Madeleine+++++หนังรักซึ้งๆๆ - Madeleine+++++หนังรักซึ้งๆๆ นิยาย Madeleine+++++หนังรักซึ้งๆๆ : Dek-D.com - Writer

    Madeleine+++++หนังรักซึ้งๆๆ

    Kang Ji-suk หนุ่มหงิมๆ ที่มีโลกส่วนตัว ผู้มีฝันอยากเป็นนักเขียน วันๆ เขาไม่ใส่ใจอะไรนอกจากการอ่านหนังสือ กิจกรรมที่สุดจะเร้าใจในชีวิตเขาคือการมุ่งตรงไปยังห้องสมุดในทุกครั้งที่มีโอกาส

    ผู้เข้าชมรวม

    3,646

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    3.64K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 ต.ค. 49 / 17:34 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ




      Kang Ji-suk หนุ่มหงิมๆ ที่มีโลกส่วนตัว ผู้มีฝันอยากเป็นนักเขียน วันๆ เขาไม่ใส่ใจอะไรนอกจากการอ่านหนังสือ กิจกรรมที่สุดจะเร้าใจในชีวิตเขาคือการมุ่งตรงไปยังห้องสมุดในทุกครั้งที่มีโอกาส แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อเขาต้องการตัดผมเพื่อฉลองการอ่านหนังสือเล่มหนาจบ ตามที่ได้ตั้งใจกับตัวเองเอาไว้ เขาได้พบกับ Lee Hee-jin เพื่อนสาวที่เรียนมัธยมมาด้วยกัน และเธอกำลังทำงานในฝันของเธอ นั่นคือการเป็นช่างทำผม และเมื่อทั้งคู่ต่างรื้อฟื้นความทรงจำเก่าๆ ซึ่งกันและกัน Hee-jin ซึ่งเป็นสาวเปรี้ยวต้านระบบมาแต่ไหนแต่ไรก็เสนอเกมน่าสนุก (สำหรับเธอ) ขึ้นมาว่าให้ Ji-suk มาลองคบเป็นแฟนกับเธอดูเป็นเวลา 1 เดือน โดยมีกฎหลัก 3 ข้อคือ ต้องซื่อสัตย์ต่อกัน 100% ห้ามบอกเลิกก่อนครบ 1 เดือน และสุดท้ายคือเลิกกันได้ตามใจเมื่อครบกำหนด และเมื่อทั้งคู่ต่างก็ศึกษาซึ่งกันและกัน ความรักก็เกิดขึ้นตามครรลองที่ควรจะเป็น เพียงแต่ว่าอดีตของทั้งคู่กลับตามมาหลอกหลอน รักแรกแอบปิ๊งของ Ji-suk ปรากฏตัวขึ้นมา และปัญหาเก่าของ Hee-jin ที่หนักหนาสาหัสกว่ามาก นั่นคือเธอรู้ตัวว่าตัวเองตั้งท้อง แต่ว่าเด็กในท้องกลับเป็นของแฟนเก่าเธอเพิ่งถูกเขาทิ้งไป ทั้งคู่จะประคองความรักของพวกเขาไปได้อย่างไรเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเหลือเกิน

      เนื้อเรื่องของ Madeleine ไม่ใช่เรื่องใหม่ ตัวหนังดำเนินตามสูตรหนังความรักหนุ่มสาว การง้อการงอน (ที่แสนจะน่ารัก) กฎเกณฑ์ของการเป็นแฟนกันอย่างที่เราเคยพบเห็นกันมา และ Madeleine ก็ไม่ใช่หนังรักที่มีบทภาพยนตร์แน่นปึ๊ก ไม่มีเหตุการณ์ที่บีบคั้นอารมณ์มากนัก ไม่มีมุขให้ขำกันจนตกเก้าอี้ ไม่มีการเดินเรื่องที่หวือหวาหรือมีความเท่ให้สมกับยุคหนังรักปี 2003 แต่สิ่งที่ Madeleine ไม่มีเหล่านี้แหละที่เป็นเสน่ห์ของหนังชนิดที่หาได้ยากเต็มทีในหนังรักเอเชียในยุคนี้ การดำเนินเรื่องและเค้าโครงเรื่องที่สบายๆ ไม่มีการเร้าอารมณ์อย่างจงใจ เน้นความน่ารักของสถานการณ์เป็นตัวเร้าอารมณ์แทนนั้น ทำให้หวนนึกไปถึงหนังรักในแนวเดียวกันอย่าง Roxanne หรือ One Fine Day ได้อย่างน่าปลาบปลื้มใจ แม้ว่าในช่วงท้ายเรื่องของ Madeleine จะเลี่ยงไม่ได้ที่จะไปแตะเรื่องราวที่ค่อนข้างหนักหนาเอาการอยู่ แต่ด้วยการเดินเรื่องและการวางเรื่องอย่างดีมาตั้งแต่แรก ทำให้ประเด็นที่ซีเรียสนี้ไม่มารบกวน theme หลักของเรื่องมากนัก

