คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ไกรทอง ตอนที่17
ช่วงบ่ายของบ้านเศรษฐีคำวันนี้ จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ามีแต่คนมาช่วยงานกันหนาตามากกว่าทุกวัน โดยเฉพาะพวกหญิงที่ต่างพากันมาช่วยงานจนเต็มเรือน บางคนทำทีว่ามาช่วยงานแต่ฉไนถึงเที่ยวมาวนเวียน เฝ้าคอยเมียงมอง ชะเง้อชะเง้คอยาวยืด กันตั้งแต่บนเรือนจรดถึงรั้วหน้าบ้านก็มีแต่คนมายืนออกันเต็มไปหมด
ซึ่งก็เข้าใจว่าเหตุใดจึงมีแต่ผู้คนหลากหลายมาสุมหัวอยู่แต่ที่นี่ ข่าวเรื่องของชายผู้มาใหม่เปรียบได้ดั่งไฟลามทุ่งที่ถูกพัดโหมกระพือ จนไม่มีใครในหมู่บ้านจะไม่พากันพูดถึงชายหนุ่ม
พ่อหนุ่มผู้นี้มีนามว่าชาละวัน ช่างรูปกายง๊ามงาม งามจนเกินหน้าอิสตรีทั้งหลายที่เคยพบ.....งามหมดจรดทั่วทั้งกายหาใครเหมือน ใครกันหนาช่างปั้นแต่งเจ้าขึ้นมาให้สยบใจคน ...จนอยากขอถามตรงตรง...ว่าสนใจรับเมียเพิ่มอีกสักสิบคนไหมจ๊ะพ่อรูปงาม
ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดเลยสักนิดที่ทุกคนในบริเวณโดยรอบนี้...ไม่สิต้องบอกว่าคนเกือบทั้งหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงล้วนต่างเที่ยวหาโอกาสมาแอบมองชาละวันอยู่เรื่อยๆ เพื่อขอชื่นชมความงามนี้ให้เต็มสองตาสักครั้ง
...แม้แดดจะร้อน ฝนจะกระหน่ำลงมา พวกเขาก็จะมาให้เห็นกับตา ว่าไอ้ข่าวลือที่หลายคนเที่ยวโพทะนาไปทั่วมันมีมูลความจริงแค่ไหน โดยเฉพาะบุรุษจะเอาเบ้าหน้าที่ไหนมางามได้ถึงขนาดนั้น ถ้าไม่เห็นกับตาพวกเราไม่มีทางเชื่อ
ยกเว้นเพียงแต่ไกรทองคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงเอาแต่ลงมือลงแรงถางหญ้า ถอนหญ้า ถางๆ ถอนๆ เอาหลังก้มหน้าฟ้าสู้ดินอย่างเดียวไม่ยอมหยุดมือ โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น
ในสายตาคนอื่นอาจจะมองว่าหม่อนี่มันขยันทำงานมากจนจิตใจจดจ่ออยู่กับงานจนเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม...แต่กับทองดำที่รู้จักนิสัยเพื่อนคนนี้ดี มันช่างดูน่าหมั่นไส้เหลือจะกล่าว
โธ่ๆไอ้เกลอแสนรัก...ทำเป็นไม่สนใจ ทำเป็นเฉยฉาไม่แยแส ...กลัวเขาเหลือเกินนะมึง ก็นะอย่าว่าแต่เอ็งเลยที่กลัว ขนาดข้าเองยังกลัว
...กลัวจะตายเพราะหัวใจมันหยุดเต้น
สาเหตุทั้งหมดล้วนก็มาจากชายหนุ่มตรงหน้าพวกเขาทั้งสิ้น....งานการวันนี้ไม่ต้องทำกันแล้ว.....ใครหน้าไหนจะมีกระจิตกระใจมาทำ เมื่อมีคนงามมาให้เห็นใกล้ๆในระยะประชิดแบบนี้
จะพูดก็นึกอายปาก ถ้าไม่พูดเดี๋ยวจะหาว่ามุสาผิดศีล
จากความคิดของใครต่อใครที่เคยเห็นรูปกายของชาละวันครั้งแรก ล้วนปรามาศว่า ...เจ้าหมอนี่จะต้องทำงานไม่เป็น หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ต้องเรื่องมากจุกจิก และอะไรต่ออะไรสารพัดสารเพปัญหาเยอะแยะน่ารำคาญ คิดดูสิ...ดู๊ดู...ผู้ชายที่ไหนจะงามหมดจดตั้งแต่หัวจรดเท้าเยี่ยงนี้
เห็นเท้ากับมือไหม? งามมาก นิ้วทั้งสิบเรียวสวย...สวยมาก! อย่างกับแท่งเทียน ฝ่ามือเนียนนุ่มไม่มีด้านสาก ขนาดสองสาวคนสวยในหมู่บ้านยังสู้ไม่ได้เลยสักนิด
แต่ยามนี้!...เวลานี้!...ตอนนี้!...ข้างหน้านี้!...........
