ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Digimon : Olympians' Dangerous [y]

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 4 สายลับ

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 54


    คำเตือนถึงเหล่าเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่

                        อย่า คิดว่าพวกท่านจะยิ่งใหญ่ตลอดกาล อันสัจจธรรมว่ามีเกิดก็ต้องมีดับไป...เกียรติยศของพวกเจ้าเป็นเพียงเปลือก นอกที่พวกข้าจะทำลายให้ย่อยยับ! จงระวังตัวให้ดี! ข้าจะทำให้โอลิมปัสย่อยยับ เขาพระสุเมรุจะราบเป็นหน้ากลอง แอสการ์ดจะเหลือเพียงเถ้าธุลีดิน สวรรค์แห่งจีนจะไร้ซึ่งแสงสว่าง สวรรค์แห่งญี่ปุ่นจะเหลือเพียงความมืดมิด สวรรค์แห่งไอยคุปต์******จะยับเยิน ยุคเทพเจ้าจะสิ้นสุด
    พวกข้าจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!


                                                                                                     ด้วยความปรารถนาดี

                                                                                                   จาก

                                                                                                  Phos

                                                                                             มิตรผู้ไร้ตัวตน"



     ทันที ที่โทม่าอ่านจบทั้งไทจิ ทาเครุ ฮิคาริ โคจิ โคอิจิ ทาคาโตะ เจนเรีย ทาคุยะ โทม่า และอิซึมิต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริศ ไม่เคยมีใครกล้าส่งสานส์ท้าทายเทพเจ้าเช่นนี้มาก่อน ใครมันเป็นคนส่งมากันหนอ...Phos... 'มิตรผู้ไร้ตัวตน' เป็นใครกัน และทำไมถึงจะต้องโค่นล้มเหล่าเทพเจ้า บุคคลปริศนาผู้นั้นต้องการอะไรกันแน่


    "เชิญ เหล่าเทพโอลิมปัสองค์อื่นและท่านผู้นำเทพเจ้าจากดินแดนต่างๆทางนี้ด้วย พวกเรามีเรื่องจะต้องปรึกษากันเป็นการส่วนตัว" ว่าแล้วซุสก็ลุกขึ้นจากบัลลังก์รูปก้อนเมฆสีขาวบริสุทธิ์เดินตรงไปยังประตู ทางออก

     

     

    โดยมีบรรดาเทพโอลิมปัสลุกจากบัลลังก์ของตนเดินตามไป องค์แรกเป็นหญิงสาวหน้าตางดงาม เธอมีนามว่า 'เฮร่า' เทพีแห่งหญิงสาวและชีวิตสมรส พระนางเป็นทั้งพี่สาวและมเหสีของซุสและเป็นราชินีของเขาโอลิมปัส
    เทพีองค์ที่สองที่เดินตามหลังเฮร่าคือ 'ดีมิเทอร์' เทพีแห่งการเกษตรและธัญญาหาร พระนางเป็นพี่สาวและมเหสีอีกองค์ของซุสเช่นกัน เทพองค์ที่สามเดินตามหลังดีมิเทอร์คือ 'แอรีส' เทพแห่งสงคราม พระองค์เป็นโอรสของซุสกับเฮร่า เทพีองค์ที่สี่ที่เดินตามหลังแอรีสคือ 'อะโฟรไดท์' เทพีแห่งความรัก พระนางเป็นธิดาของซุสกับนางไดโอนี เทพองค์ที่ห้าที่เดินตามหลังอะโฟรไดท์คือ 'เฮอร์มีส' เทพแห่งการเดินทาง การโจรกรรม และบทกวี พระองค์เป็นโอรสของซุสกับนางเมยา องค์ที่หกที่เดินตามหลังเฮอร์มีสคือ 'เทพีเฮสเทียร์' เทพีแห่งเตาไฟ พระนางเป็นพี่สาวอีกองค์ของซุส องค์ที่เจ็ดที่เดินตามหลังคือ 'เทพโพไซดอน' เทพแห่งมหาสมุทร พระองค์เป็นพี่ชายของซุส องค์ที่แปดที่เดินตามหลังโพไซดอนคือ 'เทพอะพอลโล' เทพแห่งดวงอาทิตย์ พระองค์เป็นโอรสของซุสกับเทพีเลโต องค์ที่เก้าที่เดินตามหลังอะพอลโลคือ 'เทพีอาร์เทมีส' เทพี แห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ พระนางเป็นธิดาของซุสกับเทพีเลโต และเป็นน้องสาวฝาแฝดของอะพอลโล องค์ที่สิบที่เดินตามหลังอาร์เทมีสคือ 'เทพไดโอนีซุส' เทพแห่งองุ่นและการทำไวน์ พระองค์เป็นโอรสของซุสกับนางซิมิลี่ องค์ที่สิบเอ็ดที่เดินตามหลังไดโอนีซุสคือ 'เทพเฮเฟตัส' เทพแห่งไฟและการช่าง พระองค์เป็นโอรสของพระนางเฮร่า* และองค์สุดท้ายคือ 'เทพีอาธีน่า' เทพีแห่งปัญญาและการสงคราม พระนางเป็นธิดาของซุส**


