ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [1st love] รักแรกของหัวใจ รักสุดท้ายของชีวิต..

    ลำดับตอนที่ #2 : [ [ เริ่มการเดินทาง ] ]

    • อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 49


    ผมมีชื่อว่า"ซัง วู"  ชอย ซัง วู อะคับ  และนี่แฟนผม  "ยีจิน"  ซอน ยี จิน  เธอมักจะดูตลกๆ  เวลาที่ผมเจอหน้าเธอทีไรผมก็อดขำไม่ได้  ก็เธอช่างซุ่มซ่ามมากมาย  จนบ้างครั้งถึงขนาดต้องทำให้เธอนอนโรงพยาบาลเกือบเดือน   เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก  ผมของเธอยาวพอๆกับการ์ตูนในเทพนิยาย  ผมชอบพูดเวอร์อย่างนี้เป็นประจำแหละครับ  เธอเป็นคนดูสนุกสนาน  เธอเป็นนักเขียน  แต่เธอเคยบอกผมว่า  เธออยากจะเป็นตำรวจมากกว่า  ผมว่าเธอเป็นนักเขียนอะดีแล้ว  เดี๋ยวถ้าเธอไปเป็นตำรวจแล้วจับผู้ร้ายผิดคนเดียวจะซวยเอาทั้งโรงพัก   ครอบครัวของเธอไม่เหลือใครแล้ว  เพราะพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกเมื่อสองปีที่แล้ว  เธอต้องอยู่คนเดียวมาโดยตลอด  จนได้มาพบผมนี่แหละ  มาฟังเรื่องของผมบ้าง  ความใฝ่ฝันของผมคือ ผมอยากไปเที่ยวกับคนที่ผมรัก  ไปให้สุดขอบโลกไปเลย   แต่ตอนนี้ผมต้องไปทำงานแล้ว  เพราะถึงเวลาทำงานแล้ว  เดี๋ยวไปทำงานสาย

    ------------------ที่ทำงานผม

     "สวัสดีค่ะคุณซังวู" 

    ผมพยักหน้าให้พนักงานที่ทักทายผม  "ครับ"

            วันนี้ช่างอากาศสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก  อากาศเย็นๆ หลักจากฝนตกใหม่ๆ  ทำให้ผมคิดถึงการนอนอยู่ที่บ้าน  แล้วห่มผ้าห่มหนาๆ    แต่วันนี้เป็นวันทำงานของผมหนิจะให้นอนอยู่บ้าน  ผมก็โดนหักเงินเดือนแหลกลาญแน่ๆ  ผมทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาดที่บริษัทแห่งหนึ่งในเมืองโซล  ผมอยู่คอนโด  ผมโสด  และที่สำคัญมีสาวมารุมจีบผมมากมาย   ไม่ใช่แค่ในบริษัทนะครับ  แต่ตอนนี้ผมยังไม่ถูกใจสักคน

           

                    "ปีนี้เรามีประชุมเครื่องข่ายที่เวน  ผมจะมอบให้ที่ให้ซังวูรับผิดชอบก็แล้วกัน "   ท่านประธานคิมพูดออกมา  กลางที่ประชุมหัวหน้าของบริษัท

                            "เออ...  ท่านครับ  แต่ผมยังมีงานสัมมนาที่ปารีสอีที่นะครับ"

                    "ฉันส่งคนไปแทนเธอแล้วซังวู  เธอไม่ต้องเป็นห่วง"

                    "ครับ ท่าน"  ผมตอบตกลงทั้งๆที่ใจผมไม่อยากไปเมืองเวนเลย

                            "โชคดีนะซังวู"  เพื่อนหัวหน้าฝ่ายต่างๆ  ให้กำลังใจผม  (รึป่าว)

                วันที่แสนดี  กลายเป็นวันที่แสนเศร้าไปได้ภายในไม่กี่นาที  ผมจะได้ไปปารีสอยู่แท้ๆ  แต่ดันต้องไปบ้านอกซะงั้น   คงไม่มีใครช่วยผมได้  ผมต้องไปจริงๆ

                    "เฮ้ย!!  ซังวู แกโชคดีจริงๆว่ะ    แกรู้ไม่ทำไมประธานคิมถึงให้แกไปที่เวน"  ทาซันเพื่อนผม  แต่อยู่คนละแผนก ทาซันอยู่แผนกการเงิน

