ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สาวร้านยำกับเพลย์บอยร้านนม

    ลำดับตอนที่ #1 : ซวยรับอรุณ

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ย. 48


    ติ๊ด.....ติ๊ด....ๆๆๆๆๆ



    ร่างของหญิงสาวที่นอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ค่อยๆขยับลุกขึ้นมาจากเตียงทั้งๆที่ไม่ลืมตา     ตรงปรี่เข้าประจันหน้ากับนาฬิกาพร้อมด้วยลูกตบวอลเลย์บอลอันทรงอานุภาพไปที่นาฬิการูปฟุตบอลซึ่งเป็นเรือนที่ 5 ในรอบ 2 เดือน   แล้วนาฬิกาผู้โชคดีก็มีอับจบชีวิต เอ๊ย เงียบเสียงปลุกรบกวนและนิ่งสนิท



    “ เจ็ดโมงครึ่งเอง...เ...ห...ร...อ.  นอนต่อดีกว่า”  หญิงสาวงัดเปลือกตาด้วยพลังเฮือกสุดท้าย  แล้วคิดในใจว่า ยังไงต้องทันไปเรียนตอน 9 โมงให้ได้  แต่ว่า...



    “ นอนต่ออีก 30 นาทีละกัน แค่นี้เอง  ทันอยู่แล้วแหละ” หลังจากนั้นก็นะ...รู้กันอยู่  สวรรค์ตอนเช้าเชียวอย่าบอกใคร



    7.30 น.......



    8.30 น......



    9.30 น.....



    สิบสี่กุมภาคราใด...เสียงริงโทนโทรศัพท์ของหญิงสาวที่กำลังมีความสุขในการนอนดังขึ้น   ร่างที่อยู่ใต้ผ้าห่มค่อยๆเอื้อมมือควานหามือถือที่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน และก็...

    “  ฮัลโหล ....ใครอ่ะ....นี่มันเพิ่ง 7โมงครึ่งเองนะ ” เสียงพูดที่มีท่าทีว่าหงุดหงิดกับการถูกรบกวนจากนิทราอันสงบ



    “นี่ คุณนายตื่นสายคร๊าบ....แกจะนอนเอาโล่ห์ทักษิณรึไง.... ไอ้เปรียว ....ตื่นได้แล้วโว้ย ” เสียงชายหนุ่มผู้เป็นเพื่อนรักโวยวายมาตามสาย



    “  สายอะไรกันแก   นี่เพิ่ง 7โมงครึ่งเองนะ  ” หญิงสาวตอบไปด้วยความมั่นใจว่าเธอทำในสิ่งที่ถูกต้อง  พลางเอียงคอมองดูนาฬิกาที่ดูยังไง๊  มันก็ 7.30 น. อ๊ะ แต่ทำไมเหมือนเข็มมันไม่กระดิกเลยอ่ะ  



    “ 7 โมงบ้านแกดิ  แหกตาดูนาฬิกาได้แล้ว.... นี่มัน 9โมง 20  แล้ว.....แกจุดธูปอัญเชิญตัวแกลุกจากเตียงเดี๋ยวนี้    อาจารย์จะควิสอีก5นาทีนะแก ”



    จบคำพูดของเพื่อนรัก   ก็เอามือถือมาดูเวลาแทน



    “ อ้าว.. เฮ้ย... 9โมง กว่าแล้ว  แต่นาฬิกาบ้านั่น...  ” พลางหันไปมองนาฬิกาที่เพิ่งเจอลูกตบเธอไปเมื่อ 2 ชั่วโมงก่อน  เอื๊อก...อ่า...เพิ่งซื้อได้ไม่ถึงอาทิตย์เองนะ  ตายซะแล้วเหรอแก  แถมยังจะทำชั้นซวยแต่เช้าด้วยสิ    





    “ โอ้ย....” พูดพลางเอามือตบหน้าผากตัวเอง  ราวจะปลุกร่างกายให้ตื่น     แล้วนึกขึ้นได้ว่ายังมีคนคอยอยู่สายอยู่



    “ แล้วไม่เห็นมีใครบอกว่าวันนี้จะสอบล่ะ ”



    “ เออ...ใช่ แต่อาจารย์เห็นมาเรียนกันน้อยก็เลยสอบไงจ๊ะคุณเปรียว”