มันช่าง......ไร้คำบรรยายจริงๆ
ด้วยพ่อหนุ่มรูปกายงามลุกขึ้นมาแต่งตัวง่ายๆเหมือนกับชาวบ้านทั่วไป หนำซ้ำยังลงแรงทำงานอาบเหงื่อต่างน้ำเชกเช่นคนงานชายทุกคนไม่มีหยิบโย่งให้เห็นหรือบ่นว่างานหนักให้ได้ยินสักแอะเดียว ซึ่งมันคงจะดูกลมกลืนกว่านี้มาก ถ้าพ่อเนื้อทองไม่มาเปลือยท่อนบนนุ่งจุ่งโจงกระเบนเปิดเผยผิวขาวผ่องให้ทุกคนได้เห็นเป็นบุญตา ผมที่ยาวก็รวบมัดเสียเรียบร้อย ซึ่งแทนที่จะดูทะมัดทะแมงแต่กลับกลายเป็นส่งเสริมให้เห็นใบหน้างดงามนั่นชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก
นอกจากความขาวที่สามารถสะท้อนแสงจนเปล่งประกายได้แล้ว ผิวพรรณตั้งแต่หัวจรดเท้ายังดูเนียนละเอียดมาก ไม่มีความหยาบกร้านให้เห็นแม้สักนิดเดียว ยิ่งโดยเฉพาะผิวขาวๆโดนหยาดเหงื่อเกาะพราวทั้งตัวด้วยแล้ว...พ่อเจ้าประคุณลุนช่องเอ้ย หัวใจชายอกสามศอกเช่นพวกข้าเริ่มแกว่งไกว ไขว้เขวไปกันหมดแล้ว...ถ้าจะเกิดมางามขนาดนี้ อย่าเกิดมาเป็นบุรุษเพศให้พวกข้าช้ำใจเยี่ยงนี้เลยเถิด... สงสารหัวใจดวงน้อยๆของพวกข้าบ้าง ฮือๆๆ
เมื่อวานนี้ชาละวันสวมใส่เสื้อปิดบังอำพรางเลยเห็นรูปร่างแค่เผินๆคล้ายว่าจะบอบบาง หากแต่วันนี้พอมาได้มองเห็นร่างกายจริงๆของพ่อหนุ่มคนงาม ทองดำยอมรับกับตัวเองในใจเลยว่าอิจฉา...อิจฉาเรือนร่างสูงสง่า อิจฉาบ่ากว้างกับแผงอกแข็งแรงนั่น และอิจฉาความแข็งแกร่งในร่างกายที่ทำงานหนักเท่าไรก็ไม่มีเหน็ดเหนื่อย
เฮ้อ! ช่างเป็นชายที่มีเสน่ห์รุนแรงกับทุกเพศวัยเสียจริง จริ๊ง
ฉะนั้นใครหน้าไหนที่กล้ามองร่างกายชายหนุ่มผู้นี้นานๆ ย่อมแสดงว่ามันคนนั้นจะต้องหาเรื่องฆ่าตัวเองตายชัดๆ เพราะหากฝืนจับจ้องมองนานๆมีหวัง...เลือดไหลออกสองทางจนหมดตัวตายอนาจน่าขายหน้าไปชั่วลูกชั่วหลาน
‘หากแต่สำหรับเขาตอนนี้ใครจะตายหรือไม่ก็ช่างประไร...ยกเว้นไอ้เกลอกูเท่านั้นที่ยังมาตายในตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด’
สุดท้ายทองดำทนมองเพื่อนทรมาณตัวเองต่อไปไม่ไหว ตัดสินใจรีบหิ้วคอมันเข้าไปพักอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ เร่งหาน้ำหาท่าให้กินคลายร้อนเพื่อเอาแรง......มึงก็พอกัน ถ้ายังฝืนทนทำงานกลางแดดไม่ยอมพักแบบนี้ต่อไป มึงได้ตายของจริงแน่ๆ...ตากแดดตัวแดงจนเกือบแห้งตายคาเสียมแล้วไหมล่ะ
ไกรทองรับขันน้ำจากเพื่อนมาดื่มเงียบๆไม่พูดไม่จา พยายามตั้งสมาธิไม่ยอมให้ใจแกว่ง...ด้วยกลัวว่ามันจะเกิดเรื่องซ้ำรอยเดิมให้ขายขี้หน้าเหมือนเมื่อวาน ซึ่งจะใครหน้าไหนรู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าเคยมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น
