คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [NAMSOMG] Violet # 4
คังซึงยูนพยุงร่างแทฮยอนกลับมาที่อพาร์ทเม้นท์ของแทฮยอนที่เขาเช่าอาศัยอยู่เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราวช่วงที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยเท่านั้น ห้องพักของแทฮยอนจึงตกแต่งแบบเรียบๆ ไม่หรูหราฟู่ฟ่าตามประสาของห้องพักคนเมือง
ตั้งแต่ที่แทฮยอนโทรศัพท์ให้ซึงยูนไปรับ แทฮยอนก็ไม่พูดไม่จา สภาพราวกับคนที่เป็นอัมพาตไปแล้วทั้งตัว ซึงยูนพยายามชักชวนแทฮยอนให้พูดคุย แต่แทฮยอนกลับเลือกที่จะเงียบ ดวงตาที่เคยฉายแววของความสดใสตามแบบฉบับของเด็กหนุ่มอารมณ์ดีกลับฉาบหม่นไปด้วยความเศร้า แววตาเป็นประกายในดวงตาของแทฮยอนหายไปจนหมดสิ้น
“แทฮยอนนอนพักก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะเอากระเป๋าไปเก็บกับไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้นายนะ”
ยังคงมีแต่ความเงียบที่ตอบกลับมาหาคนร่างโปร่งที่เพิ่งวางร่างบางลงบนเตียงนุ่ม เป็นแบบนี้ ซึงยูนก็อดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ แทฮยอนไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน
ซึงยูนเดินเลี่ยงไปที่โต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่อีกหนึ่งมุมห้อง ก่อนจะวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ แต่ซึงยูนไม่ทันวางกระเป๋าในมุมที่พอดีทำให้ประเป๋าของแทฮยอนหล่นร่วงลงพื้นจนข้าวของในกระเป๋าของแทฮยอนกระเด็นออกมาจจกระจายเต็มพื้นไปหมด
แม้เสียงกระทบจะดังจนลั่นห้อง แต่แทฮยอนกลับไม่กระดิกตัวเลยแม้แต่น้อย
ซึงยูนลอบหายใจก่อนจะก้มลงเก็บข้าวของของแทฮยอนขึ้นมาทีละชิ้น ตั้งแต่สมุดบันทึกวิชาเรียน ปากกาดินสอ กระเป๋าสตางค์ สมุดบันทึกเล่มหนาที่แทฮยอนชอบพกติดตัว และ ... ซากดอกไม้แห้งๆ สีน้ำตาลเข้มที่ซึงยูนไม่เคยเห็นมันเลย
“ซึงยูน ขอดอกไวโลเล็ตนั้นให้ฉันเถอะ”
เสียงจากคนที่อยู่บนเตียงดังขึ้น แม้เสียงจะแผ่วเบาแต่ก็ทำให้ซึงยูนใจชื้นขึ้นมาได้ คนร่างบวมรีบวิ่งมานั่งที่เตียงก่อนจะยื่นดอกไม้แห้งนั้นใกล้ใบหน้าของแทฮยอนให้คนร่างบางบนเตียงเห็นมันได้ชัดเจนมากขึ้น
“นายต้องการ สิ่งนี้หรอ ?”
“ใช่” แทฮยอนเอื้อมมือที่ไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาคว้าดอกไวโอเล็ตที่ถูกทับจนแบนและแห้งจนกรอบบาง ไม่ต่างอะไรจากตัวและหัวใจของแทฮยอนเลยแม้แต่น้อย “นายเชื่อเรื่องความหมายของดอกไม้ไหม ? ซึงยูน นายรู้ไหมว่าดอกไวโอเล็ตในมือของฉันตอนนี้มันมีความหมายว่าอะไร ?”
“ฉันไม่รู้หรอก ...”
“ดอกไวโอเล็ตมีความหมายถึงความเชื่อใจ ความไว้วางใจ และความศรัทธา” แทฮยอนยังคงนอนมองดอกไวโอเล็ตแห้งกรอบในมืออยู่อย่างนั้น “คนที่ฉันรักมากที่สุดให้ดอกไวโลเล็ตดอกนี้ไว้กับฉัน ก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ตอนนั้นฉันกับเขายังเด็กกันมาก ไม่รู้จักการติดต่อสื่อสารแบบทุกวันนี้ ทำให้ฉันกับเขาไม่มีโอกาสได้ติดต่อกันเลย มีเพียงแค่คำสัญญากับดอกไวโอเล็ตดอกนี้เท่านั้นที่เขาให้ฉันเป็นของเตือนใจว่าฉันยังมีเขาอยู่ในความทรงจำเสมอ และฉันก็โง่งมงายที่ยังจมปรักตัวเองอยู่กับคำสัญญาของคนคนนั้น”
ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งระบายความอัดอั้นตันใจที่เก็บเอาไว้ในหัวใจของแทฮยอนออกมาให้ระเบิด น้ำตาที่แทฮยอนคิดว่าแห้งเหือดไปแล้วก็พลอยไหลออกมาเสียดื้อๆ เสียงสะอื้นของแทฮยอนเริ่มดังเล็ดลอดออกมาจากลำคออีกครั้ง คนร่างบางตัวสั่นเทา ความเจ็บปวดยิ่งถาโถมเข้ามาเมื่อพูดถึงใครคนนั้น ...
คนที่กลับมาแล้วทำลายหัวใจของแทฮยอนได้มากมายขนาดนี้
คนที่ชื่อ ... ซงมินโฮ !
