ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    What color do mean | HUNHAN JACKBAM

    ลำดับตอนที่ #2 : CHAPTER 2 :: Color Of Hottest Guy

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 60


     CHAPTER 2  ::  Color Of Hottest Guy

     

     

     

    "มีใครเห็นน้องลู่หานม.3บ้างไหม"

     

     

    "ไม่เห็นเลยพี่ เหมือนจะไม่ได้มาโรงเรียน"

     

     

    "สี่วันแล้วนะ ป่วยเป็นอะไรหรือเปล่า"

     

     

    "หรือว่าจะโดดสีอ่ะพี่ ผมไม่รู้"

     

     

            คนตัวสูงที่ได้ตำแหน่งว่าเป็นประธานสีขมวดคิ้วมุ่นกับการหายตัวไปของรุ่นน้องคนหนึ่ง ที่เขาต้องการตัวมากที่สุดในตอนนี้

     

            โอเซฮุนรู้ดีว่างานกีฬาสีน่าเบื่อแค่ไหน แต่การโดดสีมันไม่ใช่สไตล์ของคนที่เป็นประธานสีแบบเขา เขาว่าบางทีคนเรามันก็ควรมีน้ำใจมาช่วยเหลือกันบ้าง คิดแล้วก็เหนื่อยเหลือเกิน บางทีการเป็นรุ่นพี่มัธยมปลายปีหกที่ต้องทำทุกอย่างในโรงเรียนมันก็หนักเกินความสามารถของเขา

            เขาไม่รู้ว่ารุ่นน้องที่ชื่อว่าเสี่ยวลู่หานนั้นไปอยู่ที่แห่งหนตำบลใด อยากจะเช็กสถิตินักเรียนที่มาเรียนกับอาจารย์ในห้องวิชาการให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าไม่ติดว่าเขายังพอเป็นคนที่มีน้ำใจต่อผู้อื่นอยู่บ้าง ถ้าหากว่าเขาเดินโง่ ๆ ไปห้องวิชาการ แล้วบอกอาจารย์ว่า

     

     

    'อาจาร์ยครับ ผมขอเช็กสถิตินักเรียนที่มาเรียนหน่อยได้ไหมครับ ผมสงสัยว่าน้องในสีจะโดดไปทำอย่างอื่นนอกโรงเรียน'

     

     

            ข้อที่หนึ่ง. น้องจะโดนลงโทษ ต่อว่า และโดนตัดคะแนนจิตพิสัย ซึ่งเขารับไม่ได้ที่จะมีรุ่นน้องโดนหักคะแนนเพราะเขา ถึงแม้ตัวน้องเองจะผิด

            ข้อที่สอง. พ่อแม่น้องจะรู้สึกยังไง ถ้ารู้ว่าส่งลูกมาเรียน แต่ลูกกลับออกไปตระเวนเล่นนอกลู่นอกทาง

            ข้อที่สาม. เขาจะโดนอาจารย์หักคะแนนกิจกรรม เพราะไม่สามารถดูแลรุ่นน้องในสีตัวเองได้

     

            วันแรกที่หาตัวน้องไม่เจอเขาคิดว่า น้องอาจจะติดธุระแล้วลาโรงเรียน หรืออาจจะไม่สบาย เขาจึงไม่คิดจะเอะใจว่าเสี่ยวลู่หานนั้นโดดสีแล้วออกไปข้างนอกวันที่สองเขาก็ยังคิดแบบวันแรก คนป่วยต้องการพักผ่อน หรือน้องอาจจะไปต่างจังหวัด

             แต่พอเข้าวันที่สี่เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าน้องคนนั้นป่วยหรือโดดสีกันแน่ เท่าที่ประธานสีฟ้าควบกับประธานนักเรียนอย่างเขารู้คือ ทางโรงเรียนให้ลาไม่เกินสองวันในหนึ่งอาทิตย์ หากป่วยนานกว่านั้นต้องเอาใบรับรองแพทย์มายื่น ถ้าว่าจะไปต่างจังหวัดแบบเร่งด่วนจริง ๆ จะต้องมาแจ้งไว้

     

     

            ซึ่งข้อสงสัยนี้ก็ยังไม่ถูกคลี่คลาย เหตุจากเขาไม่อยากเดินเข้าไปถามในห้องวิชาการ เพราะอะไรก็ขอย้อนกลับไปสามข้อข้างบนละกัน

