ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ธรรมะสวัสดี

    ลำดับตอนที่ #8 : พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ)

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 54


     พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ)

    คาถาแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์ มงคลคาถาที่ใช้สวดเพื่อป้องกันภัยและเอาชนะอุปัทวันตราย

    ๑. พาหุงสะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ 

    พระจอมมุนีได้ทรงชนะพญามารผู้นิรมิตแขนมากตั้งพัน ถืออาวุธครบมือ ขี่คชสารชื่อครีเมขละ พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องกึกก้อง ด้วยธรรมวิธีคือ ทรงระลึกถึงพระบารมี ๑๐ ประการ ที่ทรงบำเพ็ญแล้ว มีทานบารมีเป็นต้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    แม่พระธรณีบีบน้ำที่พระพุทธองค์กรวดลงพื้นสู่ดิน ทุกครั้งที่บำเพ็ญบารมีมาแต่ปางก่อน น้ำจากมวยผมพลั่งไหลออกมาไม่จบสิ้น เหล่าพญามาถูกกระแสน้ำพัดพ่ายแพ้ไปหมดสิ้น

    ๒.มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ 

    พระจอมมุนีได้ทรงชนะอาฬวกยักษ์ผู้มีจิตกระด้างดุร้ายเหี้ยมโหด มีฤทธิ์ยิ่งกว่าพญามารผู้เข้ามาต่อสู้ยิ่งนักจนตลอดรุ่ง ด้วยวิธีที่ทรงฝึกฝนเป็นอันดี คือขันติบารมี(ความอดทน อดกลั้น) ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    อาฬวกยักษ์ อสูรร้ายที่ไล่ฆ่ากัดกินผู้คนเป็นอาหารเป็นที่น่าหวาดกลัว ยังต้องสยบพ่ายแพ้ต่อพระพุทธเจ้า

    ๓.นาฬาคิริง คะชะวะรังอะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ 

    พระจอมมุนีได้ทรงชนะพญาช้างชื่อนาฬาคิรี เป็นช้างเมามันยิ่งนัก ดุร้ายประดุจไฟป่าและร้ายแรงดังจักราวุธและสายฟ้า (ขององค์อินทร์) ด้วยวิธีรดลงด้วยน้ำคือพระเมตตา ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    พระเทวทัต ปล่อยช้างที่กำลังตกมันชื่อ นาฬาคิรี ให้วิ่งตรงมาทำร้ายทิ่มแทงพระพุทธเจ้า แต่พระองค์ทรงแผ่พระเมตตา จนช้างนาฬาคิรีกลับเปลี่ยนท่าทีที่ดุร้ายกลับกลายเป็นแสดงความเคารพต่อพระพุทธองค์

    ๔.อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะ สุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

    พระจอมมุนีได้ทรงบันดาลอิทธิฤทธิ์ทางใจอันยอดเยี่ยม ชนะโจรชื่อองคุลีมาล (ผู้มีพวงมาลัย คือนิ้วมือมนุษย์) แสนร้ายกาจมีฝีมือ ถือดาบวิ่งไล่พระองค์ไปสิ้นทาง ๓ ประโยชน์ ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    จอมโจรองคุลีมาล ที่เหี้ยมโหดน่าเกรงขาม ประหารผู้คนมากมายเพื่อตัดนิ้วมาทำพวงมาลัยคล้องคอ วิ่งไล่ฟันพระพุทธเจ้า หวังจะได้นิ้วให้ครบพัน แต่ก็ไม่สามารถติดตามทัน พระพุทธองค์จึงตรัสเทศนาสั่งสอนจนองคุลีมาลสำนึกบาป ตามเสด็จออกบวชจนได้บรรลุพระอรหันต์ในที่สุด

