คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #133 : ☂ audition' tearjerker
‘PLOT NO.3
[ กรุณาเปลี่ยนสีตัวอักษรคำตอบและลบวงเล็บด้วยค่ะ :D ]
ข้อมูลผู้สมัคร
ชื่อ : ส้มค่ะ ^^
อายุ : 16 ขวบ{กล้าเนาะ}
ข้อมูลตัวละคร
ชื่อ: อิม จีฮเย {Im Jeehye
สติปัญญา}
อายุ : 19
อาชีพ : นักศึกษา
ฐานะและความสัมพันธ์ในครอบครัว : เธอมาจากครอบครัวฐาะปานกลาง ครอบครัวของเธอเปิดร้านสะดวกซื้อเล็กๆร้านหนึ่ง เธอมีพี่ชายอยู่คนหนึ่งที่เรียนจบแล้วและตอนนี้ก็เปิดร้านรับวาดรูปเล็กๆร้านหนึ่งซึ่งเธอชอบไปร้านของพี่ชายเป็นประจำเพราะมันเงียบสงบเหมาะที่จะคิดอะไรเงียบๆคนเดียวท่ามกลางเมืองที่แสนวุ่นวาย ครอบครัวของเธอนั้นค่อนข้างเป็นกันเอง ง่ายๆสบายๆ พ่อกับแม่ปล่อยให้ลูกๆมีความคิดที่อิสระ อยากจะทำอะไรก็ทำได้ ไม่บังคับกะเกณฑ์อะไร
ลักษณะนิสัย : เฮฮา ร่าเริง ชอบทำหน้านิ่งๆเวลาไม่มีอะไรทำ เธอค่อนข้างเป็นคนมองโลกในแง่ดีมักคิดว่าคนอื่นก็ดีเหมือนกับตัวเอง เธอค่อนข้างเป็นคนเข้าใจอะไรง่ายๆ มักเสียใจกับเรื่องอะไรได้ไม่นาน ยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เธอเป็นคนง่ายๆสบายๆยังไงก็ได้ ไม่ค่อยคิดมาก และเธอค่อนข้างขี้เบื่อ ไม่ค่อยเห็นความสำคัญกับสิ่งใกล้ตัวนัก เธอมักติดเพื่อนในบางที แต่บางทีเธอก็ต้องการเวลาของตัวเอง เพราะเธอค่อนข้างที่จะมีโลกส่วนตัวสูง บางทีก็ชอบนั่งขบคิดอะไรอยู่คนเดียวเงียบแล้วเวลาที่เธออยากอยู่คนเดียวนั้นเธอจะไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งเท่าไหร่ เห็นเธอใจดีๆอย่างงี้ก็เถอะ ถ้าใครเข้ามายุ่งเรื่องของเธอมากๆระวังโดนวีนใส่ไม่รู้ตัวเชียวหละ คนเฮฮาๆแบบเธอเนี่ยเวลาเธอโมโหน่ะน่ากลัวเสียยิ่งกว่าอะไรดีเชียว และเธอค่อนข้างซุ่มซ่ามในบางครั้ง เอ๋อบ้างอะไรบ้างในบางที เธอไม่ชอบคนจุ้นจ้าน จุกจิก จู้จี้ น่ารำคาญ เธอค่อนบ้างรักอิสระ ไม่ชอบการบังคับกะเกณฑ์เป็นที่สุด
อิมเมจของคุณ : จียอน T-Ara
เพิ่มเติม : เธอชอบเหม่อทุกครั้งที่เธออยู่คนเดียว บางทีเดินอยู่คนเดียวเธอก็จะเหม่อๆ เคยมีครั้งหนึ่งที่เธอเดินเหม่อตอนกำลังข้ามถนนจนเกือบโดนรถชน พอหลังจากเหตุการณ์นั้นมาคนรอบข้างเธอก็พยายามไม่ให้เธอเดินไปไหนมาไหนคนเดียวอีก ถ้าเธอจะออกไปไหนก็มักมีคนไปด้วยเสมอ
ข้อมูลคู่ของคุณ
ชื่อ: ลี กีกวัง {Lee Gikwang}
อายุ: 20
อาชีพ: นักศึกษา + พนักงานในร้านไอศกรีม
อิมเมจคู่ของคุณ : กีกวัง
คำถาม (ตอบคำถามโดยบทสนทนาหรือบรรยายก็ได้ค่ะ)
1.ทำไมคุณถึงตัดสินใจบอกเลิกแฟนผู้แสนดีของคุณ ทั้งๆที่เขาก็รักคุณมาก
; ความรักเรามันเก่าแล้ว...
