คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : chapter :2: บางอย่างที่เกาหลี?
ฉันเดินมาถึงหน้าห้องทำงานของคุณพ่อ กะจะเคาะประตูตามมารยาท แต่ฉันต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงประหลาดดังแว่วมาจากในห้อง
"เสียงอะไรแปลกๆ"ฉันคิดพลางค่อยๆแง้มประตูออกเล็กน้อย ไม่ให้คนภายในห้องรู้ตัว พร้อมสอดส่ายสายตาไปตามช่องว่างอันน้อยนิด ภาพที่เห็นทำให้ฉันดวงตาเบิกกว้างตกใจสุดขีด
"พะ.. พะ..พ่ออ........"
.
.
.
.
.
"ปั๊งงงง........" ฉันยืนตัวแข็งทื่อทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น ก็นั่นน่ะมันเสียงของ
"ปังย่า.....ปังย่า....."
ใครจะไปคิดล่ะว่าผู้ชายที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ตำแหน่งก็แค่....แค่เอ่อผู้จัดการธนาคารชื่อดังจะใช้เวลาว่างที่มีอยู่น้อยนิด หมดไปกับการเล่นเกมพวกนี้น่ะ (เค้ามีแต่เด็กๆเล่นกันนะลุง)
"คุณพ่อเล่นเกมนี้ด้วยเหรอคะ?" ฉันถามอย่างสงสัย
" อืม ลูกไม่ลองบ้างเหรอ สนุกดีนะ"พ่อพูดกับฉันแต่สายตายังจดจ้องอยู่กับจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า
" พ่ออยากตีกอล์ฟก็ทำไมไม่ไปที่สนามหลังบ้านล่ะคะ หนูว่าคงได้'รมกว่าเยอะเลย"
"แดดมันร้อนน่ะลูก เฮ้ยๆๆ....OH No!! พลาดจนได้ ลูกทำพ่อเสียสมาธินะ" พ่อดุฉันทั้งๆที่สายตายังจดจ้องอยู่กัจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า
ให้ตายเถอะโรบิ้น แล้วใครว๊าที่ลงทุนเปลี่ยนป่าละเมาะหลังบ้านให้เป็นสนามกอล์ฟ ไหนจะยัยแคดดี้ส่วนตัวที่จ้างมา วันๆฉันเห็นหล่อนนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่แถวๆสนามเพราะท่านผู้จัดการแบงค์ไม่เคยจะใช้หล่อนให้คุ้มกับค่าจ้างเลย ฉันเคยออกไอเดียให้คอยตัดหญ้าในสนามถ้าว่างมากนัก หล่อนกลับมองฉันด้วยสายตาอาฆาตรัศมีทำลายล้างสูง ฉันเลยไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับยัยนี่ซักเท่าไร
-----------------------------------------------------------------------------------
ทุ่มตรงเป็นเวลาอาหารค๋ำของครอบครัวฉัน คงมีแต่เวลานี้ละนะ ที่ฉันจะได้เจอมนุษย์ที่พักอาศัยอยุ่ในบ้านที่มองภายนอกคล้ายๆโรงแรม 5 ดาวแห่งนี้ครบทุกคนน่ะ ฉันมาถึงห้องอาหารก่อนทุกคน จึงเข้าไปทักทายป้าแจ่มตามสไตล์เดิม (ย้อนกลับไปอ่านตอน 1 จะเข้าใจค่ะ)ป้าแกก็ยังตกใจเหมือนเดิมทุกที
"แกล้งป้าแจ่มอีกแล้วนะลูก" แม่บ่นฉันเหมือนเดิมทุกครั้งที่ฉันแสดงความรักกับป้าแจ่มแบบนี้
"แม่เพิ่งกลับมาเหรอคะ วันนี้ไม่เจอแม่ทั้งวันคิดถึ๊งง.....คิดถึง" ฉันเดินเข้าไปกอดแม่ ตบท้ายด้วยหอมแก้มฟอดใหญ่
"ไม่คิดถึงผมบ้างเหรอคร๊าบบ พี่เอมคนงาม" เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น ฉันแทบไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่ามันเป็นใคร "กอดผมบ้างซิ นะนะนะ.."