    “  ตายแล้ว...งานนี้ฉัน........แล้วทำไมแกไม่ปลุกฉันแต่แรกน่ะ   ไอ้คุณแบงค์ ” งานนี้มีการโยนความผิดให้อีกฝ่ายได้อย่างสวยงาม



    “ อืม ... ก็คุณเธอเล่นไม่บอกก่อนล่วงหน้านี่นาว่าจะตื่นสายจะได้โทรไปปลุกทุกๆ 5 นาทีเลย...เออ รีบมาเร็วๆ เดี๋ยวกระผมจะทำข้อสอบให้”



    “ จ้า ..ขอบใจมาก  อีก 5 นาทีเจอกัน ”

    พูดเสร็จก็โยนโทรศัพท์ไว้บนเตียง  แล้วโน่น...แต่งตัว  เตรียมของเอาใส่เป้สะพายหลัง   ออกไปสตาร์ทรถแล้ว ( อี๋ ! ไม่อาบน้ำด้วย นางเอกของชั้น )



    5 นาที ...5 นาทีและภายใน 5 นาที      ต้องทำให้ได้  



    เข็มนาฬิกาหมุนไป



    1.30 นาที ทำการเตรียมตัวออกจากหอพักมุ่งสู่รั้วมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนแบบผ่านร้อน   ผ่านร้อนมากและผ่านร้อนมากที่สุด มาตลอดเวลา 3 ปี ( คือ จะบอกว่า ที่นี่เค้ามีฤดูแค่นี้แหละ  3 ฤดู   โดยที่ฤดูฝน(ซึ่งฝนไม่ค่อยมี)ก็คือฤดูร้อนสำหรับเด็กมอ     ฤดูหนาว(ซึ่งหาความหนาวเย็นไม่เจอ)คือฤดูร้อนมาก สำหรับเด็กมออีกเช่นกัน  และฤดูร้อนของคนทั่วไป...ก็คือฤดูที่ร้อนมากที่สุด ...คิดดูละกันว่าทำให้  ห้องน้ำทุกห้อง กลายเป็นห้องอบซาวน่า  และน้ำที่ไหลผ่านออกมาจากฝักบัว สามารถต้มมาม่าให้สุกได้ แถมยังต้มกาแฟได้อีกเช่นกัน )



    โอ้ย...นี่มันเป็นรายการแข่งร้อยได้ล้านก็ว่าได้ 5 นาทีนะ.....ต้องทำให้ได้นะไอ้เปรียว “ลุง ซูขา  ช่วยหน่อยนะคะ  ไม่งั้นหนูซวยแน่ๆ)เธอรีบขับรถมอเตอร์ไซด์คันเก่ายี่ห้อดัง  นามว่า ลุงซู  ที่เป็นมรดกจากทางบ้านชิ้นแรกที่คุณพ่อเคยใช้มาเรียนมหาวิทยาลัยและพบรักกับคุณแม่ที่เป็นนักศึกษารั้วเดียวกันโดยลัดเลาะออกมาตามซอยซึ่งเธอคุ้นเคยเป็นประจำในชั่วโมงเร่งด่วนนี้



    “ หว๋าย .. 4นาทีแล้ว สู้เขาค่ะลุงซู ”

    แล้วลุงซูก็พาหญิงสาวผ่านรั้วมหาวิทยาลัย จนถึง 4 แยก แห่งชั่วโมงเร่งด่วน ที่ 4 ทาง ก็ 4 ทางใครทางมัน แบบว่า ใครดี ใครได้( ได้ไปก่อน) ...หญิงสาวจึงบิดคันเร่งไปกระตุ้นลุงซูให้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว



    แต่...อ่ะนะ...กามเทพน้อย(ฝึกหัด)ของเรากำลังสอดส่ายสายตาที่ติดเรดาห์   มองหาคนที่จะมามีความรักพอดี   ....นั่นไง  เจอแล้ว ยิงไปเลย....1...2....3   ลูกศรน้อยๆน่ารัก  ตรงปลายเป็นรูปหัวใจสีชมพูหวานแหว๋วพุ่งตรงออกไปสู่เป้าหมาย...และ... ก็พลาดอีกจนได้อ่ะ พ่อหนูคิวปิด...แต่ว่างานนี้ดันพลาดไปโดน...ล้อรถจักรยานยนต์ที่ขี่มาด้วยความรีบเร่ง...ผลก็คือ



