ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักวุ่นชวนลุ้นของยัยจอมโหด

    ลำดับตอนที่ #2 : สุภาพบุรุษชายในฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 50


    ทำไมมันถึงไม่มีอะไรเข้าหัวเลยล่ะเป็นเพราะไม่ได้กินข้าวแน่ๆ ถึงเป็นอย่างเนี้ย เมื่อไหร่จะถึงเวลากลับบ้านซักทีนะถ้าเป็นอย่างนี้มีหวังเป็นลมตายคาห้องแน่

    ซักพักก็มีเสียงสวรรค์ดังขึ้นมาช่วย ใช่แล้วเสียงออดกลับบ้านที่ฉันนั่งรอมานานนี่เอง

    "โทโมโยะเดี๋ยวอยู่ก่อนนะ"

    ห๊า! อยู่ต่อแล้วฉันจะได้กินข้าวมั้ยเนี่ยคงนานแน่เลย

    "มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหรอคะอาจารย์"

    "โทโมโยะ ในฐานะที่เธอเป็นหัวหน้าห้องและก็เป็นสารวัตรนักเรียนที่ทำหน้าที่ได้ดีตามตำแหน่งที่ได้รับมาตลอดก็เลยมีครูคนอื่นถามเข้ามาว่าเธอสนใจที่จะเข้าสมัครเป็นประธานนักเรียนหรือเปล่า"

    "เป็นประธานนักเรียนเหรอคะ"

    "ใช่ ที่ครูมาบอกเนี่ยก็เพราะว่าเห็นเธอทำหน้าที่ได้ดีมากและเด็กคนอื่นๆ ก็กลัวเธอกันทั้งนั้นครูเลยคิดว่าน่าจะเหมาะสม แล้วเธอจะว่ายังไง"

    เป็นประธานนักเรียน ถึงเวลาที่จะสมัครเข้าเป็นประธานนักเรียนแล้วสินะตอนนี้เราก็อยู่ ม.5 แล้วแต่งานที่มีทั้งเป็นหัวหน้าห้อง เป็นสารวัตรนักเรียน มันก็เยอะพอแล้วจะให้มาเป็นประธานนักเรียนก็อาจจะไม่ไหวแล้วอีกอย่างคนอื่นๆ เขาคงไม่เลือกฉันเป็นประธานนักเรียนหรอก

    "อาจารย์คะหนูว่าหนูไม่สมัครดีกว่าค่ะ"

    "อ้าว? ทำไมล่ะ"

    "อาจารย์ลองคิดดูนะคะ หนูเป็นคนที่เข้มมากๆ และก็ดุพอสมควรแล้วอย่างนี้คนที่รู้จักหนูเขาจะมาเลือกหนูเป็นประธานนักเรียนเหรอคะ"

    "ครูว่าไม่เกี่ยวกันนะ เอาอย่างงี้มั้ยล่ะลองสมัครดูได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที"

    "...ก็ได้ค่ะ ลองสมัครดูก็ได้"

    ใครจะมาเลือกดุก็ดุ ถ้าใครรู้จักฉันล่ะก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะเลือกแต่...ลองสมัครไปก็ไม่เสียหายอะไร ยังไงก็คงไม่ได้อยู่แล้ว

    "งั้นเธอก็กลับบ้านได้แล้วล่ะครูไม่ถามอะไรแล้ว"

    "ได้ค่ะ"

    ฉันกล่าวสวัสดีอาจารย์แล้วก็เดินกลับบ้านไปพอถึงบ้านก็รีบตรงไปที่ตู้กับข้าวในทันทีแต่พอเปิดตู้กับข้าวออกมาดู

    "ห๊า! ไม่มีอะไรอยู่เลย แม่คะ!!!"