ฉันกับเขาคบกันมาประมาณ 3-4 ปีได้แล้วหละ ตอนแรกๆที่คบกัน อะไรๆมันก็สวยงามไปหมด เราเหมือนแฟนกันจริงๆ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ตัวแทบจะติดกันตลอดเวลา เวลาจะทำอะไรก็จะถามอีกคนเสมอ แล้วพอมาถึงจุดๆหนึ่ง มันเหมือนจุดอิ่มตัวในความรักของเรา ทุกอย่างที่เขาทำให้มันเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำทุกวัน เขาโทรมาปลุกเช้าและกล่าวอรุณสวัสดิ์ พอสายๆก็มารับฉันไปมหาลัยฯ เที่ยงๆเขาก็จะมารับฉันไปทานข้าว ตอนเย็นเขาก็ไปส่งฉันที่ร้านของพี่จีซอกแล้วตัวเขาก็ไปทำงาน ตอนกลางคืนเขาก็โทรมาราตรีสวัสดิ์ พอมาอีกวันก็เหมือนเดิมๆที่เคยทำ สิ่งที่เขาปฎิบัติกับฉันมันเหมือนการทานข้าว ที่ต้องทำทุกวัน ตอนแรกๆฉันก็ชอบนะแบบนี้ ชอบที่เขาเอาใจใส่กัน แม้เขาจะไม่ค่อยบอกรักฉันเท่าไหร่แต่มันก็รู้สึกได้จากการกระทำที่เขาทำ แต่พอไปนานๆวัน เขาทำอะไรๆซ้ำเดิมๆมันทำให้ฉันเบื่อ สิ่งที่เขาทำมันเหมือนเป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำเป็นประจำทุกวัน ความรู้สึกของฉันมันเหมือนกับว่าฉันกับเขาตอนนี้คบกันแบบเพื่อนมากกว่าแฟน ไม่รู้สิ...ฉันรู้สึกกับเขาไม่เหมือนเมื่อก่อน
หรือว่าเป็นเพราะฟ้ากันนะที่ลิขิตให้เป็นแบบนี้ มันอาจจะถึงเวลาที่ฟ้าอยากจะให้เราหยุดความสัมพันธ์แบบที่เรียกว่าแฟนแล้วกลับมาเป็นเพื่อนกัน ก็อาจจะเป็นได้...
2.เขายังคงเป็นเพื่อนที่ดีของคุณและยังหัวเราะและยิ้มได้ แต่กลับไม่สนใจหรือคิดจะมีแฟนคนใหม่ทั้งๆที่ก็มีผู้หญิงหลายคนแอบชอบเขา คุณจะพูดหรือบอกอะไรกับเขา
;
“นี่...กีกวัง” ฉันเอ่ยขึ้นเบาๆกับคนที่เดินอยู่ข้างตัว
“หืม...มีอะไรหรอ” เขาหันมามองฉันก่อนจะตอบกลับมา
“นายจะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่”
“แบบไหน?” เขาเอ่ยถามฉันกลับด้วยใบหน้างงๆเล็กน้อย
“ก็แบบนี้ไง ที่นายทำเหมือนเดิมทำเหมือนตอนที่เรายังเป็นแฟนกัน เมื่อไหร่นายจะเปลี่ยนบ้างล่ะ นายอยู่กับฉันตลอดเวลาแบบนี้ไม่เบื่อบ้างหรือไงกัน”
