ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวร้านยำกับเพลย์บอยร้านนม

    ลำดับตอนที่ #4 : ยังไง...ก็ยังไม่ได้กลับคืนมา

    • อัปเดตล่าสุด 4 ต.ค. 48


    “  อืม  สรุปว่าเอาตามที่เราเสนอมานี้แหละ  เพียงแต่เปลี่ยนตัวอย่างประชากร  เป็นนิสิตทั้งมหาวิทยาลัยของเราละกัน  งานวิจัยของเธอจะได้นำเสนอต่อทางโรงพยาบาลเราได้อย่างมีคุณภาพ ” ชายอาวุโสกล่าว  พร้อมกับยื่นแบบโครงร่างการทำวิจัยคืนให้ลูกศิษย์สาว



    “ ค่ะ   อาจารย์  เดี๋ยวยังไง  หนูขอไปแก้งานแล้วจะนำมาให้อาจารย์ดูพรุ่งนี้อีกทีนะคะ  ส่วนแบบสอบถาม  ขอส่งอาทิตย์หน้าละกันค่ะ ”  หญิงสาวตอบ



    “ โอเค  รีบเอามาให้อาจารย์ดูหน่อยละกัน  งานวิจัยของเรามันจะช้าก็ตอนเก็บข้อมูลนั่นแหละ”



    “ ค่ะ  ถ้างั้นหนูลานะคะอาจารย์”  หญิงสาวกล่าวลาพร้อมกับยกมือไหว้อาจารย์ที่ปรึกษาproject

    ….ประตูห้องพักปิดลง   หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกหลังจากที่เคร่งเครียดมาตลอด 1 ชั่วโมงแห่งการนำเสนอโครงร่างproject   แล้วสายตาก็เหลือมองเห็นประตูลิฟท์ที่กำลังจะปิด  ทำให้หญิงสาวต้องใช้วิชาที่ติดตัวมา  วิ่งตรงไปยังลิฟท์ทันที



    “ รอด้วยค๊าๆๆ ”  หญิงสาวตะโกนเรียก พร้อมกับที่ เจ้าตัวก็วิ่งมาถึง และ... 2 มือ กับอีก 1 เท้า ยันประตูลิฟท์ที่กำลังจะปิดไว้  แล้วแทรกตัวเองเข้ามาในลิฟท์อย่างรวดเร็ว



    “ จะรีบไปไหนเฮอะ ปภาวี  อาจารย์ยังอยากขึ้นลงชั้น 5 โดยใช้ลิฟท์อยู่นะ  เกิดเธอเป็นอะไรไป  แล้ววิญญาณไม่ไปไหน  ต้องมาติดแหง็กอยู่กับลิฟท์นี้  เดี๋ยวอาจารย์ก็แย่พอดีหรอก  ต้องขึ้นลงบันได ตั้ง 5 ชั้นนะ ”  

    ...หญิงสาวหันไปมองเจ้าของเสียง  ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากอาจารย์รัชนีกร  หรือ อาจารย์ สอง   ที่ปรึกษาส่วนตัวซึ่งสนิทกับหญิงสาวดีประมาณว่า ซี้ปึ๊ก เลยแหละ



    “ โห่..จารย์เล่นแรงเนอะ ....ตั้งแต่เที่ยงเลยนะ”



    “ ก็แล้วดูเราทำสิยัยเปรียว ...มันน่านัก!  วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา  เดี๋ยวประตูลิฟท์หนีบจริงๆ อย่ามาโอดครวญให้อาจารย์ฟังละกัน”



    “ ค๊า ..ความผิดหนูเองค่ะ...คราวหน้าจะไม่ทำอีกแล้ว...พอใจไหมคะอาจารย์ ...แต่ถ้าหนูต้องกลายเป็นผีเฝ้าลิฟท์จริงๆ  ไม่ว่าจารย์อยู่ที่ไหนหนูก็จะตามไปจนเจอนั่นแหละค่ะ ...แหมก็เราสองคนเป็นคู่กันเราขาดกันไม่ได้นี่คะอาจารย์  ”     หญิงสาวพูดพร้อมส่งสายตาละห้อยให้อาจารย์ที่ปรึกษา   ทำให้อาจารย์สาวถึงกับหัวเราะในความบ๊องของลูกศิษย์สาว  