    "อะไร อะไรเหรอลูก"

    "ข้าวค่ะแม่ ข้าวน่ะไม่มีเลยเหรอคะ"

    "ก็ยังไม่ถึงเวลาอาหารแม่ก็เลยยังไม่ได้ทำน่ะจ้ะ อะไรเหรอลูกลูกหิวมากเหรอ"

    ยังไม่ได้ทำแล้วอย่างนี้จะเอาอะไรกินหิวจนจะกินคนได้อยู่แล้วขืนเป็นแบบนี้ได้เข้าโรงพยาบาลแน่

    "ไม่มีอะไรกินจริงๆ เหรอคะ"

    "อือ...ในตู้เย็นก็น่าจะมีอะไรกินรองท้องได้นะลองไปเปิดดูสิลูก"

    หลังจากที่แม่พูดจบฉันไม่รอช้ารีบวิ่งไปเปิดตู้เย็นในทันทีแต่ในตู้เย็นก็มีแต่อาหารสดๆ ที่ยังกินไม่ได้ทั้งนั้นเลยแล้วอย่างนี้...เอ๊ะ? เดี๋ยวๆ ฉันเห็นอะไรแว๊บๆ มันเหมือน ว้าว! ไอศกรีมนี่ลาภปากแล้วเราถึงจะไม่อิ่มก็ไม่เป็นไรแค่ได้กินอะไรรองท้องก็เป็นอันพอ

    "กินแล้วนะค้าาาาาา อั้ม อร่อยจัง"

    ได้กินอะไรเย็นๆ ก็ทำให้สดชื่นไม่น้อยแถมยังอร่อยอีกต่างหาก อย่างงี้โรงพยาบาลก็รอไปก่อนนะคงไม่ได้เข้าไปใช้บริการแล้วล่ะ

    "แม่คะนี่ก็ใกล้ถึงเวลาอาหารแล้วแม่จะทำเลยมั้ยคะ"

    "ทำเลยก็ได้มั้งเดี๋ยวคนที่อยู่แถวนี้จะเป็นลมไปซะก่อน" แม่พูดพร้อมกับเบียนสายตามาทางฉันเป็นเชิงล้อ

    "แหะ แหะ แม่อย่าแซวสิคะก็คนมันหิวให้ทำไงได้"

    "แล้ววันนี้ไปทำอะไรมาอีกล่ะข้าวกลางวันคงไม่ได้กินใช่มั้ยถ้าแม่เดาไม่ผิด"

    "ก็ทำนองนั้นแหละค่ะ มีเด็กนักเรียนที่ทำผิดกฎหนูก็เลยอยู่ทำโทษน่ะค่ะ"

    นี่ยังไม่รวมเหตุผลที่อีตาทาเคชิจอมกวนประสาทมารังควานฉันนะเนี่ย แต่ไม่อยากพูดเฉยๆ หรอกเพราะมันไม่ใช่ประเด็น

    "ระวังนะลูกขืนทำอย่างนี้บ่อยๆ ซักวันมันจะส่งผลเสียให้กับตัวเอง ไม่ต้องรอวันไหนหรอกดูอย่างวันนี้สิ วิ่งหาข้าวกินแทบไม่ทัน แม่ก็ว่าลูกทำหน้าที่ได้ดีแล้วนะแต่ก็อย่าหักโหมจนเกินไปนะลูกแม่ก็มีลูกสาวกับเขาอยู่คนเดียวถ้าลูกเป็นอะไรไปแม่คงแย่นะ"

    ฉันรู้ว่าแม่ไม่ได้พูดล้อเล่นเพราะครั้งนี้แม่พูดออกมาจากความรู้สึกเป็นห่วงฉันที่แสดงออกอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือแม้แต่อารมณ์

    "แม่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะหนูจะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้วล่ะค่ะ รับรองค่ะแม่"

    ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เหอะแต่ไม่รู้ว่าจะทำได้รึเปล่า ที่พูดไปก็เพื่อความสบายใจของแม่ตอนนี้ฉันเห็นแม่ยิ้มขึ้นมาอีกครั้งมันเป็นภาพที่ฉันอยากเห็นมากที่สุดเลยแหละ อิอิ

