ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [[คุณหนูมือใหม่]] fic: TVXQ

    ลำดับตอนที่ #5 : Special :My Memory 1:

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 49


    ปี 1998

                  งานวันจบการศึกษาของโรงเรียนประถมศึกษาเอกชนแห่งหนึ่ง

    "นักเรียนที่มีผลการศีกษายอดเยี่ยมอันดับ 1 ได้แก่..ด.ญ.เอมวลี นักเรียนหลักสูตร English Program  เกรดเฉลี่ย 3.97 ค่ะ"

    เสียงปรบมือดังกระหึ่มทั้งห้องประชุมอันหรูหรา ฉันลุกขึ้นยืนขึ้นแล้วเดินตรงไปที่เวที ให้ตายเถอะ กว่าจะสั่งให้เท้าก้วขึ้นบันไดไปได้นี่มันยากจริงๆ  คนเยอะขนาดนั้น ทุกคนกำลังจ้องมองฉันอยู่ คงอยากจะเห็นหน้านักเรียนที่เรียนได้ที่ 1 ของระดับ ฉันรวบรวมสติอีกครั้ง สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด และเดินเชิดหน้าขึ้นไปบนเวที  ฉันเดินไปจนถึงกลางเวที

    "เรียนเชิญท่านผู้อำนวยการ ให้เกียรติมอบเกียรติบัตรแก่นักเรียนคนเก่งของเราด้วยค่ะ" อาจารย์สาวผู้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรเอ่ยขึ้น

    ผู้อำนวยการยื่นเกียรติบัตรให้ฉัน แล้วบอกให้ฉันรับค้างไว้เพื่อถ่ายรูป แสงแฟลชจากกล้องหลายตัวกำลังทำฉันมึน  ฉันพยายามมองลงไปที่ข้างล่างเพื่อหาใครคนหนึ่ง อา...คนเยอะจริงๆเลย  นั่นไงเจอแล้ว คุณแม่ของฉัน ฉันมองเห็นแม่กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาที่นองหน้า แม่ฉันนี่บ่อน้ำตาตื้นจริงๆเลย 

    เสร็จจากงานฉันกับแม่เดินเกี่ยวก้อยกันกลับบ้าน  วันนี้ฉันมีความสุขที่สุดเลย แม่ก็คงจะเหมือนกัน 

    ปิ๊น....ปิ๊นๆๆ  รถเบนซ์คันใหญ่ขับมาหยุดที่เรา แล้วกระจกรถก็เลื่อนลงมา ฉันมองเห็นคนที่นั่งด้านหลังคือยัยหมวยเพื่อนร่วมห้องฉันเอง

    "เอม กลับด้วยกันมั้ย" ยัยหมวยถาม

    "ไม่ล่ะจ๊ะ  ฉันเดินกลับกับแม่ดีกว่า บ้านฉันอยู่ไม่ไกล"

    "งั้นตามใจนะ นี่ฉันจะติดต่อเธอได้ไงเนี่ย เบอร์โทรก็ไม่มี เพจเจอร์ก็ไม่มี"

    "เอ่อ...คือ"  ฉันอ้ำอึ้ง เพราะคิดไม่รู้จะตอบหมวยยังไง ทันใดนั้น คนที่นั่งข้างๆหมวย ฉันคิดว่าคงจะเป็นแม่ของหล่อน ชะโงกหน้ามามองฉันกับแม่ แล้วทำสายตาเหยีดๆ บึนปากเล็กน้อย

    "อาหมวย ลื้อคุยกะคราย ท่าทางดูไม่ใช่คงชั้นเลียวกะเลา ไปล่ายเลี้ยวว ออกลดล่าย!!"

    "แล้วเจอกันนะเอมมม..."

