ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC:YG WIN] WIN IN HOGWARTS (JunHyuk,BJIN)

    ลำดับตอนที่ #20 : - ตอนที่ 19 - HANBIN IS HAPPY,HANBIN IS HAPPY

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 59






     

    “อ้าว กลับมาแล้วเหรอฉันรอจนเกือบจะหลับอยู่ละ .. อ้าวแล้วนั่นจินฮวานเป็นอะไรวะ”

    “คุยกันแล้ว” ผมตอบ รู้สึกได้ว่าตัวเองยิ้มออกไปอย่างกว้างเลยเหอะตอนนี้

    “..........ห๊ะ”

    “คุยกันอยู่” ผมย้ำอีกครั้ง พลางเหล่ตาไปมองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ  ที่ตอนนี้เอาแต่ก้มหน้าก้มตาจะเห็นก็แค่หูเล็กๆนั่นที่ขึ้นสีบอกความรู้สึกของเจ้าตัวตอนนี้ หึๆ มันทำให้ผมพอใจมากเลยล่ะ ^-^

    “เดี๋ยวๆๆๆๆ” บ๊อบบี้ที่นั่งตาค้างและทำตาโตกว่าปกติรีบลุกขึ้นมากอดคอผมแล้วลากผมออกมาห่างจากจินฮวานให้ได้ระยะพอที่พวกเราจะสามารถซุบซิบกันได้โดยที่คนตัวเล็กที่ยืนก้มหน้าอยู่ที่เดิม ไม่น่าจะได้ยิน ( มั้ง )

     

    “เล่ามา!!

    “ก็เคลียแล้ว.. กูขอเขาคุย”

    “ไอ้บิน แต่กูเพิ่งบอกมึงวันนี้เองนะว่าเขาก็เพิ่งตกลงคุยกับพี่มาร์คหล่อนั่นวันนี้ !!” บ๊อบบี้พยายามพูดเสียงให้เบาแต่แสดงอารมณ์ออกมาทางหน้าตาที่เหลือกมากกว่าเดิมและท่าทางที่เหมือนจะแดกหัวผมให้ได้เลยในตอนนี้

    “กู... เฮ้อ ช่วยไม่ได้อ่ะมึง บรรยากาศมันพาไปพอดี”  พลางนึกไปถึงตัวเองที่จู่ๆก็เอื้อมเอามือไปจับใบหน้าเล็กของอีกฝ่าย ที่ทำไป ใจสั่งมา ~ โว้ว

    “เออ เอาเถอะ ยังไงกูก็แอบอยากให้เป็นแบบนั้นแหละวะ ว่าแต่.. มึงบอกจินฮวานไปตรงๆป่ะว่าชอบ”

    “บอก”

    “โอ้หม่ายกู๊ดดดด” บ๊อบบี้อุทานออกมา

     

    ผมมองหน้าบ๊อบบี้ที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนจะประทับใจในตัวผมอย่างเต็มอกไปเลย

    “ยังไงก็เถอะ กูเพื่อนมึงเชียร์มึงอยู่ละ ลุยเว้ยไอ้เสือ” มันว่า พลางยกมือขึ้นมาผมกับมันจึงแปะมือกันอย่างทำสัญญาสัมพันธมิตร ก่อนที่มันจะให้ผมไปพาตัวจินฮวานที่ยืนตัวแข็งก้มหน้าอยู่แถวๆเตาผิงเพื่อที่จะขึ้นห้องพักไปพร้อมๆกัน

     

    “ตัวเล็ก ป่ะ ขึ้นห้อง” ผมเดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าจินฮวานนั่นทำให้เจ้าตัวสะดุ้งเล็กน้อย

     

    ฮึ้ยยย!!

     

     นี่คือเขาเขินรึเปล่าอ่ะ ชอบ เห็นแบบนี้ยิ่งชอบ 

     

    “อื้อๆ”  ถึงจะตอบรับ แต่เจ้าคนตัวเล็กนี่ก็ยังคงยืนก้มหน้าอยู่นิ่งๆอยู่ที่เดิม

     

    คงจะเกร็งมากสินะ

     

    เอาน่า ไม่ต้องเกร็งหรอก ฉันเข้าใจนะว่านายไม่เก่งเรื่องความรัก แต่เอาจริงๆฉันก็ไม่ได้ถนัดนักหรอกนะ ..

     

    .

