คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เมื่อตอนนั้น [100 per.]
บทที่
การนอนหลับของหญิงสาวเป็นอะไรที่ช่างน่ากลัวเหลือเกิน ไม่ว่าจะข่มตาหลับกี่ครั้งๆก็มักจะเจอแต่ภาพเหล่านั้น ภาพที่เธอมักจะโดนคนในชั้นรุมทำร้าย เธอไม่กล้าบอกพ่อแม่ เพราะเธอรู้อยู่แก่ใจ ถึงจะบอกไปพวกท่านก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรเธอได้ มีแต่จะด่าทอไม่ก็ถูกทุบตีกลับมา วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธอพยายามจะนอนหลับให้ได้อย่างมีความสุข แต่ไม่เลย ความฝันอันแสนโหดร้ายมันกลับมาอีกครั้ง
“ลุกขึ้นมา อย่ามาทำเป็นสำออยนะ เหอะ เป็นแค่เด็กทุน ทำตัวกร่างอย่างกับว่าบ้านเธอมีเงินซื้อพวกเราได้” เจฮี คนในชั้นของเธอพูดขึ้นก่อนจะผลักเธออีกครั้งเมื่อหญิงสาวพยายามจะลุกขึ้น ลู่หานพยายามอย่างมากับการที่จะอธิบายว่าเธอไม่แม้แต่จะคิดทำตัวกร่างอย่างที่คนในชั้นว่า
“ไม่จริงนะเจฮี เราไม่เคยทำอย่างนั้นนะ” ลู่หานพยายามอธิบายแต่มีหรือคนอย่างเธอจะพัง เจฮีหันไปกระซิบกระซาบกับเพื่อในชั้นก่อนที่คนที่เจฮีกระซิบด้วยจะเดินออกไปจากห้อง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไปทำไม ไปเอาของมาทรมานเธออีกหละสิ ทุกวันที่เธอมาโรงเรียน เธอมักจะโดนแกล้ง โดนทำร้าย สารพัดอย่าง มีบางครั้งลู่หานก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าจะทำแบบนี้ ทำไมไม่ฆ่ากันให้ตายไปเลยหละ
“นี่” คนที่พึ่งเดินออกไปเดินกลับเข้ามาในห้องเรียนในเวลาต่อมาพร้อมกับเทียน อีกแล้วหรอ เจฮีนำผ้าขี้ริ้วที่เอาไว้เช็ดห้องมามัดที่ปากของลู่หานเพื่อไม่ให้หญิงสาวร้องออกมา เข็มขัดของนักเรียนชายคนหนึ่งถูกนำมามัดที่ข้อมือของเธอมัดรัดแน่นจนมือของลู่หานเริ่มชา เจฮีค่อยๆจุดไปลงไปที่เทียน สักพักหนึ่งน้ำตาเทียนเริ่มไหลลงมาเจฮีไม่รอให้มันได้หยดลงมือของเธอ เธอหยดมันลงบนมือของลู่หาน น้ำตาเทียนร้อนๆหยดลงบนมือของหญิงสาว ลู่หานไม่สามารถร้องออกมาได้ ความเจ็บแสบแล่นเข้ามา มีเพียงน้ำตาหยดใสๆที่ไหลออกมาเป็นทาง คนพวกนี้ช่างน่ากลัว เพื่อนผู้ชายในห้องถอดเสื้อของลู่หานออกจนเหลือแต่ชั้นใน พวกผู้ชายมองกันตาเป็นมันบ้างก็เลียปากอย่างหิวกระหาย
แกร๊ก แกร๊ก
ลู่หานสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงนั้นดังออกมาจากอุปกรณ์ในมือของเจฮี มีดคัตเตอร์ นี่คือครั้งแรกที่เจฮีตั้งใจจะทำรอยพวกนั้นบนตัวของเธอจริงๆ
“เธอโทษฉันไม่ได้นะลู่หาน โทษร่างกายของเธอเองเถอะ” สิ้นเสียงของเจฮีก็ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องที่น่าเวทนา เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากหลังและแขนของลู่หาน คนในห้องบางคนก็ปิดตาไม่อยากรับรู้ บางคนก็มองด้วยสายตาที่ดูมีความสุข ผ้าที่มัดปากของลู่หานอยู่นั้นปากแฉะไปด้วยน้ำลายและน้ำตาของหญิงสาว