"อ๋อ เพิ่งโผล่หน้ามาให้เห็นเหรอยะ คุณน้องแอมที่รักของพี่เอม ไปเที่ยวไหนมาทั้งวัน"
"อ้าว ไมเห็นผมเป็นคนชอบเที่ยวอย่างนั้น ผมไปช่วยงานแม่ที่โรงงานมานะครับ ไม่เหมือนคนบางคน ปิดเทอมก็เอาแต่นอน ตื่นทีก็ตะวันใกล้จะตกดิน ไหนๆขอดูใกล้ๆหน่อยซิ" แอมเดินมาด้อมๆมองๆด้านหลังฉัน "มองไรมากมายยะ"ฉันถาม
"โหย...สันหลังพี่นี่มันยาวขึ้นทุกวันๆ ตัวก็ขนขึ้นเต็มเลย ตัวขี้เกียจ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"มันหัวเราะอย่างสะใจ ภัยมาถึงแล้วยังไม่รู้ตัวอีกนะแก ฉันตั้งแต่เตรียมพร้อม ตอนนี้มันอยู่ในรัศมีลูกเตะสะท้านโลกันต์ของฉันพอดี
"แก ไอ้แอมตาย ย๊ากกก..." ฉันคิดว่าขาขวาของฉันกระทบข้างลำตัวไอ้แอมอย่างจัง แต่น้องฉันนี่มันประสบการณ์สูงค่ะ มันตั้งการ์ดรับไว้ได้ มันคงเดาทางฉันถูกเพราะเล่นกันแบบนี้ตั้งแต่จำความได้ ฉันล่ะผิดหวังชะมัดตอนที่แม่คลอดแอมออกมา ฉันอยากได้น้องผู้หญิง เพราะจะได้เอาไว้เล่นอะไรที่มันเป็นผู้ยิ๊ง..ผู้ยิ๋ง เช่น เล่นขายของ เล่นประกวดนางงาม ฯลฯ แต่สวรรค์กลั่นแกล้งส่งมันมาเกิดแทน แต่การที่มันเกิดมาเป็นผู้ชายก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับฉัน ฉันจับแอมแต่งหน้าทาปากแดงขึ้นประกวดบนเวที ร่วมกับเด็กๆแถวบ้านมาแล้วค่ะ จนโดนแม่สั่งห้ามเพราะกลัวว่าในอนาคต แอมจะเปี๋ยนไป๋....
"ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอสองคนนี้"พ่อพูดพลางหย่อนก้นลงที่เก้าอี้หัวโต๊ะ ที่นั่งประจำของเค้าล่ะ แล้วเราทั้งหมดก็เริ่มทานอาหารมือค่ำกัน ฉันรู้สึกว่าที่ๆฉันซุกหัวนอนทุกวันเรียกว่า "บ้าน" ได้สนิทใจมากที่สุดคงมีแต่ช่วงเวลานี้ล่ะ อาหารมื้อค่ำที่แสนอบอุ่น
"เดี๋ยวคืนนี้ทุกคนมาที่ห้องนั่งเล่นด้วยนะจ๊ะ แม่มีเรื่องจะบอก"
"ค่า"ฉันขานรับ "ครับโผ๊ม!!"แอมตอบรับด้วยท่าทางขึงขัง เหมือนฝึกรด.
