ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    p e r s o n a l * s p a c e -

    ลำดับตอนที่ #57 : DO YOU REMEMBER ME

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 57



    DO YOU

    REMEMBER ME ?




     

     WARNING 
    เรื่องนี้เป็นนิยายชาย  x ชาย ใครรับไมได้กดปิดไปเลยค่ะ
    นิยายเรื่องนี้อาจมีคำหยาบบ้างเล็กน้อย
    (บางทีก็อาจจะไม่น้อย)




     MY BANNER 
     

     












     







    thank to.
     
     



    CHARACTER
     

     

     ชีวาส  -  ชัชวินทร์    กิตติพิบูลย์
     ดิว  -  รัชชานนท์    อัศวเทวกุล
     อิง  -  อรรถพล    คุณานันท์
     เพียว  -  ภัทรดนัย    ดิเรกอนันต์

     

     



     นาย  -  ณนน    พัชรไพศาล
     เนม  -  ณัชชา    พัชรไพศาล
     นิว  -  ณิชา    พัชรไพศาล



     เลิฟ  -  ปารมี    สิริการกุล







    t a l k คาแรคเตอร์ที่เห็นส้มไม่ได้เรียงเป็นคู่นะคะ ตอนนี้อยากให้ใครคู่ใครก็ลองเดาๆกันตามสบายเลยค่ะ :)







    ทำไมตอนนี้เราถึงเป็นแฟนกันไม่ได้ล่ะฮะ?


                “เพราะเนมยังเด็กอยู่ไงครับ


                “งั้นถ้าเนมโตแล้วเราก็เป็นแฟนกันได้ใช่มั๊ยฮะ?


                “เอ่อ….”


                “พี่ชายสัญญาแล้วนะฮะว่าถ้าเนมโตขึ้นเราจะเป็นแฟนกัน :)”  แล้วเด็กน้อยก็จบประโยคด้วยการจับมือเด็กชายตัวโตตรงหน้าให้เกี่ยวก้อยกัน....




                ก็แค่คำสัญญาที่ทึกทักเอาเองตอนเด็กๆ  มันจะไปมีค่าอะไรมากพอให้เขาต้องจดจำกันเล่า
    !  >3<  ถ้ารู้ว่าโตขึ้นมาพี่ชายคนเดิมจะโหดขนาดนี้  ผมคงไม่ย้ายไปที่อื่นหรอกครับ   ฮือออออออออออ แล้วที่นี้ผมควรจะทำยังไงดีเนี่ยถึงจะได้พี่ชายที่แสนอบอุ่นคนเดิมกลับมา  รักก็รัก  กลัวก็กลัว  ใครก็ได้ช่วยไอ้เนมคนนี้ทีเถอะ  T^T











    t a l k - บทนำสั้นๆมาเบาๆก่อนนะคะ แล้วอีกไม่นานเกินรอตอนที่หนึ่งจะตามมาค่ะ J


    Chapter 001 Back home

      


     

                บรรยากาศเก่า ๆ ที่เคยได้สัมผัสแต่ครั้งยังเด็ก ๆ หวนกลับมาอีกครั้ง  นานแค่ไหนกันนะที่ผมไม่เคยได้กลับมาที่บ้านหลังนี้อีก


                ผมมองบ้านหลังสีขาว  บ้านหลังไม่เล็กไม่ใหญ่แต่ก็อบอุ่นทุกครั้งที่ได้อาศัย มือทั้งสองข้างค่อย ๆ ปล่อยชะลอมที่ถือมาด้วยจากบ้านนอกลงพื้นข้างตัวเพื่อที่จะได้ลิ้มรสสุนทรียภาพเก่า ๆ ได้อย่างเต็มที่  กร๊ากกกกกกกกกกกก นี่มันไม่ใช่บ้านทรายทองนะครับจะได้มาถือชะลงถือชะลอม  ว่าแต่ผมต้องถักเปียแบบพจมานด้วยหรือเปล่า?  พอเถอะไอ้เนมมึงพอเถอะก่อนที่มันจะเลยเถิดคิดว่าตัวเองจะเป็นพจมานจริง ๆ :p


                “เจ้นิววววววววววววววววววววววว” นี่แหละครับเนมตัวจริงเสียงจริง  ผมไม่มายืนเก็บเกี่ยวบรรยากาศนานนักหรอกครับ  ออกจะเป็นตัวทำลายบรรยากาศเสียด้วยซ้ำไป 
                จากบ้านที่บรรยากาศร่มรื่น สงบเงียบ และน่าอยู่  พอผมแหกปากตะโกนเท่านั้นแหละครับ



                แกจะตะโกนแหกปากอะไรนักหนาฮะไอ้เนม@#$%$#@%$^%$$#” หลังจากนั้นมลพิษทางเสียงของเจ้นิวพี่สาวของผมก็ตะโกนผ่านลมมาเลยทีเดียวเชียว  ไม่ว่าจะกี่ปีกี่ปีเสียงเจ้แกก็นำมาก่อนตัวทุกทีเลย


