ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 3 :: Color Of Warm
CHAPTER 3 :: Color Of Warm
กันต์พิมุกต์รู้สึกปวดเนื้อปวดตัวไปหมด เหมือนพึ่งโดนแม่บังคับให้ออกไปวิ่งที่สวนประจำหมู่บ้าน ผ่านมาแล้วหนึ่งอาทิตย์เต็มกับการซ้อมแชร์บอลทุก ๆ เย็น จะดีกว่านี้ถ้าเขาได้หยุดวันสุดสัปดาห์แบบคนอื่นเขา แต่ไม่ ไม่เลย ไม่ได้หยุด
‘เรียนโอเน็ตเสร็จแล้วลงไปซ้อมแชร์บอลด้วยนะ’
กันต์พิมุกต์มองตามหลังคนที่ชอบอย่างคนใกล้ตาย หลังจากที่พี่แจ็คสันทิ้งประโยคเด็ดไว้ให้เขาได้กลุ้มใจเล่น แล้วเดินหนีหายเข้าไปในกลีบเมฆ
โรงเรียนของเขาเปิดสอนวันเสาร์ และบังคับเด็กประถมปลายปีหก กับมัธยมต้นปีสามมาเรียน เพราะต้องสอบวัดความรู้ระดับชาติ โดยที่โรงเรียนก็ไม่ได้ให้เรียนฟรีแต่อย่างใด
และเพราะต้องมาเรียนเสริมนั้นทำให้เขาต้องเหนื่อยเพิ่มมาอีกหนึ่งวัน เรียนอย่างเดียวไม่ว่า ยังต้องซ้อมแชร์บอลอีก และมันก็โคตรเหนื่อยสำหรับเขาเลยล่ะ ให้ตาย
แต่ที่ดีอย่างหนึ่งคือกันต์พิมุกต์ได้เป็นตัวสำรอง พี่วาโยบอกว่าอยากให้เขาเป็นตัวปัด เหตุเพราะสูง แต่เหมือนพี่วาโยจะคิดผิด เขาไม่สามารถปัดลูกไม่ให้ลงตะกร้าได้เลยแม้แต่น้อย เขามันห่วยแตกมาก !!
แต่พี่แจ็คสันก็ยังพูดกับเขาว่า...
‘ตั้งใจนะแบม อีกตั้งหลายวัน พอถึงวันจริง ยังไงก็ทำได้ สู้ ๆ’
และมันได้ผล เขามีกำลังใจและหึกเหิมในการซ้อมมากขึ้น อย่างน้อยก็ทำให้วัน ๆ หนึ่งในการซ้อมแชร์บอลไม่ทำให้เขาตายคาโรงยิม
“แบม กูไปก่อนนะ พี่เฟ่ยนัดซ้อมฟุตบอลที่สนามบอลนอกโรงเรียน มึงควรตั้งใจซ้อมแชร์บอล ไม่ได้เหรียญทองนี่มึงตายแน่ !” ยูคยอมใช้นิ้วชี้ทำท่าปาดคอประกอบให้เขาขวัญผวาเล่น ก่อนจะตบบ่าแล้วเดินออกจากห้องเรียนไป
“จริงจังเกินไปป่าววะ ! ถ้าแพ้มันก็คงไม่ใช่เพราะกูหรอกป่ะ ! กูเป็นตัวสำรอง !” เขาตะโกนไล่หลังไอ้เพื่อนมหายักษ์ ซึ่งก็มันคงไม่ได้ยิน
“เป็นตัวสำรองก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ได้ลงสนามแข่งสักหน่อย”
ถ้าเขาไม่ได้ชอบพี่แจ๊คสัน ป่านนี้เขาคงคิดไปแล้วว่าไอ้คนนามสกุลหวังมันเป็นผีบ้า คนอะไรโผล่มาได้แทบจะทุกเวลา กะนต์พิมุกต์ทำหน้าหมดหวังพลางเก็บของใส่กระเป๋าในเวลาที่เพื่อนในห้องกลับบ้านกันไปหมดแล้วก่อนจะตัดพ้อชีวิตตัวเองใส่คนตัวสูงกว่า “ตัวจริงเก่งกว่าแบมอีก เชื่อเถอะ ยังไงแบมก็ไม่ได้ลง ลงไปแบมก็ทำสีแพ้พอดี”
หวังแจ๊คสันยืนพอยท์เท้าเอนพิงหัวกับวงกบประตู “เล่นเอาสนุก ๆ สิ ถือว่าชัยชนะมันคือกำไร”
“แต่คนอื่นอาจจะไม่ได้คิดแบบพี่สักหน่อย”
คนตัวสูงนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แล้วยิ้มขำกับความคิดของรุ่นน้องคนนี้
“ไม่อยากได้เหรียญทองเหรอ ถ้าอยากได้ก็ตั้งใจสิ”
“แบมไม่อยากได้เหรียญทองเลยสักนิด”
“งั้นทำเพื่อพี่ได้ไหม พี่อยากได้เหรียญทอง”
กันต์พิมุกไม่คิดเลยว่าแค่ประโยคขอร้องที่ออกมาจากปากของคนที่เขาชอบ มาพร้อมกับสายตาไหววูบเหมือนเด็กน้อยขี้อ้อนจะมีค่าทำลายล้างได้สูงถึงเพียงนี้
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ ทำได้เพียงแค่พยักหน้า เพราะตอนนี้ค่า HP ของเขาใกล้จะหมดเต็มที คนตัวสูงกลั้วหัวเราะ และชี้นิ้วออกไปนอกหน้าต่าง “พี่ลงไปรอข้างล่างละกัน ขึ้นมาตามเฉย ๆ กลัวแบมโดดไม่ไปซ้อม” รุ่นพี่ตัวสูงว่าพลางก้างถอยหลังไปทีละก้าวก่อนเสียงเล็ก ๆ จะเอ่ยตามหลังมา
“แบมโดดแน่ ถ้าพี่ไม่มาตามซะก่อน”
คนตัวสูงผินหน้ามาพร้อมเดินออกห่างไปเรื่อย ๆ “แบมไม่กล้าหรอก เชื่อพี่สิ !”
