ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Flower the Series [WINNER & iKON]

    ลำดับตอนที่ #12 : [NAMSONG] Violet # 11

    • อัปเดตล่าสุด 30 ม.ค. 58


                 เครื่องดื่มสีอำพันถูกรินลงแก้วใบใสครั้งแล้วครั้งเล่า และมันก็หมดลงอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือการยกดื่มของคนร่างโต จนบางครั้งเขารู้สึกว่าการรินเครื่องดื่มดังกล่าวลงไปในแก้วมันเสียเวลาจนเขาแทบอยากจะยกดื่มจากขวดสูงนั้นเสียด้วยซ้ำ

     

                    “มินโฮ พอก่อนไหม ? นายดื่มมากเกินไปแล้วนะ ? เดี๋ยวร่างกายนายจะรับไม่ไหวเปล่าๆ นะ”

     

                    จินอูพยายามที่จะหยุดมินโฮด้วยการกระชากขวดเครื่องดื่มดังกล่าวเข้ามาถือไว้เอง แต่ไม่เป็นผลเมื่อคนที่เริ่มมีอาการมึนเมาสามารถแย้งมันกลับมาได้ทุกครั้ง

     

                    “ไม่ต้องมายุ่งเลย พี่ไม่เป็นผมพี่ไม่เข้าใจหรอกว่าภาพวันนี้มันบาดตาบาดใจผมมากแค่ไหน” น้ำเสียงคลุมเครือตามสไตล์คนที่เป็นทาสแอลกอฮอล์ยังคงไม่หยุดที่จะพล่าม “พี่ก็รู้ว่าผมรักแทฮยอนมากแค่ไหน ผมหยุดที่จะพิสูจน์ความไว้ใจของแทฮยอนแล้วกลับมาคบกลับมาคุยกับแทฮยอนดีๆ แล้ว แต่ดูสิ่งที่แทฮยอนทำกับผมสิพี่ ไปยืนให้ไอ้ซึงยูนกอดกลางมหาวิทยาลัยอย่างนั้น มันใช่แล้วหรอพี่ ? แทฮยอนตอบแทนผมอย่างนี้หรอพี่ ? ทำไมแทฮยอนทำกับผมอย่างนี้ล่ะ ?”

     

                    น้ำตาของมินโฮเริ่มรินไหลลงมา ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่โดนอัดเข้าไปในร่างกายเริ่มบีบให้มินโฮระบายสิ่งที่กลั้นไว้ในใจออกมา ภาพที่แทฮยอนกับซึงยูนกอดกันยังคงติดตาเขาอยู่ แม้ว่าจะลืมตาหรือหลับตา ภาพนั้นมันก็ยังคงหลอกหลอนเขา

     

                    “นายแน่ใจหรอว่าแทฮยอนกับซึงยูน ...”

     

                    “ภาพมันฟ้องขนาดนั้นแล้วพี่จินอู ถ้าเป็นพี่ พี่จะเสียใจไหมล่ะ ?”

     

                    เสียงสะอื้นเริ่มหลุดออกมา มือหนายังคงรินเครื่องดื่มในขวดใสลงแก้วก่อนยกมันขึ้นมาซด

     

                    จินอูสะอึกกับคำถามของมินโฮบ้าง ...

     

                    นั้นสิ ... ถ้าเขาเป็นฝ่ายไปเจอซึงยูนกอดกับแทฮยอนบ้างจะรู้สึกยังไงนะ ? เสียใจมากแน่ๆ ใช่ไหม ?

     

                    จินอูอดทนกับคนเมาไม่ไหว ลุกขึ้นเดินออกมาที่ระเบียงเพื่อรับลมยามค่ำคืน ท่ามกลางเมืองหลวงที่วุ่นวาย แสงไฟสว่างไสวแทนที่จะได้เห็นดวงดาวอยู่บนฟากฟ้า กลับเห็นดวงดาวนั้นเป็นแสงสีสันหลากหลายบนท้องถนนและตามอาคารที่ไม่หลับใหลแทน

     

                    มือเล็กคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนต่อสายไปหาใครบางคน จินอูฟังเสียงสัญญาณเพียงแค่สองถึงสามครั้ง คนปลายสายก็รับโทรศัพท์ของเขาแล้ว

     

                    [ว่าไงพี่จินอู]

     

                    “ฉันรบกวนนายกลางดึกหรือเปล่า ?”

     

                    [เปล่าหรอก ... พอดีกำลังเขียนรายงานอยู่ มีอะไรหรือเปล่า ?]

     

                    “นายมีเบอร์โทรศัพท์ของนัมแทฮยอนหรือเปล่า ? ฉันขอได้ไหม ?”