เรื่องราวเมื่อวานนี้ยังคงประทับอยู่ในหัวเด็กหนุ่มไม่ยอมหายไปไหน...ยิ่งคิดก็ยิ่งสมเพชตัวเองจนอยากมุดดินหนี ด้วยเพราะดันเป็นลมสลบไปเพียงแค่ได้เห็นร่างเปลือยท่อนบนที่เพิ่งขึ้นจากน้ำของพี่ชาละวัน จนเดือดร้อนต้องให้พี่เขามาคอยดูแลจนฟื้น...อ๊าก! ขายขี้หน้าจนอยากตายเหลือเกิน
และนี่ก็เป็นเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเขาถึงได้เอาแต่หลบหน้าหลบตา...ไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบตาไปมองชายหนุ่ม... ขนาดเมื่อเช้าเขาข่มใจและเก็บอาการแทบแย่ ทำเป็นไม่รู้ ไม่ชี้กับเรื่องขายหน้าที่เคยเกิดขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้วเขายังจำเหตุการณ์นั้นได้ทุกฉากทุกตอนไม่ลืม
จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาดโดยเฉพาะไอ้ทองดำที่จะให้รู้ไม่ได้เด็ดขาด...ถ้ามันรู้เขาต้องโดนล้อยันลูกบวชแน่ๆ
ตอนนี้ข้ารู้สึกจะบ้าตายอยู่แล้วที่ในหัวเอาแต่คิดถึงสายตาหวานๆ กับคำพูดนุ่มท่าทางอ่อนโยนที่คอยดูแลยังติดหูติดตาไม่จางหาย และทุกครั้งที่คิดถึงหัวใจของเขามักเต้นแรงจนอกแทบระเบิด...ไม่เอา ไม่คิดถึง ห้ามคิดถึงอีก ห้ามๆๆๆๆๆ
ไกรทองเพียรพยามท่องคำนี้มาเป็นร้อย เป็นพันรอบเพื่อสงบใจ แต่มันก็ยังไม่ได้ผลเท่าใดนัก เพราะแค่คิดถึงใบหน้างามงาม ร่างกายขาวขาวนั่นทีไร หน้าข้าก็เกิดอาการเลือดลมแล่นสูบฉีดทุกครั้งอย่างกับคนบ้า
‘พี่ชาละวันทำคุณไสยใส่กูหรือปล่าววะเนี่ย ถึงได้เกิดเรื่องน่าอายกับข้าแบบนี้’
ทองดำหรี่ตามองหน้าเพื่อนที่ประเดี๋ยวก็แดง ประเดี๋ยวก็ซีด สลับไปสลับมาจนเขาคิดว่ามันกำลังจะกลายร่างเป็นจิ้งจก... เป็นบ้าอะไรของมันกันแน่ว่ะ จะว่าไปวันนี้ข้ายังไม่เห็นมันพูดอะไรสักคำ ช่างดูผิดแปลกวิสัยชอบกล
“ไอ้ไกรใจคอเอ็งจะไม่พูดอะไรสักหน่อยเหรอวะเห็นเงียบมาตั้งแต่เช้า”
ไกรเงยหน้ามองเพื่อน...เพียรท่องไว้อย่าเผยพิรุธอะไรออกมาเด็ดขาด
“ทำไมข้าพูดเอ็งก็บ่น ข้าไม่พูดเอ็งก็ว่า พิลึกจริง”
ทองดำเดินวนรอบไกรทองจนครบรอบ พร้อมกับเขม่นมองสำรวจเพื่อนไปด้วย
“ปกติเอ็งจะเป็นคนอารมณ์แจ่มใส ใจดีกับเขาไปทั่วแล้วก็ชอบด่าข้าเป็นประจำเหมือนคนแก่ๆ เพราะฉะนั้นมันย่อมไม่มีทาง...ไม่มีทางที่เอ็งจะนิ่งเงียบเป็นหอยกาบแบบนี้ บอกความจริงมาเลยนะว่าแกใช่ไอ้ไกรเพื่อนข้าจริงๆใช่ไหม? ใช่ไหม?”