    หลังจากนั้นบรรดาผู้นำเทพเจ้าจากดินแดนต่างๆก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินตามไป โดยเริ่มจากเทพแห่งเขาพระสุมรุ องค์แรกคือ 'พระอินทร์' จอมเทพแห่งเขาพระสุเมรุ องค์ที่สองที่เดินตามพระอินทร์คือ 'พระพรหม' เทพแห่งการสร้าง*** องค์ที่สามที่เดินตามพระพรหมคือ 'พระนารายณ์' เทพแห่งการบริหาร**** องค์ที่สี่คือ 'พระศิวะ' เทพแห่งการทำลายล้าง*****


    จากนั้นผู้นำเทพแห่งอียิปต์อันประกอบไปด้วย 'เทพอามอนรา' เทพแห่งดวงอาทิตย์ พระองค์เป็นจอมราชาแห่งเทพเจ้าอียิปต์****** และองค์ที่สองคือ 'เทพชู' เทพแห่งสายลม


    ส่วนผู้นำเทพเจ้าจีนคือ 'เทพเง็กเซียนฮ่องเต้' จอมราชาแห่งสวรรค์จีน*******

     

     

    ผู้นำเทพเจ้าแห่งญี่ปุ่นองค์แรกที่เดินตามเง็กเซียนฮ่องเต้ไปคือ 'เทพีอามะเทราซึ' ราชินีแห่งสวรรค์ญี่ปุ่นและเป็นเทพีแห่งดวงอาทิตย์ องค์ที่สองที่เดินตามหลังอามะเทราซึคือ เทพซึซาโน เทพแห่งท้องทะเลและพายุ และองค์ที่สามที่เดินตามซึซาโนคือ ซึกิโยมิ เทพแห่งดวงจันทร์

     

     

    ผู้นำเทพเจ้าแห่งอินคา********องค์แรกที่เดินตามซึกิโยมิคือ เทพอินติ’********* เทพแห่งดวงอาทิตย์ และองค์ที่สองที่เดินตามอินติคือ เทพีมามาคายี เทพีแห่งดวงจันทร์ พระนางเป็นทั้งมเหสีและน้องสาวของอินติ

     

     

    ผู้นำเทพเจ้าแห่งเมโสโปเตเมีย********** องค์แรกที่เดินตามมามาคายีไปคือ เทพมาร์ดัค’*********** จอมราชาแห่งเหล่าทวยเทพเมโสโปเตเมีย และองค์ที่สองที่เดินตามมาร์ดัคคือ เทพีอิชตาร์ราชินีแห่งสวรรค์เมโสโปเตเมียและเป็นเทพีแห่งความรัก พระนางยังเป็นเทพีแห่งสงครามอีกด้วย

     

     

    ผู้นำเทพเจ้าแห่งโซโรแอสเตอร์*************ที่เดินตามอิชตาร์ไปคือ เทพอหุระมาซาดะ เทพเจ้าแห่งความดี

     

     

