช่วยเนี่ย...
....แล้วเสียงของนางฟ้าผู้ชุบชีวิตในร่างของผีเสื้อสมุทร(นายแบงค์แอบตั้งให้)  นามเสนาะว่า  อัมมรา ก็ดังขึ้นมา
“เปรียวจ๋า...รออัมก่อน...นี่จ๊ะ...แหมลืมได้ไงเนี่ย  นามบัตรของหนุ่มในฝันของสาวๆเชียวนะ  อัม อุตส่าห์เอามาคืนนะเนี่ย  เผื่อเปรียวเกิดเปลี่ยนใจที่จะลงสมัครจีบคุณกวินภพ แข่งกับสาวๆคนอื่นบ้าง ...ไปล่ะนะ”    พูดเสร็จก็เดินออกไป  ปล่อยให้สองเพื่อนรักยืนงงกับการมา+การพูด+การไป แบบสายฟ้าแลบของแม่สาวหุ่น XXXL  ที่ไม่น่าจะทำสถิติทุกอย่างได้รวดเร็วขนาดนี้
ผ่านไปสักครู่  สติจึงได้กลับมาทั้งสองคน  แบงค์จึงรีบพูดขึ้น
“นี่...แกรีบโทรเลยเดี๋ยวนี้ไอ้เปรียว  อีก  8 นาที เร็วเข้า”
“ เออ...รู้แล้วน่า  เร่งอยู่ได้  ”หญิงสาวก้มมองนามบัตรในมือ  แล้วกดหมายเลขเบอร์ที่อยู่บนนามบัตร  สักพักแบงค์เริ่มสังเกตว่าใบหน้าเพื่อนสาวเริ่มบูดบึ้ง  แล้วเสียงที่คุยโทรศัพท์ชักจะเริ่มดังเกินไปทุกขณะ  ....สุดท้ายก็เห็นเพื่อนมองมือถือ  ส่วนสายตานะเหรอ  สงสัยอยากจะฆ่าคนที่อยู่ปลายทางมากๆ    จึงถามด้วยความสงสัย
“ ว่าไงบ้างวะเปรียว...ตกลงเค้าให้แกไปเอากุญแจที่ไหน”
“ เอาที่ไหนงั้นเหรอ...หมอนั้นเล่นตุกติกกับชั้น  ให้ยัยผู้หญิงปากปลาร้าที่ไหนก็ไม่รู้มารับสาย  ยัยนั่นก็ท่าจะบ้า  พูดออกมาได้ว่า  หล่อนเป็นใคร  เป็นอะไรกับวิน  ทำไมถึงมีเบอร์วินได้  แล้วทำไมวินถึงให้หล่อนโทรมาหา  แล้วรู้ไหมว่าชั้นเป็นใคร ฯลฯ ....โอ้ย!..ชั้นจะบ้าตาย  พูดยังกะชั้นอยากโทรหาซะเต็มที    พอขอพูดกับหมอนั่น...ยัยบ้านั่นก็ตัดสายชั้นซะงั้น    ”
“ แล้วตกลงว่า แกยังไม่ได้คุยกับหมอนั่น”
“ ก็เออดิ...เสียอารมณ์ชะมัดยาก...แล้วนี่ชั้นจะได้ลุงซูคืนเมื่อไหร่กันนี่”
“ เอาว่ะ...พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่..ไปกินข้าวดับอารมณ์กันดีกว่าป่ะ...หิวจะแย่แล้ว” 
หญิงสาวพยักหน้าแล้วเดินตามเพื่อนไป
.............................