ซึงยูนที่เห็นเพื่อนรักของตัวเองนอนสะอื้นร้องไห้อยู่ก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ไม่เคยเห็นแทฮยอนอ่อนแอได้ถึงขนาดนี้ ซึงยูนคงทำอะไรมากไม่ได้นอกจาก ... คว้าตัวคนที่นอนร้องไห้อยู่ขึ้นมากอดจนแน่นเพื่อให้เสื้อที่เขาใส่อยู่ดูดซับน้ำตาของแทฮยอนให้แห้ง มือของซึงยูนลูบกลุ่มเรือนผมนิ่มของแทฮยอนเชิงปลอบใจ
“คนคนนั้นที่นายพูดถึงคือคนที่นายเห็นแวบๆ ตอนที่อยู่มหาวิทยาลัยเมื่อวานนี้ใช่ไหม ?” ไม่มีคำตอบใดๆ หลุดจากปากของแทฮยอน แต่ซึงยูนรู้สึกได้เมื่อคนร่างบางในอ้อมแขนพยายามพยักหน้าให้จนหัวทุยๆ นั้นถูไถไปตามช่วงไหล่ “วันนี้นายก็เจอเขาหรอ ?” แทฮยอนพยักหน้าอีกครั้ง “นายคนนั้นเป็นใคร ? ฉันจะไปฆ่ามัน”
เลือดในกายของเด็กหนุ่มร้อนพล่านขึ้นจนซึงยูนควบคุมตัวเองไม่อยู่ลุกพรวดขึ้นเตรียมเดินออกไปที่ประตูห้อง แต่แทฮยอนกลับคว้าที่ข้อมือของซึงยูนได้ทัน
“ซึงยูน อย่าไป !”
“ทำไมแทฮยอน ! นายรักมันมากเลยหรอ ? มันทำให้นายเสียใจร้องไห้หมดเรี่ยวหมดแรงเหมือนกับคนบ้าขนาดนี้ มันยังไม่กลับมาเยียวยาดูแลนายเลย นัมแทฮยอน ...”
“ใช่ ! ฉันรักพี่มินโฮ !” เสียงตะโกนของแทฮยอนหยุดอาการหมาบ้าในตัวของซึงยูนลงจนแทบสงบ แต่แทฮยอนกลับปล่อยโฮออกมาอย่างหนักอีกครั้ง “ฉันรักพี่มินโฮ รักมาตลอด พี่มินโฮเป็นรักแรกของฉัน แม้จะเป็นเด็ก แต่สำหรับพี่มินโฮคือรักของฉันจริงๆ ฉันรักทุกอย่างในตัวพี่มินโฮ แม้แต่ตอนนี้ แม้ฉันจะกลายเป็นคนนอกสายตาของพี่มินโฮ แต่ฉันก็ยืนยันที่จะรักพี่มินโฮ นายได้ยินชัดเจนแล้วใช่ไหมซึงยูนว่าฉันรักพี่มินโฮ !”
ดวงตาเล็กของซึงยูนขยายทันทีกับความใจกล้าของแทฮยอน เวลานี้คนร่างบางอ่อนแอมากเกินไป คำตอบของแทฮยอนสยบอาการดุร้ายในตัวซึงยูนจนหมดสิ้น เขาไม่ควรจะปล่อยให้เพื่อนรักของเขาเป็นอย่างนี้ ไม่ควรปล่อยให้แทฮยอนอยู่กับตัวเองในระยะนี้
เลือดในกายของซึงยูนเย็นลงบ้างแล้ว คนร่างโปร่งทรุดลงนั่งบนเตียงเหมือนเดิม นั่งมองคนคิ้วตกที่ยังคงระบายความเสียใจผ่านน้ำตาหยดใสอยู่อย่างนี้
“แทฮยอน นายไม่เคยเป็นอย่างนี้ แสดงว่านายรักคนที่ชื่อมินโฮมากจริงๆ ใช่ไหม ?”
แทฮยอนพยักหน้าตอบ มือยังคงถือดอกไวโอเล็ตเอาไว้อย่างถนุถนอม
“ไม่ว่าจะผ่านไปนานนับสิบปี ฉันก็จะยังรักพี่มินโฮ ต่อให้พี่มินโฮจะจำฉันไม่ได้ ฉันก็จะเป็นคนที่เรียกความทรงจำของพี่มินโฮกลับมาเอง แม้พี่มินโฮจะไม่รักฉัน แต่ฉันก็จะรักพี่มินโฮ ... ฉันเหมือนคนโง่ที่รักพี่มินโฮอยู่ฝ่ายเดียวเลยเนาะ ซึงยูน”
“ไม่หรอก ... เพราะถ้าฉันเป็นนาย ฉันก็จะทำแบบนายเหมือนกัน”
เจ็บปวดกับคำพูดของตัวเองมากไหมล่ะ ? คังซึงยูน ...
มีสปอยตอนหน้าเป็นของแถมนิดหน่อยค่ะ ^^
“พี่ถามฉันมาไม่รู้กี่รอบแล้วนะ พี่จินอู ฉันยืนยันว่าฉันจะทำต่อไปเรื่อยๆ เพื่อพิสูจน์ความเชื่อใจของแทฮยอน จนกว่าฉันจะแน่ใจว่าแทฮยอนจะยังเชื่อใจฉันอยู่”
“แต่เมื่อวานนี้ ตอนที่เด็กแทฮยอนนั้นร้องไห้ต่อหน้าพวกเรา ฉันว่านั้นมันก็เพียงพอแล้วนะมินโฮ”
“พี่จะแน่ใจได้ไงว่าเพียงพอแล้ว ?”
“ซงมินโฮ !”
งืมๆ มาสปอยแค่นี้แหละค่ะ คิคิ
เจอกันตอนต่อไปค่ะ :))
ความคิดเห็น