    ผู้นำเทพเจ้าแห่งดินแดนแอสการ์ด องค์แรกที่เดินตามหลังอหุระมาซาดะคือ เทพโอดิน’************** จอมราชาแห่งแอสการ์ดและเป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้า สงคราม และบทกวี องค์ที่สองที่เดินตามโอดินคือ เทพวิลีน้องชายของโอดิน และองค์ที่สามที่เดินตามวิลีคือเทพเวน้องชายอีกคนของโอดิน  

     

     

    หลัง จากที่บรรดาผู้นำเทพเจ้าจากดินแดนต่างๆพากันออกไปแล้ว ยามาโตะ ไทจิ ฮิคาริ ทาเครุ โทม่า อิซึมิ โคอิจิ ทาคุยะ โคจิ ทาคาโตะ และเจนเรียก็เดินตามไปบ้าง

     

     

    ซุส เดินนำบรรดาผู้นำเทพเจ้าจากดินแดนต่างๆมาจนถึงลิฟต์ตัวหนึ่ง แล้วกดปุ่มประตูลิฟต์ก็เปิดออกเผยให้เห็นภายในของลิฟต์ที่ดล่งคล้ายห้องโถง ขนาดมหึมา เหล่าเทพเจ้าก็เดินเข้าไป หลังจากประตูลิฟต์ปิดลง เพดานลิฟต์เปิดออก มีเครื่องสแกนสายตาเคลื่อนลงมาตรงระดับสายตาของจอมราชาแห่งโอลิมปัส เครื่องนั้นทำการสแกนสายตาของซุสอย่างรวดเร็วแล้วส่งข้อมูลเข้าเครื่อง คอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วที่ติดอยู่ข้างผนัง เพียงไม่นานที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ปรากฏคำภาษากรีกว่า Δίας.’*************** ก่อนจะปรากฏอีกคำที่เป้นภาษากรีกเช่นกันว่าΔιαπερατός’*************** จาก นั้นตัวเลขภาษากรีกก็ปรากฏขึ้นที่ผนังตั้งแต่ศูนย์ที่เป็นห้องลับใต้ภูเขาโอ ลิมปัส จนถึงเลขเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าซึ่งเป็นชั้นยอดเขาโอลิมปัส

     

     

    ซุส เอื้อมมือไปกดเลขศูนย์ ทันใดนั้นเองลิฟต์ก็เคลื่อนตัวลงสู่เบื้องล่างด้วยความเร็วสูง ลงมาจนถึงจุดหมายลิฟต์ก็หยุดการเคลื่อนที่ ประตูลิฟต์เปิดออกเผยให้เห็นห้องลับใต้ดินที่มีขนาดปานกลาง ภายในห้องประดับไปด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ล้ำยุคสมัย โต๊ะประชุมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง

     

     

    ทันที ที่บรรดาผู้นำเทพเจ้าเดินเข้ามา ก็สัมผัสได้ถึงความร้อนภายในห้องที่มากกว่าห้าพันองศาเซลเซียส ถ้าเป็นมนุษย์คงถูกย่างสดแต่เหล่าเทพเจ้ากลับไม่สะทกสะท้านหรือรู้สึกอะไร

     

     

    นี้ ล่ะ ห้องลับที่พวกเราจะประชุมกันเป็นการส่วนตัว มันอาจจะร้อนสักหน่อย เพราะว่าข้างล่างที่ต่อจากห้องลับใต้ดินลงไป คือนรกใต้พิภพ อ้อ! แล้วก็พวกท่านระวังด้วยนะ บางทีมันก็มีเปลวไฟนรกพุ่งขึ้นมาบ้าง ซุสพูดไม่ทันขาดคำเปลวไฟจากนรกก็พุ่งทะลุขึ้นมาเผาพื้นไม้ที่อยู่ใกล้บรรดา เทพเจ้าจนไหม้เป็นรูขนาดใหญ่ ส่วนคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในบริเวณนั้นไหม้เป็นจุณ โชคดีที่เหล่าเทพเจ้าไม่ได้รับอันตราย  แต่ไอ้คำว่าร้อนสักหน่อยของเหล่าเทพเจ้า...ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาล่ะก็...อาจจะตายไปแล้วก็ได้

     

     