    ถ้าเป็นปกติ ผมคงจะใจร้อนหงุดหงิดที่ถ้าคนตรงหน้านี่ยังเชื่องช้า ไม่ขยับไปไหนสักที ผมคงจะจัดการคว้ามือเจ้าตัวนี่แล้วลากขึ้นห้องไปแล้วแน่ๆ .. แต่ไม่ !! คราวนี้ผมจะไม่ทำแบบนั้น เคยคุยกับไอ้บ๊อบไว้ว่าผมจะใจเย็นๆก่อนที่จะมาบอกชอบคนคนนี้ เคยคิดว่าจะต้องทำร้ายเขาให้น้อยลง ไม่ดิ !! ห้ามทำร้ายเลยเหอะ ใช่ ต้องทำแบบนั้นให้ได้ก่อน ..

     

    แต่คือแม่งไม่ทันละ บอกชอบไปแล้ว..

    แถมได้สถานะคนคุยมาด้วย ^-^  (อิอิ)

     

    งั้นผมจะค่อยๆปรับตัวเองจากจุดๆนี้ไปก็แล้วกัน  ต้องทำได้ดิวะคิมฮันบิน !

     

    คิดได้ดังนั้นผมจึงเอื้อมมือของตัวเองออกไป แล้วก็ใช้นิ้วก้อยของตัวเองเกี่ยวเข้ากับนิ้วก้อยของอีกฝ่าย นั่นทำให้คนตัวเล็กตรงหน้านี้ยอมเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม(สักที)

    ไม่ต้องเกร็งหรอก ฉันจะไม่รุนแรงกับนายอีกแล้ว

    ....

    “.. ขอโทษ ที่เคยรุนแรงกับนายนะตัวเล็ก”

    หลังจากที่ผมพูดประโยค (ที่สมควรจะพูดมานานแล้ว) จบ ทำให้อีกฝ่ายยิ้มออกมา

     

    โดยที่จินฮวานไม่ตอบอะไร เพียงแค่ยิ้มเท่านั้น นั่นก็ทำให้หัวใจของผมรู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นเยอะเลยล่ะ

     

    อ่า .. นี่ยอมรับตลอดเวลาเลยนะเนี่ยว่าชอบเขา !! บ้าเอ้ย !!

     

    แต่ช่างเถอะ ไม่สนใจแล้ว เพราะตอนนี้ผมมีความสุข J

     

    มากด้วย !!

     

     

    อะแฮ่ม แฮ่มๆๆ ”   เสียงกระแอมกระไอของบ๊อบบี้ดังมาจากบันไดทางขึ้น ผมกับจินฮวานหันหน้าไปดูพร้อมกันและพบเข้ากับสายตาหน้าอันน่าหมั่นไส้ที่ส่งมาทางผมกับตัวเล็ก

    “ไปกันเถอะ” คนตัวเล็กพูดขึ้นอีกทั้งยังเป็นฝ่ายกระชับนิ้วให้แน่นขึ้นก่อนที่จะเดินนำผมไป นั่นทำให้ผมประหลาดใจนิด ๆ ที่อีกฝ่ายก็ทำตัวน่ารักขึ้นมาก (ขอใส่คำว่ามากลงไปได้มั้ยอ่ะ ขอใส่เถอะนะครับ)

     

    หึๆ ขออีกทีนะครับ ผมโคตรมีความสุขเลยเว้ยยยยยยยยย

     

     

     

     

    ก๊อก ก๊อก

    พวกพี่จะเข้าไปละนะบ๊อบบี้พูดขึ้นเมื่อเราสามคนบ๊อบบี้ ผม แล้วก็ ... ฮันบิน เดินขึ้นมาจนถึงห้องพักของเรา บ๊อบบี้เคาะประตูก่อนที่จะตะโกนบอกน้องๆของพวกเราที่น่าจะอยู่ในห้องเพราะได้ยินเสียงเจี๊ยวจ้าวดังออกมาพร้อมกับแสงไฟที่ลอดออกมาทางช่องใต้ประตู

    “คร้าบบบบบ” เสียงของดงฮยอกตะโกนขานรับ บ๊อบบี้จึงเปิดประตูเข้าไปสู่ห้องพักของพวกเรา

    ผมเดินตามคิมบับเข้ามาในห้องโดยที่นิ้วก้อยของผมยังเกี่ยวเข้าไว้กับนิ้วก้อยของฮันบินอยู่อย่างนั้น

    แฮะ ๆ แถมเป็นคนเดินนำเจ้าตัวขึ้นมาด้วย ..