    ฉันมองดูรถของหมวยแล่นไกลออกไป....ไกลออกไป..... เฮ่อ...ฉันได้แต่ถอนใจกับตัวเอง แล้วก้มหน้าเดินต่อไป แม่เดินขึ้นมาจับมือฉัน

    "ลูกเอม...อายเขาเหรอลูก แม่ขอโทษนะที่แม่ไม่มีเหมือนคนอื่นเขา  ลูกน่าจะได้ในสิ่งที่ดีกว่านี้ ลูกไม่น่าจะต้องลำบากเดินมาโรงเรียนทุกเช้าทั้งๆที่บ้านเราไกลจากโรงเรียนมาก  ลูกน่าจะมีเสื้อผ้าแพงๆใส่เหมือนเพื่อนๆที่โรงเรียน ลูกน่าจะ..."

    "แม่คะ  พอเถอะค่ะ อย่าคิดมากเลยนะ หนูไม่เป็นไร วันนี้หนูก็มีในสิ่งที่คนอื่นไม่มีนะ"

    แม่มองหน้าฉันอย่างสงสัย 

    "นี่ไง  แม่ภูมิใจมั้ยคะ"ฉันยื่นใบเกียรติบัตรให้แม่

    "แล้วหนูก็ยังมีแม่ที่น่ารักอย่างนี้  หนูไม่มีทางอายใครหรอกค่ะ มีแต่คนอื่นต้องอิจฉาหนู" ฉันยิ้มให้แม่

    "ลูกเอม  แม่จะส่งลูกไปเรียนต่อที่อเมริกา ไปอยู่กับป้าอันนะ"

    "อะไรนะคะ.....แม่จะให้หนูไปอยู่กับคนที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเราเลยเนี่ยนะ"

    "ไม่เกี่ยวอะไรกันจ๊ะ  ลูกก็รู้จักกับป้าอันมาตั้งแต่เด็ก เค้าเป็นเพื่อนบ้านเรานะ"

    "แต่  แม่คะหนูจะไปอยู่ที่นั่นได้ไงล่ะ  หนูไม่อยากไปอ่ะ ไม่ไปๆ"

    "อย่าดื้อนะจ๊ะ  เตรียมตัวไว้อีก 1 อาทิตย์ป้าอันจะกลับอเมริกา หนูต้องกลับไปพร้อมเขา"

    หวา ....ฉันละไม่เข้าใจแม่ฉันจริงๆ จิตใจทำด้วยอะไร จะให้เด็กที่เพิ่งจบ ป.6 ไปอยู่อเมริกาคนเดียว  ฉันไม่เคยรู้เลยว่าที่นั่นเป็นยังไง  คงจะมีแต่ฝรั่งแล้วฉันจะพูดกับใครรู้เรื่องล่ะเนี่ย แม่ฉันชอบทำอะไรแปลกๆ  ทั้งส่งฉันไปเข้าโรงเรียนเอกชนที่ค่าเทอมแพงลิบ มีแต่พวกลูกคนรวยไฮโซเค้าเรียนกัน บ้านเราก็ไม่ได้รวยอะไรเลยแค่ลำพังเงินเดือนของพ่อฉันที่เป็นพนักงานธนาคารเล็กๆก็จะไม่พอใช้ด้วยซ้ำ แม่ก็ต้องทำงานรับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้า ได้เงินน้อยนิด ค่าเทอมของฉันนั้น อาศัยกู้เค้ามา บ้านเราไม่มีรถ หรือแม้แต่โทรศัพท์ก็ยังไม่มี  ทำไมยังพยายามส่งฉันไปอยู่ในที่ๆเกินตัวขนาดนั้น  แต่เจ้าแอมน้องชายฉันกลับได้เรียนแค่โรงเรียนวัดที่ใกล้บ้าน เรียนฟรี ไม่มีค่าเทอม

    หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป ไวเหมือนโกหก ตอนนี้ทุกคนมายืนอยู่หน้าบ้าน(ยกเว้นพ่อ ไปทำงาน) เพื่อรอส่งฉันขึ้นรถไปกับป้าอัน  แม่ทำหน้าตายิ้มแย้มสดใส ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่ลูกสาวคุณกำลังจะไปต่างประเทศนะคะ ไม่รู้สึกรู้สาอะไรบ้างเหรอ  ส่วนเจ้าแอมน้องชายตัวเล็กของฉันน่ะ ยืนอยู่ข้างๆแม่ ทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้

    "แม่จ๋า.....หนูจะไปแล้วนะ"

    "จ๊ะ  โชคดีนะลูก"  แม่ตอบพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ  ม่ายยย ฉันไม่ต้องการรอยยิ้มนั้น

    "หนู จะไปจริงๆแล้วนะ"

    "จ๊า..."