                ไม่นานหลังจากมลพิษทางเสียงผ่านพ้นไป  ตัวคนก่อมลพิษก็วิ่งออกมาจากบ้านตรงเข้ามากอดผมทันที  แบบนี้แหละครับพี่สาวผมถึงปากจะร้ายแต่ก็ใจดีนะครับ  ทำเป็นว่าผมไปงั้นแหละแต่ตัวเองก็คิดถึงผมเหมือนกันผมดูออก 
    :)


                เรากอดกันไปมาอยู่พักใหญ่อย่างคนไม่ได้เจอกันมานาน  จะว่านานมันก็นานอยู่เหมือนกันนะครับที่ผม เจ้นิว  แล้วก็เฮียนายพี่ชายของอีกคนของผมไม่ได้เจอกัน  ครั้งสุดท้ายที่พี่สองคนนี้ไปหาผมก็ผ่านมาสี่ห้าเดือนได้แล้ว  เกือบครึ่งปีเชียวนะครับที่พวกเราสามพี่น้องไม่ได้เจอกัน  เอาเป็นว่าถ้ามีเวลาว่างแล้วผมจะเล่าความเป็นมาและเหตุผลที่แยกกันอยู่ของเราสามพี่น้องให้ฟังนะครับ




                
    น้องเนมมมมมมมมมมมมมมม”  เสียงตะโกนดังลั่นเรียกชื่อผมขณะที่ผมกับพี่สาวกำลังจะเดินเข้าบ้าน  ยังไม่ทันที่ผมจะหันไปดูหน้าค่าตาของคนที่ตะโกน  ผมก็รู้สึกได้ถึงแรงกอดรัดรอบๆตัว  และคนที่กอดผมแน่นได้ขนาดนี้มีอยู่แค่คนเดียวครับ  เขาคือเฮียนายพี่ชายของผมที่ผมเพิ่งพูดถึงไปเมื่อกี้นี้เอง(ความจริงแล้วผมไม่อยากเรียกเฮียว่าเฮียหรอกครับ ผมอยากเรียกว่าพี่มากกว่า เพราะคำว่าเฮียมันดูแมนขัดหน้าตาเฮียเขาเลยครับ แต่เพราะผมโดนเฮียบังคับให้เรียกแบบนี้ ผมเลยต้องยอมเรียกตามเขาครับ)ตายยากเหมือนกันนะเนี่ยพี่ผม  เอิ่มว่าแต่ แล้วเมื่อไหร่ผมจะได้เข้าบ้านสักทีละครับเนี่ย  เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเอาเป็นว่าผมจะเล่าเรื่องของเราสามพี่น้องให้ฟังไปเลยแล้วกันนะครับ




               


                ต้องเท้าความก่อนเลยว่าตอนเด็ก ๆ ผมเคยอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ครับ  ตอนนั้นบ้านหลังนี้ก็มีพ่อ เจ้นิว เฮียนาย แล้วก็ผม เพราะพ่อกับแม่แยกทางกันไปนานแล้วครับ ส่วนเหตุผลที่แยกทางกันเพราะอะไรอันนี้ผมก็ไม่สามารถรู้ได้ครับ แต่ตอนที่พ่อแม่แยกทางกันก็ไม่ได้ทะเลาะกันนะครับ เพราะพ่อก็ยังหาพวกเราไปหาแม่ที่นครสวรรค์บ่อย ๆ   


                พอผมอายุสิบสามพ่อก็มีเหตุให้ได้ย้ายไปทำงานที่ต่างประเทศ  บ้านนี้จึงเหลือแค่เราสามคนพี่น้อง แล้วด้วยความที่ผมยังเด็กกว่าใครในบ้าน พ่อกับแม่จึงเป็นห่วงกว่าทุกคน  แม่เลยมาพาผมไปอยู่นครสวรรค์กับแม่ด้วย  ส่วนพี่ ๆ ทั้งสองคนของผมยังขอยืนกรานที่จะอยู่ที่นี่  เพราะพวกพี่เขาเริ่มโตแล้วและสังคมของเขาก็อยู่ที่นี่  แล้วอีกไม่กี่ปีพวกพี่ก็จะเข้ามหาวิทยาลัยกันแล้ว พวกพี่เขาเลยขอยืนยันที่จะอยู่กันต่อไปโดยมีทั้งพ่อและแม่ที่คอยส่งค่าใช้จ่ายมาให้ทุกเดือน ๆ ทุกเดือน


