ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    p e r s o n a l * s p a c e -

    ลำดับตอนที่ #87 : CHAPTER ONE -

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 56


     

    CHAPTER ONE –

     

     

                การเปิดเทอมวันแรกดูจะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับใครหลาย ๆ คน  เพราะทั่วทั้งบริเวณโรงเรียนเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย  สำหรับพวกปีสอง ปีสามต่างก็พูดคุยทักทายหรือเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่ตัวเองได้ไปพบไปเจอในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา  แต่ถ้าถามว่าใครจะตื่นเต้นที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเด็กปีหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาใหม่ทั้งหลาย  บางคนก็ต้องพยายามหาเพื่อนใหม่ให้ได้  ส่วนบางคนมีเพื่อนมาจากโรงเรียนเดิมก็จริงแต่ก็ต้องทำความรู้จักกับคนอื่น ๆ ไว้บ้าง   แต่ถึงกระนั้นเสียงของเด็กที่หนึ่งที่ยังดูเคอะ ๆ เขิน ๆ กันเองก็ยังดังสู้เสียงของพี่ปีสองปีสามไม่ได้อยู่ดี

     

                แต่สำหรับพักโบเบแล้วดูเหมือนว่าความตื่นเต้นจะบั่นทอนลงนิดหน่อย  เพราะอย่างน้อยเธอก็มีคนรู้จักเรียนอยู่ที่นี่  คนรู้จักคนนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นที่ไหนแต่เป็นพี่บยองฮอนแฟนหนุ่มของกยูริเพื่อนของเธอนั้นเอง 

     

    เธอไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าส่วนหนึ่งของการเข้าเรียนที่นี่เป็นเพราะเพื่อนของเธอ  ก็พวกเธอสองคนสนิทกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร  พอรู้ว่ากยูริจะสอบเข้าที่นี่ตามแฟนหนุ่มที่มาเรียนอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว  เธอก็ไม่รอช้าขอสอบเข้ามาเรียนที่นี่ด้วยอีกคน  แต่จะพูดว่าเพราะกยูริเพียงอย่างเดียวมันก็ไม่ถูกเสมอไปหรอก  เพราะอีกส่วนหนึ่งก็เพราะเธออยากเข้าเรียนที่นี่เองด้วยเหมือนกัน  ใคร ๆ ก็ต้องอยากเรียนที่เอสเอสไอเอสกันอยู่แล้ว  ที่นี่มีชื่อเสียงออกจะตายไป  ทั้ง ๆ ที่ค่าเทอมก็แพงแสนแพงแต่ผู้คนต่างก็เต็มใจที่จะสอบเข้าเรียนที่นี่และเธอก็เป็นหนึ่งในคนพวกนั้นแหละ  ข้อสอบก็ยากแสนยากกว่าเธอจะสอบเข้ามาได้ก็ต้องเหนื่อย อ่านหนังสืออย่างหนักเชียวหละ  แต่เพื่อโรงเรียนชั้นนำอันดับต้น ๆ ของเกาหลีแล้วโบเบสู้ตาย (><)v

     

                ไปดูห้องที่บอร์ดก่อนสิเสียงของบยองฮอนพูดเตือนสองสาวที่มัวแต่ตื่นเต้นกับสถานที่ที่ตัวเองไม่เคยได้เห็น  ก็แน่หละสิก็พวกเธอเพิ่งจะเข้ามาปีนี้ปีแรกก็ย่อมต้องไม่เคยเห็นเป็นเรื่องธรรมดา  ส่วนเขาเองน่ะหรอ เห็นจนเบื่อละ ~

     

                “เดี๋ยวพี่ไปดูให้แล้วกัน  ทั้งสองคนรออยู่ตรงนี้ก่อนนะ”  บยองฮอนรีบเสนอตัวไปดูให้ทันที  เนื่องจากว่าเขาเห็นคนมุงหน้าบอร์ดเต็มไปหมด  จะให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ สองคนแทรกเข้าไปดูเองมันก็ยังไง ๆ อยู่  เพราะฉะนั้นเขาซึ่งเป็นผู้ชายก็เลยรีบเสนอตัวไปดูให้ทันที

     

     

     

