ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Flower the Series [WINNER & iKON]

    ลำดับตอนที่ #2 : [NAMSONG] Violet # 1

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ย. 57


                ปิดเทอมภาคฤดูร้อนหมดไปอย่างรวดเร็ว ชีวิตของนักศึกษามหาวิทยาลัยจึงเริ่มต้นอีกครั้ง แทฮยอนกลับมาที่เมืองหลวง เมืองใหญ่โตดินแดนที่ไม่เคยหลับใหลในฐานะของนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่สาม แม้จะรู้สึกเกียจคร้านขึ้นมาบ้าง แต่เพื่ออนาคต แทฮยอนจึงเลือกที่จะอดทนและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เขาอยู่ให้ได้มากที่สุด

     

                    ทันทีที่เท้าของเขาก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย คังซึงยูนเพื่อนสนิทที่สุดของเขาก็รีบวิ่งเข้ามาหาเขา โดยปล่อย อีซึงฮุนลูกพี่ลูกน้องที่เรียนอยู่ชั้นปีที่สี่เอาไว้ข้างหลัง แต่พี่ซึงฮุนก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมยังยืนรออยู่ที่เดิมเพื่อรอน้องชาย

     

                    “นัมแทฮยอน นายไปบ้านพักตากอากาศทำไมนายไม่ชวนฉันกับพี่ซึงฮุนไปด้วยล่ะ ? พวกฉันก็อยากเห็นบ้านพักตากอากาศของนายนะ อยากเจอแม่และน้องของนายด้วย”

     

                    ซึงยูนยิ้มจนแก้มที่บวมอยู่แล้วบวมมากขึ้นไปอีก

     

                    “เอาไว้โอกาสหน้าฉันจะนายไปนะ ช่วงฤดูร้อนไปแล้วร้อนเปล่าๆ ฉันขี้เกียจฟังนายบ่นว่าร้อนอย่างนั้นอย่างนี้ ไปช่วงฤดูหนาวอากาศจะดีมากกว่า บ้านอยู่ริมเนินเขา เช้าๆ ออกมาดูทะเลหมอก พอตกเย็นนั่งผิงไฟกินเนื้อย่าง บรรยากาศจะดีมากกว่านะ”

     

                    “นายพูดซะฉันอยากจะมีเวทมนต์เร่งเข็มนาฬิกาเอาฤดูหนาวมาเร็วๆ จริงๆ เลย”

     

                    แทฮยอนส่ายหัวก่อนระบายรอยยิ้มขึ้นให้เพื่อนตัวแสบที่วันๆ คิดอยากจะไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ สงสัยเป็นเพราะที่บ้านของซึงยูนเปิดร้านไอศกรีม ซึงยูนจึงต้องช่วยทำงานที่บ้าน ยิ่งเป็นช่วงฤดูร้อน ร้านไอศกรีมของซึงยูนจึงได้รีบความสนใจเป็นพี่เศษ เพราะนอกจากไอศกรีมอร่อย ตกแต่งร้านน่ารัก บริการดีแล้ว

     

                    ยังมีซึงยูนและพี่ซึงฮุนเป็นจุดขายอีกด้วย

     

                    “พี่ซึงฮุน สวัสดีครับ”

     

                    แทฮยอนโค้งให้ซึงฮุนอย่างนอบน้อม เพราะแทฮยอนก็นับถือลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนสนิทคนนี้เป็นเหมือนลูกพี่ลูกน้อง เหมือนพี่ชายตัวเองเหมือนกัน

     

                    “สวัสดีแทฮยอน พี่ล่ะอิจฉาคนที่ได้ไปบ้านพักตากอากาศไปหลบหลีกเอาอากาศบริสุทธิ์จริงๆ เลย”

     

                    “ฤดูหนาวนี้ค่อยไปด้วยกันก็ได้นะครับ ผมบอกซึงยูนไว้แล้วว่าจะพาไป”

     

                    “ดีจัง ถ้าได้ไปฤดูหนาวคงจะดีกว่านี้แน่ๆ” ซึงฮุนพูดพร้อมเหลือบดูนาฬิกาเรือนใหญ่บนข้อมือตัวเอง “ใกล้จะได้เวลาเรียนของพี่แล้ว พี่ขอตัวไปเข้าห้องเรียนก่อนเลยนะ ตั้งใจเรียนกันด้วยล่ะ โดยเฉพาะนาย ซึงยูน ถ้าฉันรู้ว่านายแอบหลับในห้องเรียนหรือไม่ตั้งใจเรียน เรื่องนี้ถึงหูคุณน้าแน่”

     

                    “ทำไมพี่ถึงได้โหดกับฉันนักล่ะ ?”