“ก็...ไม่...เอ่อ...เธอเบื่อฉันแล้วหรอ” เขาเหมือนจะตอบอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ได้ตอบแต่เขากลับเปลี่ยนเป็นถามฉันกลับแทน หลังจากถามคำถามนั้นเสร็จเขาก็ก้มหน้าลงเล็กน้อยราวกับว่ากลัวคำตอบที่ฉันจะตอบไป ใบหน้าก็ซึมๆไป ไม่รู้สิ ฉันไม่ชอบให้เขาเป็นแบบนี้เลย ฉันว่าเขาเหมาะที่จะยิ้มมองกว่าจะทำหน้าเศร้าแบบนี้
“ก็เปล่า...ถามเฉยๆไม่ได้หรือไงก็แค่อยากรู้”
“จริงหรอ เธอไม่เบื่อฉันแน่นะ” ใบหน้าของเขากลับมายิ้มแทบจะในทันที ใบหน้าสดใสของเขาทำให้ฉันหลุดยิ้มออกมา นี่สินะ ใบหน้ายิ้มแย้ม สดใสแบบนี้ของเขาต่างหากที่เหมาะกับเขา
“อืม...แต่ฉันมีเรื่องจะถามอีกน่ะ” เขาหันมามองฉันอีกครั้งแต่ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่เหมือนเดิม
“ว่ามาสิ”
“นาย...ไม่คิดว่านายปิดกั้นตัวเองไปหน่อยหรอ...” คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อยหลังจากฉันถามคำถามนี้ออกไป
“ปิดกั้นตัวเอง ยังไงหรอที่เธอคิดว่าฉันปิดกั้นตัวเองน่ะ”
“ก็แบบนี้ไง...แบบที่นายเป็นแบบทุกวันนี้ ที่นายไม่ยอมมีใคร ไม่ยอมคบใคร ยังคอยไปรับไปส่งฉันทุกวัน โทรหาฉันทุกวัน ทำทุกๆอย่างเหมือนตอนที่เราเป็นแฟนกันแบบนี้ไง”
“ฉันไม่ได้ปิดกั้นตัวเองซะหน่อย แต่แค่ฉันยังไม่เจอคนถูกใจจริงๆต่างหาก ถ้าฉันจะคบน่ะนะฉันก็จะคบกับคนที่ฉันรักเท่านั้นแหละเพราะฉันไม่อยากจะมามีปัญหาวุ่นวายทีหลัง เธอก็รู้นี่” คำที่เขาย้อนกลับมาเล่นเอาฉันแทบสะอึก
“แต่...นายควรจะห่างๆฉันไว้บ้างนะ ไม่ใช่ตัวติดกับฉันแจแบบนี่น่ะเดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจผิดพอดีว่าฉันกับนายยังคบกันอยู่”
“ก็ฉันไม่ได้อยากเลิกเสียหน่อยนี่นา”
“ฮะ อะไรนะ พึมพำอะไรของนายอยู่” ฉันถามออกไปอย่างสงสัย ก็ฉันไม่ได้ยินนี่เขาเล่นพึมพำๆอะไรไม่รู้กับตัวเองแบบนี้ฉันจะได้ยินได้ไงล่ะ
“เปล่าหรอกไม่มีอะไร” เขาส่ายหัวพร้อมกับยิ้มให้ฉัน อะไรของเขาเนี่ยก็ได้ยินพูดอยู่ยังจะบอกว่าเปล่าอีก แต่เอาเถอะเปล่าก็เปล่า
“อืม เอาเถอะๆ”
“ถึงร้านพี่จีซอกแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะ เอ่อ...ส่วนเรื่องนั้นฉันจะเก็บไปคิดดูแล้วกันนะ” เขาบอกฉันอย่างรีบร้อนก่อนจะวิ่งออกไป เฮ่อ...เขาก็อย่างนี้ทุกทีอ่ะ พอฉันพูดเรื่องนี้ทีไรเขาก็จะหนีทุกทีเลย
“เฮ่อ...ก็นายเป็นแบบนี้แล้วฉันจะสบายใจได้ยังไงกันนะ เฮ่อ...”