    ทันทีที่ประตูลิฟท์ชั้น 1 เปิดออก  หญิงสาวก็พบว่าเพื่อนรักมายืนรออยู่ตรงหน้าลิฟท์พอดี  



    “ อ้าว!...แบงค์....แกจะไปไหนเหรอ ”



    “ จะขึ้นไปรอแกที่หน้าห้องอาจารย์สมพรนั่นแหละ  เห็นว่าเที่ยงกว่าแล้วแกยังไม่ลงมา  นึกว่าจะต้องตามขึ้นไปซับน้ำตาให้แกซะแล้ว”  



    “ ขอบใจที่เป็นห่วง  แต่น่าเสียดายที่ไม่มีน้ำตาให้แกคอยซับ ”



    “ก็แหม...แกเล่นเข้าไปตั้งชั่วโมงกว่าแล้วนี่หว่า    พวกยัยนุ่นที่เข้าไปก่อนหน้าแก  แต่ละคนที่ออกมากลายเป็นนกกระปูดตาแดงเดินเรียงแถวออกมาซะงั้น   แล้วงานเป็นไงมั่งวะ  ผ่านไหม”



    “ ฮื่อ..สบายมาก  แต่ว่ามีแก้นิดหน่อย  ส่วนแบบสอบถามค่อยส่งอาทิตย์หน้า ” หญิงสาวยิ้มให้เพื่อนแม้ใบหน้าจะอิดโรยเพราะอดหลับอดนอนมาทั้งคืน   ด้วยต้องเตรียมนำเสนองานให้อาจารย์ในวันนี้



    “ เฮ้ย!...โล่งอกไปที่งานแกผ่าน  จะได้ไม่ต้องมานั่งยุ่งหัวปั่นเหมือนพวกนั้น”



    “ วันนี้ท่าทางโชคจะเข้าข้างอ่ะ  กว่าจะรอดมาได้เนี่ย เกือบตายเหมือนกัน  ชั้นตื่นเต้นและลุ้นแทบแย่ว่าอาจารย์จะให้ผ่านไหม  ”



    “  อย่างนี้มันต้องฉลอง...ป่ะ เดี๋ยวชั้นเลี้ยงข้าวแกเอง  นี่มันเที่ยงกว่าแล้ว  ไปที่โรงอาหารละกัน”

    พูดพลางเดินนำหน้าเพื่อนสาวที่ยิ้มแทบไม่หุบ  ด้วยวันนี้มีลาภปากฟรีอีก 1 มื้อ



    .................................



    ระหว่างทางเดิน  นายแบงค์  เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้  จึงหันกลับมาอย่างรวดเร็ว  ส่งผลให้คนที่เดินตามมาด้านหลังชนเข้าอย่างจัง



    “ อู๊ย...นี่แกจะหยุดก็บอกกันบ้างดิ  จะเอาคืนจากเมื่อวานรึไง ” หญิงสาวโวย



    “ เปรียว...วันนี้แกโทรหาหมอนั่นรึยัง”



    “ หมอนั่น ! ...ใครอ่ะ?”



    “ เฮ้อ...ไอ้เปรียวเอ๋ย    ก็ไอ้คนที่เอาแม่หนูปุ๊กปิ๊กของแกไปเก็บไว้  เป็นคนๆเดียวกับที่เอาลุงซูไปซ่อม   และก็เป็นคนเดียวกับที่เกือบจะชนแกเมื่อวานไง  ที่สำคัญ  วันนี้หมอนั่นบอกให้แกโทรไปหาเพื่อที่เอาหนูปุ๊กปิ๊กพร้อมกับลุงซูของแกคืน….จำได้รึยังวะ”

    หญิงสาวนิ่งคิด 5 วินาที ก่อนพยักหน้าเป็นสัญญาณบอกว่าจำได้ละ



    “ แล้วแกโทรไปยัง ? ”