    ความ จริงข้าไม่ได้อยากเดินตามหลังพวกเจ้าสักเท่าไหร่หรอกนะ อันที่จริงข้าต่างหากล่ะที่ต้องเดินนำหน้า เพราะชาวจีนเชื่อว่าข้ามีอำนาจบัญชาเทวดาทั้งชั้นฟ้า รวมทั้งทุกสรรพสิ่งในโลกใบนี้! การที่ข้าต้องเดินตามหลังพวกเจ้า มันทำให้ข้าเสียเกียรติ!!” เง็กเซียนฮ่องเต้เริ่มโวยวาย ไม่พอใจที่ตนต้องเดินตามหลังพวกเทพเจ้าแห่งโอลิมปัสทั้งที่พระองค์สามารถ บัญชาทวยเทพทั้งหมด และทุกสรรพสิ่งได้ตามความเชื่อของชาวจีน

     

     

    ข้าเองก็เสียเกียรติเพราะเดินตามหลังพวกเจ้าเหมือนกัน! ทั้งที่ชาวไทย พม่า ลาว กัมพูชา อินเดียใต้**************** อินเดียเหนือ***************** ศรี ลังกา พม่า และเนปาล ต่างก็นับถือเคารพ ยำเกรงข้า ยกให้ข้าเป็นจ้าวแห่งสวรรค์แท้ๆพระอินทร์เริ่มโวยวายบ้าง ไม่พอใจที่ไม่ได้เดินนำหน้าสุดเมื่อตอนที่เดินทางมายังห้องลับใต้ดินแห่งนี้ สิ้นเสียงของพระอินทร์บรรดาผู้นำเทพเจ้าจากดินแดนต่างๆก็เริ่มโวยวายไม่พอใจ ขึ้นมาบ้าง พลังคลื่นเสียงของเหล่าเทพเจ้าที่มากกว่าสี่พันเดซิเบลทำให้ห้องลับเริ่ม สั่นสะเทือน

     

     

    เอาล่ะๆพวกท่านหยุดได้แล้ว!! นี้ เปิดสภาประชุมเทพกันทีไรต้องเถียงกันเรื่องใครเดินก่อนใครจะเสียเกียรติ ทุกที เบื่อจริงเฮร่าบ่นอย่างเบื่อหน่าย นี้ไม่ใช่ครังแรกที่บรรดาผู้นำเทพเจ้าทะเลาะกันเรื่องนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทุกครั้งที่มีการประชุมสภาเทพเจ้า

     

     

    จะ เถียงกันทำไมในเมื่อก็เป็นใหญ่เท่ากัน จำไม่ได้หรือไงเมื่อหลายพันปีก่อน พวกเราทำสนธิสัญญาแบ่งท้องฟ้ากันปกครอง ท่านพระอินทร์กับเหล่าตรีมูรติก็ได้ท้องฟ้าส่วนที่ครอบคลุมน่านฟ้าศรีลังกา อินเดีย ปากีสถาน พม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเนปาลตั้งเขาพระสุเมรุ โพไซดอนพูดบ้างอย่างรำคาญ ในขณะที่บรรดาผู้นำเทพเจ้าตั้งท่าจะทะเลาะกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

     

     

    นั่น สิที่ข้าจำได้ ท่านอหุระมาซาดะก็ได้ส่วนน่านฟ้าเปอร์เซียหรืออิหร่าน ท่านอามอนราก็ได้ปกครองน่านฟ้าแอฟริกตั้งสวรรค์แห่งอียิปต์ ท่านเง็กเซียนฮ่องเต้ก็ได้น่านฟ้าจีนตั้งสวรรค์แห่งจีน ท่านอามะเทราซึก็ได้น่านฟ้าญี่ปุ่นตั้งสวรรค์แห่งญี่ปุ่น ท่านมาร์ดัคก็ได้ส่วนน่านฟ้าอิรักหรือเมโสโปเตเมียต้งสวรรค์แห่งเมโสโปเต เมีย ท่านอินติก็ได้น่านฟ้าเปรูหรืออินคาตั้งสวรรค์แห่งอินคา ส่วนท่านโอดินก็ได้น่านฟ้าทวีปยุโรปเหนือตั้งดินแดนแอสการ์ดไปแล้วนี่ อะพอลโลพูดขึ้นบ้างหลังจากเงียบมานานสองนาน