3.วันหนึ่งคุณอารมณ์เสียเพราะเรื่องงาน ทำให้คุณพาลโมโหใส่เขาไปด้วย คุณไล่เขาให้ออกไปจากชีวิตคุณสักที แล้วเขาก็หายไปจริงๆ คุณมีความรู้สึกอย่างไร แล้วจะทำอย่างไร
;
ฉันเดินทอดน่องเอื่อยๆอยู่บนถนนหน้ามหาลัยฯ ฉันเดินคนเดียวแบบนี้มันดูอันตรายอยู่เหมือนกัน ถ้าทุกคนรู้ฉันคงโดนดุแน่ๆ แต่ก็นะ เวลานี้ฉันอยากอยู่คนเดียวนี่ อยากอยู่กับตัวเองคนเดียวเพราะวันนี้ฉันเจอเรื่องอะไรหนักๆมาเยอะแล้ว ดูเหมือนวันนี้มันจะเป็นวันซวยของฉันจริงๆ ทำอะไรก็ดูเหมือนจะผิดไปเสียหมด ไอ้ที่หนักสุดๆตอนนี้ก็เหมือนจะเป็นเรื่องโปรเจ็คงานที่ต้องส่งอาจารย์เนี่ยแหละ ทั้งๆที่ฉันก็พยายามสุดความสามารถแล้วนะทำไมอาจารย์ถึงไม่เห็นถึงความพยายามของฉันบ้างนะ พอเอางานไปส่งก็ใส่ๆๆๆฉันมาเป็นชุดๆแบบนี้น่ะ ฮึ่ย!พูดแล้วโมโหจริงๆ ทั้งๆที่เมื่อคืนฉันโหมทำงานจนเกินเช้าแท้ๆ แล้วฉันทำมันขึ้นมาเพื่ออะไรกันเนี่ย ทำขึ้นมาเพื่อโดนด่างั้นหรอ!!! ใครก็ได้บอกฉันทีสิ!!! ฟ้าก็ได้ ไหนๆก็กำหนดชีวิตฉันมาหลายอย่างแล้ว งั้นก็ตอบฉันหน่อยสิว่าทำไมมันถึงได้ซวยแบบนี้ฮะ!!!
‘ครืน ครืน’
เหอะ...ให้ตายเถอะ นี่ฉันชักจะเริ่มเบื่อฟ้าขึ้นมาแล้วนะ ถ้าเกิดฝนตกหรือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกฉันจะถือว่าวันนี้เป็นวันที่ซวยสุดๆของฉันแล้วนะเนี่ย!!!
ตอนนี้จะบอกยังไงดีล่ะ ฉันปวดหัวชะมัดเลยหละทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้นะ ฉันก็พอจะรู้ตัวนะว่าฉันเป็นไมเกรนเวลาที่เครียดมากๆ แต่ฉันก็ไม่เคยปวดมากขนาดนี้มาก่อนเลยให้ตายเถอะ!!! แถมมันยังรู้สึกมวนๆในท้องเหมือนจะอาเจียนมาเสียให้ได้ พื้นมันก็เหมือนเอียงๆยังไงก็ไม่รู้ นี่ตัวฉันเป็นอะไรกันนะ
‘วูบ’
“เฮ้ยยยยยย/กรี๊ดดดดด”
“จีฮเยยยยยยยยยยยย”
‘พลั่ก!!!’
“โอ๊ย!” โอ๊ยเจ็บหัวเข่าจังเลย นี่ฉันเป็นอะไรกันนะ... เมื่อกี้ฉันกำลังเดินข้ามถนนนี่นา
“จีฮเย เป็นไงบ้าง!!!” เสียงชายคนที่ทำให้ฉันล้มลงเอ่ยถามขึ้น ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างงๆ อ้าว...กีกวังเองหรอ ไอ้บ้านี่นี่เองที่ทำให้ฉันล้มแบบนี้น่ะ
“ฉันไม่เป็นอะไรสักหน่อย แล้วนายเป็นบ้าอะไรฮะ!!! ดึงฉันจนล้มแบบนี้ทำไมฮะ!!!” ฉันตะโกนใส่เขาอย่างโกรธๆ ก็เขาเป็นบ้าอะไรถึงได้ดึงซะแรงขนาดนี้ นี่ฉันปวดหัวแล้วยังต้องมาเจ็บเด้วยหรอเนี่ย
“ฉันสิต้องถามเธอ เธอเป็นบ้าอะไรฮะ!!! เป็นบ้าอะไรถึงได้จะเดินออกไปให้รถชนแบบนั้นน่ะฮะ!!!” เขามองหน้าฉันอย่างโกรธๆ นี่เขานึกว่าเขาโกรธเป็นคนเดียวหรือไงกัน ฉันก็เริ่มโกรธแล้วนะ
“แล้วนายมีสิทธิ์อะไรมาตะคอกฉันฮะ!!!” ฉันตะคอกกลับอย่างลืมตัว มันมักจะเป็นแบบนี้เสมอเวลาที่ฉันโกรธ
“ก็ฉันเป็นห่วงเธอมันไม่ได้หรือไงฮะ!!!” เขาก็ยังคงตะคอกกลับอย่างไม่ยอม เอาสิ ในเมื่อเขาไม่ยอมแล้วเรื่องอะไรฉันจะต้องไปยอมเขาด้วยล่ะ ไหนๆวันนี้มันก็ซวยแล้ว งั้นฉันก็ขอซวยให้ถึงที่สุดเลยแล้วกัน!!