    ปัง.......เสียงดังของล้อรถระเบิด  หยุดการเคลื่อนไหวของทุกสิ่งที่อยู่ในบริเวณโดยรอบ  พร้อมร่างที่ยังสามารถค้ำ(ยัน)รถที่เสียการทรงตัวไว้ได้  กลาง 4 แยกพอดิบพอดี       แล้วก็ตามมาด้วย



    เอี๊ยด.......เสียงเบรกของรถที่ตามมาดังสนั่นแต่ไม่หวั่นไหว  ที่เกือบจะชนหญิงสาวที่ที่ยังงงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



    “ เดี๋ยว..ฉันทำอะไรผิดไปเนี่ย..” ว่าแล้วพลางหันไปมองดูยางหลังของมอเตอร์ไซด์คันงาม....ซึ่งแบนไปเรียบร้อยแล้ว    โดยไม่ได้มองรถยนต์ที่จอดสนิทแน่นิ่งอยู่ด้านข้างที่อยู่ห่างไปไม่ถึงเมตร



    “ ตายแล้ว ...คนสวย...วันนี้นาฬิกาพาซวยแล้ว ลุงซูที่รักยังจะพาซวยซ้ำเข้าไปรึไงเนี่ย ” เสียงบ่นที่ดังขึ้นจากร่างโปร่งสูง  ซึ่งไม่มีท่าทีว่าจะสนใจอีกคนที่ลงจากรถยนต์คันหรูซึ่งเกือบจะชนเธอและกำลังมองด้วยความเป็นห่วงว่าเธอเป็นอะไรรึเปล่า



    “ เออ..เป็นอะไรรึเปล่าครับ” เสียงทุ้ม กังวานเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง



    “ ไม่เป็นไรมั้งคะ....แหกตาดูซิว่าเกิดอะไรขึ้น....ไม่ทราบว่าตาบอดสีหรือไง   นายเกือบจะชนชั้นอยู่แล้วนะ    ” หญิงสาวย้อนกลับด้วยอารมณ์และนิสัยที่แก้ไม่หาย   ปากไว...ใจเร็ว...ยอมใครไม่เป็น...



    “ ขอโทษนะครับ ที่บ้านผมก็สอนมาดี  แต่ทำไมคุณพูดอย่างนี้ล่ะครับ  ใจเย็นๆสิครับ  และที่สำคัญผมไม่ทันชนคุณเลยนะครับ  ” ชายหนุ่มตรงหน้ายังคงใจเย็นในการพูด



    “ เย็นไม่เย็นไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้ สาย...อ๋าย..9โมง30แล้ว และก็รีบมากด้วย...เอาเป็นว่า ตอนนี้นายก็ต้องไปส่งชั้นก่อนละกัน  โทษฐานที่ทำให้ชั้นไปเรียนสาย   ” (ว่าซะงั้น)  พูดเสร็จ แบบที่ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ทันได้ตอบรับ



    “  แต่ว่า... แบบว่านี่มัดมือมัดเท้าชกเลยนะครับคุณ” ชายหนุ่มพูดขึ้นมา แต่หญิงสาวตรงหน้ากลับไม่สนใจแล้ว  เธอจูงลุงซู มากอง เอ๊ย จอดทิ้งไว้  ที่ใต้ต้นพิกุลใกล้ๆนั้น  พลาง พูดในสิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มซึ่งเดินตามมา และได้ยินทำให้หัวเราะ  จนแทบจะปิดไว้ไม่มิด  



    “ ท่านเทพารักษ์เจ้าขา   หนูขอฝากลุงซูสุดที่รักไว้ด้วยนะเจ้าคะ  เดี๋ยวเรียนเสร็จ ตอนเที่ยงจะกลับมาเอาเจ้าค่ะ  แต่อย่าให้หายนะคะ  ม่ายงั้นท่านสงสัยจะเหลือแต่ตอเจ้าค่ะ”



    “ โห คุณ พูดยังกับฝากความหวังทั้งโลกให้กับต้นพิกุลงั้นแหละ ” เสียงพูดที่เอ่ยขึ้นทันที่ที่เธอพูดจบ  พร้อมกับ เสียงหัวเราะที่กลั้นไว้ไม่มิดของชายหนุ่ม



    “ ทำไม..มีอะไรน่าหัวเราะเรอะ... แต่ว่า นายรีบพาฉันไปส่งที่ตึกคณะวิทย์ก่อนเลยเดี๋ยวนี้.... เสร็จแล้วค่อยมาว่าเรื่องรถกัน”



    “ เออ..แต่ว่าคุณ...”