     

     

    เอา ล่ะๆ ก็ได้ๆ พวกข้าเลิกทะเลาะกันก็ได้ แล้วบรรดาผู้นำเทพก็เลิกทะเลาะกันพลางนั่งลงบนเก้าอี้หนังรอบโต๊ะประชุมขนาด ใหญ่ ก่อนจะเริ่มการประชุมกันหาทางป้องกันอาณจักร และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงตามคำพยากรณ์ ฮิคาริตั้งใจฟังแผนการรบและถามถึงจุดป้องกันหลายครั้งจนอิซึมิลอบมองเธอ อย่างสงสัยว่าทำไมฮิคาริถึงถามคำถามเดิมหลายครั้ง ทั้งที่ปรกติแล้วฮิคาริไม่ค่อยสนใจเรื่องสงครามเท่าใดนัก

     

     


    ณ สถานที่ลึกลับแห่งหนึ่ง

     

     

    พวกเทพเจ้ามันนัดเปิดประชุมสภากันวันนี้ค่ะ ท่านPhos พวกมันคงเตรียมการรับมือกับพวกเรา แล้วพวกเราจะทำยังไงต่อคะท่าน เสียงสมุนสาวถามขึ้น ขณะที่ชายชุดดำสวมผ้าคลุมหน้านั่งเอาขาซ้ายไขว้ขาขวาบนบัลลังก์รูปมังกรดำ ปลายนิ้วมือเรียวเขี่ยวนรอบปากแก้วไวน์อย่างสบายใจ เขาผู้นี้มีโค้ดเนมว่า ‘Phos’

     

     

    เราไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นล่ะตอนนี้ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ สายลับของเราดีกว่า Phosเอ่ยขณะนึกถึง สายลับที่เขาส่งไปสืบจุดอ่อนของโอลิมปัส

     

     

    ท่าน Phosครับยักษ์ไซคลอป******************ตนหนึ่งเดินเข้ามาโค้งคำนับให้เจ้านาย ก่อนจะพูดว่า

     

     

    ท่านครับ สายลับของเรามามารายงานตัวแล้วครับ

     

     

    ดี! เจ้าไปพา เธอคนนั้นเข้ามาได้ Phos เอ่ย ยักษ์ไซคลอปโค้งคำนับอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปอย่างคล่องแคล่วว่องไว เพียงไม่นาน สายลับ ที่Phosพูดถึงก็ถูกยักษ์ไซคลอปพาตัวเข้ามา สายลับคนนั้นสวมผ้าคลุมหน้าไว้อย่างมิดชิด

     

     

    คารวะนายท่าน”  สายลับผู้สวมผ้าคลุมใบหน้าโค้งคำนับให้ผู้เป็นเจ้านาย  เสียงหวานที่เล็ดลอดจากผ้าคลุมหน้าไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสายลับคนนี้คือผู้หญิง ซึ่งPhosก็ ลุกจากบัลลังก์มังกรดำเดินตรงมาประคองสายลับของเขา พามานั่งยังบัลลังก์มังกรดำก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยถ้อยคำอ่อนโยนแต่น้ำเสียงกลับ แฝงความอำมหิตไว้

     

     

    เจ้าเป็นยังไงบ้าง สายลับของข้า ธิดาคนงามแห่งอะโฟรไดท์ Phosเอา มือโอบรอบเอวสายลับอย่างถือวิสาสะ พร้อมกับเอามือค่อยๆเปิดผ้าที่ปิดบังใบหน้าของสายลับออก เผยให้เห็นเรือนผมสีน้ำตาลสยายเต็มแผ่นหลัง ดวงตาสีน้ำตาลงดงามรับกับใบหน้าหวานที่ละม้ายคล้ายอะโฟรไดท์   ใช่แล้ว...สายลับของPhosไม่ใช่คนอื่นคนไกล เธอคือธิดาแห่งอะโฟรไดท์ ...ยางามิ ฮิคาริ....