ที่โรงอาหาร  หญิงสาวที่ขณะนี้มือถือจานผลไม้เพื่อที่จะนำกลับไปที่โต๊ะ  ซึ่งนายแบงค์เพื่อนรักกำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวไก่เป็นชามที่สอง  โดยที่สายตาลืมมองด้านหน้าด้วยมัวแต่เหลียวหลังมองร้านขนมหวาน+ไอศกรีมที่เพิ่งผ่านไปอย่างเสียดาย  และเหตุการณ์อุบัติรักก็เกิดขึ้นอีกครา เมื่อดันไปชนร่างสูงที่เดินมา  พร้อมกับแตงโมชิ้นหนึ่ง ซึ่งท่าทางมันยังจะไม่อยากถูกประหารในท้องหญิงสาวสักเท่าไหร่  กระเด็นไปถูกเสื้อของคนตรงหน้า
“ เอ่อ...ขอโทษนะคะ...”  หญิงสาวยิ้มแหยๆให้คนตัวสูงที่ถูก  แล้วมองดูผลงานของตนเอง ...เสื้อที่ยังกะเพิ่งซื้อมาใหม่นั้น  ตอนนี้ปรากฏเป็นรอยสีแดงของแตงโมบนเสื้อจนเห็นได้ชัด 
“คุณนี่...ซุ่มซ่ามได้ตลอดเวลาเลยนะ”  กวินภพ กล่าวพร้อมกับส่ายหน้า
คำพูดของชายหนุ่มทำให้ความคิดที่จะเอาผ้าเช็ดหน้าของตนเองไปเช็ดรอยเปื้อนบนเสื้อให้นั้น ถึงกับหยุดชะงัก...และนิสัยอันปกติของหญิงสาวก็ผุดออกมาทันที
“ เอ๊ะ..นี่คุณว่าผู้หญิงอย่างนี้เลยเหรอ...ชั้นว่าชั้นขอโทษแล้วนะ...คนอะไรเพิ่งเจอหน้าครั้งแรกก็หาเรื่องแล้ว...เป็นโรคจิตรึไง”
“ เพิ่งเจอหน้าครั้งแรกเหรอ!”  ชายหนุ่มชี้ที่หน้าตัวเอง
“เออดิ...ผู้ชายอะไรไม่มีมารยาท...ปากพาซวยตั้งแต่เกิดรึไง....ชั้นถือว่าชั้นขอโทษแล้วนะ....เพราะงั้น...ขอตัว” ว่าแล้วก็เดินกระแทกไหล่ชายหนุ่มเดินไป ‘แต่ก็นึกคุ้นหน้าอีตานี่เหมือนกันแฮะ’
ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนงงอยู่พักใหญ่กับคนที่เดินจากไปซึ่งไม่มีท่าทางว่าจำตนเองได้อีกแล้ว ‘ ยัยนี่สมองเสื่อมรึไงเนี่ย...เพิ่งเจอเมื่อวานเองนะ’  แล้วเสียงหวานแกมออดอ้อนของหญิงสาวสวยระดับดาวมหาวิทยาลัย ซึ่งตอนนี้มายืนอยู่ตรงหน้าก็ทำให้ชายหนุ่มกลับเข้ามาสู่โหมดความเป็นตัวของตัวเอง
“ วิน ไปกันรึยังคะ  เมย์นัดเพื่อนไว้ที่คณะน่ะคะ  วินไปส่งเมย์นะคะ  เพื่อนๆของเมย์อยากรู้จักวินกันค่ะ... นะคะ”
“ ได้ครับ..สำหรับเมย์แล้ว  ผมยังไงก็ได้” พลางส่งสายตาที่ทำให้สาวสวยถึงกับอายม้วนไปทีเดียว
“ ปากหวานจังค่ะ...แต่เอ๊ะ...เสื้อวินไปโดนอะไรมาคะเนี่ย...ดูสิ...เลอะหมดเลย  เดี๋ยวเมย์เช็ดให้นะคะ”  พูดจบก็เอาผ้าเช็ดหน้าสีหวานเตรียมเช็ดให้
“ ไม่ต้องครับเมย์  เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนใหม่เลยดีกว่าครับ  ตอนบ่ายผมต้องเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษาด้วย ”
“ เอางั้นเหรอคะ...งั้น วินไปเปลี่ยนเสื้อก่อนไหมคะ  แล้วเดี๋ยวค่อยไปส่งเมย์”
“ โอเคครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วเดินควงสาวสวยออกจากโรงอาหารไป
.......................
