ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Flower the Series [WINNER & iKON]

    ลำดับตอนที่ #11 : [NAMSONG] Violet # 10

    • อัปเดตล่าสุด 23 ม.ค. 58


               แสงแดดร้อนส่องมายังพื้นหญ้าดูคล้ายพรมนุ่มสีเขียวประกายทอง ใบไม้บนต้นสูงพลิ้วไหวเมื่อสายลมพัดผ่าน แดดที่ส่องกระทบกับต้นไม้ใหญ่ก่อให้เกิดเป็นเงาร่มรื่นที่อีกฟากฝั่งของต้น ร่างของคนตัวโปร่งนั่งบนพื้นหญ้านุ่มอย่างสบาย มือดีดกีต้าร์ไม่เป็นจังหวะ อาจเป็นเพราะเขาไม่มีสมาธิที่จะมานั่งเล่นเครื่องดนตรีได้ตามจังหวะเพลงได้ และในตอนนี้จิตใจของเขาก็ไม่อยู่กับเนื้อเกินไป

     

                    “คังซึงยูน”

     

                    น้ำเสียงสดใสที่เขาอยากได้ยินมาตลอดดังขึ้นจนเขาต้องตื่นจากภวังค์ ถ้าเขาได้ยินในวันที่มีความสุขเขาคงคิดว่าน้ำเสียงนี้สดใสที่สุดในโลก แต่สำหรับวันนี้ เขาไม่พร้อมที่จะฟังน้ำเสียงของแทฮยอน แม้จะเป็นน้ำเสียงปกติหรือน้ำเสียงสดใสเหมือนลูกแมวตัวน้อย พอมันกระทบเข้ากับโสตประสาท ซึงยูนก็รู้สึกว่ามันบีบเข้าที่หัวใจของเขานัก

     

                    “ทะ แทฮยอน” เพราะซึงยูนไม่คิดว่าแทฮยอนจะมาเจอเขาที่นี่ ซึงยูนเลยพูดติดขัดไม่เป็นภาษา “นายรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่ ?”

     

                    “ก็เพราะข้อความที่นายส่งหาพี่ซึงฮุนไงล่ะ ? โชคร้ายหน่อยนะที่ตอนนั้นฉันอยู่กับพี่ซึงฮุน”

     

                    แทฮยอนทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ซึงยูนก่อนหลับตาสูดกลิ่นไอของแสงแดดที่เผาใบหญ้าจางๆ สวนของมหาวิทยาลัยนี่ใหญ่พอๆ กับสวนสาธารณะกลางเมืองเลย ถ้ามองจากสวนนี่จะเห็นอาคารเรียนหลายๆ อาคารและหอพักของนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งของมหาวิทยาลัยด้วย

     

                    สวนนี่ถ้าเป็นตอนเย็นๆ คงจะมีนักศึกษามาวิ่งเล่น หรือออกกำลังกายกันบ้าง แต่เนื่องจากว่าช่วงเวลาเที่ยงตรงอย่างนี้อากาศค่อนข้างร้อน ทั้งสวนนี้คงจะมีแค่ซึงยูนกับแทฮยอนเท่านั้นที่บ้ามารับไอความร้อนจากดวงอาทิตย์กล้า

     

                    ทั้งสองคนยังคงเงียบ ไม่มีใครปริปากพูดอะไรจนแทฮยอนอึดอัดต้องพูดออกมาเป็นคนแรก

     

                    “ซึงยูน ทำไมนายไม่เข้าเรียน ?”

     

                    แทฮยอนเหลียวมองหน้าของคนที่เป็นเพื่อนของเขา ตั้งแต่ที่แทฮยอนเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัย ซึงยูนคือคนแรกที่เข้ามาทักทายและเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด และยังชักชวนให้รู้จักกับพี่ซึงฮุนอีก แทฮยอนเลยรักและหวงเพื่อนคนนี้มากเป็นพิเศษเลยล่ะ

     

                    เพราะซึงยูนเป็นเหมือนหยาดน้ำค้างสดใสที่หยดลงบนหัวใจราวพื้นดินแห้งแล้งของแทฮยอน

     