ไอ้ผีบ้านามสกุลหวังมันจะมาคิดแทนเขาได้ยังไง แต่ช่างเถอะ ยังไงพี่เขาก็พูดถูก
*
ในวันเสาร์ โรงอาหารแปลกไปจากเดิม จนเสี่ยวลู่หานไม่ชินตา เพราะเด็กสีฟ้าได้มายึดครอง โดยการจัดโต๊ะใหม่ ให้มีพื้นที่กว้างกว่าเดิม เพื่อให้ง่ายต่อการทำงานและเก็บกวาด หากสีเลอะเทอะไปบนพื้นกระเบื้อง
หลังจากที่กลับมาโรงเรียนเมื่อเย็นวานเขาก็ได้รู้ว่าข้ออ้างที่จะไม่ให้เขาโดดสีของรุ่นพี่โอคืออะไร
'ช่วยพี่ออกแบบธีมให้สีฟ้าหน่อยได้ไหม ทั้งแสตน แล้วก็... เต็นท์เชียร์’
ซึ่งเขาก็ได้ตกปากรับคำว่าจะช่วยไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกที เมื่อวานนี้เขาก็อยู่ช่วยงานจนฟ้าเกือบมืด
คนนามสกุลเสี่ยวกวาดสายตามองไปรอบบริเวณในโรงอาหาร หวังจะหาตัวพี่ประธานสีตัวสูง แต่กลับไม่เจอ ก่อนจะต้องเอี่ยวหน้ามาด้านหลัง เพราะเสียงทักที่เขาก็รู้ดีว่าคือเสียงของคนที่ตนกำลังมองหา “มาแล้วเหรอ ตรงเวลาดีจัง” โอเซฮุนมองหน้าปัดนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้เขา
ตาทั้งสองข้างหยีปิดเป็นสระอิ ริมฝีอิ่มดูสุขภาพดี มาพร้อมกับเรือนผมสีดำที่ขลับสีผิวขาวนวลดั่งคนไม่เคยถูกแดด กำลังทำให้เสี่ยวลู่หานใจเต้นแรง คนนามสกุลเสี่ยวทำเพียงกระพริบตาปริบ ๆ อยู่ชั่วเวลาหนึ่ง ก่อนจะตั้งสติแล้วรีบพยักหน้ารับ
คนตัวสูงยิ้มขำ ก่อนจะเดินผ่านเขาไปในที่เดิมเดียวกันกับเมื่อเย็นวานที่เขานั่งออกแบบธีมของสีฟ้าลงในสมุด โดยมีรุ่นพี่โอนั่งออกความเห็นอยู่ข้าง ๆ คนตัวเล็กกว่าสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะปล่อยลมออกทางปากแล้วเดินตามพี่ประธานสีตัวสูงไปติด ๆ
คนนามสกุลโอนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ในที่เดิมและแบบเดียวกันกับเมื่อวาน ก่อนจะเท้าคางมองเสี่ยวลู่หาน ที่หยิบสมุดเล่มหนากับกระเป๋อดินสอออกมาวางบนโต๊ะทีละอย่าง รุ่นพี่โอเปิดสมุดเล่มนั้นออกทีละหน้า เพื่อดูว่ารุ่นน้องคนนี้ละเลงความคิดสร้างสรรค์อะไรลงไปบ้าง
“อันนี้คืออะไรอะลู่”
19 %
อย่าปล่อยให้เกี๊ยวน้ำเย็นแล้วค่อยกิน....
? cactus
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น