ทันทีที่ชายหนุ่มเปิดประตูด้านคนขับ โดยที่สาวสวยที่มาด้วยรออยู่ในรถคันหรูแล้ว  เสียงดังที่เรียกขึ้น  ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วหันกลับไปมองหญิงสาวที่เพิ่งชนเค้าไปเมื่อกี้ ซึ่งกับกำลังสูดลมหายใจให้หายเหนื่อยจากการที่ต้องวิ่งมา  ‘ เปรียว...ยัยนี่อีกแล้วเหรอ....คราวนี้อะไรอีกละ’
“นี่นาย...ชั้นมาขอกุญแจกับรถชั้นคืน”
“ หืม..คุณจำผมได้ด้วยเหรอ...แล้วเมื่อกี้”
หญิงสาวพยักหน้า ตอบ “ พอดีไอ้แบงค์เพิ่งบอกน่ะว่าเป็นนาย  ชั้นก็เลยนึกขึ้นมาได้”
“ อะไรนะ! เพิ่งนึกหน้าผมได้งั้นเหรอ...หลังจากเจอกันมา 3 ครั้งเนี่ยนะคุ๊ณ...ถามจริง  สมองคุณทำด้วยอะไรเนี่ย”
ซึ่งส่งผลให้หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์คุกรุ่นนิดๆ
“ ก็สมองคนเดินดินธรรมดานั่นแหละ...แต่บังเอิญนายเป็น 1ใน100 คน ซึ่งสมองชั้นมันปฏิเสธที่จะบันทึกไว้น่ะ  พอใจในคำตอบยังอ่ะ....แล้วก็คืนของที่นายเอาไปมาได้แล้ว”
“ ไม่คืน...ผมจำได้ว่าให้คุณโทรมาหาตอนเที่ยง limit ไม่เกินเที่ยงครึ่ง ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่อะไร คุณไม่ทำตามข้อตกลงนี่ ”
“ ใครว่าชั้นไม่โทร...ผู้หญิงของนายไม่ได้บอกเหรอ แต่ก็นะ  เจ้าหล่อนคงบอกอยู่หรอกนะ ...ถึงขนาดตัดสายชั้นซะเฉยเลย....พูดแล้วก็เสียดายค่าโทรศัพท์ชะมัด” 
พูดพลางส่งสายไปให้คนที่นั่งอยู่ในรถ  จนสาวสวยอดทนนั่งต่อไปไม่ได้  ด้วยเพราะเห็นชายหนุ่มที่ตนหมายมั่นว่าจะจับให้อยู่หมัด  ยืนคุยกับหญิงสาวคนหนึ่ง  ถึงแม้ความสวย  เมย์ชญามั่นใจว่าไม่มีใครสู้หล่อนได้  แต่ไอ้ความน่ารักที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของหญิงสาว ร่างสูงโปร่ง  ที่ขนาดหล่อนเองเป็นผู้หญิงยังยอมรับเลยว่า มองได้ไม่รู้จักเบื่อ  ทำให้ต้องรีบออกมาดับไฟตั้งแต่ต้น
“ วินคะ  เมย์รอนานแล้วนะ...แล้วใครกันคะวิน  รุ่นน้องหรือแค่คนรู้จักคะ”  พูดพลางกอดแขนชายหนุ่ม  ส่วนสายตาก็ส่งไปประเมินคนตรงหน้า
.....สายตาของสาวสวยทำให้  ปภาวี ชักสีหน้าขึ้นมาทันที แล้วก็นึกได้ว่า  เคยได้ยินเสียงอย่างนี้ที่ไหน 
“ อ๋อ...จำได้ละ  คุณนี่เองที่เป็นคนรับโทรศัพท์...มิน่าละ  ทำยังกะแม่หมาที่เพิ่งออกลูกใหม่  หวงลูกยังกะอะไรดี’’
ส่งผลให้ชายหนุ่มยืนอึ้งกับคำตอบของหญิงสาว  ส่วนคนถูกพาดพิงตรงๆนั่นเหรอ
“ แก.. แกว่าชั้นเหรอ”  พลางชี้หน้าหญิงสาว  ทำให้ปภาวีนึกสนุก ‘ ขอยั่วยัยนี่ให้หายแค้นซะหน่อยเหอะ’
“ อ๋อ...แล้วที่คุณถาม...ชั้นน่ะไม่ใช่รุ่นน้องหรอกนะคะ...แล้วก็ไม่ใช่แค่คนรู้จักด้วย...เพราะเราเจอกันมาหลายครั้งแล้วด้วย...ไม่งั้นวินเค้าคงไม่ให้ชั้นโทรหาหรอก จริงไหมคะวิน ”  หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม
“ หมายความว่าไงคะวิน  ที่ยัยนี่พูดน่ะ  ” สาวสวยซัก  นั่นทำให้ชายหนุ่มต้องรีบแก้สถานการณ์ก่อยที่มันจะแย่ไปกว่านี้
“ เอ่อ...เมย์ไปนั่งรอในรถก่อนนะครับ เดี๋ยวผมขอคุยธุระซักครู่นะครับ...”