                    แทฮยอนยอมรับว่าที่ผ่านมา เขาคิดถึงแต่มินโฮมากเกินไปจนไม่คิดจะคบหาใคร ไม่เคยคิดที่จะมีเพื่อน ไม่เคยคิดที่จะมีพี่น้องคนอื่นอีก เขาเคยปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอกเพื่อรอคอยคนที่เป็นทั้งอดีตและอนาคตของเขา แต่พอเจอกับซึงยูน แทฮยอนก็เปลี่ยนไปจากคนที่ซึมเศร้าเพ้อถึงมินโฮจนไม่มีใคร เขาก็เข้าใจแล้วว่าถ้าเขาไม่คิดจะพบปะผู้คนใหม่ๆ เอาแต่เฝ้ารอคนคนเดียว ชีวิตของเขาจะไม่เหลือใครจริงๆ แทฮยอนจึงเริ่มจะมีเพื่อนสนิทขึ้นมาจริงๆ จังๆ และช่วงเวลาที่แทฮยอนไปเที่ยว ไปกินข้าว หรือทำงานร่วมกัน แทฮยอนมีความสุขมาก ไม่คิดเลยว่าเพื่อนจะมีความหมายกับเขาได้ขนาดนี้

     

                    แต่วันนี้ซึงยูนกลับเป็นเหมือนเขาเมื่อสามปีก่อน จนเขารู้สึกหงุดหงิดไปด้วย

     

                    “เรื่องของฉัน”

     

                    น้ำเสียงกวนประสาทไม่เหมือนกับซึงยูนคนเดิมที่มักจะพกรอยยิ้มสดใสให้เขากลับแปรเปลี่ยนไป ใบหน้าของคนร่างโปร่งหันหนีไปทางอื่นแทนที่จะหันมาสบตามองหน้ากันเหมือนเมื่อก่อนทำให้แทฮยอนรู้สึกหงุดหงิดจนเผลอเหวี่ยงไปตามประสา

     

                    “คังซึงยูน นายเป็นอะไรไป วันนี้นายไม่เหมือนซึงยูนคนเดิมคนที่ฉันรู้จักเลย นายมีปัญหาอะไรทำไมนายไม่บอกฉัน ?!

     

                    “ปัญหาของฉัน ถ้าบอกนายไปมันก็ทำให้นายลำบากใจเปล่าๆ นายไม่ต้องรู้เลยยังดีกว่า !

     

                    ซึงยูนเริ่มระงับอารมณ์ไม่อยู่เหมือนกัน หันมาเผชิญหน้าแทฮยอน หัวใจของคนร่างโปร่งบีบคั้นจนเจ็บปวดเมื่อคิดได้ว่าเผลอตะคอกใส่แทฮยอนเสียงดัง

     

                    สถานการณ์ตอนนี้มันเคร่งเครียดเกินไป ซึงยูนเป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว ถ้าโดนสะกิดอะไรอะไรนิดหน่อย เปลวเพลิงในกายของซึงยูนก็จะสามารถลุกโชนขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เผาไหม้ทุกสิ่งที่อยู่รอบข้างได้เป็นจุลย์ ส่วนแทฮยอนก็อารมณ์รุนแรงไม่แพ้กัน ยิ่งมีนิสัยคล้ายแมวเหมียวจอมเหวี่ยงด้วยแล้ว โดนต่อว่านิดหน่อยก็พร้อมที่จะระเบิดอารมณ์ออกมา

     

                    “มันร้ายแรงขนาดที่จะให้ฉันรู้ไม่ได้เลยอย่างนั้นหรอ ?!” แทฮยอนต่อว่า “นายเป็นเพื่อนฉันนะซึงยูน ! ถ้านายไม่บอกปัญหาของนายให้ฉันรู้ แล้วฉันจะช่วยแก้ปัญหาในชีวิตของนายได้หรอ ? เป็นเพื่อนกัน ไม่ใช่ว่าจะชวนกันเที่ยวชวนกันเรียนอย่างเดียวนะ เพื่อนก็ช่วยแก้ปัญหาของกันและกันได้”

     

                    “แต่ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับนาย !

     

                    คนร่างโปร่งลุกพรวด ก่อนก้าวเท้าไปยืนตากแดดที่ริมน้ำ ปล่อยให้ร่างบางนั่งงุนงงกับคำพูดของผู้เป็นเพื่อนพักใหญ่ๆ ก่อนลุกเดินไปหาเพื่อพูดคุยกันให้รู้เรื่อง

     

                    “นาย ... หมายความว่าไง ?”

     

                    “ก็หมายความอย่างที่พูด”

     

                    ซึงยูนยังคงไม่มองหน้าของแทฮยอน เอาแต่เงยหน้าสบดวงตากับท้องฟ้าและแสงแดดยามเที่ยงที่ส่องอยู่ตรงกลางของศีรษะ

     

                    “นายช่วยอธิบายให้ฉันเข้าใจหน่อยได้ไหม ? ที่นายพูดฉันยังไม่เข้าใจ เอาให้มันเคลียร์ๆ ไปเลยหน่อยได้ไหม ?”