                            "จะไปรู้เหรอ  "  ตอนนั้น  ผมคิดว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ

    ผมหันหลัง  แล้วเดินออกจากห้องประชุมไปโดยไม่ฟังคำตอบของทาซันที่กำลังจะบอกผม

            อาทิตย์นี้ผมต้องเคลียงานให้เสร็จ  เพราะต้องเตรียมตัวไปเวน   ผมไม่เริ่มจัดกระเป๋าหรอกนะครับ  เพราะผมว่ามันอีกนานกว่าผมจะได้ไป  แต่ก็เวลามันผ่านไปเร็วยังกับจรวจติดไปพ้น  คืนก่อนจะไปเวนผมจัดกระเป๋าใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที  แต่เหมือนผมจะลืมอะไรสักอย่าง   นึกยังไงผมก็นึกไม่ออก 

                วันเดินทางก็ได้มาถึงแล้ว  ผมนั่งรถของบริษัท  บริษัทผมก็ดีนะที่ให้บริการหลายอย่าง  ผมก็คิดอยู่ว่าทำไมไม่ให้ผมไปเครื่องบิน   ผมไปเมืองเวนใช้เวลา  8  ชั่วโมง   มันเป็นเวลาที่แสนทรมานของผม  ตลอดทางผมจิตนาการเกี่ยวกับเมืองเวนไว้มากมาย  มีทั้งที่ดีและไม่ดีส่วนมากผมคิดในเรื่องไม่ดี  ผมขออธิบายเมืองเวนให้ฟังก่อนนะครับ  เมืองเวนอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ  และอยู่ทางตอนเหนือของโซลด้วย  เป็นเมืองที่ผมคิดว่าจนที่สุดในประเทศนี้   ผมไม่เคยมาที่นี่หรอกครับฝังเขาเล่ากันมา  ว่าคนที่นี่ชอบสกปรก  การศึกษาก็ไม่ค่อยดี  อาหารการกินยิ่งแล้วใหญ่  ไฟฟ้าและน้ำประปาไม่รู้ว่าเข้าแล้หรือยัง  

    ---------ประตูผ่านเมืองเวน

                ตอนนี้ผมมาถึงเมืองเวนแล้ว  ผมพักที่โรงแรมที่บริษัทจัดให้  และโรงแรมแห่งนี้เป็นที่ประชุมด้วย  ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่า   ทำไมเขาถึงได้มาจัดประชุมกันที่นี่  แต่ดูไปดูมา  เมืองนี้ดีกว่าผมคาดไว้หลายเท่า  มีทั้งโรงแรมที่ดูเหมือนจะไฮโซกว่าโรงแรมบางแห่งในโซลซะอีก  ถนนผ่านเข้าซอยก็ดูสะอาดตา  และบ้านอาคารถูกแบ่งสัดส่วนไว้อย่างดี  เย็นนี้ผมกะจะสำรวจให้เต็มตาว่าเมืองนี้เป็นยังไงโดยการที่ผมออกไปหาอะไรกินสักหน่อย  ผมได้เห็นเมืองนี้กับตาผม  ผมก็ได้เปลี่ยนความคิดทันใด  ช่างวิเศษอะไรเช่นนี้  ผมไปนั่งที่ร้านขายอาหารแห่งหนึ่งดูเหมือนว่าเป็นร้านอาหารธรรมดา  ที่คนชั้นกลางขึ้นไปสามารถเข้ามาสั่งทานได้   ผมเริ่มด้วยการสั่งอาหารพื้นเมืองผมไม่รู้หรอกนะเขาเรียกอะไรกัน  ผมสั่งโดยการชี้ไปที่โต๊ะที่มีอาหารนั้นอยู่  แต่ผมคิดว่ามันเหมือนก๋วยเตี๋ยวผิดที่แตกต่างอยู่ที่ว่าที่นี่รสจัดจ้านมาก  อร่อยนะครับเสียดายที่ผมไม่รู้ชื่อมัน   ผมกินเสร็จแล้วผมก็เดินไปที่ถนน  ถนนเส้นนี้แคบกว่าถนนปกติกันเพราะว่าเอาไว้เพื่อขายของ  ไม่ว่าจะเป็นของกินจนไปถึงเสื้อผ้าที่วัยรุ่นชอบใส่กัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×