    ทำไงได้ง่ะ ผมไม่เข้าใจตัวเองมากๆเลย แค่รู้สึกว่าได้ยินคำว่าขอโทษของคนคนนั้นผมก็รู้สึกว่าอยากจะทำแบบนี้ขึ้นมาซะดื้อๆ บ้าเอ้ย ~ แล้วดูดิ ไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมคลายเลย

    ....

    “หืม ~ พี่จินฮวานกับพี่ฮันบินในที่สุดก็เข้าใจกันแล้วสินะครับ ^O^” แบมแบมพูดขึ้นหลังจากที่ผมเดินเข้ามาในห้อง

    ..

     

    ให้ตายดิ !! แบมแบม !!

     

     

    ผมลืมไปเลยว่าแบมแบมกับฮันบิน..

     

    “ช่าย ~ ” คนตัวสูงข้างๆผมตอบ เดี๋ยว !! นายจะตอบไปแบบนั้นเลยเหรอ ก็น้องแบมเขา..

    ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองเริ่มเลิ่กลั่กมากขึ้น และค่อยๆจะแงะนิ้วก้อยของตัวเองออกจากหมอนี่ แต่เหมือนฮันบินจะรู้ตัวเลยคว้ามือผมไปจับหมับทั้งมือเลย

     

    T_T

     

    ฮือ

     

    T//T

     

    แบมแบม พี่.. พี่อธิบายได้ !!

    เออ ว่าแต่..

     

    จะอธิบายว่ายังไงเล่าคิมจินฮวานนนนนนนนนนนนน !!

    พี่จินนนน ดงดงขอโทษค้าบบบบบ ในขณะที่ยังคิดไม่ตก จู่ๆน้องชายตัวน้อยของผมก็วิ่งจากเตียงพุ่งเข้ามากอดผมแล้วก็ร้องขอโทษขอโพยใหญ่เลย .. เดี๋ยวๆ ขอโทษอะไรง่ะ ... ดงงี่ไม่ได้ส่งการบ้านของศาสตราจารย์สเปราต์เหรอ

    “ฮ่าๆ ๆเจ้าตัวยุ่งเอ้ย” บ๊อบบี้ที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่หัวเราะก๊ากกจนเห็นฟันกระต่ายคู่หน้าอย่างชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิมแล้วก็เดินเข้ามายีหัวดงฮยอกจนกลายเป็นรังนกขนาดย่อม ๆ

    “เอ่อ.. นี่มันเรื่องอะไรกัน” ผมใช้มือข้างที่ว่างเกาหน้าตัวเอง

    “ก็ดงฮยอกน้องนายนั่นแหละทำเรื่องให้ยุ่งไปหมดเลย” บ๊อบบี้ตอบก่อนจะยีหัวน้องของผมอีกรอบ

    “ฮึกๆๆ ;u ; ” ดงฮยอกที่กอดผมไว้ตอนนี้ทำหน้าเหมือนหมาตัวน้อยๆที่กำลังจะร้องไห้ ผมจึงใช้มือตัวเองจัดทรงผมให้น้องใหม่ให้เป็นระเบียบมากขึ้นหลังจากที่บ๊อบบี้ทำไว้ซะเละเทะ -_-;; แล้วก็ค่อยๆลูบหัวดงดง ถึงแม้ว่าจะยังคงสงสัยอยู่ว่าสิ่งที่พูดๆกันมานี่มันหมายความว่าอะไรก็ยังไม่รู้ก็เถอะ

    “เอาน่า ตอนนี้ก็เข้าใจกันแล้ว ไม่เป็นไรหรอก”ฮันบินพูดขึ้น

    “ง้าบบ ดงไม่รู้.. ดงไม่รู้ว่าพี่ฮันบินจะชอบพี่จินของผม >_< ดงขอโทษที่เข้าใจผิด ขอโทษด้วยนะแบมแบม ขอโทษนะพี่ฮันบินนนนน ~

     

    หลังจากที่ดงฮยอกพูดประโยคนี้ออกมา

    รู้สึกได้เลยว่าผมยืนตัวแข็งขึ้น .. แถมหน้าก็รู้สึกร้อนๆด้วยย .. ฮืออ พอได้ยินแบบนี้แล้วรู้สึกแปลกชะมัดด ว่าแต่มันยังไงกันเนี่ย