ไกรทองโดนเพื่อนรักจับเขย่าตัวจนตาลาย...ด้วยรู้อยู่แก่ใจดีว่ามันแกล้ง เด็กหนุ่ทเลยเอาหัวโขกใส่หน้าผากทองดำดังโป๊กใหญ่ สำหรับเขาไม่เจ็บมากหรอกแค่มึนๆ ต่างจากไอ้หมอนี่ที่ถึงกับทรุดลงไปนั่งนับดาวในหัวยังกับคนเมากัญชา
“สมน้ำหน้า”
ไกรทองยกขันน้ำในมือดื่มต่อแต่ยังไม่ทันจะกลืนลงคอก็พุ่งพรวดออกมา ตกใจร่างสูงขาวผ่องตรงหน้าที่เข้ามายืนประชิดโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว...กรรมมันเลยตกอยู่กับเพื่อนที่ดันเสือกได้สติลุกขึ้นยืนพอดีเลยได้รับอนิสงฆ์นี้เข้าไปเต็มๆหน้า
เพื่อนรักเอามือปาดน้ำออกจากหน้า ส่วนพี่ชาละวันก็ยืนกุมท้องแอบหัวเราะ...คงไม่มีสิ่งใดจะกล่าวอีกแล้วนอกจากคำว่า...อาย
กูหนอกูตกใจพี่ชาละวันจนต้องพ่นน้ำเชียวรึวะ แถมพี่เขาดันมาเห็นอีก...อับอายจริงโว้ย! ไกรทองอยากตาย!
ชาละวันมองใบหน้าเคร่งๆ แก้มแดงๆแล้วกลั้นหัวเราะไม่อยู่ “นึกว่าเป็นคนเงียบๆเสียอีก...แอบร้ายใช่เล่นนะเรา”
ได้ยินคำหยอกเล่นแบบนี้เข้าไปเด็กหนุ่มก็ยิ่งอยากแปลงร่างเป็นขอมดำดินมุดหนีหายไปจากตรงนี้เสียเหลือเกิน ‘ให้ตายเถอะเมื่อวานทำตัวอัปยศ วันนี้ดันทำเรื่องขายหน้าให้เห็น...อะไรของกูเนี่ยจะตกอกตกใจขนาดนี้วะ...ไม่ได้ ไม่ได้แค่ผู้ชายแก้ผ้าท่องไว้ของกูก็มีเหมือนกันถึงจะน้อยกว่าก็เถอะ’
อือ?...เพื่อนกูปกติมันหน้าเป็นจะตายพอหลุดเอ๋อๆให้พี่ชายคนนี้เห็นแค่เนี่ยกลับมาอายเสียอย่างงั้น...ดูๆมีหลบสายตงสายตาด้วย บิดตัวกระมิดกระเมี้ยน...มันน่ายันสักเปรี้ยงและข้อนี้สำคัญที่สุดเอ็งจะไม่คิดขอโทษข้าเลยใช่ไหม?
“อะแฮ่ม!”