     

                    ซึงยูนทำปากเบะใส่พี่ชายตัวเอง แทฮยอนโค้งให้ซึงฮุนก่อนที่พี่ชายร่างเพียวจะโบกมือให้หยอยๆ ก่อนเดินจากไปเข้าอาคารเรียนที่อยู่ด้านข้างของมหาวิทยาลัย

     

                    แทฮยอนกับซึงยูนก็คงต้องเข้าห้องเรียนเหมือนกัน จึงได้แต่เดินสาวเท้าไปเรื่อยๆ เพราะห้องเรียนวันนี้อยู่เพียงแค่ชั้นที่สองของอาคารเรียนหนึ่ง จึงไม่ค่อยรีบร้อนเท่าไรนัก

     

                    แต่แทฮยอนก็ต้องหยุดก้าวเท้า เมื่อเห็นใครบางคนเดินผ่านเขาไป คนผิวคล้ำไม่ต่างอะไรกับคนที่อยู่ในความทรงจำ แม้ร่างจะไม่อ้วนแล้วยังสูงและดูดีอีกด้วย คนคนนั้นชวนให้แทฮยอนวิ่งตามไปดูให้แน่ใจว่าคนนั้นคือคนที่อยู่ในความทรงจำของแทฮยอนจริงๆ ไม่ได้ตาฝาดไป

     

                    “คุณครับ คุณ !

     

                    สองขายาวๆ ของแทฮยอนพยายามจะวิ่งตาม เขาคนนั้นไป ซึงยูนตกใจเล็กน้อยที่อยู่ดีๆ เพื่อนรักของเขาก็วิ่งย้อนกลับไปทางเดิม แทนที่จะวิ่งขึ้นชั้นที่สองของอาคารเรียน

     

                    “แทฮยอน แทฮยอน นั้นนายจะไปไหน ?”

     

                    ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ซึงยูนจึงได้แต่วิ่งตามไปพร้อมทั้งส่งเสียงร้องเรียกให้แทฮยอนหันกลับมา เสียงของทั้งแทฮยอนและซึงยูนตะโกนลั่นไปทั่วทั้งอาคาร คนคนนั้นหายไปแล้ว นี่แทฮยอนตามเขาไม่ทันอย่างนั้นหรอ ? คนร่างบางหยุดวิ่งก่อนก้มตัวหายใจหอบ

     

                    ไม่ผิดแน่ คนคนนั้น ...

     

                    “แทฮยอน นายเป็นบ้าอะไรเนี้ย ? นายเจอใครถึงได้วิ่งหน้าตั้งออกมาเรียกเสียงดังลั่นขนาดนี้ นายวิ่งเร็วเป็นบ้าเลย ไม่คิดจะรอกันเลยใช่ไหม ? โอ้ย ! เหนื่อยชะมัด !” ซึงยูนก็เหนื่อยไม่แพ้กัน ยืนเอามือค้ำกับเข่าตัวเองก่อนจะหอบหายใจตัวโยน ก่อนจะยกมือขึ้นตบบ่าของแทฮยอนเบาๆ “ตอบฉันมาได้ยัง ? ว่านายเจอใครถึงได้วิ่งเร็วปานพายุใต้ฝุ่นขนาดนี้ ?”

     

                    “อ่า ... ช่างมันเถอะ แค่เขารูปร่างหน้าตาคล้ายๆ กับคนที่ฉันเคยรู้จักเท่านั้นเอง”

     

                    “อะไรนะ ? แค่คล้ายๆ คนรู้จัก แต่นายวิ่งซะเจอคนที่นายแอบชอบงั้นแหละ”

     

                    คนที่แอบชอบ ... งั้นหรอ ?

     

                    อาจจะใช่ พี่ชายคนนั้น อาจจะเป็นคนที่แทฮยอนชอบมาตลอดก็ได้ พี่ชายที่เคยให้คำสัญญาว่าให้แทฮยอนเชื่อใจในตัวของเขา เขาต้องกลับมาหาแทฮยอนแน่นอน แทฮยอนไม่เคยลืมคำสัญญาที่พี่มินโฮให้เขาไว้ก่อนจะจากกันในช่วงวัยเด็ก แทฮยอนไม่เคยลืม แทฮยอนยังเก็บดอกไวโอเล็ตที่พี่มินโฮเคยให้เขาเอาไว้เสมอ แม้จะผ่านมานานหลายปีแล้วก็ตาม

     

                    แต่พี่มินโฮจะยังคงจำสัญญาที่ให้ไว้ได้ไหมว่าจะกลับมาหาแทฮยอน ...

     

                    ไม่ใช่ปล่อยให้แทฮยอนเก็บความไว้ใจที่ให้พี่ไว้คนเดียว ในขณะที่พี่มินโฮลืมมันไปหมดแล้ว

     

                    “ช่างมันเถอะ ซึงยูน ไปเข้าเรียนกันเถอะ”

     

                    แทฮยอนคว้าท่อนแขนของซึงยูนได้ก็ลากให้คนที่ยังคงหายใจหอบให้เดินตามแรงฉุด ซึงยูนทำได้แค่โวยวายว่ายังไม่หายเหนื่อยอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ก็ต้องจำใจเดินตามคนร่างบางเพื่อจะได้เข้าเรียนให้ทันเวลา

     

                    ทันทีที่ทั้งสองคนหันหลังเพื่อย้อนกลับไปขึ้นห้องเรียน ใครบางคนที่แอบอยู่ด้านหลังซอกอาคารค่อยๆ ถอดแว่นตาสีดำสนิทที่สวมใส่อยู่ออกเพื่อโฟกัสไปที่แผ่นหลังของแทฮยอนได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

     

                    “นัมแทฮยอน ...”