    ไม่เป็นไรหรอกน่า ตอนนี้เข้าใจกันก็ดีแล้วฮันบินตอบ

    “ช่าย ไม่เห็นเป็นไรเลย เป็นเรื่องขำๆที่เราจะได้เก็บไว้เล่ากันวันหลังไง ฮ่าๆ ” แบมแบมช่วยเสริม

    “ม..หมายความว่าไง ท.. ทำไมทุกคนดูรู้หมดเลย..” ผมถามออกไปอย่างตะกุกกะตัก รู้สึกได้ว่าหน้ามันร้อนจนลามไปถึงหูแล้วแน่ๆ

    “ทุกคนก็รู้หมด มีแต่นายนั่นแหละที่ไม่รู้ ตัวเล็ก” ฮันบินหันมาบอกผม .. อ๊ากกกกก นั่นทำให้ผมรู้สึก... รู้สึก.. ฮืออธิบายไม่ถูกครับ  งึกๆ (._.///)

    “ช่ายย ก็มีแต่พวกแกสองพี่น้องอ่ะที่ไม่รู้อะไรบ้างเลย ~

    ผมรู้สึกปั้นหน้าไม่ถูกกับคำพูดของบ๊อบบี้ แต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะยิ้มออกมา

    นั่นทำให้ฮันบินที่เอาแต่จ้องหน้าผมมาสักพักยิ้มตามออกมาด้วย

     

    แฮะๆ ไม่รู้ทำไม แต่รู้สึกพอใจกับรีแอคชั่นนี้จังเลยครับ..

     

    แล้วก็รู้สึกสบายใจยังไงก็ไม่รู้.. ที่พอรู้ว่าจริงๆแล้วฮันบินกับแบมแบม ไม่ได้คิดอะไรต่อกันเลย..

     

    แล้วก็รู้สึกพอใจกับสัมผัสอุ่นๆที่ส่งผ่านมาทางมืออีกด้วย

     

     

    ^-^

     

    --------------------------

    2-3 วันต่อมา ~ 

     

     

    หลังจากที่เรียนวิชาประวัติศาสตร์เวทย์มนตร์เสร็จ ก็ได้เวลาอาหารเย็น

    พวกผมทั้งสามคนเดินออกมาจากห้องเรียน ฮันบินกับบ๊อบบี้อยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น =_=;;

    อันที่จริงสองคนนี้เกือบจะหลับคาห้องเรียนอยู่แล้วแต่ผมคอยสะกิดๆให้ขึ้นมาตั้งใจฟังอาจารย์ ที่ถึงแม้ว่าอาจารย์จะสอนชวนหลับแค่ไหนก็ต้องแหกตาขึ้นมาเรียนให้ได้ !!

    “เฮ้อ ง่วงชะมัดเลยวิชานี้” ฮันบินว่าพลางก้มลงเอาหน้าลงมาซบที่ไหล่ผมจากทางด้านหลัง ..

     

    อึก..

     

    เอาจริงๆผมก็เริ่มที่จะชินขึ้นมานิดนึงกับการกระทำของหมอนี่แหละนะ แต่ก็แค่นิดหน่อยเท่านั้นแหละ ..

    เฮ้ออ พวกนายเนี่ยน้า ฉันก็อยากจะทำแบบนี้กับยุนฮยองบ้างอ่ะ TvT” บ๊อบบี้พูดก่อนจะอ้าปากกว้างเพื่อหาวออกมาหนึ่งวอด

    “นี่ฮันบิน .. ” ผมเรียกคนที่เอาหน้าลงมาซบบนไหล่

    “อือ.. ขออีกสัก5วิหน่า เหนื่อยจริงๆนะ”

    ไม่ได้ว่าอะไรนี่ผมยกมือขึ้นมาเกาแก้มตัวเองแก้เขิน.. ไม่รู้จะทำยังไง ก็พอจะเดาได้แหละว่าเหนื่อย

    นายคงพยายามเต็มที่แล้วสินะ(ที่จะลุกขึ้นมาเรียน.............. =_=) ฮ่าๆ 

     

    ผมเอื้อมมือข้างนึงขึ้นไปลูบๆกับกลุ่มผมของฮันบินที่ยังคงซบอยู่บนไหล่ของผมเพื่อให้กำลังใจ

     

    “....” ผมรู้สึกได้ว่าฮันบินสะดุ้งนิดหน่อย .. เอ๊ะ ทำไมอะ ..