    โธ่  ฉันต้องการให้แม่กอดลาฉันสักครั้ง  แต่ทำไมแม่ถึงเอาแต่ยิ้มนะ  ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงกระโดดเข้ากอดแม่ไว้แน่น ฉันอยากใกล้ชิดแม่ให้มากที่สุด เพื่อจดจำกลิ่นกายของแม่ไว้  มันเป็นกลิ่นที่ฉันคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก จากนี้ไปฉันคงจะไม่ได้กลิ่นนี้อีกแล้ว ความรู้สึกอบอุ่นที่หาจากไหนไม่ได้  ฉันจะอยู่ได้ยังไงถ้าขาดไออุ่นนี้   หยดน้ำอุ่นๆตกลงมาที่กลางหน้าผากฉัน แม่กำลังร้องไห้

    "แม่คะ  แม่ก็ไม่อยากให้หนูไปใช่มั้ย แม่ยังต้องการหนูอยู่ใช่มั้ย??" ฉันถามด้วยน้ำตานองหน้า

    "ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ  แม่รักหนูนะ  แต่แม่จำเป็นต้องส่งหนูไปเรียนต่อที่ๆดี เพื่อตัวหนูเอง วันข้างหน้าหนูจะได้ไม่อายใคร"

    "หนูไม่อยากไปเลยค่ะ  แม่อย่าให้หนูไปเลยนะ"

    "ใช่ๆ แม่อย่าให้พี่ไปเลยนะ ผมจะเล่นกับใครล่ะ" เจ้าแอมร้องไห้ขี้มูกโป่ง

    "เสร็จรึยังจ๊ะ  ไปช้าเดี๋ยวตกเครื่องนะ" ป้าอันซึ่งนั่งอยู่ในรถ  พูดด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ

    "เป็นเด็กดีนะลูก"  แม่พยายามแกะมือเล็กๆของฉันที่โอบกอดอยู่ออก  แล้วกึ่งลากกึ่งผลักฉันเข้าไปในรถ ฉันพยายามดิ้นสุดแรงแต่แล้วก็มีท่อนแขนใหญ่ๆมาล๊อคตัวฉันไว้ ลุงเฮนรี่นั่นเอง เขาเป็นสามีของป้าอัน เป็นชาวอเมริกัน ที่ๆฉันกำลังจะไปอยู่ก็คือบ้านของลุงเฮนรี่นั่นเอง เขากอดฉันไว้แน่นจนฉันแทบหายใจไม่ออก

    "ฝากด้วยนะคะพี่อัน  น้องเอมไม่ใช่เด็กดื้ออะไรเลยค่ะ"

    "อู๊ย....ไม่ต้องการันต์ตีขนาดนั้นหรอกค่ะ  ก็เห็นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย  พี่เองก็ยังมาช่วยเลี้ยงน้องเอมบ่อยๆ  พี่จะดูแลให้ดีเหมือนลูกตัวเองเลยค่ะ ลาก่อนนะคะ"

    รถกำลังจะเคลื่อนตัวออกไป  ไม่นะ ฉันไม่อยากไป  ใครก็ได้ช่วยที

    "แม่......."ฉันเอาหน้าแนบกระจกรถ ร้องตะโกนดังลั่น

    "แม่จ๋า...ฮือๆๆ"

    ฉันมองแม่กับเจ้าแอมค่อยๆห่างไกลฉันออกไป ภาพนั้นเล็กลงเรื่อยๆ จนหายลับไป.......