    ๕.กัตตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

    พระจอมมุนีได้ทรงชนะคำกล่าวของนางจิญจมาณวิกา ผู้ทำอาการประหนึ่งว่าตั้งครรภ์เพราะทำไม้มีสัณฐานกลมผูกติดไว้ ให้เป็นประดุจมีท้อง ด้วยวิธีสมาธิอันงาม คือความสงบระงับพระหฤทัย ในท่ามกลางหมู่ชน ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    นางจิญจมาณวิกา รับจ้างเหล่านักบวชเดียรถีย์ ทำไม้มากลึงผูกติดซ่อนไว้กับท้องและกล่าวร้ายว่ามีครรภ์กับพระพุทธเจ้า แต่ไม่สำเร็จจริงวิ่งหนีออกมานอกวัดพระเววัน ทันทีที่ก้าวพ้นวัด ธรณีก็แยกสูบนางลงไปยังขุมนรก ด้วยผลแห่งกรรมนั้น

    ๖.สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ

    พระจอมมุนีทรงรุ่งเรืองแล้วด้วยประทีป คือ ปัญญาได้ชนะสัจจกนิครนถ์ (นักบวชประเภทหนึ่งในสมัยพุทธกาล) ผู้มีอัชฌาสัยในที่จะสละเสียซึ่งความสัตย์มุ่งยกถ้อยคำของตน ให้สูงดุจยกธง เป็นผู้มืดมนยิ่งนัก ด้วยเทศนาญาณวิธี คือรูอัชฌาสัยแล้วตรัสเทศนาให้มองเห็นความจริง ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้าด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    เหล่าเดียรถีย์นักบวชผู้หลอกลวง ท้าประลองฤทธิ์กับพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ ลอยไปประทับยังยอกต้นมะม่วง ทรงปล่อยน้ำอุทกหลั่งไหลและเปล่งเปลวไปออกจากพระวรกาย ซึ่งมีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะทำได้ เหล่าเดียรถีย์ได้เห็นประจักพากันเลื่อมใสขอบวชเป็นสาวก

    ๗.นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต อิทธูปะเทสะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ 

    พระจอมมุนีได้ทรงโปรดให้พระโมคคัลลานะเถระพุทธชิโนรส นิรมิตกายเป็นพญานาค ไปทรมานพญานาคราชชื่อนันโทปนันทะ ผู้มีความหลงผิดมีฤทธ์มาก ด้วยวิธีให้ฤทธิ์ที่เหนือกว่าแก่พระเถระ ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    นันโทปนันทนาคราช หลงผิดคิดว่าตนมีฤทธิ์มากกว่าพระพุทธเจ้า เนรมิตกายเป็นใหญ่โตพันเข้าพระสุเมรุแผ่พังพานบดบังแสงอาทิตย์ ปิดหนทางเสด็จจนมืดมิด พระองค์ทรงให้ พระโมคคัลลานะ แปลงกายเป็นนาคราชใหญ่กว่าหลายพันเท่ากระหวัดรัดทรมานนันโทปนันทะ จนยอมพ่ายแพ้ในที่สุด

    ๘.ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง (อ่านว่า พรัมมัง) วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม* ชะยะมังคะลานิ 

    พระจอมมุนีได้ทรงชนะพรหม ผู้มีนามว่า พกาพรหม ผู้มีฤทธิ์สำคัญตนว่าเป็นผู้รุ่งเรืองด้วยคุณอันบริสุทธิ์ มีความผิดประดุจถูกงูรัดมือไว้อย่างแน่นแฟ้นแล้ว ด้วยวิธีวางยาอันพิเศษคือ เทศนาญาณ ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแก่ข้าพเจ้า ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น

    แม้แต่ พกาพรหม ผู้ที่ถือตนว่าบริสุทธิ์กว่าผู้ใดในสามโลก ยังต้องยอมลดตนลงมาเมื่อเทียบกับความมีศีลบริสุทธิ์ของพระพุทธองค์

    ๙.เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โยวาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที หิตวานะ เนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ 

    นรชนใด มีปัญญา ไม่เกียจคร้าน สวดก็ดี ระลึกก็ดี ซึ่งพระพุทธชัยมงคล ๘ บทนี้ทุกๆวัน นรชนนั้นจะพึงละเสียได้ซึ่งอุปัทวันตราย มีประการต่างๆเป็นอเนก และถึงซึ่งวิโมกข์ (ความหลุดพ้น) อันเป็นบรมสุขแล

    (* ถ้าสวดให้คนอื่น ให้เปลี่ยนจากคำว่า เม เป็น เต)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×