    “ อ๋อ...ยัง”  พูดไปเหมือนจะนึกขึ้นได้ “ เดี๋ยว...ตอนนี้มันกี่โมงแล้ว”



    “ เที่ยงกับอีก20นาที…แกมีเวลาเหลืออีก 10 นาที   รีบโทรไปเลยนะ    ไม่งั้นก็รอพรุ่งนี้โน่น.. ”



    “ เออๆ..รู้แล้วน่า  ”  พูดจบก็เอามือถือในกระเป๋าขึ้นมา  แล้วทำท่าจะกดหมายเลข  แต่ก็เพิ่งนึกได้(อีกรอบ)  “ ชั้นไม่มีเบอร์หมอนั่นว่ะ”



    “ อ้าว...เมื่อวานเค้าให้นามบัตรแกไว้ไม่ใช่เหรอ”



    “ มันก็ใช่...แต่ตอนที่ยัยพวกนั้นมารุมถามชั้น...ชั้นรำคาญเลยให้นามบัตรหมอนั่นไป  แล้วก็ลืมเอาคืนอ่ะ”



    พอได้ฟังเพื่อนรักพูดจบ  ชายหนุ่มถึงกับเอามือตบหน้าผากทันที  เพื่อให้ตื่นจากฝันกลางวันอันเลวร้ายที่เหมือนจะตามหลอกหลอนทั้งวันนี้และพรุ่งนี้อีกแถมยังมีวันต่อไปอีกแน่  ถ้าไอ้เปรียวไม่ได้รถคืนมา .... ขืนถูกเพื่อนรักตามติดอยู่อย่างนี้  มีหวัง...พืชที่หว่านไปกับสาวๆ  ต้องกลายเป็นแห้วแน่ๆ    อย่างเมื่อวานก็ถูก น้องแบม  เด็กพยาบาลงอนไปแล้ว 1 คน เมื่อมาเจอชายหนุ่มที่นั่งกินข้าวกับเพื่อนสาวตัวแสบเข้า ( ก่อนหน้านั้นนายแบงค์โทรไปยกเลิกนัด  เหตุผลก็คือ...ไม่สบาย  ท้องเสีย )  และวันนี้ก็มีนัดกับ อีก 2 สาว   แล้วใครจะช่วยเนี่ย...

    ....แล้วเสียงของนางฟ้าผู้ชุบชีวิตในร่างของผีเสื้อสมุทร(นายแบงค์แอบตั้งให้)  นามเสนาะว่า  อัมมรา ก็ดังขึ้นมา



    “เปรียวจ๋า...รออัมก่อน...นี่จ๊ะ...แหมลืมได้ไงเนี่ย  นามบัตรของหนุ่มในฝันของสาวๆเชียวนะ   อัม อุตส่าห์เอามาคืนนะเนี่ย  เผื่อเปรียวเกิดเปลี่ยนใจที่จะลงสมัครจีบคุณกวินภพ แข่งกับสาวๆคนอื่นบ้าง ...ไปล่ะนะ”    พูดเสร็จก็เดินออกไป  ปล่อยให้สองเพื่อนรักยืนงงกับการมา+การพูด+การไป แบบสายฟ้าแลบของแม่สาวหุ่น XXXL  ที่ไม่น่าจะทำสถิติทุกอย่างได้รวดเร็วขนาดนี้

    ผ่านไปสักครู่   สติจึงได้กลับมาทั้งสองคน   แบงค์จึงรีบพูดขึ้น



    “นี่...แกรีบโทรเลยเดี๋ยวนี้ไอ้เปรียว   อีก  8 นาที เร็วเข้า”



    “ เออ...รู้แล้วน่า  เร่งอยู่ได้  ”หญิงสาวก้มมองนามบัตรในมือ  แล้วกดหมายเลขเบอร์ที่อยู่บนนามบัตร   สักพักแบงค์เริ่มสังเกตว่าใบหน้าเพื่อนสาวเริ่มบูดบึ้ง  แล้วเสียงที่คุยโทรศัพท์ชักจะเริ่มดังเกินไปทุกขณะ  ....สุดท้ายก็เห็นเพื่อนมองมือถือ  ส่วนสายตานะเหรอ   สงสัยอยากจะฆ่าคนที่อยู่ปลายทางมากๆ     จึงถามด้วยความสงสัย