     

                    แทฮยอนยกมือขึ้นจับไหล่ของซึงยูนกระชากให้คนร่างโปร่งหันหน้ามาพูดคุยกันดีๆ แต่ทันทีที่ซึงยูนหันมาแรงกระชาก ซึงยูนก็โผจับร่างแทฮยอนเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด คนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ตกใจจนเบิกตาโต ร่างเล็กทำอะไรไม่ถูกจึงยอมอยู่นิ่งๆ ในอ้อมแขนของซึงยูน

     

                    “เพราะฉันชอบนายยังไงล่ะ แทฮยอน ฉันชอบนายมาตลอด แต่ฉันไม่อยากเสียเพื่อนกับนาย ฉันเลยต้องเก็บความรู้สึกนี้ของฉันเอาไว้คนเดียว”

     

    น้ำตาอุ่นๆ เริ่มบดบังดวงตาเล็กของซึงยูนก่อนที่เจ้าตัวจะกลั้นมันไว้ไม่ไหวปล่อยให้ความรู้สึกที่กลั่นออกมาเป็นน้ำอุ่นใสไหลลงมาตามใบหน้าก่อนจะถูกเสื้อของแทฮยอนดูดซับมันไปจนแห้ง

     

    แทฮยอนรีบผลักคนที่เป็นเพื่อนให้ออกห่างตัว

     

    “นายก็รู้ว่าฉันมีพี่มินโฮอยู่แล้ว แล้วนายจะมารู้สึกอย่างนี้กับฉันได้ยังไง ? เราเป็นเพื่อนกันนะซึงยูน”

     

    “ก็เพราะฉันรู้มาตลอดยังไงล่ะว่านายมีคนที่นายรอคอยอยู่แล้ว ! ฉันถึงต้องเก็บงำความรู้สึกเอาไว้อย่างนี้ไง !” ซึงยูนได้ทีก็ระเบิดอารมณ์ใส่บ้าง มือโปร่งยกขึ้นเช็ดน้ำตาเพื่อทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้านัมแทฮยอน “วันก่อนที่นายเอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายแล้วบอกว่าไอ้คนที่ชื่อมินโฮมันไม่สนใจนาย นายรู้ไหมว่าฉันเจ็บปวดแทนนายมากแค่ไหน ?”

     

    มือของซึงยูนกำเข้าหากันแน่น

     

    “หมายความว่าไง ?”

     

    “นัมแทฮยอน นายมันซื่อเกินไปแล้วนะ” ซึงยูนสบถ อยากจะตะคอกต่อว่าคนตรงหน้าแรงๆ สักครั้ง แต่พอเห็นแววตาที่แสนใสซื่อและหน้างงงวยกับสถานการณ์ที่น่าอึดอัด ซึงยูนจึงได้แต่เก็บคำด่าต่างๆ กลืนลงคอไป “ไปซะ รีบๆ ไปหามินโฮซะ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจจับเพื่อนดีๆ อย่างนายเป็นแฟนจริงๆ”

     

    ซึงยูนหันหลังให้แทฮยอนเพื่อไม่ให้ตัวเองใจอ่อน ส่วนแทฮยอนแม้จะยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดี แต่ก็ยอมวิ่งออกไปอีกทางเพื่อไปหาใครบางคนที่อยู่ในหัวใจของแทฮยอนมาตลอด

     

    โดยที่แทฮยอนเองไม่รู้เลยว่า คนที่เขากำลังไปหาซุ่มมองดูเขามาตั้งแต่เริ่มแรก

     

    ทิ้งไว้เพียงกระถางดอกไวโอเล็ตเล็กๆ ไว้ตรงนั้นเท่านั้น ...

     
     




    ตอนนี้ #ฟวดซร พาร์ทของนัมซงเดินทางใกล้ถึงตอนจบแล้วนะคะ

    นัมซงจบแล้วจะต่อด้วยคู่ต่อไปทันทีเลยนะคะ

    อย่าเพิ่งสงสัยนะคะว่าทำไมอาทิตย์นี้อัพ 2 ตอนพร้อมกัน

    เพราะตอนที่ 9 สั้นเกินไปค่ะ ไรท์เลยใจดีอัพอีกตอนเลย ^^

    ยังไงก็ฝาก #ฟวดซร ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของรีดเดอร์ด้วยนะคะ

    อย่าลืมให้กำลังใจไรท์ด้วยน๊าาาาา ไรท์จะได้สู้แต่งฟิคต่อไป

    ขอบคุณที่เดินทางมาด้วยกันจนถึงตอนที่ 10 นะคะ


    พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×