“ วินน่ะ...เห็นยัยนี่ดีกว่าเมย์งั้นเหรอ”
“ เมย์ครับ  ผมมีธุระคุยกับเค้าจริงๆนะครับ  แล้วก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เมย์คิดด้วย  ”  น้ำเสียงชายหนุ่มชักเริ่มแข็งขึ้น
“ ก็ได้ค่ะ  แต่อย่าให้นานนะคะ  เมย์รีบ”  พูดจบก็เดินสะบัดก้นเข้าไปนั่งกระแทกในรถ  แต่สายตาก็ยังคงมองมาที่ปภาวีอย่างเจ็บใจ  แล้วก็ต้องตาโต  เมื่อเห็นหญิงสาวโน้มคอชายหนุ่มลงมากระซิบบางอย่าง  แล้วยิ้มหวานให้กับคนที่ยืนงงอยู่กับการกระทำของหญิงสาวโดยไม่ได้ตั้งตัว 
“ พรุ่งนี้นายอย่าเบี้ยวล่ะ  ไม่งั้นนายจะเจ็บตัวยิ่งกว่าวันนี้” พูดจบก็กระแทกรองเท้าส้นสูงกับเท้าข้างหนึ่งของชายหนุ่มผู้โชคร้ายทันทีที่พูดจบ  แล้วเดินจากไป  ทิ้งให้กวินภพยืนเจ็บและแค้นไว้เบื้องหลัง
..
แบงค์มองหน้าเพื่อนสาวที่เดินมานั่งแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี  สงสัยมันได้กุญแจคืนแล้วแฮะ ...แล้วไม่รอช้าเอ่ยถามออกไปด้วยความหวัง
“ แกได้แม่หนูปุ๊กปิ๊กคืนแล้วใช่ไหม  จะได้รีบไปเอาลุงซูแกกลับมากัน”
“ เปล่าหรอก...ต้องรอพรุ่งนี้...ส่วนวันนี้ชั้นก็เกาะติดแกไปทั้งวันอย่างนี้แหละ”  หญิงสาวตอบสิ่งที่เป็นการดับความหวังและความฝันของเพื่อน ... ส่วนนายแบงค์น่ะเหรอ  ตอนนี้กำลังทำใจว่า อาทิตย์นี้ได้กินแห้วทั้งอาทิตย์แน่ๆ  .... แต่เหมือนว่า...ชาติที่แล้วหรือชาติก่อนโน้น  นายแบงค์ของเราคงทำบุญไว้บ้างไม่มากก็น้อย  ผลบุญจึงส่งให้โทรศัพท์ของหญิงสาวดังขึ้น  และเสียงคุยโทรศัพท์ของปภาวีก็ทำให้แบงค์หน้าตาสดชื่นขึ้นมาทันที
“ หวัดดีค๊าเจ๊อ้อม  ” 
“..................”
“ อ๋อ  ว่างค่ะวันนี้  ได้ค่ะ....เดี๋ยวตอนเย็นเจอกันค่ะ”
หญิงสาวมองเพื่อนซึ่งตอนนี้หน้ายิ้มไม่หุบด้วยความดีใจแกมโล่งอกจนปิดไม่มิด
“ ไม่ต้องทำหน้าเสียอกเสียใจขนาดนั้นก็ได้มั้งไอ้คุณแบงค์...ที่วันนี้ชั้นไม่อยู่เป็นนางมารขัดขวางความรักของแกน่ะ” หญิงสาวพูดประชดนิดๆ
“ ยังไง เดี๋ยวตอน 5 โมงเย็นไปส่งชั้นที่ร้านยำด้วยละกันแล้ว 5 ทุ่มไปรับกลับด้วย  เพราะชั้นไม่มีรถ  ...เข้าใจไหม  ”
ชายหนุ่มพยักหน้า  ‘ เอาวะ  อย่างน้อยก็มีเวลาไปตามนัดสาวๆ  ’
บอกเล่าเก้าถึงสิบ
ยังสอบอีก 1 วิชาค่ะ  เพราะงั้นคงเป็นวันศุกร์นี้ที่จะมาอัพนะคะ  ยังไงช่วยแนะนำด้วยละกันค่ะ  ตอนหน้าจะเริ่มเข้าสู่  ว่า ทำไมจึงเป็นสาวร้านยำกับเพลย์บอยร้านนมแล้วนะคะ  เพราะช่วงแรกต้องเริ่มเก็บสะสมความแค้นของนางเอกกะพระเอกก่อนค่ะ  อิอิ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น