    “ ว่าไงบ้างวะเปรียว...ตกลงเค้าให้แกไปเอากุญแจที่ไหน”



    “ เอาที่ไหนงั้นเหรอ...หมอนั้นเล่นตุกติกกับชั้น  ให้ยัยผู้หญิงปากปลาร้าที่ไหนก็ไม่รู้มารับสาย  ยัยนั่นก็ท่าจะบ้า  พูดออกมาได้ว่า   หล่อนเป็นใคร  เป็นอะไรกับวิน   ทำไมถึงมีเบอร์วินได้  แล้วทำไมวินถึงให้หล่อนโทรมาหา   แล้วรู้ไหมว่าชั้นเป็นใคร ฯลฯ ....โอ้ย!..ชั้นจะบ้าตาย  พูดยังกะชั้นอยากโทรหาซะเต็มที    พอขอพูดกับหมอนั่น...ยัยบ้านั่นก็ตัดสายชั้นซะงั้น    ”



    “ แล้วตกลงว่า แกยังไม่ได้คุยกับหมอนั่น”



    “ ก็เออดิ...เสียอารมณ์ชะมัดยาก...แล้วนี่ชั้นจะได้ลุงซูคืนเมื่อไหร่กันนี่”



    “ เอาว่ะ...พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่..ไปกินข้าวดับอารมณ์กันดีกว่าป่ะ...หิวจะแย่แล้ว”  

    หญิงสาวพยักหน้าแล้วเดินตามเพื่อนไป



    .............................



    ที่โรงอาหาร   หญิงสาวที่ขณะนี้มือถือจานผลไม้เพื่อที่จะนำกลับไปที่โต๊ะ  ซึ่งนายแบงค์เพื่อนรักกำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวไก่เป็นชามที่สอง   โดยที่สายตาลืมมองด้านหน้าด้วยมัวแต่เหลียวหลังมองร้านขนมหวาน+ไอศกรีมที่เพิ่งผ่านไปอย่างเสียดาย  และเหตุการณ์อุบัติรักก็เกิดขึ้นอีกครา เมื่อดันไปชนร่างสูงที่เดินมา  พร้อมกับแตงโมชิ้นหนึ่ง ซึ่งท่าทางมันยังจะไม่อยากถูกประหารในท้องหญิงสาวสักเท่าไหร่  กระเด็นไปถูกเสื้อของคนตรงหน้า



    “ เอ่อ...ขอโทษนะคะ...”  หญิงสาวยิ้มแหยๆให้คนตัวสูงที่ถูก  แล้วมองดูผลงานของตนเอง ...เสื้อที่ยังกะเพิ่งซื้อมาใหม่นั้น  ตอนนี้ปรากฏเป็นรอยสีแดงของแตงโมบนเสื้อจนเห็นได้ชัด  



    “คุณนี่...ซุ่มซ่ามได้ตลอดเวลาเลยนะ”  กวินภพ กล่าวพร้อมกับส่ายหน้า

    คำพูดของชายหนุ่มทำให้ความคิดที่จะเอาผ้าเช็ดหน้าของตนเองไปเช็ดรอยเปื้อนบนเสื้อให้นั้น ถึงกับหยุดชะงัก...และนิสัยอันปกติของหญิงสาวก็ผุดออกมาทันที



    “ เอ๊ะ..นี่คุณว่าผู้หญิงอย่างนี้เลยเหรอ...ชั้นว่าชั้นขอโทษแล้วนะ...คนอะไรเพิ่งเจอหน้าครั้งแรกก็หาเรื่องแล้ว...เป็นโรคจิตรึไง”