     

     

     

                    “ถ้านายคิดถึงเด็กคนนั้นมากนัก ทำไมไม่ออกไปเผชิญหน้ากับเด็กคนนั้นเลยล่ะ ?”

     

                    “ก็มันยังไม่พร้อมที่จะเจอนี่นา”

     

                    คนผิวเข้มตอบพร้อมกับยกแก้วก้านยาวที่บรรจุเครื่องดื่มสีแดงเข้มขึ้นจิบช้าๆ สายตาคมเหลียวมองออกไปนอกกระจกแผ่นใสที่ภายนอกอาคารสูงในเวลานี้เริ่มที่จะเข้าสู่ช่วงเวลาวุ่นวาย เพราะเป็นช่วงเวลาเลิกงานของคนทำงาน ท้องฟ้าเริ่มทาสีเทาหม่นก่อนจะเข้าสู่ช่วงมืดค่ำที่นักท่องราตรีจะเริ่มออกมาเที่ยวหลังจากที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน คนโสดมักจะออกมาท่องเที่ยวพบปะผู้คนใหม่ๆ ส่วนคนที่มีครอบครัวก็คงจะเลี่ยงที่จะกลับไปที่บ้านเพื่อพบหน้ากับครอบครัวที่แสนอบอุ่น

     

                    “แล้วเมื่อไรกันที่นายจะพร้อมเจอเด็กคนนั้น ?”

     

                    คนตัวเล็กลุกขึ้นจากโซฟาก่อนคว้าแก้วไวน์แดงเดินมาเอาใบหน้าเล็กขึ้นมาเกยไหล่คนร่างหนาจากด้านหลัง ถ้าใครมาเห็นคงจะคิดว่าทั้งสองคนนี้คงจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งแน่ๆ แต่สำหรับเขาสองคน คงจะไม่มีอะไรมากเกินไปกว่าคำว่ารุ่นพี่รุ่นน้องเท่านั้น

     

                    อาจเป็นเพราะเขาทั้งสองคนเติบโตและเรียนด้วยกันที่ต่างประเทศมานาน ทำให้วัฒนธรรมการใช้ชีวิตของชาวตะวันตกครอบงำพวกเขามากเกินไปเท่านั้น แต่ถึงยังไง พอพวกเขากลับมาที่เกาหลี พวกเขาก็พร้อมที่จะปรับตัว ขอเพียงแค่เวลาเท่านั้น

     

                    “คงอีกไม่นานหรอกครับ” คนร่างหนาหันกลับมามองคนตัวเล็กก่อนยกยิ้มที่มุมปาก “ผมคงต้องขอพึ่งพาพี่สักระยะหนึ่งนะครับ พี่จินอู หวังว่าพี่คงจะไม่โกรธถ้าผมขอร้องให้พี่มาเป็นเครื่องมือพิสูจน์ความเชื่อใจของแทฮยอนที่มีต่อผม”

     

                    “จะไปโกรธได้ยังไงล่ะ ? พี่ก็อยากให้นายกับเด็กคิ้วตกคนนั้นเข้าใจกันเร็วๆ สักที” คนตัวเล็กยกไวน์แดงสีเข้มขึ้นจิบอึกใหญ่ “แต่อย่าพิสูจน์นานๆ ล่ะ พี่สงสารเด็กคนนั้น แค่วันนี้นายเดินเฉียดๆ ไปเด็กคนนั้นก็วิ่งตามนายซะหน้าแทบจะทิ่ม พี่เชื่อว่าเด็กนั้นยังรอนายอยู่นะ มินโฮ”

     






    อันยองงงง ^^
    ในที่สุดซีรี่ย์นี้ก็คลอดสักที หลังจากที่ดองไว้นานพอสมควรค่ะ
    ฟิคเรื่องนี้ ไรท์ตั้งใจให้เป็นซีรี่ย์แตกเรื่องราวของแต่ละคู่อย่างที่เกริ่นเอาไว้แล้วนะคะ
    เน้นดราม่าเป็นหลักค่ะ ถ้าไม่สนุกยังไงก็ขอโทษนะคะ TT
    การบรรยายเรื่องอาจไม่สนุกเท่าไหร่ อ่านแล้วมีงงๆ มึนๆ บ้างก็ติชมได้นะคะ
    ไรท์เขียนช่วงที่ตัวเองอึนๆ อ่ะคะ

    PS. ช่วงนี้หลายๆ คนอาจกำลังโหวต MAMA 2014 กันสนุกสนานเลยใช่มั้ยเอ่ย ?
    ยังไงก็ดูแลสุขภาพกันด้วยนะ ไรท์ก็ปั่นโหวตวันละหลายสิบไอดีเหมือนกันค่ะ
    บวกกับใกล้วันรับปริญญาเต็มที ยุ่งชนิดหัวฟูกันเลยทีเดียว
    ช่วงนี้ฟิคเลยไม่ค่อยได้ปั่น นานๆ จะอัพทีเนาะ ^^

    เอนจอยรีดดิ้งค่ะ <3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×