    "งั้นเดี๋ยวหนูขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะคะ พออาบเสร็จก็จะได้ลงมากินข้าวเลย" ฉันพูดแล้วเดินขึ้นบันไดไป

    วันนี้เป็นวันที่ฉันเหนื่อยที่สุดเท่าที่เคยอยู่ที่โรงเรียนนั้นมา พูดก็พูดเถอะการสมัครเป็นประธานนักเรียนเป็นความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งของฉันแต่ทำไมฉันเลือกที่จะเลี่ยงมันก็เพราะว่าแม่และแม่เท่านั้นฉันไม่อยากทำให้แม่เป็นห่วงเพราะงานที่มีมันก็ทำให้ฉันเหนื่อยไม่ใช่เล่น ฉันจะเบี้ยวงานก็ได้นะแต่ไม่เลือกที่จะทำมากกว่าฉันอยากให้โรงเรียนมีแต่นักเรียนที่ดีไม่ทำผิดกฎฉันก็เลยต้องทำ ให้ทำยังไงได้ฉันมันเป็นคนเคร่งครัดกับเรื่องพวกนี้มากซะด้วย

    "ทานแล้วนะคะ"

    พอลงมาปุ๊บก็เห็นกับข้าววางบนโต๊ะปั๊บ หอมน่ากินจังเลยงั้นไม่รอแล้วน้าาาา อั้ม หือ อร่อย อร่อย

    มากาาาาาาา

    "ไม่ถึงขนาดนั้นมั้งลูก ทำท่าอย่างกับได้กินอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกอย่างงั้นแหละ"

    "ก็มันอร่อยจริงๆ นี่คะ ฝีมือแม่เนี่ยเปิดร้านได้เลยนะคะเนี่ยหนูไม่ได้โม้"

    "แล้ววันนี้ลูกมีอะไรรึเปล่าทำไมวันนี้ถึงได้กลับบ้านช้ากว่าปกติล่ะแถมยังไม่ได้โทรมาบอกแม่อีกต่างหาก"

    "เอ่อ.......หนูขอโทษนะคะแต่อาจารย์เรียกไปพบน่ะค่ะ"

    น้ำเสียงของฉันฟังดูไม่ค่อยดีทำให้แม่คิดไปนู่นแน่ะ

    "ห๊ะ! อาจารย์เรียกไปพบอย่างลูกเนี่ยนะอาจารย์เรียกไปพบ"

    "แม่คะอย่าตกใจอะไรเลยค่ะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงหรอกค่ะอาจารย์ก็แค่..."

    "แค่อะไรล่ะลูกหยุดทำไม"

    "แค่...ถามหนูว่าจะสมัครเป็นประธานนักเรียนหรือเปล่าน่ะค่ะ"

    พูดออกไปจนได้เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยนะเนี่ย โล่งไปเยอะ

    "เฮ้อ โล่งอกไป"

    "ก็หนูบอกแล้วไงคะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร (รึเปล่า)"

    "แล้วลูกตอบไปว่ายังไงล่ะจะสมัครมั้ย"

    "ทีแรกก็บอกอาจารย์ไปว่าไม่สมัครน่ะค่ะแต่อาจารย์บอกว่าลองสมัครดูก่อนถ้าได้ไม่ได้ยังไงค่อยว่ากัน หนูก็เลยคิดว่าสมัครไปก็คงไม่เสียหายอะไร"

    "ลูกพูดอย่างงั้นก็เถอะนะแต่งานที่ลูกมีก็ทำให้ลูกปวดหัวไม่ใช่น้อย ไหนจะเรื่องเรียนเรื่องคุมความประพฤติของนักเรียนอีกแค่งานนี่ลูกแม่ก็ลำบากแย่อยู่แล้วแล้วถ้าได้เป็นประธานนักเรียนขึ้นมาภาระอะไรมันก็ต้องตกอยู่ที่ลูกเต็มๆ ลูกแม่จะไหวเหรอ"