                แล้วนี่ละครับที่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราสามคนพี่น้องถึงได้อยู่กันคนละที่  ผมว่ามันไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไหร่เลย  เป็นเพราะตอนนั้นผมยังเด็กผมเลยต้องไปอยู่ที่โน่นคนเดียว  จากเราพี่น้องสามใบเถาไปอยู่โน่นผมก็กลายเป็นคนเดียวหัวเดียวกระเทียมลีบเลยครับ 
    T^T  แถมผมยังต้องทิ้งความทรงจำหลาย ๆ อย่างไปด้วย T3T  ช่วงแรก ๆ ที่ไปอยู่ทีโน่นยอมรับเลยครับว่าเหงามาก แต่ผมก็ต้องค่อย ๆ ปรับตัวไปนั่นแหละครับ  เพราะผมก็ต้องเข้าใจเหมือนกันว่าพ่อกับแม่เป็นห่วง จะมาเอาแต่ใจไม่ได้หรอกครับ


                แต่ตอนนี้ผมสิบแปดแล้วครับ โตพอที่แม่อนุญาตให้กลับมาอยู่ที่นี่ได้แล้ว ผมเลยพยายามสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่นี่ให้ได้เพื่อที่จะได้มาอยู่กับพวกพี่ ๆ อีกครั้ง  เราสามคนพร้อมที่จะกลับมาเป็นพี่น้องสามใบเถาเหมือนเดิมแล้วครับผม 
    J









                “โอ๊ยเฮีย เนมเจ็บนะ”  ผมร้องบอกเฮียเบา ๆ จนเฮียต้องรีบปล่อยผมทันทีเลยครับ พี่ชายของผมมักเป็นแบบนี้เสมอเลยครับ มักจะโอ๋ผมเกินเหตุ ไม่รู้เป็นอะไรเฮียถึงได้ทั้งหวงทั้งโอ๋ผมได้ขนาดนี้ ถ้าอารมณ์ดีก็แทบจะเรียกผมว่าน้องเนม ๆ ทุกครั้งเลยครับ  และเพราะผมรู้ว่าพี่ชายผมเป็นแบบไหนผมเลยกระแดะทำเป็นเจ็บนิด ๆ หน่อย ๆ น่ะครับ  ถ้าไม่บ่นว่าเจ็บมีหวังเฮียคงกอดผมไปอีกนานเลยครับ  วันนี้คงไม่ได้เข้าบ้านกันสักที -‘’-


                “เราจะเข้าบ้านกันได้หรือยังฮะ เนมเมื่อยแล้วนะ” แค่ผมบ่นว่าเมื่อยนิด ๆ หน่อย เฮียก็รีบกุลีกุจอแย่งกระเป๋าสะพายของผมไปทันที เอาจริง ๆ คือถ้าอุ้มผมเข้าบ้านได้เฮียแกคงอุ้มไปแล้วละครับ บางทีผมก็ว่าพี่ชายผมเว่อร์เกินไปจริง ๆ นะ  ทำไมถึงได้ชอบมาดูแลผมนัก ทั้ง ๆ ที่บางทีตัวเองเองนั่นแหละที่สมควรได้รับการดูแล อุ๊บอย่าไปบอกเฮียนะครับว่าผมพูดอะไรแบบนี้ ถ้าเฮียรู้ละเอาผมตายเลย เฮียไม่ชอบให้ตัวเองถูกปฏิบัติเหมือนผู้หญิงน่ะครับ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็สวยจนผู้หญิงอายแท้ ๆ เชียว >3<


                “ผ่านไปกี่ปี ๆ มึงก็ยังไม่เลิกห่วงน้องมึงเว่อร์นะนาย” เพราะเสียงที่ดังขึ้นข้างหลังพวกเรา  ทำให้ผมหันกลับไปมองทันที  เมื่อกี้เฮียนายรีบเข้ามากอดผมซะก่อนผมเลยไม่ได้เห็นว่ามีใครมาอีกบ้าง  และผมก็คาดว่าหลังจากที่เจอผม เฮียนายก็คงลืมเพื่อน ๆ ที่มาด้วยไปแล้วหละ -’’-



                มากันครบเลยครับเพื่อน ๆ ทั้งหลายของเฮีย  แต่ละคนนี่หล่อขึ้นกันทั้งนั้นเลยครับ  โดยเฉพาะพี่ชายคนนั้นของผม :)  ไม่รู้ว่าป่านนี้เขาจะลืมความทรงจำครั้งเก่าก่อนของเราไปหรือยัง แต่ผมว่ายิ่งโตเขาก็ยิ่งหน้ากลัวขึ้นนะครับ  โดยเฉพาะตาดุ ๆ คู่นั้นที่จ้องมองมาทางผม  เราไม่เจอกันแค่ห้าหกปีทำไมพี่ชายถึงได้ดูโหดขึ้นแบบนี้ละครับ  แล้วอย่างนี้ผมจะกล้าทวงสัญญาของเรา(?)มั๊ยล่ะเนี่ย U____________U








    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×