    “ เพิ่งเจอหน้าครั้งแรกเหรอ!”  ชายหนุ่มชี้ที่หน้าตัวเอง



    “เออดิ...ผู้ชายอะไรไม่มีมารยาท...ปากพาซวยตั้งแต่เกิดรึไง....ชั้นถือว่าชั้นขอโทษแล้วนะ....เพราะงั้น...ขอตัว” ว่าแล้วก็เดินกระแทกไหล่ชายหนุ่มเดินไป ‘แต่ก็นึกคุ้นหน้าอีตานี่เหมือนกันแฮะ’

    ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนงงอยู่พักใหญ่กับคนที่เดินจากไปซึ่งไม่มีท่าทางว่าจำตนเองได้อีกแล้ว ‘ ยัยนี่สมองเสื่อมรึไงเนี่ย...เพิ่งเจอเมื่อวานเองนะ’  แล้วเสียงหวานแกมออดอ้อนของหญิงสาวสวยระดับดาวมหาวิทยาลัย ซึ่งตอนนี้มายืนอยู่ตรงหน้าก็ทำให้ชายหนุ่มกลับเข้ามาสู่โหมดความเป็นตัวของตัวเอง



    “ วิน ไปกันรึยังคะ  เมย์นัดเพื่อนไว้ที่คณะน่ะคะ   วินไปส่งเมย์นะคะ  เพื่อนๆของเมย์อยากรู้จักวินกันค่ะ... นะคะ”



    “ ได้ครับ..สำหรับเมย์แล้ว  ผมยังไงก็ได้” พลางส่งสายตาที่ทำให้สาวสวยถึงกับอายม้วนไปทีเดียว



    “ ปากหวานจังค่ะ...แต่เอ๊ะ...เสื้อวินไปโดนอะไรมาคะเนี่ย...ดูสิ...เลอะหมดเลย  เดี๋ยวเมย์เช็ดให้นะคะ”  พูดจบก็เอาผ้าเช็ดหน้าสีหวานเตรียมเช็ดให้



    “ ไม่ต้องครับเมย์  เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนใหม่เลยดีกว่าครับ  ตอนบ่ายผมต้องเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษาด้วย ”



    “ เอางั้นเหรอคะ...งั้น วินไปเปลี่ยนเสื้อก่อนไหมคะ  แล้วเดี๋ยวค่อยไปส่งเมย์”



    “ โอเคครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วเดินควงสาวสวยออกจากโรงอาหารไป



    .......................



    ทันทีที่ชายหนุ่มเปิดประตูด้านคนขับ โดยที่สาวสวยที่มาด้วยรออยู่ในรถคันหรูแล้ว   เสียงดังที่เรียกขึ้น  ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วหันกลับไปมองหญิงสาวที่เพิ่งชนเค้าไปเมื่อกี้ ซึ่งกับกำลังสูดลมหายใจให้หายเหนื่อยจากการที่ต้องวิ่งมา  ‘ เปรียว...ยัยนี่อีกแล้วเหรอ....คราวนี้อะไรอีกละ’



    “นี่นาย...ชั้นมาขอกุญแจกับรถชั้นคืน”



    “ หืม..คุณจำผมได้ด้วยเหรอ...แล้วเมื่อกี้”



    หญิงสาวพยักหน้า ตอบ “ พอดีไอ้แบงค์เพิ่งบอกน่ะว่าเป็นนาย   ชั้นก็เลยนึกขึ้นมาได้”



    “ อะไรนะ! เพิ่งนึกหน้าผมได้งั้นเหรอ...หลังจากเจอกันมา 3 ครั้งเนี่ยนะคุ๊ณ...ถามจริง  สมองคุณทำด้วยอะไรเนี่ย”

    ซึ่งส่งผลให้หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์คุกรุ่นนิดๆ



    “ ก็สมองคนเดินดินธรรมดานั่นแหละ...แต่บังเอิญนายเป็น 1ใน100 คน ซึ่งสมองชั้นมันปฏิเสธที่จะบันทึกไว้น่ะ  พอใจในคำตอบยังอ่ะ....แล้วก็คืนของที่นายเอาไปมาได้แล้ว”