     

                    [มีเรื่องอะไรสนุกๆ เกิดขึ้นหรอ ? ถึงได้โทรมาขอเบอร์เด็กน้อยคนนั้นกลางดึกกลางดื่นแบบนี้น่ะ ?]

     

                    “นายอย่าลีลาหน่อยเลย ตกลงให้เบอร์โทรของแทฮยอนกับฉันได้ไหม ?”

     

                    [โห ... ใจร้อนชะมัดเลยนะจินอู ให้แล้วๆ เตรียมตัวบันทึกนะครับ]

     

                    ทันทีที่ได้เบอร์โทรศัพท์ของแทฮยอนมา จินอูก็ต่อสายไปหาเด็กคนนั้น ก่อนที่ตัวเองจะออกจากห้องไป ทิ้งไว้เพียงแค่มินโฮที่เมาหลับไม่รู้เรื่องอยู่ที่เคาน์เตอร์ ลำดับต่อไปคงต้องให้คนสองคนเป็นคนจัดการเรื่องของความรู้สึกของตัวเองแล้วล่ะ ...

     

                   

     

                    แทฮยอนหยุดอยู่หน้าห้องของมินโฮตามที่จินอูบอกไว้เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ร่างบางทำอะไรไม่ถูกที่บุกมาห้องของคนอื่นยามวิกาลขนาดนี้ จึงได้แต่ยกมือขึ้นเคาะประตูเสียงแผ่วเบา

     

                    แต่ไม่มีใครมาเปิด ...

     

                    [ถ้ามาถึงก็กดรหัสห้องที่พี่บอกเปิดเข้าไปได้เลยนะ มินโฮเมาหัวราน้ำไปแล้ว ถ้ามัวแต่ยืนเคาะประตู มินโฮมันคงไม่มาเปิดประตูให้หรอกนะ แทฮยอนซัง]

     

                    จริงสินะ ... ทั้งๆ ที่พี่จินอูก็บอกเอาไว้แล้ว แต่เขาก็เผลอทำตัวซื่อเป็นเด็กๆ ไปได้

     

                    แทฮยอนแอบขำตัวเองเบาๆ ก่อนจะยกมือขึ้นกดรหัสประตู ทันทีที่เสียงสัญญาณและตัวหนังสือสีเขียวขึ้นว่า ‘OPEN’ แทฮยอนก็ถือวิสาสะค่อยๆ เปิดมันออก ก่อนก้าวหย่องๆ เข้าไปภายในห้อง

     

                    “พี่มินโฮ”

     

                    เท้าเล็กๆ เตะเข้าที่กระป๋องเบียร์จนเกิดเสียงดัง กระป๋องนั้นกลิ้งไปไม่ไกลนักก่อนจะไปหยุดที่ขาเก้าอี้บาร์ที่มินโฮนั่งหลับอยู่ แทฮยอนเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะรู้สึกสงสารคนที่ตัวเองรัก เพราะสภาพมินโฮที่แทฮยอนเห็นคือแทบจะไม่ใช่คนไปแล้ว

     

                    เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่คนเมาเผลอปัดจนหกเลอะเส้นผมสีดำสนิทจนเหม็นไปหมด เศษแก้วที่ตกลงแตกไม่ได้ทำให้คนตัวโตที่หลับสนิทตื่นขึ้นมาแต่อย่างไร แทฮยอนวางกระเป๋าลงบนโซฟากลางห้อง ก่อนเดินเข้าไปปลุกคนที่หลับสนิทด้วยความระมัดระวัง

     

                    “พี่มินโฮ พี่มินโฮตื่นก่อนสิ ใครสั่งใครสอนให้ดื่มจนเมาขนาดนี้เนี้ย ?”

     

                    “ปล่อย อย่ามายุ่ง !

     

                    มินโฮเผลอสลึมสลือขึ้นมาผลักคนตัวเล็กที่พยายามยกมือขึ้นปลุกให้เหวี่ยงไปตามแรงผลัก ร่างเล็กกระเด็นไปกองอยู่ที่มุมห้อง เจ็บและจุกไปในเวลาเดียวกัน แต่แทฮยอนก็อดทนลุกขึ้นมาปลุกคนเมาอีกรอบ

     

                    “พี่มินโฮ ตื่นสิ ! ลุกขึ้นมาคุยกันให้รู้เรื่องได้ไหม ?”

     

                    “บอกว่าอย่ามายุ่ง !” มินโฮสติขาดผึ่งก่อนลุกพรวด แต่ความเมาถึงขีดสุดก็กระตุกให้ร่างของมินโฮลงไปนอนกองที่พื้น แต่ตรงที่มินโฮลงไปกองนั้นคือบริเวณที่แก้วตกลงมาแตกและแทฮยอนก็ยังไม่ทันได้เก็บ ทำให้เศษแก้วปักลงไปที่มือหนาของมินโฮจนแทบจะฝังเข้าไปในเนื้อ เลือดสีแดงสดไหลออกมาตามปากแผล “โอ้ย !