      หากมองในมุมของหนังรักใสๆ ที่เน้นความเรียบง่ายแบบนี้แล้ว ผมยังไม่เห็นว่า Madeleine มีจุดอ่อนอะไรเลยนอกจากเรื่องของตัวบทภาพยนตร์ที่น่าจะแน่นได้มากกว่านี้อีกสักนิด แต่เท่าที่หนังนำเสนอก็ค่อนข้างน่าพอใจไม่น้อยอยู่แล้ว เพราะบทสนทนาของตัวละครและการวางเรื่องมีการเล่นมุขหยอดไปมาในเชิงอุปมาอุปมัยได้น่ารักน่าชัง ทั้งมุข Road Movie มุข เปรียบเปรยสภาพจิตใจของตัวละครกับนิยาย มุขทำผมและอื่นๆ จุดที่น่าขัดใจจริงๆ กลับเป็นเรื่องเล็กน้อย(ในหนังรักร่วมสมัยอื่นๆ) แต่พอมาอยู่ในหนังที่เรียบง่ายเช่นนี้ กลับกลายเป็นส่วนเกินที่เห็นได้ชัด นั่นคือความพยายามที่จะใส่มุขหักมุมเพื่อผลทางอารมณ์จิ๊ดเหมือนกับที่หนังรักเกาหลียุคใหม่ชอบทำกัน แต่เป็นที่น่ายินดีมากว่ามุขที่ว่านี้มีอยู่เพียงช่วงเดียวของเรื่องและไม่ถูกเน้นอะไรมากนัก ทำให้ตัวหนังโดยรวมยังคงอยู่ในระนาบอันเรียบง่ายที่น่าพอใจอยู่ตลอดเวลา


      คาแรคเตอร์ของ Hee-jin แม้จะไม่แปลกใหม่หรือแตกต่างไปจากนางเอกในหนังแนวนี้ทั่วไป แต่สิ่งที่เธอเป็นนั้นมาจากบุคลิกแท้ๆ ของเธอเอง เธอไม่ได้ทำตัวร่าเริงเพื่อปิดบังปมอดีตใดๆ ทั้งนั้น เพียงแต่ว่าอดีตอันเลวร้ายนั่นเองที่วิ่งตามเธอมาทัน การแสดงที่สุดแสนจะธรรมชาติของ Shin Min-a ทำให้บทสาวเจ้าปัญหาอย่าง Hee-jin มีเสน่ห์จนเกลียดไม่ลง ในขณะที่บท Ji-suk ของ Jo In-seong แม้จะไม่มีอะไรโดดเด่นชวนให้พูดถึงมากนัก แต่เขาก็คุมโทนของตัวละครที่เล่นได้ดี เพราะจะเห็นได้ว่า แม้บทของเขาจะนิ่งๆ แต่ก็ไม่ได้ถูกบทของ Hee-jin ข่มแต่อย่างใด เรียกว่าทั้งคู่เล่นกันได้เข้าขาดีทีเดียว

      Park Gwang-chun ทำ Madeleine ออกมาได้น่าชมเชยอย่างยิ่ง เพราะสำหรับคอหนังโรแมนติกแบบ Low Profile แล้ว หนังในแนวนี้หาชมได้ไม่ง่ายเลย เพราะหนังรักส่วนใหญ่ของเอเชียมักจะวางอยู่บทพล๊อตเรื่องที่หนาแน่นกับคาแรคเตอร์ที่เต็มไปด้วยแรงขับดันบางอย่างไปซะทุกที เหตุผลหลักคงมาจากว่า การทำหนังรักที่ไม่มีเรื่องราวบีบคั้น ไม่มีคาแรคเตอร์ที่เด่นๆ เป็นตัวนำเรื่องนั้น เป็นเรื่องที่ยากเต็มทีที่จะทำออกมาแล้วน่าสนใจและดูดี ซึ่งความดูดีของหนังคงต้องยกประโยชน์ไปให้กับการถ่ายภาพ การกำกับภาพชั้นเยี่ยม ที่ไม่สวยจนเลี่ยน แต่ก็นิ่งและคมพอที่จะสื่อความหมายได้ Kim Yeong-cheol ถ่ายภาพออกมาได้อย่างรู้ใจว่าหนังรักในแนวนี้ควรจะนำเสนอภาพออกมาเช่นไร

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×