    “ ไม่คืน...ผมจำได้ว่าให้คุณโทรมาหาตอนเที่ยง limit ไม่เกินเที่ยงครึ่ง ไม่ใช่เหรอ แล้วนี่อะไร คุณไม่ทำตามข้อตกลงนี่ ”



    “ ใครว่าชั้นไม่โทร...ผู้หญิงของนายไม่ได้บอกเหรอ …แต่ก็นะ   เจ้าหล่อนคงบอกอยู่หรอกนะ ...ถึงขนาดตัดสายชั้นซะเฉยเลย....พูดแล้วก็เสียดายค่าโทรศัพท์ชะมัด”  

    พูดพลางส่งสายไปให้คนที่นั่งอยู่ในรถ  จนสาวสวยอดทนนั่งต่อไปไม่ได้  ด้วยเพราะเห็นชายหนุ่มที่ตนหมายมั่นว่าจะจับให้อยู่หมัด  ยืนคุยกับหญิงสาวคนหนึ่ง  ถึงแม้ความสวย  เมย์ชญามั่นใจว่าไม่มีใครสู้หล่อนได้  แต่ไอ้ความน่ารักที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของหญิงสาว ร่างสูงโปร่ง  ที่ขนาดหล่อนเองเป็นผู้หญิงยังยอมรับเลยว่า มองได้ไม่รู้จักเบื่อ  ทำให้ต้องรีบออกมาดับไฟตั้งแต่ต้น



    “ วินคะ  เมย์รอนานแล้วนะ...แล้วใครกันคะวิน  รุ่นน้องหรือแค่คนรู้จักคะ”  พูดพลางกอดแขนชายหนุ่ม   ส่วนสายตาก็ส่งไปประเมินคนตรงหน้า

    .....สายตาของสาวสวยทำให้  ปภาวี ชักสีหน้าขึ้นมาทันที แล้วก็นึกได้ว่า   เคยได้ยินเสียงอย่างนี้ที่ไหน  



    “ อ๋อ...จำได้ละ  คุณนี่เองที่เป็นคนรับโทรศัพท์...มิน่าละ  ทำยังกะแม่หมาที่เพิ่งออกลูกใหม่  หวงลูกยังกะอะไรดี’’



    ส่งผลให้ชายหนุ่มยืนอึ้งกับคำตอบของหญิงสาว  ส่วนคนถูกพาดพิงตรงๆนั่นเหรอ



    “ แก.. แกว่าชั้นเหรอ”  พลางชี้หน้าหญิงสาว  ทำให้ปภาวีนึกสนุก ‘ ขอยั่วยัยนี่ให้หายแค้นซะหน่อยเหอะ’



    “ อ๋อ...แล้วที่คุณถาม...ชั้นน่ะไม่ใช่รุ่นน้องหรอกนะคะ...แล้วก็ไม่ใช่แค่คนรู้จักด้วย...เพราะเราเจอกันมาหลายครั้งแล้วด้วย...ไม่งั้นวินเค้าคงไม่ให้ชั้นโทรหาหรอก จริงไหมคะวิน ”  หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม



    “ หมายความว่าไงคะวิน  ที่ยัยนี่พูดน่ะ   ” สาวสวยซัก  นั่นทำให้ชายหนุ่มต้องรีบแก้สถานการณ์ก่อยที่มันจะแย่ไปกว่านี้



    “ เอ่อ...เมย์ไปนั่งรอในรถก่อนนะครับ…เดี๋ยวผมขอคุยธุระซักครู่นะครับ...”