    ผมจึงหยุดมือของตัวเอง แต่แล้วเจ้าตัวก็พูดออกมาเบาๆว่า

    “ทำอีกสิ.. ฉันชอบ”  งึก ผมนี่ถึงกับสะอึก.. แต่ก็ไม่อยากจะขัดอะไรก็เลยเอื้อมมือไปลูบๆหัวอีกฝ่ายต่อจนพอใจแล้วยอมเงยหน้าขึ้นมาจากไหล่ผมสักที

     

    ก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้..

     

    “ตัวเล็ก ทำแบบนี้แล้วน่ารักจัง”

     

    น่าร้งน่ารักอะไรล่ะ ไอ้บ้า

     

    “พูดมากน่า คิมบับจะร่วมร่างกับเสาร์ต้นนี้แล้ว ไปกันเถอะ” ผมเบี่ยงประเด็นทันทีเพราะตอนนี้คิมบ๊อบบี้แทบจะยืนสิงเสาร์ต้นใหญ่เพราะความง่วงจัดจากวิชาประวัติศาสตร์เวทย์มนตร์แล้ว

     

    ฮันบินไม่ตอบอะไรแต่เดินยิ้มอย่างอารมณ์ดีไปที่เสาร์ที่บ๊อบบี้กำลังจะทำการทรานฟรอมเมอร์ตัวเองให้กลายเป็นส่วนหนึ่ง ก่อนจะคว้าคอเพื่อนจนทำให้บ๊อบบี้ได้สติจนโวยวายออกมา พวกเราจึงเดินมุ่งหน้าไปที่ห้องโถงใหญ่กันอย่างพร้อมเพรียงเพื่อรับประทานอาหารค่ำกัน



    -----------------------

    (กลับมาที part ฮันบินกันเถอะ..)

     

    ผมเดินลากคอไอ้บ๊อบบี้ที่โวยวายตลอดทาง

    “กูเหนื่อยกูจะนอน แงแงงงง มึงปล่อยกูเลยนะ”

    “เงียบหน่า ไปกินข้าวกันก่อนเดี๋ยวค่อยขึ้นหอไปนอนดิ” ผมตอบแต่ไอ้เพื่อนเวรนี่ก็ยังคงงอแงโวยวายเสียงดังต่อไป

     

     

    “ก็ช่ายเซ่ มึงมันมีที่พักพิงแต่กูนี่ดิ ผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่เจอหน้าให้ชื่นใจเลยฮรือออ T - T

    “บ๊อบบี้อย่าโวยวายหน่า.... อ๊ะ พี่มาร์ค..” ตัวเล็กของผม(หึ) พูดขึ้นปรามไอ้บ๊อบบี้ เมื่อพวกเราเดินมาจนถึงหน้าประตูทางเข้าห้องโถงใหญ่ แต่แล้วก่อนที่เจ้าตัวจะว่าอะไรต่อก็ดันเงยหน้าขึ้นไปเห็นกับเจ้าของชื่อที่คนตัวเล็กคนนี้เรียก

     

    =_=

     

    ไอ้พี่มาร์ค !!

     

    ชิ ลืมไปเลยว่ามีหมอนี่ด้วย

     

    อุตส่าห์มีความสุข แต่ก็จนกระทั่งพี่แกโผล่มานี่แหละ โด่วววววว

     

    “เฮ้ยมึง..” บ๊อบบี้กระซิบมาที่ผม

    “เออ”

     

    “จินฮวาน ^-^” ไอ้พี่หล่อส่งยิ้มทักทายตัวเล็ก ก่อนจะเดินเข้ามาหา

     

    “เอ้อ หวัดดีนายด้วยฮันบิน แล้วก็..”

    “จี..จีวอนครับ เรียกบ๊อบบี้ก็ได้ ฮะฮ่าๆ ฮะฮ่าๆ ^O^;;;;;;;  ฮ่า....... ”    

     

    ก็ยังอุตส่าห์หันหน้ามาทักทายกัน =_= หึ เมินไปเลยก็ได้นะ เดินเลยไปเลยเด้  ถ้าจะให้ดีก็เมินตัวเล็กไปด้วยเลยไป๊

     

    “โอเค บ๊อบบี้ ^-^ ยังคงคอนเซ็ปยิ้มเป็นมิตรพิชิตใจทุกคน

     

    หึ

     

    หมั่นไส้โว้ย =_=  

     

    รู้สึกคันไม้คันมืออยากจะดึงตัวเล็กให้ออกมาห่างจากไอ้พี่มาร์คนี่จังวุ้ย !!! ยิ้มกันงุ้งงิ้งง้องแง้งกันอยู่นั่นแหละ