“แล้วนายใช้สิทธิ์อะไรในการมาห่วงฉันหรอ หึ...เพื่อน คนรู้จัก หรือว่าคนรักเก่าล่ะ ถ้านายไม่ได้คิดกับฉันแบบสามอย่างที่ฉันพูดออกไปนี้ นายก็เลิกยุ่งแล้วก็ออกไปจากชีวิตฉันได้แล้ว อย่า มา ยุ่ง กับ ฉัน -อีก” ใบหน้าของเขาหมองลงอย่างเห็นได้ชัด นี่...ฉันพูดอะไรเกินไปหรือเปล่านะ...
“อืม...ฉันรู้แล้วหละว่าฉันไม่มีสิทธิ์ งั้นฉันก็ขอโทษเธอด้วยแล้วกันที่ยุ่งกับเธอมากเกินไป ฉันก็แค่เป็นห่วงเธอมากเท่านั้นเองแต่ถ้าสิ่งที่ฉันทำไปมันทำให้เธอรำคาญฉันก็ขอโทษเธอด้วยแล้วกัน”
“
”
“เอ่อ...วันนี้...เธอกลับบ้านเองได้ใช่มั๊ย เดินกลับบ้านระวังๆด้วยนะเดี๋ยวจะโดนรถชนเอา ฉันรู้ว่าวันนี้เธอเหนื่อยแล้วก็ท้อจากเรื่องงานฉันมันก็ผิดเองแหละที่ไปตะคอกใส่เธอ ฉะ..ฉัน ขอ ทะ..โทดด้วยแล้วกัน ฉันปะ..ไปหละ” เขารีบวิ่งออกไปจากตรงนี้ทันที โดยปล่อยให้ฉันมองตามหลังเขาไปอย่างอึ้งๆ ถ้าเมื่อกี้ฉันไม่ได้เข้าใจผิดไป เขาคงจะไม่ได้ร้องไห้หรอกนะ...
นี่ฉันไม่ได้พูดอะไรแรงไปใช่มั๊ย...
วันนี้เขาก็แค่เสียใจนิดหน่อย พรุ่งนี้เขาก็คงโทรมาปลุกฉันตอนเช้าเหมือนทุกวันหละมั้ง...
4.คุณเพิ่งรู้ตัวว่าคุณขาดเขาไปจากชีวิตไม่ได้ และฟ้าก็ไม่ได้เป็นคนลิขิตทุกอย่าง หัวใจของคุณเองต่างหากที่เป็นคนลิขิต คุณคิดว่าคุณควรจะบอกเขายังไงดีเพื่อให้กลับมาคบกันเหมือนเดิม
;
หลังจากเหตุการณ์วันนั้น เขาก็ไม่เคยมาหาฉันอีกเลย ทั้งๆที่ฉันคิดเสมอว่าสิ่งที่เขาทำมันเป็นหน้าที่ แต่ทำไมกันนะ... พอถึงวันนี้ฉันกลับรู้สึกเหมือนว่าขาดอะไรไปสักอย่างแบบนี้...
ไม่มีเขาที่เคยโทรมาปลุกตอนเช้า ไม่มีคนที่พาไปมหาลัยฯ พาไปทานข้าวกลางวัน ไม่มีคนพาไปส่งที่ร้าน แล้วพอตอนกลางคืนก็มีเสียงพูดราตรีสวัสดิ์เหมือนเคย มันเหมือนขาดอะไรบางอย่างไปยังไงก็ไม่รู้สิ...