     

     

    “เธอสืบได้เรื่องอะไรมาบ้าง”  Phosเอ่ยถามตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ฮิคาริไม่ตอบแต่ยิ้มให้อย่างมีจริตก่อนจะเอามือคล้องคออีกฝ่าย แล้วค่อยๆเปิดผ้าคลุมหน้าอีกฝ่ายออก เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาคมคายละม้ายคล้ายทาเครุ ฮิคาริมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยสายตาวิบวับหวานหยดย้อยแล้วพูดว่า

     

     

     

    “ถ้าฉันบอก ฉันจะได้อะไรตอบแทนล่ะ ทาเคอิชิ ทาเคชิ บุตรแห่งโพไซดอน อ้อ! แล้วก็พี่ชายฝาแฝดของทาเคอิชิ ทาเครุ ” Phosหรือทาเคชิได้ยินคำถามก็ยิ้มให้ฮิคาริก่อนจะบอกว่า

     

     

    “ตามที่เราเคยทำสัญญากัน ฉันต้องการสามสิ่งของเหล่าเทพเจ้าที่ทรงพลังอำนาจมากที่สุดในโลก...สายฟ้าแห่งซุส...ตรีศูลแห่งโพไซดอน แล้วก็...หมวกล่องหนแห่งฮาเดส ส่วนเจ้าจะได้ครองบัลลังก์แห่งโอลิมปัสกับดินแดนแห่งเทพทั้งหมด!” ได้ยินดังนั้นฮิคาริก็ยิ้มพอใจคว้าทาเคชิมาจูบ ยั่วให้เขาหลง ซึ่งคนเจนจัดมากประสบการณ์อย่างทาเคชิก็ยอมตามใจแต่เคลิ้มได้ไม่นานก็ได้สติผละออกพร้อมกับถามอีกครั้ง

     

     

    “เดี๋ยว...เธอยังไม่ได้บอกฉันเลยนะ สืบได้อะไรบ้าง”

     

     

    “ฉันได้ยินมาว่าทางโอลิมปัสจะจัดการประลองความแข็งแกร่ง ใครชนะก็ได้ครองสายฟ้าแห่งซุส ส่วนรางวัลรองชนะเลิศคือตรีศูลแห่งโพไซดอน นอกจากนี้...” ธิดาแห่งอะโฟรไดท์ยั้งไว้แค่นั้น

     

    “แค่นั้นเหรอ”

     

     

    “ค่ะ แค่นั้นจริงๆ ว่าแต่ท่านมีอะไรให้รับใช้อีกมั้ยคะ” ฮิคาริตอบเสียงหวานกลบเกลื่อนไม่ให้Phosรู้ว่าตนไม่ได้บอกเรื่องที่สืบมาทั้งหมด ก่อนจะเอามือข้างหนึ่งที่กำลังคล้องคอทาเคชิออกเปลี่ยนมาเป็นลูบโลมใบหน้าขึ้นลงช้าๆ ส่วนมืออีกข้างก็คล้องคอเช่นเดิม เธอค่อยๆยื่นหน้าไปจูบเขาอย่างเร่าร้อน ซึ่งทาเคชิก็หลับตาพริ้มจูบตอบอย่างร้อนแรงพอกัน ทำให้เขาไม่เห็นนัยน์ตาแข็งกร้าวราวกับสัตว์ป่าของอีกฝ่าย

     

     

    ...นัยน์ตาที่สื่อว่าเธอคิดจะทรยศ...

     

     

    แม้ว่าPhosจะไม่มีโอกาสเห็นนัยน์ตานั่น แต่ฮิคาริไม่รู้เลยว่า ดิจิมอนไกเซอร์ พันธมิตรคนสำคัญของทาเคชิได้แอบเห็นนัยน์ตานั้น

     

     

    “แกเรียกฉันมา มีเรื่องอะไร” ทาเคชิเอ่ยถาม เมื่อถูกผู้มีโค้ดเนมว่าดิจิมอนไกเซอร์เรียกตัวมาพบ

     

     

    “ที่เรียกมาก็ไม่มีไรมากหรอก ฉันแค่อยากเตือนนายไว้เท่านั้น”

     

     