"เอาล่ะ ทุกคนมากันครบแล้ว แม่ก็จะเริ่มพูดเลยนะ" แต่สายตาแม่ก็เหลือบไปเห็นเจ้าแอมที่นั่งพิมพ์ข้อความโต้ตอบกับสาวๆใน msn อย่างเมามันส์
"แอมแม่ขอเวลาซักครู่ได้มั้ย ก่อนที่ลูกจะไม่ได้เล่นมันอีก"แม่พูดอย่างใจเย็น แต่นั่นล่ะอันตรายสุด ที่ว่าจะไม่ได้เล่นอีกน่ะก็อย่างเช่น จอมอนิเตอร์แตกโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือไม่ก็หัวเจ้าแอมนี่แหละจะแตกแทน
"ครับๆๆ หยุดก็ได้ครับ"เจ้าแอมกระโดดจากหน้าคอม มานั่งข้างๆฉันบนโซฟาตัวนุ่ม พร้อมกับเอียงหัวโตๆมาวางบนไหล่ฉัน
"อืม ทุกคนคงรู้นะว่า โรงงานของแม่น่ะ ตอนนี้กิจการกำลังไปได้สวยเชียวล่ะ มีออร์เดอร์เข้ามาเยอะมากทั้งในประเทศ และต่างประเทศซึ่งเป็นตลาดหลักของเรา แต่ตอนนี้มีปัญหาที่กำลังผลิตไม่ค่อยเพียงพอ"
"หมายถึง คนงานไม่พอเหรอคะแม่?"ฉันถามขึ้น "ไม่ใช่หรอกลูก เพียงแต่โรงงานเดิมมันเล็กเกินไปน่ะ แม่ก็เลย อยากขยายโรงงาน"
"แต่ว่าที่ตรงนั้นมันไม่สามารถขยายได้แล้วนะคุณ" พ่อออกความเห็นบ้าง ส่วนเจ้าแอมนั่งทำหน้าเบื่อๆ
"นี่ละคะ ปัญหาใหญ่ฉันคุยกับนายหน้าขายที่ดิน เขาเสนอที่ให้ที่หนึ่ง แต่มันแพงเหลือเกินไม่คุ้มราคาเลย ที่ก็ไม่ได้กว้างอะไรมากมายด้วย"
"แล้วคุณจะทำไงต่อไปล่ะ" พ่อถาม ขณะนั่งฟัง สมองฉันก็เกิดไอเดียบรรเจิดขึ้นมา
"แม่จ๋า หนูว่านะแม่ไม่ต้องเสียเงินไปหาซื้อที่ที่ไหนแล้วล่ะ เพราะว่าหนูรู้จักอยู่ที่นึง ที่นี่นะไม่ไกลจากโรงงานเดิมเลย แถมการคมนาคมสะดวกสบาย ที่ก็กว้างพอจะสร้างเท่าโรงงานเดิมได้ตั้ง 2 โรงงานเลยนะ เหลือที่ทำออฟฟิสเล็กๆด้วย อ้อๆ ที่จอดรถก็ยังมีเลยค่ะ ที่ๆหนูพูดถึงนี่ก็คือ...."
ฉันยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วส่งสายตาไปทางพ่อ ท่าทางพ่อเองจะรู้แล้วว่าฉันหมายถึงอะไร
"ที่ว่านี่ก็คือ สนามกอล์ฟของพ่อไงคะ เหมาะที่สุด แล้วหนูก็เห็นว่าพ่อไม่ได้ใช้มันเลย ให้แม่เอามาทำโรงงานซะยังดีกว่าเนอะ ใช่มะ" ฉันหันไปทางเจ้าแอม ขยิบตาเล็กน้อยเท่านี้เป็นที่รู้กัน
"ใช่ๆ แม่เอาตรงนั้นแหละดีแล้ว จะได้อยู่ใกล้บ้าน เดินไปทำงานก็ยังได้" เจ้านี่หัวไวใช้ได้
"ไม่ได้นะ นั่นมันสนามกอล์ฟที่พ่อสร้างเองกับมือนะ" พ่อเริ่มเหงื่อตก "แต่พ่อก็ไม่ได้ใช้นะ หนูเห็นพ่อเล่นแต่ปังย่า พ่อน่ะมีคอมฯเครื่องเดียวก็พอแล้ว" ฉันอธิบายเหตุผลให้ทุกคนเข้าใจ