นั่นสินะ ทั้งๆที่ฉันเคยคิดว่าสิ่งที่เขาทำมันก็เหมือนกับการกินข้าวที่ต้องทำทุกวัน แต่ทำไมฉันไม่เคยคิดนะว่าฉันไม่เคยอิ่มเลยกับสิ่งที่เขาทำให้ ถ้ามันเหมือนกับการกินข้าวจริงๆฉันก็ต้องอิ่มสิ แต่นี่สิ่งที่ทำฉันไม่เคยอิ่มเลย เฮ่อ...ฉันมาคิดได้ตอนนี้ก็ไม่รู้จะทันหรือเปล่านะ
แล้วหลังจากวันนั้นก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันเปลี่ยนความคิด นั่นก็คือเรื่องฟ้า ฉันไม่เชี่ออีกแล้วว่าฟ้าเป็นตัวกำหนดชีวิตฉัน กำหนดให้ฉันกับเขารักกัน แล้วก็เลิกกัน ความคิดแบบนั้นมันไม่มีอีกแล้ว ฉันรู้แล้วหละ ถ้าฉันอยากจะรักเขาก็เพราะฉันรักเองไม่ใช่ฟ้ากำหนดให้ฉันกับเขารักกัน คอยดูสิ ฉันจะต้องหาเขาให้พบให้ได้เลยคอยดู! ต่อให้ฟ้าไม่อยากให้เรารักกันแล้วก็ตาม แต่ใครสนฟ้ากัน สิ่งที่ฉันสนตอนนี้ก็คือใจของฉันกับเขาต่างหาก ทุกครั้งฉันทำอะไรตามฟ้ากำหนดมาตลอด แต่ครั้งนี้แหละ!! ฉันจะเป็นคนกำหนดความรักของฉันเอง ฉันจะยอมขัดคำสั่งฟ้า ฉันจะต้องกลับไปคบกับเขาให้ได้!!!
อืม...พูดไปก็ตั้งนาน แล้วฉันจะเริ่มตามเขาจากที่ไหนดีล่ะเนี่ย-*- เฮ่อ...เอามันทุกที่เลยแล้วกัน เป็นไงเป็นกันวะจีฮเย!!!
‘แฮกๆๆๆๆๆ’
ลิ้นห้อยแล้วฉัน เหนื่อยจนสายตัวแทบขาด นี่เขาไปอยู่ที่ไหนกันนะ ฉันไล่ตามหาตั้งแต่บ้านเขา ไปมหาลัยฯก็ยังไม่เจอ แล้วสองที่มันไม่ได้ใกล้กันเลยนะ ห่างกันเป็นกิโลฯฉันวิ่งไปเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว{แล้วทำไมมันไม่นั่งรถไปวะ นางเอกมันโง่หรือโง่กันแน่เนี่ย-*-} แต่เอาเถอะ เพื่อกีกวัง!!! มันยังมีที่ไหนอีกนะ อ๋อ! ใช่สิมันยังมีอีกที่หนึ่งนี่หน่า
‘กริ๊ง กริ๊ง’
เสียงกระดิ่งดังขึ้นเบาๆยามที่ฉันเอื้อมไปดันประตูร้าน
‘Sweet Dream’ ที่นี่แหละต้องเจอเขาแน่ๆ ก็เขาทำงานอยู่ที่นี่นี่นา... อ๊ะ! ฉันเจอแล้ว นั่นไงคนนั้นไงที่กำลังยืนยิ้มรับออเดอร์จากลูกค้าสาว ชิส์! หมั่นไส้ชะมัด ยิ้มอยู่ได้คิดว่ายิ้มแล้วตัวเองดูดีหรือไง{ก็ดูดีน่ะสิ!!!} ยิ้มเกลื่อนกลาดเรี่ยลาดแบบนี้ฉันก็หึงเป็นเหมือนกันนะ!!! แล้วฉันจะเจอเขายังไงดีเนี่ย!!!
“รับอะไรดีครับ” ฉันเงยหน้าตามเสียงที่ถาม อืม
ฉันรู้แล้วหละว่าฉันจะเจอเขายังไง
“พี่คะ...พี่ช่วยเรียกกีกวังมาหาฉันหน่อยได้มั๊ยคะ” ฉันเอ่ยด้วยความเกรงใจเล็กน้อย
“เอ่อ...ก็ได้ครับ เดี๋ยวพี่เรียกมันให้” พอพูดเสร็จพี่เขาก็เดินออกไปทันที เฮ่อ...แล้วถ้าฉันเจอหน้าเขาแล้วฉันจะพูดอะไรก่อนดีนะ ไม่ได้เตรียมตัวมาด้วยสิ เอาไงดีล่ะเนี่ย-3-
“มีอะไรหรอครับถึงเรียกผมมา อ๊ะ! จีฮเย” เขาถามก่อนจะร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นฉัน
“เอ่อ...นาย...นั่งก่อนได้มั๊ยอ่ะ...” ฉันถามขึ้นเบาๆเมื่อเห็นสายตาดุๆที่เขามองมา มันน่ากลัวนะ คนใจดีๆแบบเขาเวลาโกรธหรือเอาจริงขึ้นมามันก็น่ากลัวใช่ย่อยอยู่เหมือนกันนะ
“เธอจะเล่นอะไรกันแน่” น้ำเสียงนิ่งๆที่ตอบกลับมาของเขาเล่นเอาฉันใจเสียไปเลย
“ปะ...เปล่าเล่นนะ นั่งก่อนแปปนึงได้มั๊ย ฉันขอร้อง”
“
” เขาไม่พูดอะไรแต่ก็ยอมนั่งลงเสียแต่โดยดี แต่สายตาของเขาก็ยังคงจ้องฉันอย่างดุๆอยู่ดี ให้ตายเถอะ...นี่ฉันกลัวจริงๆนะสายตาแบบนี้ของเขาน่ะT^T
“เอ่อ...เรากลับมา...กลับมา...”