“ตีนติดคออรึว่ะไอ้ทองดำ”
ทองดำหาสนใจคำประชดของเพื่อนไม่...มันทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจเสียงนกเสียงกา
“ฉันชื่อทองดำจ๊ะ เป็นเพื่อนรักของไอ้ไกร”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะน้องทองดำ เรียกพี่ว่าพี่ชาละวันหรือพี่วันก็ได้นะ พี่ไม่ถือหรอก”
อือ...ท่าทางไม่ถือตัวแบบนี้สิค่อยน่าคบหาหน่อย
ทองดำยิ้มยิงฟันท่าทีถูกใจพี่ชายคนใหม่ไม่น้อย ปากที่กำลังอ้าจะชวนคุยต่อก็หยุดชะงักลงเมื่อเห็นตระเภาทองที่จู่ๆโผล่พุ่งพรวดเข้ามากลางวงสนทนา จนทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองสะดุ้งตกใจ
เพราะแอบมาได้ยินบทสนทนาแนะนำตัวพอดิบพอดี สาวน้อยคนสวยจึงไม่สงวนกิริยารีบวิ่งเข้ามาแทรกกลางขนาบข้างคนงามอย่างถือวิสาสะ ทำเอาตะเภาแก้วที่เดินตามหลังมาต้องรีบดึงตัวน้องสาวให้แยกห่างออกมา แต่เจ้าหล่อนกับดึงมือออก เดินหน้าสลอนกลับมายืนตรงที่เก่า
แฝดคนน้องแจกรอยยิ้มหวานๆให้กับพี่ชายทั้งสามคนอย่างคนสนิทสนมกันมานาน โดยเฉพาะชาละวันที่เจ้าหล่อนทั้งยิ้มและส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มมาให้เป็นพิเศษ...ไม่มีปิดบังหรือเขินอายเลยสักนิด
“ฉันชื่อตะเภาทอง นี่พี่สาวฉันตะเภาแก้วจ๊ะ” ด้วยถือว่าโอกาสดีๆเช่นนี้ไม่ได้ลอยมาอยู่ตรงหน้าบ่อยๆ ตะเภาทองจึงรีบเอ่ยแนะนำตัวเองเพื่อหวังสร้างความคุ้นเคยกับคนตรงหน้า...น้ำขึ้นให้รีบตักเพราะหากมัวแต่เหนียมอายมีหวังของดีจะโดนหมาคาบไปกินพอดี
ชาละวันยิ้มตอบรับน้ำใจไมตรี เสแสร้งทำเป็นไม่ถือสาความไม่งามในกิริยาของหญิงสาวที่ได้กระทำกับเขา...แม้ว่าในใจจะรู้สึกเหยียดหยามเจ้าหล่อนก็ตามที....เขาเจอสตรีเช่นนี้มานักต่อนักแล้วมีรึจะมองเจตนาที่ส่งมาไม่ออก
“เรียกว่าน้องทองได้นะจ๊ะ ฉันว่าเราจะสนิทกันเพิ่มมากขึ้นถ้าเรียกกันแบบนี้นะจ๊ะ”
ไกรทองมองแววตาหวานเชื่อมของตะเภาทองที่มองชาละวันด้วยท่าทีลำบากใจ พอหันหน้าไปมองทองดำก็เห็นเพื่อนดูจะลำบากใจไม่แพ้กัน ...หากจะเอ่ยปรามไม่ให้น้องทำตัวน่าละอาย เขาสองคนก็รู้สึกกระดากปาก... ไอ้เรามันเป็นผู้ชายอกสามศอกถ้าพูดตรงๆเดี๋ยวน้องนุ่งจะหน้าเสียหน้าเอา
ทางฝ่ายตะเภาแก้วเองก็พยายามสะกิดเตือนอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล ด้วยรู้แก่ใจดีว่าน้องสาวคนนี้มีนิสัยดื้อรั้นไม่ยอมฟังใคร
ตะเภาทองยังคงพูดคุยชี้ชวนชาละวันเจือยแจ้วไม่หยุดปากเพื่อหวังสานความสัมพันธ์ให้พัฒนาชิดใกล้กว่านี้ สนิทสนมกันให้ดีขึ้นมากกว่านี้ จนไม่สนใจสีหน้าของคนสี่คนว่าแต่ละคนแสดงสีหน้ากันเช่นไร และหญิงสาวก็ยังลืมสังเกตเห็นแขกสองคนที่ยืนมองไม่ไกลอยู่ตรงรั้วหน้าบ้าน
“ไอ้ไม้นั่นเอ็งจะไปไหน...มาช่วยงานแทนพ่อดันเสือกจะทะลึ่งไปที่อื่นนะมึง” เพลิงรีบดึงคอเสื้อน้องชายเอาไว้...เผลอไม่ได้เดี๋ยวอู้งานหนีหายไปที่อื่นอีก
“พี่เพลิงดูตรงโน้นสิแล้วจะรู้ว่าฉันกำลังจะไปที่ใด”
เพลิงหันไปมองตามนิ้วจึงเข้าใจสาเหตุอาการโมโหโทโสของน้องชาย...สองศรีพี่น้องที่พวกเขาหมายปองกำลังยืนคุยอยู่กับไอ้ไกรกับไอ้ทองดำอีกแล้ว...น่าอิจฉาชะมัด
ความรู้สึกหึงหวงแล่นวาบขึ้นสมอง เท้าร่ำๆอยากเข้าไปกระชากสาวในดวงใจออกมาแล้วกระทืบไอ้พวกนั้นให้ตายคาตีนเสียให้หมด
น่าเสียดาย...วันนี้มาทำงานที่บ้านเศรษฐีคำเลยไม่อยากมีเรื่องให้เสียงาน ฉะนั้นปล่อยพวกมันไปก่อนเสร็จงานแล้วค่อยมาจัดการทีหลังก็ยังไม่สาย
“ปล่อยไปก่อนเถอะไอ้ไม้...อ้าวเฮ้ย! ไอ้ไม้!?”