    +

    +

    +

    +

    +

    +

    +

    +

    ++

    ++

    ++

    +++

    ++++

    +++

    ++

    ++

    "น้องเอมๆ ..."  เสียงใครบางคนปลุกฉันตื่นจากการหลับใหล  ป้าอันนี่เอง ฉันงัวเงียค่อยๆลืมตาขึ้นมา

    "ถึงแล้วนะลูก ตื่นได้แล้ว"

    "ค่า....อ๊า..หาววว" ง่วงจังเลย ฉันสลัดหัวไล่ความง่วงออกไป ตอนนี้ฉันพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานที่ๆแปลกไป  มีคนเดินกันเยอะอย่างกะมดน่ะ  ไม่ใช่มดธรรมดา แต่เป็นมดหัวทอง แต่ละคนก็ตัวสูงมาก สูงกว่าพ่อฉันอีก  บางคนก็มีผิวสีดำ ฉันไม่ได้พูดเวอร์นะ สีดำเหมือนถ่าน เลยล่ะในโลกนี้มีคนที่ดำขนาดนี้ด้วยเหรอ  คนที่นี่มีแต่แปลกๆทั้งนั้น หวา.....อยากกลับบ้าน

    จากสนามบินใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านของลุงเฮนรี่  ป้าอันพาฉันเข้าบ้านโดยมีลุงเฮนรี่หิ้วกระเป๋าตามเข้ามา

    "หนูหิวมั้ยจ๊ะ??" ป้าอันถามฉัน คงเป็นห่วงเพราะตั้งแต่เดินทางมาฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย

    หงึก....หงึก  ฉันพยักหน้าตอบ

    "งั้นเราคงต้องดินเนอร์กันตอน 4 ทุ่มนี่แหละ รอป้าเดี๋ยวนะจ๊ะ รับรองต้องอิ่มอร่อยแน่"

    ป้าอันหายเข้าไปในครัว  ส่วนลุงเฮนรี่กำลังขนกระเป๋าขึ้นไปชั้นบนของบ้าน  ฉันเริ่มเดินสำรวจรอบบ้าน สองคนนี้คงไม่มีลูก เพราะฉันไม่เห็นเจอใครคนอื่นเลย  เฮ้อ....ต่อไปฉันต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ซินะ  หวังว่าคงจะมีแต่สิ่งดีๆนะ

    โฮ่งๆๆ  โฮ่งๆๆ  โอ๊ะ...หมาน้อยน่ารักจัง ความจริงเจ้านี่ก็ตัวไม่เล็กเลยนะ มันเป็นสุนัขพันธุ์โกลเดน รีทรีฟเวอร์ขนสีทองสวยเชียว  ตั้งแต่แรกเห็นฉันก็ตกหลุมรักมันทันที มันก็คงเหมือนกันเพราะมันให้การต้อนรับฉันเป็นอย่างดี ฉันนั่งลงไปเล่นมวยปล้ำกับมันพักใหญ่ 

    "เอมม่า"

    เรียกใครน่ะ  ฉันงั้นเหรอ ฉันหันกลับไปมอง ลุงเฮนรี่นั่นเอง ฉันยังคงทำหน้างงๆ

    "เธอนั่นแหละเอมม่า  มานั่งตรงนี้ซิ"

    "อ่อ...ค่ะๆ"  ฉันเดินไปนั่งบนโซฟาข้างๆเขา เจ้าหมาน้อยก็เดินตามฉันไปด้วย

    "อ้าว  ไทโนก็มาเหรอ หมาของลุงน่ารักใช่มั้ยล่ะ"

    "ค่ะ น่ารักมาก มันชื่อไทโนเหรอคะ"

    "ใช่แล้ว  อืม ....ฟังนะ ต่อไปนี้ฉันจะเรียกเธอว่าเอมม่า  เธอควรจะมีชื่อภาษาอังกฤษได้แล้ว  ตอนนี้เธออยู่อมเริกาแล้วนะ ไม่ใช่เมืองไทยอย่าลืมล่ะ  แล้วเราจะบอกเรื่องนี้กับป้าเธอที่โต๊ะอาหาร โอเค๊ะ??"