     

    “เฮ้ยมึง..” บ๊อบบี้กระซิบเรียกผมอีกครั้งพร้อมกับทำท่าเตรียมจะล็อกตัวผมไร

    “......ไร” ผมตอบกลับไปห้วนๆ โดยที่สายตาก็ยังคงจ้องมองไปที่สองคนนั้น

     

    “มึงไม่ได้กำลังคิดจะลากจินฮวานออกมาอยู่ใช่มั้ย”

    “กูคิด” สิ้นเสียงคำตอบ บ๊อบบี้ทำการจับแขนของผมไว้แน่นอีกทั้งมืออีกข้างของมันยังแย่งหนังสือวิชาประวัติศาสตร์เวทย์มนตร์เล่มหนาของผมไป =_=

     

    เดี๋ยวไอ้เหยินน มึงทำอะไร

    ก็เดี๋ยวมึงเหวี่ยงอ่ะ กูเลยเตรียมพร้อม

     

    ….

     

    “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้มั้งก็แค่ยืนคุยกะ..”

     

    ยังไม่ทันพูดจนจบประโยคจู่ๆไอ้พี่มาร์คก็ยกมือตัวเองขึ้นมาเกลี่ยหน้ามาให้ตัวเล็ก!!

     

    !!!!!!!!!!

     

    โดยที่ไม่ได้บังคับอะไรทั้งนั้น รู้สึกตัวอีกทีแขนก็กระตุกขึ้นมาดื้อๆ

     

    เชี่ย มึงอย่าลืมความตั้งใจตัวเองดิวะ

    กูก็พยายามอยู่นี่ไงวะปากก็พูดไปอย่างนั้นแต่ตาก็จ้องเขม็งไปที่ทั้งสองคน  เหมือนจินฮวานจะมองเห็นสีหน้าของผม นั่นทำให้หางคิ้วของเจ้าตัวตกลงมาต่ำทันที

    ทนไว้เพื่อน มึงทำได้ แม่งเดินมาละบ๊อบบี้พูดจบก็กระตุกแขนผมแรงๆข้างนึงเพื่อดึงสติแล้วจึงส่งหนังสือเล่มหนาคืนมาให้ผมถือรวมถึงของมันด้วย =_= อ้าวไอ้นี้ หลอกใช้เฉย

     

    การที่ผมเห็นสีหน้าของจินฮวานเป็นแบบนั้น มันทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเลยครับ

    ..

     

    นั่นทำให้ผมคอยกล่อมประสาทตัวเองไว้ เขาให้โอกาสมึงแล้วนะ ทำตัวให้ดีๆสิเว้ยฮันบิน

     

    ผมสูดหายใจเข้าเฮือกหนึ่งก่อนจะปั้นหน้าปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วจึงเดินนำเข้าห้องโถงใหญ่เพื่อที่จะไปรับประทานอาหารค่ำ

     

    จะให้ปั้นหน้าปกติแล้วกลับไปทักไอ้พี่มาร์คเรอะ !! ไม่มีทาง =_=; ทำได้แค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้วหน่า

     

    ผมเดินนำเข้ามากับบ๊อบบี้ตรงดิ่งไปที่โต๊ะยาวของกริฟฟินดอร์ก็พบเข้ากับดงฮยอกและแบมแบมที่ดูเหมือนจะกำลังนั่งทบทวนหนังสือกันโดยมีไอ้ติ่งจุนฮเวน้องผมนั่งอยู่ด้วย

    แหมเดี๋ยวนี้มันชักจะเหิมเกริมจริงเชียว มานั่งอะไรตรงโต๊ะบ้านคนอื่นเนี่ย =_= แล้วดูเหมือนไอ้เด็กนี่จะเลิกสนใจหนังสือไปเล่นจ้องหน้าอย่างดุเดือดกับเด็กในบ้านผมคนหนึ่ง ที่ตัวใหญ่พอๆกับมันดูเหมือนจะชื่อยูคยอมมั้ง นั่งถัดไปไม่ใกล้ไม่ไกลจากพวกดงฮยอกเท่าไหร่  

    อ้อ แบมแบม..

    ถ้านายเงยหน้าขึ้นมาก็อาจจะพบเข้ากับ..