“กลับมาอะไร!”
“ฮื่อ...อย่าดุสิ”
“...”
“เรา..กลับมาคะ..คบกันได้ไหม!” ฉันรีบพูดออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับก้มหน้ารอคำตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ
“เหตุผล”
“หะ...ฮะ อะไรนะ” ฉันเงยหน้ามองเขางงๆ
“ฉันถามว่าเหตุผลล่ะ เหตุผลที่ฉันต้องกลับไปคบกับเธอน่ะ”
“เอ่อ...เรื่องนั้นมัน...ฉะ...ฉันแค่ลองไปคิดทบทวนดูแล้วมันเอ่อ...เวลาที่ไม่มีนายมันดูเหมือนขาดๆอะไรไปสักอย่าง ฉันเหงาเวลาที่ไม่มีนาย...”
“แค่นี้หรอเหตุผลน่ะ”
“ปะ...เปล่า ฉันกะ...ก็แค่ ฉันเอ่อ...เพิ่งรู้ตัวว่า...ฉันไม่เคยหยุดรักนายเลย...” โอ๊ย ฉันอยากจะร้องไห้ ทั้งชีวิตเกิดมาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาทำอะไรแบบนี้เลยนะเนี่ย ฮือT^T
“งั้น คำตอบของฉันก็คือ....ไม่!” ฉันเงยหน้ามองเขาอย่างอึ้งๆก่อนจะก้มหน้าลงอย่างยอมรับ ฉันคงทำกับเขาไว้มากสินะ...
“อะ...อืม...งะ...งั้น ฉันไปก่อนนะ” ฉันเตรียมตัวลุกออกไปทันที
“เดี๋ยวสิ” เขาฉุดข้อมือไม่ให้ฉันลุกไปไหน
“...” ฉันไม่ได้พูดอะไรแต่มองเขาอย่างงงๆ นี่เขาจะเอายังไงกันแน่นะ
“เธอกับมาคบกับฉันนะ” เขาพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนเหมือนกับกีกวังคนเดิม
“ฮะ! มันหมายความว่ายังไง”
“ก็...เธอกลับมาคบกับฉันนะ ฉันกำลังขอร้องเธออยู่นะเนี่ย เป็นต่างหากเป็นคนเลิกกับฉัน ฉันไม่เคยเลิกกับเธอสักหน่อย แล้วเราจะกลับมาคบกันได้ยังไงล่ะ” คำตอบที่เขาเฉลยทำให้ฉันยิ้มออกมาอย่างดีใจ
“อืม...งั้นฉันจะกลับไปคบกับนาย โอเคนะ” ฉันพูดออกไปอย่างดีใจ
“ไม่โอเคได้ไงล่ะ ก็รักจะตายอยู่แล้วคนนี้อ่ะ” เขาเอามือขยี้หัวฉันอย่างหมั่นเขี้ยว ถ้าเป็นแต่ก่อนฉันคงโวยวายไปแล้วหละแบบนี้น่ะเพราะฉํนไม่ชอบให้ใครมาจับหัวฉันเท่าไหร่นัก แต่ก็เอาเถอะ คนกันเองนี่เนาะ ไหนๆฉันก็จะเริ่มรักครั้งใหม่กับใครคนเดิมแล้ว แค่เปลี่ยนตัวเองให้ชอบแค่นี้จะเป็นไรไปเนาะ เฮ่อ...มาถึงตอนนี้ฉันก็เพิ่งได้รู้นี่แหละว่า รักของเรามันไม่เก่าเลย...
ความคิดเห็น