    “ วินน่ะ...เห็นยัยนี่ดีกว่าเมย์งั้นเหรอ”



    “ เมย์ครับ  ผมมีธุระคุยกับเค้าจริงๆนะครับ   แล้วก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เมย์คิดด้วย  ”  น้ำเสียงชายหนุ่มชักเริ่มแข็งขึ้น



    “ ก็ได้ค่ะ  แต่อย่าให้นานนะคะ  เมย์รีบ”  พูดจบก็เดินสะบัดก้นเข้าไปนั่งกระแทกในรถ  แต่สายตาก็ยังคงมองมาที่ปภาวีอย่างเจ็บใจ  แล้วก็ต้องตาโต  เมื่อเห็นหญิงสาวโน้มคอชายหนุ่มลงมากระซิบบางอย่าง   แล้วยิ้มหวานให้กับคนที่ยืนงงอยู่กับการกระทำของหญิงสาวโดยไม่ได้ตั้งตัว  



    “ พรุ่งนี้นายอย่าเบี้ยวล่ะ  ไม่งั้นนายจะเจ็บตัวยิ่งกว่าวันนี้” พูดจบก็กระแทกรองเท้าส้นสูงกับเท้าข้างหนึ่งของชายหนุ่มผู้โชคร้ายทันทีที่พูดจบ   แล้วเดินจากไป  ทิ้งให้กวินภพยืนเจ็บและแค้นไว้เบื้องหลัง



    ……………………..



    แบงค์มองหน้าเพื่อนสาวที่เดินมานั่งแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี   สงสัยมันได้กุญแจคืนแล้วแฮะ ...แล้วไม่รอช้าเอ่ยถามออกไปด้วยความหวัง



    “ แกได้แม่หนูปุ๊กปิ๊กคืนแล้วใช่ไหม  จะได้รีบไปเอาลุงซูแกกลับมากัน”



    “ เปล่าหรอก...ต้องรอพรุ่งนี้...ส่วนวันนี้ชั้นก็เกาะติดแกไปทั้งวันอย่างนี้แหละ”  หญิงสาวตอบสิ่งที่เป็นการดับความหวังและความฝันของเพื่อน ... ส่วนนายแบงค์น่ะเหรอ  ตอนนี้กำลังทำใจว่า อาทิตย์นี้ได้กินแห้วทั้งอาทิตย์แน่ๆ  .... แต่เหมือนว่า...ชาติที่แล้วหรือชาติก่อนโน้น  นายแบงค์ของเราคงทำบุญไว้บ้างไม่มากก็น้อย  ผลบุญจึงส่งให้โทรศัพท์ของหญิงสาวดังขึ้น  และเสียงคุยโทรศัพท์ของปภาวีก็ทำให้แบงค์หน้าตาสดชื่นขึ้นมาทันที



    “ หวัดดีค๊าเจ๊อ้อม  ”  



    “..................”



    “ อ๋อ   ว่างค่ะวันนี้   ได้ค่ะ....เดี๋ยวตอนเย็นเจอกันค่ะ”

    หญิงสาวมองเพื่อนซึ่งตอนนี้หน้ายิ้มไม่หุบด้วยความดีใจแกมโล่งอกจนปิดไม่มิด



    “ ไม่ต้องทำหน้าเสียอกเสียใจขนาดนั้นก็ได้มั้งไอ้คุณแบงค์...ที่วันนี้ชั้นไม่อยู่เป็นนางมารขัดขวางความรักของแกน่ะ” หญิงสาวพูดประชดนิดๆ



    “ ยังไง เดี๋ยวตอน 5 โมงเย็นไปส่งชั้นที่ร้านยำด้วยละกันแล้ว 5 ทุ่มไปรับกลับด้วย  เพราะชั้นไม่มีรถ  ...เข้าใจไหม  ”



    ชายหนุ่มพยักหน้า  ‘ เอาวะ   อย่างน้อยก็มีเวลาไปตามนัดสาวๆ   ’



    ………………





    บอกเล่าเก้าถึงสิบ

    ยังสอบอีก 1 วิชาค่ะ  เพราะงั้นคงเป็นวันศุกร์นี้ที่จะมาอัพนะคะ  ยังไงช่วยแนะนำด้วยละกันค่ะ  ตอนหน้าจะเริ่มเข้าสู่  ว่า ทำไมจึงเป็นสาวร้านยำกับเพลย์บอยร้านนมแล้วนะคะ  เพราะช่วงแรกต้องเริ่มเก็บสะสมความแค้นของนางเอกกะพระเอกก่อนค่ะ  อิอิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×