"แต่ว่า....ยังไงก็ไม่ได้ พ่อไม่ให้" พ่อทำท่าเหมือนเด็กหวงของเล่น "พอได้แล้ว คุณคะเอาล่ะค่ะ ฉันเข้าใจคุณแล้ว" แม่พูดขึ้นมา ทำเอาฉันเซ็ง นี่แม่จะยอมพ่องั้นเหรอ
"ขอบใจจ๊ะที่รัก ผมล่ะรักคุณที่สุดเลย หุหุหุ ลูกเอม แกล้งพ่อไม่สำเร็จหรอก" พ่อยิ้มเยาะเย้ย เหมือนเด็กเข้าไปทุกทีแล้วพ่อฉัน
"ฉันตัดสินใจแล้ว ที่รักคะชั้นขอใช้สนามกอล์ฟของคุณค่ะ" -_-"
" ฮ่าๆๆๆ โอ้เยส หนูชนะแล้วล่ะ" เหตุผลทั้งหมดของฉันคือ ฉันเบื่อหน้ายัยแคดดี๊จอมหยิ่งของพ่อ อยากจะเขี่ยให้พ้นจากบ้านเหลือนเกิน ถ้าไม่มีสนามกอล์ฟซะอย่าง แคดดี๊ก็หมดความหมาย
"อีกเรื่องที่แม่จะบอกคือ ทางโน้นเค้าส่งบัตรเชิญงานฉลองครบ 5 ปีของแบรนด์เค้าและเปิดตัวห้องเสื้อใหม่มาให้แม่น่ะจ๊ะ งานจะมีอาทิตย์หน้าจ๊ะ ลูกเอมไปนะจ๊ะ" แม่มองมาทางฉัน
"โอเคอยู่แล้วค่ะแม่ ไปเที่ยวกับแม่ดีกว่าอยู่บ้านเปล่าๆ"
"คุณหมายถึงไปเกาหลีน่ะเหรอ"พ่อถามแม่น้ำเสียงเป็นกังวล แฝงอะไรบางอย่างไว้
"ค่ะ แต่แม่ไม่ได้ไปด้วยนะ เพราะแม่ไม่ชอบไปต่างประเทศ เกิดมายังไม่เคยไปเลย แม่กลัวเครื่องบินด้วย" พ่อทำหน้าเครียดกว่าเก่า "คุณจะให้ลูกไปคนเดียวเนี่ยนะ ไม่..ยังไงผมก็ไม่ให้ลูกไป"
"โธ่คุณคะ ไปแค่นี้เองแล้วอีกอย่างลูกเราก็เก่ง ขนาดอยู่อเมริกาคนเดียวตั้งหลายปี ไปแค่นี้..."
"ไม่" พ่อตวาดเสียงดังอย่างลืมตัว "ผมไม่ให้ลูกไป คุณอย่างลืมนะว่าที่นั่นมันเกาหลี มันเป็นที่ๆ...." "หยุดนะคุณ" แม่มองหน้าพ่อด้วยสายตาที่น่ากลัวมาก ท่าทางแม่คงไม่อยากให้พ่อพูดต่อ "คุณกับฉันขึ้นไปคุยกันต่อบนห้อง ลูกๆนั่งเล่นอยู่นี่ก็ตามใจ แต่อย่านอนดึกมากนะลูก"แม่พูดจบก็ลุกเดินออกจากห้องไป ตามด้วยพ่อที่สีหน้าไม่ค่อยดีนัก
เจ้าแอมเผลอแป๊บเดียวก็ไปอยู่หน้าคอมฯ ปล่อยฉันนั่งงงอยู่คนเดียว ทำไมพ่อถึงต้องกังวลกับเรื่องนี้มากนะ แค่ไปงานแทนแม่ที่เกาหลี ทีส่งฉันไปอยู่อเมริกาตั้งแต่จบป.6 ยังทำได้อย่างเลือดเย็น ทั้งๆที่ฉันร้องไห้เกือบขาดใจตายยังไม่สงสารฉันสักนิด รึว่ามีอะไรบางอย่างที่เกาหลี...
To Be Continue................
*************************************
ความคิดเห็น