    ใช่ อย่างที่แม่พูดนั่นแหละภาระก็ต้องตกอยู่ที่ฉันเต็มๆ งานก็ต้องมีเยอะขึ้นแน่นอนมีกิจกรรมอะไรก็ต้องไปร่วมทุกครั้งอย่างนี้ก็แทบจะไม่มีเวลาว่างเลย

    "แต่...แม่คะหนูว่าหนูคงไม่ได้เป็นหรอกค่ะแม่อย่าห่วงไปเลย"

    "ทำไมล่ะลูก"

    "ที่หนูสมัครเนี่ยก็ไม่ได้หวังว่าจะชนะ แม่ก็รู้นี่คะว่าหนูอยู่ที่โรงเรียนหนูเป็นสารวัตรนักเรียนที่โหดขนาดไหนแล้วอย่างนี้จะมีคนมาเลือกเหรอคะหนูว่าโอกาสที่จะมีคนมาเลือกคงแทบจะไม่มีเลยล่ะค่ะ"

    "งั้นเหรอลูก แม่ว่าเรารีบๆ กินข่าวกันเถอะนะคุยเพลินอาหารเย็นหมดแล้วพอกินเสร็จลูกจะได้ขึ้นไปนอนไงล่ะจะได้เก็บแรงไว้วันพรุ่งนี้ด้วย"

    วันนี้เป็นวันที่ฉันได้ระบายสิ่งต่างๆ ที่เก็บไว้ออกมาให้แม่รับรู้ รู้สึกโล่งแล้วก็สบายใจขึ้นเยอะกว่าแต่ก่อนมาก แล้ววันพรุ่งนี้จะมีอะไรที่น่าตื่นเต้นรอฉันอีกรึเปล่านะ

    "ไปแล้วนะคะ"

    เช้านี้อากาศช่างสดชื่นและก็ปลอดโปร่งเป็นเช้าที่เหมาะกับการเรียนอะไรอย่างงี้ อย่างนี้สมองคงจะรับรู้อะไรไวขึ้นกว่าปกติ

    ปรี๊นนนนนนนนน! ปรี๊นนนนนนนนนนนนนน!!

    เสียงแตรรถคันนึงบีบใส่ฉันจนแทบตั้งตัวไม่ทันแน่ะ

    "เฮ้ย! ขับรถยังไงเนี่ย อย่างงี้ไม่ดีเลยนะนึกว่ารวยแล้วจะมาขับเฉี่ยวคนโน้นคนนี้ได้งั้นเหรอแน่จริงก็เข้ามาเด้"

    ถึงจะรีบก็ไม่น่าทำแบบนี้ อย่างงี้มัน...อ้าวเฮ้ย!

    "เมื่อกี้เป็นอะไรรึเปล่าครับผมต้องขอโทษคุณจริงๆ นะครับคือว่าผมรีบน่ะครับ"

    มาจริงๆ ด้วยแห๊ะ ลงทุนถอยรถกลับมาขอโทษฉันเลยเหรอเนี่ย

    "ถึงจะรีบแค่ไหนก็เถอะก็ไม่ควรทำอย่างงี้ถ้าฉันเกิดเป็นอะไรขึ้นมานายจะว่ายังไงแต่...อุตส่าห์มาขอโทษก็ไม่เป็นไรหรอกเอาเป็นว่าฉันไม่ถือโทษโกรธนายก็แล้วกัน"

    "ขึ้นมาสิครับเดี๋ยวผมจะพาไปส่ง"

    "พาไปส่ง ไม่ต้องก็ได้ฉันเดินไปเองก็ได้เดี๋ยวก็ถึงโรงเรียนแล้วแต่ยังไงก็ขอบใจนะ"