     

     

             ถ้าหากน้องเสี่ยวลู่โดดสีจริง เขาก็รู้อีกว่าไม่ได้มีแค่ลู่หานคนเดียวที่โดดสี และเขาไม่อยากให้น้องพวกนั้นมีปัญหา อย่างไรก็ตาม น้องพวกนั้นก็ยังไม่ได้ทำความผิดร้ายแรงอะไร โอเซฮุนไม่ควรเอาบรรทัดฐานของคนในสีที่ทำอยู่ไปเปรียบเทียบกับรุ่นน้องพวกนั้น เขาคิดว่าผู้ใหญ่ที่จะโตเป็นคนที่ดีและเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมไม่ควรทำอะไรแบบนั้น

     

     

    "บางทีผมว่าน้องน่าจะอยู่ร้านเกมส์แบบเด็กผู้ชายทั่วไป ไปตามไหมพี่ เดี๋ยวผมขี่มอไซต์ให้" ไคว่าพลางชูกุญแจรถจักรยานยนต์ในระดับสายตาของเขา

     

    "ไปสิ ฝากสีไว้กับก๋อมแก๋มก่อนละกัน ชานยอล ! ฝากบอกก๋อมแก๋มด้วยนะ"

     

     

            ปาร์คชานยอลพยักหน้าเป็นเชิงว่ารับรู้คำสั่งแล้ว หากแต่สายตายังคงเหม่อลอยไปไกล แต่เขาไม่อยากจะย้ำอะไรเพื่อนบ่อยนัก เขาคิดว่ามันเป็นการไม่ไว้วางใจ ซึ่งโอเซฮุนก็รู้ดี ว่าชานยอลนั้นไม่ได้เป็นคนที่ตกปากรับคำแล้วไม่ทำ กลับกันเพื่อนคนนี้เป็นคนที่จะทำตามคำสั่งในทันที โอเค และครั้งนี้ เขารู้ว่าชานยอลจะทำ แต่คงอีกสักพักใหญ่ ๆ 

     

     

     

     

     

     

                                                       *

     

     

     

     

     

            เขามาถึงร้านเกมเมื่อประมาณสิบนาทีที่แล้ว เขาเจอน้องในสีอยู่แปดคน แต่หนึ่งในนั้นไม่มีเสี่ยวลู่หาน ซึ่งเขาก็บอกให้ไอ้พวกนั้นกลับเข้าโรงเรียนไปเข้าสี พร้อมมอบงานคุมแสตนให้

     

     

           เขาว่าพวกที่โดดออกคงมีไม่กี่ประเภทนัก

     

     

            ประเภทที่หนึ่ง. ขี้เกียจตัวเป็นขน

            ประเภทที่สอง. คิดว่าตัวเองไร้ค่า

            ประเภทที่สาม. ไอ้พวกไม่ดีที่เอาเวลาไปทำอะไรเสีย ๆ หาย ๆ

     

     

            เท่าที่เช็คชื่อรุ่นน้องในสีมา มีคนไม่มาอยู่ยี่สิบกว่าคน ตอนนี้คงไม่มาจริง ๆ แค่ 12 คนแล้ว ไอ้สิบสองคนที่เหลือนี่ เขาก็ไม่รู้อีกว่าใครไม่มาเรียนหรือใครโดดสีกันแน่

          

     โอเซฮุนยังยืนอยู่หน้าร้านเกมกับไค รุ่นน้องม.4 ที่ช่วยงานในสีได้หลายอย่าง นับว่าเป็นรุ่นน้องที่ดีเลยทีเดียว  คนตัวสูงยืนใช้ความคิดว่าจะไปตามหาเสี่ยวลู่หานได้ในวันนี้ที่ไหน

     

            ก็จริงอยู่ที่ปีนี้อาจารย์ให้เวลาหนึ่งเดือนเต็มในการจัดเตรียมในแต่ละสี รุ่นน้องที่ช่วยงานก็ยังมีอีกเยอะ แต่เขาสนใจลู่หานมากที่สุดน่ะสิ เขาก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมน้องคนนั้นถึงออกแบบสวย แถมยังวาดรูปเก่งขนาดนั้น เขารู้แค่ว่าน้องคนนั้นน่ะมีพรสวรรค์ด้านนี้