    "ค่ะ ขอบคุณค่ะลุง"

    ลุงเฮนรี่ยกมือขึ้นลูบหัวฉันอย่างเอ็นดู

    "อาหารพร้อมแล้วจ๊า" ป้าอันส่งเสียงมาแต่ไกล กลิ่นสเต๊กหอมฉุยลอยมาเตะจมูกอย่างจัง น้ำย่อยในกระเพาะฉันเริ่มทำงานแล้วซิ 

     ที่โต๊ะอาหารลุงเฮนรี่คุยกับป้าอันเรื่องชื่อใหม่ของฉัน  ป้าอันหัวเราะชอบใจใหญ่เลย บอกว่าเหมาะกับฉันดีเพราะชื่อเดิมก็คล้ายๆกับชื่อใหม่  เป็นอันว่าต่อไปนี้ฉันคือ เด็กหญิงเอมม่า  ป้าอันยังคุยกับลุงเฮนรี่เรื่องหาโรงเรียนให้ฉัน ลุงบอกจะรีบจัดการให้ ไม่เกิน1อาทิตย์ฉันก็จะได้ไปโรงเรียนแล้ว

    ป้าอันจัดห้องนอนให้ฉันห้องหนึ่ง  ไม่น่าเชื่อทุกอย่างในห้องฉันเป็นสีชมพู ตั้งแต่เตียงนอน ผ้าม่าน โต๊ะกับเก้าอีก็ยังเป็นสีชมพู ป้าอันคงจะรู้ว่าฉันชอบสีชมพูที่สุด แหงล่ะป้าเค้าเป็นคนเลี้ยงฉันมาตั้งแต่เด็ก เวลาที่แม่ฉันยุ่งอยู่กับงานป้าอันจะเป็นคนดูแลฉันแทน บางทีฉันก็ไปที่บ้านป้าอันบ่อยๆเพราะบ้านเราห่างกันแค่รั้วกั้น

    "พักผ่อนซะนะจ๊ะคนดี  Good Night จ๊ะ"  ป้าอันฝากgood night kiss ไว้ที่หน้าผากฉันก่อนจะเดินไปปิดไฟ และออกจากห้องไป

    ไฟในห้องดับลง ฉันต้องใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีเพื่อปรับสายตาให้ชินกับความมืด  มันคงเหมือนกับตัวฉันเอง ที่กำลังใช้เวลาปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน อีกไม่นานฉันคงจะชินและคุ้นเคยกับที่นี่ จนใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขนะ  แต่ว่า.....ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือ  ฉันนอนไม่หลับ   ฉันพยายามข่มตาลงเท่าไรก็ยังไม่หลับ  ทำไงดีเนี่ย สงสัยเพราะฉันนอนมามากแล้ว  อ๊ากกกกกกก......นอนม่ายหลับว๊อยยยย

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ฉันนอนพลิกไปพลิกมา  จนแสงสว่างยามเช้าลอดเข้ามาทางหน้าต่าง ฉันเหลือบมองนาฬิกาที่ผนังห้องตอนนี้เวลา 7 โมงเช้า  ฉันลุกจากเตียงเดินไปที่หน้าต่างเพื่อสำรวจสภาพอากาศ  ว๊าว...เช้านี้สดใสจัง  ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าเราแล้วค่อยลงไปเดินเล่น

    ฉันใช้เวลา 30 นาทีในการอาบน้ำจากนั้นจึงลงมาข้างล่าง  ฉันเห็นลุงเฮนรี่นั่งจิบกาแฟอยู่ที่โต๊ะทานอาหาร เขาคงกำลังจะไปทำงาน ส่วนป้าอันก็กำลังง่วนอยู่ในครัว

    "Morning Emma"

    "Morning ค่ะลุง หนูออกไปเดินเล่นที่หน้าบ้านได้มั้ยคะ"

    "ตามสบาย แต่อย่าไปไหนไกลนะ เธอยังไม่ชินกับที่นี่"

    "ค่ะ"

    ฉันเอื้อมมือไปเปิดประตู แต่ยังไม่ทันจะก้าวออกจากบ้าน ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรพุ่งผ่านประตูไปก่อนฉัน 

    โฮ่งๆๆ  ไทโนนั่นเอง  มันวิ่งไปที่สนามหญ้า แล้วหันกลับมามองฉัน ราวกับจะเรียกฉันให้ออกมาเล่นด้วยกันเถอะ

    "มาแล้วววว ย๊ากก...ไทโนแกต้องโดนเฮดล๊อค (ชื่อท่ามวยปล้ำค่า)"