     

    อ้าวเงยหน้ามาพอดี.. ฉิบหายละ

     

    “พี่บ๊อบบี้พี่ฮันบินพี่จิ……………….. ”  ดูเหมือนแบมแบมจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อกำลังชะเง้อมองคนตัวเล็กที่เดินตามหลังมาแต่ก็พบเข้ากับคนที่เดินมาด้วย..

     

    ไอ้พี่มาร์ค ผู้สร้างปม =_=

     

    “จุนเน่ !! หยุดจ้องหน้ายูคได้แล้วสรุปว่านายจะมาทวนบทเรียนหรือจะทำอะไรเนี่ย !! อ้าว พี่บ๊อบบี้พี่ฮันบินพี่จินพี่....เฮือก พี่มาร์ค...... ”  ดงฮยอกกำลังแว้ดๆใส่จุนฮเว หันมาทางพวกผมที่กำลังจะเดินถึงที่โต๊ะ ก็พอดีกับที่ตัวเองกำลังจะทักทายพี่ๆทุกคนจนเห็นคนที่เดินคู่กันมากับพี่ชายก่อนจะทำหน้าเหมือนขาดออกซิเจนไปแปปนึงจึงทักออกมาแล้วรีบหันหน้าไปมองเพื่อนสนิทตัวเองที่ตอนนี้นั่งตัวแข็งไปแล้ว

     

    แต่สุดท้าย.. แบมแบมก็เลือกที่จะปรับสีหน้าให้เป็นยิ้มออกมาทักทายทุกคนและพยายามจะหลบสายตาไอ้พี่หน้าหล่อนั่น

    “เพิ่งเรียนกันเสร็จเหรอครับ พี่ๆ ” แบมแบมทักขึ้นมาอย่างยิ้มแย้ม ..

    “ช่าย พี่เหนื่อยมากเลย เหมือนจะตายอะ ~” บ๊อบบี้ที่ไม่รู้เรื่องอะไรตอบแล้วจึงทิ้งตูดนั่งลงบนเกาอี้แล้วก็ฟุบลงกับโต๊ะทันที =_=

     

    ผมหันไปมองไอ้พี่มาร์ค ก็เห็นว่าแม่งก็กำลังจ้องแบมแบมด้วยสีหน้าเรียบเฉย .. แต่แล้วก็ปรับโหมดมาเป็นยิ้มแย้มกับจินฮวาน ..

     

    ชิ ไอ้เวร

     

    “พี่ไปกินข้าวก่อนนะครับ แล้วเจอกันนะ”

    “โอเคครับ บ๊ายบาย”

    “บ๊ายบาย ^-^ ” หันมาส่งยิ้มหล่อๆหนึ่งทีก่อนจะเดินออกไป  ลีลาเยอะจริงๆเลยเหอะ ไปเลยไปป ไปซะ =_= ไม่อยากจะให้อยู่ใกล้กันนานมากกว่านี่เลยว่ะ นี่มันแทบจะเกินขีดจำกัดความอดทนแล้วนะรู้มั้ย

     

    แต่ก็ยังไม่ไป =_= ไอ้พี่มาร์คดันหันไปเห็นไอ้เน่ที่ตอนนี้ก็นั่งทำหน้ากวนตีนใส่ยูคยอมอยู่

    “อ้าวน้อง มานั่งทำไรตรงนี้ ไม่กินข้าวเหรอ”

    “ไปพี่ แปปนึง” จุนฮเวบอกก่อนที่จะลุกขึ้น มือก็ไม่วายซนไปยีหัวของดงฮยอก ก่อนจะเดินออกไปเพื่อที่จะไปนั่งทานอาหารที่โต๊ะของบ้านสลิธีริน

    “เออ ไปซะได้ก็ดี” ยูคยอมหันไปพูดกัดต่ออย่างไม่ยอมแพ้หลังจากที่ผมเห็นไอ้เด็กนี่จ้องเขม็งตอนที่ไอ้เน่มันยีหัวดงฮยอก =_= อ๋อ ผมชักจะพอเข้าใจเหตุการณ์แล้วล่ะ

     

    จุนฮเวหันไปถลึงตาใส่ยูคยอม ก่อนจะเดินออกไปอย่างจริงจังสักที

     

    ตัวเล็กนั่งลงบนเก้าอี้ถัดจากบ๊อบบี้ หลังจากที่ต้องเห็นเจ้าตัวคอยโบกมือให้ไอ้พี่มาร์คที่คอยหันหน้ามาโบกมือให้อยู่นั่นแหละ กลัวไม่ได้เจอกันอีกรึไงวะ!!