    “เตือนฉันเรื่องอะไร” ทาเคชิถาม เขางงมากเพราะปรกติดิจิมอนไกเซอร์มักจะไม่มายุ่งเกี่ยวอะไรกับเขามากนัก นอกจากข้อตกลงที่ว่าจะร่วมมือกันล้มล้างเทพเจ้า ดิจิมอนไกเซอร์ยิ้มคล้ายจะเยาะหยันแต่น้ำเสียงจริงจัง

     

     

    “เรื่องลูกสาวของอะโฟรไดท์”

     

     

    “ทำไม ฮิคาริทำไมเหรอ”

     

     

    “ฉันไม่ไว้ใจเธอ” ชายวัยเดียวกันกับทาเคชิพูดน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะพูดต่อ

     

     

    “ฉันว่าเธอคนนั้นคิดจะหักหลังเรา” ได้ยินคำพูดนั้นPhosก็หัวเราะออกมา ทำให้ดิจิมอนไกเซอร์งงมากกับท่าทางที่ทาเคชิดูไม่กังวลกับเรื่องที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย

     

     

    “หัวเราะทำไม นี่แกไม่กังวลกับเรื่องนี้เลยรึ”

     

     

    “ไม่” Phosตอบก่อนจะยิ้มชั่วร้ายแล้วพูดต่อว่า

     

     

    “นี้แกคิดว่าฉันจะโง่ขนาดจะยกโอลิมปัสให้ยัยนั้นเหรอ ไม่มีทาง! ฉันแค่หลอกใช้ยัยนั้นให้ไปสืบความเป็นไปในโอลิมปัสเพื่อหาช่องทางขโมยอาวุธของเหล่ามหาเทพและยึดครองโอลิมปัสต่างหาก แล้วพอเสร็จงานฉันค่อยฆ่ามันทิ้ง!Phosพูดอย่างเลือดเย็นก่อนจะหัวเราะออกมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าฮิคาริผ่านมาทางนี้และแอบได้ยินคำพูดทั้งหมด!

     

     

    “หึ...คิดจะหลอกใช้คนอย่างฮิคาริ มันเร็วไปร้อยปี!” เธอพึมพำกับตัวเอง พลางคิดถึงเรื่องที่เธอบอกทาเคชิว่าจะมีการประลองความแข็งแกร่ง ความจริงเธอยังบอกPhosไม่หมด เธอตั้งใจเก็บประโยคที่ว่าคนที่ชนะเลิศนอกจากจะได้สายฟ้าแห่งซุสแล้วยังจะได้ครองโอลิมปัสด้วย ส่วนรองชนะเลิศนอกจากจะได้ตรีศูลแล้วยังจะได้ครองอาณาจักรใต้ทะเลของโพไซดอนด้วย เพราะเธอคิดจะยืมมือPhosกำจัดเทพเจ้า และคิดจะให้เทพเจ้ากำจัดPhosด้วยในตัว จากนั้นเธอก็จะขึ้นครองโอลิมปัสแต่เพียงผู้เดียว!

     

     

    ฮิคารินึกแล้วก็หยิบมีดบินอาวุธคู่ใจออกมาดูแล้วยิ้มร้าย พึมพำกับตัวเองว่า

     

     

    “อีกไม่นานก็รู้...ใครหลอกใช้ใครกันแน่!” ฮิคาริมองมีดด้วยแววตาโหดเหี้ยม

     

     

     

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

    เกร็ดความรู้

    *เทพเฮเฟตัส บางตำราก็บอกว่าเป็นโอรสของซุสและเฮร่า

    **อา ธีน่าเป็นธิดาของซุสที่เกิดจากการที่ซุสกลืนเทพีเมทิสที่กำลังมีครรภ์แก่ แล้วในการประชุมพลเทพครั้งหนึ่งซุสเกิดอารปวดศีรษะอย่างรุนแรง จึงให้เฮเฟตัสเอาขวานผ่าปรากฏว่าอาธีน่าก็กระโดดออกมา อาธีน่าจึงถือว่าเป็นเทพีที่กำเนิดจากซุสโดยตรง