    ระหว่างที่ฉันกำลังจับเจ้าไทโนกดเพื่อรอกรรมการนับอยู่นั้น มีหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งหล่นลงมาโดนหัวฉันเต็มๆ อ๊า...เจ็บจัง  ฉันเหลียวไปดูก็เห็นเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังจะปั่นจักรยานออกไป   เจ้าไทโนไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน มันกะโจนออกจากอ้อมกอดของฉันแล้ววิ่งตามจักรยานคันนั้นไป

    "ไทโน กลับมาน๊า..... กลับมา...."

    เด็กชายคนนั้นคงไม่รู้ตัวว่ามีเจ้าสี่ขาตัวสีทองวิ่งไล่อยู่  เขายังคงปั่นจักรยานเนิบๆ เรื่อยๆ แล้วก็

    โฮ่งๆๆ.....แฮ่............  เจ้าไทโนกระโดดตัวลอยเข้าเด็กคนนั้น

    โครมมมมมม.....

    "โอ๊ย....ช่วยด้วยๆๆ หมาจะฆ่าโผมม"  เด็กชายร้องเสียงหลง พร้อมกับยกแขนขึ้นมาปกป้องตัวเองจากคมเขี้ยวของไทโน

    "ไทโน หยุดเดี๋ยวนี้"  เหมือนคำสั่งของฉันจะไร้ผล เจ้าไทโนยังคงรังแกเด็กชาย   ฉันเห็นท่าไม่ดีเลยวิ่งเข้าไปคว้าปลอกคอไทโนแล้วลากมันออกจากตัวเด็กชายผู้โชคร้าย  ตอนนี้ฉันเห็นใบหน้าเขาเต็มไปด้วยน้ำลาย  เสื้อผ้าสกปรกมอมแมมดูไม่จืดเลย  ฉันอยากจะหัวเราะออกมาแต่จิตสำนึกมันบอกว่าไม่สมควร

    "ฮือๆๆ....ฮึก...ฮึก" เขานั่งกอดเข่าร้องไห้สะอึกสะอื้น ตัวสั่นเทา น่าสงสารจริงๆเลย   เห็นอย่างนั้นฉันเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมา จึงแก้สถานการณ์โดยการหันไปดุไทโนอย่างรุนแรง

    "นี่เห็นมั้ยๆๆ  แกทำอะไรลงไป จะฆ่าเค้าเหรอ นี่แน่ะๆๆ" ฉันจับปลอกคอไทโมสะบัดค่อนข้างแรง  จนมันครางเอ๋งๆ  สักพักเจ้าไทโนก็ทำเป็นล้มลงไปนอนเหมือนคนแกล้งเป็นลมยังไงยังงั้นเลย

    "ไทโน  ลุกขึ้นมานะ  อย่าใช้แผนนี้ไม่ได้ผลหรอก นับ1ถึง3นะ ถ้าไม่ตื่นโดนแน่ หนึ่งง.....สองงงง.......สองครึ่ง.....สา…"

    หงิงง.....เจ้าไทโนผงกหัวขึ้นมาก่อนที่ฉันจะนับเสร็จ  เจ้านี่ฉลาดเป็นกรดเชียว

    "ฮึๆๆ ฮึๆๆ"  เด็กชายมองมาทางฉันแล้วหัวเราะ เฮ้อ....นี่ฉันไม่ได้เล่นตลกคาเฟ่นะ แต่ก็ดีที่เขายิ้มได้ 

    "นายเป็นไงบ้างอ่ะ"

    "ไม่เป็นไรแล้ว  ตอนแรกๆตกใจมาก แต่เห็นเธอกับเจ้าหมานี่ตลกดี ฮ่าๆ"

    "ไหนขอฉันดูแผลหน่อยซิ"  ฉันเข้าไปใกล้ๆเขา  เพื่อมองหาร่องรอยที่น้องหมาตัวดีทำไว้   เหลือเชื่อแน่ะ....ไม่มีแผลเลย 