      เห็นดังนั้นผมจึงลงไปนั่งตามอย่างหัวเสียนิดหน่อยก่อนจะทิ้งกองหนังสือเรียนวิชาประวัติศาสตร์เวทย์มนตร์ทั้งสองเล่มลงบนโต๊ะอย่างหัวเสีย และนั่นทำให้เกิดเสียงดัง โครมมมม !!

     

    บ๊อบบี้ที่มาถึงก็ฟุบลงไปเลยถึงกับกระเด้งตัวขึ้นมาทำหน้าเบลอๆ มองหาต้นตอของเสียง

    จินฮวานที่สะดุ้งแล้วจึงค่อยๆหันมามองหน้าผมด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก..

    รวมถึงรอบข้างที่ตอนนี้เริ่มจะเงียบและมองมาที่ต้นตอของเสียงดังที่เกิดขึ้น.. นั่นก็คือผม

     

    เอ่อ.. ไอ้รอบข้างผมก็ไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่หรอก

     

    จะแคร์ก็คนตัวเล็กที่มองหน้าผมอยู่นี่อ่ะ .. หางคิ้วที่ต่ำลงมากกว่าตอนแรก ปากรูปสวยที่ปิดสนิทเหมือนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาในตอนนี้รึเปล่า..

     

    เอ่อ..

     

    “อะแฮ่มๆ ขอโทษที่เสียงดังครับ.. ” ผมกระแอมออกไป ก่อนจะ ลุกขึ้นมาก้มหัวน้อยเพื่อขอโทษให้ทุกคนรอบๆตัว ก่อนจะสบตาเข้ากับคนตัวเล็กอย่างจริงจัง..

    ผมจึงทำการยกกองหนังสือขึ้นมาใหม่ แล้วปัดๆ แล้วจึงนำมันวางลงเบาๆบนโต๊ะ แล้วกราบสามที ก่อนจะส่งยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างรู้สึกผิด

    การกระทำนี้ทำให้คนรอบๆข้างที่ตอนแรกมองมาอย่างตกใจเปลี่ยนเป็นหัวเราะน้อยๆก่อนจะหันกลับไปทำกิจกรรมของตัวเองกันต่อ

     

    “แหะๆ^-^;;;;; (เหงื่อแตก)”  

    คนตัวเล็กยิ้มออกมาหลังจากที่เห็นผมยกหนังสือขึ้นมาแล้ววางลงเบาๆพร้อมกับกราบปิดท้ายสามที

    “เจ้าบ้าเอ้ย” คนตัวเล็กว่าขึ้นก่อนจะเอื้อมมือเล็กๆนั่นมายีหัวผมเบาๆ

    ฮู้ โล่งอก.. ; _ ; ผมโคตรไม่ชอบสีหน้าของคนคนนี้ในเวลาแบบเมื่อกี้เลยครับ

     

    สีหน้าที่ดูเหมือนจะกลัวผม..

     

    มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนหัวใจโดนบีบแรงๆเลยอ่ะ.. ไม่ชอบเลย ขอโทษนะ

    แล้วก็จะว่าไงดี ผมชอบที่เวลาจินฮวานมาเล่นหัวผมอ่ะ .. มันเป็นสัมผัสที่มันอ่อนโยนมากๆ .. จนผมแอบนึกอิจฉาดงฮยอกที่มักจะได้รับสัมผัสที่อบอุ่นและความรักจากคนๆนี้มาบ่อยตั้งแต่เด็ก..

     

    สักวันฉันจะได้รับความรักแบบนั้นจากนายบ้างรึเปล่านะจินฮวาน

     

    ..

     

    ไม่ใช่แบบครอบครัวนะ

     

    แบบคนรักอ่ะ



    -------------------


    #วินอินฮอกวอตส์ฟิค


    ฮี่ๆ ฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยอีกครั้งนะคะ ; u; เราลองกลับไปอ่านตอนเก่าๆมา เราเขียนตั้งแต่ปี57เลย คุณพระ !! ป่านนี้ยังครึ่งๆกลางๆ งงๆ เด๋อๆอยู่เลย ขอโทษค่ะ ขอโทษษ แงงงงงงงงง 

    ตอนเก่าๆมีผิดพลาดบ้าง เรื่องสีผมพี่มาร์คบ้าง คำผิดบ้าง นั่นนี่บ้าง มั่วบ้าง ถ้าขัดอรรถรสยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ T-T





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×