                พี่บยองฮอนนี่น่ารักเนาะ แกนี่โชคดีจังเลย”  โบเบพูดขึ้นทันที่ที่บยองฮอนคล้อยหลังไปได้ไม่นาน  ปากก็พูดชมไปตาก็มองตามแฟนของเพื่อนสาวที่พยายามแทรกเข้าไปดูบอร์ดที่ประกาศว่าใครอยู่ห้องอะไร  ดูไปแล้วก็ขำนะ  ความจริงพี่บยองฮอนก็สูงกว่าพวกเธอไม่เท่าไหร่หรอก  เขาเป็นผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าผู้ชายทั่วไปน่ะ  ถึงตัวจะเล็กแต่ความเป็นสุภาพบุรุษนี่เอาใจไปเกินร้อยเลย  (* *)b

     

                ก็เพราะแบบนี้แหละฉันถึงรักเขาไม่เปลี่ยนเลย”  กยูริพูดไปก็ยิ้มไป  ยิ่งพอนึกถึงแฟนหนุ่มก็ยิ่งยิ้มหนักเข้าไปอีก

     

                “อืมดีแล้วแหละ ฉันสิจะหาได้อย่างแกหรือเปล่าก็ไม่รู้ เฮ่อ....

     

                “เอาน่าแก แกก็น่ารักออก ฉันว่ายังไงแกก็ต้องเจอแน่นอนแหละ :)”

                “พี่มาแล้วสาว ๆ ยังไม่ทันที่โบเบจะตอบอะไร บยองฮอนก็วิ่งกลับมาหาพวกเธอเสียก่อน

     

                ทั้งสองคนได้อยู่ห้องเดียวกันด้วยนะดีใจมั๊ย?

     

                “จริงหรอพี่? เราได้อยู่ห้องเดียวกันหรอ เป็นโบเบเองที่ถามกลับอย่างดีใจพลางยิ้มให้เพื่อนที ให้แฟนเพื่อนที  วันนี้มีแต่เรื่องที่ทำให้เธอยิ้มได้สิน่า!

     

                อืม! เดี๋ยวพี่จะพาไปที่ห้องนะพูดตอบไปก็เดินนำทั้งสองคนไป  คิด ๆ แล้ววันนี้มันเป็นวันดีจริง ๆ เลยเนาะ ~   

     

               

     

                เพราะใกล้เวลาที่จะปิดประตูโรงเรียนเต็มที  นักเรียนมากมายจึงเดินเข้าโรงเรียนกันอย่างเร่งรีบ  โดยเฉพาะเด็กปีหนึ่งที่เคยได้ยินคำขนานนามว่าประธานนักเรียนโรงเรียนนี้โหดแค่ไหนในเรื่องการทำโทษนักเรียนที่มาสาย  ไม่รู้ว่าโหดจริงหรือไม่จริงแต่ที่รู้ ๆ คือไม่อยากเสี่ยงโดนทำโทษหรอก  แล้วยิ่งวันนี้เป็นวันแรกของการเปิดเรียนด้วยแล้ว ใคร ๆ ก็ไม่อยากโดนหมายหัวไว้ตั้งแต่วันแรกแน่ ๆ

     

                อีก30วิ แกไปเตรียมตัวปิดได้แล้วจุนยอง ฮิมชาน”  คิมซองกยูประธานนักเรียนตาตี่แต่ได้รับการขนานนามว่าโหดบอกเพื่อนรักประจำสภานักเรียนทั้งสองคน

     

                แกจะเล่นงานพวกมันตั้งแต่วันแรกเลยรึไงวะ”  ฮิมชานเอ่ยถามอย่างขำ ๆ  ส่วนคนที่ประธานนักเรียนตั้งใจจะเล่นงานนั้นจะเป็นใครเดี๋ยวอีกไม่นานพวกเราก็จะได้เห็นกันแน่นอน

     

                ถ้าทำได้ฉันก็ไม่พลาดแน่ว่ะ”  พูดไปก็กระหยิ่มยิ้มย่องในใจไป  พลางคิดว่าเจ้าพวกนั้นคงไม่พ้นเงื้อมือของเขาแน่ ๆ วันนี้  แอบเห็นไอ้เด็กปีสอง 2 คนในกลุ่มนั้นเดินพ่วงท้ายด้วยเด็กปีหนึ่งอีก 2 คนเข้าโรงเรียนไปตั้งนานแล้ว  จะเหลือก็แต่ไอ้ 4 คนนั่นที่ยังไม่มีวี่แววว่าพวกมันจะปรากฏตัวให้เห็น  แล้วเหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น  ยังไงพวกมันก็มาไม่ทันแน่ ๆ

     

                10  9   8 ....”  ตาตี่ ๆ จับจ้องตัวเลขบนหน้าปัดนาฬิกา  เลขวินาทีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนใกล้จะครบตามเวลาที่กำหนด  ประตูโรงเรียนก็เริ่มปิดแคบลงเรื่อย ๆ

     

                ...3... หึหึ ยังไงไอ้พวกนั้นก็มาไม่ทันแน่ ๆ

     

                “พวกแกปิดได้แล้ว เหลืออีกแค่3วิยังพวกมันก็มาไม่ทัน

     

                “2

     

                “หนะ...