     

                    “พี่มินโฮ ! พี่มินโฮเจ็บมากไหม ?”

     

                    แทฮยอนที่เพิ่งตั้งสติได้อีกครั้งรีบลงนั่งดูที่ฝ่ามือของมินโฮทันที น้ำตาของมินโฮเริ่มรินไหลเพราะความเจ็บปวด มืออีกข้างที่ไม่โดนเศษแก้วปักกำแน่นที่ข้อมือ แทฮยอนรีบพยุงมินโฮไปนั่งที่โซฟาด้วยความทุลักทุเล เลือดที่ยังคงไหลไม่หยุดเริ่มหยดออกมาเปรอะตามพื้นห้อง

     

                    แทฮยอนพยายามที่จะทำใจให้เข้มแข็ง เขาเกลียดเลือด เขาเกลียดความเจ็บปวด แต่เพื่อมินโฮที่เมาไม่ได้สติและยังเจ็บตัวอีก เขาเลยจำเป็นต้องเข้มแข็งไม่ให้สติกระเจิดกระเจิงไปอีก

     

                    ร่างบางวิ่งไปหาอุปกรณ์ทำแผลจากทุกๆ ที่ในห้อง เมื่อพบแล้ว เขาจึงมาวางไว้บนโต๊ะเล็กหน้าโซฟา ที่บนโต๊ะนั้นมีดอกไวโอเล็ตกระถางเล็กๆ วางตั้งไว้อยู่

     

                    พี่มินโฮก็มีดอกไวโอเล็ต พี่มินโฮก็คงรักและเชื่อใจแทฮยอนตลอดเวลาเหมือนกัน ...

     

                    คนร่างเล็กแอบยิ้มก่อนเสียงโอดครวญของมินโฮจะเรียกให้แทฮยอนหันมาสนใจ เขาจึงรีบจัดการเปิดกล่องยาสามัญประจำบ้านออกก่อนจะค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าออก ดวงตาเล็กมองที่เศษแก้วที่ปักอยู่บนมือของมินโฮก่อนจะทำใจจับไปที่เศษแก้วนั้น

     

                    “พี่มินโฮ เจ็บหน่อยนะ อดทนหน่อยนะครับ”

     

                    แทฮยอนกระซิบเสียงเบาที่ข้างหูของมินโฮก่อนออกแรงดึงเศษแก้วนั้นออก ทันทีที่วัตถุแหลมหลุดออกจากเนื้อ คนตัวโตก็กรีดร้องออกมาเสียงดังก่อนจะอดทนกับความเจ็บปวดไม่ไหว สลบเฮือกไปอีกรอบพร้อมท่าทางที่สงบขึ้น

     

                    ช่วงนี้ แทฮยอนจึงรีบทำแผลให้มินโฮอย่างทุลักทุเล อาจเป็นเพราะแทฮยอนไม่เคยทำแผลให้ใครมาก่อน ยิ่งแผลใหญ่ๆ อย่างนี้แทฮยอนยิ่งลำบากในการทำ เขาเลยกะว่าจะล้างแผลพอให้สะอาดก่อน แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยไปล้างแผลครั้งใหญ่ที่โรงพยาบาล

     

                    หลังจากที่แทฮยอนทำแผลให้มินโฮเสร็จ เขาก็เดินไปหยิบผ้าห่มหนามาคลุมให้มินโฮที่สลบไสลไม่รู้เรื่องราว อาจเป็นเพราะพิษบาดแผลและฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังไม่สร่างไป ใบหน้าคมของมินโฮเริ่มซีด สงสัยจะเสียเลือดมากเกินไป อีกทั้งยังดื่มแอลกอฮอล์ไปซะขนาดนั้น แทฮยอนอยากจะเหวี่ยงใส่ร่างคนตัวโตนัก แต่สภาพของมินโฮตอนนี้ เขาคงจะเหวี่ยงใส่ไม่ลง

     

                    “ผมรักพี่มินโฮนะครับ”



     




    อันยองค่ะ ^^

    ไรท์แอบมาบอกว่า ไวโอเล็ตเหลืออีก 2 ตอนก็จบแล้วนะคะ

    ขอบคุณรีดเดอร์เงาทุกคนเลยนะคะที่หลงเข้ามาอ่าน

    แต่ไม่มีกำลังใจส่งให้ไรท์เลย แอบน้อยใจ 55555555

    แต่ยังไงไรท์ก็จะมาอัพให้อ่านปกตินะคะ



    พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×