            เหตุจากเสี่ยวลู่หานเคยทำสมุดหล่นไว้ที่ห้องแลปรวม ชื่อที่เขียนไว้ก็บ่งบอกได้ดีว่านั่นคือของเด็กชายนามสกุลเสี่ยว มัธยมต้นปีที่สามห้องสอง 

            สมุดเล่มนั้นมีความหนาพอสมควร มีหน้าว่างเหลืออีกเพียงไม่กี่หน้า เป็นสมุดไร้เส้น ร้อยห้าสิบแกรมตามที่มันบอกไว้ที่สติ๊กเกอร์แท๊คด้านหลัง ในเล่มมีการออกแบบทั้งตึกและอาคารในรูปแบบต่าง ๆ การลงสีก็ใช่ย่อย  และเขาคิดว่ามันคงสำคัญกับรุ่นน้องคนนั้นมาก จึงเอาไปคืนที่ห้อง และไม่ได้คิดว่าจะได้มาเรียกใช้น้องจริง ๆ ในวันนี้

     

     

    "เอาไงพี่ ลองไปตามที่บ้านดูไหม ผมรู้บ้านน้องนะ เคยพาน้องสาวไปทำงาน"

     

    "ทำไมพึ่งมาบอกเอาตอนนี้ พากูไปเดี๋ยวนี้เลยมึง ! "

     

     

            อย่างน้อยก็ยังพอมีหนทางในการหาตัวเสี่ยวลู่หานแล้วละกัน

     

     

     

     

     

     

                                                       *

     

     

     

     

     

    "ลู่หาน ! อยู่บ้านไหม เปิดประตูให้พี่หน่อย !"

     

     

           คนตัวสูงดูจะชั่งใจนิดหน่อย ก่อนจะตะโกนเรียกเข้าไปในบ้านสองชั้น เพราะกริ๊งหน้าบ้านน้องเสีย รอไม่นานเด็กชายนามสกุลเสี่ยวก็เดินออกมา

     

            ในวินาทีแรกเสี่ยวลู่มีสีหน้ากังวล เพราะเขารู้ดีว่านี้คือประธานสีฟ้าที่ตนเองอยู่ และการมาถึงหน้าบ้านขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องดีแน่  แต่กลับกันกับความคิดของเด็กหนุ่ม พี่ประธานสีตัวสูงทำเพียงแค่ส่งยิ้มมาให้ โดยไม่ได้มีคำพูดคำจาต่อว่าใด ๆ

     

     

    "พี่หาตั้งนาน ที่แท้ ก็อยู่บ้านนี่เอง"

     

     

            เด็กชายนามสกุลเสี่ยวไม่ได้ขานตอบไป เขาทำเพียงพยักหน้า เพราะยังคงขัดใจกับรอยยิ้มของพี่ประธานสีตัวสูง ทั้งที่มันควรจะเป็นคำต่อว่าเขาที่โดดสี

     

     

    "กลับไปช่วยงานพี่ที่โรงเรียนก่อนได้ไหม พี่มีงานให้ช่วย"

     

     

            และเสี่ยวลู่หานยังคงเอ๋อเหรอ พร้อมพยักหน้าตอบไปโดยที่ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเมื่อกี้รุ่นพี่โอพูดว่าอะไร

     

     

    "ห้ะ ดะ- เดี๋ยว ๆ เมื่อกี้พี่บอกว่าอะไรนะ"

     

     

    "ไปหยิบหมวกกันน็อกในบ้านแล้วมากับพี่เลย พี่ถือว่าลู่หานตกลงจะช่วยพี่แล้ว"

     

     

    "จริงจังเหรอ"

     

     

    "จริงจังดิ"  โอเซฮุนยิ้มขำกับท่าทางเอ๋อเหรอของเด็กชายเสี่ยว ก่อนที่น้องจะเดินงง ๆ ไปเอาหมวกในบ้านแล้วเดินออกมาหาเขา

     

     

    "พี่มีข้ออ้างจะไม่ลู่หานโดดสีแล้วล่ะ ต่อไปนี้เราจะโดดสีไม่ได้แล้วนะ"




                                                               TBC











    ? cactus
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×