มัวแต่ห้ามตัวเองจนลืมห้ามน้อง...นู่น มันเดินตัวปลิวไปทางนู้นแล้ว
ไม้ก้าวเดินดุ่มๆเข้าไปใกล้โดยไม่สนใจเรียกของพี่ชาย เดิมทีน้องชายของเขาคนนี้มันก็เป็นคนใจร้อน ชอบโวยวายอยู่แล้ว... มีอะไรไม่พอใจมันมักจะอาละวาดออกมาเสมอ ตามประสาเป็นน้องคนเล็กที่ถูกตามใจจนเคยตัว
ฉิบหายแล้วมีเรื่องแน่ๆ...หัวหน้าบ่าวที่สังเกตเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดไวกว่าใคร รีบวิ่งแจ้นไปแจ้งข่าวให้นายบนเรือนทันที...เพราะถ้าหากมัวแต่ชักช้าเดี๋ยวไม่ทันการณ์
“น้องตะเภาทองมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้!”
พอเห็นว่าใครอีกคนโผล่พรวดพราดเข้ามา ไกรทองกับทองดำรีบทำหน้าที่เป็นกำแพงยืนกำบังสองสาวไว้ด้านหลัง เตรียมพร้อมป้องกันเต็มที่ ผิดกับชาละวันคนเดียวที่ยังยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน
ฝ่ายไม้ที่ตอนแรกไม่ทันสังเกตสังกาอะไร พอได้มายืนใกล้ๆเห็นความงามของชาละวันชัดเต็มตา ทำให้มันกับเพลิงและลูกสมุนที่ตามหลังมาพากันตกตะลึงจนกรามค้างหุบไม่ลง
แต่เด็กหนุ่มคนน้องก็ได้สติก่อนใครเพื่อน ในใจพยายามด่าเจ้าหมอนี่เอาไว้ว่า ‘ต่อให้งามแค่ไหนมันก็เป็นเพียงหมาตัวผู้’ จนสามารถเรียกความฮึกเหิมกลับคืนมาได้เหมือนเก่า
“เอ็งใช่คนที่เขาลือกันใช่ไหม?”
ข่าวลือ... หึหึ ข้าเชื่อแล้วว่าปากคนมันยืด มันยาวเสียเหลือเกิน...รู้กันดีเหลือเกินนะเรื่องของชาวบ้านเขาเนี่ย
“ฉันชื่อว่าชาละวันเป็นคนงานใหม่ที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จัก”
เพลิงเพ่งพินิจมองลักษณะ ผิวพรรณ ‘เจ้านี่บอกว่าเป็นคนงาน’...ท่าทางไม่น่าให้เลย นอกจากร่างกายแล้วไม่เห็นมีส่วนไหนบ่งบอกว่าคล้ายคนทำงานหนักเลยสักนิด
ต่างจากความคิดน้องชายตัวดี.....กูไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ทั้งรอยยิ้ม ทั้งหน้าตา ไม่สนโว้ย! ผู้หญิงคนนี้ข้าจองหมาตัวไหนห้ามยุ่ง!!!
เห็นเรื่องทำท่าจะบานปลายไกรทองเลยจำเป็นต้องออกหน้าไล่ไอ้ห่านี้ออกไปก่อนจะมีเรื่องกันให้ขายขี้หน้า
“กลับไปเสียเถอะไอ้ไม้ น้องทองเขาจะคุยกับใครมันก็เป็นเรื่องของน้องเขา...”