    “ ไม่เอ่อ...ไม่อ่าแล้ว...รีบไปขึ้นรถสิ   ชั้นยิ่งรีบๆอยู่...” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่ชักจะดังขึ้นไปทุกที



    “ ครับ...ครับ... ” ชายหนุ่มจึงรีบขับรถไปตามที่เธอต้องการ



    เมื่อรถคันหรูมาถึงที่ตึกคณะวิทยาศาสตร์ไม่ทันได้จอดสนิทดี  ร่างที่นั่งข้างคนขับรีบเปิดประตูรถแล้วแทบกระโจนออกจากรถ  และเดินแกมวิ่งเข้าตึกเรียนโดยไม่หันมามองและสั่งเสียอะไรเลยกับคนขับที่ขับรถพาเธอแทบจะเหาะมาส่ง   แล้วนิสัยอันเคยชินอีกประการหนึ่งของหญิงสาวนามว่า ปภาวี หรือ ไอ้เปรียว  ของเพื่อนๆ  ก็ดันลืมตุ๊กตาเด็กผู้หญิงในชุดสีฟ้าหน้าตาน่ารักที่คล้องพร้อมกุญแจรถคู่ใจทิ้งไว้ให้ชายหนุ่มในรถไว้ดูต่างหน้าเล่นๆ  พลางมองตามหลังหญิงสาวที่หายเข้าไปในตึกอย่างรวดเร็วด้วยความงุนงง????



    “ ยัยนี่  ยังขาดอยู่กี่สตางค์กันนี่  ท่าจะไม่เต็มเท่าไหร่แฮะ  ”  กวินภพ  ชายหนุ่มซึ่งเป็นสารถีพาคนที่ท่าทางว่าอีกเยอะกว่าจะเต็มบาทมาส่งถึงที่ เพราะถูกบังคับจากสาวเจ้า



    ........................................



    ขออนุญาตเข้าห้องค่ะ ”  สาธุ หญิงสาวที่เพิ่งมาถึงไหว้อย่างสวยงามพร้อมแล้วรีบไปนั่งที่ประจำที่เพื่อนรักของเธอเตรียมไว้เป็นอย่างดี  โดยมีสายตาพิฆาตส่งตรงมาจากอาจารย์ผู้สอนตามมาด้านหลัง  ด้วยเพราะลูกศิษย์สาวเข้าเรียนสายไปเกือบ 30 นาที



    “ อาจารย์ว่าไงบ้าง....ไหนอ่ะกระดาษคำตอบ ” ถามด้วยความรีบร้อนกลัวว่าจะส่งงานไม่ทัน



    “ อ๋อ...ข้อสอบเหรอ  ไม่มีหรอก  ชั้นแกล้งแกเล่นน่ะ  อาจารย์ไม่สอบหรอกวันนี้ ” ชายหนุ่มตอบพร้อมด้วยยิ้มแบบผู้ชนะ 9 ทิศ ( ที่เหลืออีกทิศหนึ่ง เอาไว้ให้ไอ้เปรียวเป็นผู้ชนะ  กลัวมันงอน!)



    “ ไม่มีสอบ  แล้วแกเร่งชั้นแทบตายเนี่ยนะ  ” หญิงสาวถามด้วยเสียงอันดัง  พร้อมๆกับอารมณ์ที่เริ่มจะกรุ่นๆ



    เงียบ...ทั้งห้องหันมามองเธอเป็นจุดเดียวกัน พร้อมกับสายตาที่ส่งสัญญาณมาเตือนจากอาจารย์ผู้สอน