    อีตานี่มาดแมนจริงแห๊ะมีความเป็นสุภาพบุรุษอย่างเหลือล้น

    "ขึ้นมาเถอะครับผมจะไปส่งถือว่าเป็นการขอโทษนะครับ"

    "ก็นายขอโทษแล้วไม่ใช่รึไง ไม่ต้องหรอกฉันเดินไปเองได้"

    เฮ้ย เฮ้ย จะลงมาทำไมเนี่ย ลงมาทำม๊ายยยย

    "เชิญครับ"

    โอ้โห นายนี่นี่ดื้อดึงจริงๆ เลยแห๊ะ ถึงขนาดยอมลงทุนมาเปิดประตูรถให้ฉันขึ้นเลยเหรอเนี่ย

    "คือ...เอ่อ..."

    ตามตื้อจริงๆ เลย อย่างงี้ฉันก็ลำบากใจนะ

    "เชิญครับ"

    "ก็ได้ ก็ได้"

    สุดท้ายก็ลงเอยแบบนี้ รู้งี้นั่งตั้งแต่ทีแรกก็ดีอ่ะเสียเวลาจริงๆ เฮ้อ ยอมรับจริงๆ ว่าเขานี่ตื้อได้ถล่มทลายจริงๆ

    "จอดตรงโรงเรียนข้างหน้านะคะ" ฉันบอกกับคนขับรถของเขา

    "คุณเรียนอยู่ที่โรงเรียนนั่นเหรอครับ"

    "เอ่อ...ใช่ ทำไมเหรอ"

    "ผมก็จะไปเรียนที่นั่นเหมือนกันครับ ทำเรื่องย้ายเข้าแล้วด้วย"

    ไม่จริงอ่ะ เหลือเชื่ออีกแล้วมันจะบังเอิญอะไรขนาดนี้ โกหกใช่มั้ยเนี่ย

    "พูดเล่นน่าจะมาเข้าเรียนที่นี่จริงๆ เหรอนายน่ะ"

    "ผมพูดจริงนะครับรู้สึกว่าจะอยู่ห้องห้อง 2 ของ ม.5 น่ะครับ"

    และนี่ก็เป็นเรื่องสุดเหลือเชื่ออีกแล้วครับท่านห้องเดียวกับฉันเดี๊ยะ

    "ผมชื่อโคจิโร่ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะครับ"

    "อือ...อือ ฉันชื่อโทโมโยะยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน"

    ฉันพูดทั้งๆ ที่ยังอึ้งไม่หายสุดจะบรรยายถ้าบอกเป็นความฝันฉันจะเชื่อนะใครก็ได้ช่วยบอกทีว่าเป็นความฝัน

    "ถึงแล้วครับ"

    เพล้งแล้วก็เพล้ง ไม่จริงอ่ะนี่ไม่ใช่ความฝันเหรอเนี่ยตอนนี้ฉันกำลังเดินอยู่กับนักเรียนใหม่ที่จะเข้ามาอยู่ที่โรงเรียนเดียวกับฉันแถมยังอยู่ห้องเดียวกับฉันอีก

    "นายดูจะเป็นคนรวยมากสินะ"

    "พ่อผมเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงน่ะครับผมก็เลยได้พึ่งบารมีของพ่อ"

    ดูเผินๆ เขาก็เป็นมิตรมากเลยตั้งแต่พูดด้วยกันมาเนี่ยก็ได้ยินแต่ครับแล้วก็ครับตลอดฉันคงคิดไปเองแหละที่คิดว่าคนรวยทุกคนจะเห็นแก่ตัวและชอบดูถูกคนอื่นแต่สำหรับเค้ามันไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดเลยเค้าทั้งสุภาพ และเป็นคนช่างเสียสละ ฉันชักจะหลงเสน่ห์ความเป็นสุภาพบุรุษของเขาเข้าซะแล้วสิ อิอิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×