“หุบปากไปไอ้ไกร...กูไม่ได้พูดกับมึง”
มึงก็อีกตัวชอบมายุ่งกับน้องตะเภาทองดีนัก...อยากกระทืบให้ตายคาตีนกูนัก
“ปากหมาเยี่ยงนี้อยากลองเอาตีนกูไปคาบเล่นไหม” เมื่อเตือนด้วยวาจาดีๆแล้วไม่รู้จักฟัง มันก็ต้องเตือนด้วยร่างกายถึงจะรู้เรื่อง
ชาละวันรีบขยับเอาตัวยืนขวางกั้นตรงกลางระหว่างไกรทองกับอีกฝ่ายเอาไว้กันมีเรื่อง...มันไม่ใช่อะไรหรอกแค่รำคาญ...ลองให้มีเรื่องกันจริงๆไอ้เด็กน้อยตรงหน้านี่ข้าตบทีเดียวก็ตายคามือ
“มึงก็เหมือนกันเป็นแค่คนงานดันเสือกสะเออะมายุ่งกับผู้หญิงของกู” มีเรื่องกับไอ้ไกรไม่ได้มาเอาเรื่องกับมึงแทนก็ได้ว่ะ
เพลิงเห็นน้องเริ่มจะควบคุมอารมณ์ตัวเองอยู่เลยรีบเอ่ยปรามเสียงเข้ม “หยุดไอ้ไม้ห้ามมีเรื่อง...เอ็งลืมไปแล้วรึว่าวันนี้เรามาทำงานแทนพ่อ”
ใช่ว่าเขาจะไม่หึงไม่หวงน้องตะเภาแก้วที่มายืนคุยกับไอ้พวกนี้ แต่สำหรับเขางานคืองานห้ามเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
“แต่พวกมันมายุ่งกับผู้หญิงของพวกเรานะพี่เพลิง”
ไม้เห็นพี่ชายทำท่าเฉยชาเป็นทองไม่รู้ร้อนก็นึกเคืองเหมือนเด็กน้อยเอาแต่ใจ...คนเป็นพี่กำลังอ้าปากจะพูดต่อแต่กลับโดนตะเภาทองสวนด่ากลับมาเสียก่อน
“ฉันเป็นของพี่ไม้ตรงไหนอย่ามาพูดเพ้อเจ้อนะ”
หญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังเดินมาข้างหน้าสุดประจันบานกางปีกปกป้องทุกคนเต็มที่ โดยเฉพาะพี่ชาละวันของน้องตะเภาทอง
“ฉันทนฟังมานานแล้วนะ หลายครั้งแล้วที่พี่เที่ยววางท่าข่มแหง ข่มขู่ใครต่อใคร เที่ยวอ้างไปทั่วว่าฉันกับพี่แก้วเป็นของพวกพี่ ฉันขอพูดตรงๆตรงนี้ให้พี่ฟังชัดๆเต็มสองหูเลยนะว่า...ฉันรำคาญ เลิกมายุ่งกับพวกเราได้แล้ว”
...และที่สำคัญเกิดพี่ชาละวันเข้าใจผิดขึ้นมาฉันก็ชวดสิ เชอะ!
สิ้นคำพูดของหญิงสาวอันเป็นที่รัก ไม้ยืนนิ่งเป็นหุ่นคล้ายคนถูกสาป หัวใจทั้งดวงปวดแปลบเหมือนโดนฟ้าผ่าลงกลางใจ กี่ครั้งแล้วที่ตะเภาทองออกตัวปกป้องพวกมัน ทั้งไอ้ไกร ทั้งไอ้ทองดำและตอนนี้ยังมีไอ้นันกับไอ้หน้าหวานนี่อีก...ทำไมน้องตะเภาทองทำกับพี่แบบนี้ น้องจะเหยียบย่ำหัวใจพี่ไปถึงไหน
เพลิงดึงแขนน้องชายให้ไปจากที่นี้แต่ถูกสะบัดทิ้ง
“ไอ้พวกนี้มันมีอะไรดี! โดยเฉพาะไอ้เจ้านี่มันหญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิงแบบนี้ มันมีดีตรงไหน”
“พี่ชาละวันมีดีกว่าพี่ไม้ละกัน”
ไกรทองนึกสงสารไอ้ไม้อยู่นิดๆ เพราะถึงนิสัยของมันจะนักเลง สำมะเลเทเมาแต่มันก็รักจริงทุ่มเททุกอย่าง...สุดท้ายกับโดนสาวตัดบัวไม่เหลือใย...เป็นใครใครก็เจ็บ