     

     

     

                “มาแล้วครับคุณประธานนักเรียน”  เสียงกวน ๆ ดังขึ้นก่อนที่ซองกยูจะนับเลขหนึ่ง  พร้อมกับร่างกายของยุนดูจุน ลีกีกวัง ยางโยซอบ และลีมินฮยอกที่แทรกประตูมาได้ครึ่งตัวแล้ว  ไอ้คุณประธานนักเรียนจะได้ไม่มีข้ออ้างมากล่าวหาพวกเขาได้ เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็มาทันโรงเรียนครึ่งตัวแล้วหละวะ

     

                ถ้าว่ากันตามจริงแล้ว  พวกเขามาพร้อมกับน้องในกลุ่มอีก 4 คนที่เดินเข้าโรงเรียนไปตั้งนานแล้วหละ  แต่ก็แค่พวกเขาต้องการจะแกล้งไอ้คุณประธานให้สะใจเล่นเท่านั้นแหละ  เลยหรอเวลาจนประตูจะปิดอย่างนี้  ขอสักหน่อยเถอะเปิดเทอมวันแรก  แล้วพวกเขาก็ได้สะใจสมใจอยากเมื่อได้เห็นหน้าเหวอ ๆ ของประธานนักเรียนคู่ปรับ  ตาตี่ ๆ จนแทบปิดนั่นเบิกกว้างขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อเชียวหละ

     

                เนื่องจากว่าเขาคงหาเรื่องที่พวกนี้มาสายไม่ได้แล้ว  ตาเล็ก ๆ ของเขาเลยพยายามสอดส่ายสายตาไปทั่วร่างกายของทั้ง 4 คน เพื่อหาสิ่งผิดระเบียบในตัวของทั้ง 4  คน  แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะพลาดอีกแล้ว  เสื้อสูทสีน้ำเงินเข้มก็ถูกสวมได้อย่างถูกระเบียบแตกต่างจากเวลาธรรมดาที่อยู่โรงเรียน  เสื้อเชิ้ตข้างในก็ถูกใส่เข้าไปในกางเกงตรงตามระเบียบเป๊ะ  และดูจะเกินไปด้วยซ้ำเมื่อเขามองไปที่ยุนดูจุน  แว่นตากรอบดำถูกสวมไว้บนใบหน้า  ราวกับเด็กเรียนที่เห็นได้ทั่วไปในโรงเรียน  สงสัยมันคงคิดว่าการใส่แว่นจะทำให้มันดูฉลาดขึ้นกว่าเดิมหละมั้ง  แต่เขามองยังไงมันก็กวนอวัยวะเบื้องล่างชัด ๆ!!

     

                จิ๊! ไปได้!” ถึงแม้จะขัดใจไปสักหน่อยแต่ในเมื่อไอ้พวกนี้ทำถูกระเบียบ  เขาก็เอาเรื่องอะไรไอ้พวกนี้ไม่ได้อยู่ดี  เฮ่อ....วันนี้เขาพลาดอีกแล้วสินะ ชิ!!!

     

     

     

                โรงอาหารช่วงกลางวันสำหรับคิมจันดีแล้ว มันเป็นอะไรที่สุดจะทนจริง ๆ นะ  แต่ถึงจะไม่อยากทนแต่ให้ทำยังไงได้เพราะยังไง ๆ เธอก็ต้องทนอยู่ดี  -“-  เธอเดินคู่มากับคูจีซู  เพื่อนสาวห้องเดียวกันที่เพิ่งเจอกันวันนี้  แต่นิสัยของพวกเธอกลับเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ  คุยกันไปคุยกันมาแค่ไม่เท่าไหร่พวกเธอก็สนิทกันราวกับเป็นเพื่อนสนิทกันมาสักสิบชาติกว่า  สำหรับเธอ  จีซูเป็นผู้ฟังที่ดีมาก ๆ คนหนึ่ง ที่สามารถฟังเธอพูดไปเรื่อย ๆ ได้โดยที่ไม่มีอาการอยากจะคัดค้านหรือไม่อยากฟัง  และเพราะเป็นแบบนี้เธอถึงได้เป็นเพื่อนกับจีซูได้อย่างสนิทใจเชียวหละ