“กรี๊ดดด” เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้น ลู่หานมองดูรอบๆก่อนจะถอนหายใจออกมาเธอมองดูนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนัง 5.35 น. เธอมักจะร่างกายอ่อนเพลียเพราะสิ่งนี้แหละคอยตามหลอกหลอนเธอทุกๆคืน ลู่หานลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวสีขาวสะอาดแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป หญิงสาวใช้เวลาในห้องน้ำอยู่นาน วันนี้เธอมีเรียนเช้าตอน 8.00 น. แต่นี่ก็พึ่งตีห้าครั้งกว่าๆ ถ้ากลับไปนอนต่อคงจะต้องบ้าตาย ว่าแล้วเธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพเปลือยเปล่า ถึงจะเอาเช็ดตัวเข้าไปด้วยก็ใช่ว่าเธอจะเอามาพันตัวเองเสียเมื่อไหร่ เอาไปเช็ดผมต่างหาก ลู่หานยืนมองตัวเองในกระจก รอยสักที่แขนและหลังของเธอมันเหมือเครื่องเตือนใจว่า เพื่อนแท้ไม่มีอยูในโลก และ รักที่แท้จริงก็คงจะไม่มีเหมือนกัน
“จะไปไหนดีวะ” คิดอยู่นานก็ไม่มีไอเดียอะไรเข้ามาในหัวเลยสักนิด ตีห้าครึ่ง คงจะมีใครเขาเปิดร้านอยู่หรอก แต่พอตื่นมาก็หิวทันทีเลย ให้ตายเถอะ ต้มมาม่าก็ได้วุ้ย
กริ๊งงง กริ๊งงง
“โว้ย ใครมันโทรมาเนี่ย” ลู่หานหัวเสียเล็กน้อยกับการที่มีคนโทรมา โมโหหิวอะรู้จักไหม โทรศัพท์สีดำเครื่องพอดีมือกำลังสั่นจนจะเดินไปตลาดได้อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าผู้ผลิตคิดอะไรสั่นจนแทบจะตกโต๊ะอยู่แล้ว ลู่หานกดสไลด์หน้าจอก่อนจะเปิดลำโพงเพราะผมเปียกเลยไม่ได้เอามาแนบหู
“ฮัลโหลสวัสดีค่ะ”
(โปรโมชั่นเสริมสุดพิเศษ เพียงเติมเงิน 100 บาทวันนี้ รับฟรีไปเลย เงินฟรี 1,000 ทุกเดื—“ ก่อนที่ใครไม่รู้จะพูดจบลู่หานก็ชิงตัดสายไปเสียก่อน เดี๋ยวปั๊ดโทรกลับไปด่าเลย คนยิ่งหงุดหงิดอยู่
“หิวจริง” ไม่นานลู่หานก็มาพร้อมกับถ้วยมาม่าและจานปิดมาอย่างดี ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีหญิงสาวตัวน้อยก็ซัดมาม่าหมดถ้วย แต่เพราะว่ามันยังไม่อิ่มนี่สิ ลู่หานชะโงกหน้าออกหน้าต่างไป อะ อ่าว ทำไมโง่อย่างงี้ เซเว่นเปิดอยู่ กรูจะบ้าตาย ควายลู่เอ้ย
หญิงสาวแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วเดินเข้าเซเว่นไป พนักงานต้อนรับเสียงดัง ป่าวอะ พนักงานคุยกัน ลู่หานเดินเข้าไปที่ตู้ขายอาหารแช่แข็ง เธอเลือกผัดกระเพรากุ้งมา 2 กล่อง ข้าวต้มกุ้งอีก 1 กล่อง ลู่หานกินเผ็ดไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เลยเลือกแต่อาหารที่กินได้ง่ายๆ หมอบอกว่าถ้ากินเผ็ดมากไม่ได้ เห็นเมอะเขารักสุขภาพขนาดหนัก เหล้าอะไรไม่กิน บุหรี่อะไรไม่สูบ
30%
“เจ็ดโมง” ลู่หานพูดกับตัวเองเบาๆ หญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนักศึกษาก่อนจะสำรวจของในกระเป๋า ลู่หานใส่ชุดนักศึกษา เป็นกระโปรงพลีทแบบสั้นกับเสื้อนักศึกษาธรรมดาๆ อันที่จริงไม่จำเป็นต้องไปเช้าขนาดนี้หรอกเพราะว่าคอนโดที่ลู่หานพักมันก็ใกล้ๆเอง
“เฮ้อ” เบื่อๆๆๆ โลกนี่มันไม่มีอะไรสนุกๆให้ทำเลยหรอไงเนี่ย คนนี้เซ็ง ลู่หานเดินไปเรื่อยๆจนมาสะดุดกับที่ๆหนึ่ง มันก็มหาวิทยาลัยของเธอเองแหละ แต่วันนี้มันแตกต่างออกไป มันต่างออกไปจริงๆ คนพวกนั้นมาจากไหน ผู้คนที่ใส่ชุดสีดำแล้วเดินเรียงกันมา เดินตรงมาที่เธอ ลู่หานเลี่ยงสายตาออกไปพยายามที่จะไม่มอง แต่สายตาของเธอก็พานไปสบกับผู้ชายที่กำลังเดินนำอยู่ด้านหน้า ดวงตาสีนิลที่จ้องมองมา มัยทำให้เธอใจเต้นรัว หัวใจดวงน้อยๆกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง
"แล้วพบกันใหม่ ในฐานะเพื่อนร่วมคณะ" เสียงของชายคนนั้นกระทบเข้ามาในโสตประสาทก่อนที่ชายหนุ่มจะเป่าลมเบาๆไปที่หูของลู่หาน หญิงสาวสะดุ้งก่อนจะขยับถอยห่างคนอันตราย 'เพื่อนร่วมคณะ' หญิงสาวเอียงคอด้วยความสงสัยแจ่ก็ไม่กล้สเอ่ยปากถาม ชายหนุ่มรูปงามหน้าจาดีรามกับเจ้าชายนั่นหาบไปแล้ว หายไปพร้อมกับใจของเธอ ที่ยกให้เขาไปแล้วตั้งแต่สบตา
จะว่าเธอรักใครเร็วไปหน่อยหรอ NO NO NO!! เธอหนะเรียกว่าเจอใครปุ๊บเกลียดคนนั้นปั๊บดีกว่า เธอค่อนข้างมีอคติกับคนรอบข้าง เพนาะอดีตที่ลบล้างไม่ได้ ทำให้ชีวิตของเธมันไม่มีเพื่อนไง ลู่หานนั่งเหม่ออยู่ในห้องเรียนรออาจารย์เข้าคลาสมาสอน แปลกเนอะวันนี้ทุกคนมาช้ามาเลย
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาไม่ได้ทำให้ลู่หานสงสัยหนือเอะใจอะไรเลย เพราะเธอคิดว่านั่นคงจะเป็นเพื่อยในคลาสนั่นแหละ แต่ให้พูดก็คือเธอคิดผิด
แอ๊ด
เสียงเปิดประตูเรียกความสนใจของลู่หานได้เป็นอย่างดี เธอหันไปมองก่อนจะตกใจเล็กน้อย คนที่เข้ามาไม่ใช่คนในคณะแต่เป็น
'ผู้ชายที่เจอเมื่อเช้า คนที่หัวใจของเธอหายไปกับเขา'
'แล้วพบกันใหม่ในฐานเพื่อนร่วมคณะ' จู่ๆคำพูดของเขาก็ผุดเข้ามาในหัวของเธอ นักศึกษาใหม่สินะ มหาลัยของเธอไม่ได้เคร่งครักเรื่องการแต่งกายมากนัก สามาให้นักศึกษาแจ่งชุดลำลองหรือชุดนักศึกษามาก็ได้ เว้นแต่พิธีสำคัญจะต้องใส่ชุดนักศึกษามา
"ฮึ" เสียงหัวเนาะในลำคอเบาๆนั้นลู่หานไม่ได้ยินหรอก แต่ก็รู้ว่าเขาหนะหัวเราะเพราะนอยยิ้มที่มุมปากนั่นไงหละ
"หวัดดี" ลู่หานบอกทักไปก่อนที่จะได้รับรอยยิ้มกลับมา ชายหนุ่มเดินเข้ามานั่งข้างๆลู่หานก่อนจะหันหน้าเท้าคางมาทางเธอ ลู่หานไม่กล้าที่จะสบตากับเขาเลย มันเหมือนกับว่าหากเธอหันไปมอง เํอจะต้องอดยิ้มไม่ได้แน่ๆ
"เน่~ หัยมาหน่อยไม่ได้หรอ เสี่ยว-ลู่-หาน" ลู่หานหันขวับมิงอีกคนด้วยความสงสัยอีกเช่นเคย ยังไม่ทันำด้บอกชื่อเลย นี่เขารู้ชื่อเธอได้ยังไง
"ฉันชื่อ โอ เซฮุน เรียกว่า เซย์ ก็ได้" เซฮุนยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
"เรียกเซฮุนดีกว่า"
"หืม ทำไมหละั เสี่ยวลู่"
"นี่อย่ามาเรียกว่าเสี่ยวลู่เลย เรียกลู่หานนั่นแหละ ไม่งั้นฉันเรียกนายว่า โอเซ นะ"
"จ้ะๆ ลู่หาน ฮิ" รอยยิ้มของเซฮุนมันดูน่ารัก ไม่ว่าอะไรที่เป็นเซฮุนมันก็น่ารักมากๆเลย
“นี่ เซฮุนตอนที่เซฮุนเดินเดินมา มีคนบ้างไหม”
“ไม่มีเลยนะ ทำไมหรอ” เซฮุนถาม
“เอ๋ ไหงงั้นหละ วันนี้อาจารย์ก็เข้าสายอีก” ลู่หานบ่นกับตัวเอง
“...”
“...”
“ลู่หาน” หลังจากที่ทั้งคู่เงียบไปเซฮุนก็เรียกอีกคนขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ว่า” ลู่หานตอบกลับโดยไม่คิดอะไร
“คือว่านะ เรามาเป็นเพื่อกันไหม” ลู่หานหลุดขำออกมาเมื่อคนตัวสูงพูดออกมา
“นี่เซฮุน เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่พวกเรารู้จักชื่อกันแล้วนะ” เซฮุนทำแก้มป่องน่ารัก จนลู่หานอดไม่ได้ที่จะจิ้มลงไปที่แก้มสีแดงระเรื่อนั่น
ตกเย็น
“เซฮุน” เสียงเล็กๆพูดชื่อเพื่อนใหม่ขณะเดินกลับบ้านด้วยความรู้สึกสนุก
ความคิดเห็น