    แต่หญิงสาวก็หาได้สนใจไม่ ด้วยความลืมไปว่าตัวเองกำลังอยู่ในห้องเรียน



    “แล้วแกรู้ไหมว่าทำให้ชั้นต้องรีบมา  แล้วรู้ ไหมว่าเมื่อกี้เนี่ยเกิดอะไรขึ้นมั่ง  แกนะแก  เลี้ยงไม่เชื่อเลย   อุตส่าห์ให้อาหารอย่างดีทุกวัน งั้นแกก็อย่าอยู่เลย  ” พูดเสร็จหญิงสาวก็หันไปคว้าหนังสือเรียนเล่มหนาของชายหนุ่มที่วางอยู่ ฟาดลงไปตรงหน้าผากเจ้าของหนังสือทันที



    “ โอ้ย ... เจ็บนะโว้ย  ” แบงค์ร้องเสียงดัง



    และหลังจากนั้น... ทั้งสองได้ถูกเชิญออกจากห้องเรียนก่อนเวลาอันควร  โทษฐานก่อกวนความสงบในห้องเรียนและรบกวนการสอนของอาจารย์



    .....................................



    “ เออ  ไอ้เปรียว ว่าแต่ว่าวันนี้ทำไมแกตื่นสายได้วะ  แกก็รู้นี่หว่าว่าเรียน 9 โมงเช้านะ ”



    “ อื่อ.. ก็นาฬิกาบ้านั่นสิ  ดันมาตายพอดี   เซ็งชะมัด ! ”



    “ ชั้นก็เซ็งว่ะ  ทำดีไม่ได้ดี  ไอ้เรารึก็อุตส่าห์โทรไปปลุก ไม่อยากให้เพื่อนขาดเรียน  เฮ้ย! ทำดีไม่ได้ดีเล้ย  แถมเจ็บตัวอีกต่างหาก ”  พูดพลางลูบหัวที่เพิ่งถูกฟาดไป และเพิ่งจะบวมออกมาให้เห็นบ้าง(นิดนึง)



    “ โอ๋...อย่าโกรธเลยนะจ๊ะเพื่อนรัก  ก็ตอนนั้นมันอยู่ในอารมณ์เพิ่งปะทุมาจากข้างนอกอยู่นะ ”



    “ ไหนขอดูไหนซิ  เจ็บมากไหม ”



    “ เจ็บดิ  แกนะแก ฟาดมาได้  หน้าตาชั้นยิ่งหาสาวควงยากอยู่ด้วย”



    “ เหอๆๆ...แกนี่นะหาผู้หญิงควงด้วยยาก ” หญิงสาวพูดพลางยิ้มอย่างซื่อๆซึ่งก็ดูรู้อยู่ว่าไม่จริงใจ



    “ แล้ว2 -3 วันมาเนี่ย  ชั้นรู้นะว่าแกเทียวไปรับเด็กพยาบาลที่อยู่หอในอยู่ไม่ใช่เหรอ  แต่เอ๊ะ เมื่อวานตอนบ่ายชั้นเห็นแกที่หอสมุดกับเด็กทันตฯ   ส่วนเมื่อคืน ถ้าเดาไม่ผิดแกควงสาวคณะมนุษย์ฯ ไปเที่ยวผับที่เปิดใหม่ไม่ใช่เหรอ ไม่กลัวขบวนรถด่วนชนกันไปรึไง  อ้อ!  ถ้าจำไม่ผิดยังมี.....  ”



    “ พอๆๆๆได้แล้วแก เลิกพูดเลย  ได้ทีกัดเลยนะ ” ชายหนุ่มรีบเบรกก่อนที่เพื่อนสาวจะสาธยายมากกว่านี้



    “ แล้วนี่แกจะไปไหน  ”



    “ ก็ไปเลี้ยงข้างแก เป็นการไถ่โทษไง  สนใจไหมเพื่อน ”



    “ ตกลง  อย่างนี้ค่อยยังชั่วหน่อย  พอให้อภัยกันได้   ” ชายหนุ่มพูดด้วยความรวดเร็ว



    “ แหม...ไม่ค่อยเลยนะแก ”



    “ไม่ได้ว่ะ... เรื่องกิน ช้าไม่ได้   โดยเฉพาะกินฟรีที่นานๆทีคุณเปรียวจะเลี้ยงเนี่ย  ความน่าจะเป็นในหนึ่งปี มันแค่ .01 เองนะ  5555 ” พูดจบก็เดินนำหน้าไปอย่างสบายอารมณ์



    ....................................



    บอกเล่าเก้าถึงสิบ



    เพิ่งเขียนเป็นเรื่องแรกค่ะ  ยังไงก็ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ  
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×