     

                แฮมเบอเกอร์ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเธอทั้งสองคนในเวลากลางวันที่คนเยอะ ๆ แบบนี้  ถ้าจะต้องให้พวกเธอไปรอต่อแถวเพื่อซื้ออาหารเหมือนคนอื่น ๆ พวกเธอคงได้รอจนไส่กิ่วแน่ ๆ  ถ้ารู้ว่าลงมาช้าแล้วคนจะเยอะขนาดนี้  พวกเธอคงไม่มัวแต่คุยกันจนลืมลงมาทานอาหารกลางวันแบบนี้หรอก  พรุ่งนี้คงต้องลงมาให้เร็วกว่านี้สินะ ~

     

                เมื่อได้ครบทั้งอาหารกลางวันและโคล่าจากตู้หยอดเหรียญอัตโนมัติแล้ว  พวกเธอก็สอดส่ายตาหาโต๊ะว่าง ๆ เพื่อนั่งทานอาหารกลางวันทันที  แต่ดูเหมือนโต๊ะจะเต็มอีกเหมือนกันนะ  สงสัยพวกเธอคงต้องไปขอนั่งแทรก ๆ กับใครบ้างแล้วหละมั้งเนี่ย เฮ่อ....ลงมาช้าก็เสียโอกาสแบบนี้ละนะ สงสัยคงได้ออกไปหาที่นั่งทานนอกโรงอาหารแน่ ๆละมั้งคราวนี้

     

                จันดี จีซู มานั่งด้วยกันมั๊ย?”  ทั้งสองหันไปตามเสียงที่เรียก  ก็เห็นคิมซึงอูเพื่อนชายที่อยู่ห้องเดียวกันนั่งอยู่ไม่ไกลจากที่พวกเธอยืนอยู่  แล้วมีหรือที่พวกเธอจะรอช้า  มองหาที่นั่งอยู่ตั้งนานจนเริ่มจะถอดใจ  แต่บทจะโชคดีก็กลับได้ที่นั่งโดยไม่ต้องหาให้เสียเวลา

     

                เพราะโต๊ะที่ซึงอูนั่งเหลือที่อยู่สองที่พอดิบพอดี  คือข้างซึงอูเองกับที่ว่างข้างชายแปลกหน้าที่ดูหล่อเหลาอีกที่หนึ่ง  เป็นจีซูที่เดินมาถึงคนแรก  เธอจึงเลือกที่จะนั่งที่ว่างข้าง ๆ ซึงอูเพราะรู้สึกสนิทใจมากกว่า  แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะทักทายชายหนุ่มอีกคนอย่างมีมารยาท

     

                เมื่อเห็นจีซูเดินไปนั่งข้าง ๆ เพื่อนชายในห้องแล้ว  จันดีจึงต้องนั่งข้าง ๆ ชายแปลกหน้าอย่างเสียไม่ได้  แต่นั่นก็ดูจะไม่ใช่เรื่องที่โชคร้ายสำหรับเธอหรอกนะ  เพราะเมื่อเขาหันมารับคำทักทายของเธอ  เมื่อเธอได้เห็นหน้าเขาแบบชัด ๆ ก็ทำเอาหัวใจเต้นผิดจังหวะไปสักเล็กน้อย  ถึงจะรู้สึกไม่สนิทใจแต่ได้นั่งข้างคนหล่อมันก็โอเคแหละเนาะ :)

     

                จันดี จีซู นี่พี่ซังอู ญาติห่าง ๆ ของฉันเอง  ตอนนี้พี่เขาเรียนอยู่ปีสามน่ะ”  พอเห็นเพื่อนสาวทั้งสองคนนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ซึงอูจึงทำตัวเป็นคนกลางที่ดีแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกันทันที

      

                    เมื่อเห็นว่าอีกคนโตกว่า  ทั้งสองคนจึงรีบก้มหัวทำความเคารพทันที  เล่นเอารุ่นพี่คนนั้นต้องโบกไม้โบกมือบอกไม่เป็นไรเป็นพัลวัน 

     

    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×