    ***พระ พรหมเป็นผู้สร้างโลกตามควาเชื่อของศาสนาฮินดูและประเทศไทย เป็นหนึ่งในตรีมูรติอันประกอบไปด้วยพระพรหม พระนารายณ์ และพระศิวะ(คนไทยรู้จักในพระนามว่าพระอิศวร)


    ****พระ นารายณ์เป็นเทพผู้บริหาร ที่คอยบริหารโลกมนุษย์หลังจากที่พระพรหมทรงสร้าง พระองค์มักอวตารลงมาช่วยเหลือมนุษย์ให้พ้นจากความเดือดร้อน การอวตารครั้งสำคัญคือ 'รามาวตาร' อวตารเป็นพระรามต่อสู้กับทศกัณฐ์ในเรื่องรามายณะ(คนไทยรู้จักกันในชื่อเรื่องรามเกียรติ์) พระองค์เป็นหนึ่งในตรีมูรติ

    ***** พระศิวะเป็นเทพแห่งการทำลายล้างตามความเชื่อในศาสนาฮินดู พระองค์เป็นหนึ่งในตรีมูรติ


    ******อามอนรา เป็นเทพแห่งดวงอาทิตย์ พระองค์เป็นผู้สร้างมวลมนุษย์และทุกสรรพสิ่งตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ

    ******* เง็ก เซียนฮ่องเต้ เป็นเทพเจ้าสูงสุดในการปกครองตามความเชื่อของชาวจีน ชาวจีนเชื่อว่าพระองค์เป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในสวรรค์และโลกมนุษย์ สามารถบัญชาเทวดาทั้งสวรรค์และทุกสรรพสิ่งในโลกได้แม้กระทั่งจักรพรรดิที่ เป็นมนุษย์ พระองค์มีหน้าที่ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์ร่มเย็นเป็นสุข

     

     

    ********อินคาเป็นชื่ออาณาจักรโบราณในประเทศเปรูราว เป็นอาณาจักรที่นับถือดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อย่างเคร่งครัด

     

     

    *********เทพอินติ เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ตามความเชื่อของชาวอินคา ชาวอินคาเชื่อว่าบรรพบุรุษของพวกเขาสืบเชื้อสายมาจากดวงอาทิตย์

     

     

    **********เมโสโปเตเมียเป็นอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ปัจจุบันคือประเทศอิรัก

     

     

    *************โซโรแอสเตอร์เป็นศาสนาโบราณประจำจักรวรรดิเปอร์เซีย( ปัจจุบันเปอร์เซียคือประเทศอิหร่าน)

     

     

    **************โอดิน เทพเจ้าแห่งสายฟ้า สงคราม และบทกวีตามความเชื่อของชาวนอร์ส ชาวนอร์สเชื่อว่าพระองค์เป็นผู้สร้างโลก

     

     

    ***************Δίας. เป็นภาษากรีกอ่านตามเสียงภาษาอังกฤษว่า ‘Zeus’ หรือซุส

     

     

    ***************Διαπερατός เ)นภาษากรีกอ่านตามเสียงภาษาอังกฤษว่าDiaperatós แปลว่าผ่านเข้าไปได้

     

     

    **************** อินเดียใต้ หมายถึง ประเทศอินเดียในปัจจุบัน

     

    ***************** อินเดีย เหนือ หมายถึง ประเทศปากีสถานในปัจจุบัน ในอดีตปากีสถานเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโมกุล ราชวงศ์โมกุลเป็นราชวงศ์ที่นับถือศาสนาอิสลาม และเป็นราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองอินเดียก่อนตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เมื่ออินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษแล้ว เกิดความวุ่นวายภายในอินเดียเนื่องจากชาวอินเดียบางส่วนนับถืออิสลาม ในขณะที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพราหมณ์ฮินดูและศาสนาพุทธ เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง ชาวอินเดียที่นับถืออิสลามจึงแยกส่วนภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดียออกและ ตั้งปากีสถานขึ้นเมื่อค.ศ.1947 มีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ ประชากรบางส่วนที่มีเชื้อสายอินเดียเดิมยังคงนับถือศาสนาฮินดู

     

    ****************** ยักษ์ไซคลอปเป็นอสูรกายชนิดหนึ่งในตำนานกรีก


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×