    "เหอะๆๆ ฉันเข้าใจแล้วล่ะ เจ้าไทโนไม่ได้ตั้งใจทำร้ายนายหรอก มันแค่อยากเล่นด้วย แต่นายไม่หยุดเล่นกับมันเอง  มันเลยต้องเป็นฝ่ายหยุดนาย"

    "หยุดแบบนี้เนี่ยนะ โหดมากเลย"

    "แค่มันล้อเล่นน่า  ไม่ถือว่าโหด"  ฉันแก้ตัวแทนไทโน  ทำไปเพื่ออะไรล่ะเนี่ย

    "อืม...แล้วแบบเธอใช่มะ ถึงจะเรียกว่าโหด"

    "อ้าว  ไหงพูดงี้ ฉันเป็นคนช่วยนายนะ"

    "ก็ฉันเห็นเธอทำกับหมาของเธอแล้ว ไม่เรียกว่าโหดแล้วเรียกว่าอะไรดี  เธอสะบัดจนหัวมันเกือบจะหลุดอยู่แล้วนะ"

    "จริงเหรอ นายว่างั้นเหรอ"  ฉันหันไปมองไทโน ที่ตอนนี้กำลังนอนหมอบทำหน้าสำนึกผิด หวา..น่าสงสารจริงๆด้วย

    "เออ  ว่าแต่นายทำไมมาปั่นจักรยานแถวนี้" ฉันถามไปเพราะไม่มีอะไรจะถาม

    "ก็มาส่งหนังสือพิมพ์ ฉันเพิ่งมาทำงานวันแรกน่ะ เธอคงไม่คุ้นหน้าฉันใช่มะ"

    "เอ่อ  ฉันก็เพิ่งมาอยู่ที่นี่วันแรกเหมือนกัน  แต่...ตะกี๊นายว่า หนังสือพิมพ์  งั้นที่มันโดนหัวฉันเมื่อกี๊ ฝืมือนายใช่มั้ย"  ฉันเริ่มเอามือท้าวเอวเตรียมด่าหมอนี่เต็มที่

    "อิอิอิ  ก็ต้องส่งให้ถึงผู้รับไงคร๊าบบ " เขาทำหน้าทะเล้นนิดๆ

    "แล้วนายมาส่งที่บ้านฉันที่เดียวรึไง ไม่ไปที่อื่นเหรอ"

    "ไปซิ ฉันต้องไปส่งหลายที่...ว๊าย....ฉันลืมไปเลย ...นี่ฉันไปก่อนนะ ถ้าส่งช้าแล้วฉันจะไปโรงเรียนไม่ทัน บ๊ายย บายยยยย"

    เขาวิ่งไปคว้าจักรยานที่ล้มอยู่แล้วปั่นไปอย่างรวดเร็ว

    "เฮ้.....เดี๋ยวนายชื่ออะไร  ฉันเอมม่านะ เฮ้....ได้ยินม๊ายยยย" กว่าฉันจะคิดออกว่าลืมถามคำถามสำคัญเขาก็ไปไกลซะแล้ว  ช่างปะไรฉันไม่รู้จักชื่อเขาวันนี้แต่พรุ่งนี้เขาก็ต้องมาใหม่ ฉันค่อยถามเค้าก็ได้ แต่ว่าหน้าตาเขาคล้ายคนเอเชียมากเลย ผมดำสนิท ผิวขาวอมชมพู ตาเล็กๆ ฉันจะเรียกเขาว่านายตาตี่  อิอิอิ  เข้าท่าดีเหมือนกัน


    ********************************************************************
    From Writer

    อ่ะ อย่างงนะคะว่าทำไมมาถึงตรงนี้ได้  นางเอกของเรา
    ไปเกาหลีแล้วไม่ใช่เหรอ? ถูกค่ะไปถึงโดยสวัสดิภาพแล้ว
    ตอนSpecial :My Memory  จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความ
    ทรงจำในอดีตของนู๋เอมค่ะ  ช่วงที่อยู่'เมกาไง  วันนี้อัพไป
    หลายตอนเลยนะคะ  จะได้อ่านกันต่อเนื่องไง

    อ่านและก็เม้นต์ด้วยน๊าคะ  See You..Ka

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×