ค่ำคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ไกรทองนอนกระสับกระส่ายอยู่ในมุ้งตัวเอง พยายามข่มตายังไงก็หลับไม่ลงในหัวนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อตอนบ่าย…ดีนะที่ลุงคำลงเรือนมาทันเวลาพอดีเลยสามารถปรามไอ้ไม้ได้อยู่หมัด ทุกอย่างเลยสงบเรียบร้อย ไม่ใครเลือดตกยางออกให้เห็น
เด็กหนุ่มนอนเอามือก่ายหน้าผาก นึกถึงท่าทีตะเภาทองตอนที่อิดออดไม่ยอมเดินตามตะภาทองขึ้นเรือน สายตาที่ยังอาลัยอาวรบ่งบอกว่ายังอยากอยู่ใกล้ๆพี่ชาละวัน จนทำให้ไกรทองรู้สึกหนักใจแบบแปลกๆ
ส่วนไอ้ไม้มันก็สันดานเดิม กระทืบตีนจากไปแต่มันยังไม่วายหันมาชี้หน้าคาดโทษใส่พวกเขาอีก เหอะๆ...ส่วยไอ้เพลิงก็จำใจต้องอยู่คุยธุระกับลุงคำให้เสร็จ ทั้งๆที่มันอยากจะไปตามน้องมันใจแทบขาด
นอนมองเพดานมุ้งไปใจก็ครุ่นคิดไป...เพราะสิ่งที่คาใจเขาที่สุดเห็นจะเป็นแววตาประหลาดในดวงตาของพี่ชาละวัน...มันช่างแข็งกร้าวแฝงไปด้วยโทสะจนเขานึกว่าตาฝาดไป
พอมาลองคิดดูดีๆแล้ว...เขาต้องตาฝาดไปแน่ๆไม่มีทางหรอกที่คนอ่อนโยนอย่างพี่ชาละวันจะมีแววตาเช่นนั้นได้...ใช่!ข้าต้องตาฝาดไปแน่ๆ
ฮ้าว...บ้าจังคิดแต่เรื่องชาวบ้านชาวช่องเขาจนไม่ได้นอน...งีบสักหน่อยดีกว่าพรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้าเสียด้วย
คิดได้อย่างนี้ไกรทองจึงผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ซึ่งเด็กหนุ่มไม่ได้รู้สึกตัวเลยสักนิดว่านอกภายมุ้งของตนมีเงาสองเงาปริศนาคอยจับตามองเขาอยู่เงียบๆ
“ไอ้เด็กหนุ่มเมื่อยามกลางวันมันกำแหงนัก”
เงาที่สองมองเงาที่หนึ่ง
“มันไม่เท่าไรหรอกน่าถือเสียว่าหมาแมวมันหยอกเล่น”
เงาที่หนึ่งไม่สนใจคำหยอกล้อของเงาที่สอง
“ไปจัดการซะทำยังไงก็ได้ให้มันเงียบปาก หยุดเห่า...”
เงาที่สองถอนหายใจเฮือกใหญ่กับคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย...งานเก่ายังไม่ทันเสร็จ งานใหม่ดันเสือกเพิ่มเข้ามา...ไอ้บ้านั่นมันปากหมาจริงๆเล้ย! ...เวรกรรมเลยตกมาที่ข้า
ถึงอย่างนั้นเงาที่สองก็ยังต้องจำใจผงกหัวรับคำสั่งแล้วกลืนเงาหายไปกับความมืด
เมื่อเงาที่สองจากไปเงาที่หนึ่งจึงย้ายกายเข้ามาในมุ้งเฝ้ามองใบหน้ายามหลับของไกรทอง...ใบหน้าที่ไร้ซึ่งความระแวดระวังภัยช่างน่าเอ็นดูจริงๆ
แสงจันทร์ไร้เมฆบดบังสาดส่องเข้ามาในห้อง ซึ่งมันก็สว่างมากพอให้เห็นว่าเป็นชาละวัน มือของชายหนุ่มเกลี่ยใบหน้าไกรทองอย่างนุ่มนวล ทะนุถนอมคล้ายกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทรารมณ์
แต่ทว่าใบหน้านี้ดูนิ่งสงบและเย็นชา แววตามาดร้ายไม่ได้ดูอบอุ่นอ่อนโยนเหมือนเก่า
“แผนการของข้าจะต้องไม่มีสิ่งใดผิดพลาด...ใครทำสิ่งใดไว้มันต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม”
ความคิดเห็น